หลิงซวนทิ้งสายลับหนึ่งคนไว้คอยดูการจัดการอาภรณ์ หลังจากเวลาผ่านไปเล็กน้อย การจัดการอาภรณ์ก็ยังมิเคลื่อนไหวเลยแม้แต่น้อยหลิงซวนได้รับข่าวมาก็กัดฟัน หัวหน้าหานผู้นี้มิเห็นอาจารย์ของตนอยู่ในสายตาเลย!หึ!หัวหน้าหานฉลาดมาทั้งชีวิตแต่ก็ยังมีช่วงเวลาที่โง่เขลา นางมิรู้หรือว่าคนที่โดดเด่นจะถูกโจมตีได้ง่าย?อาจารย์ของตนอยากยืนหยัดอยู่ในวังอย่างมั่นคง หากมิหาคนมาเปิดคมมีดเสียก่อนแล้วจะสร้างบารมีของตนได้อย่างไรเล่าได้!หากหัวหน้าหานอยากจะเป็นคนที่ลองมีดคนแรก เช่นนั้นก็เติมเต็มความปรารถนาให้นางเสียหน่อยแล้วกันหากฝ่ายห้องเย็บปักมิจัดการชุดไว้ทุกข์ พระชายาเส้ากับจ้าวเจินเจินจะรู้ในทันทีเลยทั้งสองคนนั้นล้วนรอดูความสนุกอยู่แล้ว ประเดี๋ยวเหล่าขุนนางน้อยใหญ่และภรรยามากราบไหว้เคารพพระบรมศพแล้วไม่มีชุดไว้ทุกข์ใส่ คนเหล่านี้ก็คงจะถ่มน้ำลายใส่หลิงอวี๋จนจมน้ำลายตายเมื่อเห็นว่าฟ้าใกล้สว่างแล้วหลิงอวี๋จึงพาพวกหลิงซวนไปเอาชุดไว้ทุกข์ที่ฝ่ายห้องเย็บปัก ด้านในฝ่ายห้องเย็บปักกำลังยุ่งกันเลยหัวหน้าหานให้ลูกน้องของตนทำท่าทีว่ากำลังยุ่งรอให้หลิงอวี๋มาเห็นอยู่!“หัวหน้าหาน ชุดไว้ทุกข์ชุดแรกเสร็จหรื
คำพูดนี้ของเถาจื่อรุนแรงยิ่งกว่าการตบหน้าหัวหน้าหานเสียอีกตอนนี้นางถึงได้รู้ว่า เหตุใดหลิงซวนจึงถามว่าสามารถทำได้กี่ชุดในเวลาหนึ่งก้านธูป ที่แท้ก็รอเช่นนี้นี่เอง!“พวกเจ้าหลอกลวงเจ้านาย!”เถาจื่อคว้าปกเสื้อของหัวหน้าหานไว้อย่างโหดร้าย พลางดุด่า “พูดง่าย ๆ ก็คือ มิเห็นคำสั่งของพระชายาเราอยู่ในสายตา!”“แต่หากพูดแบบรุนแรงก็คือ เป็นการดูหมิ่นองค์จักรพรรดิสูงสุด อยากให้คนในครอบครัวของพระองค์มิทันได้รับการกราบไหว้จากลูกกตัญญู!”จักรพรรดิอู่อันสวรรคตแล้ว เซียวหลินเทียนเป็นจักรพรรดิแล้ว ตอนนี้จักรพรรดิอู่อันจึงเป็นจักรพรรดิสูงสุดเหงื่อเม็ดโตผุดขึ้นมาบนหน้าผากของหัวหน้าหานแล้วไหลลงมา นางอ้าปากแต่มิรู้ว่าควรจะอธิบายตนเองอย่างไรนางแอบเสียใจ เมื่อครู่น่าจะทำชุดไว้ทุกข์บางส่วนมาให้พระชายาองค์รัชทายาทแบบขายผ้าเอาหน้ารอดไปก่อนทว่าเป็นเพราะว่าตนอวดดีจึงได้ทิ้งจุดอ่อนไว้ให้พระชายาองค์รัชทายาทรู้เมื่ออยู่ในน้ำมือของพระชายาองค์รัชทายาทเช่นนี้แล้วจะรอดพ้นความผิดไปได้อย่างไร!เถาจื่อหุ่มนางลงบนพื้น หัวหน้าหานคุกเข่าไปคำนับหลิงอวี๋ทันที“พระชายาองค์รัชทายาท บ่าวมิรับผิดชอบในคำสั่งของท่านเอง
เรื่องที่พระชายาองค์รัชทายาทตัดหัวหัวหน้าหานแห่งฝ่ายห้องเย็บปักได้แพร่ออกไปในวังอย่างรวดเร็วพวกคนที่ก่อนหน้านี้ยังคงคิดที่จะฟังคำสั่งของพระชายาเส้า และสร้างความลำบากในการทำงานต่าง ๆ ของหลิงอวี๋ต่างก็ถอนตัวไปทันทีพระชายาองค์รัชทายาทผู้นี้มิใช่คนที่จะไปยั่วยุได้ง่าย ๆ!หากมิดำเนินการตามคำสั่งของนางก็จะหัวขาดเอาได้!ผลประโยชน์ที่พระชายาเส้าจะให้พวกเขานั้นมิได้มีสิ่งใดมากกว่าไปเงิน แต่คนที่ทำงานอยู่ในตำแหน่งของหัวหน้านี้ ทุกคนรู้ดีถึงผลประโยชน์ของตำแหน่งตนขอเพียงมิเสียชีวิต การยืนหยัดอยู่ในตำแหน่งของตนแล้วทำเหมือนปฏิบัติตามคำสั่งไปเรื่อย ๆ จะสามารถเปลี่ยนวิธีหาเงินได้อีกผลประโยชน์ที่ยาวนานกับเงินเพียงเล็กน้อยของพระชายาเส้านั้นเทียบกันมิติดเลยอีกอย่างต่อให้เงินมากแค่ไหน การที่ไม่มีชีวิตให้ได้ใช้เงินนั้นก็สูญเปล่าเช่นกัน!พระชายาเส้าเองก็คิดมิถึงเช่นกันว่า ทันทีที่หลิงอวี๋ลงมือจะเป็นการตัดหัวหัวหน้าหานเลย สิ่งนี้ทำให้นางต้องรีบพาคนพุ่งไปหาหลิงอวี๋ด้วยความโกรธทันทีหากมิปรามหลิงอวี๋ไว้ ในภายภาคหน้าผู้ใดยังจะกล้าทำงานให้ตนเล่า?!หลิงอวี๋กำลังมอบหมายงานที่พวกหมิ่นกูต้องทำอยู่ที่โ
คำพูดนี้ของหลิงอวี๋เป็นการตบหน้าพระชายาเส้าตรง ๆ เห็นได้ชัดว่านี่เป็นการอาศัยความเห็นของผู้อื่นมาพูดในความจริง ก็เหลือเพียงชี้หน้าด่าพระชายาเส้าแล้วว่า มิเสียใจที่องค์จักรพรรดิอู่อันเสด็จสวรรคตแต่สนใจแค่การแย่งชิงอำนาจเท่านั้นสีหน้าของพระชายาเส้าเปลี่ยนไปมาทันที นางรู้ว่าหากพูดต่อไปตนก็คงจัดการมิได้ จึงทำได้เพียงหันหลังเดินไปอย่างมิสบอารมณ์‘หลิงอวี๋ ข้าฝากไว้ก่อนเถิด หากมิได้ปลิดชีพเจ้า ข้าคงทนความขี้ขลาดนี้มิได้’การหลบเลี่ยงบิดพลิ้วมิใช่รูปแบบของพระชายาเส้าเลยและนางก็รู้เช่นกันว่า องค์จักรพรรดิอู่อันเสด็จสวรรคตแล้วตนก็ไม่มีที่พึ่งแล้วเช่นกันแม้ว่าอุบายนี้จะใช้ได้ หลิงอวี๋ก็ไม่มีทางใช้ ทั้งยังทำให้ขุนนางกับภรรยาเหล่านั้นดูถูกตนอีกนางกับองค์ชายคังยังมิแพ้ ในภายภาคหน้าต้องมีสักวันหนึ่งที่นางได้นั่งตำแหน่งไทเฮา นางมิอาจใช้อุบายนี้มาทำลายภาพลักษณ์ที่สง่างามและใจกว้างของตนได้นี่เพิ่งจะเริ่มต้น!‘หลิงอวี๋เจ้าอย่าได้คิดว่า ตัดหัวหัวหน้าหานไปแล้วจะสามารถควบคุมวังหลังได้’‘ข้าจะให้เจ้าได้ใจไปก่อน ประเดี๋ยวเจ้าได้เห็นดีแน่’พระชายาเส้ากลับไปที่ห้องโถงที่ตั้งพระบรมศพแล้วคุกเข่า
หมิ่นกูกับหลิงซวนมองวิธีการที่หลิงอวี๋พิชิตคนแล้วก็แอบตกใจ ในขณะเดียวกันก็นับถือมาก ๆ เช่นกันพวกนางต่างก็เห็นมากับตาว่าหลิงอวี๋ถูกบีบให้เติบโตอย่างไรวังหลวงนี้เป็นหุบเหวที่มองมิเห็นก้นบึ้งของมัน หากมิอยากถูกฝังอยู่ที่นี่ก็ทำได้เพียงแค่ต้องบีบตนเองให้ปีนขึ้นไปหลังจากหลิงอวี๋ส่งคนที่จัดการงานต่าง ๆ ออกไปแล้ว ในที่สุดก็แอบหาเวลาว่างกินอะไรสักหน่อยได้หลิงซวนมองหลิงอวี๋ที่กินมูมมามอย่างปวดใจ แล้วรีบส่งถ้วยน้ำชาให้นางหลิงอวี๋ดื่มไปสองอึกก็นึกถึงเรื่องจักรพรรดิอู่อันขึ้นมาได้ จึงรีบเอ่ยกับหลิงซวน “เจ้าไปบอกกับลู่หนานหน่อยว่า ให้เขาคอยใส่ใจอาหารของท่านอ๋อง… เอ่อ องค์จักรพรรดิเป็นพิเศษหน่อย อย่าให้มีผู้ใดเล็ดลอดเข้าไปยุ่งได้เด็ดขาด!”สาเหตุการตายของจักรพรรดิอู่อันยังตรวจสอบมิชัดเจน หลิงอวี๋กังวลว่ามือสังหารที่ซุ่มซ่อนอยู่จะใช้วิธีเดิมมาลงมือกับเซียวหลินเทียนซ้ำอีก“บอกให้ลู่หนานทำทุกเรื่องด้วยตัวเอง เครื่องนอนเครื่องใช้ในสถานที่พักผ่อนขององค์จักรพรรดิก็ต้องตรวจสอบดูให้หมด หากมีสิ่งที่น่าสงสัยให้เปลี่ยนทั้งหมดทันที!”“ภายในห้องมิต้องเอาดอกไม้ใด ๆ มาจัดวาง พวกถุงหอมเครื่องหอมอะไรก็ยิ่
ลู่หนานเองก็มิได้ประกาศเรื่องนี้ออกไปครึกโครม เขาให้ขันทีเหอผู้ฉลาดซึ่งเป็นคนที่ขันทีเซี่ยหามาให้เป็นคนเอาผงยากับเครื่องหอมนี้ส่งไปให้หลิงอวี๋ตรวจสอบเล็กน้อยสิ่งที่ตรวจสอบออกมาจะต้องรู้ผลที่แน่ชัดว่าคืออะไร ให้หลิงอวี๋สามารถเตรียมการรับมือสถานการณ์ล่วงหน้าได้ มิเช่นนั้นหากรอจนตกหลุมพรางจะสายเกินไปขันทีเหอผู้นี้ปีนี้อายุยี่สิบ เป็นคนมีหน้าตาหล่อเหลา เข้าวังมาประมาณห้าหกปีแล้วก่อนหน้านี้เขาทำงานเบ็ดเตล็ดทั่วไป แม้ว่าจะเป็นคนฉลาดแต่มิได้แสดงออกมา และมิได้เอาใจองค์จักรพรรดิหรือสนมในวังเพื่อจะเลื่อนตำแหน่งตนให้สูงขึ้นด้วยขันทีเซี่ยกล้าแนะนำเขาให้เซียวหลินเทียนใช้งาน นั่นเป็นเพราะขันทีเซี่ยรู้ความลับของขันทีเหอขันทีเหอเป็นพี่น้องกับพระสนมเหอของจักรพรรดิอู่อัน ตอนนั้นสนมเหอถูกพ่อค้ามนุษย์จับตัวมาขายส่งเข้าวังขันทีเหอจึงเต็มใจขายตัวเองเข้าวังมาเพื่อน้องสาว และทำการชำระร่างกายเข้าวังมาเป็นขันทีแม้ว่าพระสนมเหอจะถูกแต่งตั้งเป็นสนม แต่วังหลังมีสาวงามอยู่เป็นจำนวนมาก นับตั้งแต่ที่นางเข้าวังมาจนตอนนี้ก็มิเคยถูกจักรพรรดิอู่อันเรียกไปปรนนิบัติเลยตอนที่ขันทีเซี่ยไปหาเขาได้พูดออกไปเพียงป
ตอนนี้เซียวหลินเทียนกับหลิงอวี๋จะต้องรับภาระในด้านของตนเพียงผู้เดียว เซียวหลินเทียนรับภาระภายนอก หลิงอวี๋รับภาระภายในทั้งสองคนล้วนไม่มีเวลาและมิสามารถช่วยเหลืออีกฝ่ายในเวลาเดียวกันได้ ทำได้เพียงเป็นผู้นำในหน้าที่ของตนเท่านั้นหลิงอวี๋อยู่ภายในก็ถูกพระชายาเส้าทำให้ลำบาก เซียวหลินเทียนอยู่ภายนอกก็ถูกพวกของจ้าวฮุยและขุนนางที่มิเชื่อฟังเขาทำให้ลำบากแม้ว่าจะคนเหล่านี้จะยอมรับตัวตนจักรพรรดิของเซียวหลินเทียนไปตามพระราชโองการสั่งเสีย แต่ก็มิได้รู้สึกว่าเซียวหลินเทียนจะเป็นจักรพรรดิไปได้ยาวนานนักพวกเขาอยากจะใช้โอกาสที่เซียวหลินเทียนยังมิได้นั่งในตำแหน่งจักรพรรดิอย่างมั่นคงนี้ลากให้เขาลงจากตำแหน่งไปจ้าวฮุยบอกกับพรรคพวกของตนว่า ในหนึ่งวันให้ส่งสาส์นกราบทูลไปเป็นจำนวนมาก แล้วให้บอกว่าทั้งหมดนั้นเป็นเรื่องเร่งด่วนรอข้อคิดเห็นอยู่พวกเขาอยากจะหาโอกาสพิสูจน์ว่าคุณสมบัติของเซียวหลินเทียนมิคู่ควรกับตำแหน่งในคืนนี้เซียวหลินเทียนก็มิได้นอนเลย เอาแค่ร่ำเรียนเรื่องการจัดการบ้านเมืองจากการแนะนำของหลี่ว์เซียงกับท่านอ๋องเฉิงอย่างเป็นบ้าเป็นหลัง เมื่อเห็นว่าพรรคพวกของจ้าวฮุยเสนอสาส์นกราบทูลมาด้วย
เหตุใดเซียวหลินเทียนจะมิรู้เหตุผลนี้ เมื่อครู่เขาเห็นสาส์นกราบทูลที่มีความยาวมากเกือบสองหมื่นตัวอักษร หนึ่งหมื่นเก้าพันตัวอักษรด้านหน้านั้นล้วนเป็นประโยคไร้สาระทั้งสิ้นมีเพียงห้าร้อยคำด้านหลังสุดที่เป็นข้อความที่จริงจังหากเซียวหลินเทียนมิอดทนอ่านจนจบแล้วโยนไปด้านข้างเสียก่อนก็คงติดกับไปแล้วตอนไปว่าราชกิจในเช้าวันพรุ่งจะต้องถูกพวกจ้าวฮุยจับผิดแล้วเอาความผิดในฐานละเลยเรื่องบ้านเมืองมาใส่ตนแน่สาสน์กราบทูลเช่นนี้ หากเซียวหลินเทียนนั่งอยู่ในตำแหน่งจักรพรรดิอย่างมั่นคงแล้วก็จะไม่มีผู้ใดกล้ามาซักไซ้เขาแล้วแต่เซียวหลินเทียนยังมิได้ขึ้นครองบัลลังก์เลย หากทิ้งความทรงจำเช่นนี้ไว้กับพวกขุนนาง เช่นนั้นจะมิเป็นผลดีต่อการจัดการบ้านเมืองในภายภาคหน้าของตนเอง“หลี่ว์เซียง เจ้ากับท่านจินต้าจัดการเรื่องเหล่านี้ให้ข้าสักรอบหน่อยเถิด!”“ข้าจะจัดการสาส์นกราบทูลเหล่านี้ก่อน!”เซียวหลินเทียนผลักสาส์นกราบทูลกองหนึ่งไปให้ทั้งสองคน พลางเอ่ยอย่างรู้สึกผิด “ลำบากพวกเจ้าแล้ว! ต้องมาเหนื่อยไปกับข้าด้วย!”ท่านจินต้าเป็นที่ปรึกษาของเซียวหลินเทียนอยู่แล้ว การช่วยทำงานก็มิได้เป็นอะไรหลี่ว์เซียงอายุมากแล้ว