“หลิงอวี๋… นังสารเลว!”กวนอิ่งพุ่งเข้ามาด้วยท่าทางดุดัน ยกมือขึ้นแล้วเหวี่ยงไปที่หน้าหลิงอวี๋อย่างแรงขณะที่หลิงอวี๋กำลังจะหลบ ผู้คุ้มกันสองคนก็คว้าแขนของนางไว้เพียะ เพียะ เพียะ…กวนอิ่งง้างมือซ้ายทีขวาด้วยความโกรธ แล้วตบไปหลายครั้งจนหลิงอวี๋เวียนหัว“หมาบ้า เจ้าบ้าไปแล้วหรือ? กล้าทุบตีข้า เจ้าไม่กลัวว่าข้าจะลงโทษเจ้ารึ?”หลิงอวี๋มึนงง นางกับกวนอิ่งมีความแค้นกันฝังลึกแค่ไหนกัน กวนอิ่งถึงได้บ้าถึงเพียงนี้?“เจ้าทำอะไร? เจ้ามิรู้รึ? เจ้าทำร้ายข้า… ข้าจักมิเสียเวลาพูดกับเจ้าอีก...”กวนอิ่งจิกผมของหลิงอวี๋พลางเอ่ยอย่างชั่วร้าย“วันนี้ข้าจักทำให้เจ้ารู้ว่าอะไรที่เรียกว่าตายทั้งเป็น!”“สำหรับความเจ็บปวดที่ข้าได้รับ ข้าจักทำให้เจ้าชดใช้เป็นสิบเท่าร้อยเท่า!”กวนอิ่งเตะเข่าของหลิงอวี๋อย่างแรง หลิงอวี๋จึงคุกเข่าลงด้วยความเจ็บปวด“กวนอิ่ง เจ้าทำบ้าอะไร? เซียวหลินเทียนไม่มีทางปล่อยเจ้าไปแน่!”หลิงอวี๋ตะคอกด้วยความโกรธ “กวนอิ่ง เจ้ากล้ามีเรื่องกับข้าเช่นนี้ ข้าไม่มีทางปล่อยเจ้าไปแน่นอน!”“เอายาให้นาง!”“สารเลว! หากเจ้ามีชีวิตอยู่รอดพ้นคืนนี้ไปได้ เจ้าค่อยมาพูดคำโหดร้ายเช่นนี้ใหม่!”
“ท่านแม่ ผู้หญิงคนนี้คุณหนูใหญ่สั่งเป็นการส่วนตัวว่าให้ดูแลให้ดี คืนนี้อย่าปล่อยให้นางอยู่เฉย ๆ…”เสียงหัวเราะลามกของผู้คุ้มกันมาจากประตูหลิงอวี๋ลืมตาขึ้น เห็นว่าผู้คุ้มกันหันหลังให้ตน นางรีบเข้าไปในมิติ หยิบเข็มยาสลบและยาถอนพิษออกมายาที่ทำให้มึนเมาเช่นนี้ หลิงอวี๋เคยศึกษามาก่อนจึงพยายามเตรียมยาแก้พิษนางรีบฉีดยาให้ตน แต่ก่อนที่จะดึงเข็มออก นางก็ได้ยินผู้คุ้มกันอีกคนพูด“พี่… ให้พวกเรามาสนุกกันก่อนดีกว่า แทนที่จะเสียเปรียบคนอื่น สู้พวกเราได้ก่อนดีกว่า!”ผู้คุ้มกันตรงหน้าลังเล “หากคุณหนูใหญ่รู้เข้า...”“เหอะ นางแค่ให้เราดูผู้หญิงคนนี้ไม่ให้หนีไปไหน นางจะรู้หรือว่าเราทำอะไร?”เมื่อกี้เขาพาหลิงอวี๋มา ร่างกายที่อ่อนนุ่มของหลิงอวี๋ทำให้ผู้คุ้มกันไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ทันทีที่ได้ยินสิ่งที่น้องชายพูด ก็หวั่นไหวทันที!“ท่านแม่ เช่นนั้นท่านลงไปก่อนเถิด! พวกเราเสร็จแล้วจะเรียก!”พูดแล้วผู้คุ้มกันทั้งสองก็ปิดประตู แล้วเดินไปหาหลิงอวี๋ด้วยรอยยิ้มหลิงอวี๋บีบเข็มยาสลบแน่น แอบดีใจที่ผู้คุ้มกันสองคนนี้กล้าพอที่จะมาพร้อมกัน ไม่เช่นนั้นคงเป็นเรื่องยากสำหรับตนที่จะจัดการกับพวกเขาทีละคน
รถม้ามุ่งกลับไปยังตำหนักอ๋องอี้ระหว่างทาง หลิงอวี๋ผลัดผ้าเปลี่ยนเป็นอาภรณ์ที่หลิงซวนเตรียมไว้ให้นาง ให้ดูแล้วไม่ได้ดูแย่อะไรกระทั่งมาถึงตำหนักอ๋องอี้ หลิงอวี๋ก็พาคนสองสามคนวิ่งไปที่เรือนริมวารีที่ประตูมีองครักษ์ที่ไม่คุ้นเคยสองคนอยู่ หลิงอวี๋ไม่รู้จัก เมื่อเห็นว่าไฟในเรือนยังสว่างอยู่ จึงเอ่ย “ข้าต้องการพบท่านอ๋อง!”องครักษ์คนหนึ่งเอ่ยอย่างเย็นชา “พระชายาอ๋องอี้ ท่านอ๋องบรรทมแล้ว! ท่านรับสั่งมิอนุญาตให้ผู้ใดไปรบกวน!”หลิงอวี๋ขมวดคิ้ว แต่ยังคงเอ่ยอย่างอดทน“รบกวนพวกเจ้าไปรายงานทีว่าข้ามีเรื่องด่วนมากจะพูดกับท่านอ๋อง!”องครักษ์อีกคนหัวเราะอย่างดูถูก“พระชายาล้อเล่นหรือ! ชิวเหวินซวงกลับมาแล้ว ท่านมิต้องดูแลบ้านแล้ว ยังจะมีเรื่องด่วนมากอันใดอีก!”“พระชายา โปรดกลับไปเถิด! อย่าทำให้พวกเราลำบากเลย!”หลิงอวี๋อยากจะพูดอีก แต่ก็เห็นไฟในห้องนอนของเซียวหลินเทียนดับลง!นี่หมายความว่าเซียวหลินเทียนไม่เต็มใจที่จะพบนางใช่หรือไม่?หลิงอวี๋นึกถึงวันที่นางฝังเข็มให้เซียวหลินเทียนได้ เขามิยอมให้ตนสัมผัสเขา!หัวใจของนางเย็นวาบทันที!คิดไม่ถึงว่าเซียวหลินเทียนจะแยกเรื่องอื่นกับเรื่องส่วนตัว
“ท่าน… ช่วยข้าด้วย…”ฮูหยินกวนกู่ร้องเศร้าสลด เสียงอันเจ็บปวดดุจมีดกรีดหัวใจท่านกวนเอ้อร์!เขาพยายามดิ้นให้หลุดจากเชือกที่มัดตัวเองไว้ แต่เชือกหนังวัวโชกไปด้วยน้ำ เขายิ่งดิ้นรนก็ยิ่งมัดแน่นขึ้นเรื่อย ๆ!“กวนอิ่ง เจ้าเดรัจฉาน เจ้ามันมิใช่มนุษย์…”ท่านกวนเอ้อร์คำรามเสียงแหบ “เจ้าจะฆ่าจะแทงก็มาลงที่กวนผิง ไยเจ้าไปลงที่สตรี?”“เหอะ… บัดนี้ปวดใจแล้วหรือ? แล้วตั้งนานเจ้ามั่วทำกระไร?”กวนอิ่งยิ้มหยันกล่าว “หากเจ้าเชื่อฟ้าคำพูดข้า ให้หลิงอวี๋ดื่มชาถ้วยนั้น ทุกอย่างคงหาได้เกิดขึ้นไม่?”“เจ้ามันไร้เมตตาธรรม ยังคิดให้ข้าไว้ชีวิตครอบครัวเจ้าอีกรึ?”“ตัวข้าพูดไปแล้ว หากทำให้หลิงอวี๋เจ็บปวดไม่ได้ งั้นก็ให้ฮูหยินของเจ้าเจ็บปวดเถอะ!”ท่านกวนเอ้อร์กู่คำราม “อย่าพูดให้ดูดีนักเลย! กวนอิ่ง แม้ข้าจะเชื่อฟังเจ้า เจ้าก็ไม่ละเว้นครอบครัวข้า!”“ฮิฮิ กวนผิง เจ้าฉลาดนี่! แต่เจ้ามาตอกกลับเอาตอนนี้ ไม่สายไปหน่อยรึ?”กวนอิ่งใช้แส้หวดใบหน้าท่านกวนเอ้อร์ กล่าวเสียงเหี้ยม“เป็นแค่เด็กเก็บมาเลี้ยง บังอาจแย่งทรัพย์สมบัติของพ่อข้า! ในเมื่อนายท่านรักเจ้านัก เจ้าก็ลงไปอยู่กับเขาเถอะ!”หัวใจท่านกวนเอ้อร์หมดหวัง
“ฮ่าฮ่า… เจ้าคลานมาให้ข้าดูซิ!”“พวกเจ้าได้ยินรึยัง? กวนผิงยอมรับว่าตัวเองเป็นสุนัขของตระกูลกวนแล้ว! ฮ่าฮ่า!”กวนอิ่งระเบิดหัวร่ออย่างเหิมใจพลางชี้ยังผู้คุ้มกันคนหนึ่ง “ไปเอาสายจูงสุนัขมาคล้องให้เขาเสีย เมื่อเขาคลานจนข้าพอใจแล้ว ข้าจักปล่อยฮูหยินเขาไป!”ผู้คุ้มกันคนนั้นเอาสายจูงสุนัขมาคล้องคอของท่านกวนเอ้อร์จริง ๆผู้คุ้มกันคนหนึ่งปลดเชือก และเท้าข้างหนึ่งก็เตะท่านกวนเอ้อร์หงายพื้น“คลาน… คลานไว ๆ…”ท่านกวนเอ้อร์กระอักเลือดสดเต็มปาก เนื่องจากขบฟันอย่างแรง…ทันทีที่เขาลุกนั่ง แส้ของกวนอิ่งก็ทักทายบนหน้าทันทีเพียะ…การหวดด้วยแส้ทำให้ใบหน้าท่านกวนเอ้อร์เนื้อปริในทันใด“คลานไว ๆ… มิเช่นนั้นข้าจักพิ่มผู้ชายอีกสองคนให้ฮูหยินเจ้าเสีย…”ท่านกวนเอ้อร์จ้องกวนอิ่งเขม็ง สุดท้ายก็คุกเข่าลงอย่างอัปยศ“ท่าน…”ฮูหยินกวนเอ้อร์มองสามีชายชาติเสือของตน ยอมต้อยต่ำเช่นนี้เพื่อชีวิตรอดของนางกับลูก แล้วนางก็รู้สึกดุจมีดกรีดหัวใจขณะนั้นเอง ฮูหยินกวนเอ้อร์ก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป ตนถูกคนข่มขืนไปแล้ว นางจะมีหน้าใช้ชีวิตอยู่บนโลกได้อย่างไร!แม้เพื่อช่วยท่านกวนเอ้อร์ นางก็มิอาจมีชีวิตอย่างไร้ความหมายไ
“คุณหนูใหญ่ขอรับ คนของพวกเขามากเกินไป พวกเรารีบหนีเถอะขอรับ!”เมื่อพ่อบ้านเหอเห็นคนกลุ่มใหญ่ห้อตะบึงมาทางนี้ก็รีบดึงกวนอิ่งจากไปครั้นกวนอิ่งเห็นลิ่วล้อตัวเองล้มลงเป็นแถบในพริบตา และมองพวกหลิงอวี๋เข้ามาอย่างดุดัน นางก็ตกใจกลัวเสียแล้วกวนอิ่งรีบขึ้นม้าพลันหนีไปพร้อมผู้คุ้มกันที่เหลือท่านกวนเอ้อร์หมายไล่ตาม แต่กวนซิงกอดเขาไว้แน่นจึงตามไปมิได้ ทำได้เพียงมองกวนอิ่งหนีไปไกลอย่างเหี้ยมเกรียม!“ท่านเอ้อร์…”หลิงอวี๋วิ่งมาใกล้ก็เห็นสายจูงสุนัขยังห้อยบนคอท่านเอ้อร์อยู่ พลางอุ้มกวนซิงโดยที่เลือดเต็มตัว…ยังมีฮูหยินสวมอาภรณ์กะรุ่งกะริ่งพร้อมดาบเล่มหนึ่งเสียบบนท้อง แต่บนหน้ากลับแขวนรอยยิ้มไว้…หัวใจของหลิงอวี๋จมดิ่งลงหนักหน่วง ไม่ต้องเห็นด้วยตาตัวเอง นางก็เดาออกว่าเกิดอะไรขึ้น…พวกเขามาช้าเกินไป… !“ท่านเอ้อร์…”เป็นครั้งแรกที่หลิงอวี๋มิรู้ว่าควรพูดสิ่งใด ไม่ว่าคำปลอบโยนใด ๆ ก็ไร้ความหมายกับสถานการณ์เช่นนี้!เป็นท่านกวนเอ้อร์ตอบสนองก่อน ด้วยเสียงเย็นชา“พระชายาอ๋องอี้ โปรดช่วยข้าดูแลลูกชั่วคราว… และข้าขอยืมกำลังคนด้วยได้หรือไม่!”เขาก็มีความเจ็บแค้นต่อหลิงอวี๋และเซียวหลินเทียนเช่นก
เถาจื่อหน้าขรึมเดินไปด้านข้าง ไม่ให้หลิงซวนเห็นน้ำตาของนางปี้ไห่เฟิงให้สหายผู้หนึ่งไปซื้อโลงศพอย่างเงียบ ๆ หลังหลิงซวนได้ยินก็ถือตั๋วเงินสองร้อยตำลึงส่งให้เขา กล่าวสะอึกสะอื้น“ช่วยซื้ออาภรณ์ดี ๆ สักหน่อยด้วยเถิด!”สหายผู้นั้นจึงถือตั๋วเงินขี่ม้าจากไปหลิงอวี๋เหม่อมองด้านคฤหาสน์ตระกูลกวน มิรู้สถานการณ์ทางนั้นเป็นเช่นไรพวกเขาอยู่ด้านกระท่อมเพิงมาตลอด ครั้นรอจนฟ้าสาง ท่านกวนเอ้อร์ก็พาเจียงเผิงกับคนของตนและพวกเกิ่งเสี่ยวหาวต่างกลับมากันแล้ว“ท่านเอ้อร์ นายท่านไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”หลิงอวี๋ถามอย่างเป็นห่วงสีหน้าท่านกวนเอ้อร์ท้อแท้พลางส่ายหน้า เสียงแหบพร่า “นายท่านไปแล้ว…”หลิงอวี๋ผงะไปฉับพลัน“สมน้ำหน้าเขาชะมัด ไม่สมควรได้รับความเห็นใจ!”ท่านกวนเอ้อร์ด่าอย่างรุนแรง แต่น้ำตากลับไหลลงอย่างควบคุมมิได้เขาหันหลังไปเช็ดน้ำตา กล่าวเยือกเย็น“กวนซินกับกวนอิ่งพาคนส่วนใหญ่กลับไปเอาทรัพย์สมบัติส่วนมากของตระกูลกวน! และได้ยินว่าไปขอพึ่งองค์ชายคัง!”“พระชายาอ๋องอี้ เหตุผลที่กวนอิ่งทำกับเจ้าวันนี้ เป็นเพราะถูกองค์ชายเว่ยวางยาข่มขืน!”“องค์ชายเว่ยตรัสว่าเป็นอุบายของเจ้า นั่นคือสาเหตุที่กว
“พระชายาอ๋องอี้…”“เรียกข้าหลิงอวี๋เถิด!”บัดนี้หลิงอวี๋ไม่ชอบชื่อเรียกพระชายาอ๋องอี้นัก เพราะเซียวหลินเทียนรับปากช่วยท่านกวนเอ้อร์ แต่กลับทำมิได้ แม้จะมีสาเหตุก็ตามที!ครั้นมาขอความช่วยเหลือถึงหน้าประตูบ้าน เซียวหลินเทียนจะปฏิเสธได้เยี่ยงไรถ้ามิใช่เพราะพวกเขาล่าช้า มาเร็วกว่านี้หน่อย บางทีฮูหยินกวนเอ้อร์อาจยังมิสิ้นใจ!ท่านกวนเอ้อร์ก็ตระหนักได้ถึงความรู้สึกผิดอันลึกซึ้งของหลิงอวี๋ถึงแม้ความรู้สึกผิดอักโขจะแลกความบริสุทธิ์กับชีวิตของฮูหยินเขาคืนมามิได้แต่หลิงอวี๋… ทำดีต่อเขาที่สุดแล้วจริง ๆ!และพวกเขามีศัตรูร่วมกัน!ท่านกวนเอ้อร์พูดเสียงทุ้ม “หลังพิธีฝังศพนายท่านกับฮูหยิน ข้าอยากพักผ่อนระยะหนึ่ง ให้กวนอิ่งกับกวนซินใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายไปก่อนเถอะ!”“ข้าจักไปหาเจ้าภายหลัง!”หลิงอวี๋ผงกศีรษะ กิจการของตระกูลกวนสลับซับซ้อน นางมิอยากเชื่อว่านายท่านจะหักใจมอบทรัพย์สมบัติทั้งหมดให้จักรพรรดิจริง ๆบางทีท่านกวนเอ้อร์อาจอยากแอบวางกลยุทธ์ จัดระเบียบตระกูลกวนขึ้นใหม่!และยืมโอกาสล้างแค้นต่อ!เช่นนี้ก็ดีนัก ท่านกวนเอ้อร์จะได้เลี่ยงความสนใจไปก่อนชั่วคราว ให้องค์จักรพรรดิเปลี่ยนไปมุ่งเป