Share

บทที่ 2

Author: หูเทียนเสี่ยว
last update Last Updated: 2024-10-29 19:42:56
ฉินตวนหยางงและจวงเหยาเหยาถูกมัดอย่างแน่น

จั๋วซือหรานก้าวขาเดินออกจากห้องด้วยความมั่นใจ

นางสวมชุดแต่งงานสีแดงอันสดใสและงดงาม เสมือนนางกำลังสวมชุดสู้รบ นางดูทรงมีพลังและองอาจ

หลังจากที่คุณหนูและคนใช้ทั้งสามเดินออกจากห้องไป บนหลังคามีเสียงหัวเราะดังขึ้น

แผ่นกระเบื้องที่มุมหลังคาที่มิอาจได้รู้ว่า ถูกเปิดออกมาเมื่อใดเวลานี้กำลังถูกค่อย ๆ เคลื่อนกลับไปอยู่ที่เดิม

ร่างของสองคนค่อย ๆ ปรากฏขึ้นบนหลังคา

ชายหนุ่มทางด้านซ้ายแต่งกายด้วยชุดสีดำ เขามีใบหน้าเรียวงาม

ส่วนชายหนุ่มทางด้านขวา เขายิ้มและมองเฟิงเหยียนที่อันหล่อเหลา บัดนี้เฟิงเหยียนกำลังเมินเฉย

ชายหนุ่มทางด้านขวาหัวเราะและพูด"เดิมทีข้าแค่อยากรู้ว่าจั๋วซือหรานที่ถอนหมั้นกับเจ้าจะงามเช่นใด ไม่คิดเลยว่า ภรรยาในอนาคตของเจ้าจะน่าสนใจขเช่นนี้หรอกนะ"

ใบหน้าของเฟิงเหยียนนิ่งเฉย “เหยียนฉี เจ้าลากข้ามาที่นี่เพื่อปีนหลังคาของบ้านคนอื่นหรือ”

แววตาของเฟิงเหยียนเย็นชา บุคคลิกของเขาประกายอารมณ์ที่ปฏิเสธผู้อื่นเข้าใกล้ชิดอย่างหนักแน่น "อีกอย่าง นางไม่ใช่คู่หมั้นของข้า"

“เชอะ อย่าเย็นชาขนาดนี้สิ” ดวงตากลมโตของเหยียนฉีหรี่ลง “จั๋วจิ่วเพิ่งพูดไปเมื่อครู่นี้มิใช่หรือ นางบอกว่าจะขอเจ้า…อีกครั้ง”

เหยียนฉีอดขันมิได้ จึงหัวเราะเบา ๆ "...แค้ก ๆ ขอเจ้ารักนางอีกครั้ง...?"

ก่อนนห้านี้ชายสองคนนี้ได้เห็นเรื่องที่น่าขันด้วยดวงตาของตัวเองแล้ว

สิ่งที่จั๋วซือหรานได้พูดออกมานั้น แน่นอนว่าต่างก็ได้ยินอย่างชัดถ้อยชัดคำ

ในที่สุดสีหน้าของเฟิงเหยียนมีการเปลี่ยนแปลงเสียที เขาขมวดคิ้วแบะพูด "ไร้ยางอาย"

เหยียนฉียิ้มและกล่าวว่า "นี่ ข้าจะไปดูที่ลานหน้าเรือน เจ้าไปด้วยไหม"

*

ลานกว้างหน้าเรือนประดับประดาด้วยผ้าและโคมไฟระย้า เมื่อคนเดินเข้ามา เห็นได้ชัดว่าทั่วทั้งจวนกำลังจัดงานมงคล

เมื่อใกล้ถึงฤกษ์อันเป็นมงคลแล้ว แขกต่างพากันกระซิบกระซาบกัน

“ข้าได้ยินมาว่า เพื่อแต่งงานกับนักปราชญ์ คุณหนูจั๋วจิ่วถอนการหมั้นกับลูกชายคนโตของตระกูลเฟิง”

“บัณฑิตอะไรกันล่ะ เขาก็เป็นเพียงแค่คนไร้ความสามารถผู้หนึ่ง เป็นผู้ที่ไร้พลังวิเศษหรือพรสวรรค์ในการฝึกฝนวิชา ”

“นางบ้าไปแล้วหรือ เพื่อผู้ชายที่ไม่ได้เรื่องเช่นนี้นะ มันเท่ากับทำให้ตระกูลเฟิงเสียหน้าชัด ๆ เลยนะ”

“ข้าไม่รู้ว่านางบ้าหรือเปล่า แต่ข้าได้ยินมาว่า ผู้อาวุโสของตระกูลจั๋วกำลังจะบ้าไปแล้ว”

“ถือว่าตระกูลจั๋วไว้หน้าให้แล้ว อย่างน้อยตระกูลจั๋วให้สินสอดมากพอแล้ว บางทีพวกเขาอาจกลัวตระกูลเสียหน้า เลยไม่อยากให้นางแต่งงานแบบซอมซ่อเหลือเกิน”

“ข้าแค่อยากรู้ว่า จั๋วจิ่วยอมทิ้งท่านอ๋องของตระกูลเฟิง แล้วไปชอบชายคนอื่น แล้วชายผู้นี้เป็นคนเช่นใดกันแน่”

“เชอะ เมื่อเปรียบเทียบกับท่านอ๋องเฟิงเหยียนแล้ว ทุกคนต่างก็ล้วนกลายเป็นผู้ไร้ความสามารถมิใช่หรือ…”

“นั่นน่ะสิ ข้าไม่สนใจพวกเจ้าจะมาที่นี่เพื่อร่วมความสนุกสนานหรือมาเพื่อดูเรื่องที่น่าขัน อย่างไรก็ตามข้ามาที่นี่เพื่อดูเรื่องตลก”

แขกที่ลานหน้าเรือนต่างพากันรอดูเรื่องตลกด้วยกัน บรรยายกาศกลับดูคึกคักอย่างมาก

ในขณะเดียวกัน เสียงครวญครางและเสียงตะโกนสาปแช่งก็ดังขึ้นมาจากที่ไกล ๆ

“ฮือ ๆ …ฮือ ๆ...พี่จั๋วเจ้าคะ ข้ารู้ข้าทำผิดไปแล้ว ได้โปรดไว้ชีวิตข้าด้วย เด็กในท้องของข้าไม่ได้เกี่ยวอะไรเลยเจ้าคะ”

"จั๋วจิ่ว จั๋วซือหราน ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้เลย เจ้าบ้าไปแล้วหรือ เจ้าทำให้ตระกูลเฟิงต้องขุ่นเคืองเพราะข้า แม้ว่าเจ้าจะไม่แต่งงานกับข้า เจ้าก็เสียชื่อเสียงแล้ว เจ้าคิดว่ายังจะมีใครอยากแต่งงานกับเจ้าอยู่หรือ!"

อ๊ะ ทีนี่น่าตื่นเต้นเสียที

ประเดี๋ยวนี้ มีหญิงสาวผู้หนึ่งสวมชุดแต่งงานโดยไม่ประดับด้วยมงกุฎหงส์ หญิงสาวผู้นี้กำลังเผชิญกับสายตาของทุกคนและกำลังเดินไปยังเทียนคู่มังกรและหงส์ที่จุดไฟอยู่

ต่อมา ฉินตวนหยางและจวงเหยาเหยาก็ถูกลากเข้ามา

จั๋วซือหรานหันตัวและนั่งลงที่ที่นั่งที่อยู่ข้างธูปในห้องใหญ่ เวลานี้ ฉินตวนหยางถูกกดลงและคุกเข่าต่อหน้านาง

ฉินตวนหยางโกรธอย่างมากจนต้องกัดฟันแล้วพูดว่า "นั่นคือที่นั่งสำหรับท่านพ่อและท่านแม่ของข้า"

จั๋วซือหรานจ้องมองเขาเพียงแวบเดียว นางไม่สนใจคำพูดของชายผู้นี้และพูดกับทุกคนว่า

“ฉินตวนหยางและจวงเหยาเหยาแอบชู้กัน และพวกเขาสองคนกำลังมีลูกกัน วันนี้ฉินตวนหยางยังอยากแต่งภรรยาหลวงและภรรยาน้อยภายเข้าเรือนในวันเดียวกัน มันไร้สาระอย่างยิ่ง ข้าโปรดทุกคนเป็นพยานในวันนี้ด้วยว่า ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ข้ากับฉินต้วนหยางจะตัดขาดเยื่อใยสิ้น”

“ของขวัญทั้งหมดที่พวกเจ้ามอบมา ข้าจะให้คนตรวจสอบตามรายชื่อและจะให้คนส่งคืนที่จวนของทุกท่าน จั๋วจิ่วรู้สึกละอายใจที่ปล่อยให้แขกทุกท่านมาเข้าร่วมงานเสียเที่ยว”

แขกต่างมองหน้ากันด้วยความตื่นตระหนกตดใจ พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่า คนไร้ความสามารถอย่างฉินตวนหยางจะกล้าหาญเช่นนี้

เขาล้อหัวใจของจั๋วจิ่ว ซึ่งเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์และได้รับความเมตตาอย่างสูงส่งจากตระกูลจั๋ว เขายังกล้าแต่งภรรยาหลวงและภรรยาน้อยเข้าเรือนในวันเดียวกัน

“ท่าทางของนางคือ... จะไม่ไหว้ฟ้าดินแล้วหรือ” แขกในงานกระซิบกัน

“ผู้ใดบอกว่าจะไม่ไหว้ฟ้าดินแล้ว”

หลิ่วเย่พยุงหญิงชราเดินเข้ามาจากประตู ถัดจากหญิงชราคือชายชรา ผู้ซึ่งเป็นบิดาและมารดาของฉินตวนหยาง

แม้ว่าทั้งสองคนจะแต่งตัวหรูหรา ทว่าใบหน้าของพวกเขาดูแก่และโทรม ซึ่งเป็นเพราะพวกเขาทำงานหนักมาหลายปี

ลูกชายสอบผ่านและมียศฐาบรรดาศักดิ์ หญิงสาวในตระกูลที่สูงศักดิ์ในเมืองนี้ต่างมุ่งมั่นตั้งใจที่จะแต่งงานกับเขา คู่สามีภรรยาชราค่อนข้างภาคภูมิใจในเรื่องนี้มาโดยตลอด

พวกเขาได้ยินจากลูกชายมาว่า จั๋วซือหรานเป็นคนพูดง่ายอย่างมาก พวกเขาตั้งใจมาที่นี้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข

แต่พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่า ผู้หญิงผู้นี้จะไม่กราบไหว้ฟ้าดินแล้ว ทำแบบนั้นได้อย่างไร

“นางจั๋ว ทำไมยังไม่รีบลุกขึ้นไปไหว้ฟ้าดินเพื่อเสร็จพิธีของงานแต่งอีกล่ะ เจ้าอย่าพลาดช่วงเวลาอันเป็นมงคลนี้” แม่ฉินเดินไปยังด้านหน้าของจั๋วซือหราน

จั๋วซือหรานไม่ตอบโต้ใด ๆ เพียงแต่ยิ้มประชดประชัน

ใบหน้าของแม่ฉินชะงัก “นางจั๋ว ผู้ชายที่ไหนกันจะไม่รับเมียน้อย ยิ่งไปกว่านั้น ลูกชายของข้ามีชื่อเสียงโด่งดัง ในอนาคต เมื่อเขาได้ขึ้นเป็นข้าราชการระดับสูง เป็นไปได้หรือที่เขาไม่รับภรรยาน้อย ภรรยาน้อยไม่ได้มีอำนาจเหนือกว่าเจ้าหรอก เหตุใดเจ้าต้องกังวลคอยคิดเล็กคิดน้อย”

พ่อฉินที่อยู่ด้านข้างเห็นคล้อยตามว่า "ถึงอย่างไร ในอนาคต เด็ก ๆ จะเรียกเจ้าว่าแม่ใหญ่ ทำไมเจ้าถึงเป็นผู้หญิงที่โง่เขลาขนาดนี้ อย่าทำตัวเหมือนผู้หญิงที่ชอบอิจฉาริษยาเช่นนี้"

จั๋วซือหรานค่อย ๆ ยืนขึ้น นางวางตัวหยิ่ง "ผู้หญิงที่ชอบอิจฉาริษยาหรือ ทำไมเจ้าไม่เรียกข้าว่า ผู้หญิงที่ร้ายกาจเลยล่ะ ใครก็ได้ หักขาของฉินตวนหยาง และไล่พ่อแม่ของเขาออกไปด้วย"

ฉินตวนหยางสะดุ้ง เขารีบแอบเอาอะไรจิ้มปลายนิ้วของตนเอง มีเลือดสองสามหยดไหลออกมา

จากนั้นเขาขยับริมฝีปากของเขาสองสามครั้งและท่องหนอนพิษกู่โกยไม่ออกเสียง

จากนั้นเขาก็มองไปที่จั๋วซือหรานอีกครั้ง ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความรักและน้ำเสียงอ้อนวอน"เสี่ยวจิ่ว เจ้าอย่าโกรธเลยนะ ข้ารู้ข้าผิดไปแล้ว ต่อจากนี้ไป ข้าจะรักเจ้าคนเดียว ครั้งนี้โปรดยกโทษให้ข้าได้ไหมขอรับ"

จั๋วซือหรานไม่ทันระวังตัวและได้รับความเจ็บปวดอย่างรุนแรงในหัวใจและสมองในเวลาเดียวกัน...
Comments (4)
goodnovel comment avatar
Nong Thepwong
อ่านแล้วงง
goodnovel comment avatar
Nicky Narathonathiwat
เห็นด้วยจ้า
goodnovel comment avatar
Nicky Narathonathiwat
ควรแก้ไข รูปประโยคให้สมบูรณ์ มากกว่านี้ เป็นกำลังใจให้นะคะ
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 3

    แววตาของจั๋วซือหรานเต็มไปด้วยความสับสน มีพลังที่มองไม่เห็นกำลังล่อลวงหัวใจของนาง เพื่อให้นางทำตามคำพูดของฉินตวนหยางนางพยายามทรงตัวไว้และอดความเจ็บปวดไว้ไม่แปลกเลย ชะตากรรมอันเดิมของเจ้าของร่างคนนี้ราวกับคนตาบอด นางรักคนไร้ความสามารถอย่างฉินตวนหยางขนาดนี้ แท้จริงแล้ว นางถูกอาคมหนอนพิษกู่ควบคุมสติไว้พิษแปลก ๆ ดังกล่าวแปลกอย่างมากจนทำให้เจ้าของร่างเดิมโดนอาคมหนอนพิษกู่โดยไม่รู้ตัว แม้ตายไปก็ไม่ทราบว่าตัวเองโดนหนอนพิษกู่ หากจั๋วซือหรานไม่ได้เดินทางข้ามเวลามา ร่างเดิมคงใช้ชีวิตอันน่าสงเวชอย่างชะตากรรมอันเดิมที่กำหนดไว้แต่ในเมื่อจั๋วซือหรานมาแล้ว นางจะไม่มีวันฉินตวนหยางสมหวังฉินตวนหยางเห็นนางไม่ตอบ จึงเสกเป่าอีกที "เสี่ยวจิ่ว เจ้าเชื่อข้าไหมขอรับ"จั๋วซือหรานมองไปที่ฉินตวนหยาง นางค่อย ๆ อ้าริมฝีปากอันสีแดงให้กว้างขึ้น“เจ้าฝันไปเสียเถิด”เสียง 'คลิก'ดังขึ้น“อา”ขาของฉินตวนหยางถูกคนหัก และเขากรีดร้องด้วยความเจ็บปวดเขาตกใจด้วยความเจ็บปวดทรมาน ผู้นั้นได้กล่าวไว้อย่างชัดเจนว่า ตราบใดเสน่ห์หนอนพิษกู่นี้ยังคงอยู่ จั๋วซือหรานก็สามารถเชื่อฟังเขาไปตลอดชีวิต ทำไมหนอนพิษกู่จึงใช้งานไม่ไ

    Last Updated : 2024-10-29
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 4

    น้ำเสียงทุ้มต่ำของเฟิงเหยียนเต็มไปด้วยความเย็นชาและเสน่ห์"น่าอับอายเสียจริง เรื่องไร้สาระสิ้นดี"จั๋วซือหรานเงยหน้ามองชายผู้นี้ด้วยความเจ็บปวดอย่างมากใต้หล้ามีคนหน้าตาดีตั้งมากมายเฟิงเหยีนกลับมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร ความหล่อเหลาของเขาผสมด้วยความกล้าหาญที่ฮึกเหิมทันทีที่จั๋วซือหรานเห็นใบหน้านี้ นางหายความเจ็บปวดทันทีแต่จั๋วซือหรานหายเจ็บปวด ไม่ใช่เป็นเพราะนางเห็นหน้าตาอันหล่อเหลาแต่เป็นเพราะวินาทีที่ชายผู้นี้ปรากฏตัวอย่างรวดเร็ว เขาวางมือบนไหล่ฉินตวนหยาง"อ๊าก ๆ——!“ฉินตวนหยางกรีดร้องออกมาอย่างบ้าคลั่ง เสียงร้องนั้นดังเป็นสิบ ๆ เท่าเมื่อเทียบกับตอนที่เขาถูกหักขาในก่อนหน้านี้ และบัดนี้เขากำลังล้มบนพื้นและกระตุกไปทั้งตัวสายเลือดของตระกูลเฟิงเป็นเช่นนี้ สายเลือดนี้เป็นธาตุไฟที่รุนแรงที่สุด ยิ่งเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์อันยอดเยี่ยม พลังทางจิตวิญญาณก็ยิ่งเผด็จการมาขึ้นเท่านั้นหากถูกพลังทางจิตวิญญาณนั้นรุกราน จะมีความรู้สึกอย่างร่างกายกำลังถูกไฟเผา ซึ่งความเจ็บปวดนั้นพอ ๆ กันกับความเจ็บปวดที่เสน่ห์หนอนพิษกู่นำมาในขณะเดียวกัน ฉินตวนหยางหลั่งน้ำอย่างหนัก เขาดูน่าเกลียดอย่า

    Last Updated : 2024-10-29
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 5

    ทันทีที่เฟิงเหยียนเดินออกจากจวนของจั๋วซือหราน หลังจากนั้นไม่นาน ข้างเฟิงเหยียนมีร่างสีดำสองร่างปรากฏตัวอย่างเงียบ ๆ“ท่านอ๋องขอรับ” ชายที่สวมชุดดำทั้งสองแสดงความเคารพเฟิงเหยียนมีสีหน้าอย่างไม่มีอารมณ์ "ไปสืบมา ข้าต้องการรู้เสน่ห์หนอนพิษกู่ที่จั๋วจิ่วถูกวาง ใครเป็นคนสั่งการเบื้อหลัง"ไม่มีใครเชื่อหรอกว่าบัณฑิตที่ไร้ประโยชน์ผู้นั้นจะเป็นผู้กระทำความผิดนี้*จั๋วซือหรานกำลังนั่งอยู่ในห้อง ฝูซางกังวลอย่างมาก และรีบเช็ดเลือดที่ริมฝีปากของคุณหนูของนาง "คุณหนูเจ้าคะ คุณหนูจะปล่อยเป็นเช่นนี้อีกต่อไปมิได้หรอกนะ ข้าน้อยว่า เราควรรีบไปตามคุณหมอมาตรวจเถิดนะ"“ข้าแค่อาเจียนออกมาเป็นเลือดเพียงเท่านั้น กังวลอะไรล่ะ” จั๋วซือหรานดึงเข็มเงินที่นางสอดไว้ก่อนหน้านี้ออกมาอย่างใจเย็น “หากไม่บีบเลือดที่ติดพิษกู่ออกไป อาการบาดเจ็บภายในจะไม่มีทางหายหรอก”ฝูซาง: “ว่าแต่คุณหนูไปเรียนทักษะการรักษามาโรคตั้งแต่เมื่อไรกัน"จั๋วซือหรานยิ้มเบา ๆ และไม่ตอบ ”ยิ่งไปกว่านี้ ข้าอยากรู้ว่าใครกันแน่ที่เกลียดข้ามากจนใช้เสน่ห์หนอนพิษกู่ มิฉะนั้น ต่อให้ฉินตวนหยางมีความกล้าหาญมากเท่าไร เขาก็ไม่กล้าำเช่นนี้กับข้าหรอก แม้

    Last Updated : 2024-10-29
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 6

    จั๋วซือหรานแต่งกายด้วยชุดสีขาวบาง คุกเข่าอยู่ที่หน้าประตูของจวนจั๋วนางพูดกับผู้ที่เฝ้าหน้าประตูว่า "กรุณาบอกผู้อาวุโสใหญ่ว่า จั๋วจิ่วกลับมาเพื่อขออภัยโทษแล้ว"องครักษ์กำลังจะเข้าไปรายงาน ทว่ากลับถูกใครบางคนห้ามไว้“ห้ามไป” เจียงซาน ซึ่งเป็นคนของบิดาจั๋วหรูซิน เขาห้ามยามที่เฝ้าหน้าประตูไว้เจียงซานพูดด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ว่า "คุณหนูจิ่วไม่เชื่อฟังแม้แต่ผู้อาวุโส ทั้งยังไม่สนใจชื่อเสียงของตระกูลด้วยซ้ำมิใช่หรือ ในเมื่อตอนนี้ออกเรือนแล้ว กลับมาด้วยเหตุใด"จั๋วซือหรานเกิดมาพร้อมกับผิวพรรณเกลี้ยงเกลา คิ้วงดงามดังภาพวาด ด้วยรูปลักษณ์สตรีเช่นนี้ จึงเป็นเรื่องง่ายที่ถูกมองเป็นสตรีผู้แสนน่าสงสารและอ่อนแอแต่นางไม่ใช่สตรีอ่อนแอเห็นได้ชัดว่า นางกำลังคุกเข่าอยู่ แต่บุคลลิกของนางดูสูงส่งกว่าตอนที่นางยืนด้วยซ้ำ นางพูดอย่างเย็นชา "เจ้ามีฐานะเช่นใด เจ้ากล้าเยาะเย้ยข้าหรือ เหรือจ้าคิดว่า ข้าเป็นคนอ่อนแอที่กลั่นแกล้งง่ายเช่นนั้นหรือ"เจียงซาน "ผู้อาวุโสไม่อยากเห็นหน้าเจ้าเลย ต่อให้เจ้าคุกเข่าที่หน้าประตูจนตายก็ไร้ประโยชน์"จั๋วซือหรานพูดอย่างเย็นชา"เจ้าควรพิจารณาให้ดีเสียก่อนว่า ผู้อาวุโสไ

    Last Updated : 2024-10-29
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 7

    จั๋วหรูซินตะโกนด้วยความโกรธ "จั๋วซือหราน เจ้า"“พอแล้ว” ผู้อาวุโสใหญ่ขมวดคิ้วและตะโกนจั๋วหรูซินยังอยากฟ้องต่อ "ผู้อาวุโสใหญ่ นาง..."จั๋วซือหรานกลับโค้งคำนับเล็กน้อยเพื่อทำความเคารพ "ข้าจะไปรับการลงโทษที่ห้องโถงบรรพบุรุษเจ้าค่ะ"ทิ้งจั๋วหรูซินอยู่นั่นผู้เดียว ปล่อยนางโกรธจนหน้าซีดระหว่างทางไปห้องโถงบรรพบุรุษ จั๋วซือหรานเจอฝูซูและฝูซาง“หลิ่วเย่ล่ะ” จั๋วซือหรานถามฝูซางตอบ “พวกเราหลบสายตาของผู้อื่น พานางเข้าเดินผ่านประตูหลังและเดินเข้าจวน มัดนางไปหาผู้อาวุโสใหญ่เพื่ออธิบายรายละเอียดต่าง ๆ จากนั้นผู้อาวุโสใหญ่ก็สั่งให้ขังนางไว้ในห้องเก็บฟืนที่ลานด้านข้างจนกว่าเขาจะสอบปากคำ”ฝูซูถาม "คุณหนูเจ้าคะ คุณหนูลิ่วกำจัดหลิ่วเย่หรือไม่เจ้าคะ มิเช่นนั้นข้าไปคอยคุ้มกันไว้ดีไหมเจ้าคะ"จั๋วซือหรานยกริมฝีปากขึ้นและยิ้ม "หากนางฆ่าอีนังนั้นเสียจริง นั่นก็หมายความว่า หาเรื่องใส่ตัวแล้วน่ะสิ ในเมื่อผู้อาวุโสใหญ่สั่งขังหลิ่วเย่อยู่ในห้องเก็บฟืนที่ลานด้านข้าง แสดงว่าท่านต้องแผนไว้ตั้งแต่แรกแล้ว"หากจั๋วหรูซินจิตใจลุกลี้ลุกลน แล้วไปฆ่าหลิ่วเย่จริง ๆ เรื่องน่าจะสนุกน่าดูสินะฝูซางกังวล"คุณหนูเจ้าค

    Last Updated : 2024-10-29
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 8

    เมื่อจั๋วซือหรานเห็นฝูซูกลับมา นางคิดว่าฝูซูพาคุณหมอมาถึงบ้านแล้ว ผู้ใดจะทราบได้ว่า ชายหนุ่มแสนหล่อเหลาที่กล่าวถึงในเมื่อวานนี้ว่า จะต่างคนต่างอยู่ เวลานี้ชายผู้นี้แต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีดำและกำลังนั่งหน้าโต๊ะแปดเซียนจั๋วซือหราน "ทำไมถึงเป็นเจ้าล่ะ"เฟิงเหยียนเหลือบมองถ้วยชาในมือของเขา "ผู้ดูแลของเจ้าไปตามคุรหมอที่เรือนหมอของตระกูลเหยียน"“ข้าไปตามคุณหมอที่บ้านมิได้หรือเจ้าคะ” จั๋วซือหรานลากเก้าอี้หนึ่งตัวออกมาแล้วนั่งลง ใบหน้าของนางซีดเซียว นางริมชาเองและดื่มหมดถ้วย“เพราะคนที่ไปเชิญคุณหมอเป็นผู้ติดตามของเจ้า ดังนั้นตระกูลเหยียนจึงส่งข่าวข้า ข้านึกว่าเจ้าจะมีกลอุบายใหม่ ๆ ดังนั้นจึงเข้ามาดูเสียหน่อย” เฟิงเหยียนพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่มีอารมณ์ใด ๆ“แล้วคุณหมอล่ะ เจ้าไม่ได้ให้คุณหมอตามมาด้วยหรือ ” จั๋วซือหรานถามเฟิงเกยียนไม่ได้พูดอะไร นั่นหมายถึงจั๋วซือหรานพูดได้ถูกเพราะเมื่อวานเหยียนฉีบอกว่า ชีพจรของนางแข็งแรงมากและถึงแม้จะมีอาการบาดเจ็บภายใน แต่ปัญหาก็ไม่ร้ายแรง ยิ่งไปกว่านั้น พลังทางจิตวิญญาณและความสามารถในการฟื้นฟูของลูกหลานตระกูลจั๋วนั้นเหนือกว่าคนทั่วไปมากเมื่อรวมกับยาน้ำค้

    Last Updated : 2024-10-29
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 9

    มีใบมีดคมที่เย็นเฉียบขึ้นจากหลังคอ และบัดนี้กระบี่เล่มนั้นกำลังถูกวางที่คอขององครักษ์เขาไม่กล้าขยับตัว เสียงของเขาก็สั่นเครือ “ จิ่ว คุณหนูจิ่ว ท่าน…มีอะไรจะพูด…ก็พูดกันดี ๆ เสียก่อน อย่าหุนหันพลันแล่นไปเลย... ““ข้าไม่ได้หุนหันพลันแล่น ข้าใจเย็นแล้วนะ” จั๋วซือหรานเสาะยิ้ม “แต่พวกเจ้าต่างหาก ตอนนี้พร้อมจะคุยกับข้าดี ๆ ยัง”“จิ่ว คุณหนูจิ่ว ท่านเป็นคนใจกว้าง อย่า อย่าคิดเล็กคิดน้อยกับพวกข้าเลยขอรับ” ยามอ่อนแรงจนขาสั่น เขากลัวมือของจั๋วซือหรานจะสั่น“ตอนนี้ ข้าถามอะไร พวกเจ้าต้องตอบ เข้าใจหรือไม่”"เข้า เข้าใจแล้วขอรับ"“น้องชายของข้าอยู่ที่ไหน”“คุณท่านลิ่วนำตัวไปแล้ว”“นำตัวไปที่ไหน”“พวกเราไม่ทราบขอรับ” องครักษ์เกรงว่านางจะไม่เชื่อ จึงย้ำอีกครั้งว่า "พวกเราไม่รู้จริง ๆ และคุณท่านลิ่วก็ไม่จำเป็นต้องให้พวกเราทราบการเดินทางของท่าน"“คำถามสุดท้าย จั๋วหรูซินอยู่ที่ไหน พาข้าไปหานางหน่อย” จั๋วหรูซินพูดอย่างเย็นชาโดยไม่ให้โอกาสผู้คุมปฏิเสธ นางกดกระบี่ลงจนทำให้เกิดรอยเลือดขึ้น*"ไร้ประโยชน์ ไร้ประโยชน์ทั้งสิ้น"ในห้องด้านใน จั๋วหรูซินทุบถ้วยชาในมือของนางออย่างแรง "ถังหยวนอ่อนให้

    Last Updated : 2024-10-29
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 10

    จั๋วซือหรานเหลือบมองกระบี่เรียบง่ายที่ดูธรรมดาในมือของนางความจริงนี่คือกระบี่ประจำตระกูลของเฟิงเหยียน และกระบี่เล่มนี้มีชื่อเดียวกับแหวนเสวียนเหยียนของนางจริง ๆในวันที่ลูกหลานของตระกูลกำเนิด ห้องกระบี่ประจำตระกูลจะเริ่มตีเหล็กเข้ารูปเพื่อทำกระบี่ให้ทารก รูปแบบของกระบี่จะแตกต่างกันไป แต่ตราประจำตระกูลเฟิงจะถูกสลักไว้ที่ด้ามจับ และชื่อของเด็กคนนั้นจะถูกสลักไว้ที่ส่วนท้ายของด้ามจับจั๋วซือหรานมองกระบี่เสวียนเหยียนที่อยู่ในมือของนางและไม่พูดอะไรความเงียบของนางทำให้จั๋วหรูซินโกรธมากขึ้น “เจ้าพูดมาสิ ทำไมเจ้าจึงมีกระบี่ประจำตระกูลของท่านอ๋องเฟิง”จั๋วซือหรานเงยหน้าขึ้นและมองหน้านาง "เจ้ายังต้องถามอีกหรือ แน่นอนว่าเขาให้ข้ามา"นางหยุดครู่หนึ่งและพูดทีละคำ "ของ ขวัญ แทน ใจ"“เป็นไปไม่ได้” จั๋วหรูซินโกรธแค้น นางกัดฟัน “เจ้าไม่ต้องพูดไร้สาระ ท่านอ๋องเฟิงเบื่อหน่ายกับการถูกบงการมากกว่าใคร ๆ ก่อนหน้านี้ เจ้ายกเลิกการหมั้นหมายและต้องการแต่งงานกับคนอื่น สมหวังเขาพอดี นางคิดว่าเขาอยากแต่งงานกับเจ้าหรือ เขาอยากแต่งงานกับเจ้าเพียงเพราะเจ้า…”“ซินเอ๋อร์ หยุดพูดได้แล้ว” จู่ ๆ คุณท่านจั๋วลิ่วก็พู

    Last Updated : 2024-10-29

Latest chapter

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 752

    "ถ้าอย่างนั้นข้าขอกินก่อนละ หิวแล้ว" จั๋วซือหรานยกบะหมี่รวมมิตรออกมาชามหนึ่งกลิ่นหอมนั่นลอยเข้ามาในจมูกซางถิงทันที ลูกกระเดือกเขากลิ้งไหล หิว...ขึ้นมาทันทีเขาพูดขึ้นเสียงต่ "ก็ไม่ใช่ขนาดนั้นทั้งหมดหรอก"จั๋วซือหรานเองก็เหลือบตามองเขา แต่ก็ไม่ได้ขี้งก แบ่งให้เขาชามหนึ่งดังนั้นเพียงไม่นาน ซางถิงเดิมทีที่คิดจะพูดคุยอย่างจริงจังกับนาง ก็จริงจังขึ้นมาไม่ได้ในชั่วพลันเสียแล้วทั้งสองคนสูดบะหมี่ไปด้วย คุยกันไปด้วย แล้วมันจะจริงจังไปได้แค่ไหนกันดังนั้นถึงได้มีการเจรจจาบนโต๊ะอาหารโต๊ะสุราน่ะสิ ก็แค่ให้มีอารมณ์ผ่อนคลายลงมาหน่อย เหตุผลแค่นี้แหละดังนั้นลักษณะของบทสนทนา จึงเบาลงมาแทบจะในทันทีจั๋วซือหรานสูดบะหมี่ไปด้วย คุยไปด้วย "ข้าพาเจ้ากลับมามันจะเพราะอะไรได้ จะให้ข้าชำแหละเจ้าไปชั่งโลขายเหรอ พวกค้ามนุษย์มันก็แค่ปลาซิวปลาสร้อย ไม่ใช่ข้าจั๋วซือหรานหรอกนะ"ซางถิงมองนาง "แล้วมันเพราะอะไรล่ะ?""คนอย่างข้าไม่ชอบติดค้างน้ำใจใคร" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น "ตาหลักแล้วเจ้าไม่ควรต้องถูกเปิดเผยตัวตน ขนาดถูกตระกูลซางตัดหางปล่อยวัดแล้ว ซ้ำยังหนีการไล่ล่ามาเรียบร้อย เดิมทีไม่ควรมาถูกตระกูลซางเพ่งเล็ง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 751

    เฟิงเหยียนอันที่จริงเข้าใจอย่างชัดเจน พลังที่แท้จริงของจั๋วซือหรานแข็งแกร่งมาก คุณสมบัติร่างกายเองก็ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นบาดแผลทั่วไปสำหรับนางแล้ว เพียงไม่นานก็จะสมานคืนแต่ต่อให้ในใจชัดเจนแค่ไหน พริบตาที่ได้ยินเฟิงหร่านบอกว่านางบาดเจ็บคิ้วของเฟิงเหยียนก็ขมวดแน่นขึ้นมา ดวงตาเปลี่ยนเป็นสีเข้มดูหนักแน่น"บาดเจ็บตรงไหน? หนักหนามั๊ย?" เฟิงเหยียนถามเสียงขรึมแต่ว่าสีหน้าของเฟิงหร่านก็เปลี่ยนเป็นไม่สบายใจขึ้นมานางเม้มริมฝีปาก ในใจแอบคิด แล้วนี่ต้องพูดอย่างไรล่ะ...เฟิงหร่านนิ่งงันไปครู่หนึ่งจึงเอ่ยขึ้น "ก็...ตรงนี้ตรงนั้น"เฟิงเหยียนหลังจากได้ยินคำนี้ จึงสังเกตเห็นสีหน้าไม่สบายใจของเฟิงหร่านขึ้นมาเขาขมวดคิ้วแน่นขึ้นไปอีกเพียงไม่นานก็มีปฏิกิริยากลับมา เฟิงหร่านกำลังพูดโกหกแต่พอลองคิด เฟิงหร่านทำไมต้องพูดโกหก? ใครให้เฟิงหร่านโกหกกัน?เพียงไม่นาน สองเส้นคำถาม ก็จูงไปหาคำตอบที่ชัดเจนคำตอบหนึ่งคิ้วที่ขมวดแน่นของเฟิงเหยียนคลายลงมาแล้ว เลิกคิ้วขึ้น "โอ๋? ถ้างั้น นางยังพูดอะไรอีกไหม?"เฟิงหร่านคิดถึงคำพูดของพี่จั๋ว กัดฟันพูดต่อว่า "นางยังบอกว่า..."เฟิงหร่านมองพี่ชายอย่างจนใจ ตัด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 750

    เฟิงหร่านตาเป็นประกาย แต่เวลานี้ จั๋วซือหรานก็ลังเลขึ้นมาแล้ว "เดี๋ยวก่อน""อื๋อ?" เฟิงหร่านมองนาง จากนั้นจึงเห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ในตานาง"อย่าพูดให้มันง่ายนัก" จั๋วซือหรานยิ้ม "โดยเฉพาะตอนอยู่ต่อหน้าพี่ชายเจ้า..."จั๋วซือหรานลากเสียงยาวครุ่นคิด จากนั้นจึงเอ่ยขึ้นว่า "เจ้าแค่บอกเขาว่า ข้าถูกรังแก สู้คนอื่นเขาไม่ได้ ไม่มีพลังไม่มีขั้วอำนาจหนุนหลัง เจ็บตัวขึ้นมาแล้ว"เฟิงหร่านฟังแล้วงงงัน "ท่านถูก...ถูกรังแก? สู้...สู้ไม่ไหว?"จั๋วซือหรานยิ้มตาหยีพยักหน้า "อืม เจ้าพูดแบบนี้ไปก็พอ""แต่ว่า..." เฟิงหร่านยังคงลังเล หลักๆ รู้สึกว่าพี่ชายก็ไม่ใช่คนโง่นะ จะมาติดกับง่ายๆ ได้อย่างไรกันจั๋วซือหรานยิ้มแล้วพูดขึ้นมา "เจ้าทำตามที่ข้าพูดก็พอ พี่ชายเจ้าดีใจแน่""ดีใจ?" เฟิงหร่านยังไม่ค่อยเข้าใจจั๋วซือหรานเองก็ไม่ได้อธิบายกับนางมากนักอันที่จริงจั๋วซือหรานต่อมาก็เคยคิด ถึงความสัมพันธ์ระหว่างตนเองกับเฟิงเหยียนพิจารณาจากสถานการณ์ที่ตระกูลเฟิงระแวดระวัง อันที่จริงคือกลัวว่านางกับเฟิงเหยียนพออยู่ด้วยกัน จะมาขโมยพลังตระกูลเฟิงของพวกเขาไปอันที่จริงตระกูลเฟิงก็ไม่ได้เกลียดชังในตัวจั๋วซือหรานอยู

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 749

    ตอนเดินมาถึงทางแยก จั๋วซือหรานก็เอียงตามองชิ่งหมิง "น้องชิ่ง เจ้าไม่กลับหรือ?"ชิ่งหมิงมองจั๋วซือหรานตาเป็นประกายแม้จะอยู่ในสภาพผู้ใหญ่หน้าตาหล่อเหลา ตามหลักการความคิดและการรับรู้ก็ควรจะกลับเป็นผู้ใหญ่แล้วเช่นกันให้ความรู้สึกที่ดูเย็นชากับคนอื่น แต่ตอนที่มองจั๋วซือหรานประกายแสงที่สว่างวาบขึ้นมาในตาคู่นั้น ก็ดูเหมือนกับชายหนุ่มที่ความคิดจิตใจยังมึนงงก่อนหน้าคนนั้นเลยชิ่งหมิงตอบ "ข้าไม่ต้องไปกับเจ้าหรือ?""ข้าก็ไม่คิดอะไรหรอก แต่ลุงของเจ้าจะวางใจหรือ? กลัวว่าเดี๋ยวจะอาละวาดเข้ามาอีก" จั๋วซือหรานคิดถึงลุงของชิ่งหมิงคนนั้น นั่นก็ไม่ใช่เล่นๆ เลยนะชิ่งหมิงเอ่ยตอบ "เขาไม่มาหรอก ที่ข้าดีขึ้นมา เขาจะต้องซาบซึ้งขอบคุณเจ้าแน่ ยิ่งไปกว่านั้นก็รู้แล้วด้วยว่าก่อนหน้านี้โทษเจ้าแบบผิดๆ ไว้"จั๋วซือหรานฟังไม่ออกเสียที่ไหน เด็กคนนี้...เอาเถอะ เรียกว่าเด็กคงไม่ได้แล้ว ตอนนี้ไม่ว่าจะความคิดหรือรูปลักษณ์ภายนอก เรียกว่าเด็กไม่ได้แล้วชายคนนี้ คิดจะกลับไปกับนาง"เอาเถอะ ไปกัน" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นไม่นานนัก ก็มาถึงเรือนของจั๋วซือหรานพอเข้าประตูใหญ่ จั๋วซือหรานก็เห็นเฉวียนคุนที่ทำหน้าพรรณนาไม

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 748

    อินเจ๋ออันมองบน "ใครหาเรื่องใครกันแน่? เจ้าอย่ามาทำตัวใส่ร้ายป้ายสีคนอื่น...""นั่นสิ" จั๋วซือหรานวางถ้วยบนโต๊ะ กลอกตามองอินเจ๋ออัน พริบตาต่อมา อินเจ๋ออันก็รู้สึกปวดหน้าผาก! บนสัญลักษณ์จันทร์เสี้ยวที่หน้าผากนั่น เจ็บปวดขึ้นมา!หญิงสาวคนนี้ยื่นมือดีดเผียะไปที่สัญลักษณ์จันทร์เสี้ยวนี้!จั๋วซือหรานดีดนิ้วใส่หน้าผากอินเจ๋ออัน พลางเอ่ยขึ้นว่า "ดังนั้นก่อนที่จะหาเรื่องก็ต้องคิดให้ถี่ถ้วนก่อนว่าเอาอยู่ไหม อย่าส่งออกมาเปล่าๆ เข้าใจไหม? เจ้าเองก็มีประสบการณ์เยอะแล้วนี่ หลังจากนี้ก็จำให้ขึ้นใจล่ะ"จั๋วซือหรานพูด พลางดีดไปอีกที อินเจ๋ออันร้องโอ๊ย ยกมือขึ้นกุมหน้าผากตัวเอง "พอแล้ว เลิกดีดได้แล้ว!"ฮั่วจือโจวที่อยู่ข้างๆ มองฉากนี้อย่างสนใจ เขาเห็ฯหญิงสาวที่ถูกจั๋วซือหรานจูงมาด้านหลังแล้วถ้าหากจำไม่ผิดล่ะก็ น่าจะเป็นคุณหนูสี่ซางเชวี่ยที่ตระกูลซางให้ความสำคัญที่สุดในรุ่นนี้ใช่ไหม?และสองคนที่อยู่ข้างๆ หนึ่งในนั้น ก็เป็นนักควบคุมสัตว์ที่สู้กับจั๋วซือหรานอย่างร้อนแรงบนเวทีก่อนหน้านี้ ส่วนอีกคนดูแล้วไม่คุ้นหน้าเลยแต่ด้วยรูปลักษณ์ที่งดงามโดดเด่น มองแล้วไม่ใช่คนธรรมดาเลยแม่นางจั๋วจิ่วคนนี้ไม่ธ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 747

    จั๋วซือหรานเดินขึ้นหน้า โบกมือดึงไหมกู่บนมือซางเชวี่ยทำได้แค่เดินตามนางไปตอนที่เดินผ่านคนของโถงตัดหัวตระกูลซาง จั๋วซือหรานเองก็ไม่มีท่าเกรงกลัวอะไรเอาจริงๆ คือ เดินอาดๆ ผ่านไปหน้าตาเฉยแต่พวกเขาก็ไม่กล้าทำอะไรกับจั๋วซือหราน!ทำได้แค่มองนางพาซางเชวี่ยไปแบบทำอะไรไม่ได้และไม่ไช่ไม่คิดจะลงมือเพื่อรั้งนางไว้ แต่พอคิดแล้ว เหตุผลก็เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องมีคนที่คุณหนูสี่ทำอะไรไม่ได้ พวกเขาไม่มีทางรั้งนางไว้ได้หรอก! ไหนจะยัง ข้างๆ นางยังมีซางถิงกับผู้แข็งแกร่งนักหลอมศัสตราที่ไม่รู้จักปกป้องอยู่ด้วยนะ!กลับไปหารือกันก่อนแล้วค่อยตัดสินใจดีกว่าไม่มีคนห้ามจั๋วซือหราน เพียงแต่ว่า ตอนที่ผ่านหน้าพวกเขา จั๋วซือหรานจู่ๆ ก็หยุดเท้าลงน่าจะเพราะสิ่งที่เจอก่อนหน้านี้ ทำให้พวกเขาได้ผลกระทบและการคุกคามอย่างมากจั๋วซือหรานหยุดลงตรงหน้าพวกเขาเช่นนี้ พวกเขาก็ตึงเครียดกันขึ้นมาทันที"ไม่ต้องเครียดไป" จั๋วซือหรานเหมือนมองออกถึงความเครียดพวกเขา เอ่ยขึ้นมาเสียงเรียบพูดต่อว่า "ข้าก็แค่อยากจะเตือนพวกเจ้าคำหนึ่ง เรื่องนี้เดิมทีเป็นพวกเจ้าที่มาหาเรื่องข้าก่อน ผลลัพธ์คือถูกข้าตอบโต้กลับ สรุปก็คือ เป็นพว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 746

    ยิ่งไปกว่านั้นนักหลอมศัสตราคนนี้ เหมือนจะมีความสามารถการหลอมเครื่องป้องกัน แล้วยังดูเชื่อฟังจั๋วซือหรานมากด้วย'ชาม' ที่ซ้อนกันอย่างอลังการนั่นถูกเก็บลงมาเรียบร้อย สุดท้ายก็เปลี่ยนมาสิ่งที่ดูเหมือนไม้บรรทัดทั้งกว้างทั้งใหญ่ชิ้นหนึ่งส่วนซางเชวี่ยยืนอยู่ด้านหลังของไม้บรรทัด จ้องเขม็งมาที่จั๋วซือหรานจั๋วซือหรานเองก็มองนางนิ่งๆ เช่นกัน กอดอกอย่างไม่สะทกสะท้านริมฝีปากซางเชวี่ยไม่มีสีเลือด กระทั่งเส้นลมปราณที่ปรากฏบนใบหน้าอย่างผิดปกติก่อนหน้านี้ ก็ดูจางลงไปอย่างเห็นได้ชัดซางถิงที่ก่อนหน้าเตรียมตัวรับการระเบิดตัวเองของซางเชวี่ย ตอนนี้กลับรู้สึกประหลาดใจ "นี่มัน...เกิดอะไรขึ้น?"จั๋วซือหรานมองไปทางเขา "ก่อนหน้านี้ข้าทำการเปิดผ่านช่องพลังบนตัวนางไว้แล้ว พวกพลังจากสัตว์ที่ควบคุมที่นางเปิดช่องพลังรับมา ล้วนเก็บไว้ไม่อยู่บนตัวนาง คล้ายๆ กับที่ข้าเจาะรูเอาไว้บนตัวนางก่อนหน้านี้ รั่วออกมาจนหมด"จั๋วซือหรานพูดพลางจ้องมองซางเชวี่ยเรียบๆ ผาดหนึ่ง "ยิ่งไปกว่านั้นก็เหมือนกับลูก..."จั๋วซือหรานหยุดคำว่า 'ลูกโป่ง' เอาไว้ บอกต่อมาว่า "พลังบนตัวนางยิ่งมาก เจ้า 'รู' นี่ก็จะยิ่งโตมากขึ้น รั่วออกมาเ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 745

    อืม...จั๋วซือหรานมองแผ่นหลังสูงโปร่งนี้แม้ตัวเองจะไม่ได้กลัวก็ตามแต่ว่า หลังจากผ่านการสังเกตสั้นๆ ตัวตนฐานะของชายคนนี้ก็ออกมาแล้วจั๋วซือหรานในใจมีคำตอบแล้ว"นี่มันคืออะไร" จั๋วซือหรานถามชายหนุ่มตอบ "เป็นสิ่งที่ข้าหลอมสกัดออกมา..."จั๋วซือหรานคิดว่าเป็นภาชนะอาวุธเวทอะไรเสียอีก คิดไม่ถึงว่าคำตอบที่ชายหนุ่มตอบมาคือ "เครื่องป้องกัน สามารถขังนางไว้ในนี้ เช่นนี้ต่อให้นางคิดโจมตีด้วยการระเบิดตนเอง คลื่นพลังก็ยากที่จะสร้างผลกระทบกับคนด้านนอก"จั๋วซือหรานมองแผ่นหลังสูงโปร่งของเขา ยิ้มปากโค้ง ในรอยยิ้มมีความชื่นชมอยู่ระดับหนึ่ง"โตขึ้นแล้วนะ พูดจาก็คล่องแล้วด้วย" จั๋วซือหรานพอพูดออกมา หลังของชายหนุ่มก็แข็งทื่อขึ้นทันทีจากนั้นตอนที่เขาเอ่ยขึ้นอีกครั้ง ก็เริ่มมีอาการติดอ่างขึ้นมา "ข้า ข้ามาช้าไป น่า...น่าจะมาให้ไวกว่านี้!""ไม่เป็นไร" จั๋วซือหรานยิ้มเอ่ยขึ้น "น้องชิ่งแค่ตรงเข้ามาช่วยคุ้มกันข้า ข้าก็ซาบซึ้งมากแล้ว"คนผู้นี้ไม่ใช่ใครอื่น เขาคือชิ่งหมิง...ซือหลี่ฝานเทียนของหน่วยสืบสวนพิเศษนั่นเองเพียงแต่เขาในตอนนี้ ไม่ใช่เด็กหนุ่มอย่างเคย แต่สลัดคราบกลายเป็นผู้ใหญ่แล้วเขาเคยบอกกับ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 744

    คนของโถงตัดหัวทยอยกันเข้าไปล้อมซางเชวี่ย "คุณหนูสี่!"พวกเรารีบประคองซางเชวี่ยขึ้นมา หลังจากซางเชวี่ยลุกขึ้น กลับโบกมือสลัดออกจากการประคองของพวกเขาเดินโซซัดโซเซไปทางจั๋วซือหรานสองก้าวมุมปากนางมีเลือดสดติดอยู่ ในตามีไฟโกรธที่ไม่ยินยอม จ้องเขม็งไปที่จั๋วซือหรานสีหน้าเหมือนคุ้มคลั่งไปแล้ว "ข้าไม่มีทางแพ้ ข้าจะแพ้ได้อย่างไร ข้าจะ...ตายไปพร้อมกับเจ้า!""คุณหนูสี่ ท่านบ้าไปแล้วหรือ?!" คนของโถงตัดหัวคิดจะดึงนางไว้ แต่กลับดึงไม่อยู่ทำได้แค่มองเส้นลมปราณบนหน้านางปรากฏสีประหลาดขึ้นมา ดวงตาสีฟ้าทึมที่สายเลือดตระกูลซางมีแต่เดิม ก็เปลี่ยนเป็นสีแดงทึม คล้ายกับเลือดคนของโถงตัดหัวสัมสผัสได้ว่านางคิดจะทำอะไร ก็ล้วนหวาดกลัวกัน ทยอยกันถอยออกไปซางถิแค่มองเห็นหน้าตาของซางเชวี่ยตอนนี้ สีหน้าก็เปลี่ยนไปแล้วเขาหมุนตัวฉับพลัน ขวางจั๋วซือหรานไว้ด้านหลัง ไม่มีปิดบังอะไรอีกแล้ว ทำปางมือออกมาอย่างรวดเร็วสีน้ำเงินทึมในดวงตาทึมขึ้นกว่าเดิม พลังเองก็รุนแรงกว่าก่อนหน้านี้มหาศาล!จั๋วซือหรานเงยหน้ามองชายหนุ่มที่มาขวางไว้ตรงหน้า ก็เข้าใจแล้ว ว่านี่น่าจะเป็นความสามารถที่ซางถิงคิดจะซ่อนเอาไว้ ดูแล้วคล้า

DMCA.com Protection Status