2 วันต่อมา
งานเลี้ยงวันเกิดของนีรนุชถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่ายที่บริเวณลานหญ้าหน้าบ้าน เชิญแค่คนสนิทเท่านั้น มีเพื่อนของนีรนุชกับติณณภัทรซึ่งอยู่ในกลุ่มเดียวกัน และญาติ ๆ เพียงไม่กี่คน บรรยากาศภายในงานเลี้ยงเป็นไปอย่างครึกครื้น ทุกคนดูจะแฮปปี้สุด ทว่าคงจะมีแต่นับดาวที่ไร้อารมณ์นั่งทำหน้าเบื่อโลกอยู่คนเดียว หากไม่ติดว่าคืนนี้มีอะไรบางอย่างต้องทำเธอไม่มีวันเสนอหน้าอยู่ในงานแน่ เธอจ้องมองไปยังนีรนุชที่กำลังยืนหัวเราะต่อกระซิกกับคู่หมั้นด้วยแววตาแข็งกร้าว ก่อนกดเสียงพูดในลำคออย่างมีแผนร้าย "มีความสุขกันให้พอนะ เพราะพรุ่งนี้เธอกับแม่อาจต้องผิดหวังนีรนุช" ครืดดด~ เสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์ดังขึ้นนับดาวจึงละสายตาจากคนทั้งสอง หยิบโทรศัพท์บนตักขึ้นมาดูเมื่อเห็นว่าเป็นเบอร์ของคนที่รอคอยจึงลุกเดินออกไปรับสายในที่ลับตาคน (ฉันอยู่หน้าบ้านคุณแล้วนะคะ) "คุณเปิดประตูเล็กแล้วเดินเข้ามาได้เลยค่ะ ฉันจะรอรับอยู่หน้าบ้าน" (ค่ะ ๆ) นับดาวเผยรอยยิ้มร้ายออกมาหลังจากวางสาย ก่อนจะเดินอ้อมสนามหญ้าออกไปยืนรอรับใครบางคนที่กำลังมาถึงหน้าบ้าน ยืนรอไม่ถึงเสี้ยวนาทีหญิงสาวหน้าตาน่ารักก็เดินมาหยุดตรงหน้าเธอ แล้วกล่าวทักทายด้วยท่าทางนอบน้อม "สวัสดีค่ะคุณนับดาว" "เรียกฉันว่านับดาวเฉย ๆ ก็พอเดี๋ยวคนอื่นจะสงสัยเอาได้" นับดาวเพียงพยักหน้ารับ ก่อนจะเอ่ยไปด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งพลางไล่สายตามองหญิงสาวซึ่งเธอจ้างให้มาทำงานบางอย่างตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า "ฉันจ้างเธอมาแพง หวังว่าเธอจะไม่ทำให้ฉันผิดหวังนะอุงอิง" "ฉันไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอนค่ะ พรุ่งนี้เช้ารอดูผลงานได้เลย" อุงอิงเอ่ยอย่างมั่นใจเพราะงานที่หญิงสาวจ้างมามันเป็นงานที่เธอถนัดอยู่แล้ว หนำซ้ำนายจ้างยังเงินถึงขนาดนี้เธอจะตั้งใจทำมันอย่างดีเลยล่ะ "เข้าไปในงานกันเถอะ แล้วอย่าลืมเล่นละครให้เนียนล่ะว่าเธอคือเพื่อนฉัน" นับดาวยกยิ้มมุมปากอย่างชอบใจกับความมั่นอกมั่นใจของหญิงสาว ว่าจบเธอก็เดินนำหญิงสาวเข้าไปในงานเลี้ยง เดินไปหย่อนก้นนั่งโต๊ะใกล้ ๆ กับนีรนุช ก่อนชี้ให้หญิงสาวดูติณณภัทรที่นั่งอยู่ข้าง ๆ นีรนุช "ผู้ชายคนนั้นคือคนที่เธอต้องจัดการ" "ค่ะ" เพียงเห็นหน้าติณณภัทรอุงอิงถึงกับตาลุกวาวแสดงออกมาโดยไม่ปิดบังว่าอยากได้ชายหนุ่มมากเพียงใด ติณณภัทรทั้งหล่อทั้งรวย เพรียบพร้อมไปหมดทุกอย่างใครกันจะไม่อยากขึ้นเตียงกับเขา หากนับดาวบอกกับเธอตั้งแต่ตอนแรกว่าคนที่ให้จัดการคือติณณภัทรเธอจะไม่คิดค่าจ้างสักบาทเลย แค่ได้ขึ้นเตียงกับเขาก็คือว่าบุญอวัยวะช่วงล่างเธอมากแล้ว "หึ" นับดาวเค้นหัวเราะในลำคออย่างชอบใจเมื่อเห็นแววตาทอประกายของอุงอิงที่มองติณณภัทรราวกับจะกลืนกิน งานนี้เธอคงไม่ต้องกังวลแล้วล่ะเพราะดูถ้าชายหนุ่มคงไม่รอดเงื้อมืออุงอิงแน่ ๆ เพียงนึกถึงหน้าสองคนแม่ลูกตอนเปิดประตูมาเห็นว่าติณณภัทรนอนกับผู้หญิงคนอื่นเธอก็สะใจรอไว้แล้ว เธอนั่งดื่มน้ำแอลกอฮอล์ไปเรื่อย ๆ ที่โต๊ะของตัวเองกับอุงอิงเพียงสองคนโดยไม่คิดเข้าไปวุ่นวายกับใคร และก็คงไม่มีใครอยากยุ่งเกี่ยวกับเธอเช่นกัน ข้อนี้เธอรู้ดีมาตลอด ในสายตาทุกคนเธอคือนางมารร้าย ต่างจากนีรนุชที่เป็นที่รักของทุกคน รอบกายห้อมล้อมด้วยผู้คนที่รัก หนึ่งในนั้นคือบิดาเธอด้วย ตั้งแต่เธอเข้ามาในงานท่านไม่แม้แต่จะชายตามองเธอเลยสักนิด... เวลาล่วงเลยมาถึงเที่ยงคืนคนอื่น ๆ เริ่มทยอยกลับกันหมดแล้ว เหลือเพียงนีรนุช ติณณภัทรกับเพื่อน ๆ อีกสามคนที่ยังนั่งดื่มกันอยู่ ส่วนพ่อเธอกับแม่เลี้ยงก็ขอตัวไปพักผ่อนก่อนหน้านี้แล้ว "พี่ออยคะไปหยิบของขวัญบนห้องให้หน่อยค่ะ" เธอมองหน้านีรนุชนิ่ง ๆ ครู่หนึ่ง ก่อนหันไปบอกกล่าวกับแม่บ้านที่ยืนอยู่ไม่ไกล จากนั้นก็ยกน้ำสีอำพันในแก้วขึ้นดื่มอีกครั้ง ผ่านไปกว่าห้านาทีแม่บ้านที่เธอให้ไปเอาของก็เดินกลับมาพร้อมกับกล่องของขวัญซึ่งเป็นกล่องไม่ใหญ่มากนัก "ของขวัญค่ะคุณนับดาว" "ขอบคุณค่ะ" เธอเอ่ยขอบคุณออยน้ำเสียงนุ่มใบหน้าเคลือบด้วยรอยยิ้มไม่ได้มีกิริยาหยาบ ๆ เหมือนที่แสดงกับคนอื่น ๆ พร้อมกับรับกล่องของขวัญมาถือไว้ ที่เธอปฏิบัติกับออยดีเพราะออยเป็นลูกของแม่นมที่เลี้ยงเธอมาตั้งแต่เด็ก ๆ ในบ้านมีแค่ทั้งสองที่ดูแลและดีกับเธอมาก นอกนั้นก็เป็นคนของแม่เลี้ยงใจยักษ์หมด เมื่อออยยิ้มรับเธอจึงเอ่ยต่อให้พอแค่ได้ยินสองคน "ไปจัดการตามแผนได้เลยค่ะพี่ออย" "ค่ะ" สิ้นคำสั่งเจ้านายสาวออยก็เดินไปยังโต๊ะที่ไว้เตรียมเครื่องดื่มให้แขก แล้วลงมือทำอะไรบางอย่าง ส่วนนับดาวก็ลุกเดินถือกล่องของขวัญไปยื่นให้นีรนุชโดยไม่พูดไม่จา "นะ..นับให้พี่เหรอ" นีรนุชถึงกับอึ้งมองหน้าน้องสาวต่างมารดาอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา นับดาวให้ของขวัญเธอจริง ๆ เหรอ ค่อย ๆ ยื่นมือไปรับมาถือไว้ด้วยความรู้สึกดีใจ และตื้นตันเพราะนี่เป็นของขวัญชิ้นแรกที่ได้รับจากนับดาว "ขะ..ขอบคุณมากนะ" "..." นับดาวไม่ได้ตอบรับ หรืออินกับท่าทางซาบซึ้งของพี่สาวต่างมารดาสักนิด มองหน้านีรนุชด้วยแววตาราบเรียบ ทว่าในใจกับเย้ยหยันอยู่เพราะในกล่องของขวัญคือผ้าเช็ดหน้าที่เธอเตรียมไว้สำหรับให้นีรนุชเช็ดน้ำตาในวันพรุ่งนี้ยังไงล่ะ ขณะที่เพื่อน ๆ ของนีรนุชต่างพากันมองหน้าตาปริบ ๆ ราวกับว่าการที่นับดาวให้ของขวัญนีรนุชเป็นเรื่องน่าพิศวงยังไงยังงั้น ก็แหง่ล่ะสิใคร ๆ ต่างรู้ดีว่านับดาวไม่ถูกกับนีรนุช โดยเฉพาะติณณภัทรที่ไม่เชื่อเลยสักนิดว่านับดาวให้ของขวัญนีรนุชด้วยใจบริสุทธ์ มันต้องมีอะไรแน่ ๆ บางทีในกล่องอาจจะมีบางอย่างที่ไม่ดีก็ได้ เขามองหน้านับดาวเขม็งราวกับจะมองให้ทะลุปรุโปร่งไปถึงไส้ติง ว่าจริง ๆ แล้วเธอคิดจะทำอะไรกันแน่ และเพียงเสี้ยวนาทีที่เธอหันมาสบสายตากับเขา มุมปากของเธอคล้ายกับกำลังยิ้มเยาะออกมาเหมือนมีอะไรแอบแฝงอยู่ ก่อนเธอจะหมุนตัวเดินออกไปโดยไม่พูดจา เขาจึงหันกลับมาขอดูกล่องของขวัญจากคู่หมั้นสาวที่นั่งข้าง ๆ เพื่อเช็คให้แน่ใจว่าเขาไม่ได้ระแวงไปเอง "เอามาให้ภัทรแกะดูหน่อยว่าในกล่องของขวัญนั่นมีอะไร เผื่อนับดาวแกล้งนุช" "ภัทรอย่ามองน้องสาวนุชในแง่ร้ายเกินไปสิ" แต่นีรนุชกลับปฏิเสธพร้อมทั้งกอดกล่องของขวัญของน้องสาวไว้แนบอกอย่างหวงแหน เธอเชื่อว่าน้องสาวคงไม่คิดแกล้งเธอแน่นอน ติณณภัทรได้แต่ถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่กับความมองโลกในแง่ดีของคู่หมั้นสาว ก่อนจะหันไปเรียกแม่บ้านให้เอาเครื่องดื่มมาเสิร์ฟเพิ่ม ซึ่งคนที่นำมาเสิร์ฟก็คือออยนั่นเอง เมื่อเสิร์ฟเครื่องดื่มให้โต๊ะติณณภัทรเสร็จก็เดินไปหานับดาว "เรียบร้อยแล้วค่ะ" นับดาวเพียงพยักหน้ารับที่เหลือก็แค่รอเวลาให้ยาที่อยู่ในเครื่องดื่มออกฤทธิ์ก็เท่านั้นเอง คงไม่เกินสิบนาทีต่อจากนี้ เธอนั่งมองนีรนุชสลับกับติณณภัทรด้วยแววตาเย้ยหยัน ก่อนจะหันไปกระซิบข้างหูอุงอิง "ทุกคนหลับเมื่อไรเธอก็พาติณณภัทรเข้าห้องได้เลย ห้องนอนแขกอยู่ปีกขวาชั้นล่าง ฉันให้คนแอบเปิดประตูไว้แล้ว" ว่าจบกระดกน้ำสีอำพันในแก้วลงคอรวดเดียวจนหมดเพื่อฉลองให้กับความผิดหวังของสองแม่ลูกในวันพรุ่งนี้วันต่อมา"กรี๊ดด!"เสียงกรีดร้องดังกึกก้องไปทั่วบริเวณบ้านทำให้ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนของติณณภัทรกับนีรนุช ทนงศักดิ์ นิ่ม อุงอิง และแม่บ้านต่างพากันตกใจ รีบวิ่งไปดูทางต้นเสียงก็พบว่าเป็นนีรนุชที่กำลังยืนเนื้อตัวสั่นเทา ร้องไห้ออกมาจนตัวโยนหน้าห้องนอนแขก"เกิดอะไรขึ้นลูกนุช" นิ่มรีบวิ่งเข้าไปกอดบุตรสาวด้วยความเป็นห่วง ทว่าเธอก็ต้องตาเบิกกว้างอุทานออกมาเสียงดังลั่นเมื่อสายตาเหลือบไปเห็นคู่หนุ่มสาวที่นอนอยู่บนเตียงภายในห้องท่าทางของนิ่มทำให้ทุกคนต่างสงสัยจนต้องรีบไปดู พอได้เห็นก็มีปฎิกิริยาไม่ต่างจากนิ่มเลย โดยเฉพาะทนงศักดิ์ที่โกรธจนหน้าสั่นกับภาพบุตรสาวคนเล็กนอนที่นอนร่วมเตียงกับคู่หมั้นของพี่สาวในสภาพเปลือยเปล่ามีเพียงผ้าห่มคลุมไว้ถึงหน้าอก รีบปรี่เข้าไปเขย่าตัวตะเบ็งเสียงเรียกดังลั่นด้วยความโมโหสุดขีด "นับดาวลุกขึ้นมาคุยกับฉันเดี๋ยวนี้ ลุกขึ้นมาไอ้ลูกไม่รักดี""อื้อ! คนจะนอน" เสียงรบกวนที่ดังทบโสตประสาทบวกแรงเขย่าทำให้นับดาวที่กำลังนอนหลับอย่างสบายหงุดหงิดไม่น้อย เธอค่อย ๆ ปรือตาขึ้นมาอย่างเลี่ยงไม่ได้แม้อยากจะนอนต่อแค่ไหนก็ตามเพราะรู้สึกปวดหัว และเนื้อตัวมาก ๆ ราวกับถูกสิบล้อเหย
บรรยากาศภายในห้องโถงเป็นไปอย่างตึงเครียด มีทนงศักดิ์นั่งหน้าเคร่งขรึมอยู่ นีรนุชยังคงสะอื้นไห้ไม่หยุดโดยมีผู้เป็นแม่ปลอบประโลมไม่ห่าง ส่วนคนอื่นทนงศักดิ์ให้กลับกันไปหมดแล้วเพราะต้องการเคลียร์กันแค่คนในครอบครัว"ผมขอโทษคุณลุง คุณน้า และน้องนุชด้วยนะครับ " ติณณภัทรเดินเข้าไปหยุดตรงหน้าคนทั้งสาม ก่อนยกมือไหว้ขอโทษด้วยความรู้สึกผิด และยืดอกรับอย่างลูกผู้ชายไม่ว่าผลมันจะออกมาเป็นยังไงก็ตาม "ผมยอมรับผิดทุกอย่าง ไม่ขอแก้ตัวอะไรทั้งสิ้นครับ""ภะ..ภัทรทำแบบนี้กับนุชได้ยังไงคะ" นีรนุชเอ่ยออกมาทั้งน้ำตานองหน้า จ้องมองผู้ชายที่เธอแอบรักมาเนินนานด้วยแววตาผิดหวัง เธอผิดหวังและเสียใจมากจริง ๆ "ภัทรขอโทษนุช ภัทรขอโทษ" ภาพนีรนุชสะอื้นไห้ทำเอาติณณภัทรถึงกับเอ่ยอะไรไม่ออกมีเพียงเสียงขอโทษแผ่วเบาที่ดังซ้ำ ๆ ต่อให้เขาอธิบายอะไรไปมันก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมา หนำซ้ำคงจะทำให้ทนงศักดิ์ผู้ใหญ่ที่เขาเคารพรักดั่งพ่อรู้สึกแย่หนักกว่าเดิมจนโรคหัวใจอาจกำเริบได้หากเขาบอกว่าทั้งหมดเป็นเพราะโดนนับดาววางยาปลุกเซ็กซ์ และถ้าเป็นแบบนั้นนีรนุชคงยิ่งแย่"น้าไม่คิดเลยว่าภัทรจะทำแบบนี้ น้าผิดหวังมากจริง ๆ" นิ่มตัดพ้อเด็กหนุ่มด้ว
"ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้นะ" นับดาวพึมพำออกมาด้วยความรู้สึกหนักอึ้งในสมองหลังจากก้าวขึ้นมานับบนรถแล้ว อารมณ์หมองมนในทันตา ใบหน้าสวยฉายแววอ่อนล้าออกมาอย่างชัดเจนเธอรู้สึกเหนื่อยมากจริง ๆ กับการต้องปั้นหน้าเหมือนไม่รู้สึกสะทกสะท้านกับเรื่องที่เกิดขึ้นต่อหน้าทุกคนทั้งที่ในใจมันไม่ใช่เลยจนถึงตอนนี้ยังคงมีคำถามมากมายติดค้างอยู่ในใจว่าเมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ทำไมทุกอย่างถึงได้กลับตาลปัตรแบบนี้ ทำไมถึงรู้สึกว่ามันมีอะไรแปลก ๆ เธอลอบถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายหาอุงอิงเพื่อสอบถามเหตุการณ์เมื่อคืน ถือสายรอไม่นานปลายสายก็กดรับ(สวัสดีค่ะคุณนับดาว)"ค่ะ ฉันจะโทรมาถามเรื่องเมื่อคืนหน่อยค่ะ"(ค่ะ ฉันก็ว่าจะโทรหาคุณอยู่พอดีเลย)"เมื่อคืนคุณจำอะไรได้บางไหมคะว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมทุกอย่างมันถึงผิดแผนไปหมด ส่วนฉันจำได้แค่ว่านั่งดื่มกับคุณอยู่จากนั้นภาพก็ตัดไปเลย"(ฉันก็เหมือนกันค่ะภาพสุดท้ายที่จำได้คือนั่งดื่มอยู่กับคุณ แต่พอตื่นขึ้นมาอีกทีก็นอนอยู่ในห้องที่บ้านคุณแล้ว ฉันถามออยแม่บ้านของคุณแล้วเธอก็บอกว่าเหมือนกัน เป็นไปได้ไหมคะว่าพวกเราจะเผลอดื่มแก้วที่มียานอนหลับเขาไปด้ว
@บ้านอัครกุลติณณภัทรทิ้งเตียงตัวลงนอนแผ่หลาบนเตียงนุ่ม หลับตาลงด้วยอาการหนักอึ้งในสมองเพราะคิดไม่ตกกับเรื่องในวันนี้ นี่เขาต้องแต่งงานกับผู้หญิงร้ายกาจอย่างนับดาวจริงหรือแค่คิดก็หนักใจตั้งไว้แล้ว ไม่รู้ว่าหลังจากนี้ต้องเจอกับอะไรอีก ไหนจะนีรนุชที่ยังไม่ได้คุยกันสักนิด เธอคงโกรธและเกลียดเขามากขนาดเขาขอคุยกับเธอก่อนกลับเธอยังปฏิเสธแล้ววิ่งหนีขึ้นห้องไป ไหนจะพ่อกับแม่ตัวเองอีกไม่รู้ว่าท่านทั้งสองจะมีปฏิกิริยายังไงเมื่อเขาบอกเรื่องนี้ไป ที่ผ่านมาผู้เป็นแม่ก็ดูจะไม่ชอบนับดาวอย่างชัดเจน ส่วนผู้เป็นพ่อเขาเดาไม่ถูกจริง ๆ ว่าท่านคิดยังไง"แม่ง! เพราะเธอคนเดียวนับดาว" เสียงทุ้มสบถออกมาอย่างหัวเสีย ก่อนเขาดีดตัวลุกลงจากเตียงถอดเสื้อผ้าเดินเข้าห้องน้ำหวังให้น้ำช่วยบรรเทาอารมณ์คุกรุ่นในร่างกายให้เย็นลง ทว่าเหมือนน้ำเย็น ๆ จะไม่ได้ช่วยอะไรเพราะภาพความร้ายกาจของหญิงสาวยังคงวนเวียนในสมองเขาไม่เลิก"บ้าชะมัด!" เขาสบถออกมาอีกครั้งพร้อมกับปิดฝักบัว เอื้อมมือไปหยิบผ้าเช็ดตัวมาพันรอบเอวแล้วเดินออกไปแต่งตัวก็อก! ก็อก!ระหว่างนั้นเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นเขาจึงรีบสวมเสื้อผ้าแล้วเดินไปเปิดประตู"มันเกิดอ
วันต่อมานับดาวเดินฮั่มเพลงลงมาจากชั้นบนของบ้านอย่างสบายใจ เดินเข้าไปหย่อนก้นนั่งบนโต๊ะอาหารที่มีบิดา แม่เลี้ยงใจยักษ์ และนีรนุชนั่งอยู่ด้วยใบหน้าเคลือบรอยยิ้มแสดงให้เห็นว่าเธอกำลังมีความสุขมากแค่ไหน เธอมองหน้าแม่เลี้ยงใจยักษ์พร้อมกับแสยะยิ้มมุมปากให้อย่างผู้ชนะ ก่อนเลื่อนสายตาไปบอกกล่าวกับบิดาเสียงดังฟังชัดจงใจให้ทุกคนได้ยินกันทั่วถึง "นับจดทะเบียนสมรสกับติณณภัทรววันนี้นะคะ ตอน 10โมง"ทุกคนที่นั่งบนโต๊ะอาหารไม่มีใครพูดอะไรออกมาสักคน กลับหันไปมองนีรนุชที่นั่งหน้าเศร้าด้วยความเป็นห่วงทำให้เธออดหมั่นไส้ไม่ได้จึงจงใจพูดตอกย้ำให้นีรนุชเสียใจเข้าไปอีก "พี่นุชช่วยไปเป็นพยานรักให้นับกับติณณภัทร เอ้ย! ไม่ใช่สิต้องเรียกว่าพี่ภัทรเพราะเรากำลังจะเป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายแล้ว พี่นุชช่วยไปเป็นสักขีพยานให้ได้ไหมคะ" ว่าจบเธอก็ลอบยิ้มออกมาอย่างสะใจกับสีหน้าของนีรนุชที่ดูจะแย่มากกว่าเก่า โดยเฉพาะแม่เลี้ยงใจยักษ์ที่มองเธอเขม็งคงโกรธเธอมากสินะที่ทำร้ายลูกสาวสุดที่รักของตัวเอง ไหนจะผิดหวังที่ไม่ได้ลูกเขยรวยอย่างติณณภัทรอีก"แกจะพอได้หรือยังนับดาว จะตอกย้ำให้พี่เขาเสียใจไปถึงไหน" ทนงศักดิ์ที่นั่ง
@คอนโดนับดาวนับดาวทิ้งตัวลงนอนบนเตียงอย่างหมดเรี่ยวแรงทันทีที่มาถึงคอนโดที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพ ทว่าเธอหลับตาลงได้ไม่ทิ้งห้านาทีก็ต้องสะดุ้งด้วยความตกใจกับเสียงโทรศัพท์ที่ส่งเสียงดังขึ้นระรัว รีบเอื้อมมือไปหยิบมาดูปรากฏว่าเป็นเบอร์ส้มจึงกดรับสาย(เห็นข่าวตัวเองรึยังนับ ตอนนี้เต็มโซเชียลไปหมด แล้วแกก็อธิบายมาด้วยว่ามันเกิดอะไรขึ้นทำไมในข่าวถึงแกถึงย่องจดทะเบียนสมรสกับคุณติณณภัทร)ทันทีที่เธอกดรับปลายสายก็พ่นคำพูดใส่จนไฟแลบ ทว่านั่นไม่ได้ทำให้เธอตกใจเท่ากับประโยคที่เพื่อนสาวบอกในที่สุดเรื่องของเธอกับติณณภัทรก็เป็นข่าวจนได้ เธอลอบถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนตอบเพื่อนสาวไป "แกมาหาฉันที่คอนโดสิ เดี๋ยวจะเล่าทุกอย่างให้ฟัง"(โอเคฉันจะรีบไป) ว่าจบปลายสายก็วางไป นับดาวจึงรีบเปิดเฟสบุ๊คเพื่อดูข่าวของตัวเองซึ่งมันเป็นไปตามที่เพื่อนสาวบอกไม่มีผิด หน้าฝืดเต็มไปด้วยข่าวของเธอกับติณณภัทรที่คนนับพันต่างพากันแชร์ รีบกดเข้าไปอ่านเนื้อหาข่าวด้วยความอยากรู้ว่างานนี้นักข่าวจะตีสีใส่ไข่ไปมากแค่ไหนเป็นประเด็นร้อนแรงอีกแล้วนะคะสำหรับนางแบบสาวคนดังอย่าง 'นับดาว พรนับพัน จิระกาญ' ที่ย่องไปจดทะเบียนสมรสแบบเงียบ
วันต่อมาหลังจากทำธุรส่วนตัวเสร็จนับดาวก็หยิบโทรศัพท์มาต่อสายหาติณณภัทรทันทีเพื่อบอกล่าวว่าเธอจะไปหาพ่อแม่เขาที่บ้าน ถือสายรอไม่นานปลายสายก็กดรับ(มีอะไร)"เมียแค่จะโทรมาบอกสามีนะคะ ว่าตอนนี้กำลังจะขับรถไปไหว้พ่อกับแม่สามีที่บ้าน พร้อมกับขนเสื้อผ้าไปอยู่กับสามีแล้ว" เธอเอ่ยบอกปลายสายอย่างอารมณ์ดี(หยุดเลยนะนับดาว ไม่ว่าคุณคิดจะทำอะไรหยุดคิดเดี๋ยวนี้) ปลายสายกดเสียงพูดอย่างดุดัน ทว่านับดาวหาได้สนใจไม่ ตอบกลับอย่างท้าทาย "ไม่หยุดค่ะ เจอกันที่บ้านนะคะคุณสามี บ๊ายบาย" ว่าจบก็กดวางสายเธอหัวเราะออกมาอย่างมีความสุขเพียงคิดว่าตอนนี้อีกคนกำลังโกรธจนเลือดขึ้นหน้า ก่อนจะรีบขับรถตรงไปยังบ้านของเขาด้วยความเร็ว เมื่อมาถึงบ้านอัครกุลปรากฏว่าเห็นรถชายหนุ่มจอดอยู่แล้วไม่รู้ว่าตอนที่เธอโทรมาเขาอยู่บ้านอยู่แล้ว หรือพอรู้ว่าเธอจะมาเลยรีบกลับบ้านก่อนกันแน่ ที่สำคัญตอนนี้เขากำลังเดินหน้าบอกบุญไม่รับตรงมายังรถของเธอราวกับว่ากำลังรอการมาของเธออยู่ เธอกระตุกยิ้มมุมปากอย่างคนเหนือกว่า ก่อนจะเปิดประตูลงจากรถยืนมองเขาพร้อมกับส่งยิ้มหวานไปให้ "สามีมารับเมียเหรอคะ""ฉันมาไล่ต่างหาก กลับไปบ้านนี้ไม่มีใครต้อนรับเธ
"โอ้ย! คุณทำบ้าอะไรเนี่ยติณณภัทร" นับดาวร้องโวยวายออกมาเสียงดังลั่นเมื่ออีกคนเปิดประตูลงจากรถเดินอ้อมมาเปิดประตูฝั่งที่เธอนั่งอยู่ แล้วจับแขนดึงให้เธอลงจากรถ เธอพยายามขืนตัวใช้อีกมือเหนี่ยวรั้งเบาะสุดแรงไม่ให้ตัวลอยไปตามแรงดึง แต่ก็ไม่อาจต้านกำลังคนตัวโตกว่าได้ สุดท้ายก็ถูกเขาดึงออกจากรถได้สำเร็จทันทีที่ดึงหญิงสาวออกจากรถได้สำเร็จติณณภัทรก็รีบเดินกลับไปขึ้นรถฝั่งคนขับจัดการล็อกประตูรถด้วยความเร็วไม่ต้องการให้อีกคนขึ้นรถได้ จากนั้นก็ขับออกไปโดยไม่สนใจสักนิดว่าเธอจะกลับยังไง "อ๊าย! ไอ้บ้า ไอ้ผู้ชายเฮงซวย" นับดาวส่งเสียงกรีดในลำคอกระโดดเต้นเร่า ๆ ด้วยความโมโห สายตามองตามรถคันหรูที่เคลื่อนจากไปอย่างคับแค้นใจ ก่อนจะกลับมาสนใจสภาพตัวเองต่อว่าจะกลับไปที่บ้านชายหนุ่มยังไงตอนนี้เธอไม่มีทั้งกระเป๋าเงิน และโทรศัพท์ติดตัวเลยเพราะอยู่ในรถยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห ความแค้นนี้เธอจะต้องได้ชำระคิดว่าทำแบบนี้จะล้มเลิกความตั้งใจเธอได้เหรอบอกเลยว่าไม่ ยิ่งเขาทำแบบนี้ก็ยิ่งกระตุ้นต่อมอยากเอาชนะเธอพยายามสงบสติอารมณ์ให้เย็นลง ก่อนหันซ้ายแลขวามองหารถแท็กซี่เผื่อว่าจะขับผ่านมาบ้างเธอจะได้กลับที่บ้านชายหนุ่มอีกคร