“คุณหนูใหญ่ขอรับ คนของพวกเขามากเกินไป พวกเรารีบหนีเถอะขอรับ!”เมื่อพ่อบ้านเหอเห็นคนกลุ่มใหญ่ห้อตะบึงมาทางนี้ก็รีบดึงกวนอิ่งจากไปครั้นกวนอิ่งเห็นลิ่วล้อตัวเองล้มลงเป็นแถบในพริบตา และมองพวกหลิงอวี๋เข้ามาอย่างดุดัน นางก็ตกใจกลัวเสียแล้วกวนอิ่งรีบขึ้นม้าพลันหนีไปพร้อมผู้คุ้มกันที่เหลือท่านกวนเอ้อร์หมายไล่ตาม แต่กวนซิงกอดเขาไว้แน่นจึงตามไปมิได้ ทำได้เพียงมองกวนอิ่งหนีไปไกลอย่างเหี้ยมเกรียม!“ท่านเอ้อร์…”หลิงอวี๋วิ่งมาใกล้ก็เห็นสายจูงสุนัขยังห้อยบนคอท่านเอ้อร์อยู่ พลางอุ้มกวนซิงโดยที่เลือดเต็มตัว…ยังมีฮูหยินสวมอาภรณ์กะรุ่งกะริ่งพร้อมดาบเล่มหนึ่งเสียบบนท้อง แต่บนหน้ากลับแขวนรอยยิ้มไว้…หัวใจของหลิงอวี๋จมดิ่งลงหนักหน่วง ไม่ต้องเห็นด้วยตาตัวเอง นางก็เดาออกว่าเกิดอะไรขึ้น…พวกเขามาช้าเกินไป… !“ท่านเอ้อร์…”เป็นครั้งแรกที่หลิงอวี๋มิรู้ว่าควรพูดสิ่งใด ไม่ว่าคำปลอบโยนใด ๆ ก็ไร้ความหมายกับสถานการณ์เช่นนี้!เป็นท่านกวนเอ้อร์ตอบสนองก่อน ด้วยเสียงเย็นชา“พระชายาอ๋องอี้ โปรดช่วยข้าดูแลลูกชั่วคราว… และข้าขอยืมกำลังคนด้วยได้หรือไม่!”เขาก็มีความเจ็บแค้นต่อหลิงอวี๋และเซียวหลินเทียนเช่นก
เถาจื่อหน้าขรึมเดินไปด้านข้าง ไม่ให้หลิงซวนเห็นน้ำตาของนางปี้ไห่เฟิงให้สหายผู้หนึ่งไปซื้อโลงศพอย่างเงียบ ๆ หลังหลิงซวนได้ยินก็ถือตั๋วเงินสองร้อยตำลึงส่งให้เขา กล่าวสะอึกสะอื้น“ช่วยซื้ออาภรณ์ดี ๆ สักหน่อยด้วยเถิด!”สหายผู้นั้นจึงถือตั๋วเงินขี่ม้าจากไปหลิงอวี๋เหม่อมองด้านคฤหาสน์ตระกูลกวน มิรู้สถานการณ์ทางนั้นเป็นเช่นไรพวกเขาอยู่ด้านกระท่อมเพิงมาตลอด ครั้นรอจนฟ้าสาง ท่านกวนเอ้อร์ก็พาเจียงเผิงกับคนของตนและพวกเกิ่งเสี่ยวหาวต่างกลับมากันแล้ว“ท่านเอ้อร์ นายท่านไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”หลิงอวี๋ถามอย่างเป็นห่วงสีหน้าท่านกวนเอ้อร์ท้อแท้พลางส่ายหน้า เสียงแหบพร่า “นายท่านไปแล้ว…”หลิงอวี๋ผงะไปฉับพลัน“สมน้ำหน้าเขาชะมัด ไม่สมควรได้รับความเห็นใจ!”ท่านกวนเอ้อร์ด่าอย่างรุนแรง แต่น้ำตากลับไหลลงอย่างควบคุมมิได้เขาหันหลังไปเช็ดน้ำตา กล่าวเยือกเย็น“กวนซินกับกวนอิ่งพาคนส่วนใหญ่กลับไปเอาทรัพย์สมบัติส่วนมากของตระกูลกวน! และได้ยินว่าไปขอพึ่งองค์ชายคัง!”“พระชายาอ๋องอี้ เหตุผลที่กวนอิ่งทำกับเจ้าวันนี้ เป็นเพราะถูกองค์ชายเว่ยวางยาข่มขืน!”“องค์ชายเว่ยตรัสว่าเป็นอุบายของเจ้า นั่นคือสาเหตุที่กว
“พระชายาอ๋องอี้…”“เรียกข้าหลิงอวี๋เถิด!”บัดนี้หลิงอวี๋ไม่ชอบชื่อเรียกพระชายาอ๋องอี้นัก เพราะเซียวหลินเทียนรับปากช่วยท่านกวนเอ้อร์ แต่กลับทำมิได้ แม้จะมีสาเหตุก็ตามที!ครั้นมาขอความช่วยเหลือถึงหน้าประตูบ้าน เซียวหลินเทียนจะปฏิเสธได้เยี่ยงไรถ้ามิใช่เพราะพวกเขาล่าช้า มาเร็วกว่านี้หน่อย บางทีฮูหยินกวนเอ้อร์อาจยังมิสิ้นใจ!ท่านกวนเอ้อร์ก็ตระหนักได้ถึงความรู้สึกผิดอันลึกซึ้งของหลิงอวี๋ถึงแม้ความรู้สึกผิดอักโขจะแลกความบริสุทธิ์กับชีวิตของฮูหยินเขาคืนมามิได้แต่หลิงอวี๋… ทำดีต่อเขาที่สุดแล้วจริง ๆ!และพวกเขามีศัตรูร่วมกัน!ท่านกวนเอ้อร์พูดเสียงทุ้ม “หลังพิธีฝังศพนายท่านกับฮูหยิน ข้าอยากพักผ่อนระยะหนึ่ง ให้กวนอิ่งกับกวนซินใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายไปก่อนเถอะ!”“ข้าจักไปหาเจ้าภายหลัง!”หลิงอวี๋ผงกศีรษะ กิจการของตระกูลกวนสลับซับซ้อน นางมิอยากเชื่อว่านายท่านจะหักใจมอบทรัพย์สมบัติทั้งหมดให้จักรพรรดิจริง ๆบางทีท่านกวนเอ้อร์อาจอยากแอบวางกลยุทธ์ จัดระเบียบตระกูลกวนขึ้นใหม่!และยืมโอกาสล้างแค้นต่อ!เช่นนี้ก็ดีนัก ท่านกวนเอ้อร์จะได้เลี่ยงความสนใจไปก่อนชั่วคราว ให้องค์จักรพรรดิเปลี่ยนไปมุ่งเป
หลิงอวี๋ไม่ได้นอนทั้งคืน ทั้งยังเจ็บทั่วกาย แค่อยากกลับไปจัดการบาดแผลและนอนพักบ้างไฉนจะคิดว่าเสิ่นจวนจะขวางประตูไว้เช่นนี้“หลีกไป!”หลิงอวี๋พูดเยือกเย็น“ทำไม จะวางอำนาจเป็นพระชายาอีกรึ?”เสิ่นกวนร้องเสียงแหลม “พี่สะใภ้ เจ้าทำแบบนี้ได้เยี่ยงไร! รนออกเรือนกับท่านพี่ของข้า! แต่ดึกดื่นมิกลับบ้านกลับช่อง…”หลิงอวี๋ตะโกนด้วยสีหน้าเย็นเยียบ “เถาจื่อ!”ครั้นเถาจื่อเห็นเสียงร้องของเสิ่นจวนดึงดูดคนมาล้อมชมมากมาย หน้าก็ขรึมลงทันทีเมื่อได้ยินหลิงอวี๋เรียกตน เถาจื่อก็มุ่งตรงไปข้างหน้าคว้าคอเสิ่นจวนไว้โดยมิเอ่ยคำใดเป็นญาติประสากระไรถึงกล้ามาใส่ไคล้คุณหนูของตนหน้าระรื่น!ช่างกวนบาทาเสียจริง!“ตัวข้าไปตรวจคนไข้มา! เจ้าเอะอะหาปะไร?”หลิงอวี๋พูดอย่างเย็นชา “เจ้าเป็นแค่แขก ถึงก้าวก่ายฟ้าดินได้ แต่ก็ยุ่มย่ามเจ้าบ้านมิได้!”“ผู้ใดให้หน้าเจ้า?”“ไม่ว่าข้าจะรนแบบที่เจ้าว่าหรือไม่ ท่านอ๋องยังมิว่ากระไร แล้วเจ้าเป็นบ้ากระไร?”เมื่อหลิงอวี๋เห็นคนกำลังมุงดูอยู่ก็พลันกล่าวมิปรานีแม้แต่น้อย“คราก่อนไทเฮาทรงตำหนิเจ้าว่าปากคอเราะรายมิใช่หรือ? ไฉนไม่กี่วันก็ลืมเสียแล้วรึ? อยากให้ไทเฮาส่งแม่นมมาอบ
เสิ่นจวนตาเป็นประกายพลางรีบพยักหน้า“แม่นม ข้าล้วนฟังเจ้า! เจ้าช่วยข้าหาวิธีเร็วเข้า ข้าจักให้ท่านพี่หย่ากับหลิงอวี๋ให้ได้!”แม่นมเฉาพลันดึงเสิ่นจวนมากระซิบกระซาบระหว่างทางกลับ……เซียวหลินเทียนมิอยากเชื่อเลยว่า ตระกูลกวนจะเกิดการแปรผันพลิกฟ้าพลิกแผ่นดิน(1)ขึ้นในชั่วข้ามคืนและเขายิ่งเหนือคาดตอนหลิงอวี๋มาขอความช่วยเหลือเขาเมื่อคืนก่อนเซียวหลินเทียนเพิ่งทราบสถานการณ์หลังจากที่อิ๋นฮู๋มาแจ้งอิ๋นฮู๋ยิ้มขมขื่น “ครั้นพวกเราไปรับครอบครัวท่านกวนเอ้อร์ตามที่อยู่ที่ท่านอ๋องมอบ ถึงรู้ว่าครอบครัวของท่านกวนเอ้อร์ถูกรับไปเสียแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”“พอเราตรวจเส้นทางทราบก็ตามไป พระชายาอ๋องอี้ก็พาผู้ติดตามตามถึงแล้วพ่ะย่ะค่ะ”“ทว่าพระชายาช้าไปหนึ่งก้าว ช่วยแค่ท่านกวนเอ้อร์กับเด็กได้ หลังฮูหยินกวนเอ้อร์โดนขืนใจ… ก็ปลิดชีวิตตนพ่ะย่ะค่ะ!”เมื่อจ้าวซวนกับเซียวหลินเทียนได้ยินต่างเบิกตากว้างตะลึงงันเซียวหลินเทียนเสียใจสุดซึ้ง เมื่อคืนเขาน่าจะฟังประสงค์ของหลิงอวี๋!มิใช่แค่เพราะรังเกียจนาง เขาถึงได้ทำพลาดใหญ่หลวงหรอก!ไม่เพียงพลาดโอกาสช่วยครอบครัวท่านกวนเอ้อร์ แต่ตนยังต้องตกสู่สถานการณ์ที่ไร้เมตตาธรร
จ้าวซวนพูดหน้าเจื่อน ๆ “เช่นนั้นเมื่อพระชายาตื่นเจ้าก็ถ่ายทอดคำพูดข้าด้วย ขอให้พระชายาไปเรือนริมวารี!”หลิงซวนปิดประตูไม่กล่าวคำ ปล่อยให้จ้าวซวนรู้สึกอักอ่วนกว่าเดิมขณะที่หลิงซินกำลังดูแลรอยแส้ของหลิงอวี๋ หลิงซวนก็ได้เข้าห้องไปแจ้งให้หลิงอวี๋ทราบเมื่อเห็นรอยแส้มากรอย หลิงซินพลันน้ำตาคลอคราก่อนคุณหนูถูกท่านอ๋องหวดแส้ นางยังนึกว่า ยามนี้คุณหนูเข้มแข็งแล้วคงมิถูกหวดอีก ไฉนจะคิดว่าจะโดนหวดอีกอย่างน่าเวทนา!หลิงซวนมองหลิงอวี๋เซื่องซึมพลางเล่าเรื่องที่จ้าวซวนมาหลิงอวี๋ได้สติหน่อย ๆ กล่าวเฉยชา “เจ้าทำถูกต้อง หนหน้าก็ทำเช่นนี้ต่อ!”“คนของตำหนักอ๋องอี้เป็นบ้ากระไร คิดว่าตัวข้าเป็นสุนัขรึ? จะเรียกก็เรียก จะไล่ก็ไล่!”“หลิงซวน อีกหน่อยแอบเอาตั๋วเงินสองหมื่นตำลึงไปให้พี่ใหญ่ปี้เสีย เขาจะได้ส่งให้เหล่าสหายของเขา!”เมื่อคืนเคราะห์ดีที่ได้ปี้ไห่เฟิงหาคนพวกนั้นมา มิเช่นนั้นคงช่วยท่านกวนเอ้อร์มิได้แน่!จากเหตุการณ์เมื่อคืนนี้ หลิงอวี๋มองขาดว่า ในภายภาคหน้ามิอาจคาดหวังเซียวหลินเทียนได้อีก นางต้องมีเส้นสายเป็นของตนเหล่าสหายของปี้ไห่เฟิงต่างมีฝีมิเก่งกาจ หลิงอวี๋อยากจะคบหากับพวกเขา“หลิงซ
หลิงอวี๋จึงคาดเดาเจตนาของจักรพรรดิอู่อันไปพักหนึ่งองค์ชายเว่ยกับองค์ชายคังต่างคิดว่าสมบัติของตระกูลกวนอยู่ในมือสองพี่น้องกวนอิ่ง เลยอยากรู้ว่าเพื่อสมบัติเหล่านี้พวกเขาจะใช้อุบายแย่งชิงกันเช่นไร!จักรพรรดิอู่อันปกปิดเรื่องที่สมบัติตกอยู่ในมือตน เพียงแค่อยากดูว่าพวกเขาจะสู้กันเยี่ยงไร!หลิงอวี๋ทั้งเลื่อมใสและดูแคลนการกระทำนี้ของจักรพรรดิอู่อันนัก!ราชวงศ์ขาดความผูกพันโดยแท้ จักรพรรดิอู่อันวางแผนกระทั่งลูกตัวเอง นี่มีอะไรต่างกับสองพี่สองกวนอิ่งวางแผนใส่นายท่านกวนกันเล่า!สุนัขกัดสุนัขขนเต็มปาก(1)!หลิงอวี๋เลือกอยู่เฉย ๆ ชมความบันเทิง หากมีโอกาสได้ใช้กลในระหว่างนั้น นางจะกวนน้ำให้ขุ่นไม่ใจอ่อนเด็ดขาด!ยามนี้ตนสิ้นวิธีจับกุมองค์ชายเว่ยกับกวนอิ่ง และนางก็ไม่ติดที่จะยืมอิทธิพลของจักรพรรดิช่วยซ้ำเติมพวกกวนอิ่งด้วย!หลิงอวี๋กำลังตริตรองว่าควรยืมอิทธิพลของจักรพรรดิอย่างไรช่วยซ้ำเติมดีความเข้าใจก่อนหน้าของนางต่อเหล่าองค์ชายนั้นแค่ผิวเผิน ต้องรู้เรารู้เขาเท่านั้นถึงกำหนดแผนที่สมบูรณ์แบบได้!ต้องหาคนมาช่วยเรื่องนี้!พึ่งแค่ให้เกิ่งเสี่ยวหาวบอกข่าวตน มันเสียเปรียบเกินไป!คนของเกิ่งเสี่
ปี้ไห่เฟิงนิ่วหน้า “พระชายาท่านคิดโค่นองค์ชายเว่ยกับองค์ชายคังหรือขอรับ?”“มิใช่! ข้ามิได้มีความทะเยอทะยานยิ่งใหญ่ขนาดนั้น!”หลิงอวี๋ยิ้มจาง ๆ“พี่ใหญ่ปี้ เจ้าก็เห็นเรื่องในวันนั้นแล้ว คาดมิถึงว่าองค์ชายเว่ยจักยุยงกวนอิ่งเล่นงานข้า!”“หากมิใช่ข้าดวงดีหนีพ้นล่ะก็ เกรงว่าบัดนี้หัวกับตัวคงอยู่คนละทิศละทางแล้วกระมัง!”“กวนอิ่งยังกระทำเรื่องไร้รู้ผิดชอบชั่วดีต่อฮูหยินกวนเอ้อร์ด้วย!”“ด้วยความคับข้องใจนี้ ข้าหลิงอวี๋จักมิกล้ำกลืนฝืนทนเด็ดขาด!”“ยามนี้กวนอิ่งเกาะติดองค์ชายคัง หากข้ามิเตรียมตัวเลย เช่นนั้นมิใช่การปล่อยให้คนมารุกรานรึ?”“ข้าทำเพื่อปกป้องตัวข้าเอง! ผู้อื่นรังแกข้าเช่นนี้จักมิให้ข้าตอบโต้กลับงั้นรึ?”ปี้ไห่เฟิงหัวเราะ เขาชื่นชมนิสัยเช่นนี้ของหลิงอวี๋นัก หากเป็นตนก็คงกลืนความคับข้องใจนี้มิได้เช่นกัน“ขอรับ พระชายา ข้ารับปากท่าน ข้าจักช่วยท่านไปสืบขอรับ!” ปี้ไห่เฟิงตอบรับหนักแน่นหลิงอวี๋ส่งตั๋วเงินสามหมื่นตำลึงให้ปี้ไห่เฟิง“พี่ใหญ่ปี้ โปรดช่วยจับตาดูหานหลินที่ปรึกษาข้างกายองค์ชายเว่ยเป็นพิเศษด้วย!”หานหลินผู้นี้ ก่อนหน้ายุยงองค์ชายเว่ยซื้อนักฆ่ามาสังหารตน คราก่อนก็เส
จ้าวฮุยได้ยินคำสั่งนี้ก็ตะลึงไปทันที ถึงจะเป็นในความฝันเขาก็มิคาดคิดว่าเซียวหลินเทียนจะส่งตนออกไปแคว้นพันและแคว้นเฉิงนี้อยู่ห่างจากเมืองหลวงไปหลายพันลี้ การเดินทางไปกลับนั้นอย่าว่าแต่ห่างไกลและลำบากเลย หากไม่มีตนอยู่คอยช่วยองค์ชายคังอยู่ที่เมืองหลวง กระทั่งตนไปกลับใช้เวลาหลายเดือนนี้ สถานการณ์ในราชสำนักจะเป็นอย่างไรเล่า?“ฝ่าบาท...”จ้าวฮุยรู้สึกสับสนวุ่นวายในทันที หากเขาอ้างว่าป่วยมิไป เซียวหลินเทียนเองก็มิอาจบังคับให้ตนไปได้ทว่าเซียวหลินเทียนอาจจะใช้เรื่องที่ตนอ้างว่าป่วยมาบีบให้ตนพักผ่อนและถือโอกาสผลักตนออกไปได้และเพียงชั่วครู่ จ้าวฮุยก็ได้ทำการตัดสินใจเขาก้าวออกไปเอ่ยเสียงเรียบ “การผลักดันห่วงโซ่อุตสาหกรรมวัวนมเป็นเรื่องดีที่เป็นประโยชน์ต่อแคว้นและราษฎร ฝ่าบาทมอบหมายเรื่องสำคัญเช่นนี้ให้กระหม่อมทำ กระหม่อมก็จะตั้งใจทำงานนี้อย่างดีเพื่อฝ่าบาท ให้สมกับความไว้วางพระทัยของฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ”“กระหม่อมรับพระบัญชา!”องค์ชายคังได้ยินดังนั้นก็รู้สึกกังวลมาก นี่เซียวหลินเทียนกำลังตัดกำลังของตนให้อ่อนแอลงทีละขั้น!จ้าวฮุยรับปากว่าจะไป เหตุใดจึงได้โง่เช่นนี้!“ฝ่าบาท อัครเสนาบดีจ้าว
องค์ชายคังถูกกดอยู่ก็พยายามใช้ลิ้นดันออกออกมาอย่างหวาดกลัว แต่มินานยาก็ละลายอยู่ในปากของเขาองค์ชายคังค่อนข้างงุนงง เขาเห็นจ้าวหรุ่ยหรุ่ยโน้มตัวลงมาหาตน แล้วสายตาของนางก็มีแสงที่ดูประหลาด“ข้าเป็นเจ้านายของเจ้า ข้าพูดอะไรเจ้าต้องทำตามนั้น! พูดตาม!”องค์ชายคังมองแสงหลากหลายที่เคลื่อนไหวอยู่ตรงหน้าของตนอย่างหลงใหลแล้วเขาก็เอ่ยราวกับเครื่องกล “ท่านเป็นเจ้านายของข้า ท่านพูดอะไรข้าต้องทำตามนั้น!”“ดีมาก!”จ้าวหรุ่ยหรุ่ยยกเท้าออกอย่างพอใจแล้วพยุงเขาขึ้นมา“องครักษ์เหล่านั้นมิเคารพข้า โบยทุกคนคนละสามสิบไม้!”องค์ชายคังหมุนตัวราวกับเครื่องกลเดินไปที่ประตูแล้วตะโกนออกไป “ใครก็ได้ เอาตัวพวกเขาไปที พวกเขามิให้ความเคารพต่อพระชายา ให้โบยคนละสามสิบไม้!”องครักษ์ของตำหนักองค์ชายคังพากันวิ่งเข้ามา แม้ว่าจะแปลกใจกับท่าทีที่เปลี่ยนไปขององค์ชายคัง แต่ก็ลากตัวองครักษ์ที่หมดสติเหล่านั้นออกไปโบยหนานฮุ่ยกับสุ่ยเหอผู้เป็นนางรับใช้ข้างกายของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเห็นภาพนั้นก็มิได้ประทับใจแม้แต่น้อย“คุณหนู น่าเสียดายที่ครานี้จับหลิงอวี๋มิได้ มิเช่นนั้นคุณหนูก็คงจะบรรลุฝ่าดินแดนที่เจ็ดไปได้อย่างราบรื่นแล้ว
เซียวหลินเทียนได้เติมเต็มความปรารถนาและได้กอดคนงาม แต่องค์ชายคังแห่งตำหนักองค์ชายคังกลับอยากจะสังหารจ้าวหรุ่ยหรุ่ยใส่ร้ายหลิงอวี๋ครานี้ แต่หลิงอวี๋กลับรอดพ้นไปได้อย่างสมบูรณ์ ทั้งยังทำให้หลิงเสียงกังรอดออกมาอีกองค์ชายคังตกใจเมื่อได้ยินจากผู้ใต้บังคับบัญชามารายงานว่าการผ่าตัดของหลิงเสียงกังสำเร็จและเขาก็สามารถลุกเดินได้แล้วแม้ว่าเรื่องที่ปล้นเงินเบี้ยหวัดทหารในตอนนั้นจะถูกจักรพรรดิอู่อันกดเอาไว้แล้ว แต่องค์ชายคังรู้ว่าเสด็จพ่อสงสัยตนเพียงแต่เรื่องนี้จบลงไปภายใต้การจัดการของจ้าวฮุยและพระชายาเส้าทว่ายามนี้อำนาจอยู่ในมือเซียวหลินเทียน หากหลิงเสียงกังไปฟ้องร้อง จากความเกลียดที่เซียวหลินเทียนมีต่อตน เช่นนั้นจะมิช่วยเขาพลิกคดีได้หรือ!ครั้นองค์ชายคังรู้ว่าจ้าวหรุ่ยหรุ่ยจับตัวหลิงเสียงกังไปก็ย้ำแล้วย้ำอีกให้จ้าวหรุ่ยหรุ่ยสังหารหลิงเสียงกังไปเสีย ไหนเลยจะคิดว่าสุดท้ายจ้าวหรุ่ยหรุ่ยจะเสียท่าให้หลิงเสียงกังรอดไปได้“เจ้าทำงานมิสำเร็จทั้งยังทำให้เสียงานอีก… เจ้ารับรองกับข้ามิใช่หรือว่าจะต้องกำจัดหลิงอวี๋กับหลิงเสียงกังได้อย่างแน่นอน?”องค์ชายคังเดือดดาลใส่จ้าวหรุ่ยหรุ่ย “เจ้าดูสถานการ
เซียวหลินเทียนเชื่อฟังราวกับเด็ก เขาดึงหลิงอวี๋ลุกขึ้นแล้วหยิบจอกหนึ่งส่งให้หลิงอวี๋เป็นครั้งแรกที่หลิงอวี๋ได้เห็นพิธีการดื่มสุรามงคลแบบโบราณ ภาชนะที่ใส่สุรามงคลนี้คือน้ำเต้าที่ผ่าครึ่งเป็นสองส่วน แล้วบ่าวสาวจะต้องดื่มเป็นคู่กันคนละจอกน้ำเต้านี้จะมีขนาดเล็กและมีความประณีต ตรงกลางจะมีเชือกสีแดงผูกเอาไว้ หลิงอวี๋กำลังสงสัยอยู่ว่าสุรามงคลเป็นเช่นนี้เองหรือ ก็ถูกเซียวหลินเทียนเกี่ยวแขนดึงกลับมาจากความคิดที่เลื่อนลอยออกไป“ดื่มสุรามงคลแล้ว นับตั้งแต่นี้ไปท่านทั้งสองก็จะเป็นหนึ่งเดียว จากนี้ไปต้องจับมือร่วมทุกข์ร่วมสุขไปด้วยกัน...”บรรดานางรับใช้พากันส่งเสียงโห่ร้องเซียวหลินเทียนมองหลิงอวี๋อย่างลึกซึ้ง แล้วเกี่ยวมือของหลิงอวี๋ให้ยกสุรามมงคลขึ้นสายตานี้ชนะคำพูดนับพันนับหมื่น หลิงอวี๋มองดวงตาที่งดงามของเขา พลันใจลอยไปเล็กน้อย จากนี้ไป คนผู้นี้จะเป็นของตนโดยสมบูรณ์แล้วหรือ?นางยกน้ำเต้าไปอยู่ที่ริมฝีปากตามสัญชาตญาณแล้วดื่มพร้อมกันกับเซียวหลินเทียน“เสร็จพิธีเพคะ พวกบ่าวมิรบกวนเวลาความรักของท่านมทั้งสองแล้วเพคะ...”พวกนางรับใช้หายไปกันหมดในทันที ทั้งยังปิดประตูให้ทั้งสองคนอย่างเอาใส
หลิงอวี๋กวาดสายตาผ่านผ้าคลุมหน้าไปรอบ ๆ ทั่วทั้งสถานที่ล้วนเป็นญาติสนิทมิตรสหายของพวกเขา พวกเขาเป็นพยานในการเริ่มต้นชีวิตใหม่ของตนกับเซียวหลินเทียนนับตั้งแต่นี้ไป นางมิใช่วิญญาณที่หลงทางจากโลกอื่นอีกแล้ว นางเป็นส่วนหนึ่งของฉินตะวันตกอย่างแท้จริงแล้ว“คารวะบุพการี...”หลิงอวี๋คารวะไปตามเสียงของท่านอ๋องเฉิง“สามีภรรยาคารวะกันและกัน!”หลิงอวี๋จับผ้าสีแดงที่อยู่ในมือแล้วหันไปทางเซียวหลินเทียนร่างสูงใหญ่นั้นเห็นเพียงแค่รูปร่างแต่นางรู้ว่าต่อไปคนผู้นี้จะเป็นที่พึ่งให้ตนได้แม้ว่าในภายภาคหน้าจะมีการทะเลาะเบาะแว้ง หรือมีเรื่องขัดแย้งกัน แต่นางก็เชื่อว่าพวกเขาจะต้องใช้ชีวิตของพวกเขาได้อย่างดี!นางคำนับลงไปเซียวหลินเทียนมองหลิงอวี๋ที่มีผ้าคลุมหน้าอยู่ก็พลันตัวสั่นเล็กน้อยอย่างตื่นเต้นนับแต่นี้ไป หลิงอวี๋ก็คือภรรยาของตน อดีตที่เลวร้ายเหล่านั้นเขาไม่มีหน้าจะเอ่ยถึงอีกแล้วชีวิตนี้เขาจะต้องรักนางให้มากเท่าที่จะทำได้ จะปกป้องนาง จะให้สิ่งที่ดีที่สุดแก่นาง ทำให้นางเป็นสตรีที่มีความสุขที่สุดในใต้หล้า!เซียวหลินเทียนเองก็คำนับลงไปเช่นกัน“เสร็จสิ้นพิธี!”ท่านอ๋องเฉิงยังคงยืนอยู่ต่อหน้
หลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนจัดงานแต่งงานคารวะฟ้าดินกันใหม่ เมื่อพวกหลิงซวนรู้เข้าก็ดีใจเป็นอย่างยิ่งกว่าจะเปลี่ยนจากความโกรธเกลียดมาเป็นสามีภรรยาอย่างแท้จริงได้ หลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนข้ามผ่านเส้นทางนี้กันมาอย่างยากลำบากจนนับมิถ้วน!เมื่อเทียบกับงานแต่งที่เหลวไหลเมื่อคราก่อน ครานี้เซียวหลินเทียนขอหลิงอวี๋แต่งงานอย่างจริงใจกำไลหยกเขียวมรกตได้ชดเชยเรื่องสินสอดในคราก่อนไปแล้ว เรื่องพิธีหลิงอวี๋ขอให้เป็นพิธีเรียบง่ายจัดโต๊ะเพียงมิกี่โต๊ะก็พอแล้วมิได้มีการประกาศออกไป และมิได้เชิญแขกคนอื่น ๆ เชิญเพียงแค่ผู้อาวุโสเช่นท่านอดีตเสนาบดี ไทฮองไทเฮาและท่านอ๋องเฉิงสามคนเท่านั้นท่านอดีตเสนาบดีถูกเชิญเข้าวังมาก็ยังคงสับสนมิรู้ว่าด้วยเรื่องใดไทฮองไทเฮาเองก็เช่นกัน ถูกเชิญมาถึงพระตำหนักคุนหนิงก็ยังมิรู้ว่านี่คือพิธีคารวะฟ้าดินที่จัดขึ้นเพื่อทั้งสองคนท่านอ๋องเฉิงคือคนที่เซียวหลินเทียนเพิ่มเข้ามา เขาเป็นราชสำนักฝ่ายใน ทั้งยังเป็นผู้อาวุโสที่เห็นเส้นทางที่พวกเขาผ่านมาอย่างใกล้ชิดที่สุด เมื่อจัดพิธีแต่งงานขึ้นอีกครั้ง จะขาดคนสำคัญผู้นี้ไปได้อย่างไร!แม่นมลี่เปลี่ยนชุดใหม่แล้วดึงเซียวเยวี่ยที่ใ
หลิงอวี๋ตกใจกับการเกี้ยวพาราสีอย่างกะทันหันของเซียวหลินเทียนจึงหน้าแดงขึ้นมาทันทีนี่… นี่คือการขอจะทำเรื่องเช่นนั้นกับตนหรือ?แต่นางยังมิได้คิดให้ดีเลยนะ!“อาอวี๋ ต่อให้คำสาบานใด ๆ จะสวยหรูสักแค่ไหนก็มิสู้การกระทำ! ข้าก็กำลังพยายามเต็มที่แล้ว!”เซียวหลินเทียนคว้ามือของหลิงอวี๋มาแนบที่หน้าอกของตน “ในนี้มีเพียงแค่เจ้า ชั่วชีวิตนี้ก็จะมีเพียงแค่เจ้าเท่านั้น! ไม่มีผู้ใดสามารถมาแทนที่เจ้าในใจของข้าได้!”“อาอวี๋ เรื่องของเมื่อวานก็ปล่อยให้มันผ่านไปแล้วเหลือแต่เรื่องของวันนี้ เรามาเริ่มต้นกันใหม่เถิด!”หลิงอวี๋ปฏิเสธมิออกหลิงซวนเคยบอกกับนางไว้แล้วให้นางลืมอดีต อย่าได้ปิดกั้นเซียวหลินเทียนอีกเลยนางมิใช่เจ้าของร่าง และมิได้เกลียดเรื่องที่เซียวหลินเทียนเฆี่ยนตีตนในตอนแรกแล้ว!และครานี้เมื่อเกิดเรื่องกับตน เซียวหลินเทียนก็ทำงานหนักเพื่อตนอย่างเต็มที่ นางเห็นความทุ่มเทของเขาทั้งหมดแล้วนางยังจะมีเหตุผลอะไรไปปฏิเสธเขาอีกเล่า?“หม่อมฉัน...”หลิงอวี๋พูดมิออก ปฏิเสธมิออกจริง ๆดูเหมือนว่าเซียวหลินเทียนจะมองความลังเลของนางออก มือทั้งสองของเขาจึงโอบนางไว้แล้วดึงเข้ามาในอ้อมแขนเขาก้มหน้
เมื่อเซียวหลินเทียนพูดออกมา หลิงอวี๋ก็นึกขึ้นได้ว่าเขาเคยเอ่ยถึงใต้เท้าเจี่ยงผู้นี้ว่าหอบรรพบุรุษในตระกูลเขาทำด้วยทองคำก่อนหน้านี้เซียวหลินเทียนส่งคนไปตรวจสอบแล้ว เช่นนั้นหลักฐานก็น่าจะสรุปได้แล้ว“อาอวี๋ เจ้าให้ข้าคิดหาวิธีสักหน่อยว่าจะโจมตีร้านตั๋วเงินสี่หลายอย่างไรโดยมิให้ราษฎรเหล่านั้นได้รับความเสียหาย”ก่อนหน้านี้เซียวหลินเทียนก็อยากจะจัดการใต้เท้าเจี่ยง แต่ก็คิดวิธีดี ๆ ที่จะทำให้ได้ผลดีทั้งสองฝ่ายมิได้ใต้เท้าเจี่ยงกับร้านตั๋วเงินสี่หลายมีความโยงใยกันไปหมด เซียวหลินเทียนกังวลว่าหากไปแตะใต้เท้าเจี่ยงแล้วจะทำให้ราษฎรเหล่านั้นได้รับความเสียหายไปด้วยก่อนหน้านี้หลิงอวี๋มิได้สนใจเรื่องนี้มากนัก แต่นางเป็นคนยุคปัจจุบัน เคยได้ยินได้เห็นธนาคารล้มเหลวมามากมาย การระดมทุนอย่างผิดกฎหมายสร้างความเสียหายให้ราษฎรอย่างหนักหากราชสำนักปล่อยปละละเลยร้านตั๋วเงินเหล่านี้ เช่นนั้นก็คงจะได้เห็นหายนะครั้งใหญ่การที่เซียวหลินเทียนใส่ใจในจุดนี้เป็นการกระโดดเชิงคุณภาพ เป็นกษัตริย์ผู้ทรงปัญญาที่ล้ำหน้ากว่าแคว้นใด ๆแต่เท่านี้ยังมิพอ ตอนนี้เซียวหลินเทียนตระหนักได้เพียงว่าร้านตั๋วเงินสี่หลายเป็นพวก
เซียวหลินเทียนทอดถอนใจพลางเอ่ย “ตอนนั้นเสด็จพ่อยังต้องพึ่งพาท่านอดีตเสนาบดีให้ช่วยพระองค์เฝ้าระวังที่ชายแดน ท่านอดีตเสนาบดีขอร้องให้หลิงเสียงกัง เสด็จพ่อก็มิอยากทำร้ายจิตใจขุนนางเก่าแก่ จึงไว้ชีวิตหลิงเสียงกัง!”หลิงอวี๋ยิ้มเยาะ มีจักรพรรดิสูงสุดเป็นเกราะป้องกันให้องค์ชายคัง มิน่าหลิงเสียงกังอยากจะพลิกคดีแต่กลับยากเย็นนักเกรงว่าตอนนั้นที่หลิงเสียงกังออกจากเมืองหลวงแล้วบอกจะออกไปตามหาความจริงก็คงเพราะมองจุดนี้ออกแล้ว“คดีกล่าวหาท่านลุงของหม่อมฉันคือเสด็จพ่อที่สร้างขึ้น หากตอนนี้ท่านจะพลิกคดีให้เขาก็จะเป็นการตั้งคำถามเสด็จพ่อของท่าน ไม่มีเหตุผลที่จะทำให้เหล่าขุนนางเชื่อมั่น การดึงคดีนี้ขึ้นมาก็จะเป็นการอกตัญญู!”หลิงอวี๋วิเคราะห์ได้ตรงประเด็นมากเซียวหลินเทียนกังวลว่า หลิงอวี๋จะเข้าใจผิดว่าตนมิยินดีจะล้างมลทินชื่อเสียงให้หลิงเสียงกัง จึงรีบเอ่ย “ข้าแค่จะบอกว่าหากต้องการจะพลิกคดีนี้ในเวลามินานนั้นเป็นไปมิได้! มิได้หมายความว่าข้าจะมิยินดีช่วยหลิงเสียงกังพลิกคดี!”“อาอวี๋ เรายังมีพื้นที่ให้จัดการเรื่องนี้!”เซียวหลินเทียนเอ่ยเสียงเรียบ “จนถึงตอนนี้เงินทหารสองล้านตำลึงนั้นก็ยังมิปราก