มินานนัก พระชายาผิงหนานที่สวมชุดขาวไว้ทุกข์ก็เดินเข้ามา“ยินดีด้วยเพคะพระชายาองค์รัชทายาท!”พระชายาผิงหนานเอ่ยอย่างจริงใจ อันเจ๋อบุตรชายของตนกับพวกของหลิงอวี๋เป็นพวกเดียวกัน การที่เซียวหลินเทียนได้เป็นจักรพรรดิ ตำแหน่งของอันเจ๋อก็จะพุ่งสูงขึ้นอย่างราบรื่นไปด้วย“พระชายา ระหว่างเรามิจำเป็นต้องสุภาพต่อกันหรอก!”หลิงอวี๋ยิ้มขมขื่นพลางเอ่ย “ท่านเองก็เห็นแล้วว่า ข้าเพิ่งจะได้นั่งตำแหน่งพระชายาองค์รัชทายาทก็เจอปัญหาเช่นไร ที่พระชายาเส้ามอบตราหงส์มาให้ข้าอย่างง่าย ๆ มิใช่เพราะอยากเห็นเรื่องตลกของข้าหรอกหรือ?”“ข้าจะถูกคนหัวเราะใส่ก็มิสำคัญหรอก แต่ข้ามิอาจให้พวกของเซียวหลินเทียนมาเดือดร้อนไปด้วยได้ ดังนั้น ท่านต้องช่วยข้า!”พระชายาผิงหนานเองก็รู้ว่าตอนนี้มิใช่เวลาจะมาสุภาพต่อกัน หากหลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนมิได้ดีก็หมายความว่าพวกเขาก็จะมิได้ดีเช่นกันเวลานี้พวกเขามีเพียงแค่ต้องร่วมแรงร่วมใจกันเท่านั้นจึงจะฟันฝ่าความยากลำบากไปด้วยกันได้“พระชายาองค์รัชทายาท เจ้าต้องการให้ข้าทำสิ่งใดก็บอกมาได้เลย!” พระชายาผิงหนานเอ่ยอย่างเฉียบขาด“เรื่องการจัดการและแม่นมภายในวังล้วนถูกพระชายาเส้าควบคุมไ
ต้องบอกเลยว่า พระชายาผิงหนานนั้นโน้มน้าวผู้คนได้ดีมากจริง ๆ เมื่อหลิงอวี๋ได้ฟังนางพูดเช่นนั้นก็เหมือนว่าได้เห็นแสงสว่างในความมืดใช่แล้ว!เมื่อก่อนตนเห็นว่า สตรีเหล่านั้นมิสามารถเล่าเรียนได้ก็คิดว่าสักวันหนึ่งจะสามารถช่วยเหลือพวกนางได้บัดนี้โอกาสนั้นได้มาถึงแล้ว นางลืมความตั้งใจเดิมนี้ไปได้อย่างไรกัน!ชีวิตในวังหลวงกดดันและมีการตีกรอบมากก็จริงแต่ในภายภาคหน้า ตนกับเซียวหลินเทียนต่างหากที่จะเป็นเจ้าของวังหลวงที่แท้จริง พวกเขาสามารถร่วมมือกันเปลี่ยนแปลงทุกอย่างได้!ก็เหมือนกับในตอนแรกที่ตนเพิ่งจะข้ามเวลามาแล้วคนรับใช้ในตำหนักอ๋องอี้ล้วนมิอยากพบตนแต่จากที่ตนแข็งแกร่งขึ้นในทุก ๆ วัน พวกจ้าวซวนก็ยืนข้างตนในยามที่ฉินรั่วซือกลั่นแกล้งตนมิใช่หรือ?หากต้องการให้ทุกอย่างผ่านไปอย่างสบายใจก็ต้องพึ่งตนเองแล้วเอาชนะความท้าทายเหล่านี้ไปให้ได้วังหลวงก็แค่ใหญ่โตกว่าตำหนักอ๋องอี้มิกี่สิบเท่าเอง ทว่าต่อให้ใหญ่โตเพียงใด สิ่งที่นางต้องเอาชนะให้ได้ก็มีเพียงแค่ใจคนเท่านั้น!ขอเวลาสักหน่อย นางจะต้องทำให้คนในวังหลวงเปลี่ยนแปลงเป็นคนของตำหนักอ๋องอี้แล้วอยู่ฝ่ายตนได้แน่นอน“พระชายา ท่านพูดถูก ข้าคิ
หลิงอวี๋แทบไม่มีเวลาว่างให้พักผ่อนเลย ต้องพบผู้คนกลุ่มแล้วกลุ่มเล่าเพื่อจัดการเรื่องต่าง ๆ แม้ว่าจะมีคนที่ไทเฮากับพระชายาผิงหนานหามาคอยช่วยอยู่ ก็ยังคงยุ่งวุ่นวายมากอยู่ดีหานอวี้กับหลิงซวนคอยช่วยนางจดบันทึกอยู่ข้าง ๆ และหมิ่นกูก็ช่วยจัดหมวดหมู่ให้ส่วนทางด้านพระที่นั่งบำรุงฤทัย ไทเฮาได้ทำการจัดการเรื่องห้องโถงที่ตั้งศพอย่างกังวลในห้องโถงที่ตั้งศพได้มีการแขวนผ้าสีดำและจัดวางโต๊ะธูปไว้ หลังจากรุ่งสางเหล่าขุนนางน้อยใหญ่และภรรยาจะเริ่มมาเข้าเฝ้าเคารพพระบรมศพของจักรพรรดิอู่อันกันต้องมีการเตรียมอาหารและชุดไว้ทุกข์ของคนเหล่านี้ไว้ดีที่มีการเตือนจากพระชายาผิงหนาน หลิงอวี๋จึงได้ส่งคนไปแจ้งเกิ่งเสี่ยวหาวกับทางเรือนหยกอำไพไว้ก่อนแล้วว่าให้หาคนมาเร่งจัดการสิ่งเหล่านี้ให้ตนในวังมีผู้ดูแลอาภรณ์ของตนอยู่ และคนที่มาดูแลเรื่องอาภรณ์ก็คือหัวหน้าหานผู้เป็นขุนนางหญิง หลิงอวี๋จึงสั่งคนไปบอกให้นางมาพบตนแต่เป็นเวลานานแล้วหัวหน้าหานก็ยังมิมา หลิงอวี๋ก็รู้เลยว่านางเป็นคนของพระชายาเส้าและจงใจจะทำให้ตนเองลำบากหลิงอวี๋จึงให้คนไปหาแม่นางเหมยที่เรือนหยกอำไพ พลางให้เถาจื่อไปเลือกนางกำนัลที่แข็งแรงไว้ก
หลิงซวนทิ้งสายลับหนึ่งคนไว้คอยดูการจัดการอาภรณ์ หลังจากเวลาผ่านไปเล็กน้อย การจัดการอาภรณ์ก็ยังมิเคลื่อนไหวเลยแม้แต่น้อยหลิงซวนได้รับข่าวมาก็กัดฟัน หัวหน้าหานผู้นี้มิเห็นอาจารย์ของตนอยู่ในสายตาเลย!หึ!หัวหน้าหานฉลาดมาทั้งชีวิตแต่ก็ยังมีช่วงเวลาที่โง่เขลา นางมิรู้หรือว่าคนที่โดดเด่นจะถูกโจมตีได้ง่าย?อาจารย์ของตนอยากยืนหยัดอยู่ในวังอย่างมั่นคง หากมิหาคนมาเปิดคมมีดเสียก่อนแล้วจะสร้างบารมีของตนได้อย่างไรเล่าได้!หากหัวหน้าหานอยากจะเป็นคนที่ลองมีดคนแรก เช่นนั้นก็เติมเต็มความปรารถนาให้นางเสียหน่อยแล้วกันหากฝ่ายห้องเย็บปักมิจัดการชุดไว้ทุกข์ พระชายาเส้ากับจ้าวเจินเจินจะรู้ในทันทีเลยทั้งสองคนนั้นล้วนรอดูความสนุกอยู่แล้ว ประเดี๋ยวเหล่าขุนนางน้อยใหญ่และภรรยามากราบไหว้เคารพพระบรมศพแล้วไม่มีชุดไว้ทุกข์ใส่ คนเหล่านี้ก็คงจะถ่มน้ำลายใส่หลิงอวี๋จนจมน้ำลายตายเมื่อเห็นว่าฟ้าใกล้สว่างแล้วหลิงอวี๋จึงพาพวกหลิงซวนไปเอาชุดไว้ทุกข์ที่ฝ่ายห้องเย็บปัก ด้านในฝ่ายห้องเย็บปักกำลังยุ่งกันเลยหัวหน้าหานให้ลูกน้องของตนทำท่าทีว่ากำลังยุ่งรอให้หลิงอวี๋มาเห็นอยู่!“หัวหน้าหาน ชุดไว้ทุกข์ชุดแรกเสร็จหรื
คำพูดนี้ของเถาจื่อรุนแรงยิ่งกว่าการตบหน้าหัวหน้าหานเสียอีกตอนนี้นางถึงได้รู้ว่า เหตุใดหลิงซวนจึงถามว่าสามารถทำได้กี่ชุดในเวลาหนึ่งก้านธูป ที่แท้ก็รอเช่นนี้นี่เอง!“พวกเจ้าหลอกลวงเจ้านาย!”เถาจื่อคว้าปกเสื้อของหัวหน้าหานไว้อย่างโหดร้าย พลางดุด่า “พูดง่าย ๆ ก็คือ มิเห็นคำสั่งของพระชายาเราอยู่ในสายตา!”“แต่หากพูดแบบรุนแรงก็คือ เป็นการดูหมิ่นองค์จักรพรรดิสูงสุด อยากให้คนในครอบครัวของพระองค์มิทันได้รับการกราบไหว้จากลูกกตัญญู!”จักรพรรดิอู่อันสวรรคตแล้ว เซียวหลินเทียนเป็นจักรพรรดิแล้ว ตอนนี้จักรพรรดิอู่อันจึงเป็นจักรพรรดิสูงสุดเหงื่อเม็ดโตผุดขึ้นมาบนหน้าผากของหัวหน้าหานแล้วไหลลงมา นางอ้าปากแต่มิรู้ว่าควรจะอธิบายตนเองอย่างไรนางแอบเสียใจ เมื่อครู่น่าจะทำชุดไว้ทุกข์บางส่วนมาให้พระชายาองค์รัชทายาทแบบขายผ้าเอาหน้ารอดไปก่อนทว่าเป็นเพราะว่าตนอวดดีจึงได้ทิ้งจุดอ่อนไว้ให้พระชายาองค์รัชทายาทรู้เมื่ออยู่ในน้ำมือของพระชายาองค์รัชทายาทเช่นนี้แล้วจะรอดพ้นความผิดไปได้อย่างไร!เถาจื่อหุ่มนางลงบนพื้น หัวหน้าหานคุกเข่าไปคำนับหลิงอวี๋ทันที“พระชายาองค์รัชทายาท บ่าวมิรับผิดชอบในคำสั่งของท่านเอง
เรื่องที่พระชายาองค์รัชทายาทตัดหัวหัวหน้าหานแห่งฝ่ายห้องเย็บปักได้แพร่ออกไปในวังอย่างรวดเร็วพวกคนที่ก่อนหน้านี้ยังคงคิดที่จะฟังคำสั่งของพระชายาเส้า และสร้างความลำบากในการทำงานต่าง ๆ ของหลิงอวี๋ต่างก็ถอนตัวไปทันทีพระชายาองค์รัชทายาทผู้นี้มิใช่คนที่จะไปยั่วยุได้ง่าย ๆ!หากมิดำเนินการตามคำสั่งของนางก็จะหัวขาดเอาได้!ผลประโยชน์ที่พระชายาเส้าจะให้พวกเขานั้นมิได้มีสิ่งใดมากกว่าไปเงิน แต่คนที่ทำงานอยู่ในตำแหน่งของหัวหน้านี้ ทุกคนรู้ดีถึงผลประโยชน์ของตำแหน่งตนขอเพียงมิเสียชีวิต การยืนหยัดอยู่ในตำแหน่งของตนแล้วทำเหมือนปฏิบัติตามคำสั่งไปเรื่อย ๆ จะสามารถเปลี่ยนวิธีหาเงินได้อีกผลประโยชน์ที่ยาวนานกับเงินเพียงเล็กน้อยของพระชายาเส้านั้นเทียบกันมิติดเลยอีกอย่างต่อให้เงินมากแค่ไหน การที่ไม่มีชีวิตให้ได้ใช้เงินนั้นก็สูญเปล่าเช่นกัน!พระชายาเส้าเองก็คิดมิถึงเช่นกันว่า ทันทีที่หลิงอวี๋ลงมือจะเป็นการตัดหัวหัวหน้าหานเลย สิ่งนี้ทำให้นางต้องรีบพาคนพุ่งไปหาหลิงอวี๋ด้วยความโกรธทันทีหากมิปรามหลิงอวี๋ไว้ ในภายภาคหน้าผู้ใดยังจะกล้าทำงานให้ตนเล่า?!หลิงอวี๋กำลังมอบหมายงานที่พวกหมิ่นกูต้องทำอยู่ที่โ
คำพูดนี้ของหลิงอวี๋เป็นการตบหน้าพระชายาเส้าตรง ๆ เห็นได้ชัดว่านี่เป็นการอาศัยความเห็นของผู้อื่นมาพูดในความจริง ก็เหลือเพียงชี้หน้าด่าพระชายาเส้าแล้วว่า มิเสียใจที่องค์จักรพรรดิอู่อันเสด็จสวรรคตแต่สนใจแค่การแย่งชิงอำนาจเท่านั้นสีหน้าของพระชายาเส้าเปลี่ยนไปมาทันที นางรู้ว่าหากพูดต่อไปตนก็คงจัดการมิได้ จึงทำได้เพียงหันหลังเดินไปอย่างมิสบอารมณ์‘หลิงอวี๋ ข้าฝากไว้ก่อนเถิด หากมิได้ปลิดชีพเจ้า ข้าคงทนความขี้ขลาดนี้มิได้’การหลบเลี่ยงบิดพลิ้วมิใช่รูปแบบของพระชายาเส้าเลยและนางก็รู้เช่นกันว่า องค์จักรพรรดิอู่อันเสด็จสวรรคตแล้วตนก็ไม่มีที่พึ่งแล้วเช่นกันแม้ว่าอุบายนี้จะใช้ได้ หลิงอวี๋ก็ไม่มีทางใช้ ทั้งยังทำให้ขุนนางกับภรรยาเหล่านั้นดูถูกตนอีกนางกับองค์ชายคังยังมิแพ้ ในภายภาคหน้าต้องมีสักวันหนึ่งที่นางได้นั่งตำแหน่งไทเฮา นางมิอาจใช้อุบายนี้มาทำลายภาพลักษณ์ที่สง่างามและใจกว้างของตนได้นี่เพิ่งจะเริ่มต้น!‘หลิงอวี๋เจ้าอย่าได้คิดว่า ตัดหัวหัวหน้าหานไปแล้วจะสามารถควบคุมวังหลังได้’‘ข้าจะให้เจ้าได้ใจไปก่อน ประเดี๋ยวเจ้าได้เห็นดีแน่’พระชายาเส้ากลับไปที่ห้องโถงที่ตั้งพระบรมศพแล้วคุกเข่า
หมิ่นกูกับหลิงซวนมองวิธีการที่หลิงอวี๋พิชิตคนแล้วก็แอบตกใจ ในขณะเดียวกันก็นับถือมาก ๆ เช่นกันพวกนางต่างก็เห็นมากับตาว่าหลิงอวี๋ถูกบีบให้เติบโตอย่างไรวังหลวงนี้เป็นหุบเหวที่มองมิเห็นก้นบึ้งของมัน หากมิอยากถูกฝังอยู่ที่นี่ก็ทำได้เพียงแค่ต้องบีบตนเองให้ปีนขึ้นไปหลังจากหลิงอวี๋ส่งคนที่จัดการงานต่าง ๆ ออกไปแล้ว ในที่สุดก็แอบหาเวลาว่างกินอะไรสักหน่อยได้หลิงซวนมองหลิงอวี๋ที่กินมูมมามอย่างปวดใจ แล้วรีบส่งถ้วยน้ำชาให้นางหลิงอวี๋ดื่มไปสองอึกก็นึกถึงเรื่องจักรพรรดิอู่อันขึ้นมาได้ จึงรีบเอ่ยกับหลิงซวน “เจ้าไปบอกกับลู่หนานหน่อยว่า ให้เขาคอยใส่ใจอาหารของท่านอ๋อง… เอ่อ องค์จักรพรรดิเป็นพิเศษหน่อย อย่าให้มีผู้ใดเล็ดลอดเข้าไปยุ่งได้เด็ดขาด!”สาเหตุการตายของจักรพรรดิอู่อันยังตรวจสอบมิชัดเจน หลิงอวี๋กังวลว่ามือสังหารที่ซุ่มซ่อนอยู่จะใช้วิธีเดิมมาลงมือกับเซียวหลินเทียนซ้ำอีก“บอกให้ลู่หนานทำทุกเรื่องด้วยตัวเอง เครื่องนอนเครื่องใช้ในสถานที่พักผ่อนขององค์จักรพรรดิก็ต้องตรวจสอบดูให้หมด หากมีสิ่งที่น่าสงสัยให้เปลี่ยนทั้งหมดทันที!”“ภายในห้องมิต้องเอาดอกไม้ใด ๆ มาจัดวาง พวกถุงหอมเครื่องหอมอะไรก็ยิ่