หลิงอวี๋รีบหันไปมอง นอกจากจางเสี่ยวเยี่ยนที่สีหน้าจริงจังแล้ว ก็ไม่เห็นใครเข้ามาหลิงอวี๋โหดร้ายขึ้นมาทันที แล้วรีบเทยาสลบลงในซุปจากนั้นก็รีบคนจากนั้น หลิงอวี๋ก็รีบโยนห่อยาเข้าไปในกองไฟ แล้ววิ่งไปที่ประตู“ข้าอยู่นี่ ใครตามหาข้าหรือ!”“ข้าเองที่หาเจ้า ตามข้ามาสิ!”หลิงอวี๋เห็นว่าคนที่มาคือเถาเฉิง หัวใจของนางเต้นรัว ค่อนข้างโกรธเวลานี้เถาเฉิงมาหาตนเองจะมีเรื่องอันใด จะไม่ทำลายแผนการหลบหนีของตนเองใช่หรือไม่!“มีอะไรหรือ?”หลิงอวี๋เอ่ยอย่างอารมณ์ไม่ดี “ข้ายังต้องส่งอาหารให้พวกช่างตีเหล็กอีก!”“ข้าหาผู้ช่วยสองสามคนให้เจ้าแล้ว ให้พวกเขาไปส่งก็พอ เจ้าตามข้ามา!”เถาเฉิงเอ่ยอย่างชัดเจนหลิงอวี๋ได้ยินน้ำเสียงของเขามิได้ดูใจดีเหมือนเมื่อคืนนี้ ก็ยิ่งรู้สึกกังวลหรือว่าแผนที่พวกจางเฉียนจะหลบหนีจะรั่วไหลออกไปแล้ว?“เสี่ยวเยี่ยน เจ้าไปส่งอาหารก่อนเถิด ประเดี๋ยวข้าจะมาหาเจ้า!”หลิงอวี๋เห็นสายตาที่เป็นกังวลของจางเสี่ยวเยี่ยน จึงตบไหล่ของนางอย่างปลอบโยนพูดจบ หลิงอวี๋ก็เดินตามเถาเฉิงไปที่ค่ายทหารเข้าไปในเรือนของทหารจู หลิงอวี๋ก็ยิ่งรู้สึกว่าใจจะมาจุกอยู่ที่ลำคอทหารจูที่มีท่าทีรุนแ
มือของหลิงอวี๋ขยับไปที่เอวโดยไม่รู้ตัว ครุ่นคิดว่าตนเองมีโอกาสที่จะจับทหารจูมัดแล้วหลบหนีไปมากแค่ไหน!“ทหารจู เจ้าพูดเล่นแล้ว! พระชายาอ๋องอี้กระไรนั่นคือผู้ใดกัน? ข้ามิรู้จริง ๆ!”“ข้าเป็นแค่เด็กผู้หญิงที่ไปเยี่ยมญาติแล้วพลักตกเขา!”หลิงอวี๋แย้มยิ้ม พยายามลดความระวังตัวของทหารจู หากลงมือให้ดีก็จะได้บรรลุเป้าหมายเห็นได้ชัดว่าทหารจูไม่ได้หลอกง่ายถึงเพียงนั้น เขาเอ่ยถามเสียงเข้มงวด“ท่านอ๋องอี้ส่งท่านไปสำรวจเหมืองหรือ? เขารู้เรื่องในเหมืองมากแค่ไหน?”“ท่านอ๋องอี้คิดจะกระทำอันใดกันแน่?”“ท่านคือพระชายาอ๋องอี้ใช่หรือไม่”หลิงอวี๋อ้าปากค้างกับคำถามแต่ละคำถามของทหารจู นางไม่รู้ว่าจะแก้ต่างเยี่ยงไร!หลิงอวี๋หยิบมีดผ่าตัดออกมา ตอนที่กำลังคิดจะทุ่มสุดตัวเข้าไปควบคุมทหารจูจู่ ๆ เถาเฉิงก็ตะโกนมาจากด้านนอก “พี่จู ทหารเฉามาแล้ว ให้พี่รีบไปที่ค่ายทหารทันที!”หัวใจของหลิงอวี๋เต้นรัว ทหารเฉาที่จับตัวนางมาที่นี่มาแล้วหรือ?เช่นนั้นแผนการหลบหนีของพวกเขาในวันนี้จะยังเป็นจริงได้หรือไม่?สีหน้าของทหารจูเปลี่ยนไป พลางตะโกนด้วยเสียงเรียบ “เถาเฉิง เจ้าไปจัดการก่อนเถิด บอกว่าข้าจะรีบไป!”“ขอรับ!
สงบ! สงบไว้!หลิงอวี๋สูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วเดินไปที่หลังประตูอย่างเงียบ ๆเมื่อลอดช่องประตูเข้าไป หลิงอวี๋ก็เห็นคนกลุ่มหนึ่งยืนอยู่ห่างออกไปไม่กี่เมตรคนที่หันหลังให้ตนเองคือทหารจู ดูเหมือนว่าทหารจูเพิ่งจะออกมาก็ถูกทหารเฉาขวางกั้นไว้เลย“ทหารเฉา ข้าให้เถาเฉิงพาพระชายาอ๋องอี้ออกจากห้องขังจริง ๆ แต่มิได้ให้พามาหาข้าที่นี่!”ทหารจูเอ่ยอย่างใจเย็น “เจ้าส่งจดหมายให้ข้าฆ่านางมิใช่หรือ?”“ข้าทำตามคำสั่งของเจ้า ให้เถาเฉิงพานางไปฆ่าที่เหมืองหมายเลขหนึ่งแล้ว!”“หืม? เร็วถึงเพียงนี้เลยหรือ? ไป พาข้าไปดูศพหน่อย!” ทหารเฉาเอ่ยอย่างเย็นชาทหารจูเอ่ยอย่างไม่ยินใจ “เหตุใด ทหารเฉายังมิเชื่อข้าหรือ?”ทหารเฉาเอ่ยด้วยท่าทีแปลก ๆ“ไม่ใช่ว่าข้ามิเชื่อเจ้า! แต่ว่าเรื่องนี้มันสำคัญมาก ข้าต้องยืนยันก่อนจึงจะสามารถอธิบายให้แม่ทัพหลูฟังได้!”“หากทหารเฉามิเชื่อก็ไปดูด้วยตัวเองเลย แซ่จูไม่สบาย จึงมิขอไปด้วย! เถาเฉิง เราไปกินข้าวกันเถิด!”ทหารจูลากเถาเฉิงออกไป“หยุด!”สีหน้าของทหารเฉาเข้มขึ้น “จูจวิน เจ้ากล้าขัดคำสั่งรึ?”ทหารจูหัวเราะเยาะอย่างไม่เกรงใจ “ข้าขัดคำสั่งเยี่ยงไรเล่า? เจ้าให้ข้าฆ่านาง ข้าก
"บุกเลย!"ทางค่ายทหาร พวกทหารเฉาทุกคนก็ได้ยินเสียงอึกทึกกึกก้องนั้นเช่นกันทหารเฉาทั้งตกใจทั้งโกรธ พลางตะคอก “จูจวิน เจ้าจะกบฏรึ? ข้าจะฆ่าเจ้าแน่!”เขาชักดาบออกมา เหวี่ยงดาบไปที่เถาเฉิงที่ขวางหน้าทหารจูอยู่ทหารจูได้ยินเสียงตะคอก ความมั่นใจก็ยิ่งเพิ่มขึ้น เขาดึงเถาเฉิงออกไป แล้วดาบในมือก็ปัดดาบของทหารเฉาปลิวไปจูจวินส่งเสียงคำรามยาว มีชีวิตชีวา แล้วหัวเราะพลางเอ่ย“ข้าทนกับพวกเจ้ามานานมากแล้ว… ไอ้ทหารไร้สาระกระไรนี่ ข้าไม่ทำแล้ว!”“มา วันนี้ข้าจะฆ่าพวกอันธพาลที่ช่วยคนชั่วก่อกรรมทำเข็ญเยี่ยงพวกเจ้า ไอ้พวกไร้ความสามารถ...”ดาบในมือของทหารเฉาถูกปัดปลิวไปแล้ว ปากเสือก็ถูกทหารจูทำให้เลือดไหลออกมาเขาเห็นว่าสถานการณ์ไม่สู้ดี จึงหันหลังวิ่งไป วิ่งไปพลางตะโกนไปด้วย“จูจวิน หากเจ้ากล้าฆ่าข้า แม่ทัพหลูจะไม่มีทางปล่อยเจ้าแน่! เขาจักต้องช่วยข้าแก้แค้น จักต้องฆ่าครอบครัวของเจ้า!”จูจวินเห็นว่าถึงเวลานี้แล้ว ทหารเฉาก็ยังจะยกเอาแม่ทัพหลูมาข่มขู่ตนเอง ก็ยิ่งโกรธมากขึ้นเขาถลาไปข้างหน้า เหวี่ยงดาบในมือไปที่ขาของทหารเฉาเมื่อเห็นว่าขาของทหารเฉาตกอยู่ในอันตราย ก็มีดาบยื่นออกมาแทรก แล้วปัดออก
“แกร๊ง แกร๊ง แกร๊ง...”หลิงอวี๋หลับตาอย่างสิ้นหวังเมื่อเห็นหอกกำลังจะปักเข้าหว่างคิ้วแต่หลังจากนั้นไม่นานก็เกิดเสียงโลหะใส ๆ กระทบกันสามเสียงหลิงอวี๋รู้สึกมีบางอย่างพันรอบเอวของตน พลางร่างทั้งตัวนางก็ถูกยกขึ้นลอยตัวแล้วนางรีบลืมตาพลันเห็นใบหน้ารูปงามของเซียวหลินเทียนปรากฏต่อหน้าตนเขาใช้มือค้ำไม้เท้าพยุงร่างตัวเอง อีกข้างถือแส้หลิงอวี๋กำลังถูกแส้ในมือเซียวหลินเทียนพันรอบหลิงอวี๋รีบเอี้ยวหัวมองมือสังหารคนนั้นพลันเห็นมือสังหารกำลังสู้กันอุตลุดกับคนผมเงินที่สวมหน้ากากอยู่ต่อไป หลิงอวี๋เห็นจ้าวซวนกับเหล่าองครักษ์ของเสี่ยวหลินเทียนทยอยกันพุ่งเข้ามามือสังหารคนนั้นเห็นท่าไม่ดีจึงขว้างระเบิดควันพลางค่อย ๆ แกว่งกระโดดขึ้นสันกำแพง พวกเขาลอยขึ้นหายไปในความมืดทันใด“ท่านอ๋อง นั่งเร็วเข้าพ่ะย่ะค่ะ!”ลู่หนานเอาเก้าอี้ล้อของเซียวหลินเทียนมาแล้ว ขาของเซียวหลินเทียนยืนนานมิได้เลยกลับไปนั่งบนเก้าอี้ล้อหลิงอวี๋เห็นคนของตนทั้งหมดในลาน เวลานี้ก็ถอนหายใจโล่งอกไม่สนใจถามเซียวหลินเทียนว่าหาที่นี่พบได้อย่างไรก็พลันเอ่ยเรียก“จ้าวซวน รีบไปช่วยทหารจู เป็นพวกเขาช่วยชีวิตข้าไว้!”จ้าวซวนยิ้มต
จูจวินไม่ได้พูดต่อพลางดึงเถาเฉิงคุกเข่าลง ‘ตุ้บ’“ท่านอ๋อง พวกกระหม่อมช่วยคนเลวทำผิด สมควรได้รับโทษ แม้ตายก็ไม่เสียดายพ่ะย่ะค่ะ!”“แต่คนเหล่านี้ตายอย่างไม่เป็นธรรม! ได้โปรดท่านอ๋องสนับสนุนเพื่อพวกเขาด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”แววตาเซียวหลินเทียนขรึมขึ้น เอ่ยเสียงทุ้ม “เข้าไปดูหน่อย!”จูจวินเหยียดกายยืนถือคบเพลิงพากลุ่มคนเดินเข้าไปภายในเหมืองถ้ำมืดสนิท เดินไปสิบกว่าเมตรก็พบหลุมรกร้างแห่งหนึ่งจูจวินน้ำตาคลอเบ้าทิ้งคบเพลิงพลางเข้าไป ฝูงชนก็เห็นแสงคบเพลิงสาดส่องกองกระดูกขาวด้านล่างทันใดมีคนหลายคนที่อยู่บนสุดยังสวมเสื้อผ้าอยู่ เห็นได้ชัดว่าตายเร็ว ๆ นี้เพิ่งถูกโยนลงไป!“แซ่จูเพิ่งมาเหมืองได้ครึ่งปี ทว่าก่อนหน้าก็ทิ้งศพมากหลายในนี้แล้ว! นับไม่หวาดไม่ไหว!”“ช่วงครึ่งปีนี้ โยนมาเจ็ดสิบแปดศพในเหมืองถ้ำพ่ะย่ะค่ะ!”“คนที่มีชื่อ แซ่จูล้วนทำลงสมุดทะเบียนแล้ว คนไม่มีชื่อ แซ่จูก็ลงทะเบียนหมายเลข!”จูจวินขบฟันกล่าว “แซ่จูสิ้นทางช่วยพวกเขาล้างแค้นแก้ไขความอยุติธรรม ทำได้แค่ใช้วิธีเช่นนี้จดบันทึกชื่อของพวกเขา หวังว่าสักวันหนึ่งจะเป็นประโยชน์!”แม่ทัพเฉินกับอันเจ๋อที่ตามมาต่างตะลึงกับศพมหาศาล!
หลิงอวี๋ เซียวหลินเทียนกับแม่ทัพเฉินกลับเมืองหลวงด้วยกันก่อนเดินทาง หลิงอวี๋พบจางเสี่ยวเยี่ยนพลางกล่าวปลอบ“เสี่ยวเยี่ยน เรื่องนี้ยังไม่จบ ช่วงนี้เจ้ากับครอบครัวพักอยู่เหมืองก่อน! รอเรื่องราวจบลง ข้าค่อยจัดการพวกเจ้าให้ออกไป!”จางเสี่ยวเยี่ยนรู้แล้วว่าหลิงอวี๋คือชายาอ๋องอี้ นางมองคนของท่านอ๋องอี้จับคนเลวเหล่านั้นนางก็ผงกศีรษะไม่พะว้าพะวัง “พระชายาท่านวางเถิด! ข้าจะอยู่เหมืองกับครอบครัวข้าอย่างสงบเจ้าค่ะ!”หลิงอวี๋กลัวว่านางยังคิดไม่ตกเรื่องถูกข่มขืน จึงรั้งนางกระซิบข้าง ๆ“เสี่ยวเยี่ยน เจ้ารับปากข้าแล้วว่าจะไม่ยอมทำเรื่องโง่เขลาอีก!”“ในชีวิตนี้เราจะเผชิญความยากลำบากมากมาย แต่ขอเพียงมีชีวิตอยู่ ความลำบากเหล่านั้นก็จะผ่านไป!”“ตลอดหนึ่งชีวิตช่างยาวนาน ตายไปก็ไม่เหลืออันใดสักอย่าง!”“เจ้าลองดูน้อง ๆ เจ้า พ่อเจ้า แม่เจ้า เจ้าตายไปพวกเขาจะเสียใจมากนะ!”หลิงอวี๋คิดสักพักพลางควักยาพิษห่อเล็กออกยัดให้จางเสี่ยวเยี่ยน“ขอโทษ ก่อนหน้าข้ารับปากเจ้าว่าจะวางยาพวกคนที่ทำร้ายเจ้า! แต่ทหารมาหลายขนาดนั้น ในหมู่พวกเขามีทั้งคนเลวและดี!”“ฉะนั้นข้าเลยวางยาสลบให้พวกเขา! บัดนี้คือยาพิษที่ให้เจ
ครั้นถึงคฤหาสน์หลี่ว์ก็มืดค่ำแล้วก่อนหน้านี้เซียวหลินเทียนส่งคนมาแจ้งแล้วหลี่ว์เซียงกับครอบครัวยังไม่นอน ได้ยินว่าสามีภรรยาหลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนมาแล้วหลี่ว์เซียงออกมาต้อนรับด้วยตัวเอง หลิงอวี๋เห็นก็ยิ่งเคารพนบนอมต่อหลี่ว์เซียงอัครเสนาบดีตำแหน่งสูงผู้นี้ ตนผิดนัดก็ไม่ได้ตำหนิยังต้อนรับสมเกียรติเช่นนี้ต่อตน น้ำใจนี้ทำให้หลิงอวี๋เลื่อมใสนัก“พระชายาอ๋องอี้ เสียมารยาทแล้ว!”“ได้ยินว่าเจ้าป่วยหนัก วันนี้ดีขึ้นนิดหน่อยแล้วก็รีบมาตรวจท่านแม่เลย ข้าไม่รู้ว่าควรขอบคุณเจ้าเช่นไร!”“ท่านอ๋องอี้ พระชายาอ๋องอี้ โปรดเชิญข้างใจ!”“เกรงใจท่านอัครเสนาบดีแล้ว! เป็นหลิงอวี๋ละอายใจปล่อยให้ฮูหยินใหญ่รอนานถึงเพียงนี้!”หลิงอวี๋คารวะไม่พูดเป็นพิธีแล้วเช่นกัน “ฮูหยินใหญ่รอยู่ที่ใด โปรดท่านอัครเสนาบดีนำทางเถิด!”คนรับใช้ของตระกูลหลี่ว์ถือโคมไฟนำหน้าข้างหน้า บัดนี้หลี่ว์เซียงเห็นแผลบนหน้าหลิงอวี๋เขาผงะครู่หนึ่งพลันมองเซียวหลินเทียนโดยสัญชาตญาณเดิมทีสองวันมานี้พระชายาอ๋องอี้มิได้ป่วยหนักโดยสิ้นเชิง เป็นโดนท่านอ๋องอี้หวดจึงหลบพักฟื้นอยู่เรือน!มิน่าถึงต้องมาตรวจดึกดื่น คงไม่อยากถูกคนเห็นรอย
หลิงอวี๋กวาดสายตาผ่านผ้าคลุมหน้าไปรอบ ๆ ทั่วทั้งสถานที่ล้วนเป็นญาติสนิทมิตรสหายของพวกเขา พวกเขาเป็นพยานในการเริ่มต้นชีวิตใหม่ของตนกับเซียวหลินเทียนนับตั้งแต่นี้ไป นางมิใช่วิญญาณที่หลงทางจากโลกอื่นอีกแล้ว นางเป็นส่วนหนึ่งของฉินตะวันตกอย่างแท้จริงแล้ว“คารวะบุพการี...”หลิงอวี๋คารวะไปตามเสียงของท่านอ๋องเฉิง“สามีภรรยาคารวะกันและกัน!”หลิงอวี๋จับผ้าสีแดงที่อยู่ในมือแล้วหันไปทางเซียวหลินเทียนร่างสูงใหญ่นั้นเห็นเพียงแค่รูปร่างแต่นางรู้ว่าต่อไปคนผู้นี้จะเป็นที่พึ่งให้ตนได้แม้ว่าในภายภาคหน้าจะมีการทะเลาะเบาะแว้ง หรือมีเรื่องขัดแย้งกัน แต่นางก็เชื่อว่าพวกเขาจะต้องใช้ชีวิตของพวกเขาได้อย่างดี!นางคำนับลงไปเซียวหลินเทียนมองหลิงอวี๋ที่มีผ้าคลุมหน้าอยู่ก็พลันตัวสั่นเล็กน้อยอย่างตื่นเต้นนับแต่นี้ไป หลิงอวี๋ก็คือภรรยาของตน อดีตที่เลวร้ายเหล่านั้นเขาไม่มีหน้าจะเอ่ยถึงอีกแล้วชีวิตนี้เขาจะต้องรักนางให้มากเท่าที่จะทำได้ จะปกป้องนาง จะให้สิ่งที่ดีที่สุดแก่นาง ทำให้นางเป็นสตรีที่มีความสุขที่สุดในใต้หล้า!เซียวหลินเทียนเองก็คำนับลงไปเช่นกัน“เสร็จสิ้นพิธี!”ท่านอ๋องเฉิงยังคงยืนอยู่ต่อหน้
หลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนจัดงานแต่งงานคารวะฟ้าดินกันใหม่ เมื่อพวกหลิงซวนรู้เข้าก็ดีใจเป็นอย่างยิ่งกว่าจะเปลี่ยนจากความโกรธเกลียดมาเป็นสามีภรรยาอย่างแท้จริงได้ หลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนข้ามผ่านเส้นทางนี้กันมาอย่างยากลำบากจนนับมิถ้วน!เมื่อเทียบกับงานแต่งที่เหลวไหลเมื่อคราก่อน ครานี้เซียวหลินเทียนขอหลิงอวี๋แต่งงานอย่างจริงใจกำไลหยกเขียวมรกตได้ชดเชยเรื่องสินสอดในคราก่อนไปแล้ว เรื่องพิธีหลิงอวี๋ขอให้เป็นพิธีเรียบง่ายจัดโต๊ะเพียงมิกี่โต๊ะก็พอแล้วมิได้มีการประกาศออกไป และมิได้เชิญแขกคนอื่น ๆ เชิญเพียงแค่ผู้อาวุโสเช่นท่านอดีตเสนาบดี ไทฮองไทเฮาและท่านอ๋องเฉิงสามคนเท่านั้นท่านอดีตเสนาบดีถูกเชิญเข้าวังมาก็ยังคงสับสนมิรู้ว่าด้วยเรื่องใดไทฮองไทเฮาเองก็เช่นกัน ถูกเชิญมาถึงพระตำหนักคุนหนิงก็ยังมิรู้ว่านี่คือพิธีคารวะฟ้าดินที่จัดขึ้นเพื่อทั้งสองคนท่านอ๋องเฉิงคือคนที่เซียวหลินเทียนเพิ่มเข้ามา เขาเป็นราชสำนักฝ่ายใน ทั้งยังเป็นผู้อาวุโสที่เห็นเส้นทางที่พวกเขาผ่านมาอย่างใกล้ชิดที่สุด เมื่อจัดพิธีแต่งงานขึ้นอีกครั้ง จะขาดคนสำคัญผู้นี้ไปได้อย่างไร!แม่นมลี่เปลี่ยนชุดใหม่แล้วดึงเซียวเยวี่ยที่ใ
หลิงอวี๋ตกใจกับการเกี้ยวพาราสีอย่างกะทันหันของเซียวหลินเทียนจึงหน้าแดงขึ้นมาทันทีนี่… นี่คือการขอจะทำเรื่องเช่นนั้นกับตนหรือ?แต่นางยังมิได้คิดให้ดีเลยนะ!“อาอวี๋ ต่อให้คำสาบานใด ๆ จะสวยหรูสักแค่ไหนก็มิสู้การกระทำ! ข้าก็กำลังพยายามเต็มที่แล้ว!”เซียวหลินเทียนคว้ามือของหลิงอวี๋มาแนบที่หน้าอกของตน “ในนี้มีเพียงแค่เจ้า ชั่วชีวิตนี้ก็จะมีเพียงแค่เจ้าเท่านั้น! ไม่มีผู้ใดสามารถมาแทนที่เจ้าในใจของข้าได้!”“อาอวี๋ เรื่องของเมื่อวานก็ปล่อยให้มันผ่านไปแล้วเหลือแต่เรื่องของวันนี้ เรามาเริ่มต้นกันใหม่เถิด!”หลิงอวี๋ปฏิเสธมิออกหลิงซวนเคยบอกกับนางไว้แล้วให้นางลืมอดีต อย่าได้ปิดกั้นเซียวหลินเทียนอีกเลยนางมิใช่เจ้าของร่าง และมิได้เกลียดเรื่องที่เซียวหลินเทียนเฆี่ยนตีตนในตอนแรกแล้ว!และครานี้เมื่อเกิดเรื่องกับตน เซียวหลินเทียนก็ทำงานหนักเพื่อตนอย่างเต็มที่ นางเห็นความทุ่มเทของเขาทั้งหมดแล้วนางยังจะมีเหตุผลอะไรไปปฏิเสธเขาอีกเล่า?“หม่อมฉัน...”หลิงอวี๋พูดมิออก ปฏิเสธมิออกจริง ๆดูเหมือนว่าเซียวหลินเทียนจะมองความลังเลของนางออก มือทั้งสองของเขาจึงโอบนางไว้แล้วดึงเข้ามาในอ้อมแขนเขาก้มหน้
เมื่อเซียวหลินเทียนพูดออกมา หลิงอวี๋ก็นึกขึ้นได้ว่าเขาเคยเอ่ยถึงใต้เท้าเจี่ยงผู้นี้ว่าหอบรรพบุรุษในตระกูลเขาทำด้วยทองคำก่อนหน้านี้เซียวหลินเทียนส่งคนไปตรวจสอบแล้ว เช่นนั้นหลักฐานก็น่าจะสรุปได้แล้ว“อาอวี๋ เจ้าให้ข้าคิดหาวิธีสักหน่อยว่าจะโจมตีร้านตั๋วเงินสี่หลายอย่างไรโดยมิให้ราษฎรเหล่านั้นได้รับความเสียหาย”ก่อนหน้านี้เซียวหลินเทียนก็อยากจะจัดการใต้เท้าเจี่ยง แต่ก็คิดวิธีดี ๆ ที่จะทำให้ได้ผลดีทั้งสองฝ่ายมิได้ใต้เท้าเจี่ยงกับร้านตั๋วเงินสี่หลายมีความโยงใยกันไปหมด เซียวหลินเทียนกังวลว่าหากไปแตะใต้เท้าเจี่ยงแล้วจะทำให้ราษฎรเหล่านั้นได้รับความเสียหายไปด้วยก่อนหน้านี้หลิงอวี๋มิได้สนใจเรื่องนี้มากนัก แต่นางเป็นคนยุคปัจจุบัน เคยได้ยินได้เห็นธนาคารล้มเหลวมามากมาย การระดมทุนอย่างผิดกฎหมายสร้างความเสียหายให้ราษฎรอย่างหนักหากราชสำนักปล่อยปละละเลยร้านตั๋วเงินเหล่านี้ เช่นนั้นก็คงจะได้เห็นหายนะครั้งใหญ่การที่เซียวหลินเทียนใส่ใจในจุดนี้เป็นการกระโดดเชิงคุณภาพ เป็นกษัตริย์ผู้ทรงปัญญาที่ล้ำหน้ากว่าแคว้นใด ๆแต่เท่านี้ยังมิพอ ตอนนี้เซียวหลินเทียนตระหนักได้เพียงว่าร้านตั๋วเงินสี่หลายเป็นพวก
เซียวหลินเทียนทอดถอนใจพลางเอ่ย “ตอนนั้นเสด็จพ่อยังต้องพึ่งพาท่านอดีตเสนาบดีให้ช่วยพระองค์เฝ้าระวังที่ชายแดน ท่านอดีตเสนาบดีขอร้องให้หลิงเสียงกัง เสด็จพ่อก็มิอยากทำร้ายจิตใจขุนนางเก่าแก่ จึงไว้ชีวิตหลิงเสียงกัง!”หลิงอวี๋ยิ้มเยาะ มีจักรพรรดิสูงสุดเป็นเกราะป้องกันให้องค์ชายคัง มิน่าหลิงเสียงกังอยากจะพลิกคดีแต่กลับยากเย็นนักเกรงว่าตอนนั้นที่หลิงเสียงกังออกจากเมืองหลวงแล้วบอกจะออกไปตามหาความจริงก็คงเพราะมองจุดนี้ออกแล้ว“คดีกล่าวหาท่านลุงของหม่อมฉันคือเสด็จพ่อที่สร้างขึ้น หากตอนนี้ท่านจะพลิกคดีให้เขาก็จะเป็นการตั้งคำถามเสด็จพ่อของท่าน ไม่มีเหตุผลที่จะทำให้เหล่าขุนนางเชื่อมั่น การดึงคดีนี้ขึ้นมาก็จะเป็นการอกตัญญู!”หลิงอวี๋วิเคราะห์ได้ตรงประเด็นมากเซียวหลินเทียนกังวลว่า หลิงอวี๋จะเข้าใจผิดว่าตนมิยินดีจะล้างมลทินชื่อเสียงให้หลิงเสียงกัง จึงรีบเอ่ย “ข้าแค่จะบอกว่าหากต้องการจะพลิกคดีนี้ในเวลามินานนั้นเป็นไปมิได้! มิได้หมายความว่าข้าจะมิยินดีช่วยหลิงเสียงกังพลิกคดี!”“อาอวี๋ เรายังมีพื้นที่ให้จัดการเรื่องนี้!”เซียวหลินเทียนเอ่ยเสียงเรียบ “จนถึงตอนนี้เงินทหารสองล้านตำลึงนั้นก็ยังมิปราก
ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะสิ้นสุดลงไปกับการโกนหัวของนางซุนแล้ว!นางซุนใช้วิธีเด็ดขาดนี้มาตัดการแต่งงานครึ่งชีวิตของตนกับหลิงเสียงกังแล้วทิ้งหลิงหว่านกับหลิงเสียงกังไว้และสุดท้ายนางก็มิอาจต้านทานการเกลี้ยกล่อมของหลิงหว่านได้ จึงเลือกที่จะเป็นแม่ชีอยู่ที่อารามเล็ก ๆ ซึ่งห่างจากเมืองหลวงไปห้าสิบลี้‘พิธีศพ’ ของนางซุน หลิงอวี๋ก็ออกจากวังมาร่วมงานด้วยในฐานะหลานสาวสำหรับการช่วยครั้งสุดท้ายของนางซุนที่มีต่อหลิงเสียงกังกับหลิงหว่าน ทำให้ความโกรธที่หลิงอวี๋มีต่อนางหายไปสำหรับนางซุน บทสรุปเช่นนี้ก็นับว่าสบายใจเช่นกันแต่สำหรับคนที่ยังมีชีวิตอยู่ หลิงเสียงกังกับหลิงหว่านล้วนมีเส้นทางยาวไกลที่ตนต้องเดินไป...หลิงเสียงกังสามารถลงมาเดินได้แล้ว จึงมาร่วมงานศพนางซุนโดยมีหลิงหว่านประคองมาหลังจากงานศพเสร็จสิ้น เขาก็คุกเข่าให้หลิงอวี๋“ฮองเฮา เรื่องต่าง ๆ ก่อนหน้านี้เป็นหลิงเสียงกังเองที่ผิด กระหม่อมเป็นหนี้นางซุนและทุกคน!”“กระหม่อมสมควรตาย แต่กระหม่อมตายมิได้ กระหม่อมต้องแสวงหาความยุติธรรมเพื่อชื่อเสียงของตนและแสวงหาความยุติธรรมให้แก่เหล่าทหารที่ติดตามกระหม่อมและต้องตายไปอย่างอยุติธรรม!”หล
มิเพียงแต่หลิงอวี๋ที่กลุ้ม ท่านอดีตเสนาบดีเองก็โกรธมาก หลิงเสียงกังยังมิทันจะเดินลงพื้นได้ ท่านอดีตเสนาบดีก็ได้ยินเขาบอกว่าจะตามนางซุนไปที่บ้านเกิด จึงพุ่งเข้าไปด่าหลิงเสียงกังที่เตียงผู้ป่วย“หลิงเสียงกัง นางซุนทำเรื่องเลวร้ายเอง นางรนหาที่ตายข้าก็ปล่อยนางไปแล้ว แต่เหตุใดเจ้าต้องตามนางไปด้วย?”“ข้าดูแลเจ้ามา ลำบากลำบนสอนสั่งเจ้ามา มิใช่เพื่อให้เจ้าทำให้เสียเปล่าเองเช่นนี้!”หลิงเสียงกังมองท่านอดีตเสนาบดีที่แก่ลงไปมากอย่างขมขื่น พลางเอ่ยอย่างรู้สึกผิด “ขอโทษขอรับท่านพ่อ ลูกทำให้ท่านผิดหวัง!”“อย่ามาพูดไร้สาระกับข้า เจ้ามันอกตัญญูมิรู้คุณ...”ท่านอดีตเสนาบดีเอ่ยอย่างปวดใจ “เจ้าอายุยังน้อย วรยุทธ์ในกายยังสามารถทำประโยชน์ให้บ้านเมืองได้ เจ้าไปเช่นนี้จะมิใช่การชดใช้ แต่เป็นการหลบหนี!”“ตอนนั้นเหตุใดเจ้าถึงถูกถอดออกจากตำแหน่ง? ก่อนหน้ามิสามารถพูดให้ชัดเจนได้ ตอนนี้หลิงอวี๋ก็เป็นฮองเฮาแล้ว ขอเพียงเจ้าอยากพลิกคดี นางจะมิช่วยเหลือเจ้าหรือ?”“ตระกูลหลิงของเรามิเคยเกิดเรื่องเช่นนี้ เจ้ามิคิดเพื่อตัวเจ้าเอง เจ้าก็ต้องนึกถึงฮองเฮากับหลิงเสี่ยงบ้าง!”หลิงหว่านยืนอยู่ข้างเตียงเงียบ ๆ นางมิ
นางซุนแขวนคอตาย!วันรุ่งขึ้นข่าวนี้ก็ไปถึงหูของหลิงอวี๋ หลิงซวนยิ้มขมขื่นพลางเอ่ยกับหลิงอวี๋ “ข้างนอกพูดกันว่านางซุนทำเรื่องแย่ ๆ ไว้ มิสามารถสู้หน้าครอบครัวและฮองเฮาได้จึงยอมตายชดใช้ความผิดเพคะ!”“แต่ความจริงคือหลิงหว่านไปพบทันเวลาจึงช่วยนางซุนลงมาแล้ว!”“ท่านอดีตเสนาบดีให้คนมาส่งข่าวบอกให้ฮองเฮาถือเสียว่านางตายไปแล้วเถิด! หลิงเสียงกังก็ฟื้นแล้วบอกว่าตนทำให้นางเดือดร้อนจึงขอร้องแทนนาง บอกว่าครอบครัวของพวกเขาจะไปจากเมืองหลวง นับแต่นี้ไปจะมิปรากฏตัวที่เมืองหลวงอีกเพคะ”หลิงอวี๋ฟังแล้วก็ทอดถอนใจ เพราะว่านางซุนมีบุญคุณต่อตน นางเองก็มิได้มีความคิดว่าจะต้องสังหารเสียให้หมดนางซุนจะฆ่าตัวตายเพราะอยากจะหลีกหนีการใส่โซ่ตรวนเดินตามถนน หลิงอวี๋เองก็มิอยากเห็นนางซุนทำให้กระทบต่อชื่อเสียงของจวนเสนาบดีเจิ้นหย่วน เช่นนั้นก็เอาตามนี้เถิด!“ความทรงจำของหลิงเสียงกังกลับมาแล้วหรือไม่?”หลิงอวี๋เอ่ยถามอย่างเป็นห่วง แม้ว่าจะเอาก้อนเลือดออกมาสำเร็จแล้ว นางก็มิอาจรับประกันว่าประสาทของหลิงเสียงกังจะมิได้รับความเสียหาย“เห็นว่าจำได้มากแล้วเพคะ แต่ลืมรายละเอียดต่าง ๆ ไปแล้ว! อย่างน้อยเขาก็จำหลิงหว่านกั
หลิงหว่านกลั้นน้ำตาที่กำลังจะร่วงหล่นลงมาแล้วรีบเอ่ย “ขอบคุณท่านพี่เผยที่ช่วยข้ากับท่านพ่อ! แล้วก็ขอบคุณฮูหยินผู้เฒ่าเผยที่ให้เกียรติข้าก่อนหน้านี้...”“เป็นข้าเองที่มิคู่ควรกับท่านพี่เผย ขอให้ในภายภาคหน้าท่านพี่เผยได้พบกับภรรยาที่ดีและมีคุณธรรมยิ่งกว่าข้า ข้าขอให้พวกท่านมีความสุข!”หลังจากพูดจบ หลิงหว่านก็หันหลังวิ่งเข้าบ้านไปเผยอวี้ตามนางไปแล้วรั้งนางไว้ จากนั้นก็กอดนางไว้ในอ้อมแขน“หว่านเอ๋อร์ นี่มิใช่ความผิดของเจ้า ข้าจะมิยอมถอนหมั้น!”“ข้าคิดแล้ว… การแต่งงานของเราเป็นการประทานจากองค์จักรพรรดิ มีพระราชโองการลงมาแล้ว ขอเพียงองค์จักรพรรดิมิเห็นด้วย ท่านพ่อกับท่านย่าของข้าก็มิอาจคัดค้านได้!”เผยอวี้ยิ่งพูดก็ยิ่งลนลาน “เจ้าเป็นภรรยาที่ดีและมีคุณธรรมที่สุด ข้ามิต้องการผู้อื่น หากต้องแต่งงานข้าก็จะแต่งกับเจ้าเท่านั้น!”“ท่านพี่เผย!”หลิงหว่านมิอาจกลั้นน้ำตาไว้ได้อีกแล้ว จึงปล่อยให้น้ำใสไหลรินลงมาเป็นไปได้หรือ?นางยังแต่งงานกับเผยอวี้ได้หรือ?ท่านแม่ของนางทำเรื่องแย่กับพี่หญิงหลิงหลิงมากถึงเพียงนั้น องค์จักรพรรดิจะยังอนุญาตให้เผยอวี้แต่งงานกับตนหรือ?“เจ้าดูแลท่านพ่อของเจ้าอ