Share

บทที่ 121

Penulis: เย่ว์เหมี่ยว
พฤติกรรมของมู่จิ่วซีทำให้ทุกคนถึงกับใบหน้าดำทะมึน พวกเขาต่างรู้สึกว่าคุณหนูใหญ่มู่หญิงแสดงความหยิงยโสอย่างกับลูกผู้ลากมากดีออกมาได้ถึงพริกถึงขิงจริงๆ

แต่พอเมื่อได้เห็นภาพดอกโบตั๋นขนาดใหญ่ตรงหน้าที่เทียบกับของจริงจนแยกไม่ออกแล้ว พวกเขาก็รู้สึกว่าการที่มู่จิ่วซีโอหังก็เพราะนางมีความสามารถ

"นี่วาดออกมาได้อย่างไรกัน ?" มหาราชครูคนหนึ่งก็ตกใจตื่นเต้นจนตัวสั่นไปหมด

"สุดยอดไปเลย สุดยอดมากจริงๆ" ในแววตามหาราชครูอีกคนหนึ่งก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้นดีใจ "ข้าจะเอารูปนี้ไปวางไว้ในเรือนของมหาราชครูให้นักเรียนพวกนั้นได้ดูให้ได้ พวกเจ้าใครหน้าไหนก็ห้ามแย่งทั้งนั้น!"

"ใช่ใช่ใช่ ใครก็ห้ามแย่ง ภาพนี้คือของมหาวิทยาลัยหลวงแล้ว" มหาราชครูอีกคนก็กล่าวออกมาอย่างดีใจ ขณะเดียวกันก็หันไปทางพระพันปีหลวงและท่านผู้สำเร็จราชการแทน

มู่จิ่วซีก็มองมหาราชครูสองคนนั้นอย่างดูถูก : "ท่านมหาราชครูทั้งสอง พวกท่านต้องตัดสินแพ้ชนะก่อนสิ" มู่จิ่วซีกล่าวออกมาหลังจากดื่มชาของลู่เอ๋อร์ที่เอามาให้

จากนั้นเสียงวิพากย์วิจารย์ของผู้คนก็ดังขึ้นมา แต่คราวนี้กลับเป็นเสียงวิจารย์ไปในทางเดียวกัน

ฉีเล่อฉี่ก็หน้าแดงขึ้นมาพร้อมกับกล่าว
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 122

    มู่จิ่วซีขณะพูดก็เอามือต้องการจะไปดึงหนังหน้าของฉีหู่ซานออกจริงๆ"หยุดเดี๋ยวนี้!" โม่จุนกล่าวออกมาอย่างเย็นชา ทุกคนก็สงบลงมาอีกครั้งพระพันปีหลวงก็ทรงตรัสออกมาอย่างไม่พอใจ : "พอได้แล้ว การแข่งขันสิ้นสุดแล้ว มู่จิ่วซีเป็นฝ่ายชนะ ฉีหู่ซาน ถ้าเจ้ายังไม่ยอมรับความพ่ายแพ้อีกก็มาคุยกับข้าตรงนี้"สีหน้าของฉีหู่ซานเปลี่ยนไป เขาคุกเข่าลงและกล่าวออกมา : "พระพันปีหลวงทรงอย่าพิโรธ กระหม่อมแค่แพ้จนสับสน การแข่งขันคราวนี้คุณหนูใหญ่มู่เป็นฝ่ายชนะแล้ว กระหม่อมขอน้อมรับความพ่ายแพ้"แววตาของฉีหงเย่ก็ทอประกายความเคียดแค้น ทันใดนางก็โงนเงนและล้มลงไปกับพื้น ฉีเล่อฉี่ตกใจจนตะโกนร้องและรีบเข้าไปพยุงนาง"อุ๊ยตาย คุณหนูสามของตระกูลฉีร่างกายไม่ไหวเลยจริงๆ กระทบกระเทือนจิตใจนิดหน่อยก็ล้มลงไปทั้งยืน" มู่จิ่วซีหันหน้าไปมอง นางก็เห็นว่าผ้าเช็ดหน้าในมือของฉีหงเย่ยังคงกำแน่นไว้อยู่ นี่นางคงแกล้งเป็นลม"กุลสตรีหมายเลขหนึ่งแห่งพระนครถูกมู่จิ่วซีโค่นล้มไปแล้ว ถ้าเป็นข้า ข้าเองก็คงเป็นลม" มีคนยิ้มหัวเราะออกมา"ช่างขายหน้าจริงๆ การแข่งขันระหว่างกุลสตรีอันดับหนึ่งและกุลสตรีผู้อยู่รั้งท้าย นึกไม่ถึงว่านางต้องมาพ่ายแพ

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 123

    พระพันปีหลวงถูกนางหยอกล้อจนหัวเราะ : "ยัยตัวแสบ เจ้านับวันก็ยิ่งคิดแปลกพิศดารไปใหญ่แล้ว คราวนี้เจ้าขนะแล้วไม่ใช่ว่าก็ยังมีเงิน 10,000 ตำลึงที่ใต้เท้าฉีแพ้หรอกเหรอ?"มู่จิ่วซีหัวเราะคิกคักและกล่าว : "ก็จริงเพคะ แต่ว่าสิ่งของที่เรียกว่าเงินเช่นนี้ ใครกันน้าที่จะไปเงินได้มากมายมหาศาล" ขณะพูดนางก็หันไปมองฝ่าบาทองค์น้อยด้วยแววตาทอเป็นประกายฝ่าบาทองค์น้อยก็พระพักตร์แดงขึ้นมาทันที จากนั้นก็ทรงดึงแขนเสื้อของพระพันปีหลวงและตรัสออกมา : "เสด็จแม่ หรือว่าเราควรมอบรางวัลมากกว่านี้อีกสักหน่อยดี?""เหอะ เจ้าคิดเหรอว่ายัยตัวแสบคนนี้ไม่มีเงิน ข้ายังพูดไม่จบเลย การแข่งขันของนางคราวนี้นางได้ลงเดิมพันไว้ อัตราส่วนเดิมพันสูงตั้งห้าเท่า อย่างน้อยนางสามารถเอาชนะได้เงินต่ำๆ ก็ 250,000 ตำลึงแล้ว!" พระพันปีหลวงก็ทรงตรัสเผยไต๋มู่จิ่วซีออกมาตรงๆมู่จิ่วซีก็ตกตะลึงไป นางหันไปมองโม่จุนในทันใดโม่จุนเบือนหน้าหนีทำเป็นไม่เห็นนาง"ยัยหนู เจ้าคือลูกสาวของภรรยาหลวงข้าราชการในราชสำนัก รู้ใช่ไหมการพนันด้วยเงินปริมาณมากมีโทษฐานความผิด?" สีพระพักตร์ของพระพันปีหลวงก็เปลี่ยนเป็นเย็นชาพร้อมกับตรัสขึ้นมาบรรดาองคมนตรีข้

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 124

    "จริงสิ พระพันปีหลวงได้พระราชทานให้เจ้าได้เป็รคุณหญิงตราตั้งระดับหนึ่งแล้ว" มู่เทียนซิงเองก็ตื่นเต้นมาก แม้ว่าเขาจะเป็นแม่ทัพใหญ่มู่ แต่เขาก็มีระดับข้าราชการแค่ระดับสองเท่านั้น ดังนั้นคุณหญิงมู่จึงเป็นคุณหญิงตราตั้งระดับสองคุณหญิงมู่ตื่นเต้นจนรีบกล่าวขอบพระทัย ทุกคนต่างก็ทยอยแสดงความยินดีขณะนั้นมู่จิ่วซีก็เห็นโม่จุนเดินเข้ามาหา ทั้งสองสี่ดวงตาก็มองประสานกันมู่จิ่วซีก็ถลึงตาจ้องมองเขาอย่างดุเดือด ส่วนโม่จุนก็สีหน้าไร้อารมณ์ ทำท่าราวกับว่าตัวเองใส่ซื่อบริสุทธิ์อย่างมาก"ไอผู้ชายชาติหมา!" ในใจของมู่จิ่วซีก็กัดฟันด่าเขาออกมาการแข่งขันครั้งนี้ในที่สุดก็สิ้นสุดลง ข่าวที่ว่าคุณหนูใหญ่มู่ชนะการแจ่งจันก็ได้เล็ดลอดพูดกันออกไปตั้งนานแล้ว ดังนั้นเมื่อคนตระกูลฉีกลับออกมาจากวัง พวกเขาก็ถูกพวกนักพนันรุมด่าอย่างไม่หยุดหย่อน และก็มีบางคนทีขว้างปาสิ่งของรถม้าของจวนฉีก็สกปรกเละเทะไปหมด คนตระกูลฉีทั้งสามคนก็มีสำหน้าดำมืดจนไม่อาจจะดำได้กว่านี้อีกแล้ว"นึกไม่ถึงว่าคุณหนูสามของตระกูลฉีจะแพ้ให้กับมู่จิ่วซี นี่นางจงใจแพ้ชัดๆ เพื่อชนะเอาเงินพนันเดิมพันของผู้คนไม่ใช่หรือไง?""กุลสตรีหมายเลขหนึ่งอะไร

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 125

    มู่จิ่วซีก็หัวเราะออกมาพร้อมกับกล่าวขอบคุณ จากนั้นก็กล่าวออกมา : "มีเรื่องอื่นอีกไหม?"เย่อู่เหิงก็รู้ละอายขึ้นมานิดหน่อย เขารีบเปลี่ยนสีหน้าให้จริงจังพร้อมกับเอ่ยกล่าว : "เกิดเรื่องขึ้นกับคุณหนูใหญ่ไป๋ชิงแล้วขอรับ แล้วน้องหญิงรองของท่านด้วย คุณหนูไป๋เฟิ่งหว่านตอนนี้อยู่ที่ศาลต้าหลี่ขอรับ"มู่จิ่วซีก็มีแววตาเปลี่ยนไปทันที : "มีใครตายงั้นเหรอ?""ยังไม่มีใครตายขอรับ แต่ว่าคุณชายสามไป๋ฉี่เฟิงถูกไป๋ชิงใช้มีดแทงเข้าที่เอวขอรับ บาดแผลสาหัสมาก" เย่อู่เหิงขณะพูด มู่เทียนซิงและคุณหญิงมู่ก็ได้เดินลงมา"งั้นเจินจูล่ะ? เจินจูไปเกี่ยวข้องอะไรด้วย?" มู่เทียนซิงก็ถามเย่อู่เหิงในทันที"คุณหนูเจินจูได้ไปที่จวนอัครมหาเสนาบดีเพื่อหาไป๋ชิง แต่ไม่ว่าเพราะเกิดอะไรขึ้น นางก็ได้ทะเลาะกับไป๋ชิง ทั้งสองคนล้วนบาดเจ็บ คุณหนูเจินจูหัวแตกด้วย แต่ว่าบาดแผลไม่ได้รุนแรง""อะไรนะ? นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?" มู่เทียนซิงร้อนลนอย่างมาก"ท่านพ่อ ท่านไปส่งท่านแม่กลับจวนก่อน ข้าจะไปดูน้องหญิงรอง" มู่จิ่วซีพอเห็นสีหน้าของท่านแม่ของนางซีดขาว นางก็รีบพูดขึ้นมาถึงแม้มู่เทียนซิงจะร้อนใจ แต่พอเขาเห็นสภาพของภรรยาของเ

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 126

    มือทั้งสองข้างยังคงมีเลือดที่แห้งกรังเปื้อนอยู่ ที่ชุดกระโปรงก็มีรอบเลือดอยู่เล็กน้อยเช่นกัน"ไป๋ชิง" มู่จิ่วซีเป็นห่วงนาง มู่จิ่วซีนั่งลงข้างๆ นางอีกฝั่งหนึ่งและเขย่าไหล่นางเบาๆไป๋ชิงก็ถึงจะได้สติกลับมา พอนางเห็นมู่จิ่วซี จู่ๆ ภายในดวงตาของนางก็มีน้ำตาเอ่อล้น จากนั้นก็ปล่อยโฮร้องไห้เสียงดังออกมามู่จิ่วซีขมวดคิ้วและรีบกอดนางให้นางได้ร้องไห้ระบาย"ยังจะมีหน้ามาร้องไห้อีก เจ้าฆ่าน้องชายของข้า เจ้าต้องชดใช้ด้วยชีวิต!" ไป๋เฟิ่งหว่านพอเห็นมู่จิ่วซีมาถึง นางที่อยากจะพูดมาโดยตลอด แต่ก็ได้แต่ต้องอดทนเอาไว้"น้องชายเจ้าตายแล้วเหรอ? ถ้าเขายังไม่ตาย งั้นนี่เจ้าก็กะสาปแช่งเขาก่อนเลย?" มู่จิ่วซีมองขวางออกไปด้วยแววตาที่เย็นชาทั้งสองข้าง"เจ้า! มู่จิ่วซี คราวนี้เจ้าช่วยนางไม่ได้หรอก มีสายตานับไม่ถ้วยที่เห็นเหตุการณ์!" ไป๋เฟิ่งหว่านหันไปมองไป๋ชิงพร้อมกับแววตาของการดูถูกและเหยียดหยาม"เรื่องยังไม่ได้ตัดสิน เจ้าเองไม่ใช่เป็นคนกำหนด แต่ว่าการที่เจ้าทำร้ายน้องรองของข้าจนนางหัวแตก เจ้าเองก็คงยากที่จะหลบเลี่ยงความผิด" มู่จิ่วซีกล่าวออกมาอย่างไม่พอใจไป๋เฟิ่งหว่านถึงกับสีหน้าเปลี่ยนไปทันทีและพูดขึ้

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 127

    มู่จิ่วซีก็เห็นใบหน้าหล่อเหลาอันเย็นชาส่วนในใจก็แอบด่าทอ : "ไอผู้ชายชาติหมาคนนี้ยังจะกล้ามาอีก?"พอโม่จุนมาถึง ทุกคนก็ลุกขึ้นถวายความเคารพ จากนั้นโม่จุนก็นั่งลงที่บัลลังก์ศาล ดวงตาสีดำทมิฬก็ได้กวาดมองออกไปรอบหนึ่งด้วยแววตาอันคมกริบ เขาเหลือบมองเห็นแววตาที่ไฟลุกโชนทั้งสองข้างของมู่จิ่วซีครู่หนึ่งก่อนจะละสายตาออกไป"ไป๋ฉี่เฟิงอยู่ในอันตรายระหว่างเป็นตาย เรื่องนี้มีความสำคัญอย่างมาก คุณหนูไป๋ชิงเจ้าคงจำเป็นต้องกล่าวให้กระจ่างขัดเจนแล้ว ไม่งั้นคงไม่มีใครช่วยเจ้าได้" เสียงอันเย็นชาของโม่จุนทำให้ทุกคนกลัวจนตัวสั่นโดยเฉพาะไป๋ชิงที่สั่นไปทั้งตัว มือที่นางกุมมือของมู่จิ่วซีเอาไว้ก็ยิ่งแน่นมากขึ้น"ไป๋ชิง เจ้าไม่ต้องกลัว พูดไปตามความจริง ข้าเชื่อใจว่าเจ้าไม่มีทางไปแทงไป๋ฉี่เฟิงด้วยตัวของเจ้าเอง เจ้าคงจะป้องกันตัวเองใช่ไหม?" มู่จิ่วซีรีบถามออกไป"คุณหนูใหญ่มู่ ขอให้เจ้าอย่าทำการชี้นำพยาน ให้นางพูดเอง" โม่จุนกล่าวออกมาเย็นเยือกราวกับน้ำแข็งมู่จิ่วซีก็สูดหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความโกรธ แต่ว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาด่าไอผู้ชายชาติหมาคนนี้ นางจึงได้แต่ต้องอดทนไป๋เฟิ่งหว่านก็หัวเราะเยาะเย้ยออกมาท

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 128

    ไป๋ชิงมีสีหน้าทั้งกังวลและสะพรึงกลัว นางลงไปคุกเข่าและร้องไห้ขึ้นมา"ไป๋ชิง เจ้าไม่ต้องกังวล พระเจ้านั้นมีตา ขอเพียงเจ้าไม่ได้ตั้งใจจะฆ่าคน เรื่องนี้ความจริงจะต้องปรากฎไม่ช้าก็เร็ว" มู่จิ่วซีรีบปลอบโยนนาง"คุณหนูรองไป๋ งั้นเจ้าไปอยู่ที่เกิดเหตุตั้งแต่เมื่อไหร่ เจ้าเห็นเหตุการณ์ชัดเจนอย่างงั้นเหรอ?" เย่อู่เหิงถามไป๋เฟิ่งหว่านไป๋เฟิ่งหว่านกตอบพร้อมกับดวงตาที่ทอเป็นประกาย : "ตอนที่ข้าได้ยินเสียงกรีดร้อง น้องชายสามของข้าก็ล้มไปนอนบนพื้นแล้ว ส่วนไป๋ชิงก็คุกเข่าอยู่ข้างๆ เขา ในมือนางถือกริชไว้ด้วยพร้อมกับเลือดที่เต็มมือ"เย่อู่เหิงหันไปมองมู่เจินจูและถามขึ้นมา : "คุณหนูรองมู่ แล้วเจ้าไปปรากฎตัวที่จวนไป๋ตั้งแต่เมื่อไหร่?"มู่เจินจูตกใจจนสะดุ้งแลหันไปมองมู่จิ่วซีครู่หนึ่ง"ข้า ข้าตอนที่ไปถึง ก็ได้เห็นไป๋เฟิ่งหว่านกำลังกระชากผมของไป๋ชิง ส่วนไป๋ฉี่เฟิงนอนแน่นิ่งไม่ขยับแล้ว ข้าตะโกนบอกให้ไป๋เฟิ่งหว่านหยุดมือ นางก็บอกว่าไป๋ชิงฆ่าไป๋ฉี่เฟิง ดังนั้นนางเลยต้องการให้ไป๋ชิงชดใช้ด้วยชีวิต ข้ากลัวว่านางจะตบตีไป๋ชิงจนบาดเจ็บ ดังนั้นข้าก็เลยทะเลาะลงมือกับนาง..."มู่เจินจูพอยิ่งพูดไปเรื่อยก็ยิ่งเสีย

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 129

    โม่จุนก็รีบลุกขึ้นมาเช่นกันพร้อมกับเดินออกไปข้างนอก ก่อนไปเขาได้ทิ้งท้ายไว้หนึ่งประโยค : "ก่อนที่เรื่องจะตรวจสอบอย่างกระจ่าง ห้ามใครลงประชาทัณฑ์โดยเด็ดขาด"เย่อู่เหิงก็กล่าวรับคำ จากนั้นก็หันไปมองคนทั้งสองจากออกไปอย่างรวดเร็ว"ใต้เท้าเย่ ข้าไปได้แล้วหรือยัง?" ไป๋เฟิ่งหว่านก็กล่าวออกมาในทันใดถึงอย่างไรไป๋ฉี่เฟิงก็อยู่ที่จวนอัครมหาเสนาบดี ท่านผู้สำเร็จราชการแทนและมู่จิ่วซีก็คงไปที่จวนอัครมหาเสนาบดี ดังนั้นนางก็คงอยากจะกลับไปดูอาการน้องสาม"คุณหนูรองไป๋ เจ้าได้ทำร้ายคุณหนูรองมู่จนบาดเจ็บ เรื่องนี้จำเป็นต้องได้ข้อสรุป เจ้ายังไม่อาจกลับไปได้ในตอนนี้" เย่อู่เหิงกล่าวด้วยสีหน้าที่เย็นชา"ใต้เท้าเย่ นี่เจ้าไม่ได้ยินงั้นเหรอ? มู่เจินจูได้เข้ามาผลักข้า ข้าถึงได้ทะเลาะลงมือกับนาง ทั้งหมดเป็นเพราะนางลงมือกับข้าก่อน""ข้าก็แค่ผลักเจ้าออกไปเพื่อไม่ให้เจ้าทำร้ายไป๋ชิง ข้าไม่ได้ทำร้ายเจ้า" มู่เจินจูก็รีบกล่าวขึ้นมา "แล้วทีเจ้าหยิกข้าไม่พูดบ้างล่ะ อีกทั้งยังใช้พู่หยกมาทุบหัวข้าด้วย อย่างเจ้าควรเรียกว่าป้องกันตัวเกินกว่าเหตุ เจ้าเองก็ควรต้องได้รับโทษ"มู่เจินจูก็ฉลาดรีบหาข้ออ้างขึ้นมาใช้สวีหยา

Bab terbaru

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 507

    ฮั้วอวิ๋นเทียนหันมองจื่ออวิ๋นเฟยด้วยแววตาปวดร้าว เขากล่าวอย่างเสียใจ : "ทำไมเป็นแบบนี้? เป็นฝีมืออาจื่อใช่ไหม?"จื่ออวิ๋นเฟยพาเขามานั่งข้างนอกและถอนใจสารภาพ : "อาจื่อสวมหน้ากากหนังมนุษย์ปลอมตัวเป็นหญิงอุ้มท้อง มู่จิ่วซีเจตนาดีช่วยหญิงอุ้มท้องจนถูกอาจื่อทำร้ายในระยะประชิด แผลที่เอวบาดเจ็บสาหัส แต่โชคดีที่นางทานยาเทพสถิตย์ทันที"แม้จื่ออวิ๋นเฟยจะเสียยายาเทพสถิตย์ไปสองเม็ดจนเขาอยากจะสบถ แต่พอรู้ว่ามู่จิ่วซีไม่เป็นอะไร เขาก็รู้สึกว่ามันคุ้มที่จะเสีย หากมู่จิ่วซีเป็นอะไรไป เขาคงจะเสียใจมากกว่าไม่ง่ายที่ในชีวิตนี้เขาจะมีเพื่อนสนิทไว้พูดคุย ได้เป็นศิษย์น้องของเขาร่วมกันค้นคว้าวิจัย เขาไม่อยากเสียนางไปจริงๆมีแค่นางสามารถปรุงยาเทพสถิตย์ฮั้วอวิ๋นเทียนตัวสั่นยิ้มเจื่อน : "ตอนนั้นเพื่อจะปกป้องอาจื่อ ข้าเลยขอยาเทพสถิตย์และหน้ากากหนังมนุษย์ให้นาง แต่กลับถูกเอามาใช้เล่นงานจิ่วซี จิ่วซีพูดถูกแล้ว ข้ามันไม่ทันสังเกต"ชิงเฟิงตายไปแล้ว มู่จิ่วซีคงทำใจไม่ได้ในทันที วิธีเดียวที่จะคลายปมแค้นในใจนางคือต้องจับอาจื่อ เจ้ารู้ไส้อาจื่อเป็นอย่างดี เจ้าพอจะช่วยนางได้ไหม?" จื่ออวิ๋นเฟยถามฮั้วอวิ๋นเทียนกล

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 506

    จื่ออวิ๋นเฟยใช้เวลากว่า 1 ชั่วยามซับเหงื่อมู่จิ่วซี เขาถอนหายใจมองใบหน้าซีดเซียวของนางผู้หญิงคนนี้ทำเวรทำกรรมอะไรมา แผลตรงอกไม่ทันหาย ตรงเอวก็มาเป็นต่อ แค่มองก็รู้ว่าถูกแทงระยะประชิดมู่จิ่วซีได้สติในเช้าวันรุ่งขึ้น นางตะโกนเสียงดัง : "ชิงเฟิง ! ชิงเฟิง?"ลู่เอ๋อร์กล่าวร้องห่มร้องไห้ : "คุณหนู ท่านอย่าเพิ่งขยับตัว ชิงเฟิงจากไปแล้วเจ้าค่ะ"มู่จิ่วซีกำผ้าห่มแน่น ในหัวยังคงเห็นภาพที่เกิดขึ้นเมื่อวานทั้งหมดชิงเฟิงตายเพราะช่วยนาง คนลงมือสังหารไม่ใช่อาจื่อ แต่เป็นมือธนูที่เชี่ยวชาญอีกคนต้องโทษนางที่มองแผนการปลอมเป็นหญิงตั้งครรภ์ไม่ออก ตอนนั้นเหตุการณ์โกลาหล ผู้คนวิ่งเตลิดร้องขอความช่วยเหลือนางช่วยหญิงตั้งภรรค์คนนั้นไว้เพราะอยากให้ต้องตายทั้งกลม ไม่คาดคิดว่าอาจื่อจะใช้ประโยชน์จากความใจอ่อนย้อนมาทำร้ายนางเองผู้หญิงคนนี้ฉลาด โหดร้ายชั่วช้า"ฉินหลานจื่อ! ข้าขอสาบาน ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อหาเจ้าให้เจอ ข้าจะเลาะเนื้อเฉือนกระดูกเจ้าเพื่อแก้แค้นให้ชิงเฟิง!" มู่จิ่วซี"คุณหนูใหญ่ ท่านใจเย็นก่อน! เดี๋ยวแผลฉีก!" จื่ออวิ๋นเฟยเดินเข้ามาเห็นคราบเลือดบนเตียงขณะมู่จิ่วซีหุนหันเคียดแค้นโม่จุนเด

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 505

    มู่จิ่วซีหันไปมอง เห็นธนูเพลิงดอกหนึ่งพุ่งไปยังหญิงสาวด้านหลังคนนั้นอีกทั้งนางเป็นหญิงท้องตั้งครรภ์มู่จิ่วซีไม่มีเวลาให้คิดมาก นางพุ่งตัวเข้าไปหาจากบนม้า กริชเล็งเควี้ยงออกไปยังธนูดอกนั้น ส่วนนางก็กระโจนคว้าหญิงตั้งครรภ์เอาไว้"คุณหนูใหญ่!" ชิงเฟิงตะโกนลั่นตามเข้ามาร่างกายของมู่จิ่วซีกระโจนไปหาหญิงตั้งครรภ์ ขณะมือของนางกำลังจะคว้าหญิงตั้งครรภ์คนนั้น นางกลับขนลุกชันขึ้นมาทั้งตัว นางจึงเอี้ยวตัวไปด้านข้าง"ฉวก!" กริชเล่มหนึ่งปักลงตรงเอวด้านซ้ายของนางมีดบินในมือของมู่จิ่วซีเล็งปาดไปที่คอของผู้หญิงตรงหน้าอย่างแรงนางเห็นใบหน้าของหญิงสาวคนนั้นชัดเจน เป็นสาวชาวบ้านธรรมดาๆ ทว่าตรงจมูกระหว่างตามีไฝสีดำเม็ดเล็กอาจื่อ! คาดไม่ถึงว่านางจะปลอมเป็นคนท้องเพียงเพื่อจะสังหารมู่จิ่วซี"มู่จิ่วซี เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า!" เสียงของอาจื่อแฝงไปด้วยความเย็นเยือกสุดขั้วพร้อมกับเบี่ยงศีรษะไปด้านหลัง หลบเลี่ยงคอ ทว่ามีดบินก็ยังกรีดเข้าที่หน้า บาดหน้ากากหนังมนุษย์จนเป็นรอย เลือดสดไหลซึมออกมาดวงตาของมู่จิ่วซีทั้งสองข้างคือความโกรธแค้น มีดบินปรากฎขึ้นในมืออีกครั้ง อาจื่อกลิ้งหลบไปด้านหลังสองตลบแล

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 504

    "แน่นอนอยู่แล้ว เซวียนหยวนเชาเมื่อก่อนคิดอยากจะช่วยหวางชิว หวางชิวไม่ใช่คนในราชวงศ์ แล้วเขาเป็นใครกันแน่? เขาถึงได้ไม่ไหว้หน้าเซวียนหยวนห้าว?" มู่จิ่วซียิ้มกล่าวโจวเหยาส่ายหัวและกล่าว : "หวางชิวแทรกซึมเข้าในแคว้นเกาอวิ๋น 20 กว่าปีแล้ว คงมีน้อยคนมากที่จะรู้ตัวตนแท้จริงของเขาในแคว้นเป่ยจิ้น"มู่จิ่วซีพยักหน้าพูด : "ดูเหมือนเซวียนหยวนห้าวใกล้จะมาแล้ว ในเมื่อหวางชิวสำคัญขนาดนั้น คราวนี้แคว้นเป่ยจิ้นคงต้องได้สังเวยเลือดครั้งใหญ่""คุณหนูใหญ่ เราจะต้องปล่อยหวางชิวไปในตอนสุดท้ายใช่ไหม?" โจวเหยาร้อนรนกล่าว "ถ้าต้องปล่อยเขาไป แบบนั้นเป็นการปล่อยเสือกลับภูเขาชัดๆ""เจ้าคิดว่าข้าใจดีขนาดนั้น?" ดวงตาทั้งสองข้างของมู่จิ่วซีมองโจวเหยาโจวเหยาตกตะลึง จากนั้นก็หัวเราะเสียงดังกล่าวออกมา : "งั้นข้าก็สบายใจได้แล้ว เขารู้ความลับของแคว้นเกาอวิ๋นมากเกินไป ถ้าต้องปล่อยเขากลับแคว้นเป่ยจิ้น ถือว่าไม่เป็นประโยชน์ต่อพวกเรา""วางใจเถอะ ต่อให้ปล่อยเขาออกกรมพระราชวังนครบาลไป ก็คงกลับไม่ถึงแคว้นเป่ยจิ้น เรื่องนี้ข้ากับโม่จุนได้ปรึกษากันแล้ว อนุญาตให้เซวียนหยวนเชามกุฎราชกุมารพิการคนนี้กลับไปได้เท่านั้น" มุมปาก

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 503

    มู่จิ่วซีกล่าวอย่างยิ้มมีเสน่ห์ : "ถึงอย่างไรเจ้าก็ห้ามทำไม่ดีกับข้า ไม่งั้นหลังจากนี้ข้าจะคิดบัญชีกับเจ้า อ่อใช่ เจ้าเคยคิดถึงกิจการในห้าแคว้นอื่นของท่านอ๋องสี่ไหม? ร่วมมือกับท่านพี่ฮั้วไหม?"มู่จิ่วซีเคยพูดถึงแผนการของฮั้วอวิ๋นเทียนให้โม่จุนฟัง"ฮั้วอวิ๋นเทียนคนนี้มันเจ้าเล่ห์ ต่อให้ข้าไม่ร่วมมือ เข้าก็ยังได้ทราบข้อมูลข่าวกรองก่อนใคร ลงมือก่อนใคร ข้าเองได้แต่เป็นฝ่ายถูกกระทำ ในเมื่อเขาเสนอมาว่าจะให้แบ่งให้เจ้าครึ่งหนึ่ง ข้าก็ตกลง เจ้าสมควรได้รับไว้"มู่จิ่วซีทันใดนั้นก็คลายกังวลและยิ้มกล่าว : "แล้วทางพระพันปีหลวงล่ะ?""อีกห้าแคว้นยังมีตำหนัก ไม่ได้ประกอบธุรกิจ ยังมีโฉนดอยู่ บางส่วนมอบคืนให้ราชวงศ์ ส่วนกิจการอื่นที่เกี่ยวข้องกับพระพันปีหลวงก็คงจะรู้ว่าไม่อาจเอากลับมาได้ ทั้ง 5 แคว้นแย่งไปจนเกลี้ยงแล้ว"โม่จุนกล่าวต่อ "ต่อให้ทหารมังกรดำของข้าอยู่ใน 5 แคว้น ก็ไม่อาจเอากลับมาได้ แบบนั้นจะเป็นหารเปิดเผยตัวตนพวกเขา ดังนั้นแผนการของฮั้วอวิ๋นเทียนจึงถูกใจข้าพอดี ข้าเดิมทีก็อยากจะร่วมมือกับเขา ในเมื่อเขามาหาเองถึงที่ งั้นทางเราก็จะไว้หน้าเขา""เจ้าเองก็จิ้งจอกเฒ่า" มู่จิ่วซีมองเขาซึ่งวา

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 502

    "ที่ที่อันตรายที่สุดคือที่ที่ปลอดภัยที่สุด ดูเหมือนว่าเราจะเดาผิด" มู่จิ่วซีกล่าว "แผลจะได้ไม่ต้องปริ"มู่จิ่วซีกุมอก"หากเป็นที่ลับตา ยังมีอีกที่หนึ่ง" โม่จุนหันมองมู่จิ่วซี"จวนท่านอ๋องสาม?" มู่จิ่วซีเลิกคิ้ว"ใช่ เขาหนีออกไปได้แล้ว ใครจะคิดว่าเขาจะกลับมา?" โม่จุนรีบกลับเลี้ยวม้าออกไปนอกวังด้านหลังตามขบวนมายาวเป็นหางว่าว เย่ฮาน ชิงเฟิงและทหารมังกรดำตามมาติดๆจนเมื่อมาถึงจวนอ๋องสาม เดิมทีควรจะเงียบสงัด ทว่ากลับได้ยินเสียงร้องไห้จากด้านในหลังจากโม่จุนอุ้มมู่จิ่วซีลงจากม้าก็กระโดดข้ามกำแพงเรือนเข้าไป ไม่ได้เข้ามาทางประตูใหญ่พอถึงพื้นก็ได้กลิ่นคาวเลือดคลุ้ง ทั้งสองสีหน้าเปลี่ยนไปมาก"ท่านผู้สำเร็จราชการแทน ช่วยด้วย!" บ่าวรับใช้รีบตะโกนเรียกเมื่อเห็นโม่จุนและมู่จิ่วซีโม่จุนเห็นบ่าวรับใช้นอนจมกองเลือดเลยรีบเข้าไปถาม : "ที่นี่เกิดอะไรขึ้น?""พระชายา พระชายาถูกลักพาตัวไปแล้วเจ้าค่ะ องค์หญิงสือบาดเจ็บ..." บ่าวรับใช้ชี้นิ้วไปด้านในโม่จุนรีบเรียกคนด้านหลังให้มาช่วยปฐมพยาบาล ส่วนเขาเองกับมู่จิ่วซีรีบเข้าไปด้านใน ตามทางมีองครักษ์มากมายถูกฆ่า ทั้งสองสีหน้าแย่มากกว่าเก่าหลังจากท่าน

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 501

    เย่อู่เหิงรีบวิ่งออกไป มู่จิ่วซีสีหน้าเปลี่ยน หลังจากเดินไปมาหลายรอบก็กัดฟัน เปลี่ยนเป็นชุดจิ้นจวงและเดินออกมา"คุณหนู ท่านจะไปไหน?" ลู่เอ๋อร์เข้ามาจากด้านนอกเห็นมู่จิ่วซีเปลี่ยนเสื้อผ้าออกไป นางตกใจสะดุ้งจนตะโกนร้องเรียก"ข้ามีธุระ เย่ฮาน ชิงเฟิง!" มู่จิ่วซีตะโกนเรียกจื่ออวิ๋นเฟยที่กำลังงุ่นง่านกับศาสตร์ศัลยกรรมตกแต่งได้ยินเสียงของมู่จิ่วซี ก็รีบวิ่งออกมา"คุณหนูใหญ่ เจ้า ท่านจะออกไปข้างนอกรึ?" เย่ฮานกล่าวอย่างตกใจ"มู่จิ่วซี ไม่รักชีวิตตัวเองเลยรึไง แผลยังไม่ทันหายยังจะออกไปอีก?" จื่ออวิ๋นเฟยเองก็ตกใจ"ข้าต้องเข้าไปในวัง ไปเตรียมม้า!" มู่จิ่วซีรีบวิ่งออกไป"เห้ยๆๆ เจ้าระมัดระวังด้วย อย่าบุ่มบ่ามจนแผลฉีกล่ะ" จื่ออวิ๋นเฟยตะโกนจากด้านหลัง"เอายามาให้ข้าเม็ดหนึ่ง! กันไว้ก่อน" มู่จิ่วซีันควับกลับมาและยืนมือไปทางจื่ออวิ๋นเฟย "กลับมาแล้วข้าจะปรุงยาเอามาคืนเจ้า"จื่ออวิ๋นเฟยเบือนหน้าหนีเดินถอยออกไป มู่จิ่วซีเบ้ปากกล่าว : "ขี้งก"พูดจบก็รีบเดินไปทางประตูจื่ออวิ๋นเฟยหยุดฝีเท้าลงและพูดขึ้นมากะทันหัน : "เอาไป!"มู่จิ่วซีหันกลับมา เห็นเพียงขวดยาที่ถูกโยนมาให้"ในนั้นเหลือแค่ 2 เม็ด

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 500

    "เจ้าไปวาดใบหน้าของหน้ากากหนังมนุษย์ของอาจื่อออกมาก่อน" มู่จิ่วซีกล่าว"เออ ข้า ข้าก็จำไม่ค่อยได้แล้ว เป็นผู้หญิงธรรมดามากๆ ไม่สะดุดตาเลย ข้าตอนนั้นกำลังเพิ่งเริ่มศึกษาค้นคว้า เลยทำหน้ากากออกมาแค่ผืนเดียว ถ้าของมันดี ข้าคงอดไม่ได้ที่จะต้องยกให้คนอื่นใช่ไหมล่ะ?" จื่ออวิ๋นเฟยทำสีหน้าโศกเศร้า"ไม่มีเอกลักษณ์อะไรเลยงั้นเหรอ? ถ้าเจ้าเห็นกับตาจะจำได้ไหม?" มู่จิ่วซีสูดหายใจเข้า"เอกลักษณ์? มีสิ ตรงจมูกหว่างตามีไฝสีดำเม็ดหนึ่ง มีแค่จุดนั้น เพราะว่าเป็นไฝเลยไม่มีวิธีจะเอาออก อาจื่อตอนนั้นยังบอกว่าอัปลักษณ์"มู่จิ่วซีก็ถอยหายใจได้ในที่สุด ขอเพียงมีเอกลักษณ์จุดสังเกต อย่างน้อยให้นางครั้งหน้าเห็นและจำได้ อีกอย่างอาจื่อคงจะต้องคิดหาวิธีมาฆ่านางแน่นอน"อายุล่ะ ภายนอกอายุประมาณเท่าไหร่?" มู่จิ่วซีถาม"ประมาณระหว่าง 20-30 ปี" จื่ออวิ๋นเฟยกล่าว "สีผิวดูคล้ำกว่าเจ้าเล็กน้อย ไม่ใช่คุณหนูประเภทนั้น คล้ายกับบ่าวรับใช้"มู่จิ่วซีพยักหน้า เข้าใจแล้ว"งั้นก็ดี ตอนนี้ข้าจะสอนศาสตร์ศัลยกรรมตกแต่งให้เจ้า" มู่จิ่วซีจิตใจวิตกกังวล แต่ก็ทำได้เพียงสงบใจและรอฟังข่าวเท่านั้นตกกลางคืน เย่อู่เหิงได้มาเยี่ยม คน

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 499

    จื่ออวิ๋นเฟยกล่าวอย่างระแวง : "เจ้า เจ้าอย่ามองข้าแบบนั้น อาจื่อไม่ใช่ว่ามีโรคหัวใจแต่กำเนิดรึไง? มอบยาให้นางไปก็เพื่อใช้ปกป้องชีวิตของนาง""เจ้าไม่ใช่ว่าเห็นนางขัดหูขัดตาหรือไง?" มู่จิ่วซีกล่าวอย่างโมโห"เออ คือ คือข้าได้แลกเปลี่ยนกับฮั้วอวิ๋นเทียน ว่าให้ข้าสามารถรับสวัสดิการที่ดีที่สุดในหอดาราจันทราทั้ง 6 แคว้นได้ ได้รับการปกป้องจากหอดาราจันทราทั้ง 6 แคว้น" จื่ออวิ๋นเฟยสำนักผิดมู่จิ่วซีหมดคำจะพูด"ท่านอ๋องสามตอนนั้นได้ก่อกบฎ ถูกโม่จุนหักขาไปข้าง ทว่าวันนี้ขาของข้ากลับมาเดินบนพื้นได้อีก แค่อาจไม่ค่อยคล่องแคล่ว คงได้ทานยาเทพสถิตย์ไปแล้วแน่" มู่จิ่วซีกล่าวอย่างมั่นใจ "นอกเสียจากมียารักษาสุดยอดยิ่งกว่ายาเทพสถิตย์"จื่ออวิ๋นเฟยอ้าปากกว้าง จากนั้นก็กล่าวอย่างอักอ่วน : "งั้น งั้นก็คงจะเป็นยาเทพสถิตย์แล้วล่ะ""จะให้พวกเขาหนีออกไปจากแคว้นเกาอวิ๋นไม่ได้เด็ดขาด ไม่งั้นไอระยำสองตัวนั้นคงทำให้พวกเราไม่อาจอยู่อย่างสงบได้แน่นอน" มู่จิ่วซีกำหมัดจนแน่น แววตาเต็มไปด้วยจิตสังหารจื่ออวิ๋นเฟยส่งเสียงไอ เขาถึงกับหัวหด"เจ้ายังมีอะไรปิดบังข้าอีก?" มู่จิ่วซีรู้สึกว่าจื่ออวิ๋นเฟยแปลกออกไป"หะ! ไม่

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status