และหลิงอวี๋ก็นึกถึงเรื่องที่แม่นมลี่บอกว่ามีหัวขโมยขึ้นเรือนบุหงาเมื่อคราก่อนด้วย!คราวนี้หลิงหลานก็อยากกลับมา หรือว่าเป็นหวางซือส่งนางมา?ครั้งก่อนเข้ามาค้นของที่ต้องการไม่พบ ฉะนั้นหลิงหลานจึงอยากแทรกซึมเข้ามาค้นต่อข้างในหรือ?หลิงอวี๋ตาเป็นประกายพลางกล่าว “อยากกลับมาก็มิใช่ว่ามิได้!”“คุณหนู… ท่านยังเชื่อใจนางหญิงชั่วนี่อยู่หรือเจ้าคะ? เห็นเต็มตาว่านางมีเจตนาร้ายหนาเจ้าคะ!” แม่นมลี่พูดร้อนใจ“แม่นม อดทนใจเย็น ๆ!” หลิงอวี๋เอ่ยปลอบหลิงหลานเห็นจุดเปลี่ยนที่ดีขึ้นพลันเอ่ยร้อนรน “พระชายา ท่านตกลงรับบ่าวกลับมาแล้วจริงหรือเจ้าคะ?”หลิงอวี๋พยักหน้าพลางพูดตรงไปตรงมา “เจ้าตอบคำถามข้าสักสองสามข้อ หากข้าพอใจข้าจักให้เจ้ากลับมา!”หลิงหลานตาวับวาบ รีบกล่าว “พระชายาท่านโปรดถาม บ่าวจักตอบอย่างสัตย์จริงแน่นอน มิเอ่ยปดพระชายาเด็ดขาดเจ้าค่ะ!”หลิงอวี๋ถามว่า “เจ้ารู้หรือไม่ว่าหลังจากที่หลิงผิงถูกไล่ออกตำหนักอ๋องอี้แล้วไปที่ใด?”หลิงหลานชะงักครู่หนึ่งพลางส่ายหัว “พระชายา บ่าวมิรู้เจ้าค่ะ! บ่าวมิได้ติดต่ออันใดกับนางเลยเจ้าค่ะ!”หลิงอวี๋ถามยิ้ม ๆ ว่า “หลังข้าศึกษาวิชาแพทย์ก็พบว่าข้าติดพิษเรื้อร
“พระชายา… หากท่านอยากรู้ที่อยู่หลิงผิง บ่าวจักพยายามไปสืบถามสุดกำลังเลยเจ้าค่ะ…”“แต่เรื่องอื่น บ่าวมิรู้จริง ๆ เจ้าค่ะ!”“ไปให้พ้น…”แม่นมลี่แกว่งไม้กวาดไล่หลิงหลานออกไป จากนั้นปิดประตูดังปังครั้นหลิงหลานเห็นประตูปิดลงก็เผยหน้าชั่วร้ายมิปกปิดแม้สักนิดนางจ้องประตูเรือนที่ปิดสนิทอย่างเหี้ยมเกรียม ถ่มน้ำลายและจากไปอย่างเคียดแค้นไม่ไกลจากแห่งนั้น ชิวเหวินซวงยืนอยู่หลังต้นไม้และเห็นฉากทั้งหมดกับตาหลิงหลานยอมจำนนต่อหลิงอวี๋ เพราะเห็นว่าตนไร้ประโยชน์แล้วงั้นหรือง?จิตสังหารแฉลบผ่านนัยน์ตาของชิวเหวินซวง พอยืนไปครู่หนึ่งก็ไม่พบความเคลื่อนไหวใด ๆ ที่เรือนบุหงา นางจึงโผล่ออกหลังต้นไม้เดินจากไปชิวเหวินซวงเพิ่งกลับถึงลานด้านหน้า ทันใดนั้นเด็กสาวรับใช้ก็วิ่งมาพูดว่า“พี่เหวินซวง มีแม่นมมาหาเจ้าที่หน้าประตูตำหนัก! เจ้าออกไปดูเถอะ!”“แม่นมใด?”ความสงสัยเต็มหน้าชิวเหวินซวง ในเมืองหลวงแห่งนี้ผู้ใดจะมาหาตน!“นางอ้างว่าเป็นญาติห่าง ๆ ของเจ้า เดาว่าคงมีธุระบางอย่างกับเจ้า!”ชิวเหวินซวงเพิ่งคิดจะให้นางรับใช้ไล่ไปก็พลันได้ยินเด็กสาวรับใช้พูดว่า“บางทีอาจมิใช่มีธุระ แต่ยืมเงินเจ้า! ข้าเห็
หลิงผิงโดนบีบคอจนสีหน้าดำคล้ำชั่วพริบตาทว่าหลิงผิงกลับมิหวั่นสักกระผีก มือข้างหนึ่งโฉบมือชิวเหวินซวงพลางเรียกเสียงแหบพร่า“เจ้าฆ่าข้าเลย! ตอนค่ำขอเพียงข้าไม่กลับไป วันพรุ่งเรื่องที่เกี่ยวกับเจ้าก็จะรายงานถึงท่านอ๋องทันที!”“ชิวเหวินซวง เจ้าคิดว่าหลังข้ารู้ความลับเจ้าแล้วจะกล้ามาหาเจ้าโดยมิเตรียมตัวอันใดเลยงั้นรึ?”“หากท่านอ๋องเห็นสิ่งเหล่านี้เข้า ไม่ว่าเจ้าจักพูดจาเสนาะหู โน้มน้าวเก่ง พระองค์ก็ไม่ทรงเชื่อใจเจ้าอีกแล้ว!”“หากข้าตายเจ้าก็ต้องตายไปกับข้า! กระทั่งครอบครัวเจ้าก็ต้องตายสิ้น!”ชิวเหวินซวงจ้องผิงหลิงเขม็งพลางนึกเสียใจภายหลังเต็มทรวงครั้นหลิงผิงถูกขับออกตำหนักอ๋องอี้ครานั้น ตนน่าจะฆ่านางเพื่อเลี่ยงหายนะที่ตามมาไม่จบสิ้นในภายหน้าเสียแต่นางคิดว่าหลิงผิงยังมีประโยชน์ในภายภาคหน้าอยู่จึงส่งนางไปหมู่บ้านแห่งนั้น!ไหนเลยจะคิดว่าหลิงผิงจะหนีออกมาได้ แถมกำเริบเสิบสานมากขึ้น ขวัญกล้าใช้ความลับมาขู่ตน!ชิวเหวินซวงถลึงมองหลิงผิงพลางดูท่าทีไม่ยี่หระของนาง เห็นได้ชัดว่าหลิงผิงเตรียมตัวมาอย่างดี!ชิวเหวินซวงหัวใจสั่นสะท้าน ค่อย ๆ คลายมือออก“เจ้าต้องการเท่าไร?” ชิวเหวินซวงถามอย
เซียวหลินเทียนกำลังอ่านหนังสือในห้องตำรา ครั้นแล้วจ้าวซวนก็เดินเข้ามา“ท่านอ๋อง…วันนี้มีแม่นมขาเป๋มาหาชิวเหวินซวง! หลังจากนั้นชิวเหวินซวงก็ออกตำหนักอ๋องอี้…นางเดินเตร่บนถนนตั้งหลายรอบ!”“คนของกระหม่อมคลาดกับนาง!”เซียวหลินเทียนผงะไปชั่วขณะ สีหน้าพลันเคร่งขรึมขึ้นสามารถสลัดการสะกดรอยคนของจ้าวซวนได้ ชิวเหวินซวงผู้นี้ช่างไม่ธรรมดา!“แล้วแม่นมขาเป๋คนนั้นคือผู้ใด? พวกเจ้ามิได้คลาดกับนางเหมือนกันใช่ไหม?”เซียวหลินเทียนเอ่ยถามจ้าวซวนเริ่มหน้าแดง กล่าวเจื่อน ๆ ว่า“เป็นความประมาทของกระหม่อม… คนของกระหม่อมมุ่งเป้าแค่ชิวเหวินซวงจึงละเลยแม่นมผู้นี้ไปพ่ะย่ะค่ะ!”“พอเขาคิดขึ้นได้ก็หาแม่นมผู้นี้ไม่เจอเสียแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”เซียวหลินเทียนจ้องจ้าวซวนดุดัน และระงับความโกรธไว้มิได้อีก“จ้าวซวน ตอนเหตุการณ์ท่านกวนเอ้อร์ก็ละเลยจนเกิดความผิดพลาดใหญ่หลวง! ตอนนี้ยังทำพลาดเช่นนี้อีก!”“หรือจะให้พวกเราถูกคนลอบสังหารตายหมดก่อน พวกเจ้าถึงจะตื่นตัวรึ?”จ้าวซวนคุกเข่าลงข้างเดียวอย่างละอายพลางเอ่ยขอรับโทษ“ท่านอ๋อง… กระหม่อมส่งคนไปค้นหาแล้ว และจะสืบตัวตนแม่นมผู้นี้โดยเร็วที่สุดพ่ะย่ะค่ะ!”“ได้โปรดท่าน
เซียวหลินเทียนคิดวางแผนใช้ประโยชน์จากองค์ชายคังเอากิจราชการฟื้นฟูย่านการค้ากลับมา และเขาก็จะไม่ปล่อยให้องค์ชายคังได้รับกิจราชการที่เหมืองง่าย ๆ เช่นกันทันใดนั้นเซียวหลินเทียนก็นึกถึงเรื่องหนึ่ง แล้วกล่าวว่า“จ้าวซวน จัดการให้จูจวินกับเถาเฉิงออกจากเหมืองด้วย!”“หลังจากพวกท่านอ๋องเฉิงกลับเมืองหลวง องค์ชายเว่ยจักได้มิขุ่นข้องและลงมือกับพวกเขา!”เซียวหลินเทียนไม่ค่อยสนิทกับจูจวินนัก แต่ก็ดูออกว่าจูจวินไม่ใช่พวกมักใหญ่ใฝ่สูง!ก่อนหน้าเฉิงชินอ๋องเคยพูดกับเซียวหลินเทียนว่าจูจวินเป็นคนมีฝีมือ อุทิศตนเพื่อแคว้น!เซียวหลินเทียนจะไม่ปล่อยคนมีความสามารถเช่นนี้ไปง่าย ๆ!“เจ้าให้จูจวินกับเถาเฉิงปกปิดชื่อแซ่ชั่วคราว และจัดพวกเขาเข้ากองทหารของเรา!”จ้าวซวนนึกถึงชีวิตอันขมขื่นของครอบครัวท่านกวนเอ้อร์ พลันกล่าวทันที“กระหม่อมจักไปจัดการเดี๋ยวนี้พ่ะย่ะค่ะ! โปรดท่านอ๋องวางใจ คราวนี้กระหม่อมจักมิทำพลาดซ้ำเด็ดขาดพ่ะย่ะค่ะ!”แล้วจ้าวซวนก็จากไปอย่างรีบร้อนเซียวหลินเทียนครุ่นคิดต่อ เขาต้องหาสักวิธีขัดขวางองค์ชายคังรับกิจราชการที่เหมืองให้ได้ขณะเซียวหลินเทียนกำลังขบคิด ความคิดก็ย้อนกลับมาที่สองพี
หลิงอวี๋ดูอย่างตั้งใจ อยากจะหาเบาะแสจากเสื้อผ้าทั้งสองชิ้นนี้ให้เจอหลังจากตรวจสอบอย่างละเอียดแล้ว นางพบตั๋วเงินสองร้อยตำลึงซ่อนอยู่ในเสื้อผ้าเก่าหนึ่งชิ้นตั๋วเงินถูกเย็บซ่อนไว้ชั้นในเสื้อผ้า ถ้าไม่ดูให้ดีจะไม่มีทางหาเจอเลยนางยึดวิธีเดียวกัน ตรวจสอบเสื้อผ้าอีกชิ้น แล้วเจอตรงชั้นในปกเสื้ออีกร้อยตำลึงเกิ่งเสี่ยวหาวเห็นจากด้านข้าง ก็เอ่ยยิ้ม ๆ “ความระแวงสงสัยของสตรีมีมากทีเดียว!”หลิงอวี๋ยิ้มเย็นชา “ไม่เพียงแต่ระแวงมาก แต่ยังจิตใจโหดเหี้ยมอีกด้วย!”“เฝิงโปที่เป็นผู้ชายร่างใหญ่ถูกนางฆ่าได้ หลิงผิงผู้นี้แค่แยกจากกันสามวัน ก็แข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิมแล้ว!”“ท่านพี่ พวกเราค้นหาทั่วทุกที่ในเมืองหลวงแล้ว! ข้าอยากรู้ว่านางไปซ่อนตัวอยู่ที่ใดกันแน่ ไฉนคนของข้าจึงหานางมิพบ!”เกิ่งเสี่ยวหาวยิ้มขมขื่นพลางเอ่ย “หากนางมิปรากฏตัวเอง ข้าเกรงว่าท่านพี่จักสงสัยว่าข้ามิใส่ใจคำพูดของท่านพี่!”หลิงอวี๋ปลอบใจ “จักเป็นไปได้เยี่ยงไรกันเล่า! หากคนคนหนึ่งต้องการซ่อนตัวนั้นมีวิธีมากหลายนัก! ข้าไม่มีทางสงสัยเจ้าหรอก!”หลิงอวี๋พูดไปก็ตรวจสอบเสื้อผ้าเก่า ๆ ไป นางสัมผัสทุก ๆ ส่วนของเสื้อผ้า แม้แต่ผ้าที่ห่อเสื้
เสียงประจบประแจงของชิวเฮ่าดังมาจากฝั่งตรงข้าม“ฮูหยิน ใช่ว่าเรามิได้พยายามจนถึงที่สุด… แต่เรื่องราวมันไปไกลจนหาควบคุมได้ไม่แล้ว...”“ฮูหยินมิสังเกตหรือว่าพระชายาอ๋องอี้คล้ายว่าเปลี่ยนเป็นคนละคนตั้งแต่ที่เฮยจื่อถูกทุบตี?”“เดิมทีเหวินซวงอาจได้เข้ารับตำแหน่งพระชายาอ๋องอี้ แต่เพราะหลิงอวี๋นางถึงได้เสียโอกาสไป!”ผู้หญิงคนนั้นเอ่ยด้วยความโกรธ “นั่นไม่ใช่เพราะว่าพวกเจ้าไร้ประโยชน์! เจ้าปลิดชีพนางก็ไม่มีเรื่องเหล่านี้แล้วมิใช่หรือ?”“ข้าจัดการดีถึงเพียงนั้น แต่พวกเจ้ากลับทำพลาดครั้งแล้วครั้งเล่า! จนเกือบทำให้ข้าเดือดร้อนไปด้วยแล้ว...”“ฮูหยิน ยามนี้มาพูดสิ่งเหล่านี้มันไร้ประโยชน์ ฮูหยินต้องคิดหาทางว่าจักทำเยี่ยงไรให้ท่านอ๋องไว้วางใจเราอีกครั้ง!”ชิวเฮ่าเอ่ยอย่างประจบประแจง “ฮูหยินเป็นคนฉลาดมีไหวพริบ ฮูหยินต้องมีวิธีแน่ขอรับ!”“หากมิได้ผลจริง ๆ ก็วางยาพิษเซียวหลินเทียนซะ… ให้เขาถูกพวกเราควบคุม!”ผู้หญิงคนนั้นเอ่ยอย่างดุร้าย “สองวันมานี้เซียวหลินเทียนกับหลิงอวี๋มีความขัดแย้งกัน ใช้โอกาสนี้กำจัดหลิงอวี๋ไปเสีย!”“หลิงอวี๋นังสารเลว ทำเราเสียเรื่องมิน้อยแล้ว หากยังเก็บนางไว้อีก จะต้องขัดข
“ฮ่า ๆ...”หลู่ชิ่งหัวเราะออกมา กุมบาดแผลที่เลือดออกไม่หยุดแล้วหัวเราะพลางเอ่ย“ชิวเฮ่า เจ้าช่วยคนทำเรื่องชั่วช้า… ดูเอาเถอะ เจ้าเองก็มีจุดจบที่ไม่ดีเช่นกัน…”“ฮูหยิน...”ชิวเฮ่าตกใจมากจนลืมโจมตีกลับ เขาทรุดลงไปกับพื้น ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าฮูหยินจะลงมือกับตนได้!“เจ้าโง่! เข้าใจกลยุทธ์ทุกข์กายหรือไม่?”สตรีผู้นั้นมองชิวเฮ่าอย่างดูถูก“วันนี้หลู่ชิ่งสะกดรอยตามเจ้ามา! หากเขาตายไปเช่นนี้ เซียวหลินเทียนจักมิสงสัยเจ้ารึ?”“แต่หากพวกเจ้าถูกซุ่มโจมตี เจ้าได้รับบาดเจ็บ พยายามอย่างเต็มที่ที่จะพาหลู่ชิ่งกลับไป… เจ้าจักได้รับความไว้วางใจจากเซียวหลินเทียนกลับคืนมาได้!”ขณะที่พูดนั้น นางก็ถลาเข้ามาพลางเอ่ย “คิดทำการแสดงก็ต้องทำให้สมจริงหน่อย!”นางยกมีดขึ้นมาแทงชิวเฮ่าที่ไหล่กับที่แขนหลู่ชิ่งงุนงง มองสตรีผู้นั้นยกมีดขึ้นอีกครั้งแล้วเดินมาหาตนเองสตรีผู้นั้นหยิบขวดออกมาจากอ้อมแขน เทยาเม็ดหนึ่งออกมาแล้วยัดมันเข้าไปในปากของหลู่ชิ่ง“นี่คือยาลับเฉพาะของข้า! มันสามารถทำลายการทำงานของเส้นประสาทได้ ทำให้เขาพูดมิได้ มือก็เขียนมิได้ด้วย!”“ไม่มีสีไม่มีกลิ่น แม้ว่าหลิงอวี๋จะเป็นแพทย์ชั้นเซียน นา