แชร์

บทที่ 398

ผู้เขียน: กานเฟย
จ้าวซวนพูดหน้าเจื่อน ๆ “เช่นนั้นเมื่อพระชายาตื่นเจ้าก็ถ่ายทอดคำพูดข้าด้วย ขอให้พระชายาไปเรือนริมวารี!”

หลิงซวนปิดประตูไม่กล่าวคำ ปล่อยให้จ้าวซวนรู้สึกอักอ่วนกว่าเดิม

ขณะที่หลิงซินกำลังดูแลรอยแส้ของหลิงอวี๋ หลิงซวนก็ได้เข้าห้องไปแจ้งให้หลิงอวี๋ทราบ

เมื่อเห็นรอยแส้มากรอย หลิงซินพลันน้ำตาคลอ

คราก่อนคุณหนูถูกท่านอ๋องหวดแส้ นางยังนึกว่า ยามนี้คุณหนูเข้มแข็งแล้วคงมิถูกหวดอีก ไฉนจะคิดว่าจะโดนหวดอีกอย่างน่าเวทนา!

หลิงซวนมองหลิงอวี๋เซื่องซึมพลางเล่าเรื่องที่จ้าวซวนมา

หลิงอวี๋ได้สติหน่อย ๆ กล่าวเฉยชา “เจ้าทำถูกต้อง หนหน้าก็ทำเช่นนี้ต่อ!”

“คนของตำหนักอ๋องอี้เป็นบ้ากระไร คิดว่าตัวข้าเป็นสุนัขรึ? จะเรียกก็เรียก จะไล่ก็ไล่!”

“หลิงซวน อีกหน่อยแอบเอาตั๋วเงินสองหมื่นตำลึงไปให้พี่ใหญ่ปี้เสีย เขาจะได้ส่งให้เหล่าสหายของเขา!”

เมื่อคืนเคราะห์ดีที่ได้ปี้ไห่เฟิงหาคนพวกนั้นมา มิเช่นนั้นคงช่วยท่านกวนเอ้อร์มิได้แน่!

จากเหตุการณ์เมื่อคืนนี้ หลิงอวี๋มองขาดว่า ในภายภาคหน้ามิอาจคาดหวังเซียวหลินเทียนได้อีก นางต้องมีเส้นสายเป็นของตน

เหล่าสหายของปี้ไห่เฟิงต่างมีฝีมิเก่งกาจ หลิงอวี๋อยากจะคบหากับพวกเขา

“หลิงซ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 399

    หลิงอวี๋จึงคาดเดาเจตนาของจักรพรรดิอู่อันไปพักหนึ่งองค์ชายเว่ยกับองค์ชายคังต่างคิดว่าสมบัติของตระกูลกวนอยู่ในมือสองพี่น้องกวนอิ่ง เลยอยากรู้ว่าเพื่อสมบัติเหล่านี้พวกเขาจะใช้อุบายแย่งชิงกันเช่นไร!จักรพรรดิอู่อันปกปิดเรื่องที่สมบัติตกอยู่ในมือตน เพียงแค่อยากดูว่าพวกเขาจะสู้กันเยี่ยงไร!หลิงอวี๋ทั้งเลื่อมใสและดูแคลนการกระทำนี้ของจักรพรรดิอู่อันนัก!ราชวงศ์ขาดความผูกพันโดยแท้ จักรพรรดิอู่อันวางแผนกระทั่งลูกตัวเอง นี่มีอะไรต่างกับสองพี่สองกวนอิ่งวางแผนใส่นายท่านกวนกันเล่า!สุนัขกัดสุนัขขนเต็มปาก(1)!หลิงอวี๋เลือกอยู่เฉย ๆ ชมความบันเทิง หากมีโอกาสได้ใช้กลในระหว่างนั้น นางจะกวนน้ำให้ขุ่นไม่ใจอ่อนเด็ดขาด!ยามนี้ตนสิ้นวิธีจับกุมองค์ชายเว่ยกับกวนอิ่ง และนางก็ไม่ติดที่จะยืมอิทธิพลของจักรพรรดิช่วยซ้ำเติมพวกกวนอิ่งด้วย!หลิงอวี๋กำลังตริตรองว่าควรยืมอิทธิพลของจักรพรรดิอย่างไรช่วยซ้ำเติมดีความเข้าใจก่อนหน้าของนางต่อเหล่าองค์ชายนั้นแค่ผิวเผิน ต้องรู้เรารู้เขาเท่านั้นถึงกำหนดแผนที่สมบูรณ์แบบได้!ต้องหาคนมาช่วยเรื่องนี้!พึ่งแค่ให้เกิ่งเสี่ยวหาวบอกข่าวตน มันเสียเปรียบเกินไป!คนของเกิ่งเสี่

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 400

    ปี้ไห่เฟิงนิ่วหน้า “พระชายาท่านคิดโค่นองค์ชายเว่ยกับองค์ชายคังหรือขอรับ?”“มิใช่! ข้ามิได้มีความทะเยอทะยานยิ่งใหญ่ขนาดนั้น!”หลิงอวี๋ยิ้มจาง ๆ“พี่ใหญ่ปี้ เจ้าก็เห็นเรื่องในวันนั้นแล้ว คาดมิถึงว่าองค์ชายเว่ยจักยุยงกวนอิ่งเล่นงานข้า!”“หากมิใช่ข้าดวงดีหนีพ้นล่ะก็ เกรงว่าบัดนี้หัวกับตัวคงอยู่คนละทิศละทางแล้วกระมัง!”“กวนอิ่งยังกระทำเรื่องไร้รู้ผิดชอบชั่วดีต่อฮูหยินกวนเอ้อร์ด้วย!”“ด้วยความคับข้องใจนี้ ข้าหลิงอวี๋จักมิกล้ำกลืนฝืนทนเด็ดขาด!”“ยามนี้กวนอิ่งเกาะติดองค์ชายคัง หากข้ามิเตรียมตัวเลย เช่นนั้นมิใช่การปล่อยให้คนมารุกรานรึ?”“ข้าทำเพื่อปกป้องตัวข้าเอง! ผู้อื่นรังแกข้าเช่นนี้จักมิให้ข้าตอบโต้กลับงั้นรึ?”ปี้ไห่เฟิงหัวเราะ เขาชื่นชมนิสัยเช่นนี้ของหลิงอวี๋นัก หากเป็นตนก็คงกลืนความคับข้องใจนี้มิได้เช่นกัน“ขอรับ พระชายา ข้ารับปากท่าน ข้าจักช่วยท่านไปสืบขอรับ!” ปี้ไห่เฟิงตอบรับหนักแน่นหลิงอวี๋ส่งตั๋วเงินสามหมื่นตำลึงให้ปี้ไห่เฟิง“พี่ใหญ่ปี้ โปรดช่วยจับตาดูหานหลินที่ปรึกษาข้างกายองค์ชายเว่ยเป็นพิเศษด้วย!”หานหลินผู้นี้ ก่อนหน้ายุยงองค์ชายเว่ยซื้อนักฆ่ามาสังหารตน คราก่อนก็เส

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 401

    และหลิงอวี๋ก็นึกถึงเรื่องที่แม่นมลี่บอกว่ามีหัวขโมยขึ้นเรือนบุหงาเมื่อคราก่อนด้วย!คราวนี้หลิงหลานก็อยากกลับมา หรือว่าเป็นหวางซือส่งนางมา?ครั้งก่อนเข้ามาค้นของที่ต้องการไม่พบ ฉะนั้นหลิงหลานจึงอยากแทรกซึมเข้ามาค้นต่อข้างในหรือ?หลิงอวี๋ตาเป็นประกายพลางกล่าว “อยากกลับมาก็มิใช่ว่ามิได้!”“คุณหนู… ท่านยังเชื่อใจนางหญิงชั่วนี่อยู่หรือเจ้าคะ? เห็นเต็มตาว่านางมีเจตนาร้ายหนาเจ้าคะ!” แม่นมลี่พูดร้อนใจ“แม่นม อดทนใจเย็น ๆ!” หลิงอวี๋เอ่ยปลอบหลิงหลานเห็นจุดเปลี่ยนที่ดีขึ้นพลันเอ่ยร้อนรน “พระชายา ท่านตกลงรับบ่าวกลับมาแล้วจริงหรือเจ้าคะ?”หลิงอวี๋พยักหน้าพลางพูดตรงไปตรงมา “เจ้าตอบคำถามข้าสักสองสามข้อ หากข้าพอใจข้าจักให้เจ้ากลับมา!”หลิงหลานตาวับวาบ รีบกล่าว “พระชายาท่านโปรดถาม บ่าวจักตอบอย่างสัตย์จริงแน่นอน มิเอ่ยปดพระชายาเด็ดขาดเจ้าค่ะ!”หลิงอวี๋ถามว่า “เจ้ารู้หรือไม่ว่าหลังจากที่หลิงผิงถูกไล่ออกตำหนักอ๋องอี้แล้วไปที่ใด?”หลิงหลานชะงักครู่หนึ่งพลางส่ายหัว “พระชายา บ่าวมิรู้เจ้าค่ะ! บ่าวมิได้ติดต่ออันใดกับนางเลยเจ้าค่ะ!”หลิงอวี๋ถามยิ้ม ๆ ว่า “หลังข้าศึกษาวิชาแพทย์ก็พบว่าข้าติดพิษเรื้อร

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 402

    “พระชายา… หากท่านอยากรู้ที่อยู่หลิงผิง บ่าวจักพยายามไปสืบถามสุดกำลังเลยเจ้าค่ะ…”“แต่เรื่องอื่น บ่าวมิรู้จริง ๆ เจ้าค่ะ!”“ไปให้พ้น…”แม่นมลี่แกว่งไม้กวาดไล่หลิงหลานออกไป จากนั้นปิดประตูดังปังครั้นหลิงหลานเห็นประตูปิดลงก็เผยหน้าชั่วร้ายมิปกปิดแม้สักนิดนางจ้องประตูเรือนที่ปิดสนิทอย่างเหี้ยมเกรียม ถ่มน้ำลายและจากไปอย่างเคียดแค้นไม่ไกลจากแห่งนั้น ชิวเหวินซวงยืนอยู่หลังต้นไม้และเห็นฉากทั้งหมดกับตาหลิงหลานยอมจำนนต่อหลิงอวี๋ เพราะเห็นว่าตนไร้ประโยชน์แล้วงั้นหรือง?จิตสังหารแฉลบผ่านนัยน์ตาของชิวเหวินซวง พอยืนไปครู่หนึ่งก็ไม่พบความเคลื่อนไหวใด ๆ ที่เรือนบุหงา นางจึงโผล่ออกหลังต้นไม้เดินจากไปชิวเหวินซวงเพิ่งกลับถึงลานด้านหน้า ทันใดนั้นเด็กสาวรับใช้ก็วิ่งมาพูดว่า“พี่เหวินซวง มีแม่นมมาหาเจ้าที่หน้าประตูตำหนัก! เจ้าออกไปดูเถอะ!”“แม่นมใด?”ความสงสัยเต็มหน้าชิวเหวินซวง ในเมืองหลวงแห่งนี้ผู้ใดจะมาหาตน!“นางอ้างว่าเป็นญาติห่าง ๆ ของเจ้า เดาว่าคงมีธุระบางอย่างกับเจ้า!”ชิวเหวินซวงเพิ่งคิดจะให้นางรับใช้ไล่ไปก็พลันได้ยินเด็กสาวรับใช้พูดว่า“บางทีอาจมิใช่มีธุระ แต่ยืมเงินเจ้า! ข้าเห็

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 403

    หลิงผิงโดนบีบคอจนสีหน้าดำคล้ำชั่วพริบตาทว่าหลิงผิงกลับมิหวั่นสักกระผีก มือข้างหนึ่งโฉบมือชิวเหวินซวงพลางเรียกเสียงแหบพร่า“เจ้าฆ่าข้าเลย! ตอนค่ำขอเพียงข้าไม่กลับไป วันพรุ่งเรื่องที่เกี่ยวกับเจ้าก็จะรายงานถึงท่านอ๋องทันที!”“ชิวเหวินซวง เจ้าคิดว่าหลังข้ารู้ความลับเจ้าแล้วจะกล้ามาหาเจ้าโดยมิเตรียมตัวอันใดเลยงั้นรึ?”“หากท่านอ๋องเห็นสิ่งเหล่านี้เข้า ไม่ว่าเจ้าจักพูดจาเสนาะหู โน้มน้าวเก่ง พระองค์ก็ไม่ทรงเชื่อใจเจ้าอีกแล้ว!”“หากข้าตายเจ้าก็ต้องตายไปกับข้า! กระทั่งครอบครัวเจ้าก็ต้องตายสิ้น!”ชิวเหวินซวงจ้องผิงหลิงเขม็งพลางนึกเสียใจภายหลังเต็มทรวงครั้นหลิงผิงถูกขับออกตำหนักอ๋องอี้ครานั้น ตนน่าจะฆ่านางเพื่อเลี่ยงหายนะที่ตามมาไม่จบสิ้นในภายหน้าเสียแต่นางคิดว่าหลิงผิงยังมีประโยชน์ในภายภาคหน้าอยู่จึงส่งนางไปหมู่บ้านแห่งนั้น!ไหนเลยจะคิดว่าหลิงผิงจะหนีออกมาได้ แถมกำเริบเสิบสานมากขึ้น ขวัญกล้าใช้ความลับมาขู่ตน!ชิวเหวินซวงถลึงมองหลิงผิงพลางดูท่าทีไม่ยี่หระของนาง เห็นได้ชัดว่าหลิงผิงเตรียมตัวมาอย่างดี!ชิวเหวินซวงหัวใจสั่นสะท้าน ค่อย ๆ คลายมือออก“เจ้าต้องการเท่าไร?” ชิวเหวินซวงถามอย

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 404

    เซียวหลินเทียนกำลังอ่านหนังสือในห้องตำรา ครั้นแล้วจ้าวซวนก็เดินเข้ามา“ท่านอ๋อง…วันนี้มีแม่นมขาเป๋มาหาชิวเหวินซวง! หลังจากนั้นชิวเหวินซวงก็ออกตำหนักอ๋องอี้…นางเดินเตร่บนถนนตั้งหลายรอบ!”“คนของกระหม่อมคลาดกับนาง!”เซียวหลินเทียนผงะไปชั่วขณะ สีหน้าพลันเคร่งขรึมขึ้นสามารถสลัดการสะกดรอยคนของจ้าวซวนได้ ชิวเหวินซวงผู้นี้ช่างไม่ธรรมดา!“แล้วแม่นมขาเป๋คนนั้นคือผู้ใด? พวกเจ้ามิได้คลาดกับนางเหมือนกันใช่ไหม?”เซียวหลินเทียนเอ่ยถามจ้าวซวนเริ่มหน้าแดง กล่าวเจื่อน ๆ ว่า“เป็นความประมาทของกระหม่อม… คนของกระหม่อมมุ่งเป้าแค่ชิวเหวินซวงจึงละเลยแม่นมผู้นี้ไปพ่ะย่ะค่ะ!”“พอเขาคิดขึ้นได้ก็หาแม่นมผู้นี้ไม่เจอเสียแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”เซียวหลินเทียนจ้องจ้าวซวนดุดัน และระงับความโกรธไว้มิได้อีก“จ้าวซวน ตอนเหตุการณ์ท่านกวนเอ้อร์ก็ละเลยจนเกิดความผิดพลาดใหญ่หลวง! ตอนนี้ยังทำพลาดเช่นนี้อีก!”“หรือจะให้พวกเราถูกคนลอบสังหารตายหมดก่อน พวกเจ้าถึงจะตื่นตัวรึ?”จ้าวซวนคุกเข่าลงข้างเดียวอย่างละอายพลางเอ่ยขอรับโทษ“ท่านอ๋อง… กระหม่อมส่งคนไปค้นหาแล้ว และจะสืบตัวตนแม่นมผู้นี้โดยเร็วที่สุดพ่ะย่ะค่ะ!”“ได้โปรดท่าน

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 405

    เซียวหลินเทียนคิดวางแผนใช้ประโยชน์จากองค์ชายคังเอากิจราชการฟื้นฟูย่านการค้ากลับมา และเขาก็จะไม่ปล่อยให้องค์ชายคังได้รับกิจราชการที่เหมืองง่าย ๆ เช่นกันทันใดนั้นเซียวหลินเทียนก็นึกถึงเรื่องหนึ่ง แล้วกล่าวว่า“จ้าวซวน จัดการให้จูจวินกับเถาเฉิงออกจากเหมืองด้วย!”“หลังจากพวกท่านอ๋องเฉิงกลับเมืองหลวง องค์ชายเว่ยจักได้มิขุ่นข้องและลงมือกับพวกเขา!”เซียวหลินเทียนไม่ค่อยสนิทกับจูจวินนัก แต่ก็ดูออกว่าจูจวินไม่ใช่พวกมักใหญ่ใฝ่สูง!ก่อนหน้าเฉิงชินอ๋องเคยพูดกับเซียวหลินเทียนว่าจูจวินเป็นคนมีฝีมือ อุทิศตนเพื่อแคว้น!เซียวหลินเทียนจะไม่ปล่อยคนมีความสามารถเช่นนี้ไปง่าย ๆ!“เจ้าให้จูจวินกับเถาเฉิงปกปิดชื่อแซ่ชั่วคราว และจัดพวกเขาเข้ากองทหารของเรา!”จ้าวซวนนึกถึงชีวิตอันขมขื่นของครอบครัวท่านกวนเอ้อร์ พลันกล่าวทันที“กระหม่อมจักไปจัดการเดี๋ยวนี้พ่ะย่ะค่ะ! โปรดท่านอ๋องวางใจ คราวนี้กระหม่อมจักมิทำพลาดซ้ำเด็ดขาดพ่ะย่ะค่ะ!”แล้วจ้าวซวนก็จากไปอย่างรีบร้อนเซียวหลินเทียนครุ่นคิดต่อ เขาต้องหาสักวิธีขัดขวางองค์ชายคังรับกิจราชการที่เหมืองให้ได้ขณะเซียวหลินเทียนกำลังขบคิด ความคิดก็ย้อนกลับมาที่สองพี

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 406

    หลิงอวี๋ดูอย่างตั้งใจ อยากจะหาเบาะแสจากเสื้อผ้าทั้งสองชิ้นนี้ให้เจอหลังจากตรวจสอบอย่างละเอียดแล้ว นางพบตั๋วเงินสองร้อยตำลึงซ่อนอยู่ในเสื้อผ้าเก่าหนึ่งชิ้นตั๋วเงินถูกเย็บซ่อนไว้ชั้นในเสื้อผ้า ถ้าไม่ดูให้ดีจะไม่มีทางหาเจอเลยนางยึดวิธีเดียวกัน ตรวจสอบเสื้อผ้าอีกชิ้น แล้วเจอตรงชั้นในปกเสื้ออีกร้อยตำลึงเกิ่งเสี่ยวหาวเห็นจากด้านข้าง ก็เอ่ยยิ้ม ๆ “ความระแวงสงสัยของสตรีมีมากทีเดียว!”หลิงอวี๋ยิ้มเย็นชา “ไม่เพียงแต่ระแวงมาก แต่ยังจิตใจโหดเหี้ยมอีกด้วย!”“เฝิงโปที่เป็นผู้ชายร่างใหญ่ถูกนางฆ่าได้ หลิงผิงผู้นี้แค่แยกจากกันสามวัน ก็แข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิมแล้ว!”“ท่านพี่ พวกเราค้นหาทั่วทุกที่ในเมืองหลวงแล้ว! ข้าอยากรู้ว่านางไปซ่อนตัวอยู่ที่ใดกันแน่ ไฉนคนของข้าจึงหานางมิพบ!”เกิ่งเสี่ยวหาวยิ้มขมขื่นพลางเอ่ย “หากนางมิปรากฏตัวเอง ข้าเกรงว่าท่านพี่จักสงสัยว่าข้ามิใส่ใจคำพูดของท่านพี่!”หลิงอวี๋ปลอบใจ “จักเป็นไปได้เยี่ยงไรกันเล่า! หากคนคนหนึ่งต้องการซ่อนตัวนั้นมีวิธีมากหลายนัก! ข้าไม่มีทางสงสัยเจ้าหรอก!”หลิงอวี๋พูดไปก็ตรวจสอบเสื้อผ้าเก่า ๆ ไป นางสัมผัสทุก ๆ ส่วนของเสื้อผ้า แม้แต่ผ้าที่ห่อเสื้

บทล่าสุด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1902

    ต่งเฉิงมองหลิงอวี๋พลางพยักหน้ารัว ๆ แล้วพูดด้วยรอยยิ้มพร้อมกับลูบเคราของตัวเองว่า “สาวน้อยนางนี้รู้จักเครื่องยาสมุนไพรมากมายเช่นนี้นับว่าหายาก!”เครื่องยาสมุนไพรเหล่านี้มิใช่สมุนไพรธรรมดาทั้งหมด นอกจากเครื่องยาสมุนไพรที่ใช้ในการกลั่นโอสถระดับต้นแล้ว ยังมีระดับกลางและระดับสูงจำนวนเล็กน้อยอีกด้วยโดยทั่วไป ผู้เข้าสอบที่ตอบได้เจ็ดสิบถึงแปดสิบชนิดก็ถือว่ายอดเยี่ยมมากแล้ว ทว่าหลิงอวี๋สามารถตอบได้มากกว่าหนึ่งร้อยชนิด ถือว่าเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์สูงเลยทีเดียวเพิ่งเข้ามาก็ทำคะแนนได้ดีถึงเพียงนี้ หากนางได้เรียนอย่างเป็นระบบก็คงแซงหน้าบัณฑิตคนอื่นได้ในมิช้า“ตึง ตึง ตึง!”เมื่อเสียงกลองดังขึ้นสามครั้ง การสอบแข่งขันของกลุ่มนี้ก็สิ้นสุดลง“หนึ่งร้อยยี่สิบเจ็ดคะแนน!”กลองหยุดลงแล้ว และบนใบหน้าของศิษย์พี่หญิงก็ปรากฏรอยยิ้มขึ้นเป็นครั้งแรก นางหยิบป้ายส่งให้หลิงอวี๋พร้อมรอยยิ้ม“การสอบแข่งขันรอบต่อไปจะจัดขึ้นในช่วงบ่าย! ความสามารถในการจำแนกเครื่องยาสมุนไพรของเจ้าดีที่สุดในรอบนี้ ทำให้ดีล่ะ!”“ขอบคุณศิษย์พี่หญิง!”หลิงอวี๋รับป้ายมาด้วยความตื่นเต้น พลางหันไปดูผู้เข้าสอบคนอื่น ๆ ที่กำลังมองนางด้

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1901

    เป็นไปตามคาด หลิงอวี๋เห็นใบหน้าที่งดงามทว่าโหดร้ายนั้น และนั่นก็คือศัตรูที่นางมิอาจลืมเลือน...จ้าวหรุ่ยหรุ่ย!ชั่วขณะนั้นดวงตาของหลิงอวี๋เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว พลางนึกอยากจะรุดเข้าไปฉีกจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเป็นชิ้น ๆ เพียงหลับตา นางก็มิอาจควบคุมตนมิให้นึกถึงฉากที่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยเตะต่อยตนความเจ็บปวดและเลือดสด ๆ อีกทั้งความทุกข์ทรมานจากการสูญเสียลูกไปทำให้หลิงอวี๋มิอาจลืมความเกลียดชังที่ตนมีต่อจ้าวหรุ่ยหรุ่ยได้เลย!คาดมิถึงว่าศัตรูจะปรากฏตัวต่อหน้าตนเช่นนี้!หลิงอวี๋ตื่นตัวมากจนร่างกายสั่นเทา แต่นางก็ยังสามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ได้นางมิใช่คู่ต่อสู้ของจ้าวหรุ่ยหรุ่ย การวู่วามลงมือมีแต่จะเป็นการรนหาที่ตายเท่านั้นหลิงอวี๋สูดหายใจเข้าลึกพลางมองเด็กสาวที่ประกาศสงครามกับจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเด็กสาวคนนี้ดูอายุราว ๆ สิบหกสิบเจ็ดปี มีรูปร่างสูง ใบหน้ารูปไข่ คิ้วโค้งเหมือนพระจันทร์เสี้ยว และดวงตาแวววาวสดใสผมสีดำสนิทของนางถูกแสกกลางและถักเป็นเปียยาวสองข้างพันไว้รอบมวยผม ข้าง ๆ มวยผมนั้นมีปิ่นมุกปักประดับอยู่สองอันเด็กสาวสวมชุดกระโปรงสีม่วงควันธูป และเมื่อดูจากเนื้อผ้าแล้ว นางน่าจะเป็นค

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1900

    ข่าวที่สือหรงนำมาให้เซียวหลินเทียนมิใช่ข่าวดี จ้าวหรุ่ยหรุ่ยยังคงอยู่ในตำหนักเทียนจีและมิได้มาลงทะเบียนด้วยตนเองหากอยากพบกับจ้าวหรุ่ยหรุ่ย ก็ทำได้แค่ต้องรอจนถึงวันคัดเลือกรอบแรกเท่านั้นแต่เซียวหลินเทียนก็มิย่อท้อ ถึงอย่างไรขอเพียงจ้าวหรุ่ยหรุ่ยปรากฏตัว เขาก็จะไม่มีทางปล่อยนางหนีไปอีกแน่ ให้นางเป็นอิสระอีกสักสองสามวันก็คงมิเป็นไร!ในช่วงวันเวลาที่เหลือ หลายคนเก็บตัวอยู่แต่ในบ้านเช่นเดียวกับหลิงอวี๋ พวกเขาอ่านตำราอย่างหนักและเพิ่มพูนความรู้ที่ขาดไป เพื่อที่จะผ่านการคัดเลือกและได้เข้าเรียนที่สำนักศึกษาชิงหลงทว่าหลิงอวี๋มิรู้เลยว่าศัตรูของตนมาถึงเมืองหลวงแดนเทพแล้ว หลังจากเอาแต่ปิดห้องอ่านตำราเป็นเวลาหลายวันนางก็มาที่สำนักศึกษาชิงหลงที่อยู่นอกเมืองในวันแห่งการคัดเลือก โดยมีผู้รอบรู้เรื่องร่วมเดินทางด้วยหน้าทางเข้าสำนักศึกษาชิงหลงเต็มไปด้วยผู้คนทั้งบุรุษและสตรี ทั้งเด็กและผู้ใหญ่รวมกันนับพันคนผู้รอบรู้เห็นเช่นนั้นก็ทึ่งจนพูดมิออก และอ้ำอึ้งพูดออกไปว่า “รู้เช่นนี้ข้าน่าจะมาลงทะเบียนเข้าเรียนที่สำนักศึกษาชิงหลงกับเจ้าด้วย เฮ้อ ตอนนี้มันสายไปเสียแล้ว!”หลิงอวี๋ยิ้ม นางรู้ว่าผู้รอบร

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1899

    “เถาจื่อ หานอวี้ วันพรุ่งพวกเจ้าไปลงทะเบียนเสีย!”เซียวหลินเทียนทำการตัดสินใจและกำชับว่า “ลงทะเบียนในชื่อของน้องสาวข้า!”“เผยอวี้ ฉินซาน พวกเจ้าสองคนก็ไปลงทะเบียนสาขาที่ตนเองชื่นชอบด้วย พวกเจ้าทั้งคู่บอกแค่ว่าเป็นลูกพี่ลูกน้องของข้าก็พอ!”เมื่อได้ยินเช่นนั้น พวกเขาทุกคนก็หัวเราะอย่างมีความสุข พลางพยักหน้าและจัดลำดับอาวุโสกันให้เซียวหลินเทียนเป็นพี่ใหญ่ของทุกคน เถาจื่อเป็นพี่หญิงใหญ่ หานเหมยเป็นพี่น้องคนที่สาม และหานอวี้เป็นคนที่สี่เซียวหลินเทียนได้บอกจุดประสงค์ของภารกิจให้พวกเขาทราบแล้ว เถาจื่อกับหานอวี้ต้องให้ความสำคัญกับฝั่งของสตรีวันรุ่งขึ้น เถาจื่อและหานอวี้ไปลงทะเบียน และทั้งคู่ก็เลือกวิชาปรุงโอสถเนื่องจากก่อนหน้านี้พวกนางเคยตามหลิงอวี๋ไปจำแนกเครื่องยาสมุนไพรหลายชนิด ในความคิดของพวกนาง การกลั่นโอสถเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการผ่านการประเมินมีชั้นเรียนที่สอนการกลั่นโอสถเพียงสองแห่งเท่านั้น ดังนั้นเถาจื่อและหานอวี้จึงต้องลงทะเบียนเรียนคนละชั้นเรียนและเถาจื่อก็ได้ลงทะเบียนเรียนชั้นเรียนของหอโอสถซ่างกู่เซียวหลินเทียน เผยอวี้และคนอื่น ๆ ก็ไปลงทะเบียนด้วยเซียวหลินเทียนลงทะ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1898

    เผยอวี้เหลียวซ้ายแลขวาไปรอบ ๆ เมืองหลวงแดนเทพที่เจริญรุ่งเรืองราวกับคนบ้านนอก ทำเอาเขาอดมิได้ที่จะถอนหายใจ“มิแปลกใจที่ทุกคนล้วนพูดว่าเมืองหลวงแดนเทพเจริญรุ่งเรือง เพราะที่นี่เจริญจริง ๆ ดังคำกล่าว นายท่านอู่ เมืองหลวงแดนเทพแห่งนี้ใหญ่กว่าเมืองหลวงในฉินตะวันตกของพวกเราหลายเท่านัก!”เซียวหลินเทียนวางแผนใช้คำในชื่อจักรพรรดิเซิ่งอู่ของตนเป็นแซ่ ดังนั้น เผยอวี้และคนอื่น ๆ จึงได้เปลี่ยนมาเรียกเซียวหลินเทียนว่านายท่านอู่หานอวี้กับเถาจื่อและคนอื่น ๆ ที่ได้รีบมารวมตัวกับกลุ่มของเซียวหลินเทียนต่างพยักหน้าเห็นด้วยอย่างเงียบ ๆทว่าเซียวหลินเทียนกลับรู้สึกเบื่อหน่ายขึ้นมา เมืองหลวงแดนเทพเจริญรุ่งเรืองแล้วอย่างไร?หากไม่มีหลิงอวี๋อยู่เคียงข้าง มิว่าทิวทัศน์จะสวยงามเพียงใดมันก็ไร้ประโยชน์ยิ่งเมืองหลวงแดนเทพเจริญรุ่งเรืองและมีขนาดใหญ่มากเท่าไร การตามหาหลิงอวี๋ก็จะยิ่งยากมากเท่านั้นท่ามกลางฝูงชนมหาศาลนี้เขาจะหาตัวหลิงอวี๋ของเขาพบได้อย่างไร?ฉินซาน หานเหมยและสือหรงล่วงหน้ากันไปก่อน ในช่วงที่ยังสร้างตำหนักปีกเงินแห่งใหม่มิเสร็จนี้ ทั้งสามคนได้ซื้อที่ดินใหญ่ที่มีหกส่วนเพื่อให้ทุกคนใช้เป็นที่อย

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1897

    หลิงอวี๋เห็นด้วยกับผู้รอบรู้ เพื่อป้องกันมิให้คนอื่นสงสัยว่านางกับผู้รอบรู้มิใช่พี่น้องกันแท้ ๆ นางจึงเปลี่ยนแซ่ของตนเป็นแซ่เดียวผู้รอบรู้และใช้นามว่า สิงอวี๋วันรุ่งขึ้น หลิงอวี๋ไปที่ห้องโถงหลักของหอโอสถซ่างกู่เพื่อลงทะเบียน ที่ทางเข้าหอโอสถซ่างกู่นั้นมีทั้งบุรุษและสตรีต่อแถวยาวเป็นหางว่าวหลิงอวี๋รู้สึกเวียนหัวขึ้นมาเมื่อเห็นแถวยาวถึงเพียงนี้ ต้องต่อแถวไปถึงเมื่อไรกว่าตนจะได้ลงทะเบียนเล่านี่!แต่เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ เพื่ออนาคตของตนในวันข้างหน้า นางก็ทำได้เพียงต่อแถวต่อไปอย่างว่าง่ายเท่านั้นคุณหนูและนายน้อยบางส่วนมิได้มาด้วยตนเอง แต่ส่งสาวใช้และคนรับใช้ไปต่อแถวให้เด็กสาวท่าทางเหมือนคุณหนูที่อยู่ข้างหลังหลิงอวี๋เห็นเช่นนั้นก็ยิ้มเยาะขึ้นมา“แม้แต่มาต่อแถวก็ยังไม่มีความจริงใจ แต่กลับอยากเป็นศิษย์ของอาจารย์เย่น่ะหรือ คนเช่นนี้สมควรถูกปัดตกไปเสีย!”สาวใช้ด้านหน้าหลิงอวี๋ที่มาต่อแถวแทนเจ้านายได้ยินเช่นนั้นก็พูดอย่างดูถูกว่า “ไม่มีใครตั้งกฎว่าห้ามสาวใช้มาต่อแถวให้นี่! ตระกูลเหลยของท่านขัดสนมากจนไม่มีเงินจ้างสาวใช้หรืออย่างไร?”เหลยเหวินโกรธจัดและตะโ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1896

    หลิงอวี๋มิได้ถือโทษผู้รอบรู้และกล่าวว่า “พี่ใหญ่มิต้องกังวลไป กินข้าวกันก่อนเถิด ท่านซื้อตำรับกลั่นโอสถมิได้ก็ช่างมัน ข้ามีที่เรียนแล้ว!”ในขณะที่กำลังกินข้าวหลิงอวี๋ก็เล่าให้ผู้รอบรู้ฟังว่าสำนักศึกษาชิงหลงกำลังรับสมัครบัณฑิตวิชาปรุงโอสถ“วันพรุ่งข้าจะไปลงทะเบียน หากข้าได้ที่หนึ่ง ข้าก็จะได้เรียนวิชาปรุงโอสถโดยมิต้องเสียเงินแม้แต่แดงเดียว!”แต่แม้จะมิได้ที่หนึ่งหลิงอวี๋ก็คิดว่าตนสามารถหาเงินห้าหมื่นอีแปะจากการขายตำรับยาเพียงมิกี่เล่ม นางจึงมิได้เก็บมาใส่ใจ“พี่ใหญ่ ตอนที่ลงทะเบียนมีปรมาจารย์ให้เลือกเรียนด้วยสองคน ข้ามิรู้ว่าควรจะเลือกปรมาจารย์คนไหน วันพรุ่งท่านช่วยไปสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับนิสัยของแต่ละคนให้ข้าหน่อยนะ!”เมื่อผู้รอบรู้ได้ยินว่า นักปรุงโอสถแห่งหอโอสถไป๋เป่าและซ่างกู่จะรับหน้าที่เป็นครู เขาก็พูดโดยมิลังเลว่า “มิจำเป็นต้องไปสอบถามหรอก เลือกครูของหอโอสถซ่างกู่สิ!”“เพราะเหตุใดหรือ?” หลิงอวี๋ถามด้วยความอยากรู้ผู้รอบรู้ยิ้มหยัน “คนของหอโอสถไป๋เป่าเหล่านั้นเป็นพวกยโสชอบดูถูกคนอื่น! เพราะคนที่อยู่เบื้องหลังหอโอสถของพวกเขาคือฮูหยินของเจ้าแห่งทะเลของตระกูลหลงอย่างไรเล่า!”“

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1895

    เมื่อเห็นบรรยากาศที่แสนจะคึกคัก หลิงอวี๋ก็เข้ามาดูว่าเกิดอะไรขึ้นนางเห็นประกาศว่า สำนักศึกษาชิงหลงกำลังรับสมัครบัณฑิตในหลายสาย เช่น สายนักปรุงโอสถ สายนักสร้างอาวุธ สายนักทำนายดวงดาว สายนักอัญเชิญ และสายจอมยุทธ์ ขณะที่หลิงอวี๋กำลังอ่านประกาศ นางก็ได้ยินผู้คนรอบ ๆ พูดคุยกันจากบทสนทนาของพวกเขา ทำให้หลิงอวี๋ได้รู้ว่า สำนักศึกษาชิงหลงนั้นอยู่ในการดำเนินงานของราชสำนักซึ่งให้การศึกษาด้านการฝึกฝนในระดับสูงผู้ที่ดำรงตำแหน่งเป็นครูคือปรมาจารย์ที่โดดเด่นในด้านต่าง ๆ หากมีบัณฑิตที่มีความเป็นเลิศประจักษ์แก่สายตาของอาจารย์เหล่านี้ พวกเขาก็สามารถรับเป็นศิษย์และเข้าร่วมกับกองทัพของราชสำนัก หรือสำนักใหญ่ ๆ ได้แดนเทพเปิดกว้างมากเรื่องความแตกต่างระหว่างบุรุษและสตรี สตรีนั้นสามารถเข้ามาร่ำเรียนในสำนักศึกษาและได้รับการปฏิบัติเช่นเดียวกับบัณฑิตชายหลิงอวี๋รู้สึกถูกใจในสิ่งที่ได้เห็น การที่ได้ไปร่ำเรียนในสำนักศึกษาเช่นนี้ จะทำให้ตนเข้าใจการปรุงโอสถได้ง่ายขึ้น ดีกว่าลองผิดลองถูกมิใช่หรือ?นางตั้งใจอ่านอีกครั้ง ข้อกำหนดในการลงทะเบียนมิได้เข้มงวดเกินไป และใช้เงินเพียงห้าตำลึงเงินเท่านั้นในการลงทะเบี

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1894

    หลิงอวี๋และผู้รอบรู้ได้มาถึงเมืองหลวงแดนเทพ เหมือนกับที่ผู้รอบรู้บอก เมืองหลวงแดนเทพเต็มไปด้วยโอกาสเพราะที่นี่มีผู้บำเพ็ญตนมากมายและเต็มไปด้วยกลุ่มคนน้อยใหญ่อยู่ทั่วทุกหนแห่งหลิงอวี๋เองก็รู้สึกทึ่งกับความเจริญรุ่งเรืองของเมืองหลวงแดนเทพ มีร้านค้าอยู่ทั่วทุกมุมและสินค้าที่ขายก็มีความหลากหลายแปลกตาและสวยงามเช่นเดียวกัน ราคาที่อยู่อาศัยในเมืองหลวงแดนเทพก็มีราคาแพงสองวันแรกทั้งสองคนพักที่โรงเตี๊ยมเล็ก ๆ บริเวณชานเมือง ซึ่งมีค่าใช้จ่ายคืนละห้าสิบตำลึงเงินหลังจากใช้ความพยายามอย่างมาก ในที่สุดผู้รอบรู้ก็ได้ซื้อเรือนเล็ก ๆ ของตรอกเล็กในเมืองที่อยู่ไกลออกไปโดยใช้เงินไปเกือบสามหมื่นนี่เทียบเท่ากับการใช้สมบัติของหลิงอวี๋ไปมากกว่าครึ่งหนึ่ง ซึ่งทำให้ผู้รอบรู้รู้สึกปวดใจอยู่นานแต่หลิงอวี๋พอใจแล้ว การซื้อเรือนเล็ก ๆ แห่งนี้ได้ในราคาต่ำเช่นนี้ ถือว่าผู้รอบรู้ก็มีความสามารถ มิเช่นนั้น หากดูตามราคาตลาด เรือนแห่งนี้อาจมีราคาสูงถึงห้าหมื่นด้วยซ้ำ“พี่ใหญ่ เงินหมดก็หาใหม่ได้ มิต้องเสียใจไปหรอก พวกเรามีบ้านแล้วก็สามารถหาอาชีพทำมาหากินได้”หลิงอวี๋พูดปลอบอีกฝ่ายด้วยความมั่นใจเรือนเล็กนี้รวมห

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status