เซียวหลินเทียนคิดวางแผนใช้ประโยชน์จากองค์ชายคังเอากิจราชการฟื้นฟูย่านการค้ากลับมา และเขาก็จะไม่ปล่อยให้องค์ชายคังได้รับกิจราชการที่เหมืองง่าย ๆ เช่นกันทันใดนั้นเซียวหลินเทียนก็นึกถึงเรื่องหนึ่ง แล้วกล่าวว่า“จ้าวซวน จัดการให้จูจวินกับเถาเฉิงออกจากเหมืองด้วย!”“หลังจากพวกท่านอ๋องเฉิงกลับเมืองหลวง องค์ชายเว่ยจักได้มิขุ่นข้องและลงมือกับพวกเขา!”เซียวหลินเทียนไม่ค่อยสนิทกับจูจวินนัก แต่ก็ดูออกว่าจูจวินไม่ใช่พวกมักใหญ่ใฝ่สูง!ก่อนหน้าเฉิงชินอ๋องเคยพูดกับเซียวหลินเทียนว่าจูจวินเป็นคนมีฝีมือ อุทิศตนเพื่อแคว้น!เซียวหลินเทียนจะไม่ปล่อยคนมีความสามารถเช่นนี้ไปง่าย ๆ!“เจ้าให้จูจวินกับเถาเฉิงปกปิดชื่อแซ่ชั่วคราว และจัดพวกเขาเข้ากองทหารของเรา!”จ้าวซวนนึกถึงชีวิตอันขมขื่นของครอบครัวท่านกวนเอ้อร์ พลันกล่าวทันที“กระหม่อมจักไปจัดการเดี๋ยวนี้พ่ะย่ะค่ะ! โปรดท่านอ๋องวางใจ คราวนี้กระหม่อมจักมิทำพลาดซ้ำเด็ดขาดพ่ะย่ะค่ะ!”แล้วจ้าวซวนก็จากไปอย่างรีบร้อนเซียวหลินเทียนครุ่นคิดต่อ เขาต้องหาสักวิธีขัดขวางองค์ชายคังรับกิจราชการที่เหมืองให้ได้ขณะเซียวหลินเทียนกำลังขบคิด ความคิดก็ย้อนกลับมาที่สองพี
หลิงอวี๋ดูอย่างตั้งใจ อยากจะหาเบาะแสจากเสื้อผ้าทั้งสองชิ้นนี้ให้เจอหลังจากตรวจสอบอย่างละเอียดแล้ว นางพบตั๋วเงินสองร้อยตำลึงซ่อนอยู่ในเสื้อผ้าเก่าหนึ่งชิ้นตั๋วเงินถูกเย็บซ่อนไว้ชั้นในเสื้อผ้า ถ้าไม่ดูให้ดีจะไม่มีทางหาเจอเลยนางยึดวิธีเดียวกัน ตรวจสอบเสื้อผ้าอีกชิ้น แล้วเจอตรงชั้นในปกเสื้ออีกร้อยตำลึงเกิ่งเสี่ยวหาวเห็นจากด้านข้าง ก็เอ่ยยิ้ม ๆ “ความระแวงสงสัยของสตรีมีมากทีเดียว!”หลิงอวี๋ยิ้มเย็นชา “ไม่เพียงแต่ระแวงมาก แต่ยังจิตใจโหดเหี้ยมอีกด้วย!”“เฝิงโปที่เป็นผู้ชายร่างใหญ่ถูกนางฆ่าได้ หลิงผิงผู้นี้แค่แยกจากกันสามวัน ก็แข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิมแล้ว!”“ท่านพี่ พวกเราค้นหาทั่วทุกที่ในเมืองหลวงแล้ว! ข้าอยากรู้ว่านางไปซ่อนตัวอยู่ที่ใดกันแน่ ไฉนคนของข้าจึงหานางมิพบ!”เกิ่งเสี่ยวหาวยิ้มขมขื่นพลางเอ่ย “หากนางมิปรากฏตัวเอง ข้าเกรงว่าท่านพี่จักสงสัยว่าข้ามิใส่ใจคำพูดของท่านพี่!”หลิงอวี๋ปลอบใจ “จักเป็นไปได้เยี่ยงไรกันเล่า! หากคนคนหนึ่งต้องการซ่อนตัวนั้นมีวิธีมากหลายนัก! ข้าไม่มีทางสงสัยเจ้าหรอก!”หลิงอวี๋พูดไปก็ตรวจสอบเสื้อผ้าเก่า ๆ ไป นางสัมผัสทุก ๆ ส่วนของเสื้อผ้า แม้แต่ผ้าที่ห่อเสื้
เสียงประจบประแจงของชิวเฮ่าดังมาจากฝั่งตรงข้าม“ฮูหยิน ใช่ว่าเรามิได้พยายามจนถึงที่สุด… แต่เรื่องราวมันไปไกลจนหาควบคุมได้ไม่แล้ว...”“ฮูหยินมิสังเกตหรือว่าพระชายาอ๋องอี้คล้ายว่าเปลี่ยนเป็นคนละคนตั้งแต่ที่เฮยจื่อถูกทุบตี?”“เดิมทีเหวินซวงอาจได้เข้ารับตำแหน่งพระชายาอ๋องอี้ แต่เพราะหลิงอวี๋นางถึงได้เสียโอกาสไป!”ผู้หญิงคนนั้นเอ่ยด้วยความโกรธ “นั่นไม่ใช่เพราะว่าพวกเจ้าไร้ประโยชน์! เจ้าปลิดชีพนางก็ไม่มีเรื่องเหล่านี้แล้วมิใช่หรือ?”“ข้าจัดการดีถึงเพียงนั้น แต่พวกเจ้ากลับทำพลาดครั้งแล้วครั้งเล่า! จนเกือบทำให้ข้าเดือดร้อนไปด้วยแล้ว...”“ฮูหยิน ยามนี้มาพูดสิ่งเหล่านี้มันไร้ประโยชน์ ฮูหยินต้องคิดหาทางว่าจักทำเยี่ยงไรให้ท่านอ๋องไว้วางใจเราอีกครั้ง!”ชิวเฮ่าเอ่ยอย่างประจบประแจง “ฮูหยินเป็นคนฉลาดมีไหวพริบ ฮูหยินต้องมีวิธีแน่ขอรับ!”“หากมิได้ผลจริง ๆ ก็วางยาพิษเซียวหลินเทียนซะ… ให้เขาถูกพวกเราควบคุม!”ผู้หญิงคนนั้นเอ่ยอย่างดุร้าย “สองวันมานี้เซียวหลินเทียนกับหลิงอวี๋มีความขัดแย้งกัน ใช้โอกาสนี้กำจัดหลิงอวี๋ไปเสีย!”“หลิงอวี๋นังสารเลว ทำเราเสียเรื่องมิน้อยแล้ว หากยังเก็บนางไว้อีก จะต้องขัดข
“ฮ่า ๆ...”หลู่ชิ่งหัวเราะออกมา กุมบาดแผลที่เลือดออกไม่หยุดแล้วหัวเราะพลางเอ่ย“ชิวเฮ่า เจ้าช่วยคนทำเรื่องชั่วช้า… ดูเอาเถอะ เจ้าเองก็มีจุดจบที่ไม่ดีเช่นกัน…”“ฮูหยิน...”ชิวเฮ่าตกใจมากจนลืมโจมตีกลับ เขาทรุดลงไปกับพื้น ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าฮูหยินจะลงมือกับตนได้!“เจ้าโง่! เข้าใจกลยุทธ์ทุกข์กายหรือไม่?”สตรีผู้นั้นมองชิวเฮ่าอย่างดูถูก“วันนี้หลู่ชิ่งสะกดรอยตามเจ้ามา! หากเขาตายไปเช่นนี้ เซียวหลินเทียนจักมิสงสัยเจ้ารึ?”“แต่หากพวกเจ้าถูกซุ่มโจมตี เจ้าได้รับบาดเจ็บ พยายามอย่างเต็มที่ที่จะพาหลู่ชิ่งกลับไป… เจ้าจักได้รับความไว้วางใจจากเซียวหลินเทียนกลับคืนมาได้!”ขณะที่พูดนั้น นางก็ถลาเข้ามาพลางเอ่ย “คิดทำการแสดงก็ต้องทำให้สมจริงหน่อย!”นางยกมีดขึ้นมาแทงชิวเฮ่าที่ไหล่กับที่แขนหลู่ชิ่งงุนงง มองสตรีผู้นั้นยกมีดขึ้นอีกครั้งแล้วเดินมาหาตนเองสตรีผู้นั้นหยิบขวดออกมาจากอ้อมแขน เทยาเม็ดหนึ่งออกมาแล้วยัดมันเข้าไปในปากของหลู่ชิ่ง“นี่คือยาลับเฉพาะของข้า! มันสามารถทำลายการทำงานของเส้นประสาทได้ ทำให้เขาพูดมิได้ มือก็เขียนมิได้ด้วย!”“ไม่มีสีไม่มีกลิ่น แม้ว่าหลิงอวี๋จะเป็นแพทย์ชั้นเซียน นา
“หลิงซวน เตรียมเลือด! หลิงซิน เตรียมพร้อมผ่าตัด”หลิงอวี๋ดูออกว่าอาการของหลู่ชิ่งนั้นสาหัสมาก เสียเลือดมากเกินไป อาการบาดเจ็บก็สาหัสนางเอ่ยกับจ้าวซวน “องครักษ์จ้าว ข้ามิสามารถรับประกันได้ว่าข้าจะสามารถช่วยหลู่ชิ่งได้ อาการของเขาสาหัสนัก… ข้าจักพยายามอย่างเต็มที่แล้วกัน!”จ้าวซวนดูออกว่าหลู่ชิ่งอาการแย่มากแล้ว จึงพยักหน้า “พระชายา ข้าเชื่อในตัวพระชายา… พระชายาทำให้เต็มที่เถิดขอรับ!”“เช่นนั้นก็ดี เช่นเดียวกับครั้งที่แล้ว ผู้ที่มีหมู่เลือดตรงกับหลู่ชิ่งให้มาบริจาคเลือดให้กับหลู่ชิ่งด้วย! ทำตามการจัดการของหลิงซวนเลย!”ครั้งที่แล้วที่เซียวหลินเทียนถูกลอบสังหาร หลิงซวนได้ทำการลงทะเบียนหมู่เลือดผู้บริจาคเลือดไว้แล้วบัดนี้จึงนำสมุดออกมา หลิงซวนเลือกองครักษ์สองสามคนที่หมู่เลือดตรงกันกับของหลู่ชิ่งมาเจาะเลือดเพื่อเตรียมทำการถ่ายเลือดหลิงอวี๋หยิบเครื่องมือผ่าตัดออกมาเช็ดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อเพื่อเริ่มเตรียมตัวผ่าตัดครั้งที่แล้วจูเผิงกับเฉาอี้ยังมิกลับมา พอเห็นหลิงซินใช้กรรไกรตัดเสื้อผ้าของหลู่ชิ่งจึงมองหน้ากันไปมาหลิงอวี๋หันกลับไปโดยบังเอิญ เห็นมีคนสองสามคนที่ยังอยู่ในห้อง จึงเอ่ยด้วยค
“ข้ามิรู้! หลิงอวี๋กำลังช่วยรักษาเขาอยู่! เจ้ามิเป็นไรใช่หรือไม่?”เสียงของเซียวหลินเทียน“กระหม่อมมิได้เป็นกระไรนักพ่ะย่ะค่ะ! ท่านไป๋พันผ้าพันแผลให้กระหม่อมแล้ว! กระหม่อมเป็นห่วงหลู่ชิ่ง จึงออกมาดู!”ชิวเฮ่าเอ่ยอย่างรู้สึกผิด “ท่านอ๋อง โทษที่กระหม่อมไร้ความสามารถเอง มิปกป้องหลู่ชิ่งให้ดี… พี่จ้าว มันเป็นความผิดของข้าทั้งหมด!”“เอาเถิด เจ้าเองก็ทำดีที่สุดแล้ว! มิต้องพูดแล้ว ไปพักผ่อนก่อนเถิด!”จ้าวซวนปลอบใจเขา“ข้ายังทนได้ ให้ข้ารออยู่กับพวกท่านก่อนเถิด! หลู่ชิ่งยังมิพ้นขีดอันตราย ข้าจักนอนลงได้เยี่ยงไร!”นอกประตูเงียบไปอยู่สักพักหนึ่งหลิงอวี๋ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เพียงแต่รู้สึกแปลก ๆ หลู่ชิ่งกับชิวเฮ่าไปเจอเรื่องอันใดมา?เหตุใดหลู่ชิ่งจึงได้รับบาดเจ็บสาหัสปางตาย แต่ชิวเฮ่ายังคงพูดอย่างเต็มไปด้วยพลัง!มิใช่ว่านางมีเจตนาชั่วร้าย หวังจะให้ชิวเฮ่าตายหรอกนะแต่เดิมทีนางก็สงสัยชิวเฮ่าอยู่แล้ว แล้วชิวเฮ่าก็พาหลู่ชิ่งที่กำลังจะตายกลับมาเช่นนี้จะมิให้นางสงสัยชิวเฮ่ามากขึ้นคงมิได้!เซียวหลินเทียนคิดเยี่ยงไรกัน? หรือว่าเขามิสงสัยเลยหรือ?หลิงอวี๋พันผ้าพันแผลเสร็จ ก็ตรวจชีพจรกับกา
ลูกตาของหลู่ชิ่งเคลื่อนที่ตามนิ้วของหลิงอวี๋ แต่ดวงตาของเขาก็ยังคงว่างเปล่าคราวนี้ แม้แต่จ้าวซวนก็สังเกตเห็นความผิดปกติแล้ว“หลู่ชิ่ง จำข้าได้หรือไม่?”จ้าวซวนตะโกนอย่างกังวลหลู่ชิ่งส่งเสียงอืออา มองจ้าวซวนแต่พูดมิออก สีหน้าก็ยังคงว่างเปล่าอยู่“หลู่ชิ่ง ข้าเป็นลูกพี่ลูกน้องของเจ้าไง!”จ้าวซวนร้อนใจ กำลังจะเอื้อมมือไปเขย่าหลู่ชิ่ง แต่ก็ถูกหลิงอวี๋ห้ามเอาไว้ก่อน“อย่าแตะต้องเขา! เขาเพิ่งผ่าตัดมา ยังจำเป็นต้องพักฟื้น!”“พระชายา นี่มันเกิดกระไรขึ้น? หลู่ชิ่งดูเหมือนจะจำข้ามิได้เลย… เขามิพูดมิจาด้วย!”จ้าวซวนเอ่ยอย่างร้อนใจ “เป็นเช่นนี้ไปได้เยี่ยงไร?”หลิงอวี๋ดึงตัวจ้าวซวนออก หยิบก้านสำลีออกมา “พวกเจ้าไปยืนข้าง ๆ อย่าบังแสง! ข้าจะตรวจดูหน่อย!”จ้าวซวนรีบไปยืนข้าง ๆ พลางมองหลิงอวี๋อย่างเคร่งเครียดหลิงอวี๋ดันลิ้นเปิดปากของหลู่ชิ่งออก นางตรวจดูคอของหลู่ชิ่ง แต่ที่คอก็ไม่พบสิ่งผิดปกติใด ๆนี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?หลิงอวี๋ก็ไม่เข้าใจเช่นกัน หลู่ชิ่งได้รับบาดเจ็บภายนอก มิได้บาดเจ็บที่คอเลย เหตุใดจึงพูดไม่ได้?“ตอนที่เขาได้รับบาดเจ็บเขาถูกตีหัวหรือไม่?”หลิงอวี๋เอ่ยถามชิวเฮ่า
เซียวหลินเทียนกับลู่หนานถูกหลิงซินตะคอกใส่เช่นนี้ ต่างก็มองไปทางหลิงอวี๋โดยไม่รู้ตัวแล้วก็เห็นรอยเลือดซึมออกมาตรงเสื้อผ้าตรงหลังของหลิงอวี๋จริง ๆเซียวหลินเทียนใจสั่น หลิงอวี๋ได้รับบาดเจ็บตั้งแต่เมื่อใดกัน?ไฉนเขาจึงมิรู้?หรือว่าวันนั้นที่ช่วยครอบครัวของท่านกวนเอ้อร์ ถึงได้รับบาดเจ็บ?จูเผิงก็เห็นเลือดซึมเสื้อผ้าของหลิงอวี๋ในหลายจุดเช่นกัน เขาพูดไม่ออกไปทันที“หลิงซิน ไยเจ้าต้องพูดเรื่องพวกนี้!”หลิงอวี๋เอ่ยอย่างเย็นชา “องครักษ์จ้าว ค่าตรวจกับค่ายารวมทั้งหมดห้าสิบตำลึง ค่าผ่าตัดสองร้อยตำลึง เจ้าให้หลิงซวนเอากลับมาแล้วกัน!”“หากเจ้ามีข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องเก็บเงินของข้า หลิงซวนจักอธิบายให้เจ้าฟังเอง!”พูดจบ หลิงอวี๋ก็ลากหลิงซินหันหลังจากไปใบหน้าของจ้าวซวนกระตุก ก่อนหน้านี้หลิงอวี๋ให้ยาพวกเขา มิเคยเอ่ยถึงเงิน!ครั้งนี้ทำให้หลิงอวี๋โกรธจริง ๆ เข้าแล้ว นี่เป็นขีดเส้นกำหนดขอบเขตกับพวกเขาอย่างชัดเจนแล้ว!แต่จ้าวซวนก็ไม่มีหน้าไปโต้เถียงกับหลิงอวี๋ เพราะถึงอย่างไรหลิงอวี๋ก็ช่วยชีวิตหลู่ชิ่งไว้เขาหยิบตั๋วเงินสองร้อยห้าสิบตำลึงส่งให้หลิงซวนอย่างว่าง่ายหลิงซวนรับตั๋วเงินไป พลา