“ท่าน… ช่วยข้าด้วย…”ฮูหยินกวนกู่ร้องเศร้าสลด เสียงอันเจ็บปวดดุจมีดกรีดหัวใจท่านกวนเอ้อร์!เขาพยายามดิ้นให้หลุดจากเชือกที่มัดตัวเองไว้ แต่เชือกหนังวัวโชกไปด้วยน้ำ เขายิ่งดิ้นรนก็ยิ่งมัดแน่นขึ้นเรื่อย ๆ!“กวนอิ่ง เจ้าเดรัจฉาน เจ้ามันมิใช่มนุษย์…”ท่านกวนเอ้อร์คำรามเสียงแหบ “เจ้าจะฆ่าจะแทงก็มาลงที่กวนผิง ไยเจ้าไปลงที่สตรี?”“เหอะ… บัดนี้ปวดใจแล้วหรือ? แล้วตั้งนานเจ้ามั่วทำกระไร?”กวนอิ่งยิ้มหยันกล่าว “หากเจ้าเชื่อฟ้าคำพูดข้า ให้หลิงอวี๋ดื่มชาถ้วยนั้น ทุกอย่างคงหาได้เกิดขึ้นไม่?”“เจ้ามันไร้เมตตาธรรม ยังคิดให้ข้าไว้ชีวิตครอบครัวเจ้าอีกรึ?”“ตัวข้าพูดไปแล้ว หากทำให้หลิงอวี๋เจ็บปวดไม่ได้ งั้นก็ให้ฮูหยินของเจ้าเจ็บปวดเถอะ!”ท่านกวนเอ้อร์กู่คำราม “อย่าพูดให้ดูดีนักเลย! กวนอิ่ง แม้ข้าจะเชื่อฟังเจ้า เจ้าก็ไม่ละเว้นครอบครัวข้า!”“ฮิฮิ กวนผิง เจ้าฉลาดนี่! แต่เจ้ามาตอกกลับเอาตอนนี้ ไม่สายไปหน่อยรึ?”กวนอิ่งใช้แส้หวดใบหน้าท่านกวนเอ้อร์ กล่าวเสียงเหี้ยม“เป็นแค่เด็กเก็บมาเลี้ยง บังอาจแย่งทรัพย์สมบัติของพ่อข้า! ในเมื่อนายท่านรักเจ้านัก เจ้าก็ลงไปอยู่กับเขาเถอะ!”หัวใจท่านกวนเอ้อร์หมดหวัง
“ฮ่าฮ่า… เจ้าคลานมาให้ข้าดูซิ!”“พวกเจ้าได้ยินรึยัง? กวนผิงยอมรับว่าตัวเองเป็นสุนัขของตระกูลกวนแล้ว! ฮ่าฮ่า!”กวนอิ่งระเบิดหัวร่ออย่างเหิมใจพลางชี้ยังผู้คุ้มกันคนหนึ่ง “ไปเอาสายจูงสุนัขมาคล้องให้เขาเสีย เมื่อเขาคลานจนข้าพอใจแล้ว ข้าจักปล่อยฮูหยินเขาไป!”ผู้คุ้มกันคนนั้นเอาสายจูงสุนัขมาคล้องคอของท่านกวนเอ้อร์จริง ๆผู้คุ้มกันคนหนึ่งปลดเชือก และเท้าข้างหนึ่งก็เตะท่านกวนเอ้อร์หงายพื้น“คลาน… คลานไว ๆ…”ท่านกวนเอ้อร์กระอักเลือดสดเต็มปาก เนื่องจากขบฟันอย่างแรง…ทันทีที่เขาลุกนั่ง แส้ของกวนอิ่งก็ทักทายบนหน้าทันทีเพียะ…การหวดด้วยแส้ทำให้ใบหน้าท่านกวนเอ้อร์เนื้อปริในทันใด“คลานไว ๆ… มิเช่นนั้นข้าจักพิ่มผู้ชายอีกสองคนให้ฮูหยินเจ้าเสีย…”ท่านกวนเอ้อร์จ้องกวนอิ่งเขม็ง สุดท้ายก็คุกเข่าลงอย่างอัปยศ“ท่าน…”ฮูหยินกวนเอ้อร์มองสามีชายชาติเสือของตน ยอมต้อยต่ำเช่นนี้เพื่อชีวิตรอดของนางกับลูก แล้วนางก็รู้สึกดุจมีดกรีดหัวใจขณะนั้นเอง ฮูหยินกวนเอ้อร์ก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป ตนถูกคนข่มขืนไปแล้ว นางจะมีหน้าใช้ชีวิตอยู่บนโลกได้อย่างไร!แม้เพื่อช่วยท่านกวนเอ้อร์ นางก็มิอาจมีชีวิตอย่างไร้ความหมายไ
“คุณหนูใหญ่ขอรับ คนของพวกเขามากเกินไป พวกเรารีบหนีเถอะขอรับ!”เมื่อพ่อบ้านเหอเห็นคนกลุ่มใหญ่ห้อตะบึงมาทางนี้ก็รีบดึงกวนอิ่งจากไปครั้นกวนอิ่งเห็นลิ่วล้อตัวเองล้มลงเป็นแถบในพริบตา และมองพวกหลิงอวี๋เข้ามาอย่างดุดัน นางก็ตกใจกลัวเสียแล้วกวนอิ่งรีบขึ้นม้าพลันหนีไปพร้อมผู้คุ้มกันที่เหลือท่านกวนเอ้อร์หมายไล่ตาม แต่กวนซิงกอดเขาไว้แน่นจึงตามไปมิได้ ทำได้เพียงมองกวนอิ่งหนีไปไกลอย่างเหี้ยมเกรียม!“ท่านเอ้อร์…”หลิงอวี๋วิ่งมาใกล้ก็เห็นสายจูงสุนัขยังห้อยบนคอท่านเอ้อร์อยู่ พลางอุ้มกวนซิงโดยที่เลือดเต็มตัว…ยังมีฮูหยินสวมอาภรณ์กะรุ่งกะริ่งพร้อมดาบเล่มหนึ่งเสียบบนท้อง แต่บนหน้ากลับแขวนรอยยิ้มไว้…หัวใจของหลิงอวี๋จมดิ่งลงหนักหน่วง ไม่ต้องเห็นด้วยตาตัวเอง นางก็เดาออกว่าเกิดอะไรขึ้น…พวกเขามาช้าเกินไป… !“ท่านเอ้อร์…”เป็นครั้งแรกที่หลิงอวี๋มิรู้ว่าควรพูดสิ่งใด ไม่ว่าคำปลอบโยนใด ๆ ก็ไร้ความหมายกับสถานการณ์เช่นนี้!เป็นท่านกวนเอ้อร์ตอบสนองก่อน ด้วยเสียงเย็นชา“พระชายาอ๋องอี้ โปรดช่วยข้าดูแลลูกชั่วคราว… และข้าขอยืมกำลังคนด้วยได้หรือไม่!”เขาก็มีความเจ็บแค้นต่อหลิงอวี๋และเซียวหลินเทียนเช่นก
เถาจื่อหน้าขรึมเดินไปด้านข้าง ไม่ให้หลิงซวนเห็นน้ำตาของนางปี้ไห่เฟิงให้สหายผู้หนึ่งไปซื้อโลงศพอย่างเงียบ ๆ หลังหลิงซวนได้ยินก็ถือตั๋วเงินสองร้อยตำลึงส่งให้เขา กล่าวสะอึกสะอื้น“ช่วยซื้ออาภรณ์ดี ๆ สักหน่อยด้วยเถิด!”สหายผู้นั้นจึงถือตั๋วเงินขี่ม้าจากไปหลิงอวี๋เหม่อมองด้านคฤหาสน์ตระกูลกวน มิรู้สถานการณ์ทางนั้นเป็นเช่นไรพวกเขาอยู่ด้านกระท่อมเพิงมาตลอด ครั้นรอจนฟ้าสาง ท่านกวนเอ้อร์ก็พาเจียงเผิงกับคนของตนและพวกเกิ่งเสี่ยวหาวต่างกลับมากันแล้ว“ท่านเอ้อร์ นายท่านไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”หลิงอวี๋ถามอย่างเป็นห่วงสีหน้าท่านกวนเอ้อร์ท้อแท้พลางส่ายหน้า เสียงแหบพร่า “นายท่านไปแล้ว…”หลิงอวี๋ผงะไปฉับพลัน“สมน้ำหน้าเขาชะมัด ไม่สมควรได้รับความเห็นใจ!”ท่านกวนเอ้อร์ด่าอย่างรุนแรง แต่น้ำตากลับไหลลงอย่างควบคุมมิได้เขาหันหลังไปเช็ดน้ำตา กล่าวเยือกเย็น“กวนซินกับกวนอิ่งพาคนส่วนใหญ่กลับไปเอาทรัพย์สมบัติส่วนมากของตระกูลกวน! และได้ยินว่าไปขอพึ่งองค์ชายคัง!”“พระชายาอ๋องอี้ เหตุผลที่กวนอิ่งทำกับเจ้าวันนี้ เป็นเพราะถูกองค์ชายเว่ยวางยาข่มขืน!”“องค์ชายเว่ยตรัสว่าเป็นอุบายของเจ้า นั่นคือสาเหตุที่กว
“พระชายาอ๋องอี้…”“เรียกข้าหลิงอวี๋เถิด!”บัดนี้หลิงอวี๋ไม่ชอบชื่อเรียกพระชายาอ๋องอี้นัก เพราะเซียวหลินเทียนรับปากช่วยท่านกวนเอ้อร์ แต่กลับทำมิได้ แม้จะมีสาเหตุก็ตามที!ครั้นมาขอความช่วยเหลือถึงหน้าประตูบ้าน เซียวหลินเทียนจะปฏิเสธได้เยี่ยงไรถ้ามิใช่เพราะพวกเขาล่าช้า มาเร็วกว่านี้หน่อย บางทีฮูหยินกวนเอ้อร์อาจยังมิสิ้นใจ!ท่านกวนเอ้อร์ก็ตระหนักได้ถึงความรู้สึกผิดอันลึกซึ้งของหลิงอวี๋ถึงแม้ความรู้สึกผิดอักโขจะแลกความบริสุทธิ์กับชีวิตของฮูหยินเขาคืนมามิได้แต่หลิงอวี๋… ทำดีต่อเขาที่สุดแล้วจริง ๆ!และพวกเขามีศัตรูร่วมกัน!ท่านกวนเอ้อร์พูดเสียงทุ้ม “หลังพิธีฝังศพนายท่านกับฮูหยิน ข้าอยากพักผ่อนระยะหนึ่ง ให้กวนอิ่งกับกวนซินใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายไปก่อนเถอะ!”“ข้าจักไปหาเจ้าภายหลัง!”หลิงอวี๋ผงกศีรษะ กิจการของตระกูลกวนสลับซับซ้อน นางมิอยากเชื่อว่านายท่านจะหักใจมอบทรัพย์สมบัติทั้งหมดให้จักรพรรดิจริง ๆบางทีท่านกวนเอ้อร์อาจอยากแอบวางกลยุทธ์ จัดระเบียบตระกูลกวนขึ้นใหม่!และยืมโอกาสล้างแค้นต่อ!เช่นนี้ก็ดีนัก ท่านกวนเอ้อร์จะได้เลี่ยงความสนใจไปก่อนชั่วคราว ให้องค์จักรพรรดิเปลี่ยนไปมุ่งเป
หลิงอวี๋ไม่ได้นอนทั้งคืน ทั้งยังเจ็บทั่วกาย แค่อยากกลับไปจัดการบาดแผลและนอนพักบ้างไฉนจะคิดว่าเสิ่นจวนจะขวางประตูไว้เช่นนี้“หลีกไป!”หลิงอวี๋พูดเยือกเย็น“ทำไม จะวางอำนาจเป็นพระชายาอีกรึ?”เสิ่นกวนร้องเสียงแหลม “พี่สะใภ้ เจ้าทำแบบนี้ได้เยี่ยงไร! รนออกเรือนกับท่านพี่ของข้า! แต่ดึกดื่นมิกลับบ้านกลับช่อง…”หลิงอวี๋ตะโกนด้วยสีหน้าเย็นเยียบ “เถาจื่อ!”ครั้นเถาจื่อเห็นเสียงร้องของเสิ่นจวนดึงดูดคนมาล้อมชมมากมาย หน้าก็ขรึมลงทันทีเมื่อได้ยินหลิงอวี๋เรียกตน เถาจื่อก็มุ่งตรงไปข้างหน้าคว้าคอเสิ่นจวนไว้โดยมิเอ่ยคำใดเป็นญาติประสากระไรถึงกล้ามาใส่ไคล้คุณหนูของตนหน้าระรื่น!ช่างกวนบาทาเสียจริง!“ตัวข้าไปตรวจคนไข้มา! เจ้าเอะอะหาปะไร?”หลิงอวี๋พูดอย่างเย็นชา “เจ้าเป็นแค่แขก ถึงก้าวก่ายฟ้าดินได้ แต่ก็ยุ่มย่ามเจ้าบ้านมิได้!”“ผู้ใดให้หน้าเจ้า?”“ไม่ว่าข้าจะรนแบบที่เจ้าว่าหรือไม่ ท่านอ๋องยังมิว่ากระไร แล้วเจ้าเป็นบ้ากระไร?”เมื่อหลิงอวี๋เห็นคนกำลังมุงดูอยู่ก็พลันกล่าวมิปรานีแม้แต่น้อย“คราก่อนไทเฮาทรงตำหนิเจ้าว่าปากคอเราะรายมิใช่หรือ? ไฉนไม่กี่วันก็ลืมเสียแล้วรึ? อยากให้ไทเฮาส่งแม่นมมาอบ
เสิ่นจวนตาเป็นประกายพลางรีบพยักหน้า“แม่นม ข้าล้วนฟังเจ้า! เจ้าช่วยข้าหาวิธีเร็วเข้า ข้าจักให้ท่านพี่หย่ากับหลิงอวี๋ให้ได้!”แม่นมเฉาพลันดึงเสิ่นจวนมากระซิบกระซาบระหว่างทางกลับ……เซียวหลินเทียนมิอยากเชื่อเลยว่า ตระกูลกวนจะเกิดการแปรผันพลิกฟ้าพลิกแผ่นดิน(1)ขึ้นในชั่วข้ามคืนและเขายิ่งเหนือคาดตอนหลิงอวี๋มาขอความช่วยเหลือเขาเมื่อคืนก่อนเซียวหลินเทียนเพิ่งทราบสถานการณ์หลังจากที่อิ๋นฮู๋มาแจ้งอิ๋นฮู๋ยิ้มขมขื่น “ครั้นพวกเราไปรับครอบครัวท่านกวนเอ้อร์ตามที่อยู่ที่ท่านอ๋องมอบ ถึงรู้ว่าครอบครัวของท่านกวนเอ้อร์ถูกรับไปเสียแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”“พอเราตรวจเส้นทางทราบก็ตามไป พระชายาอ๋องอี้ก็พาผู้ติดตามตามถึงแล้วพ่ะย่ะค่ะ”“ทว่าพระชายาช้าไปหนึ่งก้าว ช่วยแค่ท่านกวนเอ้อร์กับเด็กได้ หลังฮูหยินกวนเอ้อร์โดนขืนใจ… ก็ปลิดชีวิตตนพ่ะย่ะค่ะ!”เมื่อจ้าวซวนกับเซียวหลินเทียนได้ยินต่างเบิกตากว้างตะลึงงันเซียวหลินเทียนเสียใจสุดซึ้ง เมื่อคืนเขาน่าจะฟังประสงค์ของหลิงอวี๋!มิใช่แค่เพราะรังเกียจนาง เขาถึงได้ทำพลาดใหญ่หลวงหรอก!ไม่เพียงพลาดโอกาสช่วยครอบครัวท่านกวนเอ้อร์ แต่ตนยังต้องตกสู่สถานการณ์ที่ไร้เมตตาธรร
จ้าวซวนพูดหน้าเจื่อน ๆ “เช่นนั้นเมื่อพระชายาตื่นเจ้าก็ถ่ายทอดคำพูดข้าด้วย ขอให้พระชายาไปเรือนริมวารี!”หลิงซวนปิดประตูไม่กล่าวคำ ปล่อยให้จ้าวซวนรู้สึกอักอ่วนกว่าเดิมขณะที่หลิงซินกำลังดูแลรอยแส้ของหลิงอวี๋ หลิงซวนก็ได้เข้าห้องไปแจ้งให้หลิงอวี๋ทราบเมื่อเห็นรอยแส้มากรอย หลิงซินพลันน้ำตาคลอคราก่อนคุณหนูถูกท่านอ๋องหวดแส้ นางยังนึกว่า ยามนี้คุณหนูเข้มแข็งแล้วคงมิถูกหวดอีก ไฉนจะคิดว่าจะโดนหวดอีกอย่างน่าเวทนา!หลิงซวนมองหลิงอวี๋เซื่องซึมพลางเล่าเรื่องที่จ้าวซวนมาหลิงอวี๋ได้สติหน่อย ๆ กล่าวเฉยชา “เจ้าทำถูกต้อง หนหน้าก็ทำเช่นนี้ต่อ!”“คนของตำหนักอ๋องอี้เป็นบ้ากระไร คิดว่าตัวข้าเป็นสุนัขรึ? จะเรียกก็เรียก จะไล่ก็ไล่!”“หลิงซวน อีกหน่อยแอบเอาตั๋วเงินสองหมื่นตำลึงไปให้พี่ใหญ่ปี้เสีย เขาจะได้ส่งให้เหล่าสหายของเขา!”เมื่อคืนเคราะห์ดีที่ได้ปี้ไห่เฟิงหาคนพวกนั้นมา มิเช่นนั้นคงช่วยท่านกวนเอ้อร์มิได้แน่!จากเหตุการณ์เมื่อคืนนี้ หลิงอวี๋มองขาดว่า ในภายภาคหน้ามิอาจคาดหวังเซียวหลินเทียนได้อีก นางต้องมีเส้นสายเป็นของตนเหล่าสหายของปี้ไห่เฟิงต่างมีฝีมิเก่งกาจ หลิงอวี๋อยากจะคบหากับพวกเขา“หลิงซ