Share

บทที่ 129

Author: เย่ว์เหมี่ยว
โม่จุนก็รีบลุกขึ้นมาเช่นกันพร้อมกับเดินออกไปข้างนอก ก่อนไปเขาได้ทิ้งท้ายไว้หนึ่งประโยค : "ก่อนที่เรื่องจะตรวจสอบอย่างกระจ่าง ห้ามใครลงประชาทัณฑ์โดยเด็ดขาด"

เย่อู่เหิงก็กล่าวรับคำ จากนั้นก็หันไปมองคนทั้งสองจากออกไปอย่างรวดเร็ว

"ใต้เท้าเย่ ข้าไปได้แล้วหรือยัง?" ไป๋เฟิ่งหว่านก็กล่าวออกมาในทันใด

ถึงอย่างไรไป๋ฉี่เฟิงก็อยู่ที่จวนอัครมหาเสนาบดี ท่านผู้สำเร็จราชการแทนและมู่จิ่วซีก็คงไปที่จวนอัครมหาเสนาบดี ดังนั้นนางก็คงอยากจะกลับไปดูอาการน้องสาม

"คุณหนูรองไป๋ เจ้าได้ทำร้ายคุณหนูรองมู่จนบาดเจ็บ เรื่องนี้จำเป็นต้องได้ข้อสรุป เจ้ายังไม่อาจกลับไปได้ในตอนนี้" เย่อู่เหิงกล่าวด้วยสีหน้าที่เย็นชา

"ใต้เท้าเย่ นี่เจ้าไม่ได้ยินงั้นเหรอ? มู่เจินจูได้เข้ามาผลักข้า ข้าถึงได้ทะเลาะลงมือกับนาง ทั้งหมดเป็นเพราะนางลงมือกับข้าก่อน"

"ข้าก็แค่ผลักเจ้าออกไปเพื่อไม่ให้เจ้าทำร้ายไป๋ชิง ข้าไม่ได้ทำร้ายเจ้า" มู่เจินจูก็รีบกล่าวขึ้นมา "แล้วทีเจ้าหยิกข้าไม่พูดบ้างล่ะ อีกทั้งยังใช้พู่หยกมาทุบหัวข้าด้วย อย่างเจ้าควรเรียกว่าป้องกันตัวเกินกว่าเหตุ เจ้าเองก็ควรต้องได้รับโทษ"

มู่เจินจูก็ฉลาดรีบหาข้ออ้างขึ้นมาใช้

สวีหยา
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 130

    ศิลปะหกแขนงของบุรุษ แต่ละอย่างล้วนโดดเด่น? นี่จะเป็นไปได้อย่างไร?แต่ความจริงก็ได้พิสูจน์แล้ว ทักษะการขี่ม้าของนางไม่ได้เป็นรองเขาเลย บนถนนมีสิ่งกีดขวางมากมาย แต่นางกลับขี่หลบหลีกอย่างง่ายดาย อีกทั้งยังบังคับม้าให้ข้ามพ้นรถม้าที่บรรทุกสิ่งของได้อีก ถึงกับทำให้ผู้คนที่เห็นตาทอเป็นประกายจนตาแทบบอดส่วนโม่จุนท่านผู้สำเร็จราชการแทนที่ตามมาด้านหลัง อีกนิดก็เกือบจะปล่อยไก่ออกมาจนในที่สุดมู่จิ่วซีก็หันกลับมามอง หน้าของนางเต็มไปด้วยเหงื่อ แววตาสองข้างคมกริบอย่างกับกระบี่พร้อมกับมองไปยังโม่จุนที่ขี่ไล่ตามมาด้วยแววตาอันเย็นเยือกอย่างไม่มีอะไรมาเทียบได้"อย่าวู่วาม วู่วามไปก็มีแต่จะทำให้เรื่องแย่ลง" โม่จุนมองไปที่นางด้วยสีหน้าอารมณ์เสีย ส่วนน้ำเสียงกลับผ่อนคลายลงมาหน่อย"ไอผู้ชายชาติหมา เจ้าทรยศข้า!" มู่จิ่วซีหรี่ตาลงและตะคอกด้วยเสียงทุ้มต่ำโม่จุนก็ตกตะลึง จากนั้นเขาก็เข้าใจในทันที"เจ้าคิดว่ามีแค่เจ้าคนเดียวหรือไงที่ถูกยึดเงิน 250,000 ตำลึง? เงินของข้าเองก็ถูกเอาไปจ่ายเป็นเงินเดือนทหารเหมือนกัน!" โม่จุนกล่าวออกมาอย่างไม่พอใจ "เจ้าคิดเหรอว่าพระพันปีหลวงไม่รู้ว่ามีการเปิดรับพนันเดิมพันกัน

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 131

    โม่จุนเดิมทีอยากจะพูดเรื่องของเซียวหลิงเย่ว์ แต่พอได้ยินประโยคนี้ เขาก็ได้แต่พูด : "หรือว่าเจ้ายังสามารถช่วยไป๋ฉี่เฟิงได้งั้นเหรอ? แพทย์หลวงเองก็กำลังรักษากันอย่างสุดความสามารถ""ข้าเคยบอกแล้วว่ามีความสามารถหลายอย่าง เพียงแต่เจ้าไม่รู้เท่านั้น" มู่จิ่วซีกรอกตามองบนใส่เขาและก็เข้าไปในจวนไป๋ทันทีองครักษ์ของจวนไป๋เห็นท่านผู้สำเร็จราชการแทนและมู่จิ่วซีอยู่ไกลๆ ตั้งนานแล้ว ซึ่งไม่มีใครกล้าไปขวาง พวกเขาได้แต่คุกเข่าถวายคำนับท่านผู้สำเร็จราชการแทนแต่ว่าคนข้างในรู้ตั้งนานแล้วว่าท่านผู้สำเร็จราชการแทนและมู่จิ่วซีอยู่ที่หน้าประตู ดูเหมือนว่าเพราะเรื่องอะไรสักอย่างและกำลังทะเลาะกันอยู่แต่ถึงกระนั้นสีหน้าของมู่จิ่วซีในตอนแรกเหมือนกับสีหน้าของคนต้องการฆ่าโม่จุนแทบจะไม่มีอะไรต่างกันเลย"ไป๋ฉี่เฟิงอยู่ที่ไหน?" มู่จิ่วซีบุ่มบ่ามเข้าไปพร้อมกับคว้าข้ารับใช้คนหนึ่งมาถาม"คุณหนูใหญ่มู่ คุณชายสามอยู่ อยู่ที่เรือนหลินฟ้านขอรับ" ข้ารับใช้คนนั้นตกใจกับท่าทีดุร้ายของมู่จิ่วซีโม่จุนก็ได้เดินแซงนางเข้าไปข้างในมู่จิ่วซีก็รีบปล่อยข้ารับใช้คนนั้นและเดินตามเข้าไปพร้อมกับกล่าว : "ชื่อดีๆ ไม่รู้จักตั้ง ตั

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 132

    "เจ้าคือใคร?" มู่จิ่วซีไม่เคยเห็นผู้ชายคนนี้"ข้าน้อยไป๋เอินลู่ เป็นลุงสองของไป๋ฉี่เฟิง" ไป๋เอินลู่รีบกล่าวถึงฐานะของตัวเองโม่จุนก็ถามขึ้นมา : "ข้างในมีใครอยู่? ไป๋ฉี่เฟิงเป็นไงบ้าง?""ทูลท่านผู้สำเร็จราชการแทน ด้านในมีท่านอัครมหาเสนาบดีและฮูหยินรอง รวมไปถึงแพทย์หลวงอีกสองคนขอรับ" ไป๋เอินลู่รีบกล่าวออกมามู่จิ่วซีก็พูดขึ้นมาทันที : "ข้าต้องการเข้าไปดู""คุณหนูใหญ่มู่ แพทย์หลวงกล่าวไว้ว่าห้ามเข้าไปรบกวน" ขณะพูดเขาก็มองไปที่นางอย่างรู้สึกยากลำบากใจ"น่าขำสิ้นดี ไม่ให้เข้าไปรบกวน? ข้างในมีคนตั้งมากมายขนาดนั้น แต่มีเพิ่มอีกสักคนสองคนก็คงไม่เยอะหรอกมั้ง เจ้าหลีกไปได้แล้ว" มู่จิ่วซีโมโหขึ้นมาโม่จุนก็กล่าวขึ้นมาด้วยเสียงทุ้มต่ำ : "หลีกทางไปเถอะ"ท่านผู้สำเร็จราชการแทนเอ่ยปากออกมาแล้ว ไป๋เอินลู่ก็ได้แต่ต้องหลีกทางมู่จิ่วซีก็เดินเข้าไปด้วยฝีเท้าที่เบาที่สุดเพื่อเดินเข้าไปยังด้านใน โม่จุนก็รีบเดินตามไปภายในห้องมีขนาดใหญ่มาก เห็นได้ชัดว่าไป๋ฉี่เฟิงซึ่งเป็นคุณชายสามได้รับการเลี้ยงดูดีมากขนาดไหนทั้งสามด้านของห้องล้วนมีหน้าต่าง แสงสว่างมีมากเพียงพอ อีกทั้งในห้องยังวางเต็มไปด้วยตะเกีย

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 133

    โม่จุนพอได้ยินมู่จิ่วซีพูดประโยคนี้ มุมปากเขาก็กระตุกขึ้นเบาๆ จากนั้นเขาก็เบาใจลงได้ผู้หญิงคนนี้สามารถพูดอย่างโอหังได้ขนาดนี้ นางจะต้องมีความสามารถช่วยไป๋ฉี่เฟิงได้แน่เขาตอนนี้เข้าใจนางขึ้นมาบ้างไม่มากก็น้อย"คุณหนูใหญ่มู่ เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นเซียนหรือไง?" อัครมหาเสนาบดีไป๋มองไปที่มู่จิ่วซี เขาถูกนงทำให้โกรธจนแทบอยากจะหัวเราะมู่จิ่วซีก็หัวเราะเยาะออกมา นางหันไปมองแพทย์หลวงอู๋และกล่าว : "แพทย์หลวงอู๋ หลอดเลือดตรงเอวของไป๋ฉี่เฟิงแตกใช่ไหม พอรักษาซ่อมหลอดเลือดได้ไม่สมบูรณ์ เลือดก็จะซึมไหลเข้าไปในช่องท่อง ทำให้เกิดแรงกดดันแน่นในอวัยวะภายใน คนไข้ก็เลยยิ่งวิกฤติขึ้นเรื่อยๆ ใช่ไหม?"เดิมทีแพทย์หลวงอู๋ตกใจตะลึงกับคำพูดของมู่จิ่วซี แต่พอได้ฟังคำพูดของนางไปเรื่อย เขาก็พยักหน้าอย่างประหลาดใจ : "มู่จิ่วซีพูดได้ไม่ผิด คุณหนูใหญ่มู่เข้าใจศาสตร์แพทย์งั้นรึ?""ก็พอรู้อยู่บ้าง ให้ข้าลองเถอะ" มู่จิ่วซีพูด "เตรียมเข็มเงินให้ข้าชุดหนึ่ง"แพทย์หลวงอู๋ก็ไม่ได้หยิงผยอง ถึงอย่างไรพวกเขาก็มือไม้วุ่นวายรักษามาพักหนึ่งแล้ว แต่ก็ไม่อาจหยุดเลือดที่ซึมออกมาจากหลอดเลือดได้ เลยไม่กล้าที่จะปิดปากแผลด้านนอก"ม

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 134

    ผ่านไปสักอึดใจหนึ่งก็หยิบเอาสำลีที่ซับออกมา ก็เห็นว่าเป็นเลือดที่ถูกดูดซึมออกมา จนสามารถเห็นรอยแปลตรงเส้นเลือดได้อย่างชัดเจน เนื่องจากแพทย์หลวงจัดการแผลได้ไม่สมบูรณ์ เลยมีผลให้เลือดยังคงใหลซึมออกมาภายใต้ความดันเลือดอันที่จริงไม่ใช่ว่าแพทย์หลวงไม่อยากจัดการให้สมบูรณ์ แต่เนื่องจากตำแหน่งแผลอยู่ลึกมาก ตอนจัดการเลยแทบจะไม่มีวิธีที่จะดูแผลที่อยู่ลึกด้านในได้ถึงแต่พอเห็นมู่จิ่วซีหยิบมีดขึ้นมา พร้อมกับกรีดหลอดเลือดที่ติดอยู่กับเนื้อให้ออกจากกัน พอเป็นแบบนี้ เนื้อที่ติดอยู่กับหลอดเลือดตรงปากแผลก็จะถูกยกขึ้นมาให้สูงขึ้นจากนั้นนางก็หยิบเข็มที่ร้อยด้ายแล้วเอามาเย็บตรงหลอดเลือดที่มีเลือดไหลออกมาให้ติดเข้าด้วยกันในตอนท้ายก็เย็บเนื้อ จากนั้นก็เอาเนื้อที่ติดอยู่กับหลอดเลือดเย็บเข้ากับเนื้อที่ถูกเฉือนด้านล่างเข้าด้วยกันหลายเข็ม (การอ้างอิงถึงความเฉพาะทาง เป็นการสมมุติล้วนๆ โปรดผู้อ่านจงแยกแยะจากความเป็นจริงๆ)ตอนนี้ เลือดก็ยิ่งไหลมากขึ้นมา เลยสงผลต่อการมองเห็น แต่มู่จิ่วซีเหมือนจะสามารถมองทะลุเลือดได้ นางลงมือได้อย่างรวดเร็วไม่นานนักก็จัดการหลอดเลือดเสร็จ นางใช้สำลีกดลงไปอีกครั้ง พอนางเห็นว

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 135

    สายตาเย็นชาของโม่จุนก็มองไปที่จ้วงชิงเหมยพร้อมกับกล่าว : "ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้ ก่อนหน้านี้มู่จิ่วซีก็ช่วยแม่ของนางเองให้รอด นางได้ร่ำเรียนกับหมอเทวดาในยุทธภพมาบ้าง""เป็นไปได้ยังไง?" จ้วงชิงเหมยมองอัครมหาเสนาบดีไป๋ด้วยสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ มือข้างหนึ่งของนางก็ได้จับคว้าไปที่แขนของอัครมหาเสนาบดีไป๋ อัครมหาเสนาบดีไป๋เจ็บจนคิ้วขมวด"เหมยเอ๋อร์ ฉี่เฟิงไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว คุณหนูใหญ่มู่ช่วยชีวิตฉี่เฟิงเอาไว้ได้" อัครมหาเสนาบดีไป๋ก็คล้องไปที่แขนของนางที่จับเขาไว้อยู่พร้อมกับพูดอย่างนุ่มนวลตอนนั้น มู่จิ่วซีก็ได้เดินออกมาจากข้างใน สองมือของนางที่เพิ่งล้างจนสะอาดก็กำลังเช็ดด้วยผ้าอยู่"ทำไม ฮูหยินรองไม่ได้หวังให้ข้าช่วยไป๋ฉี่เฟิงได้หรอกเหรอ?" มู่จิ่วซีพอเอ่ยปากก็เหน็บแนมในทันที"มู่จิ่วซี เจ้าพูดไร้สาระอะไร ข้าก็แค่ไม่คาดคิดว่าเจ้าจะช่วยเขาเอาไว้ได้" จ้วงชิงเหมยก็ถลึงตาสองข้างจ้องไปที่นางพร้อมกับกล่าว"เรื่องที่เจ้าคาดไม่ถึงมีอีกเยอะเลยล่ะ" มู่จิ่วซีกล่าวออกมาอย่างเยาะเย้ย "เอาล่ะ ไป๋ฉี่เฟิงก็ดีขึ้นมาแล้ว งั้นเรื่องของไป๋ชิงล่ะ?"นางหันไปมองโม่จุนโม่จุนก็หันไปมองอัครมหาเสนาบดีไป๋และพูด

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 136

    "คุณท่าน เมื่อก่อนท่านสัญญาจะให้ข้าได้เป็นคุณหญิงใหญ่ พระพันปีหลวงทรงไม่อนุญาต ข้าเองก็ถือซะว่าช่างมัน แต่ตอนนี้ฉี่เฟิงสภาพหนักขนาดนี้ ท่านก็ยังทำกับข้าเช่นนี้อีก หรือว่าลูกที่เกิดจากอนุภรรยาจะไม่ใช่ลูกของท่าน" จ้วงชิงเหมยร้องไห้ออกมา"จ้วงชิงเหมย เจ้าพอได้แล้ว!" มู่จิ่วซีพูดขัดขึ้นมาในทันที "เป็นอนุภรรยาก็ควรสำเหนียกในฐานะอนุภรรยา ตอนนั้นถ้าไม่ใช่เพราะใต้เท้าอัครมหาเสนาบดีหมายปองเจ้าที่หอชิงหยา พาเจ้ากลับมาที่จวน เจ้าจะได้มีวันนี้งั้นเหรอ? เจ้าไม่รู้จักตอบแทนบุญคุณยังไม่เท่าไหร่ แต่นี่เป็นแค่แขกสะเออะมาเป็นเจ้าบ้าน อัครมหาเสนาบดีไป๋ วันนี้ข้ามู่จิ่วซีขอบอกท่านไว้สักประโยค ฮูหยินใหญ่ไม่ได้จากไปเพราะป่วยอาการสาหัส แต่เพราะนางถูกพิษเรื้อรังของเงาดอกนิโลบลต่างหาก!"อัครมหาเสนาบดีไป๋และจ้วงชิงเหมยก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมากทันที"อะไรนะ? มู่จิ่วซี เจ้าพูดว่าอะไรนะ?" อัครมหาเสนาบดีไป๋ตกใจอย่างมาก ร่างกายของเขาสั่นสะท้าน จากนั้นก็หันไปมองโม่จุนทันทีโม่จุนก็พยักหน้าพร้อมกับกล่าว : "ไม่ผิดหรอก ฮูหยินใหญ่ถูกพิษของเงาดอกนิโลบลจนเสียชีวิต ใต้เท้าอัครมหาเสนาบดีคงเจ้ารู้จักพิษเรื้อรังเงาดอกนิโ

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 137

    มู่จิ่วซีและโม่จุนต่างก็ชะงักอึ้งไป แต่มู่จิ่วซีก็รีบพูดขึ้นมา : "น่าขำจริงๆ จ้วงชิงเหมยก็แค่หญิงสาวจากหอนางโลมคนหนึ่ง ถ้าฮูหยินใหญ่ไม่อยากให้นางเข้ามาในจวน ถ้าฮูหยินใหญ่ต้องการฆ่านาง มีหรือจะถูกเจ้าจับได้? ให้เจ้าต้องมาพบ? เจ้าอย่าลืมว่าตระกูลของฮูหยินใหญ่เดิมทีคือลูกสาวของมหาราชครูของจักรพรรดิองค์ก่อน มีความรู้ความสามารถ นางมีหรือจะสู้ไม่ชนะกับแค่นางจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ตัวหนึ่ง?"นี่ถึงกับทำให้ไป๋ชินเตี่ยนตะลึงค้างไปจากนั้นในหัวของเขาก็ปรากฎภาพในตอนสมัยยังหนุ่มสาว ว่าฮูหยินใหญ่นั้นงดงามเก่งกาจและฉลาดหลักแหลมมากแค่ไหน พร้อมกับให้คำแนะนำเขาอย่างมากมายจนเขาเองได้ขึ้นสู่ตำแหน่งสูงในราชสำนักไม่ว่าจะลูกไม้แผนการไหน ฮูหยินใหญ่ไม่มีทางที่จะวางแผนการจนมีช่องโหว่ได้มากมายขนาดนี้อีกอย่างการรับอนุภรรยาเข้ามาก็เป็นเรื่องปกติ ฮูหยินใหญ่ตอนที่ตั้งครรภ์ไป๋ชิง ก็เป็นนางเองที่ให้เขารับอนุภรรยาเข้ามา ซึ่งไม่จำเป็นเลยที่นางจะต้องพยายามฆ่าจ้วงชิงเหมยที่เป็นผู้หญิงคนหนึ่งจากหอนางโลมไป๋ชินเตี่ยนตอนนี้พอคิดดูแล้วก็พบว่าตนเองไม่ได้สังเกตเรื่องพวกนี้เลย เขามัวแต่ถูกจ้วงชิงเหมยปั่นหัว จนเขาไม่สนใจใยดีฮูหย

Latest chapter

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 507

    ฮั้วอวิ๋นเทียนหันมองจื่ออวิ๋นเฟยด้วยแววตาปวดร้าว เขากล่าวอย่างเสียใจ : "ทำไมเป็นแบบนี้? เป็นฝีมืออาจื่อใช่ไหม?"จื่ออวิ๋นเฟยพาเขามานั่งข้างนอกและถอนใจสารภาพ : "อาจื่อสวมหน้ากากหนังมนุษย์ปลอมตัวเป็นหญิงอุ้มท้อง มู่จิ่วซีเจตนาดีช่วยหญิงอุ้มท้องจนถูกอาจื่อทำร้ายในระยะประชิด แผลที่เอวบาดเจ็บสาหัส แต่โชคดีที่นางทานยาเทพสถิตย์ทันที"แม้จื่ออวิ๋นเฟยจะเสียยายาเทพสถิตย์ไปสองเม็ดจนเขาอยากจะสบถ แต่พอรู้ว่ามู่จิ่วซีไม่เป็นอะไร เขาก็รู้สึกว่ามันคุ้มที่จะเสีย หากมู่จิ่วซีเป็นอะไรไป เขาคงจะเสียใจมากกว่าไม่ง่ายที่ในชีวิตนี้เขาจะมีเพื่อนสนิทไว้พูดคุย ได้เป็นศิษย์น้องของเขาร่วมกันค้นคว้าวิจัย เขาไม่อยากเสียนางไปจริงๆมีแค่นางสามารถปรุงยาเทพสถิตย์ฮั้วอวิ๋นเทียนตัวสั่นยิ้มเจื่อน : "ตอนนั้นเพื่อจะปกป้องอาจื่อ ข้าเลยขอยาเทพสถิตย์และหน้ากากหนังมนุษย์ให้นาง แต่กลับถูกเอามาใช้เล่นงานจิ่วซี จิ่วซีพูดถูกแล้ว ข้ามันไม่ทันสังเกต"ชิงเฟิงตายไปแล้ว มู่จิ่วซีคงทำใจไม่ได้ในทันที วิธีเดียวที่จะคลายปมแค้นในใจนางคือต้องจับอาจื่อ เจ้ารู้ไส้อาจื่อเป็นอย่างดี เจ้าพอจะช่วยนางได้ไหม?" จื่ออวิ๋นเฟยถามฮั้วอวิ๋นเทียนกล

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 506

    จื่ออวิ๋นเฟยใช้เวลากว่า 1 ชั่วยามซับเหงื่อมู่จิ่วซี เขาถอนหายใจมองใบหน้าซีดเซียวของนางผู้หญิงคนนี้ทำเวรทำกรรมอะไรมา แผลตรงอกไม่ทันหาย ตรงเอวก็มาเป็นต่อ แค่มองก็รู้ว่าถูกแทงระยะประชิดมู่จิ่วซีได้สติในเช้าวันรุ่งขึ้น นางตะโกนเสียงดัง : "ชิงเฟิง ! ชิงเฟิง?"ลู่เอ๋อร์กล่าวร้องห่มร้องไห้ : "คุณหนู ท่านอย่าเพิ่งขยับตัว ชิงเฟิงจากไปแล้วเจ้าค่ะ"มู่จิ่วซีกำผ้าห่มแน่น ในหัวยังคงเห็นภาพที่เกิดขึ้นเมื่อวานทั้งหมดชิงเฟิงตายเพราะช่วยนาง คนลงมือสังหารไม่ใช่อาจื่อ แต่เป็นมือธนูที่เชี่ยวชาญอีกคนต้องโทษนางที่มองแผนการปลอมเป็นหญิงตั้งครรภ์ไม่ออก ตอนนั้นเหตุการณ์โกลาหล ผู้คนวิ่งเตลิดร้องขอความช่วยเหลือนางช่วยหญิงตั้งภรรค์คนนั้นไว้เพราะอยากให้ต้องตายทั้งกลม ไม่คาดคิดว่าอาจื่อจะใช้ประโยชน์จากความใจอ่อนย้อนมาทำร้ายนางเองผู้หญิงคนนี้ฉลาด โหดร้ายชั่วช้า"ฉินหลานจื่อ! ข้าขอสาบาน ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อหาเจ้าให้เจอ ข้าจะเลาะเนื้อเฉือนกระดูกเจ้าเพื่อแก้แค้นให้ชิงเฟิง!" มู่จิ่วซี"คุณหนูใหญ่ ท่านใจเย็นก่อน! เดี๋ยวแผลฉีก!" จื่ออวิ๋นเฟยเดินเข้ามาเห็นคราบเลือดบนเตียงขณะมู่จิ่วซีหุนหันเคียดแค้นโม่จุนเด

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 505

    มู่จิ่วซีหันไปมอง เห็นธนูเพลิงดอกหนึ่งพุ่งไปยังหญิงสาวด้านหลังคนนั้นอีกทั้งนางเป็นหญิงท้องตั้งครรภ์มู่จิ่วซีไม่มีเวลาให้คิดมาก นางพุ่งตัวเข้าไปหาจากบนม้า กริชเล็งเควี้ยงออกไปยังธนูดอกนั้น ส่วนนางก็กระโจนคว้าหญิงตั้งครรภ์เอาไว้"คุณหนูใหญ่!" ชิงเฟิงตะโกนลั่นตามเข้ามาร่างกายของมู่จิ่วซีกระโจนไปหาหญิงตั้งครรภ์ ขณะมือของนางกำลังจะคว้าหญิงตั้งครรภ์คนนั้น นางกลับขนลุกชันขึ้นมาทั้งตัว นางจึงเอี้ยวตัวไปด้านข้าง"ฉวก!" กริชเล่มหนึ่งปักลงตรงเอวด้านซ้ายของนางมีดบินในมือของมู่จิ่วซีเล็งปาดไปที่คอของผู้หญิงตรงหน้าอย่างแรงนางเห็นใบหน้าของหญิงสาวคนนั้นชัดเจน เป็นสาวชาวบ้านธรรมดาๆ ทว่าตรงจมูกระหว่างตามีไฝสีดำเม็ดเล็กอาจื่อ! คาดไม่ถึงว่านางจะปลอมเป็นคนท้องเพียงเพื่อจะสังหารมู่จิ่วซี"มู่จิ่วซี เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า!" เสียงของอาจื่อแฝงไปด้วยความเย็นเยือกสุดขั้วพร้อมกับเบี่ยงศีรษะไปด้านหลัง หลบเลี่ยงคอ ทว่ามีดบินก็ยังกรีดเข้าที่หน้า บาดหน้ากากหนังมนุษย์จนเป็นรอย เลือดสดไหลซึมออกมาดวงตาของมู่จิ่วซีทั้งสองข้างคือความโกรธแค้น มีดบินปรากฎขึ้นในมืออีกครั้ง อาจื่อกลิ้งหลบไปด้านหลังสองตลบแล

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 504

    "แน่นอนอยู่แล้ว เซวียนหยวนเชาเมื่อก่อนคิดอยากจะช่วยหวางชิว หวางชิวไม่ใช่คนในราชวงศ์ แล้วเขาเป็นใครกันแน่? เขาถึงได้ไม่ไหว้หน้าเซวียนหยวนห้าว?" มู่จิ่วซียิ้มกล่าวโจวเหยาส่ายหัวและกล่าว : "หวางชิวแทรกซึมเข้าในแคว้นเกาอวิ๋น 20 กว่าปีแล้ว คงมีน้อยคนมากที่จะรู้ตัวตนแท้จริงของเขาในแคว้นเป่ยจิ้น"มู่จิ่วซีพยักหน้าพูด : "ดูเหมือนเซวียนหยวนห้าวใกล้จะมาแล้ว ในเมื่อหวางชิวสำคัญขนาดนั้น คราวนี้แคว้นเป่ยจิ้นคงต้องได้สังเวยเลือดครั้งใหญ่""คุณหนูใหญ่ เราจะต้องปล่อยหวางชิวไปในตอนสุดท้ายใช่ไหม?" โจวเหยาร้อนรนกล่าว "ถ้าต้องปล่อยเขาไป แบบนั้นเป็นการปล่อยเสือกลับภูเขาชัดๆ""เจ้าคิดว่าข้าใจดีขนาดนั้น?" ดวงตาทั้งสองข้างของมู่จิ่วซีมองโจวเหยาโจวเหยาตกตะลึง จากนั้นก็หัวเราะเสียงดังกล่าวออกมา : "งั้นข้าก็สบายใจได้แล้ว เขารู้ความลับของแคว้นเกาอวิ๋นมากเกินไป ถ้าต้องปล่อยเขากลับแคว้นเป่ยจิ้น ถือว่าไม่เป็นประโยชน์ต่อพวกเรา""วางใจเถอะ ต่อให้ปล่อยเขาออกกรมพระราชวังนครบาลไป ก็คงกลับไม่ถึงแคว้นเป่ยจิ้น เรื่องนี้ข้ากับโม่จุนได้ปรึกษากันแล้ว อนุญาตให้เซวียนหยวนเชามกุฎราชกุมารพิการคนนี้กลับไปได้เท่านั้น" มุมปาก

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 503

    มู่จิ่วซีกล่าวอย่างยิ้มมีเสน่ห์ : "ถึงอย่างไรเจ้าก็ห้ามทำไม่ดีกับข้า ไม่งั้นหลังจากนี้ข้าจะคิดบัญชีกับเจ้า อ่อใช่ เจ้าเคยคิดถึงกิจการในห้าแคว้นอื่นของท่านอ๋องสี่ไหม? ร่วมมือกับท่านพี่ฮั้วไหม?"มู่จิ่วซีเคยพูดถึงแผนการของฮั้วอวิ๋นเทียนให้โม่จุนฟัง"ฮั้วอวิ๋นเทียนคนนี้มันเจ้าเล่ห์ ต่อให้ข้าไม่ร่วมมือ เข้าก็ยังได้ทราบข้อมูลข่าวกรองก่อนใคร ลงมือก่อนใคร ข้าเองได้แต่เป็นฝ่ายถูกกระทำ ในเมื่อเขาเสนอมาว่าจะให้แบ่งให้เจ้าครึ่งหนึ่ง ข้าก็ตกลง เจ้าสมควรได้รับไว้"มู่จิ่วซีทันใดนั้นก็คลายกังวลและยิ้มกล่าว : "แล้วทางพระพันปีหลวงล่ะ?""อีกห้าแคว้นยังมีตำหนัก ไม่ได้ประกอบธุรกิจ ยังมีโฉนดอยู่ บางส่วนมอบคืนให้ราชวงศ์ ส่วนกิจการอื่นที่เกี่ยวข้องกับพระพันปีหลวงก็คงจะรู้ว่าไม่อาจเอากลับมาได้ ทั้ง 5 แคว้นแย่งไปจนเกลี้ยงแล้ว"โม่จุนกล่าวต่อ "ต่อให้ทหารมังกรดำของข้าอยู่ใน 5 แคว้น ก็ไม่อาจเอากลับมาได้ แบบนั้นจะเป็นหารเปิดเผยตัวตนพวกเขา ดังนั้นแผนการของฮั้วอวิ๋นเทียนจึงถูกใจข้าพอดี ข้าเดิมทีก็อยากจะร่วมมือกับเขา ในเมื่อเขามาหาเองถึงที่ งั้นทางเราก็จะไว้หน้าเขา""เจ้าเองก็จิ้งจอกเฒ่า" มู่จิ่วซีมองเขาซึ่งวา

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 502

    "ที่ที่อันตรายที่สุดคือที่ที่ปลอดภัยที่สุด ดูเหมือนว่าเราจะเดาผิด" มู่จิ่วซีกล่าว "แผลจะได้ไม่ต้องปริ"มู่จิ่วซีกุมอก"หากเป็นที่ลับตา ยังมีอีกที่หนึ่ง" โม่จุนหันมองมู่จิ่วซี"จวนท่านอ๋องสาม?" มู่จิ่วซีเลิกคิ้ว"ใช่ เขาหนีออกไปได้แล้ว ใครจะคิดว่าเขาจะกลับมา?" โม่จุนรีบกลับเลี้ยวม้าออกไปนอกวังด้านหลังตามขบวนมายาวเป็นหางว่าว เย่ฮาน ชิงเฟิงและทหารมังกรดำตามมาติดๆจนเมื่อมาถึงจวนอ๋องสาม เดิมทีควรจะเงียบสงัด ทว่ากลับได้ยินเสียงร้องไห้จากด้านในหลังจากโม่จุนอุ้มมู่จิ่วซีลงจากม้าก็กระโดดข้ามกำแพงเรือนเข้าไป ไม่ได้เข้ามาทางประตูใหญ่พอถึงพื้นก็ได้กลิ่นคาวเลือดคลุ้ง ทั้งสองสีหน้าเปลี่ยนไปมาก"ท่านผู้สำเร็จราชการแทน ช่วยด้วย!" บ่าวรับใช้รีบตะโกนเรียกเมื่อเห็นโม่จุนและมู่จิ่วซีโม่จุนเห็นบ่าวรับใช้นอนจมกองเลือดเลยรีบเข้าไปถาม : "ที่นี่เกิดอะไรขึ้น?""พระชายา พระชายาถูกลักพาตัวไปแล้วเจ้าค่ะ องค์หญิงสือบาดเจ็บ..." บ่าวรับใช้ชี้นิ้วไปด้านในโม่จุนรีบเรียกคนด้านหลังให้มาช่วยปฐมพยาบาล ส่วนเขาเองกับมู่จิ่วซีรีบเข้าไปด้านใน ตามทางมีองครักษ์มากมายถูกฆ่า ทั้งสองสีหน้าแย่มากกว่าเก่าหลังจากท่าน

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 501

    เย่อู่เหิงรีบวิ่งออกไป มู่จิ่วซีสีหน้าเปลี่ยน หลังจากเดินไปมาหลายรอบก็กัดฟัน เปลี่ยนเป็นชุดจิ้นจวงและเดินออกมา"คุณหนู ท่านจะไปไหน?" ลู่เอ๋อร์เข้ามาจากด้านนอกเห็นมู่จิ่วซีเปลี่ยนเสื้อผ้าออกไป นางตกใจสะดุ้งจนตะโกนร้องเรียก"ข้ามีธุระ เย่ฮาน ชิงเฟิง!" มู่จิ่วซีตะโกนเรียกจื่ออวิ๋นเฟยที่กำลังงุ่นง่านกับศาสตร์ศัลยกรรมตกแต่งได้ยินเสียงของมู่จิ่วซี ก็รีบวิ่งออกมา"คุณหนูใหญ่ เจ้า ท่านจะออกไปข้างนอกรึ?" เย่ฮานกล่าวอย่างตกใจ"มู่จิ่วซี ไม่รักชีวิตตัวเองเลยรึไง แผลยังไม่ทันหายยังจะออกไปอีก?" จื่ออวิ๋นเฟยเองก็ตกใจ"ข้าต้องเข้าไปในวัง ไปเตรียมม้า!" มู่จิ่วซีรีบวิ่งออกไป"เห้ยๆๆ เจ้าระมัดระวังด้วย อย่าบุ่มบ่ามจนแผลฉีกล่ะ" จื่ออวิ๋นเฟยตะโกนจากด้านหลัง"เอายามาให้ข้าเม็ดหนึ่ง! กันไว้ก่อน" มู่จิ่วซีันควับกลับมาและยืนมือไปทางจื่ออวิ๋นเฟย "กลับมาแล้วข้าจะปรุงยาเอามาคืนเจ้า"จื่ออวิ๋นเฟยเบือนหน้าหนีเดินถอยออกไป มู่จิ่วซีเบ้ปากกล่าว : "ขี้งก"พูดจบก็รีบเดินไปทางประตูจื่ออวิ๋นเฟยหยุดฝีเท้าลงและพูดขึ้นมากะทันหัน : "เอาไป!"มู่จิ่วซีหันกลับมา เห็นเพียงขวดยาที่ถูกโยนมาให้"ในนั้นเหลือแค่ 2 เม็ด

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 500

    "เจ้าไปวาดใบหน้าของหน้ากากหนังมนุษย์ของอาจื่อออกมาก่อน" มู่จิ่วซีกล่าว"เออ ข้า ข้าก็จำไม่ค่อยได้แล้ว เป็นผู้หญิงธรรมดามากๆ ไม่สะดุดตาเลย ข้าตอนนั้นกำลังเพิ่งเริ่มศึกษาค้นคว้า เลยทำหน้ากากออกมาแค่ผืนเดียว ถ้าของมันดี ข้าคงอดไม่ได้ที่จะต้องยกให้คนอื่นใช่ไหมล่ะ?" จื่ออวิ๋นเฟยทำสีหน้าโศกเศร้า"ไม่มีเอกลักษณ์อะไรเลยงั้นเหรอ? ถ้าเจ้าเห็นกับตาจะจำได้ไหม?" มู่จิ่วซีสูดหายใจเข้า"เอกลักษณ์? มีสิ ตรงจมูกหว่างตามีไฝสีดำเม็ดหนึ่ง มีแค่จุดนั้น เพราะว่าเป็นไฝเลยไม่มีวิธีจะเอาออก อาจื่อตอนนั้นยังบอกว่าอัปลักษณ์"มู่จิ่วซีก็ถอยหายใจได้ในที่สุด ขอเพียงมีเอกลักษณ์จุดสังเกต อย่างน้อยให้นางครั้งหน้าเห็นและจำได้ อีกอย่างอาจื่อคงจะต้องคิดหาวิธีมาฆ่านางแน่นอน"อายุล่ะ ภายนอกอายุประมาณเท่าไหร่?" มู่จิ่วซีถาม"ประมาณระหว่าง 20-30 ปี" จื่ออวิ๋นเฟยกล่าว "สีผิวดูคล้ำกว่าเจ้าเล็กน้อย ไม่ใช่คุณหนูประเภทนั้น คล้ายกับบ่าวรับใช้"มู่จิ่วซีพยักหน้า เข้าใจแล้ว"งั้นก็ดี ตอนนี้ข้าจะสอนศาสตร์ศัลยกรรมตกแต่งให้เจ้า" มู่จิ่วซีจิตใจวิตกกังวล แต่ก็ทำได้เพียงสงบใจและรอฟังข่าวเท่านั้นตกกลางคืน เย่อู่เหิงได้มาเยี่ยม คน

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 499

    จื่ออวิ๋นเฟยกล่าวอย่างระแวง : "เจ้า เจ้าอย่ามองข้าแบบนั้น อาจื่อไม่ใช่ว่ามีโรคหัวใจแต่กำเนิดรึไง? มอบยาให้นางไปก็เพื่อใช้ปกป้องชีวิตของนาง""เจ้าไม่ใช่ว่าเห็นนางขัดหูขัดตาหรือไง?" มู่จิ่วซีกล่าวอย่างโมโห"เออ คือ คือข้าได้แลกเปลี่ยนกับฮั้วอวิ๋นเทียน ว่าให้ข้าสามารถรับสวัสดิการที่ดีที่สุดในหอดาราจันทราทั้ง 6 แคว้นได้ ได้รับการปกป้องจากหอดาราจันทราทั้ง 6 แคว้น" จื่ออวิ๋นเฟยสำนักผิดมู่จิ่วซีหมดคำจะพูด"ท่านอ๋องสามตอนนั้นได้ก่อกบฎ ถูกโม่จุนหักขาไปข้าง ทว่าวันนี้ขาของข้ากลับมาเดินบนพื้นได้อีก แค่อาจไม่ค่อยคล่องแคล่ว คงได้ทานยาเทพสถิตย์ไปแล้วแน่" มู่จิ่วซีกล่าวอย่างมั่นใจ "นอกเสียจากมียารักษาสุดยอดยิ่งกว่ายาเทพสถิตย์"จื่ออวิ๋นเฟยอ้าปากกว้าง จากนั้นก็กล่าวอย่างอักอ่วน : "งั้น งั้นก็คงจะเป็นยาเทพสถิตย์แล้วล่ะ""จะให้พวกเขาหนีออกไปจากแคว้นเกาอวิ๋นไม่ได้เด็ดขาด ไม่งั้นไอระยำสองตัวนั้นคงทำให้พวกเราไม่อาจอยู่อย่างสงบได้แน่นอน" มู่จิ่วซีกำหมัดจนแน่น แววตาเต็มไปด้วยจิตสังหารจื่ออวิ๋นเฟยส่งเสียงไอ เขาถึงกับหัวหด"เจ้ายังมีอะไรปิดบังข้าอีก?" มู่จิ่วซีรู้สึกว่าจื่ออวิ๋นเฟยแปลกออกไป"หะ! ไม่

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status