ขันทีเซี่ยไปที่ห้องทรงพระอักษรโดยที่มีเหล่าองครักษ์กองทัพหลวงไปด้วย จากนั้นก็นำพระราชโองการออกมาจากห้องลับขององค์จักรพรรดิคนที่โถงด้านข้างต่างก็รอคอยอย่างใจจดใจจ่อจ้าวฮุยรู้สึกมิค่อยสบายใจนัก เมื่อเวลาผ่านไปเรื่อย ๆ ความรู้สึกมิสบายใจนี้ก็รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกันเขาติดตามจักรพรรดิอู่อันมายาวนานถึงเพียงนี้ เขารู้ว่าจักรพรรดิอู่อันรักในอำนาจ ทั้งยังกำลังอยู่ในช่วงรุ่งโรจน์ที่สุดในชีวิตด้วยซ้ำจักรพรรดิอู่อันมิแม้แต่จะตัดสินตำแหน่งองค์รัชทายาท แล้วเขาจะทิ้งพระราชโองการสั่งเสียเอาไว้ได้เยี่ยงไรเล่า!นี่… หรือว่าจะเป็นการปลอมแปลงของไทเฮากับเซียวหลินเทียน?จิตใจของจ้าวฮุยเต้นระรัวขึ้นมาทันที หากพระราชโองการสั่งเสียเป็นของปลอม แล้วพวกเขาจะต้องเผชิญหน้ากับพลังของเซียวหลินเทียนหรือว่าของไทเฮากันเล่าพวกเขาจะต้องเตรียมการเอาไว้หมดแล้วอย่างแน่นอน ทางฝ่ายของตนมาอย่างกะทันหันเกินไป มิทันได้เตรียมตัวอะไรเลย!หากเปิดโปงพวกเขาไปเช่นนี้ แล้วทางฝ่ายตนจะได้รับผลประโยชน์หรือ?ในขณะที่จิตใจของจ้าวฮุยกำลังคิดว้าวุ่นอยู่นั้น ขันทีเซี่ยก็กลับมาแล้วขันทีเซี่ยมอบพระราชโองการสั่งเสียให้ท่านอ๋องเฉ
“กระหม่อมเห็นด้วย!”เมื่อมีใต้เท้าหลี่เป็นผู้นำแล้ว ขุนนางคนอื่น ๆ ก็ลุกออกมาตาม ๆ กัน มินานก็มีขุนนางลุกออกมาเกือบหนึ่งในสามของทั้งหมดแล้วแม้ว่าการแสดงออกของเซียวหลินเทียนจะดูสงบ แต่กลับแอบตกใจคิดมิถึงว่า องค์ชายคังที่ด้อยกว่าตนทั้งด้านบุ๋นและบู๊จะมีผู้สนับสนุนมากมายถึงเพียงนี้!องค์ชายคังรู้สึกภูมิใจมาก หนึ่งในสามก็เพียงพอแล้วรอให้ถึงวันที่ตนได้สิบทอดพลังที่ยิ่งใหญ่ก่อน พวกคนไม่มีจุดยืนเหล่านั้นก็ต้องก้มหัวให้ตนอย่างเชื่อฟังมิใช่หรือ!เมื่อเห็นเช่นนี้ เขาเองก็มิได้ด้อยไปกว่าเซียวหลินเทียนนี่!องค์ชายรุ่ยแววตาสงบ แต่ในใจกลับอิจฉาทั้งสองคน หว่านพืชเช่นไรย่อมได้ผลเช่นนั้นจริง ๆ!เขาเงียบ เขาคิดเพียงว่า หากรวบรวมกำลังมากพอแล้วค่อยมาแย่งตำแหน่งนี้ไป แต่คิดมิถึงเลยว่าใต้หล้านี้เกือบจะถูกองค์ชายคังกับอ๋องอี้แบ่งไปจนหมดแล้วแต่เขาได้พบโลกอีกใบที่โม่เหอแล้ว รอให้เขากลายเป็นผู้ที่แข็งแกร่งอย่างที่สุดก่อนเถิด แล้วทุกพื้นที่ในฉินตะวันตกจะต้องอยู่ในกำมือของเขา!ส่วนองค์ชายเย่เมื่อเห็นภาพนี้ก็ถอดใจจากตำแหน่งมังกรไปแล้วจูหลานพูดถูก หากต้องการจะได้ครอบครองตำแหน่งนี้ สิ่งที่ต้องจ่ายไปม
ข่าวที่ท่านอ๋องอี้เซียวหลินเทียนได้ขึ้นเป็นจักรพรรดิองค์ใหม่ได้แพร่ออกไปในวังหลวงแล้วบรรดาสตรีที่รอคอยอยู่ที่พระที่นั่งบำรุงฤทัยได้ยินเรื่องนี้เข้าต่างก็ประหลาดใจเป็นไปได้อย่างไร?พระชายาเส้าเกือบจะหลุดปากกรี๊ดออกมาแล้วแต่อดกลั้นไว้ได้นี่ต้องเป็นเรื่องที่เหล่าขุนนางว่าการยืนยันพระราชโองการสั่งเสียแล้วจึงได้ประกาศออกมา หากนางคัดค้านเช่นนั้นจะมิเป็นการฝ่าฝืนพระราชโองการอย่างโจ่งแจ้งหรอกหรือ? เรื่องเป็นที่แน่นอนแล้ว นางทำได้เพียงสงบสติไว้ก่อนเท่านั้นสีหน้าของจ้าวเจินเจินซีดเผือดไปทันที นางเกือบจะทรุดนั่งลงไปกับพื้นแล้วเซียวหลินเทียนเป็นจักรพรรดิหรือ?เช่นนั้นหลิงอวี๋ก็เป็นฮองเฮา?คนโง่เขลาที่เมื่อก่อนนางมิเคยเห็นอยู่ในสายตาได้กลายเป็นฮองเฮาแล้ว!มีเพียงจูหลานเท่านั้นที่ก้าวไปยินดีกับหลิงอวี๋ที่ได้ตำแหน่งพระชายาองค์รัชทายาทอย่างจริงใจพิธีราชาภิเษกของเซียวหลินเทียนยังมิได้จัดขึ้น ต้องรอให้พิธีศพของจักรพรรดิอู่อันเสร็จสิ้นเสียก่อนแล้วค่อยเลือกวันมงคล ดังนั้นจึงยังมิสามารถเรียกหลิงอวี๋ว่าฮองเฮาได้“ยินดีด้วยเพคะพี่หญิง!”จักรพรรดิอู่อันเพิ่งจะจากไป ต่อให้จูหลานจะดีใจกับหลิ
มินานนัก พระชายาผิงหนานที่สวมชุดขาวไว้ทุกข์ก็เดินเข้ามา“ยินดีด้วยเพคะพระชายาองค์รัชทายาท!”พระชายาผิงหนานเอ่ยอย่างจริงใจ อันเจ๋อบุตรชายของตนกับพวกของหลิงอวี๋เป็นพวกเดียวกัน การที่เซียวหลินเทียนได้เป็นจักรพรรดิ ตำแหน่งของอันเจ๋อก็จะพุ่งสูงขึ้นอย่างราบรื่นไปด้วย“พระชายา ระหว่างเรามิจำเป็นต้องสุภาพต่อกันหรอก!”หลิงอวี๋ยิ้มขมขื่นพลางเอ่ย “ท่านเองก็เห็นแล้วว่า ข้าเพิ่งจะได้นั่งตำแหน่งพระชายาองค์รัชทายาทก็เจอปัญหาเช่นไร ที่พระชายาเส้ามอบตราหงส์มาให้ข้าอย่างง่าย ๆ มิใช่เพราะอยากเห็นเรื่องตลกของข้าหรอกหรือ?”“ข้าจะถูกคนหัวเราะใส่ก็มิสำคัญหรอก แต่ข้ามิอาจให้พวกของเซียวหลินเทียนมาเดือดร้อนไปด้วยได้ ดังนั้น ท่านต้องช่วยข้า!”พระชายาผิงหนานเองก็รู้ว่าตอนนี้มิใช่เวลาจะมาสุภาพต่อกัน หากหลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนมิได้ดีก็หมายความว่าพวกเขาก็จะมิได้ดีเช่นกันเวลานี้พวกเขามีเพียงแค่ต้องร่วมแรงร่วมใจกันเท่านั้นจึงจะฟันฝ่าความยากลำบากไปด้วยกันได้“พระชายาองค์รัชทายาท เจ้าต้องการให้ข้าทำสิ่งใดก็บอกมาได้เลย!” พระชายาผิงหนานเอ่ยอย่างเฉียบขาด“เรื่องการจัดการและแม่นมภายในวังล้วนถูกพระชายาเส้าควบคุมไ
ต้องบอกเลยว่า พระชายาผิงหนานนั้นโน้มน้าวผู้คนได้ดีมากจริง ๆ เมื่อหลิงอวี๋ได้ฟังนางพูดเช่นนั้นก็เหมือนว่าได้เห็นแสงสว่างในความมืดใช่แล้ว!เมื่อก่อนตนเห็นว่า สตรีเหล่านั้นมิสามารถเล่าเรียนได้ก็คิดว่าสักวันหนึ่งจะสามารถช่วยเหลือพวกนางได้บัดนี้โอกาสนั้นได้มาถึงแล้ว นางลืมความตั้งใจเดิมนี้ไปได้อย่างไรกัน!ชีวิตในวังหลวงกดดันและมีการตีกรอบมากก็จริงแต่ในภายภาคหน้า ตนกับเซียวหลินเทียนต่างหากที่จะเป็นเจ้าของวังหลวงที่แท้จริง พวกเขาสามารถร่วมมือกันเปลี่ยนแปลงทุกอย่างได้!ก็เหมือนกับในตอนแรกที่ตนเพิ่งจะข้ามเวลามาแล้วคนรับใช้ในตำหนักอ๋องอี้ล้วนมิอยากพบตนแต่จากที่ตนแข็งแกร่งขึ้นในทุก ๆ วัน พวกจ้าวซวนก็ยืนข้างตนในยามที่ฉินรั่วซือกลั่นแกล้งตนมิใช่หรือ?หากต้องการให้ทุกอย่างผ่านไปอย่างสบายใจก็ต้องพึ่งตนเองแล้วเอาชนะความท้าทายเหล่านี้ไปให้ได้วังหลวงก็แค่ใหญ่โตกว่าตำหนักอ๋องอี้มิกี่สิบเท่าเอง ทว่าต่อให้ใหญ่โตเพียงใด สิ่งที่นางต้องเอาชนะให้ได้ก็มีเพียงแค่ใจคนเท่านั้น!ขอเวลาสักหน่อย นางจะต้องทำให้คนในวังหลวงเปลี่ยนแปลงเป็นคนของตำหนักอ๋องอี้แล้วอยู่ฝ่ายตนได้แน่นอน“พระชายา ท่านพูดถูก ข้าคิ
หลิงอวี๋แทบไม่มีเวลาว่างให้พักผ่อนเลย ต้องพบผู้คนกลุ่มแล้วกลุ่มเล่าเพื่อจัดการเรื่องต่าง ๆ แม้ว่าจะมีคนที่ไทเฮากับพระชายาผิงหนานหามาคอยช่วยอยู่ ก็ยังคงยุ่งวุ่นวายมากอยู่ดีหานอวี้กับหลิงซวนคอยช่วยนางจดบันทึกอยู่ข้าง ๆ และหมิ่นกูก็ช่วยจัดหมวดหมู่ให้ส่วนทางด้านพระที่นั่งบำรุงฤทัย ไทเฮาได้ทำการจัดการเรื่องห้องโถงที่ตั้งศพอย่างกังวลในห้องโถงที่ตั้งศพได้มีการแขวนผ้าสีดำและจัดวางโต๊ะธูปไว้ หลังจากรุ่งสางเหล่าขุนนางน้อยใหญ่และภรรยาจะเริ่มมาเข้าเฝ้าเคารพพระบรมศพของจักรพรรดิอู่อันกันต้องมีการเตรียมอาหารและชุดไว้ทุกข์ของคนเหล่านี้ไว้ดีที่มีการเตือนจากพระชายาผิงหนาน หลิงอวี๋จึงได้ส่งคนไปแจ้งเกิ่งเสี่ยวหาวกับทางเรือนหยกอำไพไว้ก่อนแล้วว่าให้หาคนมาเร่งจัดการสิ่งเหล่านี้ให้ตนในวังมีผู้ดูแลอาภรณ์ของตนอยู่ และคนที่มาดูแลเรื่องอาภรณ์ก็คือหัวหน้าหานผู้เป็นขุนนางหญิง หลิงอวี๋จึงสั่งคนไปบอกให้นางมาพบตนแต่เป็นเวลานานแล้วหัวหน้าหานก็ยังมิมา หลิงอวี๋ก็รู้เลยว่านางเป็นคนของพระชายาเส้าและจงใจจะทำให้ตนเองลำบากหลิงอวี๋จึงให้คนไปหาแม่นางเหมยที่เรือนหยกอำไพ พลางให้เถาจื่อไปเลือกนางกำนัลที่แข็งแรงไว้ก
หลิงซวนทิ้งสายลับหนึ่งคนไว้คอยดูการจัดการอาภรณ์ หลังจากเวลาผ่านไปเล็กน้อย การจัดการอาภรณ์ก็ยังมิเคลื่อนไหวเลยแม้แต่น้อยหลิงซวนได้รับข่าวมาก็กัดฟัน หัวหน้าหานผู้นี้มิเห็นอาจารย์ของตนอยู่ในสายตาเลย!หึ!หัวหน้าหานฉลาดมาทั้งชีวิตแต่ก็ยังมีช่วงเวลาที่โง่เขลา นางมิรู้หรือว่าคนที่โดดเด่นจะถูกโจมตีได้ง่าย?อาจารย์ของตนอยากยืนหยัดอยู่ในวังอย่างมั่นคง หากมิหาคนมาเปิดคมมีดเสียก่อนแล้วจะสร้างบารมีของตนได้อย่างไรเล่าได้!หากหัวหน้าหานอยากจะเป็นคนที่ลองมีดคนแรก เช่นนั้นก็เติมเต็มความปรารถนาให้นางเสียหน่อยแล้วกันหากฝ่ายห้องเย็บปักมิจัดการชุดไว้ทุกข์ พระชายาเส้ากับจ้าวเจินเจินจะรู้ในทันทีเลยทั้งสองคนนั้นล้วนรอดูความสนุกอยู่แล้ว ประเดี๋ยวเหล่าขุนนางน้อยใหญ่และภรรยามากราบไหว้เคารพพระบรมศพแล้วไม่มีชุดไว้ทุกข์ใส่ คนเหล่านี้ก็คงจะถ่มน้ำลายใส่หลิงอวี๋จนจมน้ำลายตายเมื่อเห็นว่าฟ้าใกล้สว่างแล้วหลิงอวี๋จึงพาพวกหลิงซวนไปเอาชุดไว้ทุกข์ที่ฝ่ายห้องเย็บปัก ด้านในฝ่ายห้องเย็บปักกำลังยุ่งกันเลยหัวหน้าหานให้ลูกน้องของตนทำท่าทีว่ากำลังยุ่งรอให้หลิงอวี๋มาเห็นอยู่!“หัวหน้าหาน ชุดไว้ทุกข์ชุดแรกเสร็จหรื
คำพูดนี้ของเถาจื่อรุนแรงยิ่งกว่าการตบหน้าหัวหน้าหานเสียอีกตอนนี้นางถึงได้รู้ว่า เหตุใดหลิงซวนจึงถามว่าสามารถทำได้กี่ชุดในเวลาหนึ่งก้านธูป ที่แท้ก็รอเช่นนี้นี่เอง!“พวกเจ้าหลอกลวงเจ้านาย!”เถาจื่อคว้าปกเสื้อของหัวหน้าหานไว้อย่างโหดร้าย พลางดุด่า “พูดง่าย ๆ ก็คือ มิเห็นคำสั่งของพระชายาเราอยู่ในสายตา!”“แต่หากพูดแบบรุนแรงก็คือ เป็นการดูหมิ่นองค์จักรพรรดิสูงสุด อยากให้คนในครอบครัวของพระองค์มิทันได้รับการกราบไหว้จากลูกกตัญญู!”จักรพรรดิอู่อันสวรรคตแล้ว เซียวหลินเทียนเป็นจักรพรรดิแล้ว ตอนนี้จักรพรรดิอู่อันจึงเป็นจักรพรรดิสูงสุดเหงื่อเม็ดโตผุดขึ้นมาบนหน้าผากของหัวหน้าหานแล้วไหลลงมา นางอ้าปากแต่มิรู้ว่าควรจะอธิบายตนเองอย่างไรนางแอบเสียใจ เมื่อครู่น่าจะทำชุดไว้ทุกข์บางส่วนมาให้พระชายาองค์รัชทายาทแบบขายผ้าเอาหน้ารอดไปก่อนทว่าเป็นเพราะว่าตนอวดดีจึงได้ทิ้งจุดอ่อนไว้ให้พระชายาองค์รัชทายาทรู้เมื่ออยู่ในน้ำมือของพระชายาองค์รัชทายาทเช่นนี้แล้วจะรอดพ้นความผิดไปได้อย่างไร!เถาจื่อหุ่มนางลงบนพื้น หัวหน้าหานคุกเข่าไปคำนับหลิงอวี๋ทันที“พระชายาองค์รัชทายาท บ่าวมิรับผิดชอบในคำสั่งของท่านเอง