“ชิวเฮ่า วันนี้เกิดเรื่องอันใดขึ้นกันแน่?”หลังจากที่เซียวหลินเทียนทำให้จูเผิงสงบลง ก็เอ่ยถามแม้ว่าชิวเฮ่าจะพาตัวหลู่ชิ่งกลับมาอย่างตั้งใจเต็มที่ แต่เซียวหลินเทียนกลับมิสามารถขจัดความสงสัยที่มีต่อสองคนพี่น้องเพราะสิ่งนี้ได้!หากนี่เป็นกลยุทธ์ทุกข์กายเล่า?บัดนี้หลู่ชิ่งดูเหมือนว่าจะไม่สามารถพูดหรือเขียนได้เลย ทำให้เซียวหลินเทียนต้องคิดไปเช่นนั้น!“ขอตอบท่านอ๋อง กระหม่อมเจอหลู่ชิ่งอยู่บนถนนพ่ะย่ะค่ะ ยามนั้นเขาถูกคนที่ดูลับ ๆ ล่อ ๆ สองคนตามอยู่!”ชิวเฮ่าตอบอย่างเป็นธรรมชาติ “ยามนั้นกระหม่อมอยากรู้มากว่าหลู่ชิ่งไปทำให้ผู้ใดขุ่นเคืองเข้า จึงได้ตามพวกเขาไปอย่างเงียบ ๆ!”“ไหนเลยจะคิดว่าหลู่ชิ่งเห็นพวกมันแล้ว ถึงได้จงใจล่อพวกเขาเข้าไปที่ซอยเล็ก ๆ ไกล ๆ! กระทั่งตอนกระหม่อมตามไปทัน ก็พบว่าพวกเขากำลังต่อสู้กันอยู่พ่ะย่ะค่ะ!”“กระหม่อมรีบเข้าไปช่วย แต่ฝีมือของคู่ต่อสู้นั้นดีมาก กระหม่อมกับหลู่ชิ่งสู้มิได้ จึงถูกแทงพ่ะย่ะค่ะ!”เซียวหลินเทียนขมวดคิ้ว “พวกมันเป็นคนของผู้ใด?”ชิวเฮ่าคิดคำพูดเอาไว้อยู่ก่อนแล้ว จึงแสร้งทำเป็นเอ่ยไปอย่างโกรธ ๆ“อาจเป็นคนขององค์ชายเว่ยพ่ะย่ะค่ะ...!”“กระหม่อ
เซียวหลินเทียนคิด ทันใดนั้นก็นึกขึ้นได้ว่าเขาสงสัยชิวเฮ่า ก็เพราะฟังคำพูดของหลิงอวี๋แต่หลิงอวี๋นั้นเต็มไปด้วยคำพูดโกหก เรื่องของหลิงเยวี่ยก็สามารถแต่งเรื่องขึ้นได้อย่างสมบูรณ์แบบ คำพูดของนางจะเชื่อได้หรือ?แต่แม้ว่าสตรีผู้นี้จะโกหกตนเรื่องหลิงเยวี่ย แต่ในเรื่องอื่น ๆ ก็ไม่ถือว่าแย่จนเกินไปนักอีกอย่างก่อนหน้านี้คนที่จ้าวซวนส่งไปติดตามชิวเหวินซวง ก็ถูกชิวเหวินซวงสลัดทิ้งไป!หากพี่น้องชิวไม่ทำเรื่องที่ให้ใครรู้ไม่ได้ เช่นนั้นเหตุใดต้องสลัดคนที่ติดตามทิ้งไปด้วยเล่า?เซียวหลินเทียนแอบระวังตัว เรื่องนี้มิสามารถมองข้ามได้!หากนี่เป็นกลยุทธ์ทุกข์กายที่ชิวเฮ่าแสดงอยู่ เช่นนั้นเขาจะแสร้งทำเป็นเชื่อชิวเฮ่า และดูว่าพี่น้องชิวจะทำอะไรหรือไม่ก็ใช้แผนซ้อนแผน บังคับพี่น้องชิวให้เปิดเผยตัวเองออกมาก็ได้!......ยามราตรีหลิงอวี๋เพิ่งอาบน้ำเสร็จเตรียมตัวจะเข้านอน ก็มีคนเคาะประตูเสียก่อน“คุณหนู!”มันคือเสียงของเถาจื่อ หลิงอวี๋จึงเดินไปเปิดประตู“คุณหนู มีข่าวจากทางท่านเกิ่ง บอกว่าพบที่อยู่ของหลิงผิงแล้ว ให้คุณหนูรีบไปที่นั่นโดยเร็วเจ้าค่ะ!”ทันทีที่หลิงอวี๋ได้ยินก็รีบผลัดผ้า แล้วพาหลิงซว
หลิงผิงตอบอย่างตรงไปตรงมา เพื่อจะเอาตัวรอด“หลิงหลานบอกว่า หวางซือสัญญากับนางว่าขอเพียงคุณหนูตาย ก็จะมอบเงินจำนวนมากให้นาง และจะคืนสัญญาที่ขายตัวของนางให้!”“หลังจากที่ข้ารู้เข้า หลิงหลานบอกข้าว่าอย่าไปบอกผู้ใด บอกว่าหลังจากนั้นนางจะแบ่งเงินให้ข้าครึ่งหนึ่ง!”หลิงอวี๋ยิ้มเยาะ “ทรัพย์สินของข้าถูกเฝิงโปพรรคพวกของเจ้าโกงไป เรื่องนี้หลิงหลานมิได้มีส่วนร่วมหรือ?”หลิงผิงรีบเอ่ย “จักไม่มีส่วนร่วมได้เยี่ยงไร! กลโกงบางอย่าง หลิงหลานช่วยคิดขึ้นมาด้วยซ้ำ!”“คุณหนู เงินที่ข้าโกงไป มีการแบ่งให้หลิงหลานทุกครั้งเจ้าค่ะ!”หลิงอวี๋เอ่ยถาม “เช่นนั้นสินเดิมที่หวางซือให้ข้าในตอนแรก รายการสินเดิมพวกนั้นพวกเจ้าขโมยไปใช่หรือไม่?”หลิงผิงส่ายหัว “ข้ามิเห็นรายการสินสอด คาดว่าหลิงหลานจะขโมยไปแล้ว! หวางซือวางใจนางมากกว่าข้า คิดว่าหวางซือต้องให้นางขโมยไปแน่!”“คุณหนู สิ่งที่ข้าบอกเป็นเรื่องจริงทั้งหมด คุณหนูปล่อยข้าไปเถิด! ยามนี้ข้าสิ้นเนื้อประดาตัวแล้ว คุณหนูเห็นแก่ที่เป็นนายบ่าวกัน ปล่อยข้าไปเถิด!”หลิงอวี๋ยิ้มเย็นชา “หลิงผิง เอาเงินข้าไปมากถึงเพียงนั้น แม้ว่าเจ้าจะใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายเพียงใด ก็ยังใช้ไ
หลิงผิงตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ยามนั้นนางรีบร้อนจะหนี มิได้ดูให้แน่ว่าเฝิงโปตายจริงหรือไม่!เฝิงโปยังมิตายจริงหรือ?“เจ้าคิดที่จะขู่หวางซือเพื่อจะเอาเงินก้อนใหญ่!”หลิงอวี๋นึกถึงสิ่งที่เฝิงโปเคยพูดไว้หลิงผิงพูดแล้วว่าหากวันหนึ่งนางต้องการจะไปจากเมืองหลวง จะให้หวางซือให้เงินก้อนกับนางเหตุใดหวางซือจึงจะให้เงินก้อนกับหลิงผิงโดยไม่มีเหตุผลกันเล่า?เว้นเสียแต่ว่าหลิงผิงจะรู้ความลับที่ใหญ่มากพอของหวางซือ และความลับนี้สามารถคุกคามความปลอดภัยของหวางซือได้ หวางซือถึงจะเอาเงินให้“ไม่… ไม่มีความลับใด ๆ หรอก ข้า… ข้าแค่คิดว่าหวางซือให้พวกเราวางยาคุณหนู ก็เลยอยากจะใช้สิ่งนี้ทำให้นางให้เงินข้า!”หลิงผิงพูดตะกุกตะกัก“เถาจื่อ ข้าคิดว่านางไม่น่าจะรู้อะไรแล้ว ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ไม่มีประโยชน์ที่จะเก็บนางไว้ ฆ่านางเสีย!”หลิงอวี๋เห็นว่าจนถึงตอนนี้หลิงผิงก็ยังคงดื้อรั้นอยู่ จึงเอ่ยอย่างเย็นชาเถาจื่อเอ่ยอย่างเฉียบขาด “เจ้าค่ะ คุณหนู!”นางวางมีดไปที่คอของหลิงผิง หลิงผิงตกใจเสียจนขวัญหนีดีฝ่อไปหมด“คุณหนู อย่าฆ่าข้าเลย… ข้าจะบอกทั้งหมดแล้ว!”“ข้า… ข้ารู้ว่าแม่ของคุณหนูตายเยี่ยงไร! นางถูกหวางซื
“แม่นมเหมาบอกข้าว่า นั่นหวางซือเป็นคนทำ… นางอยากให้ท่านเอ้อร์หย่ากับฮูหยินหลาน แต่ไม่มีหลักฐานท่านอดีตเสนาบดีก็ไม่ตกลง!”“ดังนั้นหวางซือจึงฉวยโอกาสตอนที่ฮูหยินหลานไปถวายเครื่องหอมที่วัด ไปหาคนสองสามคนมาทำให้ฮูหยินหลานมีมลทิน!”“ฮูหยินหลานจึงตั้งท้องเพราะเหตุนั้นเจ้าค่ะ!”หลิงผิงยิ้มอย่างดูถูก “หลังจากเกิดเรื่องฮูหยินหลานจึงคิดแขวนคอตาย แต่พอนางเห็นคุณหนูกับคุณชายก็ทำใจมิได้ที่จะต้องตายไป!”“นางไปซื้อยาให้แท้งมาให้ตัวเอง เพราะอยากจะเลี่ยงการตั้งครรภ์! แต่หวางซือให้แม่นมเหมาเปลี่ยนยาของนางเป็นยาบำรุงครรภ์!”“เช่นนี้ เด็กโตได้สามเดือนแล้ว ฮูหยินหลานถึงเพิ่งจะรู้!”หลิงอวี๋นึกได้ว่าตนเองไม่มีน้อง จึงถามอย่างสงสัย “แล้วเด็กเล่า?”หลิงผิงหลุบตาลง พลางเอ่ยอย่างยินดีในความโชคร้ายของผู้อื่น“พอหวางซือรู้ว่าฮูหยินหลานกำลังท้องก็เริ่มโวยวายขึ้นมา… ตอนนั้นย่าของคุณหนูยังมีชีวิตอยู่ นางโกรธมากจนให้ยาทำแท้งกับหลานฮุ่ยจวน เพื่อบังคับให้เด็กหลุดออกมา!”“แต่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่า ครั้งนี้ฮูหยินหลานจะตั้งท้องลูกสองคน จึงหลุดออกมามิได้ ความเจ็บปวดทำให้ฮูหยินหลานต้องทนทุกข์ทรมานทั้งคืน และมีเลือ
หลิงอวี๋คิด แล้วก็นึกประเด็นสำคัญหนึ่งได้ “แม่นมเหมาบอกเรื่องพวกนี้กับเจ้า มีหลักฐานที่ชัดเจนหรือไม่?”หากไม่มีหลักฐานชัดเจน แม้ว่าหลิงอวี๋จะจับตัวหลิงผิงกับเผชิญหน้ากับหวางซือ หวางซือก็เถียงข้าง ๆ คู ๆ ไปได้!“คุณหนู ข้าบอกคุณหนูไปหมดแล้ว คุณหนูปล่อยข้าไปเถิดเจ้าค่ะ!”หลิงผิงเอ่ยอย่างร้อนใจ “แม่นมเหมาตายไปแล้ว! ข้าจมีหลักฐานได้เยี่ยงไรกัน! ทั้งหมดนี้นางเป็นคนบอกข้า! ข้าบอกไปหมดแล้วจริง ๆ เจ้าค่ะ!”หลิงอวี๋เห็นท่าทางกังวลของหลิงผิง ก็ยิ้มเย็นชา“หลิงผิง เจ้าคิดว่าข้าโง่รึ? เจ้ากล้าเอาแค่คำพูดของคนตายเช่นนี้ไปข่มขู่ให้หวางซือให้เงินเจ้าอย่างนั้นหรือ?”“เจ้าไม่มีหลักฐาน หวางซือจักยอมให้เงินเจ้ารึ?”“อย่ามาแกล้งเฉไฉอีก มิเช่นนั้นข้าจักมิเกรงใจแล้ว!”หลิงผิงทั้งโกรธทั้งเกลียด นางคิดว่าจะเหลือหนทางไว้สักหน่อย ขอเพียงหลิงอวี๋ปล่อยตนเองไป ก็จะเอาหลักฐานไปข่มขู่เอาเงินจากหวางซือ!ไหนเลยจะคิดว่าหลิงอวี๋จะรู้ทัน!“คุณหนู ข้าจักรู้ได้เยี่ยงไรว่าหากข้าให้หลักฐานคุณหนู แล้วคุณหนูจักปล่อยข้าไป!”หลิงผิงเอ่ยอย่างใจร้าย “ข้าเก็บหลักฐานไว้ในที่ที่ปลอดภัยมาก เว้นแต่คุณหนูจักรับปากว่าจะจ่ายเง
หลิงอวี๋กลับไปนอนได้สองสามชั่วโมง ฟ้าก็สว่างแล้วนางลุกขึ้นอาบน้ำ ขณะที่กำลังผลัดผ้าอยู่นั้น จู่ ๆ เถาจื่อก็วิ่งเข้ามา“คุณหนูเจ้าคะ ท่านเกิ่งส่งคนมารายงานว่าหลิงผิงหนีไปแล้ว! ทั้งยังปลิดชีพคนของเขาสองคนด้วย!”หลิงอวี๋ตะลึงไปทันที พลางเอ่ยอย่างกังวล “หลิงผิงจะสู้กับคนของเสี่ยวหาวได้เยี่ยงไรกันเล่า! นางจักฆ่าคนได้เยี่ยงไรกัน?”“ท่านเกิ่งส่งคนไปตามหาหลิงผิงจนทั่วแล้วเจ้าค่ะ! เขาก็สงสัยเช่นกันว่าหลิงผิงมิใช่คนฆ่า หลิงผิงจักต้องมีผู้ช่วยแน่ ๆ!”“ไปดูกัน!”หลิงอวี๋รีบผลัดผ้า แล้วรีบพาหลิงซวนกับเถาจื่อออกไปเกิ่งเสี่ยวหาวยืนอยู่ในเรือนอย่างโกรธเกรี้ยว โดยมีศพสองศพนอนอยู่ที่พื้น“ท่านพี่ ท่านพี่มาแล้ว ดูนี่สิ!”เกิ่งเสี่ยวหาวหยิบเข็มเงินส่งให้หลิงอวี๋“ยาพิษ! พิษจากต้นยางน่อง!”เกิ่งเสี่ยวหาวเอ่ยอย่างเคร่งขรึม “นี่มิใช่การฆ่าแบบธรรมดา หลิงผิงจักต้องรู้จักพวกยอดฝีมือพเนจรเป็นแน่!”หลิงอวี๋รับเข็มเงินมาอย่างระมัดระวัง ตรงปลายเข็มมีจุดสีดำนิด น่าจะอาบยาพิษมา!นางเก็บเข็มเงินไปอย่างระมัดระวัง เดี๋ยวกลับไปจะตรวจดูว่ามันเป็นพิษชนิดใด!ตนมีคู่ต่อสู้เช่นนี้ ต้องตรวจสอบให้ชัดเจนเข้าไว้จะ
เซียวหลินเทียนเองก็จำมีดผ่าตัดที่หาได้ยากยิ่งในเมืองหลวงนี้ได้ว่าเป็นของหลิงอวี๋ดวงตาอันเฉียบคมของเขาจ้องมองไปที่หลิงอวี๋ทันที!ความรังเกียจที่มิได้มีมานานหวนพลันเกิดขึ้นในใจของเซียวหลินเทียนอีกครั้ง!เขาคิดว่าหลิงอวี๋เปลี่ยนเป็นคนใหม่แล้ว ที่แท้นางมิเคยเปลี่ยนไปเลย!นางยังคงเป็นหลิงอวี๋คนนั้นที่เห็นแก่ตัวและมีนิสัยเอาแต่ใจ!แต่เซียวหลินเทียนก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติอีก ยามนี้หลิงอวี๋มิได้โง่เหมือนแต่ก่อนแล้วหากนางฆ่าจริง ๆ นางจะโง่ทิ้งอาวุธสังหารไว้ในที่เกิดเหตุได้เยี่ยงไรกัน!หรือว่าจะมีเงื่อนงำซ่อนอยู่?“นี่มันเกิดอะไรขึ้น? เหตุใดคนถึงมารวมตัวกันมากมายถึงเพียงนี้?”เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นด้านนอกประตู แล้วก็มีคนสองคนวิ่งเข้ามาหลิงอวี๋เห็นแล้วก็ตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง หลิงหลานกับชิวเหวินซวง“กรี๊ด...”ทันทีที่หลิงหลานเห็นสภาพการตายของหลิงผิง ก็กรีดร้องด้วยความตกใจ ถอยหลังไปสองสามก้าว ตกใจจนข้าวของในมือหล่นลงกับพื้นชิวเหวินซวงก็ตกใจจนก้าวถอยหลังไปเช่นกัน พลางเอ่ยตะกุกตะกัก“ท่าน… ท่านอ๋อง หม่อม… หม่อมฉันมิได้มองผิดไปใช่หรือไม่? นั่นคือหลิงผิงใช่หรือไม่?”“ทะ… ท่านอ๋อง…
จ้าวฮุยได้ยินคำสั่งนี้ก็ตะลึงไปทันที ถึงจะเป็นในความฝันเขาก็มิคาดคิดว่าเซียวหลินเทียนจะส่งตนออกไปแคว้นพันและแคว้นเฉิงนี้อยู่ห่างจากเมืองหลวงไปหลายพันลี้ การเดินทางไปกลับนั้นอย่าว่าแต่ห่างไกลและลำบากเลย หากไม่มีตนอยู่คอยช่วยองค์ชายคังอยู่ที่เมืองหลวง กระทั่งตนไปกลับใช้เวลาหลายเดือนนี้ สถานการณ์ในราชสำนักจะเป็นอย่างไรเล่า?“ฝ่าบาท...”จ้าวฮุยรู้สึกสับสนวุ่นวายในทันที หากเขาอ้างว่าป่วยมิไป เซียวหลินเทียนเองก็มิอาจบังคับให้ตนไปได้ทว่าเซียวหลินเทียนอาจจะใช้เรื่องที่ตนอ้างว่าป่วยมาบีบให้ตนพักผ่อนและถือโอกาสผลักตนออกไปได้และเพียงชั่วครู่ จ้าวฮุยก็ได้ทำการตัดสินใจเขาก้าวออกไปเอ่ยเสียงเรียบ “การผลักดันห่วงโซ่อุตสาหกรรมวัวนมเป็นเรื่องดีที่เป็นประโยชน์ต่อแคว้นและราษฎร ฝ่าบาทมอบหมายเรื่องสำคัญเช่นนี้ให้กระหม่อมทำ กระหม่อมก็จะตั้งใจทำงานนี้อย่างดีเพื่อฝ่าบาท ให้สมกับความไว้วางพระทัยของฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ”“กระหม่อมรับพระบัญชา!”องค์ชายคังได้ยินดังนั้นก็รู้สึกกังวลมาก นี่เซียวหลินเทียนกำลังตัดกำลังของตนให้อ่อนแอลงทีละขั้น!จ้าวฮุยรับปากว่าจะไป เหตุใดจึงได้โง่เช่นนี้!“ฝ่าบาท อัครเสนาบดีจ้าว
องค์ชายคังถูกกดอยู่ก็พยายามใช้ลิ้นดันออกออกมาอย่างหวาดกลัว แต่มินานยาก็ละลายอยู่ในปากของเขาองค์ชายคังค่อนข้างงุนงง เขาเห็นจ้าวหรุ่ยหรุ่ยโน้มตัวลงมาหาตน แล้วสายตาของนางก็มีแสงที่ดูประหลาด“ข้าเป็นเจ้านายของเจ้า ข้าพูดอะไรเจ้าต้องทำตามนั้น! พูดตาม!”องค์ชายคังมองแสงหลากหลายที่เคลื่อนไหวอยู่ตรงหน้าของตนอย่างหลงใหลแล้วเขาก็เอ่ยราวกับเครื่องกล “ท่านเป็นเจ้านายของข้า ท่านพูดอะไรข้าต้องทำตามนั้น!”“ดีมาก!”จ้าวหรุ่ยหรุ่ยยกเท้าออกอย่างพอใจแล้วพยุงเขาขึ้นมา“องครักษ์เหล่านั้นมิเคารพข้า โบยทุกคนคนละสามสิบไม้!”องค์ชายคังหมุนตัวราวกับเครื่องกลเดินไปที่ประตูแล้วตะโกนออกไป “ใครก็ได้ เอาตัวพวกเขาไปที พวกเขามิให้ความเคารพต่อพระชายา ให้โบยคนละสามสิบไม้!”องครักษ์ของตำหนักองค์ชายคังพากันวิ่งเข้ามา แม้ว่าจะแปลกใจกับท่าทีที่เปลี่ยนไปขององค์ชายคัง แต่ก็ลากตัวองครักษ์ที่หมดสติเหล่านั้นออกไปโบยหนานฮุ่ยกับสุ่ยเหอผู้เป็นนางรับใช้ข้างกายของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเห็นภาพนั้นก็มิได้ประทับใจแม้แต่น้อย“คุณหนู น่าเสียดายที่ครานี้จับหลิงอวี๋มิได้ มิเช่นนั้นคุณหนูก็คงจะบรรลุฝ่าดินแดนที่เจ็ดไปได้อย่างราบรื่นแล้ว
เซียวหลินเทียนได้เติมเต็มความปรารถนาและได้กอดคนงาม แต่องค์ชายคังแห่งตำหนักองค์ชายคังกลับอยากจะสังหารจ้าวหรุ่ยหรุ่ยใส่ร้ายหลิงอวี๋ครานี้ แต่หลิงอวี๋กลับรอดพ้นไปได้อย่างสมบูรณ์ ทั้งยังทำให้หลิงเสียงกังรอดออกมาอีกองค์ชายคังตกใจเมื่อได้ยินจากผู้ใต้บังคับบัญชามารายงานว่าการผ่าตัดของหลิงเสียงกังสำเร็จและเขาก็สามารถลุกเดินได้แล้วแม้ว่าเรื่องที่ปล้นเงินเบี้ยหวัดทหารในตอนนั้นจะถูกจักรพรรดิอู่อันกดเอาไว้แล้ว แต่องค์ชายคังรู้ว่าเสด็จพ่อสงสัยตนเพียงแต่เรื่องนี้จบลงไปภายใต้การจัดการของจ้าวฮุยและพระชายาเส้าทว่ายามนี้อำนาจอยู่ในมือเซียวหลินเทียน หากหลิงเสียงกังไปฟ้องร้อง จากความเกลียดที่เซียวหลินเทียนมีต่อตน เช่นนั้นจะมิช่วยเขาพลิกคดีได้หรือ!ครั้นองค์ชายคังรู้ว่าจ้าวหรุ่ยหรุ่ยจับตัวหลิงเสียงกังไปก็ย้ำแล้วย้ำอีกให้จ้าวหรุ่ยหรุ่ยสังหารหลิงเสียงกังไปเสีย ไหนเลยจะคิดว่าสุดท้ายจ้าวหรุ่ยหรุ่ยจะเสียท่าให้หลิงเสียงกังรอดไปได้“เจ้าทำงานมิสำเร็จทั้งยังทำให้เสียงานอีก… เจ้ารับรองกับข้ามิใช่หรือว่าจะต้องกำจัดหลิงอวี๋กับหลิงเสียงกังได้อย่างแน่นอน?”องค์ชายคังเดือดดาลใส่จ้าวหรุ่ยหรุ่ย “เจ้าดูสถานการ
เซียวหลินเทียนเชื่อฟังราวกับเด็ก เขาดึงหลิงอวี๋ลุกขึ้นแล้วหยิบจอกหนึ่งส่งให้หลิงอวี๋เป็นครั้งแรกที่หลิงอวี๋ได้เห็นพิธีการดื่มสุรามงคลแบบโบราณ ภาชนะที่ใส่สุรามงคลนี้คือน้ำเต้าที่ผ่าครึ่งเป็นสองส่วน แล้วบ่าวสาวจะต้องดื่มเป็นคู่กันคนละจอกน้ำเต้านี้จะมีขนาดเล็กและมีความประณีต ตรงกลางจะมีเชือกสีแดงผูกเอาไว้ หลิงอวี๋กำลังสงสัยอยู่ว่าสุรามงคลเป็นเช่นนี้เองหรือ ก็ถูกเซียวหลินเทียนเกี่ยวแขนดึงกลับมาจากความคิดที่เลื่อนลอยออกไป“ดื่มสุรามงคลแล้ว นับตั้งแต่นี้ไปท่านทั้งสองก็จะเป็นหนึ่งเดียว จากนี้ไปต้องจับมือร่วมทุกข์ร่วมสุขไปด้วยกัน...”บรรดานางรับใช้พากันส่งเสียงโห่ร้องเซียวหลินเทียนมองหลิงอวี๋อย่างลึกซึ้ง แล้วเกี่ยวมือของหลิงอวี๋ให้ยกสุรามมงคลขึ้นสายตานี้ชนะคำพูดนับพันนับหมื่น หลิงอวี๋มองดวงตาที่งดงามของเขา พลันใจลอยไปเล็กน้อย จากนี้ไป คนผู้นี้จะเป็นของตนโดยสมบูรณ์แล้วหรือ?นางยกน้ำเต้าไปอยู่ที่ริมฝีปากตามสัญชาตญาณแล้วดื่มพร้อมกันกับเซียวหลินเทียน“เสร็จพิธีเพคะ พวกบ่าวมิรบกวนเวลาความรักของท่านมทั้งสองแล้วเพคะ...”พวกนางรับใช้หายไปกันหมดในทันที ทั้งยังปิดประตูให้ทั้งสองคนอย่างเอาใส
หลิงอวี๋กวาดสายตาผ่านผ้าคลุมหน้าไปรอบ ๆ ทั่วทั้งสถานที่ล้วนเป็นญาติสนิทมิตรสหายของพวกเขา พวกเขาเป็นพยานในการเริ่มต้นชีวิตใหม่ของตนกับเซียวหลินเทียนนับตั้งแต่นี้ไป นางมิใช่วิญญาณที่หลงทางจากโลกอื่นอีกแล้ว นางเป็นส่วนหนึ่งของฉินตะวันตกอย่างแท้จริงแล้ว“คารวะบุพการี...”หลิงอวี๋คารวะไปตามเสียงของท่านอ๋องเฉิง“สามีภรรยาคารวะกันและกัน!”หลิงอวี๋จับผ้าสีแดงที่อยู่ในมือแล้วหันไปทางเซียวหลินเทียนร่างสูงใหญ่นั้นเห็นเพียงแค่รูปร่างแต่นางรู้ว่าต่อไปคนผู้นี้จะเป็นที่พึ่งให้ตนได้แม้ว่าในภายภาคหน้าจะมีการทะเลาะเบาะแว้ง หรือมีเรื่องขัดแย้งกัน แต่นางก็เชื่อว่าพวกเขาจะต้องใช้ชีวิตของพวกเขาได้อย่างดี!นางคำนับลงไปเซียวหลินเทียนมองหลิงอวี๋ที่มีผ้าคลุมหน้าอยู่ก็พลันตัวสั่นเล็กน้อยอย่างตื่นเต้นนับแต่นี้ไป หลิงอวี๋ก็คือภรรยาของตน อดีตที่เลวร้ายเหล่านั้นเขาไม่มีหน้าจะเอ่ยถึงอีกแล้วชีวิตนี้เขาจะต้องรักนางให้มากเท่าที่จะทำได้ จะปกป้องนาง จะให้สิ่งที่ดีที่สุดแก่นาง ทำให้นางเป็นสตรีที่มีความสุขที่สุดในใต้หล้า!เซียวหลินเทียนเองก็คำนับลงไปเช่นกัน“เสร็จสิ้นพิธี!”ท่านอ๋องเฉิงยังคงยืนอยู่ต่อหน้
หลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนจัดงานแต่งงานคารวะฟ้าดินกันใหม่ เมื่อพวกหลิงซวนรู้เข้าก็ดีใจเป็นอย่างยิ่งกว่าจะเปลี่ยนจากความโกรธเกลียดมาเป็นสามีภรรยาอย่างแท้จริงได้ หลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนข้ามผ่านเส้นทางนี้กันมาอย่างยากลำบากจนนับมิถ้วน!เมื่อเทียบกับงานแต่งที่เหลวไหลเมื่อคราก่อน ครานี้เซียวหลินเทียนขอหลิงอวี๋แต่งงานอย่างจริงใจกำไลหยกเขียวมรกตได้ชดเชยเรื่องสินสอดในคราก่อนไปแล้ว เรื่องพิธีหลิงอวี๋ขอให้เป็นพิธีเรียบง่ายจัดโต๊ะเพียงมิกี่โต๊ะก็พอแล้วมิได้มีการประกาศออกไป และมิได้เชิญแขกคนอื่น ๆ เชิญเพียงแค่ผู้อาวุโสเช่นท่านอดีตเสนาบดี ไทฮองไทเฮาและท่านอ๋องเฉิงสามคนเท่านั้นท่านอดีตเสนาบดีถูกเชิญเข้าวังมาก็ยังคงสับสนมิรู้ว่าด้วยเรื่องใดไทฮองไทเฮาเองก็เช่นกัน ถูกเชิญมาถึงพระตำหนักคุนหนิงก็ยังมิรู้ว่านี่คือพิธีคารวะฟ้าดินที่จัดขึ้นเพื่อทั้งสองคนท่านอ๋องเฉิงคือคนที่เซียวหลินเทียนเพิ่มเข้ามา เขาเป็นราชสำนักฝ่ายใน ทั้งยังเป็นผู้อาวุโสที่เห็นเส้นทางที่พวกเขาผ่านมาอย่างใกล้ชิดที่สุด เมื่อจัดพิธีแต่งงานขึ้นอีกครั้ง จะขาดคนสำคัญผู้นี้ไปได้อย่างไร!แม่นมลี่เปลี่ยนชุดใหม่แล้วดึงเซียวเยวี่ยที่ใ
หลิงอวี๋ตกใจกับการเกี้ยวพาราสีอย่างกะทันหันของเซียวหลินเทียนจึงหน้าแดงขึ้นมาทันทีนี่… นี่คือการขอจะทำเรื่องเช่นนั้นกับตนหรือ?แต่นางยังมิได้คิดให้ดีเลยนะ!“อาอวี๋ ต่อให้คำสาบานใด ๆ จะสวยหรูสักแค่ไหนก็มิสู้การกระทำ! ข้าก็กำลังพยายามเต็มที่แล้ว!”เซียวหลินเทียนคว้ามือของหลิงอวี๋มาแนบที่หน้าอกของตน “ในนี้มีเพียงแค่เจ้า ชั่วชีวิตนี้ก็จะมีเพียงแค่เจ้าเท่านั้น! ไม่มีผู้ใดสามารถมาแทนที่เจ้าในใจของข้าได้!”“อาอวี๋ เรื่องของเมื่อวานก็ปล่อยให้มันผ่านไปแล้วเหลือแต่เรื่องของวันนี้ เรามาเริ่มต้นกันใหม่เถิด!”หลิงอวี๋ปฏิเสธมิออกหลิงซวนเคยบอกกับนางไว้แล้วให้นางลืมอดีต อย่าได้ปิดกั้นเซียวหลินเทียนอีกเลยนางมิใช่เจ้าของร่าง และมิได้เกลียดเรื่องที่เซียวหลินเทียนเฆี่ยนตีตนในตอนแรกแล้ว!และครานี้เมื่อเกิดเรื่องกับตน เซียวหลินเทียนก็ทำงานหนักเพื่อตนอย่างเต็มที่ นางเห็นความทุ่มเทของเขาทั้งหมดแล้วนางยังจะมีเหตุผลอะไรไปปฏิเสธเขาอีกเล่า?“หม่อมฉัน...”หลิงอวี๋พูดมิออก ปฏิเสธมิออกจริง ๆดูเหมือนว่าเซียวหลินเทียนจะมองความลังเลของนางออก มือทั้งสองของเขาจึงโอบนางไว้แล้วดึงเข้ามาในอ้อมแขนเขาก้มหน้
เมื่อเซียวหลินเทียนพูดออกมา หลิงอวี๋ก็นึกขึ้นได้ว่าเขาเคยเอ่ยถึงใต้เท้าเจี่ยงผู้นี้ว่าหอบรรพบุรุษในตระกูลเขาทำด้วยทองคำก่อนหน้านี้เซียวหลินเทียนส่งคนไปตรวจสอบแล้ว เช่นนั้นหลักฐานก็น่าจะสรุปได้แล้ว“อาอวี๋ เจ้าให้ข้าคิดหาวิธีสักหน่อยว่าจะโจมตีร้านตั๋วเงินสี่หลายอย่างไรโดยมิให้ราษฎรเหล่านั้นได้รับความเสียหาย”ก่อนหน้านี้เซียวหลินเทียนก็อยากจะจัดการใต้เท้าเจี่ยง แต่ก็คิดวิธีดี ๆ ที่จะทำให้ได้ผลดีทั้งสองฝ่ายมิได้ใต้เท้าเจี่ยงกับร้านตั๋วเงินสี่หลายมีความโยงใยกันไปหมด เซียวหลินเทียนกังวลว่าหากไปแตะใต้เท้าเจี่ยงแล้วจะทำให้ราษฎรเหล่านั้นได้รับความเสียหายไปด้วยก่อนหน้านี้หลิงอวี๋มิได้สนใจเรื่องนี้มากนัก แต่นางเป็นคนยุคปัจจุบัน เคยได้ยินได้เห็นธนาคารล้มเหลวมามากมาย การระดมทุนอย่างผิดกฎหมายสร้างความเสียหายให้ราษฎรอย่างหนักหากราชสำนักปล่อยปละละเลยร้านตั๋วเงินเหล่านี้ เช่นนั้นก็คงจะได้เห็นหายนะครั้งใหญ่การที่เซียวหลินเทียนใส่ใจในจุดนี้เป็นการกระโดดเชิงคุณภาพ เป็นกษัตริย์ผู้ทรงปัญญาที่ล้ำหน้ากว่าแคว้นใด ๆแต่เท่านี้ยังมิพอ ตอนนี้เซียวหลินเทียนตระหนักได้เพียงว่าร้านตั๋วเงินสี่หลายเป็นพวก
เซียวหลินเทียนทอดถอนใจพลางเอ่ย “ตอนนั้นเสด็จพ่อยังต้องพึ่งพาท่านอดีตเสนาบดีให้ช่วยพระองค์เฝ้าระวังที่ชายแดน ท่านอดีตเสนาบดีขอร้องให้หลิงเสียงกัง เสด็จพ่อก็มิอยากทำร้ายจิตใจขุนนางเก่าแก่ จึงไว้ชีวิตหลิงเสียงกัง!”หลิงอวี๋ยิ้มเยาะ มีจักรพรรดิสูงสุดเป็นเกราะป้องกันให้องค์ชายคัง มิน่าหลิงเสียงกังอยากจะพลิกคดีแต่กลับยากเย็นนักเกรงว่าตอนนั้นที่หลิงเสียงกังออกจากเมืองหลวงแล้วบอกจะออกไปตามหาความจริงก็คงเพราะมองจุดนี้ออกแล้ว“คดีกล่าวหาท่านลุงของหม่อมฉันคือเสด็จพ่อที่สร้างขึ้น หากตอนนี้ท่านจะพลิกคดีให้เขาก็จะเป็นการตั้งคำถามเสด็จพ่อของท่าน ไม่มีเหตุผลที่จะทำให้เหล่าขุนนางเชื่อมั่น การดึงคดีนี้ขึ้นมาก็จะเป็นการอกตัญญู!”หลิงอวี๋วิเคราะห์ได้ตรงประเด็นมากเซียวหลินเทียนกังวลว่า หลิงอวี๋จะเข้าใจผิดว่าตนมิยินดีจะล้างมลทินชื่อเสียงให้หลิงเสียงกัง จึงรีบเอ่ย “ข้าแค่จะบอกว่าหากต้องการจะพลิกคดีนี้ในเวลามินานนั้นเป็นไปมิได้! มิได้หมายความว่าข้าจะมิยินดีช่วยหลิงเสียงกังพลิกคดี!”“อาอวี๋ เรายังมีพื้นที่ให้จัดการเรื่องนี้!”เซียวหลินเทียนเอ่ยเสียงเรียบ “จนถึงตอนนี้เงินทหารสองล้านตำลึงนั้นก็ยังมิปราก