แชร์

บทที่ 1353

ผู้เขียน: กานเฟย
ไทเฮาเอ่ยเสียงแข็ง “องค์จักรพรรดิเสวยพระกระยาหารเย็นด้วยกันกับข้า! และข้าก็เป็นคนส่งน้ำแกงให้พระองค์เอง!”

“หลังจากกลับมาข้าเห็นว่าช่วงนี้พระองค์ทรงเหนื่อยมากจึงให้แม่นมเว่ยส่งนำแกงโสมไปให้!”

“นอกจากสิ่งที่ข้าส่งไปให้แล้วพระองค์ก็มิได้เสวยสิ่งใดเลย! เช่นนั้นแล้วจะมีผู้ใดที่สามารถวางยาพิษพระองค์ได้อีกนอกจากข้าเล่า?”

จ้าวฮุยคุกเข่าลงกับพื้นเสียงดังพลางเอ่ย “ไทเฮา กระหม่อมไหนเลยจะกล้าสงสัยไทเฮาพ่ะย่ะค่ะ!”

“กระหม่อมรู้สึกว่า องค์จักรพรรดิทรงมีพระพลานามัยแข็งแรงมาโดยตลอด จู่ ๆ จะมาเสด็จจากไปกะทันหันเช่นนี้ได้อย่างไร นอกเสียจากว่าจะมีคนวางยาพิษพระองค์พ่ะย่ะค่ะ!”

ไทเฮายืนขึ้นอย่างกรุ่นโกรธพลางจ้องมองจ้าวฮุย

“องค์จักรพรรดิทรงมีพระพลานามัยรึ? ขันทีเซี่ย เจ้ามาบอกจ้าวฮุยทีว่าช่วงนี้พระวรกายขององค์จักรพรรดิเป็นเช่นไร”

ขันทีเซี่ยจึงก้าวออกมา จากนั้นก็คุกเข่าลงพลางเอ่ยเสียงสะอื้น “นับตั้งแต่ที่องค์ชายเว่ยก่อกบฏ องค์จักรพรรดิก็ได้รับบาดเจ็บเสียเลือดไปมาก แม้ว่าพระชายาอ๋องอี้จะจัดตำรับพระโอสถบำรุงให้มากมาย แต่องค์จักรพรรดิก็มักจะมิอาจข่มพระเนตรบรรทมในยามค่ำคืนได้เลย!”

“บางครั้ง… บางครั้งในหนึ่
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1354

    หลิงอวี๋ก้มหน้าลงเงียบ ๆ มีหลี่ว์เซียงคอยจับตาดูอัครเสนาบดีจ้าวอยู่ จ้าวฮุยคงมิสามารถเอาหลักฐานที่ไร้เหตุผลมาจัดการตนได้หรอก! ไทเฮาใช้การถอยเพื่อก้าวไปข้างหน้ามาปกป้องตน“ไทเฮา ไปหารือกันที่โถงด้านข้างเถิด! อย่าได้รบกวนความสงบขององค์จักรพรรดิเลยพ่ะย่ะค่ะ!”อัครเสนาบดีจ้าวมิสามารถตรวจสอบอะไรได้ในทันที จึงทำได้เพียงก้าวไปประคองไทเฮา และไปที่โถงด้านข้างพร้อมกับท่านอ๋องเฉิงหลี่ว์เซียงเดินตามออกไปเงียบ ๆ เมื่อเห็นว่าขุนนางว่าการล้วนมาถึงกันแล้วก็เรียกทุกคนไปที่โถงด้านข้างแคว้นมิอาจขาดผู้ตัดสินใจไปได้สักวัน! ตอนนี้ข่าวการเสด็จสวรรคตของจักรพรรดิอู่อันต้องแพร่ออกไปทั่วแล้วแน่นอน จะต้องทำการยืนยันตัวเลือกจักรพรรดิองค์ใหม่ก่อนฟ้าสางองค์ชายคังกับจ้าวเจินเจินเปลี่ยนเป็นชุดขาวแล้วรีบมา องค์ชายคังเห็นพวกของหลี่ว์เซียงตรงไปทางโถงด้านข้างก็เดินตามเข้าไปโดยที่มิแม้แต่จะสนใจดูหน้าจักรพรรดิอู่อันเป็นครั้งสุดท้ายด้วยซ้ำเขาต้องควบคุมชะตากรรมของตนเป็นอย่างแรก!เขาต่อสู้มายาวนานถึงเพียงนี้ นี่คือครั้งแรกที่ได้เข้าใกล้ตำแหน่งมังกรมากที่สุด เขาไม่มีทางให้เซียวหลินเทียนแย่งไปได้ง่าย ๆ อย่างแน่นอน

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1355

    ขันทีเซี่ยไปที่ห้องทรงพระอักษรโดยที่มีเหล่าองครักษ์กองทัพหลวงไปด้วย จากนั้นก็นำพระราชโองการออกมาจากห้องลับขององค์จักรพรรดิคนที่โถงด้านข้างต่างก็รอคอยอย่างใจจดใจจ่อจ้าวฮุยรู้สึกมิค่อยสบายใจนัก เมื่อเวลาผ่านไปเรื่อย ๆ ความรู้สึกมิสบายใจนี้ก็รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกันเขาติดตามจักรพรรดิอู่อันมายาวนานถึงเพียงนี้ เขารู้ว่าจักรพรรดิอู่อันรักในอำนาจ ทั้งยังกำลังอยู่ในช่วงรุ่งโรจน์ที่สุดในชีวิตด้วยซ้ำจักรพรรดิอู่อันมิแม้แต่จะตัดสินตำแหน่งองค์รัชทายาท แล้วเขาจะทิ้งพระราชโองการสั่งเสียเอาไว้ได้เยี่ยงไรเล่า!นี่… หรือว่าจะเป็นการปลอมแปลงของไทเฮากับเซียวหลินเทียน?จิตใจของจ้าวฮุยเต้นระรัวขึ้นมาทันที หากพระราชโองการสั่งเสียเป็นของปลอม แล้วพวกเขาจะต้องเผชิญหน้ากับพลังของเซียวหลินเทียนหรือว่าของไทเฮากันเล่าพวกเขาจะต้องเตรียมการเอาไว้หมดแล้วอย่างแน่นอน ทางฝ่ายของตนมาอย่างกะทันหันเกินไป มิทันได้เตรียมตัวอะไรเลย!หากเปิดโปงพวกเขาไปเช่นนี้ แล้วทางฝ่ายตนจะได้รับผลประโยชน์หรือ?ในขณะที่จิตใจของจ้าวฮุยกำลังคิดว้าวุ่นอยู่นั้น ขันทีเซี่ยก็กลับมาแล้วขันทีเซี่ยมอบพระราชโองการสั่งเสียให้ท่านอ๋องเฉ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1356

    “กระหม่อมเห็นด้วย!”เมื่อมีใต้เท้าหลี่เป็นผู้นำแล้ว ขุนนางคนอื่น ๆ ก็ลุกออกมาตาม ๆ กัน มินานก็มีขุนนางลุกออกมาเกือบหนึ่งในสามของทั้งหมดแล้วแม้ว่าการแสดงออกของเซียวหลินเทียนจะดูสงบ แต่กลับแอบตกใจคิดมิถึงว่า องค์ชายคังที่ด้อยกว่าตนทั้งด้านบุ๋นและบู๊จะมีผู้สนับสนุนมากมายถึงเพียงนี้!องค์ชายคังรู้สึกภูมิใจมาก หนึ่งในสามก็เพียงพอแล้วรอให้ถึงวันที่ตนได้สิบทอดพลังที่ยิ่งใหญ่ก่อน พวกคนไม่มีจุดยืนเหล่านั้นก็ต้องก้มหัวให้ตนอย่างเชื่อฟังมิใช่หรือ!เมื่อเห็นเช่นนี้ เขาเองก็มิได้ด้อยไปกว่าเซียวหลินเทียนนี่!องค์ชายรุ่ยแววตาสงบ แต่ในใจกลับอิจฉาทั้งสองคน หว่านพืชเช่นไรย่อมได้ผลเช่นนั้นจริง ๆ!เขาเงียบ เขาคิดเพียงว่า หากรวบรวมกำลังมากพอแล้วค่อยมาแย่งตำแหน่งนี้ไป แต่คิดมิถึงเลยว่าใต้หล้านี้เกือบจะถูกองค์ชายคังกับอ๋องอี้แบ่งไปจนหมดแล้วแต่เขาได้พบโลกอีกใบที่โม่เหอแล้ว รอให้เขากลายเป็นผู้ที่แข็งแกร่งอย่างที่สุดก่อนเถิด แล้วทุกพื้นที่ในฉินตะวันตกจะต้องอยู่ในกำมือของเขา!ส่วนองค์ชายเย่เมื่อเห็นภาพนี้ก็ถอดใจจากตำแหน่งมังกรไปแล้วจูหลานพูดถูก หากต้องการจะได้ครอบครองตำแหน่งนี้ สิ่งที่ต้องจ่ายไปม

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1357

    ข่าวที่ท่านอ๋องอี้เซียวหลินเทียนได้ขึ้นเป็นจักรพรรดิองค์ใหม่ได้แพร่ออกไปในวังหลวงแล้วบรรดาสตรีที่รอคอยอยู่ที่พระที่นั่งบำรุงฤทัยได้ยินเรื่องนี้เข้าต่างก็ประหลาดใจเป็นไปได้อย่างไร?พระชายาเส้าเกือบจะหลุดปากกรี๊ดออกมาแล้วแต่อดกลั้นไว้ได้นี่ต้องเป็นเรื่องที่เหล่าขุนนางว่าการยืนยันพระราชโองการสั่งเสียแล้วจึงได้ประกาศออกมา หากนางคัดค้านเช่นนั้นจะมิเป็นการฝ่าฝืนพระราชโองการอย่างโจ่งแจ้งหรอกหรือ? เรื่องเป็นที่แน่นอนแล้ว นางทำได้เพียงสงบสติไว้ก่อนเท่านั้นสีหน้าของจ้าวเจินเจินซีดเผือดไปทันที นางเกือบจะทรุดนั่งลงไปกับพื้นแล้วเซียวหลินเทียนเป็นจักรพรรดิหรือ?เช่นนั้นหลิงอวี๋ก็เป็นฮองเฮา?คนโง่เขลาที่เมื่อก่อนนางมิเคยเห็นอยู่ในสายตาได้กลายเป็นฮองเฮาแล้ว!มีเพียงจูหลานเท่านั้นที่ก้าวไปยินดีกับหลิงอวี๋ที่ได้ตำแหน่งพระชายาองค์รัชทายาทอย่างจริงใจพิธีราชาภิเษกของเซียวหลินเทียนยังมิได้จัดขึ้น ต้องรอให้พิธีศพของจักรพรรดิอู่อันเสร็จสิ้นเสียก่อนแล้วค่อยเลือกวันมงคล ดังนั้นจึงยังมิสามารถเรียกหลิงอวี๋ว่าฮองเฮาได้“ยินดีด้วยเพคะพี่หญิง!”จักรพรรดิอู่อันเพิ่งจะจากไป ต่อให้จูหลานจะดีใจกับหลิ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1358

    มินานนัก พระชายาผิงหนานที่สวมชุดขาวไว้ทุกข์ก็เดินเข้ามา“ยินดีด้วยเพคะพระชายาองค์รัชทายาท!”พระชายาผิงหนานเอ่ยอย่างจริงใจ อันเจ๋อบุตรชายของตนกับพวกของหลิงอวี๋เป็นพวกเดียวกัน การที่เซียวหลินเทียนได้เป็นจักรพรรดิ ตำแหน่งของอันเจ๋อก็จะพุ่งสูงขึ้นอย่างราบรื่นไปด้วย“พระชายา ระหว่างเรามิจำเป็นต้องสุภาพต่อกันหรอก!”หลิงอวี๋ยิ้มขมขื่นพลางเอ่ย “ท่านเองก็เห็นแล้วว่า ข้าเพิ่งจะได้นั่งตำแหน่งพระชายาองค์รัชทายาทก็เจอปัญหาเช่นไร ที่พระชายาเส้ามอบตราหงส์มาให้ข้าอย่างง่าย ๆ มิใช่เพราะอยากเห็นเรื่องตลกของข้าหรอกหรือ?”“ข้าจะถูกคนหัวเราะใส่ก็มิสำคัญหรอก แต่ข้ามิอาจให้พวกของเซียวหลินเทียนมาเดือดร้อนไปด้วยได้ ดังนั้น ท่านต้องช่วยข้า!”พระชายาผิงหนานเองก็รู้ว่าตอนนี้มิใช่เวลาจะมาสุภาพต่อกัน หากหลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนมิได้ดีก็หมายความว่าพวกเขาก็จะมิได้ดีเช่นกันเวลานี้พวกเขามีเพียงแค่ต้องร่วมแรงร่วมใจกันเท่านั้นจึงจะฟันฝ่าความยากลำบากไปด้วยกันได้“พระชายาองค์รัชทายาท เจ้าต้องการให้ข้าทำสิ่งใดก็บอกมาได้เลย!” พระชายาผิงหนานเอ่ยอย่างเฉียบขาด“เรื่องการจัดการและแม่นมภายในวังล้วนถูกพระชายาเส้าควบคุมไ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1359

    ต้องบอกเลยว่า พระชายาผิงหนานนั้นโน้มน้าวผู้คนได้ดีมากจริง ๆ เมื่อหลิงอวี๋ได้ฟังนางพูดเช่นนั้นก็เหมือนว่าได้เห็นแสงสว่างในความมืดใช่แล้ว!เมื่อก่อนตนเห็นว่า สตรีเหล่านั้นมิสามารถเล่าเรียนได้ก็คิดว่าสักวันหนึ่งจะสามารถช่วยเหลือพวกนางได้บัดนี้โอกาสนั้นได้มาถึงแล้ว นางลืมความตั้งใจเดิมนี้ไปได้อย่างไรกัน!ชีวิตในวังหลวงกดดันและมีการตีกรอบมากก็จริงแต่ในภายภาคหน้า ตนกับเซียวหลินเทียนต่างหากที่จะเป็นเจ้าของวังหลวงที่แท้จริง พวกเขาสามารถร่วมมือกันเปลี่ยนแปลงทุกอย่างได้!ก็เหมือนกับในตอนแรกที่ตนเพิ่งจะข้ามเวลามาแล้วคนรับใช้ในตำหนักอ๋องอี้ล้วนมิอยากพบตนแต่จากที่ตนแข็งแกร่งขึ้นในทุก ๆ วัน พวกจ้าวซวนก็ยืนข้างตนในยามที่ฉินรั่วซือกลั่นแกล้งตนมิใช่หรือ?หากต้องการให้ทุกอย่างผ่านไปอย่างสบายใจก็ต้องพึ่งตนเองแล้วเอาชนะความท้าทายเหล่านี้ไปให้ได้วังหลวงก็แค่ใหญ่โตกว่าตำหนักอ๋องอี้มิกี่สิบเท่าเอง ทว่าต่อให้ใหญ่โตเพียงใด สิ่งที่นางต้องเอาชนะให้ได้ก็มีเพียงแค่ใจคนเท่านั้น!ขอเวลาสักหน่อย นางจะต้องทำให้คนในวังหลวงเปลี่ยนแปลงเป็นคนของตำหนักอ๋องอี้แล้วอยู่ฝ่ายตนได้แน่นอน“พระชายา ท่านพูดถูก ข้าคิ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1360

    หลิงอวี๋แทบไม่มีเวลาว่างให้พักผ่อนเลย ต้องพบผู้คนกลุ่มแล้วกลุ่มเล่าเพื่อจัดการเรื่องต่าง ๆ แม้ว่าจะมีคนที่ไทเฮากับพระชายาผิงหนานหามาคอยช่วยอยู่ ก็ยังคงยุ่งวุ่นวายมากอยู่ดีหานอวี้กับหลิงซวนคอยช่วยนางจดบันทึกอยู่ข้าง ๆ และหมิ่นกูก็ช่วยจัดหมวดหมู่ให้ส่วนทางด้านพระที่นั่งบำรุงฤทัย ไทเฮาได้ทำการจัดการเรื่องห้องโถงที่ตั้งศพอย่างกังวลในห้องโถงที่ตั้งศพได้มีการแขวนผ้าสีดำและจัดวางโต๊ะธูปไว้ หลังจากรุ่งสางเหล่าขุนนางน้อยใหญ่และภรรยาจะเริ่มมาเข้าเฝ้าเคารพพระบรมศพของจักรพรรดิอู่อันกันต้องมีการเตรียมอาหารและชุดไว้ทุกข์ของคนเหล่านี้ไว้ดีที่มีการเตือนจากพระชายาผิงหนาน หลิงอวี๋จึงได้ส่งคนไปแจ้งเกิ่งเสี่ยวหาวกับทางเรือนหยกอำไพไว้ก่อนแล้วว่าให้หาคนมาเร่งจัดการสิ่งเหล่านี้ให้ตนในวังมีผู้ดูแลอาภรณ์ของตนอยู่ และคนที่มาดูแลเรื่องอาภรณ์ก็คือหัวหน้าหานผู้เป็นขุนนางหญิง หลิงอวี๋จึงสั่งคนไปบอกให้นางมาพบตนแต่เป็นเวลานานแล้วหัวหน้าหานก็ยังมิมา หลิงอวี๋ก็รู้เลยว่านางเป็นคนของพระชายาเส้าและจงใจจะทำให้ตนเองลำบากหลิงอวี๋จึงให้คนไปหาแม่นางเหมยที่เรือนหยกอำไพ พลางให้เถาจื่อไปเลือกนางกำนัลที่แข็งแรงไว้ก

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1361

    หลิงซวนทิ้งสายลับหนึ่งคนไว้คอยดูการจัดการอาภรณ์ หลังจากเวลาผ่านไปเล็กน้อย การจัดการอาภรณ์ก็ยังมิเคลื่อนไหวเลยแม้แต่น้อยหลิงซวนได้รับข่าวมาก็กัดฟัน หัวหน้าหานผู้นี้มิเห็นอาจารย์ของตนอยู่ในสายตาเลย!หึ!หัวหน้าหานฉลาดมาทั้งชีวิตแต่ก็ยังมีช่วงเวลาที่โง่เขลา นางมิรู้หรือว่าคนที่โดดเด่นจะถูกโจมตีได้ง่าย?อาจารย์ของตนอยากยืนหยัดอยู่ในวังอย่างมั่นคง หากมิหาคนมาเปิดคมมีดเสียก่อนแล้วจะสร้างบารมีของตนได้อย่างไรเล่าได้!หากหัวหน้าหานอยากจะเป็นคนที่ลองมีดคนแรก เช่นนั้นก็เติมเต็มความปรารถนาให้นางเสียหน่อยแล้วกันหากฝ่ายห้องเย็บปักมิจัดการชุดไว้ทุกข์ พระชายาเส้ากับจ้าวเจินเจินจะรู้ในทันทีเลยทั้งสองคนนั้นล้วนรอดูความสนุกอยู่แล้ว ประเดี๋ยวเหล่าขุนนางน้อยใหญ่และภรรยามากราบไหว้เคารพพระบรมศพแล้วไม่มีชุดไว้ทุกข์ใส่ คนเหล่านี้ก็คงจะถ่มน้ำลายใส่หลิงอวี๋จนจมน้ำลายตายเมื่อเห็นว่าฟ้าใกล้สว่างแล้วหลิงอวี๋จึงพาพวกหลิงซวนไปเอาชุดไว้ทุกข์ที่ฝ่ายห้องเย็บปัก ด้านในฝ่ายห้องเย็บปักกำลังยุ่งกันเลยหัวหน้าหานให้ลูกน้องของตนทำท่าทีว่ากำลังยุ่งรอให้หลิงอวี๋มาเห็นอยู่!“หัวหน้าหาน ชุดไว้ทุกข์ชุดแรกเสร็จหรื

บทล่าสุด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1870

    เซียวหลินเทียนฟังแล้วก็ทั้งโกรธทั้งโมโห ก่อนหน้านี้ที่หานเหมยบอกมิได้ละเอียดถึงเพียงนี้ และหานเหมยก็มิเคยบอกด้วยว่าใบหน้าของหลิงอวี๋ถูกจ้าวหรุ่ยหรุ่ยกรีดจนเป็นแผลความทรงจำของหานเหมยสูญหายไปบางส่วน ซึ่งนี่ก็คือผลกระทบที่ได้มาจากการถูกผนึก ดังนั้นจะโทษหานเหมยก็มิได้เมื่อได้ยินว่าหลิงอวี๋สูญเสียวรยุทธ์ไป ทั้งยังถูกเสวี่ยเหมยกลั่นแกล้งอีก เซียวหลินเทียนก็คิดเพียงอยากจะแทงเสวี่ยเหมยและลิ่งหูหลินผู้นั้นให้ตายไปเสียส่วนเรื่องที่หวงฝู่หลินรับหลิงอวี๋เป็นน้องสาวบุญธรรมนั้น เซียวหลินเทียนมิได้คิดเป็นจริงเป็นจังอะไร เขาหรือจะมิรู้ว่าหวงฝู่หลินไม่มีทางรับหลิงอวี๋เป็นน้องสาวบุญธรรมจริง ๆ หรอก“ท่านเจ้าวังของเราให้ป้าวเฉิงไปตามหาหลิงอวี๋ เพราะต้องการจะขอตำรับยาที่นางมีอยู่ในมือ มิใช่เพราะต้องการจะทำให้นางลำบาก!”ปี้ซงอธิบายทุกสิ่งออกมาอย่างชัดเจนแม้ว่าเซียวหลินเทียนจะรู้สึกว่าเขาไม่มีทางพูดความจริงออกมาทั้งหมด แต่ก็ยังเชื่อไปกว่าครึ่งอยู่ดีหลังจากครุ่นคิดดูแล้ว เซียวหลินเทียนก็รู้สึกว่า ในเมื่อหวงฝู่หมิงจูถูกเสวี่ยเหมยจับตัวไป และเสวี่ยเหมยก็เป็นผู้ร้ายที่ลักพาตัวหลิงอวี๋ไปด้วย เช่นนั้นก

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1869

    ใบหน้าหล่อเหลาของเซียวหลินเทียนมีความเศร้าอยู่จาง ๆ เขายืนอยู่บนบันได ซากปรักหักพังด้านหลังเหล่านั้น เมื่ออยู่ภายใต้แสงสะท้อนของดวงอาทิตย์ยามเย็นก็ทำให้เห็นความหดหู่และโดดเดี่ยวอย่างชัดเจนแต่แสงของดวงอาทิตย์ยามเย็นที่ส่องลงมาบนตัวของเซียวหลินเทียนนั้น ทำให้เขาดูเหมือนมีแสงสีทองระยิบระยับอยู่ทั้งที่เห็น ๆ กันอยู่ว่าเขาก็ยังเป็นคนเดิม แต่กลับดูราวกับว่าเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ทำให้มิอาจมองเขาตรง ๆ ได้!ทันใดนั้นหวงฝู่หลินก็รู้สึกถึงความรู้สึกกดดันที่มิเคยมีมาก่อนจู่ ๆ เขาก็มีลางสังหรณ์ว่า ในภายภาคหน้าพลังของเซียวหลินเทียนจะประสบความสำเร็จ จะต้องอยู่เหนือไปกว่าของตนมาก และอยู่เหนือกว่าบรรดายอดฝีมือในแดนเทพอย่างแน่นอน!เหนือกว่าแม้กระทั่งหลงอี้ด้วย...เซียวหลินเทียนมองไปไกล ๆ แล้วนึกฉากเมื่อครู่เหวินเหรินจิ้นพาเขาเข้าไป และมิเพียงแต่มอบรายชื่อบรรดาศิษย์ของตำหนักปีกเงินให้ตนเท่านั้น แต่ยังมอบเงินทั้งหมดที่ตำหนักปีกเงินเก็บไว้หลายปีให้ตนด้วยนอกจากนี้แล้ว ก็ยังมีมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ศักดิ์สิทธิ์ที่มหาปราชญ์ต้องการอย่างหม้อมังกรศักดิ์สิทธิ์อีกด้วยสุดท้ายเหวินเหรินจิ้นก็ยังพยายามถ่ายพ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1868

    หวงฝู่หลินมองเหวินเหรินจิ้นด้วยความสงสาร จากนั้นก็ประคองเขานั่งขึ้นมา แล้วเอ่ยไปอย่างเรียบ ๆ “เจ้าคงมิอยากจากไปโดยที่มิได้ทิ้งคำพูดอะไรไว้แน่!”“ต่อให้ยานั้นจะล้ำค่ามากเพียงใด ก็มิล้ำค่าเท่ากับเจ้า...พูดมาเถิด ยังมีความปรารถนาใดอีกที่เจ้ายังมิสมหวัง ขอเพียงข้าสามารถทำได้ ข้าก็จะช่วยเจ้าอย่างแน่นอน!”หวงฝู่หลินคิดเช่นนั้นจริง ๆ ดังนั้นเขาจึงป้อนโอสถช่วยชีวิตอันล้ำค่าที่ตนสกัดอย่างพิถีพิถันให้กับเหวินเหรินจิ้น เขามิอยากให้สหายผู้นี้ตายตามิหลับเหวินเหรินจิ้นมองหลานชายที่กำลังร้องไห้อยู่ข้าง ๆ แล้วหวงฝู่หลินก็เข้าใจทันที “ข้าจะให้คนดูแลเขาเอง!”เหวินเหรินจิ้นจึงฝืนยิ้มออกมา “ให้เขาเติบโตอย่างเรียบง่าย ลืมตระกูลนี้ไปเสีย และลืมทุกสิ่งทุกอย่างที่ประสบไปให้หมด!”“ได้!”หวงฝู่หลินมิได้พูดอะไรมาก แต่เหวินเหรินจิ้นรู้ว่า เขาเป็นคนพูดคำไหนคำนั้น จึงพยักหน้าอย่างพึงพอใจ“ข้าขอฝากตำหนักปีกเงินไว้กับเจ้า...ข้าได้คำนวณชะตาไว้แล้วว่าจะมีภัยพิบัติเช่นนี้ ข้าจึงแสร้งป่วยแล้วให้ลูกศิษย์ของตำหนักทั้งหมดกระจายกันออกไป...”“แต่ข้ามิวางใจ ข้ากังวลว่า หากมหาปราชญ์หาหม้อมังกรศักดิ์สิทธิ์มิเจอ แล้วจะ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1867

    เผยอวี้เห็นว่าหวงฝู่หลินหน้าซีดเซียว ดูท่าทางเหมือนจะหมดสติไปได้ทุกเมื่อ ดังนั้นเขาจึงมิรีรอแล้วคุกเข่าลงไป จากนั้นก็ยัดลำไส้ของเสือดาวหิมะกลับตามคำชี้แนะของหวงฝู่หลินแล้วหวงฝู่หลินก็นำเครื่องยาสมุนไพรและเข็มกับด้ายออกมาจากแหวนพระสุเมรุ จากนั้นเขาก็ส่งเข็มกับด้ายให้เผยอวี้ “ช่วยเย็บแผลให้มันที!”เผยอวี้ตะลึงไปทันที เขาจับมีดจับกระบี่ได้ แต่เขาใช้เข็มกับด้ายมิเป็น!เมื่อเซียวหลินเทียนเห็นสถานการณ์เช่นนี้ เขาก็นึกขึ้นได้ว่า ตอนที่ตนพิชิตกระบี่คุนอู๋ ก็เคยบาดมือมาก่อน แต่เมื่อฝ่ามือของเขาจับที่กระบี่คุนอู๋ ก็รักษาตัวได้อย่างน่าอัศจรรย์เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่งว่าควรจะใช้กระบี่คุนอู๋รักษาเสือดาวหิมะหรือไม่!เขาเข้าใจหลักการที่ว่า ทรัพย์สมบัติมิควรเปิดเผยออกมา หากว่าในวันนี้มิใช่สถานการณ์วิกฤต เขาก็ไม่มีทางนำกระบี่คุนอู๋ออกมาแน่แต่ตอนนี้มหาปราชญ์รู้แล้วว่า กระบี่คุนอู๋อยู่ในมือของตน มันจะต้องนำความยุ่งยากมาหาตนมิจบสิ้น เช่นเดียวกับหยกหล้าสุขาวดีของหลิงอวี๋อย่างแน่นอน!หากเปิดเผยเรื่องที่กระบี่คุนอู๋สามารถรักษาบาดแผลได้ไปอีก เช่นนั้นจะมิยิ่งทำให้คนสนใจมากขึ้นหรือ?แต่เมื่อเซียวหลินเที

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1866

    “ท่านเจ้าวัง!”ปี้ซงเห็นว่าหวงฝู่หลินไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงที่จะสู้กลับแล้ว เขาจึงร้องเรียกออกมาอย่างเจ็บปวดจากนั้นเขาก็เหาะเข้าไปหาโดยมิสนใจภัยคุกคามของมือสังหาร แต่เซียวหลินเทียนที่อยู่ข้างกายเขาเร็วกว่า เหาะพุ่งเข้าไปแล้วในช่วงเวลานี้ เซียวหลินเทียนก็มิกลัวที่จะเปิดเผยสมบัติของตนอีกต่อไปแล้ว เขานำกระบี่คุนอู๋ออกมาจากแหวนพระสุเมรุแล้วฟาดไปในอากาศเป็นวงโค้ง...แสงสีขาวลงมาจากท้องฟ้า มหาปราชญ์หันหลังให้เซียวหลินเทียนอยู่จึงมิเห็นแสงนั้น ทว่าหวงฝู่หลินกลับมองเห็นเห็นแสงสีขาวนั้นพุ่งลงมาใส่แขนของมหาปราชญ์ราวกับสายฟ้า ด้วยพลังที่มิอาจต้านทานได้ในตอนที่มหาปราชญ์รู้สึกได้ถึงความหนาวเย็นนั้น เขาก็ได้เห็นแขนครึ่งหนึ่งของตนลอยขึ้นไปบนท้องฟ้าอย่างน่าตกใจ หลังจากนั้นเลือดจากบาดแผลที่แขนขาดไปก็ไหลออกมา“กระบี่คุนอู๋… เจ้าเป็นใคร?”มหาปราชญ์เซถอยหลังไป และในแววตาของเขาก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจและยากที่จะเชื่อ“คนที่จะเอาชีวิตเจ้า!”นี่เป็นครั้งแรกที่เซียวหลินเทียนใช้กระบี่คุนอู๋ เขามิคาดคิดเลยว่า กระบี่คุนอู๋จะทรงพลังเช่นนี้ ปราณแห่งกระบี่ที่ฟาดออกมาสามารถตัดแขนของมหาปราชญ์ได้ความมั่

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1865

    ครั้งนี้แม้หวงฝู่หลินอยากจะฝืนก็ฝืนมิอยู่ เลือดสด ๆ พุ่งออกมาจากปากของเขา“หวงฝู่หลิน สวรรค์มีเส้นทางให้เจ้าไปแต่เจ้ามิไป นรกไม่มีประตูแต่เจ้าก็ยังจะบุกเข้ามา!”“ข้ากำลังคิดจะไปยึดวังเทพของเจ้าด้วยตัวข้าเองอยู่แล้วเชียว แต่เจ้าก็มาหาถึงที่ พอดีเสียจริง ข้าก็มิต้องลำบากไปที่นั่น เอาชีวิตเข้ามาเสีย!”มหาปราชญ์เหาะลงมา และยกมือขึ้นโจมตีไปที่หน้าอกของหวงฝู่หลินทางด้านเซียวหลินเทียนก็กำลังต่อสู้กับพวกมือสังหารอยู่ เมื่อเห็นภาพนี้ก็มิอาจแยกตัวออกไปได้ จึงมิสามารถช่วยเหลือได้ทันเวลาส่วนปี้ซงที่ได้รับบาดเจ็บไปแล้วก็ถูกพวกมือสังหารขวางทางอยู่เช่นกันเสือดาวหิมะและหวงฝู่หลินสื่อสารกันด้วยพลังจิต เมื่อมันรู้สึกได้ว่าเจ้านายกำลังเดือดร้อน มันก็คำรามออกมา จากนั้นก็บินเข้าไป และพุ่งเข้าใส่มหาปราชญ์ทันทีเสือดำที่ตามมาติด ๆ ก็ใช้โอกาสนี้กระโจนเข้าใส่หลังของเสือดาวหิมะ แล้วกัดเนื้อของเสือดาวหิมะเข้าไปคำใหญ่เสือดาวหิมะมิสนใจความเจ็บปวดแล้วกระโจมเข้าไป มหาปราชญ์จึงมิทันได้จัดการกับหวงฝู่หลิน แล้วต้องหันไปจัดการกับเสือดาวหิมะแทนแต่ก็สายเกินไปเสียแล้ว เสือดาวหิมะกระชากเสื้อคลุมของมหาปราชญ์ออก

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1864

    เซียวหลินเทียน ปี้ซงและเผยอวี้กำลังต่อสู้อยู่กับพวกบุรุษชุดดำ ก็พลันรู้สึกว่ารอบ ๆ ตัวมีลมพัดอย่างแรง และใบไม้เหล่านั้นก็พัดมาทางหัวพวกเขาสนามแม่เหล็กที่มีพลังมหาศาลนั้นสั่นสะเทือนไปจนทั่วบริเวณเซียวหลินเทียนรีบมองไปทันที แล้วก็เห็นว่าพลังลมแห่งการปะทะกันของหวงฝู่หลินกับฝูหยางกลางอากาศนั้น เป็นแสงสีเขียวและสีน้ำเงินเกี่ยวพันกันไปมา แยกมิออกว่าใครเป็นใครเมื่อครู่ฝูหยางเรียกชื่อของหวงฝู่หลินออกมา เมื่อเซียวหลินเทียนได้ยินดังนั้น เขาก็เข้าใจขึ้นมาในทันที ที่แท้บุรุษชุดขาวที่ดูราวกับเซียนผู้นี้ก็คือ เจ้าวังหวงฝู่แห่งวังเทพบนภูเขาหิมะนี่เองก่อนหน้านี้หลิงอวี๋เคยถูกเขาขังอยู่ที่วังเทพเซียวหลินเทียนไม่มีเวลาที่จะตำหนิหวงฝู่หลินแล้ว การโจมตีรุนแรงของพวกบุรุษชุดดำทำให้เขามิสามารถรับมือได้เซียวหลินเทียนยังต้องดูแลเผยอวี้ที่มีพลังมิสูงด้วย เขาจึงเหลือบมองไปแล้วพยายามจัดการกับพวกมือสังหารอย่างเต็มที่นับตั้งแต่ที่เซียวหลินเทียนได้กระบี่คุนอู๋มา และได้เรียนรู้วิชากระบี่จากลวดลายบนกระบี่มาระยะหนึ่งแล้ว วรยุทธ์ของเขาก็พัฒนาขึ้นอย่างมากเขายกกระบี่ขึ้นมาพร้อมใช้วิชากระบี่คุนอู๋ เขาได้เปร

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1863

    เมื่อเซียวหลินเทียนเห็นว่า เด็กอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเซียวเยวี่ยผู้นั้นร้องไห้ออกมาปานจะขาดใจในชั่วขณะนี้เซียวหลินเทียนก็คิดถึงเซียวเยวี่ยมาก เขาออกมานานมากจนแทบจะจำมิได้แล้วว่าเซียวเยวี่ยหน้าตาเป็นอย่างไรเมื่อเขาเห็นเด็กผู้นั้น เซียวหลินเทียนก็เกิดความรู้สึกสงสารขึ้นมาทันที“ท่าน พวกเราเข้าไปช่วยเขาเถิด!”เซียวหลินเทียนพูดยังมิทันขาดคำ ก็ได้ยินเสียงตะโกนขึ้นมา “ใคร?”จากนั้นก็มีบุรุษชุดดำหลายคนวิ่งกรูกันออกมา พร้อมกับเล็งดาบมาที่เซียวหลินเทียนกับหวงฝู่หลิน“พวกเจ้าเป็นใคร?”บุรุษชุดดำที่เป็นผู้นำตะโกนออกมาด้วยความโกรธหวงฝู่หลินจึงยิ้มเยาะ “พวกเจ้าหรือที่ทำลายตำหนักปีกเงินของสหายข้า? ใครเป็นคนวางเพลิง?”“ฮ่าฮ่าฮ่า!”บุรุษชุดดำที่เป็นผู้นำคนนั้นตะลึงไปทันที จากนั้นเขาก็หัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง ราวกับรู้สึกว่า คำถามของหวงฝู่หลินนั้นแปลกมากความตายจะมาเยือนอยู่แล้ว ยังจะเป็นห่วงอีกว่าใครเป็นคนวางเพลิง คนผู้นี้สมองมีปัญหาหรือไร!“อย่าไปคุยกับเขาให้มากความ สังหารไปเสีย!”ฝูหยางที่อยู่ข้างในตะคอกออกมาอย่างรำคาญ “ตาเฒ่าน่ารังเกียจ เจ้าจะนำออกมาให้หรือไม่ หนึ่ง… สอง…”พวกบุร

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1862

    หวงฝู่หลินก็มิได้ใส่ใจ เขาค่อนข้างมิพอใจที่เซียวหลินเทียนตามติดตนมาราวกับกอเอี๊ยะที่เหนียวแน่นเช่นนี้ เขาจึงเร่งฝีเท้าขึ้นอีก แต่พลังของปี้ซงมิเท่าพลังของเขา ดังนั้นในเวลามินานเซียวหลินเทียนก็ตามมาทันแล้วใบหน้าของหวงฝู่หลินดูหม่นหมองลง และกำลังคิดว่าจะสังหารเซียวหลินเทียนดีหรือไม่ แต่แล้วเขาได้ยินเสียงแปลก ๆ… มันคือเสียงการต่อสู้ด้วยอาวุธนั่นเองดวงตาของหวงฝู่หลินดุร้ายขึ้นมาทันที และรีบขึ้นไปบนภูเขาอย่างรวดเร็ว เมื่อเขาขึ้นไปถึงครึ่งทางภูเขา เขาก็เห็นควันหนา ๆ พวยพุ่งออกมาจากตำหนักปีกเงินที่อยู่บนยอดเขานั้นเกิดเรื่องขึ้นแล้ว!หวงฝู่หลินก็ยิ่งร้อนใจ เหตุผลหลักที่เขาเลือกที่จะมาขอความช่วยเหลือจากตำหนักปีกเงินนั้น ก็เพราะว่าเหวินเหรินจิ้นเจ้าตำหนักปีกเงิน คือหนึ่งในสหายสนิทที่มีเพียงมิกี่คนของเขาและเช่นเดียวกับหวงฝู่หลิน ตำหนักปีกเงินแห่งนี้เป็นสถานที่ที่ตระกูลเหวินเหรินอาศัยอยู่มาหลายชั่วอายุคนแล้ว หวงฝู่หลินมิอนุญาตให้ผู้ใดทำลายวังเทพของตน แล้วเหวินเหรินจิ้นจะยอมให้ใครมาทำลายตำหนักปีกเงินของเขาได้อย่างไรกัน!หรือว่าเหวินเหรินจิ้นจะตกอยู่ในอันตราย?หวงฝู่หลินเร่งฝีเท้า แล้วเดิ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status