แชร์

บทที่ 415

ผู้เขียน: กานเฟย
หลิงผิงตอบอย่างตรงไปตรงมา เพื่อจะเอาตัวรอด

“หลิงหลานบอกว่า หวางซือสัญญากับนางว่าขอเพียงคุณหนูตาย ก็จะมอบเงินจำนวนมากให้นาง และจะคืนสัญญาที่ขายตัวของนางให้!”

“หลังจากที่ข้ารู้เข้า หลิงหลานบอกข้าว่าอย่าไปบอกผู้ใด บอกว่าหลังจากนั้นนางจะแบ่งเงินให้ข้าครึ่งหนึ่ง!”

หลิงอวี๋ยิ้มเยาะ “ทรัพย์สินของข้าถูกเฝิงโปพรรคพวกของเจ้าโกงไป เรื่องนี้หลิงหลานมิได้มีส่วนร่วมหรือ?”

หลิงผิงรีบเอ่ย “จักไม่มีส่วนร่วมได้เยี่ยงไร! กลโกงบางอย่าง หลิงหลานช่วยคิดขึ้นมาด้วยซ้ำ!”

“คุณหนู เงินที่ข้าโกงไป มีการแบ่งให้หลิงหลานทุกครั้งเจ้าค่ะ!”

หลิงอวี๋เอ่ยถาม “เช่นนั้นสินเดิมที่หวางซือให้ข้าในตอนแรก รายการสินเดิมพวกนั้นพวกเจ้าขโมยไปใช่หรือไม่?”

หลิงผิงส่ายหัว “ข้ามิเห็นรายการสินสอด คาดว่าหลิงหลานจะขโมยไปแล้ว! หวางซือวางใจนางมากกว่าข้า คิดว่าหวางซือต้องให้นางขโมยไปแน่!”

“คุณหนู สิ่งที่ข้าบอกเป็นเรื่องจริงทั้งหมด คุณหนูปล่อยข้าไปเถิด! ยามนี้ข้าสิ้นเนื้อประดาตัวแล้ว คุณหนูเห็นแก่ที่เป็นนายบ่าวกัน ปล่อยข้าไปเถิด!”

หลิงอวี๋ยิ้มเย็นชา “หลิงผิง เอาเงินข้าไปมากถึงเพียงนั้น แม้ว่าเจ้าจะใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายเพียงใด ก็ยังใช้ไ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 416

    หลิงผิงตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ยามนั้นนางรีบร้อนจะหนี มิได้ดูให้แน่ว่าเฝิงโปตายจริงหรือไม่!เฝิงโปยังมิตายจริงหรือ?“เจ้าคิดที่จะขู่หวางซือเพื่อจะเอาเงินก้อนใหญ่!”หลิงอวี๋นึกถึงสิ่งที่เฝิงโปเคยพูดไว้หลิงผิงพูดแล้วว่าหากวันหนึ่งนางต้องการจะไปจากเมืองหลวง จะให้หวางซือให้เงินก้อนกับนางเหตุใดหวางซือจึงจะให้เงินก้อนกับหลิงผิงโดยไม่มีเหตุผลกันเล่า?เว้นเสียแต่ว่าหลิงผิงจะรู้ความลับที่ใหญ่มากพอของหวางซือ และความลับนี้สามารถคุกคามความปลอดภัยของหวางซือได้ หวางซือถึงจะเอาเงินให้“ไม่… ไม่มีความลับใด ๆ หรอก ข้า… ข้าแค่คิดว่าหวางซือให้พวกเราวางยาคุณหนู ก็เลยอยากจะใช้สิ่งนี้ทำให้นางให้เงินข้า!”หลิงผิงพูดตะกุกตะกัก“เถาจื่อ ข้าคิดว่านางไม่น่าจะรู้อะไรแล้ว ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ไม่มีประโยชน์ที่จะเก็บนางไว้ ฆ่านางเสีย!”หลิงอวี๋เห็นว่าจนถึงตอนนี้หลิงผิงก็ยังคงดื้อรั้นอยู่ จึงเอ่ยอย่างเย็นชาเถาจื่อเอ่ยอย่างเฉียบขาด “เจ้าค่ะ คุณหนู!”นางวางมีดไปที่คอของหลิงผิง หลิงผิงตกใจเสียจนขวัญหนีดีฝ่อไปหมด“คุณหนู อย่าฆ่าข้าเลย… ข้าจะบอกทั้งหมดแล้ว!”“ข้า… ข้ารู้ว่าแม่ของคุณหนูตายเยี่ยงไร! นางถูกหวางซื

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 417

    “แม่นมเหมาบอกข้าว่า นั่นหวางซือเป็นคนทำ… นางอยากให้ท่านเอ้อร์หย่ากับฮูหยินหลาน แต่ไม่มีหลักฐานท่านอดีตเสนาบดีก็ไม่ตกลง!”“ดังนั้นหวางซือจึงฉวยโอกาสตอนที่ฮูหยินหลานไปถวายเครื่องหอมที่วัด ไปหาคนสองสามคนมาทำให้ฮูหยินหลานมีมลทิน!”“ฮูหยินหลานจึงตั้งท้องเพราะเหตุนั้นเจ้าค่ะ!”หลิงผิงยิ้มอย่างดูถูก “หลังจากเกิดเรื่องฮูหยินหลานจึงคิดแขวนคอตาย แต่พอนางเห็นคุณหนูกับคุณชายก็ทำใจมิได้ที่จะต้องตายไป!”“นางไปซื้อยาให้แท้งมาให้ตัวเอง เพราะอยากจะเลี่ยงการตั้งครรภ์! แต่หวางซือให้แม่นมเหมาเปลี่ยนยาของนางเป็นยาบำรุงครรภ์!”“เช่นนี้ เด็กโตได้สามเดือนแล้ว ฮูหยินหลานถึงเพิ่งจะรู้!”หลิงอวี๋นึกได้ว่าตนเองไม่มีน้อง จึงถามอย่างสงสัย “แล้วเด็กเล่า?”หลิงผิงหลุบตาลง พลางเอ่ยอย่างยินดีในความโชคร้ายของผู้อื่น“พอหวางซือรู้ว่าฮูหยินหลานกำลังท้องก็เริ่มโวยวายขึ้นมา… ตอนนั้นย่าของคุณหนูยังมีชีวิตอยู่ นางโกรธมากจนให้ยาทำแท้งกับหลานฮุ่ยจวน เพื่อบังคับให้เด็กหลุดออกมา!”“แต่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่า ครั้งนี้ฮูหยินหลานจะตั้งท้องลูกสองคน จึงหลุดออกมามิได้ ความเจ็บปวดทำให้ฮูหยินหลานต้องทนทุกข์ทรมานทั้งคืน และมีเลือ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 418

    หลิงอวี๋คิด แล้วก็นึกประเด็นสำคัญหนึ่งได้ “แม่นมเหมาบอกเรื่องพวกนี้กับเจ้า มีหลักฐานที่ชัดเจนหรือไม่?”หากไม่มีหลักฐานชัดเจน แม้ว่าหลิงอวี๋จะจับตัวหลิงผิงกับเผชิญหน้ากับหวางซือ หวางซือก็เถียงข้าง ๆ คู ๆ ไปได้!“คุณหนู ข้าบอกคุณหนูไปหมดแล้ว คุณหนูปล่อยข้าไปเถิดเจ้าค่ะ!”หลิงผิงเอ่ยอย่างร้อนใจ “แม่นมเหมาตายไปแล้ว! ข้าจมีหลักฐานได้เยี่ยงไรกัน! ทั้งหมดนี้นางเป็นคนบอกข้า! ข้าบอกไปหมดแล้วจริง ๆ เจ้าค่ะ!”หลิงอวี๋เห็นท่าทางกังวลของหลิงผิง ก็ยิ้มเย็นชา“หลิงผิง เจ้าคิดว่าข้าโง่รึ? เจ้ากล้าเอาแค่คำพูดของคนตายเช่นนี้ไปข่มขู่ให้หวางซือให้เงินเจ้าอย่างนั้นหรือ?”“เจ้าไม่มีหลักฐาน หวางซือจักยอมให้เงินเจ้ารึ?”“อย่ามาแกล้งเฉไฉอีก มิเช่นนั้นข้าจักมิเกรงใจแล้ว!”หลิงผิงทั้งโกรธทั้งเกลียด นางคิดว่าจะเหลือหนทางไว้สักหน่อย ขอเพียงหลิงอวี๋ปล่อยตนเองไป ก็จะเอาหลักฐานไปข่มขู่เอาเงินจากหวางซือ!ไหนเลยจะคิดว่าหลิงอวี๋จะรู้ทัน!“คุณหนู ข้าจักรู้ได้เยี่ยงไรว่าหากข้าให้หลักฐานคุณหนู แล้วคุณหนูจักปล่อยข้าไป!”หลิงผิงเอ่ยอย่างใจร้าย “ข้าเก็บหลักฐานไว้ในที่ที่ปลอดภัยมาก เว้นแต่คุณหนูจักรับปากว่าจะจ่ายเง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 419

    หลิงอวี๋กลับไปนอนได้สองสามชั่วโมง ฟ้าก็สว่างแล้วนางลุกขึ้นอาบน้ำ ขณะที่กำลังผลัดผ้าอยู่นั้น จู่ ๆ เถาจื่อก็วิ่งเข้ามา“คุณหนูเจ้าคะ ท่านเกิ่งส่งคนมารายงานว่าหลิงผิงหนีไปแล้ว! ทั้งยังปลิดชีพคนของเขาสองคนด้วย!”หลิงอวี๋ตะลึงไปทันที พลางเอ่ยอย่างกังวล “หลิงผิงจะสู้กับคนของเสี่ยวหาวได้เยี่ยงไรกันเล่า! นางจักฆ่าคนได้เยี่ยงไรกัน?”“ท่านเกิ่งส่งคนไปตามหาหลิงผิงจนทั่วแล้วเจ้าค่ะ! เขาก็สงสัยเช่นกันว่าหลิงผิงมิใช่คนฆ่า หลิงผิงจักต้องมีผู้ช่วยแน่ ๆ!”“ไปดูกัน!”หลิงอวี๋รีบผลัดผ้า แล้วรีบพาหลิงซวนกับเถาจื่อออกไปเกิ่งเสี่ยวหาวยืนอยู่ในเรือนอย่างโกรธเกรี้ยว โดยมีศพสองศพนอนอยู่ที่พื้น“ท่านพี่ ท่านพี่มาแล้ว ดูนี่สิ!”เกิ่งเสี่ยวหาวหยิบเข็มเงินส่งให้หลิงอวี๋“ยาพิษ! พิษจากต้นยางน่อง!”เกิ่งเสี่ยวหาวเอ่ยอย่างเคร่งขรึม “นี่มิใช่การฆ่าแบบธรรมดา หลิงผิงจักต้องรู้จักพวกยอดฝีมือพเนจรเป็นแน่!”หลิงอวี๋รับเข็มเงินมาอย่างระมัดระวัง ตรงปลายเข็มมีจุดสีดำนิด น่าจะอาบยาพิษมา!นางเก็บเข็มเงินไปอย่างระมัดระวัง เดี๋ยวกลับไปจะตรวจดูว่ามันเป็นพิษชนิดใด!ตนมีคู่ต่อสู้เช่นนี้ ต้องตรวจสอบให้ชัดเจนเข้าไว้จะ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 420

    เซียวหลินเทียนเองก็จำมีดผ่าตัดที่หาได้ยากยิ่งในเมืองหลวงนี้ได้ว่าเป็นของหลิงอวี๋ดวงตาอันเฉียบคมของเขาจ้องมองไปที่หลิงอวี๋ทันที!ความรังเกียจที่มิได้มีมานานหวนพลันเกิดขึ้นในใจของเซียวหลินเทียนอีกครั้ง!เขาคิดว่าหลิงอวี๋เปลี่ยนเป็นคนใหม่แล้ว ที่แท้นางมิเคยเปลี่ยนไปเลย!นางยังคงเป็นหลิงอวี๋คนนั้นที่เห็นแก่ตัวและมีนิสัยเอาแต่ใจ!แต่เซียวหลินเทียนก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติอีก ยามนี้หลิงอวี๋มิได้โง่เหมือนแต่ก่อนแล้วหากนางฆ่าจริง ๆ นางจะโง่ทิ้งอาวุธสังหารไว้ในที่เกิดเหตุได้เยี่ยงไรกัน!หรือว่าจะมีเงื่อนงำซ่อนอยู่?“นี่มันเกิดอะไรขึ้น? เหตุใดคนถึงมารวมตัวกันมากมายถึงเพียงนี้?”เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นด้านนอกประตู แล้วก็มีคนสองคนวิ่งเข้ามาหลิงอวี๋เห็นแล้วก็ตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง หลิงหลานกับชิวเหวินซวง“กรี๊ด...”ทันทีที่หลิงหลานเห็นสภาพการตายของหลิงผิง ก็กรีดร้องด้วยความตกใจ ถอยหลังไปสองสามก้าว ตกใจจนข้าวของในมือหล่นลงกับพื้นชิวเหวินซวงก็ตกใจจนก้าวถอยหลังไปเช่นกัน พลางเอ่ยตะกุกตะกัก“ท่าน… ท่านอ๋อง หม่อม… หม่อมฉันมิได้มองผิดไปใช่หรือไม่? นั่นคือหลิงผิงใช่หรือไม่?”“ทะ… ท่านอ๋อง…

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 421

    แม่ทัพเฉินมองเซียวหลินเทียนจากไปอย่างขุ่นเคือง พลางสับสนเล็กน้อยพระชายาอ๋องอี้ไม่เจอกับท่านอ๋องอี้แค่ไม่กี่วัน ไฉนกลายเป็นคนแปลกหน้ากันเสียแล้วเล่า?“แม่ทัพดฉิน เราค่อยคุยเหตุการณ์ภายในกันทีหลัง ข้าขอตรวจศพหลิงผิงอีกสักหน่อยได้หรือไม่?”หลิงอวี๋ถามหยั่งเชิงโชคดีที่แม่ทัพเฉินเข้าใจหลิงอวี๋อย่างเที่ยงแท้ จึงมิสงสัยหลิงอวี๋เพียงเพราะคำพูดของหลิงหลานเขาผงกศีรษะหลิงอวี๋หยิบถุงมือมาสวม พลางก้มตัวนั่งยองตรวจสอบศพหลิงผิงบนร่างศพมีแผลจากมีดดกดื่นอยู่จริง ๆ ดูคล้ายว่าหลิงผิงรับความทรมานมากก่อนตายหลิงอวี๋ตรวจมือของนางอีกรอบ นิ้วหลิงผิงถูกคนหักหลายนิ้วอย่างสยด!เพราะมีประสงค์บีบถามข้อมูลภายในจากปากหลิงผิงหรือไม่ จึงลงโทษทารุณเช่นนี้?หลิงอวี๋ขบคิดพลาง ตรวจสอบต่อพลาง นางนึกถึงนิสัยหลิงผิงเรื่องที่ชอบซ่อนตั๋วเงินในซอกเสื้อก็พลันคลำเสื้อของนางนางคลำทุกซอกทุกมุมหนึ่งรอบ แล้วหลิงอวี๋ก็คลำเจอตั๋วเงินใบหนึ่งในรอยปะปากกระบอกแขนเสื้อของหลิงผิงเมื่อแม่ทัพเฉินเดินมาแล้วพบว่าคือตั๋วเงินห้าร้อยตำลึงก็ตื่นตระหนก เขาพลันส่ายศีรษะ“นางหนูคนนี้ค่อนข้างมีเงินทีเดียว มีเงินห้าร้อยตำลึงแต่กลับจน!

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 422

    นิสัยหลิงซวนค่อนข้างตรงไปตรงมา เมื่อได้ยินวาจานี้ก็เอ่ยอย่างประหลาดใจ“อาจารย์ แม่ทัพเฉินมิเชื่อว่าท่านฆ่าหลิงผิง พวกนางยังกล้าใส่ไคล้ท่านเชียวหรือ!”“ประเดี๋ยวเจ้าก็รู้แล้ว!”หลิงอวี๋ส่ายหน้าพลางนึกถึงสายตาสงสัยของเซียวหลินเทียนที่มีต่อตน และแววตาตกตะลึงของลู่หนานกับจูเผิงอีก หลิงอวี๋มิได้มองในแง่ดีเช่นหลิงซวนครั้นรอกลับถึงตำหนักอ๋องอี้ พวกหลิงอวี๋กับหลิงซวนเพิ่งจะเข้าประตู กระทั่งน้ำยังไม่ทันได้เข้าปากสักอึกหลิงหลานก็ร้องไห้คร่ำครวญอยู่ข้างนอกเสียแล้ว“พระชายา… ไฉนท่านอำมหิตถึงเพียงนี้!”“หลิงผิงถูกท่านขับออกตำหนักอ๋องอี้แล้ว ไยท่านยังมิยอมปล่อยนางไปเจ้าคะ?”“หลิงผิง เจ้าต้องมาตายอย่างอนาถ! เพียงเพราะเจ้าเกิดมาต่ำต้อย คนอื่นฆ่าเจ้าเหมือนฆ่ามดตัวหนึ่ง!”“บนใต้หล้าผืนนี้ไร้ซึ่งความยุติธรรมนัก!”ครั้นหลิงซวนได้ยินความโกรธก็พลุ่งพล่าน บัดนี้นางเข้าใจความหมายของหลิงอวี๋หมดแล้วแม้แม่ทัพเฉินจะมิขังหลิวอวี๋เข้าคุก แต่ก็ไม่มีทางอุดปากหลิงหลานได้!คำพูดของคนนั้นน่ากลัว การโดนหลิงหลานแพร่ข่าว แม้ไร้ความผิด แต่ก็จะถูกคนรับใช้ของตำหนักอ๋องอี้วิจารณ์!“ข้าจักไปฉีกปากนาง นางจักได้หย

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 423

    หลิงหลานรู้ทันแผนชั่วของหลิงอวี๋ แต่คิดว่าหลิงอวี๋ไม่มีหลักฐานจริง ๆ หรอก จึงเอ่ยขึ้นอย่างผึ่งผาย“พระชายาโปรดอย่าใส่ร้ายบ่าว หากท่านมีหลักฐานก็เอาออกมาเลย!”“ไม่อย่างนั้น… ทุกคนดูสิ พระชายาแค้นที่ข้าพูดเพื่อหลิงผิงถึงได้ใส่สีตีไข่ข้า!”หลิงอวี๋เผลอหัวเราะ เพิ่งคิดจะพูดบางอย่างก็พลันเห็นจ้าวซวนพาจูเผิงและคนอื่น ๆ เดินมาแล้ว คาดคงได้ยินว่าตำหนักอ๋องเกิดเรื่องจึงมาตรวจดู“องครักษ์จ้าว เจ้ามาได้พอดี นางรับใช้ของตำหนักอ๋องอี้ของพวกเจ้าแอบเข้าเรือนบุหงาและขโมยของของข้าแล้วมิยอมรับ แถมยังใส่ร้ายข้าด้วย!”“องครักษ์จ้าว เจ้ามารักษาความยุติธรรมเสีย!”เมื่อหลิงหลานได้ยินก็ร้องว่า “พี่ใหญ่จ้าว พระชายาแค้นที่ข้าพูดเพื่อหลิงผิงจึงอยากใส่สีตีไข่ข้าเจ้าค่ะ ขอร้องพี่ใหญ่จ้าวโปรดช่วยข้าด้วยเจ้าค่ะ!”จ้าวซวนมองทั้งคู่พลางกล่าวเสียงทุ้ม “พระชายา หลิงหลานขโมยสิ่งใด? ท่านมีหลักฐานหรือไม่?”หลิงอวี๋ยิ้มน้อย ๆ เอ่ยว่า “องครักษ์จ้าว รบกวนเจ้าไปห้องหลิงหลาน และนำของที่นางทาหน้ามาที่นี่ แล้วข้าจักให้หลักฐานเจ้า!”เมื่อหลิงหลานได้ยินก็ตะลึงไปชั่วขณะ แต่ก็คิดว่าของนั่นถูกตนจัดการไปแล้ว หลิงอวี๋จะมีหลักฐา

บทล่าสุด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1902

    ต่งเฉิงมองหลิงอวี๋พลางพยักหน้ารัว ๆ แล้วพูดด้วยรอยยิ้มพร้อมกับลูบเคราของตัวเองว่า “สาวน้อยนางนี้รู้จักเครื่องยาสมุนไพรมากมายเช่นนี้นับว่าหายาก!”เครื่องยาสมุนไพรเหล่านี้มิใช่สมุนไพรธรรมดาทั้งหมด นอกจากเครื่องยาสมุนไพรที่ใช้ในการกลั่นโอสถระดับต้นแล้ว ยังมีระดับกลางและระดับสูงจำนวนเล็กน้อยอีกด้วยโดยทั่วไป ผู้เข้าสอบที่ตอบได้เจ็ดสิบถึงแปดสิบชนิดก็ถือว่ายอดเยี่ยมมากแล้ว ทว่าหลิงอวี๋สามารถตอบได้มากกว่าหนึ่งร้อยชนิด ถือว่าเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์สูงเลยทีเดียวเพิ่งเข้ามาก็ทำคะแนนได้ดีถึงเพียงนี้ หากนางได้เรียนอย่างเป็นระบบก็คงแซงหน้าบัณฑิตคนอื่นได้ในมิช้า“ตึง ตึง ตึง!”เมื่อเสียงกลองดังขึ้นสามครั้ง การสอบแข่งขันของกลุ่มนี้ก็สิ้นสุดลง“หนึ่งร้อยยี่สิบเจ็ดคะแนน!”กลองหยุดลงแล้ว และบนใบหน้าของศิษย์พี่หญิงก็ปรากฏรอยยิ้มขึ้นเป็นครั้งแรก นางหยิบป้ายส่งให้หลิงอวี๋พร้อมรอยยิ้ม“การสอบแข่งขันรอบต่อไปจะจัดขึ้นในช่วงบ่าย! ความสามารถในการจำแนกเครื่องยาสมุนไพรของเจ้าดีที่สุดในรอบนี้ ทำให้ดีล่ะ!”“ขอบคุณศิษย์พี่หญิง!”หลิงอวี๋รับป้ายมาด้วยความตื่นเต้น พลางหันไปดูผู้เข้าสอบคนอื่น ๆ ที่กำลังมองนางด้

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1901

    เป็นไปตามคาด หลิงอวี๋เห็นใบหน้าที่งดงามทว่าโหดร้ายนั้น และนั่นก็คือศัตรูที่นางมิอาจลืมเลือน...จ้าวหรุ่ยหรุ่ย!ชั่วขณะนั้นดวงตาของหลิงอวี๋เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว พลางนึกอยากจะรุดเข้าไปฉีกจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเป็นชิ้น ๆ เพียงหลับตา นางก็มิอาจควบคุมตนมิให้นึกถึงฉากที่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยเตะต่อยตนความเจ็บปวดและเลือดสด ๆ อีกทั้งความทุกข์ทรมานจากการสูญเสียลูกไปทำให้หลิงอวี๋มิอาจลืมความเกลียดชังที่ตนมีต่อจ้าวหรุ่ยหรุ่ยได้เลย!คาดมิถึงว่าศัตรูจะปรากฏตัวต่อหน้าตนเช่นนี้!หลิงอวี๋ตื่นตัวมากจนร่างกายสั่นเทา แต่นางก็ยังสามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ได้นางมิใช่คู่ต่อสู้ของจ้าวหรุ่ยหรุ่ย การวู่วามลงมือมีแต่จะเป็นการรนหาที่ตายเท่านั้นหลิงอวี๋สูดหายใจเข้าลึกพลางมองเด็กสาวที่ประกาศสงครามกับจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเด็กสาวคนนี้ดูอายุราว ๆ สิบหกสิบเจ็ดปี มีรูปร่างสูง ใบหน้ารูปไข่ คิ้วโค้งเหมือนพระจันทร์เสี้ยว และดวงตาแวววาวสดใสผมสีดำสนิทของนางถูกแสกกลางและถักเป็นเปียยาวสองข้างพันไว้รอบมวยผม ข้าง ๆ มวยผมนั้นมีปิ่นมุกปักประดับอยู่สองอันเด็กสาวสวมชุดกระโปรงสีม่วงควันธูป และเมื่อดูจากเนื้อผ้าแล้ว นางน่าจะเป็นค

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1900

    ข่าวที่สือหรงนำมาให้เซียวหลินเทียนมิใช่ข่าวดี จ้าวหรุ่ยหรุ่ยยังคงอยู่ในตำหนักเทียนจีและมิได้มาลงทะเบียนด้วยตนเองหากอยากพบกับจ้าวหรุ่ยหรุ่ย ก็ทำได้แค่ต้องรอจนถึงวันคัดเลือกรอบแรกเท่านั้นแต่เซียวหลินเทียนก็มิย่อท้อ ถึงอย่างไรขอเพียงจ้าวหรุ่ยหรุ่ยปรากฏตัว เขาก็จะไม่มีทางปล่อยนางหนีไปอีกแน่ ให้นางเป็นอิสระอีกสักสองสามวันก็คงมิเป็นไร!ในช่วงวันเวลาที่เหลือ หลายคนเก็บตัวอยู่แต่ในบ้านเช่นเดียวกับหลิงอวี๋ พวกเขาอ่านตำราอย่างหนักและเพิ่มพูนความรู้ที่ขาดไป เพื่อที่จะผ่านการคัดเลือกและได้เข้าเรียนที่สำนักศึกษาชิงหลงทว่าหลิงอวี๋มิรู้เลยว่าศัตรูของตนมาถึงเมืองหลวงแดนเทพแล้ว หลังจากเอาแต่ปิดห้องอ่านตำราเป็นเวลาหลายวันนางก็มาที่สำนักศึกษาชิงหลงที่อยู่นอกเมืองในวันแห่งการคัดเลือก โดยมีผู้รอบรู้เรื่องร่วมเดินทางด้วยหน้าทางเข้าสำนักศึกษาชิงหลงเต็มไปด้วยผู้คนทั้งบุรุษและสตรี ทั้งเด็กและผู้ใหญ่รวมกันนับพันคนผู้รอบรู้เห็นเช่นนั้นก็ทึ่งจนพูดมิออก และอ้ำอึ้งพูดออกไปว่า “รู้เช่นนี้ข้าน่าจะมาลงทะเบียนเข้าเรียนที่สำนักศึกษาชิงหลงกับเจ้าด้วย เฮ้อ ตอนนี้มันสายไปเสียแล้ว!”หลิงอวี๋ยิ้ม นางรู้ว่าผู้รอบร

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1899

    “เถาจื่อ หานอวี้ วันพรุ่งพวกเจ้าไปลงทะเบียนเสีย!”เซียวหลินเทียนทำการตัดสินใจและกำชับว่า “ลงทะเบียนในชื่อของน้องสาวข้า!”“เผยอวี้ ฉินซาน พวกเจ้าสองคนก็ไปลงทะเบียนสาขาที่ตนเองชื่นชอบด้วย พวกเจ้าทั้งคู่บอกแค่ว่าเป็นลูกพี่ลูกน้องของข้าก็พอ!”เมื่อได้ยินเช่นนั้น พวกเขาทุกคนก็หัวเราะอย่างมีความสุข พลางพยักหน้าและจัดลำดับอาวุโสกันให้เซียวหลินเทียนเป็นพี่ใหญ่ของทุกคน เถาจื่อเป็นพี่หญิงใหญ่ หานเหมยเป็นพี่น้องคนที่สาม และหานอวี้เป็นคนที่สี่เซียวหลินเทียนได้บอกจุดประสงค์ของภารกิจให้พวกเขาทราบแล้ว เถาจื่อกับหานอวี้ต้องให้ความสำคัญกับฝั่งของสตรีวันรุ่งขึ้น เถาจื่อและหานอวี้ไปลงทะเบียน และทั้งคู่ก็เลือกวิชาปรุงโอสถเนื่องจากก่อนหน้านี้พวกนางเคยตามหลิงอวี๋ไปจำแนกเครื่องยาสมุนไพรหลายชนิด ในความคิดของพวกนาง การกลั่นโอสถเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการผ่านการประเมินมีชั้นเรียนที่สอนการกลั่นโอสถเพียงสองแห่งเท่านั้น ดังนั้นเถาจื่อและหานอวี้จึงต้องลงทะเบียนเรียนคนละชั้นเรียนและเถาจื่อก็ได้ลงทะเบียนเรียนชั้นเรียนของหอโอสถซ่างกู่เซียวหลินเทียน เผยอวี้และคนอื่น ๆ ก็ไปลงทะเบียนด้วยเซียวหลินเทียนลงทะ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1898

    เผยอวี้เหลียวซ้ายแลขวาไปรอบ ๆ เมืองหลวงแดนเทพที่เจริญรุ่งเรืองราวกับคนบ้านนอก ทำเอาเขาอดมิได้ที่จะถอนหายใจ“มิแปลกใจที่ทุกคนล้วนพูดว่าเมืองหลวงแดนเทพเจริญรุ่งเรือง เพราะที่นี่เจริญจริง ๆ ดังคำกล่าว นายท่านอู่ เมืองหลวงแดนเทพแห่งนี้ใหญ่กว่าเมืองหลวงในฉินตะวันตกของพวกเราหลายเท่านัก!”เซียวหลินเทียนวางแผนใช้คำในชื่อจักรพรรดิเซิ่งอู่ของตนเป็นแซ่ ดังนั้น เผยอวี้และคนอื่น ๆ จึงได้เปลี่ยนมาเรียกเซียวหลินเทียนว่านายท่านอู่หานอวี้กับเถาจื่อและคนอื่น ๆ ที่ได้รีบมารวมตัวกับกลุ่มของเซียวหลินเทียนต่างพยักหน้าเห็นด้วยอย่างเงียบ ๆทว่าเซียวหลินเทียนกลับรู้สึกเบื่อหน่ายขึ้นมา เมืองหลวงแดนเทพเจริญรุ่งเรืองแล้วอย่างไร?หากไม่มีหลิงอวี๋อยู่เคียงข้าง มิว่าทิวทัศน์จะสวยงามเพียงใดมันก็ไร้ประโยชน์ยิ่งเมืองหลวงแดนเทพเจริญรุ่งเรืองและมีขนาดใหญ่มากเท่าไร การตามหาหลิงอวี๋ก็จะยิ่งยากมากเท่านั้นท่ามกลางฝูงชนมหาศาลนี้เขาจะหาตัวหลิงอวี๋ของเขาพบได้อย่างไร?ฉินซาน หานเหมยและสือหรงล่วงหน้ากันไปก่อน ในช่วงที่ยังสร้างตำหนักปีกเงินแห่งใหม่มิเสร็จนี้ ทั้งสามคนได้ซื้อที่ดินใหญ่ที่มีหกส่วนเพื่อให้ทุกคนใช้เป็นที่อย

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1897

    หลิงอวี๋เห็นด้วยกับผู้รอบรู้ เพื่อป้องกันมิให้คนอื่นสงสัยว่านางกับผู้รอบรู้มิใช่พี่น้องกันแท้ ๆ นางจึงเปลี่ยนแซ่ของตนเป็นแซ่เดียวผู้รอบรู้และใช้นามว่า สิงอวี๋วันรุ่งขึ้น หลิงอวี๋ไปที่ห้องโถงหลักของหอโอสถซ่างกู่เพื่อลงทะเบียน ที่ทางเข้าหอโอสถซ่างกู่นั้นมีทั้งบุรุษและสตรีต่อแถวยาวเป็นหางว่าวหลิงอวี๋รู้สึกเวียนหัวขึ้นมาเมื่อเห็นแถวยาวถึงเพียงนี้ ต้องต่อแถวไปถึงเมื่อไรกว่าตนจะได้ลงทะเบียนเล่านี่!แต่เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ เพื่ออนาคตของตนในวันข้างหน้า นางก็ทำได้เพียงต่อแถวต่อไปอย่างว่าง่ายเท่านั้นคุณหนูและนายน้อยบางส่วนมิได้มาด้วยตนเอง แต่ส่งสาวใช้และคนรับใช้ไปต่อแถวให้เด็กสาวท่าทางเหมือนคุณหนูที่อยู่ข้างหลังหลิงอวี๋เห็นเช่นนั้นก็ยิ้มเยาะขึ้นมา“แม้แต่มาต่อแถวก็ยังไม่มีความจริงใจ แต่กลับอยากเป็นศิษย์ของอาจารย์เย่น่ะหรือ คนเช่นนี้สมควรถูกปัดตกไปเสีย!”สาวใช้ด้านหน้าหลิงอวี๋ที่มาต่อแถวแทนเจ้านายได้ยินเช่นนั้นก็พูดอย่างดูถูกว่า “ไม่มีใครตั้งกฎว่าห้ามสาวใช้มาต่อแถวให้นี่! ตระกูลเหลยของท่านขัดสนมากจนไม่มีเงินจ้างสาวใช้หรืออย่างไร?”เหลยเหวินโกรธจัดและตะโ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1896

    หลิงอวี๋มิได้ถือโทษผู้รอบรู้และกล่าวว่า “พี่ใหญ่มิต้องกังวลไป กินข้าวกันก่อนเถิด ท่านซื้อตำรับกลั่นโอสถมิได้ก็ช่างมัน ข้ามีที่เรียนแล้ว!”ในขณะที่กำลังกินข้าวหลิงอวี๋ก็เล่าให้ผู้รอบรู้ฟังว่าสำนักศึกษาชิงหลงกำลังรับสมัครบัณฑิตวิชาปรุงโอสถ“วันพรุ่งข้าจะไปลงทะเบียน หากข้าได้ที่หนึ่ง ข้าก็จะได้เรียนวิชาปรุงโอสถโดยมิต้องเสียเงินแม้แต่แดงเดียว!”แต่แม้จะมิได้ที่หนึ่งหลิงอวี๋ก็คิดว่าตนสามารถหาเงินห้าหมื่นอีแปะจากการขายตำรับยาเพียงมิกี่เล่ม นางจึงมิได้เก็บมาใส่ใจ“พี่ใหญ่ ตอนที่ลงทะเบียนมีปรมาจารย์ให้เลือกเรียนด้วยสองคน ข้ามิรู้ว่าควรจะเลือกปรมาจารย์คนไหน วันพรุ่งท่านช่วยไปสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับนิสัยของแต่ละคนให้ข้าหน่อยนะ!”เมื่อผู้รอบรู้ได้ยินว่า นักปรุงโอสถแห่งหอโอสถไป๋เป่าและซ่างกู่จะรับหน้าที่เป็นครู เขาก็พูดโดยมิลังเลว่า “มิจำเป็นต้องไปสอบถามหรอก เลือกครูของหอโอสถซ่างกู่สิ!”“เพราะเหตุใดหรือ?” หลิงอวี๋ถามด้วยความอยากรู้ผู้รอบรู้ยิ้มหยัน “คนของหอโอสถไป๋เป่าเหล่านั้นเป็นพวกยโสชอบดูถูกคนอื่น! เพราะคนที่อยู่เบื้องหลังหอโอสถของพวกเขาคือฮูหยินของเจ้าแห่งทะเลของตระกูลหลงอย่างไรเล่า!”“

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1895

    เมื่อเห็นบรรยากาศที่แสนจะคึกคัก หลิงอวี๋ก็เข้ามาดูว่าเกิดอะไรขึ้นนางเห็นประกาศว่า สำนักศึกษาชิงหลงกำลังรับสมัครบัณฑิตในหลายสาย เช่น สายนักปรุงโอสถ สายนักสร้างอาวุธ สายนักทำนายดวงดาว สายนักอัญเชิญ และสายจอมยุทธ์ ขณะที่หลิงอวี๋กำลังอ่านประกาศ นางก็ได้ยินผู้คนรอบ ๆ พูดคุยกันจากบทสนทนาของพวกเขา ทำให้หลิงอวี๋ได้รู้ว่า สำนักศึกษาชิงหลงนั้นอยู่ในการดำเนินงานของราชสำนักซึ่งให้การศึกษาด้านการฝึกฝนในระดับสูงผู้ที่ดำรงตำแหน่งเป็นครูคือปรมาจารย์ที่โดดเด่นในด้านต่าง ๆ หากมีบัณฑิตที่มีความเป็นเลิศประจักษ์แก่สายตาของอาจารย์เหล่านี้ พวกเขาก็สามารถรับเป็นศิษย์และเข้าร่วมกับกองทัพของราชสำนัก หรือสำนักใหญ่ ๆ ได้แดนเทพเปิดกว้างมากเรื่องความแตกต่างระหว่างบุรุษและสตรี สตรีนั้นสามารถเข้ามาร่ำเรียนในสำนักศึกษาและได้รับการปฏิบัติเช่นเดียวกับบัณฑิตชายหลิงอวี๋รู้สึกถูกใจในสิ่งที่ได้เห็น การที่ได้ไปร่ำเรียนในสำนักศึกษาเช่นนี้ จะทำให้ตนเข้าใจการปรุงโอสถได้ง่ายขึ้น ดีกว่าลองผิดลองถูกมิใช่หรือ?นางตั้งใจอ่านอีกครั้ง ข้อกำหนดในการลงทะเบียนมิได้เข้มงวดเกินไป และใช้เงินเพียงห้าตำลึงเงินเท่านั้นในการลงทะเบี

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1894

    หลิงอวี๋และผู้รอบรู้ได้มาถึงเมืองหลวงแดนเทพ เหมือนกับที่ผู้รอบรู้บอก เมืองหลวงแดนเทพเต็มไปด้วยโอกาสเพราะที่นี่มีผู้บำเพ็ญตนมากมายและเต็มไปด้วยกลุ่มคนน้อยใหญ่อยู่ทั่วทุกหนแห่งหลิงอวี๋เองก็รู้สึกทึ่งกับความเจริญรุ่งเรืองของเมืองหลวงแดนเทพ มีร้านค้าอยู่ทั่วทุกมุมและสินค้าที่ขายก็มีความหลากหลายแปลกตาและสวยงามเช่นเดียวกัน ราคาที่อยู่อาศัยในเมืองหลวงแดนเทพก็มีราคาแพงสองวันแรกทั้งสองคนพักที่โรงเตี๊ยมเล็ก ๆ บริเวณชานเมือง ซึ่งมีค่าใช้จ่ายคืนละห้าสิบตำลึงเงินหลังจากใช้ความพยายามอย่างมาก ในที่สุดผู้รอบรู้ก็ได้ซื้อเรือนเล็ก ๆ ของตรอกเล็กในเมืองที่อยู่ไกลออกไปโดยใช้เงินไปเกือบสามหมื่นนี่เทียบเท่ากับการใช้สมบัติของหลิงอวี๋ไปมากกว่าครึ่งหนึ่ง ซึ่งทำให้ผู้รอบรู้รู้สึกปวดใจอยู่นานแต่หลิงอวี๋พอใจแล้ว การซื้อเรือนเล็ก ๆ แห่งนี้ได้ในราคาต่ำเช่นนี้ ถือว่าผู้รอบรู้ก็มีความสามารถ มิเช่นนั้น หากดูตามราคาตลาด เรือนแห่งนี้อาจมีราคาสูงถึงห้าหมื่นด้วยซ้ำ“พี่ใหญ่ เงินหมดก็หาใหม่ได้ มิต้องเสียใจไปหรอก พวกเรามีบ้านแล้วก็สามารถหาอาชีพทำมาหากินได้”หลิงอวี๋พูดปลอบอีกฝ่ายด้วยความมั่นใจเรือนเล็กนี้รวมห

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status