เมื่อคำพูดนี้ออกมา สีหน้าหลิงเสียงเซิงผกผันสิ้นทว่ากำลังมองดาบแวววับของลู่หนานยังคงกวัดแกว่งตรงหน้า แม้ยืมความกล้าหาญของหลิงเสียงเซิง เขาก็ไม่กล้าซักถามหลิงอวี๋อีกท่านอดีตเสนาบดีหัวเราะเยาะหยัน เอ่ยขุ่นเคืองว่า “หมอหลวงจาง เจ้าหลอกเอาเงินเพราะข้าพูดไม่ได้หรือ?”“ถึงแม้สติข้าเลอะเลือน แต่ยังรู้สึกตัวอยู่! เดิมทีเจ้าเข้ามาไม่ได้ป้อนยาลับอะไรข้าเลย!”“หลังเจ้าทายาสมุนไพรให้ข้า ขาข้าก็เจ็บรุนแรงเริ่มหายใจลำบาก”“ข้าฟื้นได้ ทั้งหมดคือหลานสาวข้าช่วยรักษาข้า! หากปล่อยหมอกำมะลออย่างเจ้ามารักษา ข้าคงตายไปแล้วกระมัง!”หมอหลวงจางตกใจสั่นเทิ้มทั้งร่าง คาดไม่ถึงว่าท่านอดีตเสนาบดีจะเข้าใจกระจ่าง?เช่นนั้นเขารู้เรื่องที่ตนวางยาพิษเขาหรือไม่?สมองหมอหลวงจางปั่นป่วนเร็วรี่ เรื่องวางยาพิษตีให้ตายก็ยอมรับไม่ได้!หมอหลวงจางคุกเข่าลงดังตุ้บ พูดอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ“ได้โปรดท่านอดีตเสนาบดีให้อภัยความผิด… ทั้งมวลคือความสับสนชั่วขณะของข้า! ถึงคิดแอบอ้างผลงานขอรับ!”“ข้าขอแสดงการขออภัยพระชายาอ๋องอี้… พระชายาอ๋องอี้ ข้าผิดแล้ว...”“ช้าก่อน!”เซียวหลินเทียนยิ้มเยาะ “หมอหลวงจางว่าโขกหัวคำนับแสดงการขออภัยแก่
หลิงเสียงเซิงเอื่อยเฉื่อยคิดไม่ถึงปัญหานี้หวางซือถลึงมองหลิงเสียงเซิงโหดเหี้ยม เหลียวมองหลิงอวี๋เอ่ยยิ้ม ๆ“อาอวี๋ เจ้าอธิบายให้หลิงหว่านกับน้องเจ้าก่อนว่าต้องดูแลท่านอดีตเสนาบดีอย่างไรเถอะ!”“ข้ากับท่านพ่อเจ้าจักไปให้คนเตรียมกับข้าวให้พวกเจ้าที่ครัว! พวกเจ้าอยู่ทานข้าวก่อนเถิดหนา!”ไม่รอหลิงอวี๋ปฏิเสธ หวางซือก็ดึงหลิงเสียงเซิงไปแล้วความโกรธหลิงเสียงเซิงเต็มท้อง เห็นโดยรอบไม่มีคนก็ด่าเสียงต่ำว่า“เมื่อกี้มิใช่พูดกับเจ้าแล้วรึ? ปล่อยหลิงอวี๋ตรวจโรคท่านพ่อมิได้ ไยเจ้ามิไล่นางไป?”“ท่านอ๋องอี้จับจ้องข้าอยู่ ข้าลงมือมิสะดวก!”“แต่เจ้าเป็นแค่สตรี อีกทั้งไม่มีตำแหน่งขุนนาง ยังกลัวท่านอ๋องอี้คิดเล็กคิดน้อยกับเจ้าอีกรึ?”หวางซือโน้มไปข้างหูหลิงเสียงเซิงพลางกระซิบ“ท่านสามี ท่านเลอะเลือนแล้ว!”“ท่านจักรู้แต่ฟังคำพูดขององค์ชายเว่ย มิใช้สมองลองคิดถึงหลักลึกลับซับซ้อนภายในหน่อย! ”“ภายในมีหลักลึกลับซับซ้อนอันใดเล่า?” หลิงเสียงเซิงสับสนหวางซือหัวเราะหยัน “ท่านสามี ฮองเฮาเว่ยกับองค์ชายเว่ยพอพระทัยเยี่ยนเอ๋อร์ของเรามิใช่เพราะงดงามมีคุณธรรม แต่เป็นท่านอดีตเสนาบดี!”“ตระกูลเราล้วนอาศัย
หลิงเสียงเซิงรีบกลับมาในห้อง หลิงอวี๋อธิบายการดูแลท่านอดีตเสนาบดีเช่นไรให้หลิงหว่านเสร็จแล้วแม้หลิงเยี่ยนอยู่ในห้อง แต่เดิมทีกลับไม่ได้ตั้งใจฟังที่หลิงอวี๋พูด หากมิใช่เพราะอยู่ต่อหน้าท่านปู่นางคงไปตั้งนานแล้ว“อาอวี๋ เจ้าเป็นหมอชั้นเซียนมิใช่รึ? เจ้าทำให้ท่านปู่เจ้าหายเร็วขึ้นหน่อยได้หรือไม่? ยี่สิบกว่าวันนานเกินไปแล้ว!”เมื่อหลิงเสียงเซิงเข้าประตูก็กล่าวรีบร้อนเขาคิดเหมือนกับหวางซือ หากท่านอดีตเสนาบดีพักฟื้นนานตำแหน่งแม่ทัพใหญ่นี้ก็จะรักษาไว้มิได้!หลิงอวี๋พูดไม่ออก ท่านอดีตเสนาบดีล้มขาบาดเจ็บมิใช่มีดบาดเป็นแผลนิดหน่อยนางช่วยรักษาสุดกำลังแล้ว มิเช่นนั้นตามวิชาแพทย์โบราณ ท่านอดีตเสนาบดีคงเป็นได้แค่คนพิการติดเตียงตลอดชีวิตเท่านั้น!“พอแล้ว อย่าพูดเลย ข้าเหนื่อยแล้วพวกเจ้าออกไปเถอะ!”ท่านอดีตเสนาบดีรู้อยู่แก่ใจถึงสภาพตัวเอง แม้เขาไม่รู้ว่าหลิงอวี๋กลายเป็นหมอชั้นเซียนตั้งแต่เมื่อใด แต่ก็ไม่อยากให้หลิงเสียงเซิงทำหลิงอวี๋ยุ่งยากหลิงอวี๋เห็นกำลังวังชาท่านอดีตเสนาบดีไม่ดีพูดเยอะมิได้นางปลอบท่านอดีตเสนาบดีหลายประโยคให้เขาพักผ่อนสบายใจ กล่าวว่าจะมาตรวจดูเขาอีกวันหลังพลันเข็นเซียว
“หลิงอวี๋ หลิงเสียงเซิงขัดขวางเจ้าทุกทางที่จะช่วยท่านอดีตเสนาบดี เจ้าเคยคิดไหมว่าข้างในมีบางอย่างลึกลับซับซ้อน?”จู่ ๆ เซียวหลินเทียนก็เอ่ยถามหลิงอวี๋ได้ยินคำถามของเซียวหลินเทียนก็ผงะไปครู่หนึ่งในสมองนางยังจมอยู่กับความสงสัยเกี่ยวกับหวางซือพลันโพล่งถามว่า “เพราะเหตุใด?”เซียวหลินเทียนเห็นหลิงอวี๋ใจลอยยังนึกว่าเพราะนางเหนื่อยจะแย่แล้ว เลยพูดอย่างอดทน“ก่อนหน้านี้หลิงเสียงเซิงมิยอมให้เจ้ารักษาท่านปู่!”“ก่อนหน้าข้าได้ยินมาว่า หลิงเสียงเซิงหมายจะให้หลิงเยี่ยนเป็นพระชายารองขององค์ชายเว่ย!”“เจ้าโดนไล่ฆ่าครานี้ผู้บงการคือหานหลินที่ปรึกษาขององค์ชายเว่ย!”หลิงอวี๋ขมวดคิ้วเลิกคิดฟุ้งซ่านตั้งใจตริตรองคำพูดของเซียวหลินเทียน“ความหมายของท่านคือองค์ชายเว่ยมิอยากให้หม่อมฉันรักษาท่านปู่หายถึงขัดขวางทุกทาง ทีแรกก็ส่งมือสังหารหมายปลิดชีพหม่อมฉัน!”“พบว่าฆ่าหม่อมฉันมิได้จึงส่งสัญญาณให้หลิงเสียงเซิงขัดขวางหม่อมฉันเช่นนั้นหรือ?”“อืม ไม่งั้นเป็นลูกชายคนเดียวจะขวางคนที่ช่วยบิดาได้อย่างไร!”เซียวหลินเทียนกำลังคิดว่า ช่วงนี้หลิงอวี๋ยังต้องมารักษาท่านอดีตเสนาบดีที่จวนเสนาบดีเจิ้นหย่วนอยู่ หวั่น
หลิงอวี๋ส่ายศีรษะ “หม่อมฉันยังไม่คิดแน่ชัด! แล้วก็ไม่แน่ใจว่าใช่นางแน่หรือไม่!”“เป็นนางก็ไม่แปลกใจ เดาว่ามิชอบที่ท่านอดีตเสนาบดีเอ็นดูหม่อมฉัน ไม่อยากเตรียมสินเดิมให้หม่อมฉันมาก หรือหวั่นหม่อมฉันแย่งหน้าหลิงเยี่ยน…”หลิงอวี๋กำลังคิดก็นึกถึงเรื่องสินเดิมจริง ๆนางจำที่แม่นมลี่เคยพูดถึงได้คลุมเครือ ท่านตาอดีตอัครเสนาบดีหลานมีบุตรีแค่คนเดียวคือมารดาในปีนั้นตอนที่หลานฮุ่ยจวนออกเรือน สินสมรสที่ท่านอดีตอัครเสนาบดีหลานยกให้มากมายนัก!แต่ครั้นหลิงอวี๋ออกเรือน นอกจากสินสมรสที่ท่านอดีตเสนาบดีให้แล้วหลิงเสียงเซิงกับหวางซือแค่ให้สินสมรสของหลานฮุ่ยจวนเล็กน้อยพอเป็นสัญลักษณ์เท่านั้นเพียงแต่ตอนนั้นหลิงอวี๋ไร้กังวล ทั้งรีบออกเรือนกับเซียวหลินเทียนจึงมิได้สนใจว่าหลานฮุ่ยจวนมีสินเดิมมากน้อยเท่าใดกันแน่“รอข้ากลับไปตรวจสอบก็รู้แล้ว!”หลิงอวี๋นึกถึงหลิงผิงพลันถามว่า “ท่านช่วยตรวจสอบได้หรือไม่ว่าหลังหลิงผิงถูกขับออกตำหนักแล้วไปที่ใด?”“นางคือนางรับใช้ที่หวางซือส่งให้หม่อมฉัน บางทีนางอาจรู้เบื้องหลังอยู่บ้าง!”หลิงผิงกับหลิงหลานอยู่ด้วยกันมาหลายปีรู้จักกันดีอย่างไม่ต้องสงสัยขอแต่หาหลิงผิงพบก็
แม่นมลี่กล่าวขุ่นเคือง “เรื่องหลิงเยี่ยนทำผิดหวางซือสั่งสอนเคร่งครัด!”“แต่ท่านเล่า นางมิใช่แค่ไม่สั่งสอน ยังปลุกปั่นท่านโวว่าท่านทำดีด้วย!”“คุณหนู ท่านลองดูเถิด ชื่อเสียงมิร่ำเรียนไร้วิชาโอหังกำเริบเสิบสานพวกนั้นแพร่ออกไปได้อย่างไร? นี่มิใช่เป็นฝีมือของหวางซือหรือเจ้าคะ?”“หากหวางซือหวังดีท่านจริง ท่านที่เสมือนลูกสาวโดยกำเนิด นางจักปล่อยให้ท่านย่ำยีชื่อเสียงตัวเองหรือ?”หลิงอวี๋เข้าใจแล้ว นี่คือหวังดีประสงค์ร้าย!หวางซืออ้างว่ารักใคร่ตน ชื่อเสียงอื้อฉาว ใจกล้ามิยั้งคิดที่บ่มเพาะหลิงอวี๋แต่แรกคือการทำลายนางกลาย ๆ!หวางซือให้หลิงผิงวางพิษเรื้อรังตน เพราะมิอยากให้ตนตายอยู่จวนเสนาบดีเจิ้นหย่วน ยุคนสงสัยหลิงอวี๋ออกเรือนไปตายในเรือนคนอื่น เช่นนั้นผู้ใดจะสงสัยหวางซือเล่า?ชื่อเสียงละม่อมใฝ่คุณธรรมของหวางซือก็จะไม่รับผลกระทบสักกระผีก“คุณหนู มิใช่แค่ท่าน แม้แต่คุณชายใหญ่ก็เป็นเช่นนี้เจ้าค่ะ!”“คุณชายใหญ่โดนหวางซือยุยง มิชอบร่ำเรียนหนังสือ โดดเรียนเที่ยวเล่นไปทั่วเกือบทุกวันเจ้าค่ะ!”แม่นมลี่ถอนหายใจยาวเหยียด “คุณชายใหญ่ก็ถูกหวางซือเลี้ยงให้โอหังกำเริบเสิบสาน ครั้งหนึ่งโต้เถียงกับ
“สินเดิมแม่ท่านบ่าวก็ลืมแล้วว่าเท่าใด ตอนแม่ท่านจากไปบ่าวยุ่งเก็บศพนางอยู่ รอจนเสร็จก็หาใบรายการสินเดิมมิเจอแล้วเจ้าค่ะ!”แม่นมลี่ยิ้มขมขื่น “หลังจากนั้นท่านอดีตเสนาบดีให้พ่อบ้านทำบัญชี กล่าวว่าสินเดิมแม่ท่านจะเก็บไว้ให้พี่น้องพวกท่านในอนาคต!”“ต่อมาพ่อท่านตั้งหวางซือเป็นภรรยาเอก สินเดิมแม่ท่านก็ส่งให้หวางซือจัดการเจ้าค่ะ!”“ครั้นท่านออกเรือน ท่านอดีตเสนาบดีให้หวางซือนำสินเดิมแม่ท่านแบ่งครึ่งแก่ท่าน นางก็แบ่งแล้วเช่นกัน!”“แต่ใครจะรู้ว่าสินเดิมแม่ท่านมีเท่าใดกันแน่? มิใช่หวางซือพูดว่าเท่าใดก็เป็นเท่านั้นเสียหน่อย!”“ท่านอดีตเสนาบดีคือคนสะเพร่า ปกติหวางซือเป็นแม่บ้านในจวนมีความยุติธรรมเป็นประจักษ์ ผู้ใดจะสงสัยว่านางวางกลเล่าเจ้าคะ!”หลิงอวี๋พูดไม่ออก ก่อนหน้าหลิงอวี๋ไม่พะว้าพะวังถึงเสียเปรียบก็ไม่สงสัยหวางซือฉะนั้นหวางซือถึงกล้าหน้าไหว้หลังหลอกมากขนาดนี้!หลิงอวี๋นึกถึงเรื่องที่หลิงผิงยุยงหลอกนางไปซื้อกระบี่เลื่องชื่อพวกนั้นหัวใจก็สั่นไหว หรือว่าหวางซือก็มีส่วนร่วมอยู่ภายในนี้?ไม่เช่นนั้นหวางซือจะใจดีแบบนี้ได้อย่างไร แล้วสินเดิมแบ่งครึ่งหนึ่งให้ตนจริงหรือ?หากอุบายเหล่านี้ล้
คำพูดของเกิ่งเสี่ยวหาวทำหลิงอวี๋หัวเราะ นางรู้สึกอบอุ่นมากน้องต่างสายเลือดผู้นี้คิดว่าตนเป็นพี่แท้ ๆ ซะแล้ว!ถึงปกป้องตนเยี่ยงนี้!“มิใช่ท่านอ๋องอี้หวด… ข้าเกิดเรื่องนิดหน่อย เข้าห้องไปคุยเถอะ!”ภายนอกมีคนมากมายหลายความคิด หลิงอวี๋จึงดุนเกิ่งเสี่ยวหาวเข้าห้องนางเล่าเรื่องที่ตนประสบรวบรัดสั้น ๆ ซึ่งเตือนสติเกิ่งเสี่ยวหาวเช่นนี้หลิงอวี๋กลัวว่าเกิ่งเสี่ยวหาวใกล้ชิดกับตนจะไม่ทันเตรียมป้องกันแล้วถูกตนพัวพันไปด้วย“คนใจกล้าพวกนี้! ไม่คาดว่าจะกล้าสร้างอาวุธเถื่อน!”เกิ่งเสี่ยวหางฟังจนอ้าปากตาค้างพร้อมเข้าใจความกังวลของหลิงอวี๋แล้วเช่นกัน“วางใจ ข้าจะดูแลตัวเองอย่างดี!”“ท่านพี่ ไม่งั้นจะหานางรับใช้ได้วรยุทธสองคนให้ท่านเถิด เพื่อเลี่ยงไม่เกิดเรื่องคล้ายประเภทนี้เกิดขึ้นอีกครั้งหน้า!”หลิงอวี๋คิดแล้วผงกศีรษะ “ได้ หาคนที่หลักแหลมหน่อยสักสองคน!”นางอยู่ในแวดวงนี้ทั้งยังเป็นพระชายาอ๋องอี้!ผู้ใดจะรู้ว่าจะล่วงเกินใครในภายหลัง?หานางรับใช้ฝีมือวรยุทธดีสองคนเวลาประสบภยันตรายก็อาจช่วยรองรับได้หน่อย“วันนี้ข้ามาหาเจ้ายังมีอีกเรื่อง! คราก่อนข้าให้เจ้าสืบเรื่องที่ทุบตีเฮยจื่อบาดเจ็บ เจ้