คำพูดของเกิ่งเสี่ยวหาวทำหลิงอวี๋หัวเราะ นางรู้สึกอบอุ่นมากน้องต่างสายเลือดผู้นี้คิดว่าตนเป็นพี่แท้ ๆ ซะแล้ว!ถึงปกป้องตนเยี่ยงนี้!“มิใช่ท่านอ๋องอี้หวด… ข้าเกิดเรื่องนิดหน่อย เข้าห้องไปคุยเถอะ!”ภายนอกมีคนมากมายหลายความคิด หลิงอวี๋จึงดุนเกิ่งเสี่ยวหาวเข้าห้องนางเล่าเรื่องที่ตนประสบรวบรัดสั้น ๆ ซึ่งเตือนสติเกิ่งเสี่ยวหาวเช่นนี้หลิงอวี๋กลัวว่าเกิ่งเสี่ยวหาวใกล้ชิดกับตนจะไม่ทันเตรียมป้องกันแล้วถูกตนพัวพันไปด้วย“คนใจกล้าพวกนี้! ไม่คาดว่าจะกล้าสร้างอาวุธเถื่อน!”เกิ่งเสี่ยวหางฟังจนอ้าปากตาค้างพร้อมเข้าใจความกังวลของหลิงอวี๋แล้วเช่นกัน“วางใจ ข้าจะดูแลตัวเองอย่างดี!”“ท่านพี่ ไม่งั้นจะหานางรับใช้ได้วรยุทธสองคนให้ท่านเถิด เพื่อเลี่ยงไม่เกิดเรื่องคล้ายประเภทนี้เกิดขึ้นอีกครั้งหน้า!”หลิงอวี๋คิดแล้วผงกศีรษะ “ได้ หาคนที่หลักแหลมหน่อยสักสองคน!”นางอยู่ในแวดวงนี้ทั้งยังเป็นพระชายาอ๋องอี้!ผู้ใดจะรู้ว่าจะล่วงเกินใครในภายหลัง?หานางรับใช้ฝีมือวรยุทธดีสองคนเวลาประสบภยันตรายก็อาจช่วยรองรับได้หน่อย“วันนี้ข้ามาหาเจ้ายังมีอีกเรื่อง! คราก่อนข้าให้เจ้าสืบเรื่องที่ทุบตีเฮยจื่อบาดเจ็บ เจ้
เมื่อหลิงอวี๋ได้ยินคำพูดนี้ของเฝิงโป สีหน้าผ่อนคลายเล็กน้อยคิดครู่หนึ่งพลางหยิบตั๋วเงินร้อยตำลึงส่งให้เขา“งั้นก็ลำบากเจ้าช่วยข้าหานางให้เร็วที่สุดด้วย!”นัยน์ตาเฝิงโปทอประกาย เพิ่งคิดเอื้อมมือไปรับก็ถูกเกิ่งเสี่ยวหาวตีมือหนึ่งฝ่ามือ“ทำงานให้พี่ข้าแล้วยังกล้าเอาผลประโยชน์ วอนตายซะแล้ว!”เฝิงโปรั้งมืออย่างหน้าม่อยคอตกหลิงอวี๋ขยิบตาให้เกิ่งเสี่ยวหาว พลางเอาตั๋วเงินโยนลงบนเตียง“ฮ่องเต้ไม่ปล่อยทหารหิวโหย(1)… ให้เขาเอาเถอะ! ขอแค่เขาช่วยข้าทำงานเต็มที่เขาก็ขาดผลประโยชน์มิได้!”“เฝิงโป ข้ายังมีคำถามถามเจ้า หลิงผิงกับเจ้าวางแผนหลอกเอาเงินข้า แผนพวกนี้ผู้ใดเป็นคนคิดให้นาง?” หลิงอวี๋ถามเฝิงโปมองตั๋วเงินสักครู่พลางขบคิดคำพูดของหลิงอวี๋ก็ใจเต้นขึ้นเขาพูดเจื่อน ๆ “พระชายาอ๋องอี้ ข้าน้อยล้วนเชื่อฟังคำสั่งหลิงผิงถึงหลอกท่าน! มิใช่เจตนาจริงของข้าน้อยหลอกพระชายาขอรับ!”“เงินพวกนั้นหลิงผิงแบ่งให้ข้านิดเดียว ที่เหลือถูกนางเอาไปหมดแล้วขอรับ!”“ประเด็นคือผู้ใดคิดแผนให้นาง?” หลิงอวี๋ถามอย่างเหลืออด“เจ้าวางใจ ข้าไม่คิดตามเงินพวกนั้นคืน ข้าแค่อยากรู้ว่าผู้ใดกำลังแฝงอยู่ลับหลังข้า!”ครั้นเฝิ
หลิงอวี๋เห็นบุรุษแปลกหน้าคนหนึ่งลงรถม้าบุรุษวัยสี่สิบกว่าปี สวมเสื้อคลุมยาวสีเทา คุณภาพเสื้อคลุมประณีตละเอียด ฝีมือก็พิถีพิถันมากเช่นกันเขามีส่วนสูงปานกลาง ไว้หนวดทรงรั้งขมวด มีไฝเล็ก ๆ เด่นบนจมูกมีผู้คุ้มกันติดตามอยู่ข้างหลังเขา ดูสูงใหญ่แข็งแรงกำยำ“พวกเจ้าคือผู้ใด? เหตุใดขวางทางเรา?”ครั้นหลิงซวนเห็นสถานการณ์ก็ขวางตรงหน้าหลิงอวี๋ทันที ถามเสียงเฉียบขาด“พระชายาอ๋องอี้ ข้าหาเจ้าเจอง่ายมาก!”บุรุษหัวเราะเหน็บแนม “ข้าคือพ่อบ้านของตระกูลกวน ข้าแซ่เหอ!”“พระชายาอ๋องอี้รับเงินมากมายของตระกูลกวน รับปากไปตรวจโรคนายท่านข้าที่เรือน นี่ก็หลายวันไม่เห็นไปเยือน!”“ท่านเอ้อร์ให้เหอโหม่วมาเชิญพระชายา… พระชายาอ๋องอี้ โปรดขึ้นรถม้าเถิดขอรับ!”คราก่อนหลิงอวี๋เคยถูกคนหลอกอ้างเป็นตระกูลหลี่ว์ ครานี้ก็หลักแหลมขึ้นแล้ว นางหัวเราะเล็กน้อย“พ่อบ้านเหอ วันนี้หลิงอวี่ยังมีธุระไม่มีเวลาไป!”“หลิงอวี๋รับปากเจ้า รุ่งเช้าวันพรุ่งจักไปตรวจโรคนายท่านที่เรือน!”พ่อบ้านเหอหน้าขรึมทันใดพลางพูดเคืองขุ่น “พระชายาอ๋องอี้ เหอโหม่วรับปากท่านเอ้อร์แล้วจักเชิญคนไปแน่นอน โปรดพระชายาอ๋องอี้อย่าทำเหอโหม่วลำบากเล
รถม้ามุ่งหน้าสู่คฤหาสน์กวนหลิงอวี๋พิงกำแพงรถม้าพักผ่อนพลางใส่ใจเส้นทางไปด้วยก่อนหน้านางรู้เกี่ยวกับตระกูลกวนจากปากหลิงซวนตระกูลกวนร่ำรวยเช่นนี้ ลือกันว่าเป็นบรรพบุรุษตระกูลกวนค้นพบเหมืองทองแห่งหนึ่งเหมืองทองแห่งนี้เกื้อหนุนตระกูลกวนเปิดร้านมองหลายที่ทั่วแคว้น ไม่แปลกใจว่าจะร่ำรวยเทียมแคว้นขณะนั้นเองหลิงอวี๋นึกถึงคำพูดอวดดีประโยคนั้นที่กวนอิ่งเอ่ยกับเซียวหลินเทียน“ขอเพียงท่านตบแต่งกับข้า ทรัพย์สมบัติครึ่งหนึ่งของตระกูลกวนจะเป็นของท่าน!”หลิงอวี๋เคยถามหลิงซวนอย่างใคร่รู้ ตระกูลกวนมีคนแบบใดบ้าง?หลิงซวนก็พูดทุกอย่างที่ตนได้ยินมาให้หลิงอวี๋แล้วนายท่านาตระกูลกวนมีทายาทน้อยนิด ชั่วชีวิตนี้มีบุตรชายเพียงคนเดียวท่านกวนต้าท่านกวนเอ้อร์ที่พูดถึงคือท่านเอ้อร์ของตระกูลกวน ที่จริงแล้วถูกนายท่านกวนรับเลี้ยงตั้งแต่ยังเล็ก!ท่านต้าตระกูลกวนคือบุตรชายของนายท่านกวน อีกทั้งมีแค่บุตรคนเดียวด้วย!ท่านกวนต้าผู้นี้ถูกฮูหยินใหญ่กวนรักเอ็นดูมากตั้งแต่ยังเด็ก แต่เขาไม่มีความสามารถโดดเด่นพิเศษอะไร!แต่ท่านกวนเอ้อร์กลับอยู่ข้างกายนายท่านกวนตั้งแต่เล็กจนโต ติดตามนายท่านกวนขึ้นเหนือล่องใต้ ลือว
พอหลิงอวี๋ได้ยินเสียงกวนอิ่ง ยังคิดไม่ถึงว่านางต้องการทำอะไรตนเสียงแส้ม้าเพียะ เพียะ เพียะ ไม่ขาดสายหลิงอวี๋ได้ยินเสียงม้าร้องฮี้อย่างเจ็บปวด รถม้าโคลงเคลงขึ้นลงหลิงอวี๋ถูกปะทะจนตุปัดตุเป๋นางรีบคว้าขอบหน้าต่างรถไว้มั่นพลางตรึงร่างตนให้คงที่สุดแรงประเดี๋ยวเดียวหลิงอวี๋ก็มองกระจ่างทันที กวนอิ่งมิใช่ต้องการชีวิตตน นางแค่ทำให้ตนอับอายด้วยวิธีเช่นนี้ ให้ตนรับความระทมหากคนตายจะไม่จบ แต่ถ้ากลิ้งไปมาถูกกระแทกจนจ้ำช้ำเขียวเต็มร่างอย่างนี้นี่กวนอิ่งกำลังแสดงอำนาจใส่ตน!หลิงอวี๋ตระหนักรู้จุดนี้ พลางร่างกายร่วงหล่น พลางคิดหาแผนรับมือกวนอิ่งแค่หมายตนอ้อนวอนกันแสงลั่นฟ้าโขกหัวสู่ดินต่อนาง ระบายความขุ่นเคืองจากความอัปยศอดสูในวันนั้น!หลิงอวี๋ไม่สบายใจที่ถูกสั่นสะเทือน นางกำลังฝืนยันก็พลันได้ยินเสียงเรียกคลุมเครือ“คุณหนูใหญ่ คนของท่านอ๋องอี้ไล่ตามมาแล้วขอรับ!”หลิงอวี๋ถอนหายใจโล่งอก เซียวหลินเทียนตามมาแล้วนั่นดีนัก!“เฮอะ ตัวข้ากลัวคนง่อยนั่นรึไง?”“นี่คืออาณาบริเวณของตระกูลกวนแล้ว หากเขากล้ามา แม้แต่เขาตัวข้าก็จะเก็บกวาดด้วย!”เมื่อกวนอิ่งนึกถึงวันนั้นที่ขอแต่งงานกับเซียวหลินเที
“กวนอิ่ง ไม่ว่าเจ้าจะมองข้าเช่นไร กวนผิงทำเพื่อตระกูลกวนทั้งสิ้น!”“พระชายาอ๋องอี้เป็นกวนผิงเชิญมา กวนผิงแค่มีหน้าที่รับรองความปลอดภัยของนาง!”ท่านกวนเอ้อร์พูดใจเย็น “เจ้าไม่พอใจอะไรกวนผิงวันหลังค่อยว่ากัน ตอนนี้เชิญพระชายาไปตรวจโรคนายท่านก่อนเถอะ!”“เว้นแต่เจ้ามิหวังให้นายท่านหายป่วย ไม่งั้นก็อย่ามาขัดขวางอีก!”กวนอิ่งเหลือบจ้องท่านกวนเอ้อร์เคียดแค้น หัวเราะเยาะหยันพลางมองรถม้าหยุดลง หลิงอวี๋ยังไม่ทันออกมาหญิงต่ำช้าผู้นี้ถูกกระแทกจนเป็นลมตายในรถม้าแล้วแน่รึ?กวนอิ่งหัวเราะดีอกดีใจ ขณะคิดพาคนของตนไปก่อน เซียวหลินเทียนก็พาคนรุดมาแล้วกวนอิ่งเห็นเซียวหลินเทียนมาแล้ว นางเลยไม่คิดไปอีกหากทำหลิงอวี๋อัปยศต่อหน้าเซียวหลินเทียนได้ นั่นคงระบายความโกรธนัก!“คุณหนู…”ครั้นหลิงซวนรอรถม้าหยุดลงก็วิ่งไปรถม้าที่หลิงอวี๋นั่งอย่างตะลีตะลานความโกรธเต็มท้องที่นางถูกกลิ้งไปมา หลิงอวี๋เพิ่งจัดเสื้อผ้าหน้าผมเสร็จพลางตีหน้าขรึมจับมือหลิงซวนลงรถม้าพอเห็นกวนอิ่ง หลิงอวี๋ก็พุ่งไปโดยตรง สะบัดมือตบหน้ากวนอิ่งอย่างเหี้ยมเกรียมกวนอิ่งไม่คิดฝันว่าหลิงอวี๋จะตบตนพลางนิ่งงันไปชั่วขณะถึงโถมโจมตีอย่างกร
“กวนอิ่ง อย่าเสียมารยาท!”ท่านกวนเอ้อร์เห็นว่ากวนอิ่งยิ่งพูดก็ยิ่งคุมไม่รู้เรื่อง จึงขัดจังหวะนางด้วยใบหน้านิ่ง“ข้าพูดอะไรผิดไปหรือ?”กวนอิ่งไม่สนใจการขัดขวางของท่านกวนเอ้อร์ ไม่สามารถตีหลิงอวี๋ได้ แต่ก็ไม่สามารถอับอายกลับไปได้นี่?นางยิ้มเยาะพลางเอ่ย“ลุงรองหรือว่าพูดความจริงก็ผิดหรือเจ้าคะ?”“ท่านอ๋องผู้สง่างามศักดิ์ศรียังไม่เท่าพ่อบ้านตระกูลกวน ก็ไม่ต้องเป็นท่านอ๋องแล้ว!”พ่อบ้านเหออยู่ด้านข้างได้ยินเข้าก็ยืดอย่างค่อนข้างภูมิใจ มองไปทางเซียวหลินเทียนด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยามหลิงอวี๋หน้านิ่งกวนอิ่งทำให้ตนเองลำบากก็ยังพอว่า แต่เพราะเซียวหลินเทียนมาที่นี่เพื่อตนเอง นางจะทนเห็นเซียวหลินเทียนถูกทำให้อับอายได้เยี่ยงไร!เซียวหลินเทียนเป็นผู้ชาย และเป็นท่านอ๋องด้วย การโต้เถียงกับนางผู้หนึ่งมันคือการลดตัว!นางเป็นผู้หญิง เรื่องการโต้เถียงปล่อยให้เป็นหน้าที่นางเถิด!“ศักดิ์ศรีของคุณหนูใหญ่กวนหมายถึงมีเงินมากแค่ไหนหรือ?”หลิงอวี๋หัวเราะเยาะ “กบในกะลาก็ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้นหรอก!”“คุณหนูกวน เจ้าลองให้พ่อบ้านเหอไปเดินเล่นรอบ ๆ เมืองหลวงดูสิ!“มาดูกันว่าพ่อบ้านเหอพกเงินหนึ่งแสนแ
ท่านกวนเอ้อร์เห็นกวนอิ่งพาคนของนางออกไปแล้ว เขาก็ก้าวไปโค้งคำนับอย่างสุดซึ้ง“หลานสาวกระหม่อมผู้นี้ถูกเอาใจจนนิสัยเสีย! แซ่กวนรู้ดีว่าหากช่วยนางปกปิดต่อไป ก็ปกปิดความจริงมิได้!”“แซ่กวนจะไม่เอ่ยอันใดอีกต่อไป ขอแค่ท่านอ๋องอี้และพระชายาอ๋องอี้เห็นแก่แซ่กวน ช่วยรักษาให้นายท่าน! บุญคุณอันยิ่งใหญ่นี้ แซ่กวนจักจดจำมันไว้ในใจพ่ะย่ะค่ะ!”“วันข้างหน้ามีตรงไหนที่แซ่กวนพอมีประโยชน์ แซ่กวนจักบุกน้ำลุยไฟโดยมิลังเลเป็นแน่พ่ะย่ะค่ะ!”เซียวหลินเทียนมองหลิงอวี๋ พลางเอ่ยอย่างใจเย็น “พระชายาบอกจะรักษาก็ว่าตามนั้น!”ท่านกวนเอ้อร์มองไปทางหลิงอวี๋อย่างคาดหวังหลิงอวี๋เห็นทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่แล้ว ท่านกวนเอ้อร์ผู้นี้ในฐานะลูกบุญธรรมของตระกูลกวน ความห่วงใยที่มีต่อนายท่านยังดูเหมือนคนในตระกูลกวนยิ่งกว่ากวนอิ่งอีก!สำหรับความจริงใจนี้ หลิงอวี๋ก็ไม่อยากทำให้ท่านกวนเอ้อร์ผิดหวังเช่นกันหลิงอวี๋เอ่ยยิ้ม ๆ “ท่านกวนเอ้อร์พูดเช่นนี้แล้ว หลิงอวี๋จักมิเข้าใจได้เยี่ยงไรเจ้าคะ! เพราะความกตัญญูของท่านกวนเอ้อร์ โรคนี้จึงต้องรักษาให้หาย!”ท่านกวนเอ้อร์ถอนหายใจโล่งอก แล้วมองหลิงอวี๋อย่างลึกซึ้งพระชายาอ๋องอี้