Share

บทที่ 240

Author: กานเฟย
"บุกเลย!"

ทางค่ายทหาร พวกทหารเฉาทุกคนก็ได้ยินเสียงอึกทึกกึกก้องนั้นเช่นกัน

ทหารเฉาทั้งตกใจทั้งโกรธ พลางตะคอก “จูจวิน เจ้าจะกบฏรึ? ข้าจะฆ่าเจ้าแน่!”

เขาชักดาบออกมา เหวี่ยงดาบไปที่เถาเฉิงที่ขวางหน้าทหารจูอยู่

ทหารจูได้ยินเสียงตะคอก ความมั่นใจก็ยิ่งเพิ่มขึ้น เขาดึงเถาเฉิงออกไป แล้วดาบในมือก็ปัดดาบของทหารเฉาปลิวไป

จูจวินส่งเสียงคำรามยาว มีชีวิตชีวา แล้วหัวเราะพลางเอ่ย

“ข้าทนกับพวกเจ้ามานานมากแล้ว… ไอ้ทหารไร้สาระกระไรนี่ ข้าไม่ทำแล้ว!”

“มา วันนี้ข้าจะฆ่าพวกอันธพาลที่ช่วยคนชั่วก่อกรรมทำเข็ญเยี่ยงพวกเจ้า ไอ้พวกไร้ความสามารถ...”

ดาบในมือของทหารเฉาถูกปัดปลิวไปแล้ว ปากเสือก็ถูกทหารจูทำให้เลือดไหลออกมา

เขาเห็นว่าสถานการณ์ไม่สู้ดี จึงหันหลังวิ่งไป วิ่งไปพลางตะโกนไปด้วย

“จูจวิน หากเจ้ากล้าฆ่าข้า แม่ทัพหลูจะไม่มีทางปล่อยเจ้าแน่! เขาจักต้องช่วยข้าแก้แค้น จักต้องฆ่าครอบครัวของเจ้า!”

จูจวินเห็นว่าถึงเวลานี้แล้ว ทหารเฉาก็ยังจะยกเอาแม่ทัพหลูมาข่มขู่ตนเอง ก็ยิ่งโกรธมากขึ้น

เขาถลาไปข้างหน้า เหวี่ยงดาบในมือไปที่ขาของทหารเฉา

เมื่อเห็นว่าขาของทหารเฉาตกอยู่ในอันตราย ก็มีดาบยื่นออกมาแทรก แล้วปัดออก
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 241

    “แกร๊ง แกร๊ง แกร๊ง...”หลิงอวี๋หลับตาอย่างสิ้นหวังเมื่อเห็นหอกกำลังจะปักเข้าหว่างคิ้วแต่หลังจากนั้นไม่นานก็เกิดเสียงโลหะใส ๆ กระทบกันสามเสียงหลิงอวี๋รู้สึกมีบางอย่างพันรอบเอวของตน พลางร่างทั้งตัวนางก็ถูกยกขึ้นลอยตัวแล้วนางรีบลืมตาพลันเห็นใบหน้ารูปงามของเซียวหลินเทียนปรากฏต่อหน้าตนเขาใช้มือค้ำไม้เท้าพยุงร่างตัวเอง อีกข้างถือแส้หลิงอวี๋กำลังถูกแส้ในมือเซียวหลินเทียนพันรอบหลิงอวี๋รีบเอี้ยวหัวมองมือสังหารคนนั้นพลันเห็นมือสังหารกำลังสู้กันอุตลุดกับคนผมเงินที่สวมหน้ากากอยู่ต่อไป หลิงอวี๋เห็นจ้าวซวนกับเหล่าองครักษ์ของเสี่ยวหลินเทียนทยอยกันพุ่งเข้ามามือสังหารคนนั้นเห็นท่าไม่ดีจึงขว้างระเบิดควันพลางค่อย ๆ แกว่งกระโดดขึ้นสันกำแพง พวกเขาลอยขึ้นหายไปในความมืดทันใด“ท่านอ๋อง นั่งเร็วเข้าพ่ะย่ะค่ะ!”ลู่หนานเอาเก้าอี้ล้อของเซียวหลินเทียนมาแล้ว ขาของเซียวหลินเทียนยืนนานมิได้เลยกลับไปนั่งบนเก้าอี้ล้อหลิงอวี๋เห็นคนของตนทั้งหมดในลาน เวลานี้ก็ถอนหายใจโล่งอกไม่สนใจถามเซียวหลินเทียนว่าหาที่นี่พบได้อย่างไรก็พลันเอ่ยเรียก“จ้าวซวน รีบไปช่วยทหารจู เป็นพวกเขาช่วยชีวิตข้าไว้!”จ้าวซวนยิ้มต

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 242

    จูจวินไม่ได้พูดต่อพลางดึงเถาเฉิงคุกเข่าลง ‘ตุ้บ’“ท่านอ๋อง พวกกระหม่อมช่วยคนเลวทำผิด สมควรได้รับโทษ แม้ตายก็ไม่เสียดายพ่ะย่ะค่ะ!”“แต่คนเหล่านี้ตายอย่างไม่เป็นธรรม! ได้โปรดท่านอ๋องสนับสนุนเพื่อพวกเขาด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”แววตาเซียวหลินเทียนขรึมขึ้น เอ่ยเสียงทุ้ม “เข้าไปดูหน่อย!”จูจวินเหยียดกายยืนถือคบเพลิงพากลุ่มคนเดินเข้าไปภายในเหมืองถ้ำมืดสนิท เดินไปสิบกว่าเมตรก็พบหลุมรกร้างแห่งหนึ่งจูจวินน้ำตาคลอเบ้าทิ้งคบเพลิงพลางเข้าไป ฝูงชนก็เห็นแสงคบเพลิงสาดส่องกองกระดูกขาวด้านล่างทันใดมีคนหลายคนที่อยู่บนสุดยังสวมเสื้อผ้าอยู่ เห็นได้ชัดว่าตายเร็ว ๆ นี้เพิ่งถูกโยนลงไป!“แซ่จูเพิ่งมาเหมืองได้ครึ่งปี ทว่าก่อนหน้าก็ทิ้งศพมากหลายในนี้แล้ว! นับไม่หวาดไม่ไหว!”“ช่วงครึ่งปีนี้ โยนมาเจ็ดสิบแปดศพในเหมืองถ้ำพ่ะย่ะค่ะ!”“คนที่มีชื่อ แซ่จูล้วนทำลงสมุดทะเบียนแล้ว คนไม่มีชื่อ แซ่จูก็ลงทะเบียนหมายเลข!”จูจวินขบฟันกล่าว “แซ่จูสิ้นทางช่วยพวกเขาล้างแค้นแก้ไขความอยุติธรรม ทำได้แค่ใช้วิธีเช่นนี้จดบันทึกชื่อของพวกเขา หวังว่าสักวันหนึ่งจะเป็นประโยชน์!”แม่ทัพเฉินกับอันเจ๋อที่ตามมาต่างตะลึงกับศพมหาศาล!

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 243

    หลิงอวี๋ เซียวหลินเทียนกับแม่ทัพเฉินกลับเมืองหลวงด้วยกันก่อนเดินทาง หลิงอวี๋พบจางเสี่ยวเยี่ยนพลางกล่าวปลอบ“เสี่ยวเยี่ยน เรื่องนี้ยังไม่จบ ช่วงนี้เจ้ากับครอบครัวพักอยู่เหมืองก่อน! รอเรื่องราวจบลง ข้าค่อยจัดการพวกเจ้าให้ออกไป!”จางเสี่ยวเยี่ยนรู้แล้วว่าหลิงอวี๋คือชายาอ๋องอี้ นางมองคนของท่านอ๋องอี้จับคนเลวเหล่านั้นนางก็ผงกศีรษะไม่พะว้าพะวัง “พระชายาท่านวางเถิด! ข้าจะอยู่เหมืองกับครอบครัวข้าอย่างสงบเจ้าค่ะ!”หลิงอวี๋กลัวว่านางยังคิดไม่ตกเรื่องถูกข่มขืน จึงรั้งนางกระซิบข้าง ๆ“เสี่ยวเยี่ยน เจ้ารับปากข้าแล้วว่าจะไม่ยอมทำเรื่องโง่เขลาอีก!”“ในชีวิตนี้เราจะเผชิญความยากลำบากมากมาย แต่ขอเพียงมีชีวิตอยู่ ความลำบากเหล่านั้นก็จะผ่านไป!”“ตลอดหนึ่งชีวิตช่างยาวนาน ตายไปก็ไม่เหลืออันใดสักอย่าง!”“เจ้าลองดูน้อง ๆ เจ้า พ่อเจ้า แม่เจ้า เจ้าตายไปพวกเขาจะเสียใจมากนะ!”หลิงอวี๋คิดสักพักพลางควักยาพิษห่อเล็กออกยัดให้จางเสี่ยวเยี่ยน“ขอโทษ ก่อนหน้าข้ารับปากเจ้าว่าจะวางยาพวกคนที่ทำร้ายเจ้า! แต่ทหารมาหลายขนาดนั้น ในหมู่พวกเขามีทั้งคนเลวและดี!”“ฉะนั้นข้าเลยวางยาสลบให้พวกเขา! บัดนี้คือยาพิษที่ให้เจ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 244

    ครั้นถึงคฤหาสน์หลี่ว์ก็มืดค่ำแล้วก่อนหน้านี้เซียวหลินเทียนส่งคนมาแจ้งแล้วหลี่ว์เซียงกับครอบครัวยังไม่นอน ได้ยินว่าสามีภรรยาหลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนมาแล้วหลี่ว์เซียงออกมาต้อนรับด้วยตัวเอง หลิงอวี๋เห็นก็ยิ่งเคารพนบนอมต่อหลี่ว์เซียงอัครเสนาบดีตำแหน่งสูงผู้นี้ ตนผิดนัดก็ไม่ได้ตำหนิยังต้อนรับสมเกียรติเช่นนี้ต่อตน น้ำใจนี้ทำให้หลิงอวี๋เลื่อมใสนัก“พระชายาอ๋องอี้ เสียมารยาทแล้ว!”“ได้ยินว่าเจ้าป่วยหนัก วันนี้ดีขึ้นนิดหน่อยแล้วก็รีบมาตรวจท่านแม่เลย ข้าไม่รู้ว่าควรขอบคุณเจ้าเช่นไร!”“ท่านอ๋องอี้ พระชายาอ๋องอี้ โปรดเชิญข้างใจ!”“เกรงใจท่านอัครเสนาบดีแล้ว! เป็นหลิงอวี๋ละอายใจปล่อยให้ฮูหยินใหญ่รอนานถึงเพียงนี้!”หลิงอวี๋คารวะไม่พูดเป็นพิธีแล้วเช่นกัน “ฮูหยินใหญ่รอยู่ที่ใด โปรดท่านอัครเสนาบดีนำทางเถิด!”คนรับใช้ของตระกูลหลี่ว์ถือโคมไฟนำหน้าข้างหน้า บัดนี้หลี่ว์เซียงเห็นแผลบนหน้าหลิงอวี๋เขาผงะครู่หนึ่งพลันมองเซียวหลินเทียนโดยสัญชาตญาณเดิมทีสองวันมานี้พระชายาอ๋องอี้มิได้ป่วยหนักโดยสิ้นเชิง เป็นโดนท่านอ๋องอี้หวดจึงหลบพักฟื้นอยู่เรือน!มิน่าถึงต้องมาตรวจดึกดื่น คงไม่อยากถูกคนเห็นรอย

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 245

    เมื่อเข้าประตู หลิงอวี๋ก็เห็นฮูหยินใหญ่หลี่ว์นอนบนเตียง ดวงหน้านางเปี่ยมริ้วรอย หนังหุ้มกระดูก แม้เป็นคนชราอายุไม่ถึงหกสิบ แต่กลับแก่ดั่งคนอายุเจ็ดสิบแปดสิบปีแล้วฮูหยินหลี่ว์กับบุตรีของหลี่เซียงที่ด้านข้างยังมีคนรับใช้สองคนคอยปรนนิบัติ“ท่านแม่ ฮูหยิน นี่คือแม่นางหลิงหมอชั้นเซียนที่เคยเล่าให้พวกท่านก่อนหน้า นางเป็นหลานสาวของท่านอดีตอัครเสนาบดีเช่นกัน หลิงอวี๋พระชายาอ๋องอี้!”หลี่เซียงก้าวไปข้างหน้าเอ่ยแนะนำ“พบพระชายาอ๋องอี้แล้ว!”ฮูหยินหลี่ว์พาบุตรีหลี่ว์ฟางฟางคารวะหลิงอวี๋ฮูหยินหลี่ว์อายุไม่ถึงสี่สิบ รูปลักษณ์สุภาพงดงาม แต่ใบหน้ากลับซีดเซียว คาดว่าเป็นเพราะความล้าที่คอยดูแลความเจ็บไข้ฮูหยินใหญ่หลี่ว์ฟางฟางเพิ่งอายุสิบสี่ รูปลักษณ์คล้ายหลี่ว์จงเจ๋อเล็กน้อย หน้าตาสะสวยนางสังเกตหลิงอวี๋อย่างจองหองอยู่บ้าง ไม่ร่ำเรียนเขียนอ่านกับชื่อเสียงแย่ ๆ เหล่านั้นของหลิงอวี๋แพร่ไปทั่วเมืองหลวงแล้วหลี่ว์ฟางฟางได้ยินสิ่งนี้กับหู นางไม่เชื่อว่าหลิงอวี๋จะเป็นแม่นางหลิงหมอชั้นเซียนจริงหรอกครั้นเห็นแผลบนหน้าหลิงอวี๋ หลี่ว์ฟางฟางก็นึกถึงเรื่องที่หลิงอวี๋ถูกท่านอ๋องอี้หวดแส้เนื่องยืมเงินกู้

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 246

    หลี่ว์จงเจ๋อรีบเอ่ย “น้องหลิง ไม่ว่าจ่ายเงินเท่าไรเราล้วนให้หมด ได้โปรดเจ้ารักษาท่านย่าข้าให้หายด้วย!”หลี่ว์ฟางฟางคิดว่าตนสบโอกาสอีกหน กล่าวเหี้ยมเกรียมว่า“ท่านพี่ ท่านอย่าโดนหลิงอวี๋หลอก นางจงใจพูดอาการป่วยท่านย่าร้ายแรง กระตุ้นท่านให้เอ่ยคำพูดนี้ออกมามิใช่ว่าหมายต้องการเงินมากหรือ?”“หลิงอวี๋ เจ้าเปิดร้านโอสถสมุนไพรก็ไร้จรรยาแพทย์รึ? เจ้าเรียกร้องเกินเหตุเช่นกันมีกระไรต่างกับหมอพเนจรรึ?”หลิงอวี๋พูดไม่ออก นางเรียกร้องเกินเหตุตั้งแต่เมื่อไรกัน?นางมิได้พูดถึงเงินเลยสักคำ!อัครเสนาบดีหลี่ว์มองเหตุการณ์กระจ่าง เลี้ยงลูกสาวมาดื้อแบบนี้ได้อย่างไร?“ฟางฟางพอแล้ว! เจ้าออกไปก่อน!”หลี่ว์เซียงมองหลี่ว์ฟางฟางทำให้หลิงอวี๋อับอายครั้งแล้วครั้งเล่าก็ทนมิไหวอีกพลางตวาดลั่น“ออกไป! ถ้ากล้าพูดอีกประโยคก็ไปคุกเข่าที่ศาลบรรพบุรุษเสีย!”“ท่านพ่อ ข้าพูดผิดที่ใด? หลิงอวี๋ต้องการเงินมากเห็น ๆ!”“ท่านพ่อ ท่านมิได้ยินข่าวลือหรือ? หลิงอวี๋นางติดหนี้เงินกู้ดอกเบี้ยสูงมากนัก!”“นางแค่เห็นว่าตระกูลเรามีเงินถึงคิดอาศัยอาการป่วยท่านย่าต้มเอาเงินเจ้าค่ะ!”ไม่รอให้หลี่ว์ฟางฟางพูดต่อ หลี่ว์เซียงเหลืออ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 247

    “ขั้นแรก วันนี้ข้าฝังเข็มให้ฮูหยินใหญ่ก่อน เช่นนี้จะบรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อนางได้!”“แล้วข้าจะเขียนเทียบยาให้ฮูหยินใหญ่ บำบัดข้อแรกคือยารักษาสามชุด รอกินหมดข้าค่อยมาฝังเข็มนางอีก! ตรวจปรับเทียบยาตามอาการอีกที!”“้เช่นนี้ การบำบัดรักษาข้อสาม ฮูหยินใหญ่ใส่ใจอาหารการกินอย่างต่อเนื่องก็สามารถฟื้นตัวได้แล้ว!”หลี่ว์เซียงคือคนจริงจัง ถ้าหลิงอวี๋พูดว่าฝังเข็มทีเดียวก็ฟื้นตัวได้ เขาคงมีความสนเท่ห์อยู่ในใจแต่หลิงอวี๋ว่าตามเหตุผลแผนการรักษากระจ่าง ไฉนหลี่ว์เซียงจะไม่เชื่อได้เล่า!หลี่ว์เซียงพยักหน้าพอใจ “พระชายาอ๋องอี้ ล้วนเชื่อฟังเจ้า! เจ้าว่ารักษาเช่นไรก็รักษาเช่นนั้น!”“งั้นเชิญพวกท่านออกไปก่อน! ข้าจะฝังเข็มให้ฮูหยินใหญ่แล้ว!”หลิงอวี๋ส่งครอบครัวหลี่ว์เซียงไป พลันหยิบเข็มเงินฝังเข็มให้ฮูหยินใหญ่ครั้นรอหลิงอวี๋ฝังเข็มเสร็จพลางกำลังเก็บเข็มเงินฮูหยินใหญ่กลับหน้าแดงก่ำกะทันหัน เรียกหลิงอวี๋“พระชายาอ๋องอี้ เจ้ารีบออกไปช่วยเรียกลูกสะใภ้ข้าเข้ามา!”ครอบครัวหลี่ว์เซียงรออยู่ด้านนอก หลี่ว์เซียงกำลังตำหนิหลี่ว์ฟางฟางหลี่ว์ฟางฟางยังเคืองหลี่ว์เซียงที่ตบตนหนึ่งฝ่ามือเมื่อครู่ ต่อหน้าเช

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 248

    “ท่านย่าเจ้ามิใช่ถูกพระชายารักษาพลาด! พระชายารักษานางหายแล้ว!”ฮูหยินหลี่ว์เอ่ยเคืองโกรธ “ถ้าเจ้าเรียกชื่อพระชายาตรง ๆ อีก อย่าว่าแต่พ่อเจ้ามิยกโทษให้เจ้า ท่านแม่ก็มิยกโทษเจ้าง่าย ๆ เช่นกัน!”หลี่ว์ฟางฟางเห็นมารดาโกรธจริง ๆ ก็ตกใจพลางมองพี่ชายอย่างขอความช่วยเหลือหลี่ว์จงเจ๋อถนอมรักน้องสาวมาตลอด แม้ไม่พอใจที่นางพูดตามอำเภอใจ แต่เมื่อเห็นแววตาน้อย ๆ ที่น่าสงสารของนางหัวใจก็ชักทนไม่ไหว“ท่านแม่ ท่านเลิกต่อว่าน้องเสียก่อนแล้วบอกเราเถิด ท่านย่าเป็นกระไรไปกันแน่? ไยนางโกรธมากเพียงนี้ขอรับ?”ฮูหยินหลี่ว์หน้าแดงรู้สึกเขินอายจะกล่าวคำพูดที่หลิงอวี๋พูดต่อนางเช่นกันแต่ครั้นเห็นครอบครัวต่างมองตนอย่างคาดหวัง ฮูหยินหลี่ว์เลยทำได้แค่เอ่ยเสียงแผ่ว“ท่านย่าเจ้าเทางเดินอาหารสะดวกแล้ว อยากไปเว็จ(1)กลัวพระชายาได้กลิ่นเลยไล่พวกเราออกมา!”อ๋า เป็นเช่นนี้แล?หลี่ว์เซียงกับหลี่ว์จงเจ๋อต่างตะลึงตาค้าง“นี่คือปฏิกิริยาปกติ ตำหนิข้าที่สะเพร่าชั่วขณะแล้ว!”หลิงอวี๋อธิบายยิ้ม ๆ ว่า “ฮูหยินใหญ่ถูกอาการเจ็บปวดรบกวนใจ กินอาหารไม่ลงทั้งขาดการออกกำลังกาย ด้านสรีรวิทยาจึงมิราบรื่น”“เมื่อครู่ข้าฝังเข็มให้ฮ

Latest chapter

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1898

    เผยอวี้เหลียวซ้ายแลขวาไปรอบ ๆ เมืองหลวงแดนเทพที่เจริญรุ่งเรืองราวกับคนบ้านนอก ทำเอาเขาอดมิได้ที่จะถอนหายใจ“มิแปลกใจที่ทุกคนล้วนพูดว่าเมืองหลวงแดนเทพเจริญรุ่งเรือง เพราะที่นี่เจริญจริง ๆ ดังคำกล่าว นายท่านอู่ เมืองหลวงแดนเทพแห่งนี้ใหญ่กว่าเมืองหลวงในฉินตะวันตกของพวกเราหลายเท่านัก!”เซียวหลินเทียนวางแผนใช้คำในชื่อจักรพรรดิเซิ่งอู่ของตนเป็นแซ่ ดังนั้น เผยอวี้และคนอื่น ๆ จึงได้เปลี่ยนมาเรียกเซียวหลินเทียนว่านายท่านอู่หานอวี้กับเถาจื่อและคนอื่น ๆ ที่ได้รีบมารวมตัวกับกลุ่มของเซียวหลินเทียนต่างพยักหน้าเห็นด้วยอย่างเงียบ ๆทว่าเซียวหลินเทียนกลับรู้สึกเบื่อหน่ายขึ้นมา เมืองหลวงแดนเทพเจริญรุ่งเรืองแล้วอย่างไร?หากไม่มีหลิงอวี๋อยู่เคียงข้าง มิว่าทิวทัศน์จะสวยงามเพียงใดมันก็ไร้ประโยชน์ยิ่งเมืองหลวงแดนเทพเจริญรุ่งเรืองและมีขนาดใหญ่มากเท่าไร การตามหาหลิงอวี๋ก็จะยิ่งยากมากเท่านั้นท่ามกลางฝูงชนมหาศาลนี้เขาจะหาตัวหลิงอวี๋ของเขาพบได้อย่างไร?ฉินซาน หานเหมยและสือหรงล่วงหน้ากันไปก่อน ในช่วงที่ยังสร้างตำหนักปีกเงินแห่งใหม่มิเสร็จนี้ ทั้งสามคนได้ซื้อที่ดินใหญ่ที่มีหกส่วนเพื่อให้ทุกคนใช้เป็นที่อย

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1897

    หลิงอวี๋เห็นด้วยกับผู้รอบรู้ เพื่อป้องกันมิให้คนอื่นสงสัยว่านางกับผู้รอบรู้มิใช่พี่น้องกันแท้ ๆ นางจึงเปลี่ยนแซ่ของตนเป็นแซ่เดียวผู้รอบรู้และใช้นามว่า สิงอวี๋วันรุ่งขึ้น หลิงอวี๋ไปที่ห้องโถงหลักของหอโอสถซ่างกู่เพื่อลงทะเบียน ที่ทางเข้าหอโอสถซ่างกู่นั้นมีทั้งบุรุษและสตรีต่อแถวยาวเป็นหางว่าวหลิงอวี๋รู้สึกเวียนหัวขึ้นมาเมื่อเห็นแถวยาวถึงเพียงนี้ ต้องต่อแถวไปถึงเมื่อไรกว่าตนจะได้ลงทะเบียนเล่านี่!แต่เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ เพื่ออนาคตของตนในวันข้างหน้า นางก็ทำได้เพียงต่อแถวต่อไปอย่างว่าง่ายเท่านั้นคุณหนูและนายน้อยบางส่วนมิได้มาด้วยตนเอง แต่ส่งสาวใช้และคนรับใช้ไปต่อแถวให้เด็กสาวท่าทางเหมือนคุณหนูที่อยู่ข้างหลังหลิงอวี๋เห็นเช่นนั้นก็ยิ้มเยาะขึ้นมา“แม้แต่มาต่อแถวก็ยังไม่มีความจริงใจ แต่กลับอยากเป็นศิษย์ของอาจารย์เย่น่ะหรือ คนเช่นนี้สมควรถูกปัดตกไปเสีย!”สาวใช้ด้านหน้าหลิงอวี๋ที่มาต่อแถวแทนเจ้านายได้ยินเช่นนั้นก็พูดอย่างดูถูกว่า “ไม่มีใครตั้งกฎว่าห้ามสาวใช้มาต่อแถวให้นี่! ตระกูลเหลยของท่านขัดสนมากจนไม่มีเงินจ้างสาวใช้หรืออย่างไร?”เหลยเหวินโกรธจัดและตะโ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1896

    หลิงอวี๋มิได้ถือโทษผู้รอบรู้และกล่าวว่า “พี่ใหญ่มิต้องกังวลไป กินข้าวกันก่อนเถิด ท่านซื้อตำรับกลั่นโอสถมิได้ก็ช่างมัน ข้ามีที่เรียนแล้ว!”ในขณะที่กำลังกินข้าวหลิงอวี๋ก็เล่าให้ผู้รอบรู้ฟังว่าสำนักศึกษาชิงหลงกำลังรับสมัครบัณฑิตวิชาปรุงโอสถ“วันพรุ่งข้าจะไปลงทะเบียน หากข้าได้ที่หนึ่ง ข้าก็จะได้เรียนวิชาปรุงโอสถโดยมิต้องเสียเงินแม้แต่แดงเดียว!”แต่แม้จะมิได้ที่หนึ่งหลิงอวี๋ก็คิดว่าตนสามารถหาเงินห้าหมื่นอีแปะจากการขายตำรับยาเพียงมิกี่เล่ม นางจึงมิได้เก็บมาใส่ใจ“พี่ใหญ่ ตอนที่ลงทะเบียนมีปรมาจารย์ให้เลือกเรียนด้วยสองคน ข้ามิรู้ว่าควรจะเลือกปรมาจารย์คนไหน วันพรุ่งท่านช่วยไปสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับนิสัยของแต่ละคนให้ข้าหน่อยนะ!”เมื่อผู้รอบรู้ได้ยินว่า นักปรุงโอสถแห่งหอโอสถไป๋เป่าและซ่างกู่จะรับหน้าที่เป็นครู เขาก็พูดโดยมิลังเลว่า “มิจำเป็นต้องไปสอบถามหรอก เลือกครูของหอโอสถซ่างกู่สิ!”“เพราะเหตุใดหรือ?” หลิงอวี๋ถามด้วยความอยากรู้ผู้รอบรู้ยิ้มหยัน “คนของหอโอสถไป๋เป่าเหล่านั้นเป็นพวกยโสชอบดูถูกคนอื่น! เพราะคนที่อยู่เบื้องหลังหอโอสถของพวกเขาคือฮูหยินของเจ้าแห่งทะเลของตระกูลหลงอย่างไรเล่า!”“

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1895

    เมื่อเห็นบรรยากาศที่แสนจะคึกคัก หลิงอวี๋ก็เข้ามาดูว่าเกิดอะไรขึ้นนางเห็นประกาศว่า สำนักศึกษาชิงหลงกำลังรับสมัครบัณฑิตในหลายสาย เช่น สายนักปรุงโอสถ สายนักสร้างอาวุธ สายนักทำนายดวงดาว สายนักอัญเชิญ และสายจอมยุทธ์ ขณะที่หลิงอวี๋กำลังอ่านประกาศ นางก็ได้ยินผู้คนรอบ ๆ พูดคุยกันจากบทสนทนาของพวกเขา ทำให้หลิงอวี๋ได้รู้ว่า สำนักศึกษาชิงหลงนั้นอยู่ในการดำเนินงานของราชสำนักซึ่งให้การศึกษาด้านการฝึกฝนในระดับสูงผู้ที่ดำรงตำแหน่งเป็นครูคือปรมาจารย์ที่โดดเด่นในด้านต่าง ๆ หากมีบัณฑิตที่มีความเป็นเลิศประจักษ์แก่สายตาของอาจารย์เหล่านี้ พวกเขาก็สามารถรับเป็นศิษย์และเข้าร่วมกับกองทัพของราชสำนัก หรือสำนักใหญ่ ๆ ได้แดนเทพเปิดกว้างมากเรื่องความแตกต่างระหว่างบุรุษและสตรี สตรีนั้นสามารถเข้ามาร่ำเรียนในสำนักศึกษาและได้รับการปฏิบัติเช่นเดียวกับบัณฑิตชายหลิงอวี๋รู้สึกถูกใจในสิ่งที่ได้เห็น การที่ได้ไปร่ำเรียนในสำนักศึกษาเช่นนี้ จะทำให้ตนเข้าใจการปรุงโอสถได้ง่ายขึ้น ดีกว่าลองผิดลองถูกมิใช่หรือ?นางตั้งใจอ่านอีกครั้ง ข้อกำหนดในการลงทะเบียนมิได้เข้มงวดเกินไป และใช้เงินเพียงห้าตำลึงเงินเท่านั้นในการลงทะเบี

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1894

    หลิงอวี๋และผู้รอบรู้ได้มาถึงเมืองหลวงแดนเทพ เหมือนกับที่ผู้รอบรู้บอก เมืองหลวงแดนเทพเต็มไปด้วยโอกาสเพราะที่นี่มีผู้บำเพ็ญตนมากมายและเต็มไปด้วยกลุ่มคนน้อยใหญ่อยู่ทั่วทุกหนแห่งหลิงอวี๋เองก็รู้สึกทึ่งกับความเจริญรุ่งเรืองของเมืองหลวงแดนเทพ มีร้านค้าอยู่ทั่วทุกมุมและสินค้าที่ขายก็มีความหลากหลายแปลกตาและสวยงามเช่นเดียวกัน ราคาที่อยู่อาศัยในเมืองหลวงแดนเทพก็มีราคาแพงสองวันแรกทั้งสองคนพักที่โรงเตี๊ยมเล็ก ๆ บริเวณชานเมือง ซึ่งมีค่าใช้จ่ายคืนละห้าสิบตำลึงเงินหลังจากใช้ความพยายามอย่างมาก ในที่สุดผู้รอบรู้ก็ได้ซื้อเรือนเล็ก ๆ ของตรอกเล็กในเมืองที่อยู่ไกลออกไปโดยใช้เงินไปเกือบสามหมื่นนี่เทียบเท่ากับการใช้สมบัติของหลิงอวี๋ไปมากกว่าครึ่งหนึ่ง ซึ่งทำให้ผู้รอบรู้รู้สึกปวดใจอยู่นานแต่หลิงอวี๋พอใจแล้ว การซื้อเรือนเล็ก ๆ แห่งนี้ได้ในราคาต่ำเช่นนี้ ถือว่าผู้รอบรู้ก็มีความสามารถ มิเช่นนั้น หากดูตามราคาตลาด เรือนแห่งนี้อาจมีราคาสูงถึงห้าหมื่นด้วยซ้ำ“พี่ใหญ่ เงินหมดก็หาใหม่ได้ มิต้องเสียใจไปหรอก พวกเรามีบ้านแล้วก็สามารถหาอาชีพทำมาหากินได้”หลิงอวี๋พูดปลอบอีกฝ่ายด้วยความมั่นใจเรือนเล็กนี้รวมห

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1893

    เมื่อครอบครัวของเจี่ยงหัวกลับมาที่เรือ พวกเขาก็พบศพไร้หัวในห้องของเขา มีคราบเลือดยาวบนผนังไม้ของห้องโดยสาร ซึ่งเป็นประโยคที่ถูกสลักด้วยกระบี่อาบเลือด“จุดจบของคนทรยศ!”ครอบครัวของเจี่ยงหัวตกใจกลัวมากจนสละเรือและหนีไปในคืนนั้นพวกเขามิรู้ว่าที่จริงแล้วเซียวหลินเทียนมิคิดจะเอาผิดพวกเขา ทุกคนควรรับผิดชอบต่อการกระทำของตนเอง และการสังหารเจี่ยงหัวนั้นก็เพียงพอแล้วเซียวหลินเทียนส่งศีรษะของเจี่ยงหัวให้สือหรง ทันใดนั้นสือหรงก็ร้องไห้เศร้าโศกและนำศีรษะของเจี่ยงหัวไปเซ่นให้กับครอบครัวของตนหลังจากนั้น สือหรงก็กระทำการบางอย่าง เขาเขียนจดหมายเลือดเรื่องที่เจี่ยงหัวสมคบคิดกับมหาปราชญ์สังหารเหล่าศิษย์ของตำหนักปีกเงิน และคัดลอกสำเนาไปหลายสิบฉบับภายในคืนเดียววันรุ่งขึ้น ที่ประตูเมืองในพื้นที่นั้นมีพ่อค้าจำนวนมากกำลังต่อแถวรอเข้าเมือง แล้วก็มีคนพบศีรษะของเจี่ยงหัวที่แขวนอยู่บนกำแพงเมือง และยังมีจดหมายเลือดที่สือหรงเป็นคนเขียน ซึ่งเขียนประณามความผิดของเจี่ยงหัวขณะที่ทุกคนกำลังถกเถียงกันเรื่องนี้ ก็มีจดหมายเลือดมากมายปลิวลงมาจากกำแพงเมืองทันใดนั้นความผิดฐานทรยศอาจารย์และสมคบคิดกับมหาปราชญ์ของเ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1892

    หลังจากได้ยินคำกล่าวเหล่านั้น หลิงอวี๋ก็คิดว่าเซียวหลินเทียนเป็นปีศาจร้ายที่ก่อกรรมทำชั่วสารพัดและสังหารผู้คนเป็นผักปลาแต่หลิงอวี๋กลับมิรู้เลยว่ามหาปราชญ์เป็นผู้สั่งให้คนบิดเบือนและแพร่กระจายข่าวนี้ออกไปหลังจากที่เขากลับไปถึงเมืองหลวงแดนเทพเซียวหลินเทียนและหวงฝู่หลินนั้นคนหนึ่งทำให้มหาปราชญ์ตาบอด และอีกคนก็ตัดแขนข้างหนึ่งของมหาปราชญ์ มหาปราชญ์จะกล้ำกลืนความอัปยศนี้ได้อย่างไรหากเขามิแก้แค้น!เขาทำให้เซียวหลินเทียนและหวงฝู่หลินเสียชื่อเสียงและทำให้ผู้คนทั่วหล้าลุกขึ้นมาโจมตีพวกเขา ส่วนมหาปราชญ์ใช้โอกาสนี้พักฟื้นและหาโอกาสเหมาะเพื่อช่วงชิงมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ซึ่งคือ กระบี่คุณอู่ของเซียวหลินเทียนอีกครั้งมหาปราชญ์มิได้บอกใครเกี่ยวกับการค้นพบกระบี่อายุนับพันปีเล่มนี้ ด้วยคิดว่ากระบี่เล่มนี้เป็นของตน จึงมิอยากให้ใครมาแย่งชิงมันไปการแพร่กระจายข่าวลือเป็นหนึ่งในอุบายของมหาปราชญ์ที่ต้องการทำลายชื่อเสียงของเซียวหลินเทียนและป้องกันมิให้เขาพบกับเหล่าศิษย์จากตำหนักปีกเงินซึ่งเป็นไปตามคาดว่าข่าวลือนั้นแพร่กระจายไปยังวงกว้างด้วยความรวดเร็วบรรดาศิษย์ตำหนักปีกเงินบางส่วนที่กระจายอยู่ตามสถาน

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1891

    ผู้รอบรู้ซาบซึ้งจนน้ำตาแทบไหล เมื่อไรกันที่เขาได้รับความเชื่อใจจากใครบางคนมากมายถึงเพียงนี้!หลิงอวี๋พูดไปตามตรง “พี่ใหญ่ มีเรื่องบางอย่างที่ตอนนี้ข้ายังบอกท่านมิได้ มิใช่ว่าข้ามิไว้ใจท่าน แต่หากพูดไปแล้วมันอาจสร้างปัญหามากมายให้ท่านได้!”“เชื่อใจข้าเถิด สักวันข้าจะเล่าให้ท่านฟังทุกอย่าง!”ผู้รอบรู้มองตั๋วเงินในมือของตนพลางพูดอย่างใจกว้างว่า “ทุกคนต่างก็มีความลับของตัวเอง หากเจ้ามิอยากพูดก็มิต้องพูดหรอก พี่ใหญ่เชื่อใจเจ้า!”หลิงอวี๋ถึงกับยอมมอบของมีค่าทั้งหมดให้กับตนเช่นนี้ แม้จะมีความลับปิดบังต่อตนผู้รอบรู้ก็ย่อมยอมรับได้ขอแค่เขาเชื่อใจว่าหลิงอวี๋ไม่มีเจตนาร้ายก็พอแล้วสองพี่น้องพักที่โรงเตี๊ยมหนึ่งคืน ต่อมาในวันรุ่งขึ้นที่ฟ้ายังมิสว่าง ผู้รอบรู้ก็รีบรุดไปเช่ารถม้ามาหนึ่งคันโชคดีที่รถม้าเพิ่งส่งผู้โดยสารเพื่อขึ้นเรือไป ผู้รอบรู้จึงได้เช่ารถม้ามาในราคาสิบตำลึงส่วนหลิงอวี๋นั้นเพิ่งตื่น และผู้รอบรู้ก็วิ่งเข้ามาเคาะประตูด้วยความลิงโลด “น้องชาย รีบลุกเถิด พวกเราต้องออกเดินทางแล้ว! รถม้ากำลังรออยู่ข้างนอก”หลิงอวี๋รีบอาบน้ำแต่งตัวและแบกห่อผ้าของตนออกมา ผู้รอบรู้ยัดถุงกระดาษไขใบห

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1890

    ผู้รอบรู้พูดมิออกแล้ว หลิงอวี๋มิรู้อะไรเลย แล้วจะจ่ายยาที่ถูกต้องได้อย่างไร!“พี่สิง ข้าอยากรู้มากว่าท่านรู้เรื่องมากมายถึงเพียงนั้นได้อย่างไร?”เมื่อหลิงอวี๋เห็นว่าผู้รอบรู้ลำบากใจ นางจึงเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “ก่อนหน้านี้ท่านเคยใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองหลวงแดนเทพหรือ?”ใบหน้าของผู้รอบรู้กระตุก เขาหันมองไปรอบ ๆ เมื่อเห็นว่าไม่มีใครสนใจพวกเขา จึงเอ่ยขึ้นมา “ข้าจะพูดกับเจ้าตามตรง เมื่อก่อนข้าเป็นคนของตำหนักปีกเงิน ข้าเป็นคนของเจี่ยงฮั๋วผู้พิทักษ์ฝ่ายขวา เมื่อสองปีก่อนข้าทำงานพลาดไป ทำให้เจี่ยงฮั๋วโกรธ เขาจึงไล่ข้าออกจากตำหนักปีกเงิน!”“ก่อนหน้านี้ข้าก็ยังคิดจะหาโอกาสขอพบท่านเจ้าตำหนักเก่า แล้วกลับไปที่ตำหนักปีกเงินอีกครั้ง แต่ตอนนี้ตำหนักปีกเงินเสื่อมโทรมลงไปแล้ว ได้ยินว่าเจ้าตำหนักเก่าป่วยหนักและมิรับงานแล้ว ข้าจึงได้เร่ร่อนอยู่ข้างนอกตลอดเช่นนี้!”“คนที่ออกมาจากตำหนักปีกเงินล้วนเก่งในการสืบหาข้อมูล แม้ว่าข้าจะออกจากตำหนักปีกเงินไปแล้ว แต่ข้าก็เคยชินกับสัญชาตญาณนี้ ดังนั้นข้าจึงใส่ใจกับข้อมูลแต่ละประเภทมาก อยากจะรู้มากแค่ไหนก็มิยาก!”หลิงอวี๋จึงได้รู้ว่าผู้รอบรู้ก็เป็นคนที่มีภูมิหลังเช่นก

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status