Share

บทที่ 4

Author: หูเทียนเสี่ยว
น้ำเสียงทุ้มต่ำของเฟิงเหยียนเต็มไปด้วยความเย็นชาและเสน่ห์"น่าอับอายเสียจริง เรื่องไร้สาระสิ้นดี"

จั๋วซือหรานเงยหน้ามองชายผู้นี้ด้วยความเจ็บปวดอย่างมาก

ใต้หล้ามีคนหน้าตาดีตั้งมากมาย

เฟิงเหยีนกลับมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร ความหล่อเหลาของเขาผสมด้วยความกล้าหาญที่ฮึกเหิม

ทันทีที่จั๋วซือหรานเห็นใบหน้านี้ นางหายความเจ็บปวดทันที

แต่จั๋วซือหรานหายเจ็บปวด ไม่ใช่เป็นเพราะนางเห็นหน้าตาอันหล่อเหลา

แต่เป็นเพราะวินาทีที่ชายผู้นี้ปรากฏตัวอย่างรวดเร็ว เขาวางมือบนไหล่ฉินตวนหยาง

"อ๊าก ๆ——!“

ฉินตวนหยางกรีดร้องออกมาอย่างบ้าคลั่ง เสียงร้องนั้นดังเป็นสิบ ๆ เท่าเมื่อเทียบกับตอนที่เขาถูกหักขาในก่อนหน้านี้ และบัดนี้เขากำลังล้มบนพื้นและกระตุกไปทั้งตัว

สายเลือดของตระกูลเฟิงเป็นเช่นนี้ สายเลือดนี้เป็นธาตุไฟที่รุนแรงที่สุด ยิ่งเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์อันยอดเยี่ยม พลังทางจิตวิญญาณก็ยิ่งเผด็จการมาขึ้นเท่านั้น

หากถูกพลังทางจิตวิญญาณนั้นรุกราน จะมีความรู้สึกอย่างร่างกายกำลังถูกไฟเผา ซึ่งความเจ็บปวดนั้นพอ ๆ กันกับความเจ็บปวดที่เสน่ห์หนอนพิษกู่นำมา

ในขณะเดียวกัน ฉินตวนหยางหลั่งน้ำอย่างหนัก เขาดูน่าเกลียดอย่างมาก

เมื่อเผชิญนหน้ากับความเจ็บปวดที่ร้ายแรง เขาไร้ความอดทนและความสามารถในการสงบอารมณ์อย่างที่จั๋วซือหรานเคยทำ

ในขณะนี้ มีกล่องเครื่องเขินทรงกลมหลุดออกมาจากเสื้อผ้าของฉินตวนหยาง

กล่องเครื่องเขินนั้นมีสีเข้มและทำจากวัสดุหนา ลวดลายดูซับซ้อนและแปลกตา

กล่องกลิ้งไปกลิ่งมาบนพื้นครู่หนึ่ง จากนั้นสั่นสองสามครั้ง และฝาก็ถูกเปิดจากด้านใน

“นั่นคือ...กล่องหนอนพิษกู่มิใช่หรือ”

ผู้ที่มีความรู้ในด้านนี้มองออกนี่เป็นกล่องใด

ภายใต้สายตาของทุกคน ทุกคนเห็นหนอนที่มีลวดลายสีสันสดใสบิดตัวและคลานออกมาจากกล่อง หลังจากดิ้นอยู่ครู่หนึ่งหนอนตัวนั้นก็ได้หยุดเคลื่อนไหว

ทันทีที่แม่หนอนพิษกู่ตาย ความเจ็บปวดทั่วร่างกายของจั๋วซือหรานก็หายไปทันที

ขณะนี้ มีหลักฐานที่ไม่สามารถหักล้างได้ ไม่มีใครสงสัยเรื่องเสน่ห์หนอนพิษกู่อีกต่อไป

“แม่เจ้า นั่นหมายความว่า นางต้องทนความเจ็บปวดจากการโจมตีของหนอนพิษกู่แล้วหรือ”

“มิน่าแปลกใจเลยที่เมื่อครู่นี้ นางอาเจียนเป็นเลือด ข้ายังคิดว่าเป็นเพราะคุณหนูเฟิงสือตีนางเสียอีก”

แม้แต่เฟิงเหยีนเองก็เลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ

ฉินตวนหยางเป็นเพียงบัณฑิตที่ไร้ประโยชน์ เขาจะหาแมลงลัทธิกู่จากดินแดนทางใต้ใต้อย่างง่ายดายได้อย่างไร

เหตุผลที่เฟิงเหยียนลงมือ เดิมทีเขาอยากเปิดเผยหน้าตาตัวจริงของนาง

ทว่าเขาไม่เคยคิดเลยว่า จะมีเสน่ห์หนอนพิษกู่จริง ๆ ดังนั้นต้นกำเนิดของหนอนพิษกู่นี้จึงกลายเป็นเรื่องที่น่าสนใจและน่าวิเคราะห์

จั๋วซือหรานเงยหน้าขึ้นและกล่าวคำขอบคุณ "ขอบคุณความช่วยเหลือของท่านอ๋องมาก"

เฟิงเหยียนพูดอย่างเย็นชา "น้องสาวของข้ามีการกระทำบุ่มบ่าม ข้าต่างหากที่ต้องขอโทษ"

เขายื่นกระปุกลายดอกบัวที่ทำจากดินเผาให้จั๋วซือหราน "นี่คือยารักษาบาดแผล"

เมื่อเฟิงหร่านเห็นลวดลายของกระปุกที่ทำจากดินเผานั้น นางเริ่มวิตกกังวล “ท่านพี่ เป็นแผลเล็ก ๆ เท่านั้น สักพักก็จะค่อย ๆ จะหายเอง ไม่เห็นต้องใช้ยาน้ำค้างหยกเลย”

นำยาน้ำค้างหยกมารักษาแผลเล็ก ๆ ที่อยู่บนใบหน้าของจั๋วซือหราน เท่ากับว่านำดาบที่ฆ่าวัวไปฆ่าไก่ มันเกินไปเสียจริง

เฟิงเหยียน "หุบปาก"

เฟิงหร่านทำได้เพียงปิดปากของตนเอง แม้ว่านางจะหงุดหงิดมากเท่าใด

จั๋วซือหรานมีพรสวรรค์อย่างสูง นางมีความสามารถในการฟื้นตัวที่ดีเยี่ยมด้วย แผลบาดเจ็บบนใบหน้าของนางก็หยุดไหลเลือดแล้ว

แต่มีคนมอบยาที่ดีเช่นนี้ หากไม่รับ จั๋วซือหรานรู้สึกเสียดาย ดังนั้นนางจึงรับยาน้ำค้างหยกอย่างไม่ลังเลใจ

สมกับเป็นท่านอ๋องของตระกูลเฟิง ของที่มอบให้คนอื่นไม่ธรรมดาเสียจริง

เฟิงเหยียนคว้าหลังคอเสื้อของเฟิงหร่านแล้วพูดอย่างไร้อารมณ์ “ต้องขออภัยด้วยขอรับ ข้าขอลาตัวก่อนขอรับ”

ในขณะเดียวกัน มีเสียงหัวเราะเยาะดังจากประตู มีชายคนหนึ่งพูดด้วยการหยอกล้อ "เจ้าเพิ่งอย่าเพิ่งรีบไปสิ คุณหนูโจวจิ่วได้รับอันตรายจากเสน่ห์หนอนพิษกู่ และอวัยวะภายในของนางได้รับบาดเจ็บด้วย อย่างไรก็ตาม นางเคยเป็นคู่หมั้นของเจ้า และนางยังรักเจ้าด้วยความจริงใจอันลึกซึ้ง เจ้าจะทิ้งนางเช่นนี้หรือ”

ผู้ที่เดินมามีดวงตาที่สวยงาม ชายผู้นี้หัวเราะเย้ยหยัน ทำตัวเหมือนไม่กลัวคำพูดของเขาอาจทำให้คนอื่นเดือดร้อน ใช่เลย ชายผู้นี้คือเหยียนฉี คุณชายของตระกูลเหยียน

เฟิงเหยีนขมวดคิ้วและพูดว่า "เจ้าสร้างปัญหาเสียจริง เจ้ารู้สึกแค่นี้ยังวุ่นวายไม่พอหรืออย่างไร"

จั๋วซือหรานรู้สึกอัปยศอดสูอย่างมาก

คำพูดของเหยียนฉีในเมื่อครู่นี้กำลังทำให้นางเดือดร้อน

ภาพลักษณ์ที่นางรักเฟิงเหยียนอย่างลึกซึ้ง ห้ามถูกทำลายเด็ดขาด

จั๋วซือหรานทำได้เพียงอดความอับอายและพูดอย่างน้ำใสใจจริง “แม้ว่าข้ามิได้เป็นผู้ที่สร้างเรื่องของวันนี้ก็จริง แต่เรื่องของวันนี้ได้ทำให้ท่านอ๋องเดือดร้อนจริง ๆ ในภายภาคหน้าจั๋วจิ่วจะไปเยี่ยมเยือนและขอโทษอด้วยตัวเองย่างแน่นอน อาการบาดเจ็บภายในเพียงเล็กน้อย ข้ามิอาจรบกวนท่านอ๋องอีกต่อไปเจ้าค่ะ”

เฟิงหร่านเริ่มวิตกกังวลเมื่อได้ยินคำพูดของจั๋วซือหราน “เจ้ายังอยากเยี่ยมถึงบ้านอีกหรือ จั๋วจิ่ว ข้าขอเตือนเจ้านะ เจ้าอย่าได้คืบจะเอาศอก อาการบาดเจ็บภายในของเจ้านั่นก็เป็นสิ่งที่สมควรได้ เจ้าเองไปพัวพันกับไอ้สารเลวเช่นนี้”

เฟิงเหยีนมองเฟิงหร่านอย่างเย็นชา “กลับไปที่ห้องลงโทษแล้วคุกเข่าสำนึกผิดเอง ข้ากลับไปแล้วค่อยจัดการเจ้า”

เฟิงหร่านกลัวเฟิงเหยียนและเคารพเขาอย่างมาก นางไม่กล้าเถียงเขาเลย นางทำตามที่เฟิงเหยียนสั่งและกลับบ้าน

จากนั้นเฟิงเหยียนจึงมองไปที่หญิงสาวที่สวมชุดแต่งงาน

ใบหน้าของหญิงสาวผู้นี้ซีดเซียวอย่างมาก เห็นได้ชัดว่า อวัยวะภายในของนางได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัส แนะความเจ็บนั้นมาจากพลังของเสน่ห์หนอนพิษกู่

เขามองไปที่หยานฉีแล้วพูดว่า "ส่วนเจ้ารักษานางที"

ตระกูลเหยียนมีฝีมือการรักษาโรคต่าง ๆ และตระกูลนี้ยังเชี่ยวชาญในการจ่ายยาด้วย และลูกหลานทุกคนของตระกูลเหยียนถนัดการแพทย์ ซึ่งเหยียนสามารถรักษาจั๋วซือหรานได้อยู่แล้ว

คนภายนอกหาทุกวิถีทางเพื่อได้รับการรักษาโรคจากตระกูลเหยียน ทว่าจั๋วซืนหรานกลับปฏิเสธ

"ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ขอบคุณเจ้าค่ะ"

ในชาติที่แล้ว นางได้ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้อันลึกลับของโบราณและนางได้ฝึกฝนการแพทย์สายวิเศษด้วย เดิมทีนางมีทักษะทางการรักษายอดฝีอยู่

อาการบาดเจ็บจากเสน่ห์หนอนพิษกู่ นางไตร่ตรองด้วยตนเอง คงแก้ปัยหาได้

สิ่งสำคัญคือตอนนี้ต้องยุติสถานการณ์อันน่าอับอายนี้

แต่เฟิงเหยียนกลับไม่อยากไปจากนี่ เขาเยาะเย้ย “เมื่อครู่นี้เจ้ายังสารภาพว่า เจ้ารักข้าอย่างมากมิใช่หรือ ทำไมแค่นี้ก็ไม่ยอมแล้ว”

ปากของจั๋วซือหรานแข็งทื่อ"คือข้า ... " นางกัดฟันแล้วพูดต่อ "... ข้ารู้สึกตกใจ กังวลว่าจะสร้างปัญหาให้กับท่านอ๋อง"

“ข้าไม่ได้รักษาให้เสียหน่อย แล้วข้าจะเดือดร้อนด้วยเรื่องใด” เฟิงเหยียนหันไปมองเหยียนฉี “รบกวนอะไรเจ้าไหม”

“แค้ก ๆ” เหยียนฉียกมือขึ้นเพื่อบังรอยยิ้มของเขา เขาพูดอย่างจริงจัง “แค่เรื่องเล็กน้อย ไม่ได้รบกวนข้าหรอก”

เฟิงเหยียนพูดกับจั๋วซือหราน “เขาบอกว่าไม่รบกวนเขา ไปกันเถิด”

จั๋วซือหรานผู้ที่ ‘น้ำใสใจจริง’ จะปฏิเสธความเมตตาของเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่าก็ไม่ได้

ไม่นานหลังจากนั้น พวกเขามาถึงห้องด้านในที่ถูกตกแต่งอย่างรื่นเริง

เฟิงเหยียนดื่มสุราไปหนึ่งจอกอย่างช้า ๆ จั๋วซือหรานมองไปยังมือของเฟิงเหยียน เขากำลังถือแก้วที่ที่มีลายมังกรและหงส์ และรอบข้างแก้วนั้นมีอักษร "ความสุข" ด้วย

เฟิงเหยียนรู้สึกถึงสายตาของจั๋วซือหราน เขามองกลับไป “ทำไม เจ้าก็อยากดื่มด้วยหรือ”

จั๋วซือหรานคิดในใจว่า ข้าอย่าทำลายภาพลักษณ์เด็กขาด

นางทำได้เพียงพูดอย่างเขินอายและแก้มแดงเล็กน้อย "ท่านอ๋องเจ้าคะ นั่นคือสุราสำหรับคู่หมั้นเจ้าค่ะ สุรานี้มีความหมายว่า อยู่กันอย่างมีความสุขชั่วนิจนิรันดร์เจ้าค่ะ"

แต่เมื่อถึงเวลาที่เขาควรจะร่วมมือแสดง เขากลับเหมือนมองไม่เห็น เขาไม่เพียงแต่เฉยเมย เขายังนำปลายนิ้วไปลูบที่แก้วอีกด้วย

คำว่า "ความสุข" ภายใต้การเคลือบด้วยสีแดงสดใสหายไปจากรอบแก้ว ราวกับว่าอักษรนั้นไม่เคยปรากฏมาก่อน

ไร้ความเมตตาอย่ามาก

เฟิงเหยียน "สุราสำหรับคู่มั่นหรือ อ้าว ตอนนี้ไม่ใช่แล้วนะ "

แม้แต่เหยียนฉีเองก็รู้สึกว่า เฟิงหเหยียนนั้นโหดเหี้ยมเกินไป เวลาผ่านไปไม่นาน เหยียนก็ตรวจชีพจรให้จั๋วซือหราน

เฟิงเหยียน "เป็นอย่างไร"

“แม้ว่าชีพจรของคุณหนูจั๋วจิ่วจะแข็งแกร่ง ทว่าพิษที่นางได้รับในครั้งนี้ทำลายอวัยวะภายในของนางเสียจริง”

การวินิจฉัยของเหยียนฉีไม่แตกต่างจากการคาดการณ์ของจั๋วซือหรานในก่อนหน้านี้ อวัยวะภายในของนางมีอาการปวดอย่างรุนแรง ดังนั้น อวัยวะภายในจึงต้องได้รับความเสียหาย แต่เนื่องจากร่างกายของนางต่างจากคนทั่วไป การบาดเจ็บภายในนั้นจึงไม่ร้ายแรงมาก

ด้วยทักษะทางการแพทย์ขั้นสูงของจั๋วซือหราน การรักษาอาการบาดเจ็บภายในจึงเป็นเรื่องง่าย ซึ่งไม่จำเป็นต้องรบกวนเหนียนฉี

จั๋วซือหราน "ขอบคุณสำหรับการวินิจฉัยของคุณชายเหยียนฉี"

“เจ้ารักษานาง” หลังจากที่เฟิงเหยียนพูดกับเหยียนฉีแล้ว เขาก็มองไปที่จั๋วซือหรานอย่างเย็นชา “หลังจากนี้ไป บุญคุณและความแค้นระหว่างเจ้ากับข้าถูกยกเลิกโดยสิ้นเชิง ต่อจากนี้ไป เจ้ากับข้าต่างก็ไม่ล้ำเส้นกัน”

จั๋วซือหราน "แต่ข้า..."

เฟิงเหยียนมองนางด้วยความเย็นชาอย่างมาก “และเจ้าก็อย่าพูดเรื่องอะไรที่ว่าน้ำใสใจจริงอีกเลย จั๋วจิ่ว เจ้าคิดว่าทุกคนต่างโง่เขลาหรือ”

เดิมทีจั๋วซือหรานยังอยากแสดงอีก แต่ในเมื่อเฟิงเหยียนพูดเช่นนั้น พอดีเลย นางขี้เกียจที่จะแสดงอีกแล้ว

“ในเมื่อท่านอ๋องเป็นคนที่ไร้ความเมตตาเช่นนี้ ข้ายิ่งไม่อยากรบกวนคุณชายเหยียนเห็นแก่หน้าของเจ้า เพื่อช่วยตรวจดูอาการและรักษาข้า” จั๋วซือหรานยืนขึ้น “แม้ว่าท่านทั้งจะมาโดยไม่ได้รับบัตรเชิญในวันนี้ แต่ข้าก็ยังอยากจะขอบคุณท่านอ๋องที่ช่วยข้าไว้ อาการบาดเจ็บของข้ายังรักษาไม่หาย ข้าขอไม่ส่งท่านทั้งสอง”
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Kerati Wu
แปลได้ทุเรศมาก
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 5

    ทันทีที่เฟิงเหยียนเดินออกจากจวนของจั๋วซือหราน หลังจากนั้นไม่นาน ข้างเฟิงเหยียนมีร่างสีดำสองร่างปรากฏตัวอย่างเงียบ ๆ“ท่านอ๋องขอรับ” ชายที่สวมชุดดำทั้งสองแสดงความเคารพเฟิงเหยียนมีสีหน้าอย่างไม่มีอารมณ์ "ไปสืบมา ข้าต้องการรู้เสน่ห์หนอนพิษกู่ที่จั๋วจิ่วถูกวาง ใครเป็นคนสั่งการเบื้อหลัง"ไม่มีใครเชื่อหรอกว่าบัณฑิตที่ไร้ประโยชน์ผู้นั้นจะเป็นผู้กระทำความผิดนี้*จั๋วซือหรานกำลังนั่งอยู่ในห้อง ฝูซางกังวลอย่างมาก และรีบเช็ดเลือดที่ริมฝีปากของคุณหนูของนาง "คุณหนูเจ้าคะ คุณหนูจะปล่อยเป็นเช่นนี้อีกต่อไปมิได้หรอกนะ ข้าน้อยว่า เราควรรีบไปตามคุณหมอมาตรวจเถิดนะ"“ข้าแค่อาเจียนออกมาเป็นเลือดเพียงเท่านั้น กังวลอะไรล่ะ” จั๋วซือหรานดึงเข็มเงินที่นางสอดไว้ก่อนหน้านี้ออกมาอย่างใจเย็น “หากไม่บีบเลือดที่ติดพิษกู่ออกไป อาการบาดเจ็บภายในจะไม่มีทางหายหรอก”ฝูซาง: “ว่าแต่คุณหนูไปเรียนทักษะการรักษามาโรคตั้งแต่เมื่อไรกัน"จั๋วซือหรานยิ้มเบา ๆ และไม่ตอบ ”ยิ่งไปกว่านี้ ข้าอยากรู้ว่าใครกันแน่ที่เกลียดข้ามากจนใช้เสน่ห์หนอนพิษกู่ มิฉะนั้น ต่อให้ฉินตวนหยางมีความกล้าหาญมากเท่าไร เขาก็ไม่กล้าำเช่นนี้กับข้าหรอก แม้

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 6

    จั๋วซือหรานแต่งกายด้วยชุดสีขาวบาง คุกเข่าอยู่ที่หน้าประตูของจวนจั๋วนางพูดกับผู้ที่เฝ้าหน้าประตูว่า "กรุณาบอกผู้อาวุโสใหญ่ว่า จั๋วจิ่วกลับมาเพื่อขออภัยโทษแล้ว"องครักษ์กำลังจะเข้าไปรายงาน ทว่ากลับถูกใครบางคนห้ามไว้“ห้ามไป” เจียงซาน ซึ่งเป็นคนของบิดาจั๋วหรูซิน เขาห้ามยามที่เฝ้าหน้าประตูไว้เจียงซานพูดด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ว่า "คุณหนูจิ่วไม่เชื่อฟังแม้แต่ผู้อาวุโส ทั้งยังไม่สนใจชื่อเสียงของตระกูลด้วยซ้ำมิใช่หรือ ในเมื่อตอนนี้ออกเรือนแล้ว กลับมาด้วยเหตุใด"จั๋วซือหรานเกิดมาพร้อมกับผิวพรรณเกลี้ยงเกลา คิ้วงดงามดังภาพวาด ด้วยรูปลักษณ์สตรีเช่นนี้ จึงเป็นเรื่องง่ายที่ถูกมองเป็นสตรีผู้แสนน่าสงสารและอ่อนแอแต่นางไม่ใช่สตรีอ่อนแอเห็นได้ชัดว่า นางกำลังคุกเข่าอยู่ แต่บุคลลิกของนางดูสูงส่งกว่าตอนที่นางยืนด้วยซ้ำ นางพูดอย่างเย็นชา "เจ้ามีฐานะเช่นใด เจ้ากล้าเยาะเย้ยข้าหรือ เหรือจ้าคิดว่า ข้าเป็นคนอ่อนแอที่กลั่นแกล้งง่ายเช่นนั้นหรือ"เจียงซาน "ผู้อาวุโสไม่อยากเห็นหน้าเจ้าเลย ต่อให้เจ้าคุกเข่าที่หน้าประตูจนตายก็ไร้ประโยชน์"จั๋วซือหรานพูดอย่างเย็นชา"เจ้าควรพิจารณาให้ดีเสียก่อนว่า ผู้อาวุโสไ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 7

    จั๋วหรูซินตะโกนด้วยความโกรธ "จั๋วซือหราน เจ้า"“พอแล้ว” ผู้อาวุโสใหญ่ขมวดคิ้วและตะโกนจั๋วหรูซินยังอยากฟ้องต่อ "ผู้อาวุโสใหญ่ นาง..."จั๋วซือหรานกลับโค้งคำนับเล็กน้อยเพื่อทำความเคารพ "ข้าจะไปรับการลงโทษที่ห้องโถงบรรพบุรุษเจ้าค่ะ"ทิ้งจั๋วหรูซินอยู่นั่นผู้เดียว ปล่อยนางโกรธจนหน้าซีดระหว่างทางไปห้องโถงบรรพบุรุษ จั๋วซือหรานเจอฝูซูและฝูซาง“หลิ่วเย่ล่ะ” จั๋วซือหรานถามฝูซางตอบ “พวกเราหลบสายตาของผู้อื่น พานางเข้าเดินผ่านประตูหลังและเดินเข้าจวน มัดนางไปหาผู้อาวุโสใหญ่เพื่ออธิบายรายละเอียดต่าง ๆ จากนั้นผู้อาวุโสใหญ่ก็สั่งให้ขังนางไว้ในห้องเก็บฟืนที่ลานด้านข้างจนกว่าเขาจะสอบปากคำ”ฝูซูถาม "คุณหนูเจ้าคะ คุณหนูลิ่วกำจัดหลิ่วเย่หรือไม่เจ้าคะ มิเช่นนั้นข้าไปคอยคุ้มกันไว้ดีไหมเจ้าคะ"จั๋วซือหรานยกริมฝีปากขึ้นและยิ้ม "หากนางฆ่าอีนังนั้นเสียจริง นั่นก็หมายความว่า หาเรื่องใส่ตัวแล้วน่ะสิ ในเมื่อผู้อาวุโสใหญ่สั่งขังหลิ่วเย่อยู่ในห้องเก็บฟืนที่ลานด้านข้าง แสดงว่าท่านต้องแผนไว้ตั้งแต่แรกแล้ว"หากจั๋วหรูซินจิตใจลุกลี้ลุกลน แล้วไปฆ่าหลิ่วเย่จริง ๆ เรื่องน่าจะสนุกน่าดูสินะฝูซางกังวล"คุณหนูเจ้าค

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 8

    เมื่อจั๋วซือหรานเห็นฝูซูกลับมา นางคิดว่าฝูซูพาคุณหมอมาถึงบ้านแล้ว ผู้ใดจะทราบได้ว่า ชายหนุ่มแสนหล่อเหลาที่กล่าวถึงในเมื่อวานนี้ว่า จะต่างคนต่างอยู่ เวลานี้ชายผู้นี้แต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีดำและกำลังนั่งหน้าโต๊ะแปดเซียนจั๋วซือหราน "ทำไมถึงเป็นเจ้าล่ะ"เฟิงเหยียนเหลือบมองถ้วยชาในมือของเขา "ผู้ดูแลของเจ้าไปตามคุรหมอที่เรือนหมอของตระกูลเหยียน"“ข้าไปตามคุณหมอที่บ้านมิได้หรือเจ้าคะ” จั๋วซือหรานลากเก้าอี้หนึ่งตัวออกมาแล้วนั่งลง ใบหน้าของนางซีดเซียว นางริมชาเองและดื่มหมดถ้วย“เพราะคนที่ไปเชิญคุณหมอเป็นผู้ติดตามของเจ้า ดังนั้นตระกูลเหยียนจึงส่งข่าวข้า ข้านึกว่าเจ้าจะมีกลอุบายใหม่ ๆ ดังนั้นจึงเข้ามาดูเสียหน่อย” เฟิงเหยียนพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่มีอารมณ์ใด ๆ“แล้วคุณหมอล่ะ เจ้าไม่ได้ให้คุณหมอตามมาด้วยหรือ ” จั๋วซือหรานถามเฟิงเกยียนไม่ได้พูดอะไร นั่นหมายถึงจั๋วซือหรานพูดได้ถูกเพราะเมื่อวานเหยียนฉีบอกว่า ชีพจรของนางแข็งแรงมากและถึงแม้จะมีอาการบาดเจ็บภายใน แต่ปัญหาก็ไม่ร้ายแรง ยิ่งไปกว่านั้น พลังทางจิตวิญญาณและความสามารถในการฟื้นฟูของลูกหลานตระกูลจั๋วนั้นเหนือกว่าคนทั่วไปมากเมื่อรวมกับยาน้ำค้

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 9

    มีใบมีดคมที่เย็นเฉียบขึ้นจากหลังคอ และบัดนี้กระบี่เล่มนั้นกำลังถูกวางที่คอขององครักษ์เขาไม่กล้าขยับตัว เสียงของเขาก็สั่นเครือ “ จิ่ว คุณหนูจิ่ว ท่าน…มีอะไรจะพูด…ก็พูดกันดี ๆ เสียก่อน อย่าหุนหันพลันแล่นไปเลย... ““ข้าไม่ได้หุนหันพลันแล่น ข้าใจเย็นแล้วนะ” จั๋วซือหรานเสาะยิ้ม “แต่พวกเจ้าต่างหาก ตอนนี้พร้อมจะคุยกับข้าดี ๆ ยัง”“จิ่ว คุณหนูจิ่ว ท่านเป็นคนใจกว้าง อย่า อย่าคิดเล็กคิดน้อยกับพวกข้าเลยขอรับ” ยามอ่อนแรงจนขาสั่น เขากลัวมือของจั๋วซือหรานจะสั่น“ตอนนี้ ข้าถามอะไร พวกเจ้าต้องตอบ เข้าใจหรือไม่”"เข้า เข้าใจแล้วขอรับ"“น้องชายของข้าอยู่ที่ไหน”“คุณท่านลิ่วนำตัวไปแล้ว”“นำตัวไปที่ไหน”“พวกเราไม่ทราบขอรับ” องครักษ์เกรงว่านางจะไม่เชื่อ จึงย้ำอีกครั้งว่า "พวกเราไม่รู้จริง ๆ และคุณท่านลิ่วก็ไม่จำเป็นต้องให้พวกเราทราบการเดินทางของท่าน"“คำถามสุดท้าย จั๋วหรูซินอยู่ที่ไหน พาข้าไปหานางหน่อย” จั๋วหรูซินพูดอย่างเย็นชาโดยไม่ให้โอกาสผู้คุมปฏิเสธ นางกดกระบี่ลงจนทำให้เกิดรอยเลือดขึ้น*"ไร้ประโยชน์ ไร้ประโยชน์ทั้งสิ้น"ในห้องด้านใน จั๋วหรูซินทุบถ้วยชาในมือของนางออย่างแรง "ถังหยวนอ่อนให้

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 10

    จั๋วซือหรานเหลือบมองกระบี่เรียบง่ายที่ดูธรรมดาในมือของนางความจริงนี่คือกระบี่ประจำตระกูลของเฟิงเหยียน และกระบี่เล่มนี้มีชื่อเดียวกับแหวนเสวียนเหยียนของนางจริง ๆในวันที่ลูกหลานของตระกูลกำเนิด ห้องกระบี่ประจำตระกูลจะเริ่มตีเหล็กเข้ารูปเพื่อทำกระบี่ให้ทารก รูปแบบของกระบี่จะแตกต่างกันไป แต่ตราประจำตระกูลเฟิงจะถูกสลักไว้ที่ด้ามจับ และชื่อของเด็กคนนั้นจะถูกสลักไว้ที่ส่วนท้ายของด้ามจับจั๋วซือหรานมองกระบี่เสวียนเหยียนที่อยู่ในมือของนางและไม่พูดอะไรความเงียบของนางทำให้จั๋วหรูซินโกรธมากขึ้น “เจ้าพูดมาสิ ทำไมเจ้าจึงมีกระบี่ประจำตระกูลของท่านอ๋องเฟิง”จั๋วซือหรานเงยหน้าขึ้นและมองหน้านาง "เจ้ายังต้องถามอีกหรือ แน่นอนว่าเขาให้ข้ามา"นางหยุดครู่หนึ่งและพูดทีละคำ "ของ ขวัญ แทน ใจ"“เป็นไปไม่ได้” จั๋วหรูซินโกรธแค้น นางกัดฟัน “เจ้าไม่ต้องพูดไร้สาระ ท่านอ๋องเฟิงเบื่อหน่ายกับการถูกบงการมากกว่าใคร ๆ ก่อนหน้านี้ เจ้ายกเลิกการหมั้นหมายและต้องการแต่งงานกับคนอื่น สมหวังเขาพอดี นางคิดว่าเขาอยากแต่งงานกับเจ้าหรือ เขาอยากแต่งงานกับเจ้าเพียงเพราะเจ้า…”“ซินเอ๋อร์ หยุดพูดได้แล้ว” จู่ ๆ คุณท่านจั๋วลิ่วก็พู

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 11

    เมื่อได้ยินคำพูดของชายผู้นี้ ผู้สูงอายุใหญ่ก็ขมวดคิ้วรอยยิ้มบนใบหน้าของผู้สูงอายุสามแข็งทื่อ "เป็นเช่นนั้นได้อย่างไร จวนของข้าจะขาดแคลนยาของเสี่ยวจิ่วได้เช่นไร ทว่าข้ายังคงขอบคุณสำหรับน้ำใจของท่าน"จั๋วซือหราน "ขอบพระทัยท่านอ๋องแทนข้าด้วย"“ขอรับ เมื่อข้าส่งมอบของเรียบร้อยแล้ว ข้าจะกลับไปรายงานเดี๋ยวนี้ ข้าขอลา และข้าขอคุณหนูจิ่วหายดีเร็ว ๆ ขอรับ”หลังจากผู้ติดตามของตระกูลเฟิงจากไปผู้สูงอายุใหญ่กล่าวอย่างเคร่งขรึม "ผู้ใดเข้ากะของคลัง นำตัวมา"จั๋วซือหรานยิ้มอย่างสงบ นางกล่าวว่า "ผู้อาวุโสใหญ่เจ้าคะ ผู้ที่ดูแลคลังของจวนแค่มองว่าใครมีฐานะสูงกว่ากัน และจะฟังคำสั่งของคนผู้นั้น หากไม่ได้รับการสนับสนุนจากใครบางคน ก็จะมิกล้าทำเช่นนี้หรอก"ผู้อาวุโสใหญ่"ข้ารู้ว่าเจ้ามีความคับแค้นอยู่ในใจ เจ้าได้สสั่งสอนเสี่ยวลิ่วแล้ว เจ้าก็ยกโทษให้นางไปเสีย อย่าทำให้คนภายในตระกูลเสียความรู้สึกต่อกันเลย "จั๋วซือหรานพูดต่อ "หนูเทียบกับพี่ลิ่วมิได้หรอก นางยุยงให้คนนอกทำหนอนพิษกู่ใส่ข้า การกระทำเช่นนี้ ข้ายังไม่เรียกร้องความยุติธรรมเลย"“ทั้งหมดนี้ไม่มีที่เป็นยหลักฐานอันใด เหตุใดจึงต้องทำร้ายความส้มพัน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 12

    ที่จริงแล้วเฟิงเหยียนไม่มา จั๋วซือหรานกลับรู้สึกสบายใจขึ้นมากนางมีเวลาว่างพอดี นางจะได้วิเคราห์ชะตากรรมเดิมของเจ้าของร่างเดิมที่อยู่ในหัวในชะตาเดิมของเจ้าของร่าง เวลานี้นางได้แต่งงานกับฉินตวนหยางแล้ว ซึ่งตามมารยาท นางไม่ได้มาร่วมงานดอกไม้ในวังแน่นอน รู้เพียงในงานดอกไม้ครั้งนี้ จั๋วหรูซินทดลองยาให้ไทเฮาด้วยตัวเอง เพราะไทเฮานอนติดเตียงเป็นเวลานาน และนางได้รับการยกย่องสรรเสริญเป็นเสียงเอกฉันท์แต่ ณ ตอนนี้ หลังจากงานเลี้ยงเริ่มต้นได้ไม่นาน จั๋วหรูซินก็ลุกขึ้น“ฮองเฮาเพคะ หม่อมฉันทราบมาว่า ไทเฮาทรงประชวรนอนติดเตียงมานานแล้ว ซึ่งทำให้ท่านกังวลเป็นอย่างมาก...”แต่โครงเรื่องต่อไปไม่ได้เป็นไปตามโครงเรื่องเดิมเนื่องจากจั๋วหรูอหรานเปลี่ยนบทสนทนา "น้องสาวจิ่วของหม่อมฉันมีพรสวรรค์อย่างมาก มากเสียจนสามารถรักษาตัวจากแส้หนามของครอบครัวได้ภายในหนึ่งหรือสองวันหลังจากได้รับเฆี่ยนตีเก้าครั้ง ด้วยร่างกายที่แข็งแกร่งและพลังทางจิตวิญญาณ หากนางได้เป็นผู้ทดลองยายาของไทเฮา อาการเจ็บป่วยของไทเฮาจะหายขาดในไม่ช้า”ก่อนเข้าร่วมงานดอกไม้ในวัง บิดาและผู้อาวุโสสามให้นางเสนอจั๋วซือหรานให้เป็นผู้ทดลองยาให้แก่

Latest chapter

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 958

    พวกนางเอ่ยว่า "เพราะ เพราะว่า...เพราะว่าพวกเราอยู่ในห้องของนายท่านแล้วเคยเห็นภาพของแม่นางจิ่ว...""โอ๋?" จั๋วซือหรานมองพวกนางอย่างสนใจ จากนั้นจึงกลอกตามองไปทางซือคงเซี่ยน "ที่เจ้าบอกว่าของนางสนใจ น่าจะเป็นเจ้าสิ่งนี้กระมัง?"ซือคงเซี่ยนถอนหายใจ "ไม่ใช่แค่นี้"คำพูดของสาวใช้วัง บวกกับคำพูดของซือคงเซี่ยน ก็กระตุ้นความอยากรู้ของจั๋วซือหรานขึ้นมาแล้ว "พาข้าไปดูหน่อย"ซือคงเซี่ยนนำนางเดินตรงไปที่เรือนหลังของตำหนักวัง จากนั้นก็พานางลงไปยังห้องใต้ดินห้องหนึ่งสถานที่มากมายล้วนมีห้องใต้ดิน ใช้สำหรับเก็บของ ใช้สำหรับเก็บน้ำแข็งจั๋วซือหรานจึงไม่ได้รู้สึกแปลกใจที่ด้านหลังตำหนักวังเจาหมิ่นมีห้องใต้ดินเพียงแต่ว่า หลังจากลงไปห้องใต้ดินซือคงเซี่ยนก็รับจานเทียนใบหนึ่งมาจากผู้ใต้บัญชา จากนั้นจึงหมุนตัวกลับมาดึงมือของจั๋วซือหราน ถึงแม้จะดึงแค่ชายเสื้อนางเท่านั้นแต่ซือคงเซี่ยนยังรู้สึกใจเต้นไม่เป็นส่ำ"ด้านในค่อนข้างมืด ตามข้ามา" ซือคงเซี่ยนพูดจั๋วซือหรานเดินตามเขาเข้าไปด้านหลังเงียบๆคิดไม่ถึงว่าในห้องใต้ดินจะยังมีอีกชั้น เป็นห้องลับเล็กๆ ห้องหนึ่งตอนนี้ในห้องเล็กจุดไฟสว่างไว้แล้วแต

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 957

    จั๋วซือหรานตามซือคงเซี่ยนเข้าไปในตำหนักวังที่เจาหมิ่นอยู่อดพูดไม่ได้เลย เจาหมิ่นอยู่ในแคว้นชาง ไม่ใช่องค์หญิงที่ได้รับความโปรดปรานอะไรถ้าให้พูดจริงๆ อันที่จริงแคว้นชางก็ไม่มีองค์หญิงคนไหนที่ได้รับความโปรดปรานพิเศษอยุ่แล้ว องค์จักรพรรดิเองก็มีแค่ซือคงอวี้ที่เป็นที่โปรดปรานมากที่สุดเท่านั้นองค์จักรพรรดิเฒ่าก่อนหน้านี้น่าจะคำนวณไว้เช่นนั้น ไม่อยากให้ลูกๆ มาทะเลาะกันมาก แล้วมาฆ่าล้างสังหารกันเองดังนั้นจึงวางท่าทีเอาไว้ชัดเจนตั้งแต่แรก ลำเอียงไว้อย่างเห็นได้ชัดให้ตายเถอะ ทำให้องค์ชายคนอื่นรู้ว่าตนเองไม่มีหวัง แล้วไม่เกิดความคิดก่อกบฏหรือความทะเยอทะยานมากเกินไปจากเรื่องนี้แล้วก็ทำให้ลูกชายที่ได้รับความลำเอียงคนนั้น ไม่รู้สึกว่าเหล่าพี่น้องมีพลังคุกคามอะไร จนต้องมาลงไม้ลงมือกับเหล่าพี่น้องด้วยกันตามหลักการแล้ว วิธีการเช่นนี้ขององค์จักรพรรดิเฒ่า ต้องการจะหลีกเลี่ยงการต่อสู้และฆ่าฟันกันเองของเหล่าลูกๆเจรนาเริ่มต้นนั้นดีมากตามหลักการ เรื่องราวควรจะเป็นไปตามที่เขาคิดไว้ใครจะรู้ว่าลูกชายที่ตนเองโปรดปรานลำเอียงนั้นไม่ใช่เชื้อสายของตนเอง เช่นนั้นเหล่าลูกๆ คนอื่นที่เดิมทีไม่มีพลัง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 956

    ไม่มีความแน่นอนเท่าไร"เข้าใจแล้ว ขอบคุณที่บอกสิ่งเหล่านี้กับข้า" จั๋วซือหรานพูดพลางลุกขึ้นยืน "ข้อมูลพวกนี้ข้าจะไปตรวจสอบอีกครั้ง"ฮั่วจือโจวที่ตระกูลค้าข่าวสารอยู่แล้ว สนใจช่องทมางข่าวกรองทั้งหมด ดังนั้นพอได้ยินจั๋วซือหรานเพูดเช่นนี้จึงอยากรู้อยากเห็นขึ้นมา "เจ้าไปตรวจสอบที่ไหนหรือ?"จั๋วซือหรานคิดๆ "ไปถามกับเฟิงอวี้เอา?"เจี่ยงเทียนซิง "..."ฮั่วจือโจว"..."พวกเขาถึงแม้จะรู้สึกพูดไม่ออก งงงันไปบ้าง แต่เพราะอะไรพอคำนี้ออกจากปากจั๋วซือหรานกลับดู...เหมือนจะเชื่อได้อย่างประหลาดนางคงไม่ได้คิดจะไปถามเฟิงอวี้จริงๆ หรอกกระมัง?แต่ว่าจั๋วซือหรานไม่ได้พูดหัวข้อสนทนานี้อีกแค่หยิบกระดาษออกมาให้ฮั่วจือโจว "นี่ นี่คือรายการอาหารที่ข้าทำออกมา เจ้าให้พ่อครัวลองทำออกมาชิมดูก่อน ถ้าหากไม่อร่อยข้าจะกลับมาใหม่"จั๋วซือหรานพูดเสร็จก็ลุกขึ้นจะเดินเจี่ยงเทียนซิงกับฮั่วจือโจว ส่งนางไปที่ประตูเจี่ยงเทียนซิงทนไม่ไหว ถามขึ้นว่า "เจ้าคงไม่คิดจะไปถามเฟิงอวี้หรอกใช่ไหม?"จั๋วซือหรานมองเขาเหมือนยิ้มเหมือนไม่ยิ้ม "เจ้าเดาดูสิ?"ยังไม่ทันที่จั๋วซือหรานจะออกไปที่ถนน ก็มีคนเข้ามาหาเสียแล้ว"แม่นาง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 955

    สายตาทั้งสองคน ทำเอาจั๋วซือหรานพูดไม่ค่อยออกนางโบกมือเอ่ยขึ้น "เอาล่ะๆๆ ก็แค่ข้าอยากรู้สถานการณ์ของเฟิงเหยียนเองได้ไหมล่ะ? พูดได้หรือเปล่า"รู้สึกว่าถ้าหากตนเองไม่ยอมรับจุดนี้ สองคนนี้ก็เอาแต่ใช้สายตาสงสัยนี้จ้องนางไม่ได้ยุ่งยากอะไร สู้ยอมรับจุดนี้ไปเลยถึงแม้จะพูดได้ไม่เต็มปาก แต่ก็อดพูดไม่ได้เลย หลังจากที่ตนเองได้ยินคำพูดของเฟิงหร่านแล้ว ก็รู้สึกอยากรู้อยากเห็นขึ้นมาเจี่ยงเทียนซิงกับฮั่วจือโจวอดถอนหายใจออกมาไม่ได้ สกิลเฟิงคนนั้นมีดีอะไรกันแน่นะคนอย่างจั๋วจิ่วนี่ ใครบ้างที่ไม่คู่ควรกัน ทำไมถึงเลือกไปแขวนคอตายอยู่กับต้นไม้คดๆ อย่างเฟิงเหยียนได้เนี่ย หรือว่ามันมีไอ้สิ่งที่เรียกว่าสวรรค์ลิขิตไว้อยู่จริงๆ?เจี่ยงเทียนซิงคิดๆ เอ่ยตอบว่า "ความเข้าใจต่อตระกูลจั๋ว ก่อนหน้านี้ก็บอกกับเจ้าไปแล้ว"จั๋วซือหรานคิดถึงเรื่องที่เจี่ยงเทียนซิงเล่าว่าพ่อของเขาเคยเจอคนตระกูลเฟิงที่แดนเหนือคนนั้นตระกูลเฟิงเดิมทีก็ค่อนข้างปิดและลึกลับอยู่แล้ว โลกภายนอกรู้น้อยมากฮั่วจือโจวครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง จากนั้นจึงเอ่ยขึ้นเสียงต่ำ "สำหรับความเข้าใจต่อตัวเฟิงเหยียน ก็มีแค่เท่านั้นล่ะ""ตระกูลฮั่วของข้า

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 954

    จั๋วซือหรานได้ยินคำพูดนี้ "ถ้าเป็นลุงสาม...พ่อของเฟิงเหยียน เฟิงอวี้หรือ?"เฟิงหร่านพยักหน้า "สถานการณ์หลักๆ พ่อของข้าก็รู้มาไม่ค่อยชัดเจนนัก แต่ลุงสามตอนนั้นก็เสียวความจำไปกะทันหัน แต่มาผ่านไปกว่าครึ่งปี ท่านพี่ก็เกิดขึ้นมา"เฟิงหร่านพูดแบบไม่ค่อยชัดเจน จั๋วซือหรานรู้ว่านางไม่ใช่คิดจะปิดบัง แต่เกรงว่าสิ่งที่นางรู้ก็มีเพียงเท่านี้เพียงแต่ว่า ข้อมูลเหล่านี้ของนาง ก็ทำให้จั๋วซือหรานรู้สึกอยากรู้อยากเห็นขึ้นมาแล้วในเมื่อเฟิงหร่านไม่รู้ จั๋วซือหรานก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ"พักผ่อนเถอะ ตอนนี้ก็อยู่ที่นี่ไปก่อน อีกเดี๋ยวจะย้ายไปบ้านที่ใหญ่หน่อยแล้ว"จั๋วซือหรานตอนนี้จึงออกจากห้องของเฟิงหร่านนางออกจากเรือน ตรงไปยังโรงเตี๊ยมโรงเตี๊ยมที่นางคิดจะทำนั้น มีเบื้องหลังเป็นตระกูลฮั่วกับหอจันทร์เงินและหอฟ้าดาว ช่วงนี้การเตรียมการก็ดำเนินไปอย่างเข้มข้นแล้วตอนที่ไปถึงโรงเตี๊ยม ฮั่วจือโจวกำลังดื่มชาอยู่กับเจี่ยงเทียนซิงด้านใน"เอ๊? ท่านโหวของพวกเรามาแล้ว" เจี่ยงเทียนซิงยิ้มทักขึ้นมาคำหนึ่งฮั่วจือโจวมองไปทางนาง "มาได้อย่างไรกัน? คิดว่าช่วงนี้เจ้าจะยุ่งมากเสียอีก""ก็ยุ่งนั่นล่ะ แต่การค้าของตัว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 953

    โกรธหรือ?จั๋วซือหรานมองไปทางเฟิงหร่าน เหมือนในที่สุดจะมีท่าทีอยากรู้อยากเห็นขึ้นมาเฟิงหร่านเห็นพี่จั๋วในที่สุดก็เริ่มมีท่าทีสนใจขึ้นบ้างแล้ว มุมปากจึงยกขึ้นเป็นเส้นโค้ง ในใจก็แอบผ่อนลมหายใจออกมาเฟิงหร่านอันที่จริงก็กลัวมากมาตลอด เพราะนางมองออกว่าจั๋วซือหรานเป็นคนที่อิสระไม่ยึดติด นางกลัวมากว่าถ้าตระกูลเฟิงยังเอาแต่ทำให้มันยุ่งเหยิงเช่นนี้ พี่จั๋วจะไม่เอาพี่ชายขึ้นมาแต่ก่อน เฟิงหร่านรู้สึกแค่ว่า เป็นจั๋วซือหรานที่ใฝ่สูงต่อตัวพี่ชาย แต่ต่อมาก็ค่อยๆ รู้สึกว่า พี่จั๋วกับพี่ชาย ใครก็ไม่ได้ใฝ่สูงใส่ใครทั้งนั้น พวกเขาเข้ากันได้ดี เหมาะสมกันมากแต่เรื่องที่ตระกูลเฟิงก่อขึ้นมา!เฟิงหร่านพอพูดถึงเรื่องนี้ ก็พบว่าจั๋วซือหรานเหมือนดูสนใจอยู่ ทำให้ความเร็วในการพูดจึงเร็วขึ้นมาพอควร"เพราะในข่าวที่ลือกลับมา มีข่าวที่ว่าพี่จั๋วอาจจะถูกพระราชทานงานอภิเษกกับอ๋องเซี่ยนด้วย พวกเขาจึงด่าว่าท่านทำตัวไม่เหมาะสม แล้วพี่ชายก็เลยโกรธ บีบเก้าอี้จนป่นไปเลย"จั๋วซือหรานมุมปากยกขึ้นเบาๆเฟิงหร่านเอ่ยต่อ "แต่เพราะข้าตอนนั้นเตรียมจะหนีแล้ว ข้าเองก็เข้าไปฟังในโถงประชุมไม่ได้ว่าพวกเขาคุยอะไรกัน สรุปคือ ต่

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 952

    ่จั๋วซือหรานแม้จะแก้ปัญหาเรื่องพวกองครักษ์ตระกูลเฟิงที่ตามล่าสังหารเฟิงหร่านเข้ามาได้แล้ว แต่เรื่องที่ว่าทำไมเฟิงหร่านถึงถูกตระกูลเฟิงไล่สังหาร นางเองก็ไม่มีเวลาไปทำความเข้าใจเลย หลังจากกลับมาเมืองหลวงเรื่องราวมากมายเหลือเกิน ยุ่งตัวเป็นเกลียวจนไม่มีเวลาเอาเสียเลยและตอนนี้เอง ก็เพิ่งจะได้มาไต่ถามสถานการณ์กับเฟิงหร่านไม่พูดขึ้นมายังพอว่า แต่พอพูดขึ้นมา เฟิงหร่านก็เหมือนจะโมโหเอามากๆ กระทั่งความถี่การหายใจก็ยังเปลี่ยนไปนางสูดลมหายใจลึกไปหลายที จากนั้นจึงเอ่ยขึ้นว่า "พวกเขา...กล้าเกินไปแล้ว"จั๋วซือหรานได้ยินคำนี้ มุมปากก็ยกขึ้น เข้าใจความหมายของเฟิงหร่านทันทีติดต่อศัตรูทรยศแคว้น เข้าร่วมการชิงบัลลังก์ของราชวงศ์ ไม่แตกต่างอะไรกับก่อกบฏ นี่มันก็ กล้าหาญชาญชัยมากจริงๆ"น่าขันที่พวกเขารู้อยู่ว่ามันผิด แต่กลับต่อให้ตายก็ไม่ยอมแก้ ไม่รู้ว่าไอ้ความหยิ่งทะนงในกระดูกนั่นมันไม่มียาจะช่วยได้แล้วใช่ไหม..."เฟิงหร่านสูดลมหายใจลึก อารมณ์ฮึดฮัดในหน้าอก จึงค่อยๆ ผ่อนลงมา"พ่อข้าบอกว่า ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปคงไม่ไหว เขารู้สึกว่าถ้ายังอยู่ในตระกูลเฟิงต่อ จะจบไม่สวยแน่ แต่เขา...ไม่มีทางให้ถอยแล้ว"

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 951

    เวลาเองก็ค่อนข้างมืดแล้ว แล้วห้องของจั๋วซือหรานนั่น ถึงยังไงก็เป็นห้องหญิงสาวนะกลับเรียกให้เหยียนฉีไป...เหยียนเจินมองไปด้วยสายตาครุ่นคิด "คงไม่ใช่ว่า..."เขายังพูดไม่ทันจบ ก็สบเข้ากับสายตาจั๋วซือหรานแล้วไม่รู้ว่าเพราะอะไร พอมองสายตานี้ของจั๋วซือหรานแล้ว เหยียนเจินก็รู้สึกว่า คำพูดของตนเองต่อจากนี้ น่าจะสำคัญมาก จะพูดจาเรื่อยเปื่อยไม่ได้ดังนั้นคำพูดแต่เดิมทีว่า 'สนใจลูกชายข้าหรือ?' จึงขึ้นมาแค่มุมปาก แต่พอออกจากปากก็บิดเบือนไปเป็น "จะสอนวิชาแพทย์ให้ลูกข้ารึ?"ถึงอย่างไรก็อย่าลืมว่าเหยียนฉีจะคารวะจั๋วซือหรานเป็นอาจารย์พูดคำนี้จบ เหยียนฉีก็เห็นสีหน้าจั๋วซือหรานเปลี่ยนไปจริงๆ แล้วก่อนหน้านี้เหยียนฉีก็รู้สึกบางอย่างตอนที่จั๋วซือหรานเรียกเขาไปที่ห้องนาง...แต่ตอนนี้ พอท่านพ่อพูดออกมา เขาก็รู้สึกได้ถึงเจตนาของจั๋วซือหรานแล้วแล้วก็เป็นไปตามนั้น จั๋วซือหรานหลังจากได้ยินคำพูดนี้ของเหยียนเจิน ก็ยิ้มตาโค้งขึ้นมา "ใช่แล้ว จะเรียกลูกชายท่านไปใช้แรงงานหน่อย ไปเถอะ"เหยียนฉีก่อนหน้านี้มีช่วงหนึ่งที่คิดไม่ออกมาตลอด ว่าจั๋วซือหรานเก่งกาจแบบนี้ได้อย่างไร หญิงสาวที่ถูกตระกูลทอดทิ้งคนหนึ่

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 950

    ต่งคังตอบ "องค์หญิงเนื่องจากยังไม่แต่งงาน ดังนั้นจึงยังไม่ได้ออกจากวังสร้างจวน ยังคงอยู่ในวัง ตำหนัวังของนางไม่ใช่กรมสืบสวนอาญาเข้าไปจัดการ แต่เป็นอ๋องเซี่ยนที่กำชับให้หน่วยงานในวังเข้าไปจัดการ แม่นางจิ่วหากสนใจล่ะก็ ข้าจะไปหาข่าวมาให้"จั๋วซือหรานพอได้ยินก็โบกไม้โบกมือ "ไม่ต้องแล้ว"ในเมื่อเป็นการกำชับของซือคงเซี่ยน เช่นนั้นถ้าหากมีจุดไหนที่ผิดปกติ ก็น่าจะมาบอกนางจั๋วซือหรานกับต่งคังยืนอยู่หน้าประตูจวนชินอ๋องอวี้ที่ไม่ได้รุ่งโรจน์เหมือนในอดีตอีกแล้วนางหันตามองกลับไป โบกมือเล็กน้อย ป้ายชื่อหนาหนักที่เขียนอักษรสี่ตัวไว้ว่า 'จวนชินอ๋องอวี้' ก็ร่วงลงมาดังโครมจั๋วซือหรานกลับไปที่บ้านตนเอง แล้วไปกำชับกับเฉวียนคุนแล้วก็เหล่าองครักษ์เงา"ย้าย ย้ายบ้านหรือ?""แต่เรือนนี้ของแม่นางจิ่วเพิ่งเข้ามาอยู่ได้ไม่นานเองนะ..."จั๋วซือหรานมองพวกเขาผาดหนึ่ง "ย้ายไปอยู่ที่ที่กว้างกว่าน่ะ"นางเอ่ยถึงเรื่องรางวัลพระราชทานขึ้นมาไม่ใช่ทุกคนที่จะฟังเข้าใจความหมายที่ซ่อนอยู่ ทุกคนล้วนดีอกดีใจกับรางวัลพระราชทานนี้พอหลังจากที่องครักษ์เงาลงไป พ่อลูกตระกูลเหยียนที่ไม่พูดอะไรอยู่ข้างๆ มาตลอด จึงเอ่ยปาก

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status