เมื่อเข้าประตู หลิงอวี๋ก็เห็นฮูหยินใหญ่หลี่ว์นอนบนเตียง ดวงหน้านางเปี่ยมริ้วรอย หนังหุ้มกระดูก แม้เป็นคนชราอายุไม่ถึงหกสิบ แต่กลับแก่ดั่งคนอายุเจ็ดสิบแปดสิบปีแล้วฮูหยินหลี่ว์กับบุตรีของหลี่เซียงที่ด้านข้างยังมีคนรับใช้สองคนคอยปรนนิบัติ“ท่านแม่ ฮูหยิน นี่คือแม่นางหลิงหมอชั้นเซียนที่เคยเล่าให้พวกท่านก่อนหน้า นางเป็นหลานสาวของท่านอดีตอัครเสนาบดีเช่นกัน หลิงอวี๋พระชายาอ๋องอี้!”หลี่เซียงก้าวไปข้างหน้าเอ่ยแนะนำ“พบพระชายาอ๋องอี้แล้ว!”ฮูหยินหลี่ว์พาบุตรีหลี่ว์ฟางฟางคารวะหลิงอวี๋ฮูหยินหลี่ว์อายุไม่ถึงสี่สิบ รูปลักษณ์สุภาพงดงาม แต่ใบหน้ากลับซีดเซียว คาดว่าเป็นเพราะความล้าที่คอยดูแลความเจ็บไข้ฮูหยินใหญ่หลี่ว์ฟางฟางเพิ่งอายุสิบสี่ รูปลักษณ์คล้ายหลี่ว์จงเจ๋อเล็กน้อย หน้าตาสะสวยนางสังเกตหลิงอวี๋อย่างจองหองอยู่บ้าง ไม่ร่ำเรียนเขียนอ่านกับชื่อเสียงแย่ ๆ เหล่านั้นของหลิงอวี๋แพร่ไปทั่วเมืองหลวงแล้วหลี่ว์ฟางฟางได้ยินสิ่งนี้กับหู นางไม่เชื่อว่าหลิงอวี๋จะเป็นแม่นางหลิงหมอชั้นเซียนจริงหรอกครั้นเห็นแผลบนหน้าหลิงอวี๋ หลี่ว์ฟางฟางก็นึกถึงเรื่องที่หลิงอวี๋ถูกท่านอ๋องอี้หวดแส้เนื่องยืมเงินกู้
หลี่ว์จงเจ๋อรีบเอ่ย “น้องหลิง ไม่ว่าจ่ายเงินเท่าไรเราล้วนให้หมด ได้โปรดเจ้ารักษาท่านย่าข้าให้หายด้วย!”หลี่ว์ฟางฟางคิดว่าตนสบโอกาสอีกหน กล่าวเหี้ยมเกรียมว่า“ท่านพี่ ท่านอย่าโดนหลิงอวี๋หลอก นางจงใจพูดอาการป่วยท่านย่าร้ายแรง กระตุ้นท่านให้เอ่ยคำพูดนี้ออกมามิใช่ว่าหมายต้องการเงินมากหรือ?”“หลิงอวี๋ เจ้าเปิดร้านโอสถสมุนไพรก็ไร้จรรยาแพทย์รึ? เจ้าเรียกร้องเกินเหตุเช่นกันมีกระไรต่างกับหมอพเนจรรึ?”หลิงอวี๋พูดไม่ออก นางเรียกร้องเกินเหตุตั้งแต่เมื่อไรกัน?นางมิได้พูดถึงเงินเลยสักคำ!อัครเสนาบดีหลี่ว์มองเหตุการณ์กระจ่าง เลี้ยงลูกสาวมาดื้อแบบนี้ได้อย่างไร?“ฟางฟางพอแล้ว! เจ้าออกไปก่อน!”หลี่ว์เซียงมองหลี่ว์ฟางฟางทำให้หลิงอวี๋อับอายครั้งแล้วครั้งเล่าก็ทนมิไหวอีกพลางตวาดลั่น“ออกไป! ถ้ากล้าพูดอีกประโยคก็ไปคุกเข่าที่ศาลบรรพบุรุษเสีย!”“ท่านพ่อ ข้าพูดผิดที่ใด? หลิงอวี๋ต้องการเงินมากเห็น ๆ!”“ท่านพ่อ ท่านมิได้ยินข่าวลือหรือ? หลิงอวี๋นางติดหนี้เงินกู้ดอกเบี้ยสูงมากนัก!”“นางแค่เห็นว่าตระกูลเรามีเงินถึงคิดอาศัยอาการป่วยท่านย่าต้มเอาเงินเจ้าค่ะ!”ไม่รอให้หลี่ว์ฟางฟางพูดต่อ หลี่ว์เซียงเหลืออ
“ขั้นแรก วันนี้ข้าฝังเข็มให้ฮูหยินใหญ่ก่อน เช่นนี้จะบรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อนางได้!”“แล้วข้าจะเขียนเทียบยาให้ฮูหยินใหญ่ บำบัดข้อแรกคือยารักษาสามชุด รอกินหมดข้าค่อยมาฝังเข็มนางอีก! ตรวจปรับเทียบยาตามอาการอีกที!”“้เช่นนี้ การบำบัดรักษาข้อสาม ฮูหยินใหญ่ใส่ใจอาหารการกินอย่างต่อเนื่องก็สามารถฟื้นตัวได้แล้ว!”หลี่ว์เซียงคือคนจริงจัง ถ้าหลิงอวี๋พูดว่าฝังเข็มทีเดียวก็ฟื้นตัวได้ เขาคงมีความสนเท่ห์อยู่ในใจแต่หลิงอวี๋ว่าตามเหตุผลแผนการรักษากระจ่าง ไฉนหลี่ว์เซียงจะไม่เชื่อได้เล่า!หลี่ว์เซียงพยักหน้าพอใจ “พระชายาอ๋องอี้ ล้วนเชื่อฟังเจ้า! เจ้าว่ารักษาเช่นไรก็รักษาเช่นนั้น!”“งั้นเชิญพวกท่านออกไปก่อน! ข้าจะฝังเข็มให้ฮูหยินใหญ่แล้ว!”หลิงอวี๋ส่งครอบครัวหลี่ว์เซียงไป พลันหยิบเข็มเงินฝังเข็มให้ฮูหยินใหญ่ครั้นรอหลิงอวี๋ฝังเข็มเสร็จพลางกำลังเก็บเข็มเงินฮูหยินใหญ่กลับหน้าแดงก่ำกะทันหัน เรียกหลิงอวี๋“พระชายาอ๋องอี้ เจ้ารีบออกไปช่วยเรียกลูกสะใภ้ข้าเข้ามา!”ครอบครัวหลี่ว์เซียงรออยู่ด้านนอก หลี่ว์เซียงกำลังตำหนิหลี่ว์ฟางฟางหลี่ว์ฟางฟางยังเคืองหลี่ว์เซียงที่ตบตนหนึ่งฝ่ามือเมื่อครู่ ต่อหน้าเช
“ท่านย่าเจ้ามิใช่ถูกพระชายารักษาพลาด! พระชายารักษานางหายแล้ว!”ฮูหยินหลี่ว์เอ่ยเคืองโกรธ “ถ้าเจ้าเรียกชื่อพระชายาตรง ๆ อีก อย่าว่าแต่พ่อเจ้ามิยกโทษให้เจ้า ท่านแม่ก็มิยกโทษเจ้าง่าย ๆ เช่นกัน!”หลี่ว์ฟางฟางเห็นมารดาโกรธจริง ๆ ก็ตกใจพลางมองพี่ชายอย่างขอความช่วยเหลือหลี่ว์จงเจ๋อถนอมรักน้องสาวมาตลอด แม้ไม่พอใจที่นางพูดตามอำเภอใจ แต่เมื่อเห็นแววตาน้อย ๆ ที่น่าสงสารของนางหัวใจก็ชักทนไม่ไหว“ท่านแม่ ท่านเลิกต่อว่าน้องเสียก่อนแล้วบอกเราเถิด ท่านย่าเป็นกระไรไปกันแน่? ไยนางโกรธมากเพียงนี้ขอรับ?”ฮูหยินหลี่ว์หน้าแดงรู้สึกเขินอายจะกล่าวคำพูดที่หลิงอวี๋พูดต่อนางเช่นกันแต่ครั้นเห็นครอบครัวต่างมองตนอย่างคาดหวัง ฮูหยินหลี่ว์เลยทำได้แค่เอ่ยเสียงแผ่ว“ท่านย่าเจ้าเทางเดินอาหารสะดวกแล้ว อยากไปเว็จ(1)กลัวพระชายาได้กลิ่นเลยไล่พวกเราออกมา!”อ๋า เป็นเช่นนี้แล?หลี่ว์เซียงกับหลี่ว์จงเจ๋อต่างตะลึงตาค้าง“นี่คือปฏิกิริยาปกติ ตำหนิข้าที่สะเพร่าชั่วขณะแล้ว!”หลิงอวี๋อธิบายยิ้ม ๆ ว่า “ฮูหยินใหญ่ถูกอาการเจ็บปวดรบกวนใจ กินอาหารไม่ลงทั้งขาดการออกกำลังกาย ด้านสรีรวิทยาจึงมิราบรื่น”“เมื่อครู่ข้าฝังเข็มให้ฮ
ระยะนี้หลี่ว์เซียงกลุ้มจนกินไม่ได้นอนไม่หลับเพราะการป่วยของมารดา พอเห็นมารดาหายแล้วกว่าครึ่งก็พูดเล่นได้แล้ว อารมณ์สดใสขึ้นเช่นกัน“พระชายาอ๋องอี้ ล้วนเป็นข้ามีตาไร้แววเชิญเจ้ามาเร็วกว่านี้ ท่านแม่ข้าก็มิต้องทุกข์ตรมนานเพียงนี้!”“มิได้ ๆ การขออภัยน้อยเกินไป รอวันหลังข้าจะจัดเลี้ยงใหญ่โต ขอบคุณเจ้าต่อหน้าธารกำนัล!”หลี่ว์เซียงพูดอย่างตื่นเต้น“ท่านลุงหลี่ว์ นี่มิใช่ถือหลิงอวี๋เป็นคนนอกหรือ? หากจัดเลี้ยง งั้นก็รอเมื่อพี่ใหญ่หลี่ว์ตบแต่งเถิด ถึงเวลานั้นหลิงอวี๋จักมาอวยพรถึงเรือนแน่เจ้าค่ะ!”หลี่ว์จงเจ๋อถูกคำพูดทำหน้าแดง เขามองหลิงอวี๋ถึงแม้หน้าดวงนั้นมีบาดแผล แต่กลับยังอะร้าอร่าม!เขาแค่คิดว่าหลิงอวี๋งามกว่าสตรีใดที่เขาเคยเห็นมา!ภรรยาที่เขาจะแต่งก็ต้องงามสง่าเหมือนหลิงอวี๋!หลิงอวี๋ส่งเทียบยากับอาหารแสลงที่เขียนเสร็จให้หลี่ว์จงเจ๋อ พลางมองหลี่ว์ฟางฟางที่โดนฮูหยินหลี่ว์จับไว้กล่าว่า“กฎของโรงเหยียนหลิง ค่าตรวจครั้งละสิบตำลึงเงิน ฝังเข็มก็ครั้งละสิบตำลึงเช่นกัน เงินพวกนี้มิต้องให้ถือว่าข้ามอบของกำนัลแก่ฮูหยินใหญ่!”“เครื่องยาสมุนไพรพวกเจ้าเอาเทียบยาไปโรงเหยียนหลิง หรือร้านขายโอส
หลี่ว์เซียงส่งหลิงอวี๋ออกมา แถมขออภัยแทนความเสียมารยาทของหลี่ว์ฟางฟางอย่างจริงจังอีกหลิงอวี๋มองความถ่อมตัวเช่นนี้ของหลี่ว์เซียง ยิ่งเคารพหลี่ว์เซียงมากขึ้นนางนึกถึงเซียวหลินเทียนกำลังรอพูดคุยกับหลี่ว์เซียง พลันกล่าว“ท่านลุง คืนนี้ท่านอ๋องอี้เสด็จมาเป็นเพื่อนข้ามีเรื่องอยากคุยกับท่าน! ท่านลุงก็คุยกับเขาดูเถิดเจ้าค่ะ!”หลี่ว์เซียงได้ยินสีหน้าพลันมืดลงทันใดเห็นแก่หลิงอวี๋เพิ่งรักษาโรคให้มารดาตน หลี่ว์เซียงไม่อยากให้หลิงอวี๋เสียหน้า จึงดึงหน้าพลางเดินเข้าห้องรับรองพร้อมกับหลิงอวี๋หลี่ว์จงเจ๋อรู้สึกได้ถึงความโกรธของบิดา หวั่นหลิงอวี๋ถูกเซียวหลินเทียนข้องเกี่ยวจึงเดินตามเข้าไป“ท่านอัครเสนาบดีหลี่ว์!”เซียวหลินเทียนรอมาค่อนวันแล้วถึงเห็นหลี่ว์เซียงมา เขายิ้มเล็กน้อยพลางเอ่ยทักทายก่อน“พระชายาอ๋องอี้พูดว่าท่านอ๋องทรงมีเรื่องอยากคุยกับกระหม่อม!”อัครเสนาบดีหลี่ว์นั่งลงกล่าวตรงไปตรงมา “ท่านอ๋อง หากเป็นเกี่ยวเนื่องถึงการโต้แย้งแบ่งพรรคพวก นั่นท่านอ๋องก็มิต้องตรัสแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”“กระหม่อมจงรักภักดีแค่กับองค์จักรพรรดิ! ฝ่าบาทประสงค์แต่งตั้งผู้ใดเป็นรัชทายาท กระหม่อมย่อมสนับสนุนผู้น
คำพูดของหลี่ว์จงเจ๋อทำให้หลี่ว์เซียงโกรธทันที เดิมคิดรีบไล่เขาไป หลี่ว์จงเจ๋อรู้เรื่องลับเช่นนี้ยิ่งน้อยเท่าไรยิ่งปลอดภัยเท่านั้นทว่าหลี่ว์เซียงลังเลครู่หนึ่ง ยังคงมิได้พูดให้หลี่ว์จงเจ๋อออกไปเด็กโตขึ้นตนไม่อาจปกป้องเขาได้ชั่วชีวี ครั้นมีโอกาสให้เขาเติบโตก็คว้าโอกาสสอนเขาเถอะ!หลิงอวี๋เล่าเรื่องที่นางวางยาทหาร ปลุกปั่นช่างตีเหล็กหลบหนีต่อหลี่ว์เซียงกับหลี่ว์จงเจ๋อ กระทั่งเซียวหลินเทียนต่างฟังจนอ้าปากตาค้างชายร่างใหญ่ทั้งสามไม่คิดฝันว่าหลิงอวี๋กล้าหาญมากถึงเพียงนี้!นางไม่ใช่แค่คิดแผนหลบหนีในคืนเดียวแม้แต่ภายใต้การเฝ้าดูของทหารหลายนาย ไม่คาดว่าจะมีความสามารถวางยาสลบในน้ำแกงของพวกเขาได้!ไม่พบสามวันกลายเป็นอื่น!(1) เซียวหลินเทียนผ่านประสบการณ์ความหลักแหลมของหลิงอวี๋แล้ว แต่ยังนึกไม่ถึงว่าหลิงอวี๋จะเจ้าปัญญาเช่นนี้!หลี่ว์จงเจ๋อฟังแล้วแววตาที่มองหลิงอวี๋ก็ผิดแผกไปความเลื่อมใส ความเคารพเหล่านี้ไม่พอมาบรรยายความชื่นชมที่เขามีต่อหลิงอวี๋…ท่ามกลางการว่อกแว่ก นัยย์ตาเขามีแต่หลิงอวี๋!เขารู้สึกว่าแม้เซียวหลินเทียนเป็นท่านอ๋องสูงส่ง เขาก็มิคู่ควรกับหลิงอวี๋ที่มีทั้งความกล้าห
หลี่ว์เซียงไม่อยากฟังอีกต่อไปพลางลุกขึ้นยืนตรงกล่าวว่า“พระชายาอ๋องอี้ ท่านอ๋องอี้ ดึกดื่นแล้ว พวกท่านควรกลับไปพักผ่อน!”“ท่านพ่อ อย่ารีบขอรับ! น้องหลิงยังพูดไม่จบเลย!”ความอยากรู้อยากเห็นของหลี่ว์จงเจ๋อปะทุขึ้นพลางกล่าวเร่ง “น้องหลิง ข้าทายถูกหรือไม่?”หลิงอวี๋มองหลี่ว์เซียงหมายถอนตัวกลางคัน ไฉนจะปล่อยเขาสมหวังเล่า!นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของตนคนเดียว!นี่เกี่ยวข้องถึงตำหนักอ๋องอี้และประชาชนมากมายที่ร้องทุกข์ไม่ได้ในหมู่บ้านเยี่ยนเจียง ความเป็นความตายมีค่าเท่ากัน!หลิงอวี๋ไม่ให้โอกาสหลี่ว์เซียงเปิดปากไล่อีก พลันกล่าวในพรวดเดียว“มิใช่ชุดฉลองพระองค์!”“เป็นศพ!”“ทั้งหลุมแร่เต็มไปด้วยศพกระดูกขาวกองแน่นขนัดหลุม!”“ทหารจูพูดว่าตอนที่เขาไปเหมืองก็มีกองกระดูกขาวมหาศาลในบ่อแร่อยู่แล้ว! เขาเพิ่งผ่านไปครึ่งปีร่างเพิ่มขึ้นเจ็ดสิบแปดศพ!”“พี่ใหญ่หลี่ว์ พวกเขาคือราษฎรของฉินตะวันตก แม้ด้านในจะมีนักโทษประหารชีวิต แต่ก็คือคนเป็น ๆ ทั้งนั้นเลย!”หลิงอวี๋นึกถึงฉากน่าสะพรึงนั้นก็เคืองขึ้น“ชายผู้หนึ่งคือเสาหลักครอบครัวหนึ่ง! ซากกระดูกมหาศาลนั่นสื่อว่าครอบครัวกว่าร้อยสูญเสียเสาหลักไป!”“สามีขอ