ไทเฮาเอ่ยเสียงแข็ง “องค์จักรพรรดิเสวยพระกระยาหารเย็นด้วยกันกับข้า! และข้าก็เป็นคนส่งน้ำแกงให้พระองค์เอง!”“หลังจากกลับมาข้าเห็นว่าช่วงนี้พระองค์ทรงเหนื่อยมากจึงให้แม่นมเว่ยส่งนำแกงโสมไปให้!”“นอกจากสิ่งที่ข้าส่งไปให้แล้วพระองค์ก็มิได้เสวยสิ่งใดเลย! เช่นนั้นแล้วจะมีผู้ใดที่สามารถวางยาพิษพระองค์ได้อีกนอกจากข้าเล่า?”จ้าวฮุยคุกเข่าลงกับพื้นเสียงดังพลางเอ่ย “ไทเฮา กระหม่อมไหนเลยจะกล้าสงสัยไทเฮาพ่ะย่ะค่ะ!”“กระหม่อมรู้สึกว่า องค์จักรพรรดิทรงมีพระพลานามัยแข็งแรงมาโดยตลอด จู่ ๆ จะมาเสด็จจากไปกะทันหันเช่นนี้ได้อย่างไร นอกเสียจากว่าจะมีคนวางยาพิษพระองค์พ่ะย่ะค่ะ!”ไทเฮายืนขึ้นอย่างกรุ่นโกรธพลางจ้องมองจ้าวฮุย“องค์จักรพรรดิทรงมีพระพลานามัยรึ? ขันทีเซี่ย เจ้ามาบอกจ้าวฮุยทีว่าช่วงนี้พระวรกายขององค์จักรพรรดิเป็นเช่นไร”ขันทีเซี่ยจึงก้าวออกมา จากนั้นก็คุกเข่าลงพลางเอ่ยเสียงสะอื้น “นับตั้งแต่ที่องค์ชายเว่ยก่อกบฏ องค์จักรพรรดิก็ได้รับบาดเจ็บเสียเลือดไปมาก แม้ว่าพระชายาอ๋องอี้จะจัดตำรับพระโอสถบำรุงให้มากมาย แต่องค์จักรพรรดิก็มักจะมิอาจข่มพระเนตรบรรทมในยามค่ำคืนได้เลย!”“บางครั้ง… บางครั้งในหนึ่
หลิงอวี๋ก้มหน้าลงเงียบ ๆ มีหลี่ว์เซียงคอยจับตาดูอัครเสนาบดีจ้าวอยู่ จ้าวฮุยคงมิสามารถเอาหลักฐานที่ไร้เหตุผลมาจัดการตนได้หรอก! ไทเฮาใช้การถอยเพื่อก้าวไปข้างหน้ามาปกป้องตน“ไทเฮา ไปหารือกันที่โถงด้านข้างเถิด! อย่าได้รบกวนความสงบขององค์จักรพรรดิเลยพ่ะย่ะค่ะ!”อัครเสนาบดีจ้าวมิสามารถตรวจสอบอะไรได้ในทันที จึงทำได้เพียงก้าวไปประคองไทเฮา และไปที่โถงด้านข้างพร้อมกับท่านอ๋องเฉิงหลี่ว์เซียงเดินตามออกไปเงียบ ๆ เมื่อเห็นว่าขุนนางว่าการล้วนมาถึงกันแล้วก็เรียกทุกคนไปที่โถงด้านข้างแคว้นมิอาจขาดผู้ตัดสินใจไปได้สักวัน! ตอนนี้ข่าวการเสด็จสวรรคตของจักรพรรดิอู่อันต้องแพร่ออกไปทั่วแล้วแน่นอน จะต้องทำการยืนยันตัวเลือกจักรพรรดิองค์ใหม่ก่อนฟ้าสางองค์ชายคังกับจ้าวเจินเจินเปลี่ยนเป็นชุดขาวแล้วรีบมา องค์ชายคังเห็นพวกของหลี่ว์เซียงตรงไปทางโถงด้านข้างก็เดินตามเข้าไปโดยที่มิแม้แต่จะสนใจดูหน้าจักรพรรดิอู่อันเป็นครั้งสุดท้ายด้วยซ้ำเขาต้องควบคุมชะตากรรมของตนเป็นอย่างแรก!เขาต่อสู้มายาวนานถึงเพียงนี้ นี่คือครั้งแรกที่ได้เข้าใกล้ตำแหน่งมังกรมากที่สุด เขาไม่มีทางให้เซียวหลินเทียนแย่งไปได้ง่าย ๆ อย่างแน่นอน
ขันทีเซี่ยไปที่ห้องทรงพระอักษรโดยที่มีเหล่าองครักษ์กองทัพหลวงไปด้วย จากนั้นก็นำพระราชโองการออกมาจากห้องลับขององค์จักรพรรดิคนที่โถงด้านข้างต่างก็รอคอยอย่างใจจดใจจ่อจ้าวฮุยรู้สึกมิค่อยสบายใจนัก เมื่อเวลาผ่านไปเรื่อย ๆ ความรู้สึกมิสบายใจนี้ก็รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกันเขาติดตามจักรพรรดิอู่อันมายาวนานถึงเพียงนี้ เขารู้ว่าจักรพรรดิอู่อันรักในอำนาจ ทั้งยังกำลังอยู่ในช่วงรุ่งโรจน์ที่สุดในชีวิตด้วยซ้ำจักรพรรดิอู่อันมิแม้แต่จะตัดสินตำแหน่งองค์รัชทายาท แล้วเขาจะทิ้งพระราชโองการสั่งเสียเอาไว้ได้เยี่ยงไรเล่า!นี่… หรือว่าจะเป็นการปลอมแปลงของไทเฮากับเซียวหลินเทียน?จิตใจของจ้าวฮุยเต้นระรัวขึ้นมาทันที หากพระราชโองการสั่งเสียเป็นของปลอม แล้วพวกเขาจะต้องเผชิญหน้ากับพลังของเซียวหลินเทียนหรือว่าของไทเฮากันเล่าพวกเขาจะต้องเตรียมการเอาไว้หมดแล้วอย่างแน่นอน ทางฝ่ายของตนมาอย่างกะทันหันเกินไป มิทันได้เตรียมตัวอะไรเลย!หากเปิดโปงพวกเขาไปเช่นนี้ แล้วทางฝ่ายตนจะได้รับผลประโยชน์หรือ?ในขณะที่จิตใจของจ้าวฮุยกำลังคิดว้าวุ่นอยู่นั้น ขันทีเซี่ยก็กลับมาแล้วขันทีเซี่ยมอบพระราชโองการสั่งเสียให้ท่านอ๋องเฉ
“กระหม่อมเห็นด้วย!”เมื่อมีใต้เท้าหลี่เป็นผู้นำแล้ว ขุนนางคนอื่น ๆ ก็ลุกออกมาตาม ๆ กัน มินานก็มีขุนนางลุกออกมาเกือบหนึ่งในสามของทั้งหมดแล้วแม้ว่าการแสดงออกของเซียวหลินเทียนจะดูสงบ แต่กลับแอบตกใจคิดมิถึงว่า องค์ชายคังที่ด้อยกว่าตนทั้งด้านบุ๋นและบู๊จะมีผู้สนับสนุนมากมายถึงเพียงนี้!องค์ชายคังรู้สึกภูมิใจมาก หนึ่งในสามก็เพียงพอแล้วรอให้ถึงวันที่ตนได้สิบทอดพลังที่ยิ่งใหญ่ก่อน พวกคนไม่มีจุดยืนเหล่านั้นก็ต้องก้มหัวให้ตนอย่างเชื่อฟังมิใช่หรือ!เมื่อเห็นเช่นนี้ เขาเองก็มิได้ด้อยไปกว่าเซียวหลินเทียนนี่!องค์ชายรุ่ยแววตาสงบ แต่ในใจกลับอิจฉาทั้งสองคน หว่านพืชเช่นไรย่อมได้ผลเช่นนั้นจริง ๆ!เขาเงียบ เขาคิดเพียงว่า หากรวบรวมกำลังมากพอแล้วค่อยมาแย่งตำแหน่งนี้ไป แต่คิดมิถึงเลยว่าใต้หล้านี้เกือบจะถูกองค์ชายคังกับอ๋องอี้แบ่งไปจนหมดแล้วแต่เขาได้พบโลกอีกใบที่โม่เหอแล้ว รอให้เขากลายเป็นผู้ที่แข็งแกร่งอย่างที่สุดก่อนเถิด แล้วทุกพื้นที่ในฉินตะวันตกจะต้องอยู่ในกำมือของเขา!ส่วนองค์ชายเย่เมื่อเห็นภาพนี้ก็ถอดใจจากตำแหน่งมังกรไปแล้วจูหลานพูดถูก หากต้องการจะได้ครอบครองตำแหน่งนี้ สิ่งที่ต้องจ่ายไปม
ข่าวที่ท่านอ๋องอี้เซียวหลินเทียนได้ขึ้นเป็นจักรพรรดิองค์ใหม่ได้แพร่ออกไปในวังหลวงแล้วบรรดาสตรีที่รอคอยอยู่ที่พระที่นั่งบำรุงฤทัยได้ยินเรื่องนี้เข้าต่างก็ประหลาดใจเป็นไปได้อย่างไร?พระชายาเส้าเกือบจะหลุดปากกรี๊ดออกมาแล้วแต่อดกลั้นไว้ได้นี่ต้องเป็นเรื่องที่เหล่าขุนนางว่าการยืนยันพระราชโองการสั่งเสียแล้วจึงได้ประกาศออกมา หากนางคัดค้านเช่นนั้นจะมิเป็นการฝ่าฝืนพระราชโองการอย่างโจ่งแจ้งหรอกหรือ? เรื่องเป็นที่แน่นอนแล้ว นางทำได้เพียงสงบสติไว้ก่อนเท่านั้นสีหน้าของจ้าวเจินเจินซีดเผือดไปทันที นางเกือบจะทรุดนั่งลงไปกับพื้นแล้วเซียวหลินเทียนเป็นจักรพรรดิหรือ?เช่นนั้นหลิงอวี๋ก็เป็นฮองเฮา?คนโง่เขลาที่เมื่อก่อนนางมิเคยเห็นอยู่ในสายตาได้กลายเป็นฮองเฮาแล้ว!มีเพียงจูหลานเท่านั้นที่ก้าวไปยินดีกับหลิงอวี๋ที่ได้ตำแหน่งพระชายาองค์รัชทายาทอย่างจริงใจพิธีราชาภิเษกของเซียวหลินเทียนยังมิได้จัดขึ้น ต้องรอให้พิธีศพของจักรพรรดิอู่อันเสร็จสิ้นเสียก่อนแล้วค่อยเลือกวันมงคล ดังนั้นจึงยังมิสามารถเรียกหลิงอวี๋ว่าฮองเฮาได้“ยินดีด้วยเพคะพี่หญิง!”จักรพรรดิอู่อันเพิ่งจะจากไป ต่อให้จูหลานจะดีใจกับหลิ
มินานนัก พระชายาผิงหนานที่สวมชุดขาวไว้ทุกข์ก็เดินเข้ามา“ยินดีด้วยเพคะพระชายาองค์รัชทายาท!”พระชายาผิงหนานเอ่ยอย่างจริงใจ อันเจ๋อบุตรชายของตนกับพวกของหลิงอวี๋เป็นพวกเดียวกัน การที่เซียวหลินเทียนได้เป็นจักรพรรดิ ตำแหน่งของอันเจ๋อก็จะพุ่งสูงขึ้นอย่างราบรื่นไปด้วย“พระชายา ระหว่างเรามิจำเป็นต้องสุภาพต่อกันหรอก!”หลิงอวี๋ยิ้มขมขื่นพลางเอ่ย “ท่านเองก็เห็นแล้วว่า ข้าเพิ่งจะได้นั่งตำแหน่งพระชายาองค์รัชทายาทก็เจอปัญหาเช่นไร ที่พระชายาเส้ามอบตราหงส์มาให้ข้าอย่างง่าย ๆ มิใช่เพราะอยากเห็นเรื่องตลกของข้าหรอกหรือ?”“ข้าจะถูกคนหัวเราะใส่ก็มิสำคัญหรอก แต่ข้ามิอาจให้พวกของเซียวหลินเทียนมาเดือดร้อนไปด้วยได้ ดังนั้น ท่านต้องช่วยข้า!”พระชายาผิงหนานเองก็รู้ว่าตอนนี้มิใช่เวลาจะมาสุภาพต่อกัน หากหลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนมิได้ดีก็หมายความว่าพวกเขาก็จะมิได้ดีเช่นกันเวลานี้พวกเขามีเพียงแค่ต้องร่วมแรงร่วมใจกันเท่านั้นจึงจะฟันฝ่าความยากลำบากไปด้วยกันได้“พระชายาองค์รัชทายาท เจ้าต้องการให้ข้าทำสิ่งใดก็บอกมาได้เลย!” พระชายาผิงหนานเอ่ยอย่างเฉียบขาด“เรื่องการจัดการและแม่นมภายในวังล้วนถูกพระชายาเส้าควบคุมไ
ต้องบอกเลยว่า พระชายาผิงหนานนั้นโน้มน้าวผู้คนได้ดีมากจริง ๆ เมื่อหลิงอวี๋ได้ฟังนางพูดเช่นนั้นก็เหมือนว่าได้เห็นแสงสว่างในความมืดใช่แล้ว!เมื่อก่อนตนเห็นว่า สตรีเหล่านั้นมิสามารถเล่าเรียนได้ก็คิดว่าสักวันหนึ่งจะสามารถช่วยเหลือพวกนางได้บัดนี้โอกาสนั้นได้มาถึงแล้ว นางลืมความตั้งใจเดิมนี้ไปได้อย่างไรกัน!ชีวิตในวังหลวงกดดันและมีการตีกรอบมากก็จริงแต่ในภายภาคหน้า ตนกับเซียวหลินเทียนต่างหากที่จะเป็นเจ้าของวังหลวงที่แท้จริง พวกเขาสามารถร่วมมือกันเปลี่ยนแปลงทุกอย่างได้!ก็เหมือนกับในตอนแรกที่ตนเพิ่งจะข้ามเวลามาแล้วคนรับใช้ในตำหนักอ๋องอี้ล้วนมิอยากพบตนแต่จากที่ตนแข็งแกร่งขึ้นในทุก ๆ วัน พวกจ้าวซวนก็ยืนข้างตนในยามที่ฉินรั่วซือกลั่นแกล้งตนมิใช่หรือ?หากต้องการให้ทุกอย่างผ่านไปอย่างสบายใจก็ต้องพึ่งตนเองแล้วเอาชนะความท้าทายเหล่านี้ไปให้ได้วังหลวงก็แค่ใหญ่โตกว่าตำหนักอ๋องอี้มิกี่สิบเท่าเอง ทว่าต่อให้ใหญ่โตเพียงใด สิ่งที่นางต้องเอาชนะให้ได้ก็มีเพียงแค่ใจคนเท่านั้น!ขอเวลาสักหน่อย นางจะต้องทำให้คนในวังหลวงเปลี่ยนแปลงเป็นคนของตำหนักอ๋องอี้แล้วอยู่ฝ่ายตนได้แน่นอน“พระชายา ท่านพูดถูก ข้าคิ
หลิงอวี๋แทบไม่มีเวลาว่างให้พักผ่อนเลย ต้องพบผู้คนกลุ่มแล้วกลุ่มเล่าเพื่อจัดการเรื่องต่าง ๆ แม้ว่าจะมีคนที่ไทเฮากับพระชายาผิงหนานหามาคอยช่วยอยู่ ก็ยังคงยุ่งวุ่นวายมากอยู่ดีหานอวี้กับหลิงซวนคอยช่วยนางจดบันทึกอยู่ข้าง ๆ และหมิ่นกูก็ช่วยจัดหมวดหมู่ให้ส่วนทางด้านพระที่นั่งบำรุงฤทัย ไทเฮาได้ทำการจัดการเรื่องห้องโถงที่ตั้งศพอย่างกังวลในห้องโถงที่ตั้งศพได้มีการแขวนผ้าสีดำและจัดวางโต๊ะธูปไว้ หลังจากรุ่งสางเหล่าขุนนางน้อยใหญ่และภรรยาจะเริ่มมาเข้าเฝ้าเคารพพระบรมศพของจักรพรรดิอู่อันกันต้องมีการเตรียมอาหารและชุดไว้ทุกข์ของคนเหล่านี้ไว้ดีที่มีการเตือนจากพระชายาผิงหนาน หลิงอวี๋จึงได้ส่งคนไปแจ้งเกิ่งเสี่ยวหาวกับทางเรือนหยกอำไพไว้ก่อนแล้วว่าให้หาคนมาเร่งจัดการสิ่งเหล่านี้ให้ตนในวังมีผู้ดูแลอาภรณ์ของตนอยู่ และคนที่มาดูแลเรื่องอาภรณ์ก็คือหัวหน้าหานผู้เป็นขุนนางหญิง หลิงอวี๋จึงสั่งคนไปบอกให้นางมาพบตนแต่เป็นเวลานานแล้วหัวหน้าหานก็ยังมิมา หลิงอวี๋ก็รู้เลยว่านางเป็นคนของพระชายาเส้าและจงใจจะทำให้ตนเองลำบากหลิงอวี๋จึงให้คนไปหาแม่นางเหมยที่เรือนหยกอำไพ พลางให้เถาจื่อไปเลือกนางกำนัลที่แข็งแรงไว้ก