แชร์

บทที่ 13 ไหว้พ่อแม่สามี

วันต่อมาหลังจากทำธุรส่วนตัวเสร็จนับดาวก็หยิบโทรศัพท์มาต่อสายหาติณณภัทรทันทีเพื่อบอกล่าวว่าเธอจะไปหาพ่อแม่เขาที่บ้าน ถือสายรอไม่นานปลายสายก็กดรับ

(มีอะไร)

"เมียแค่จะโทรมาบอกสามีนะคะ ว่าตอนนี้กำลังจะขับรถไปไหว้พ่อกับแม่สามีที่บ้าน พร้อมกับขนเสื้อผ้าไปอยู่กับสามีแล้ว" เธอเอ่ยบอกปลายสายอย่างอารมณ์ดี

(หยุดเลยนะนับดาว ไม่ว่าคุณคิดจะทำอะไรหยุดคิดเดี๋ยวนี้) 

ปลายสายกดเสียงพูดอย่างดุดัน ทว่านับดาวหาได้สนใจไม่ ตอบกลับอย่างท้าทาย "ไม่หยุดค่ะ เจอกันที่บ้านนะคะคุณสามี บ๊ายบาย" ว่าจบก็กดวางสาย

เธอหัวเราะออกมาอย่างมีความสุขเพียงคิดว่าตอนนี้อีกคนกำลังโกรธจนเลือดขึ้นหน้า ก่อนจะรีบขับรถตรงไปยังบ้านของเขาด้วยความเร็ว เมื่อมาถึงบ้านอัครกุลปรากฏว่าเห็นรถชายหนุ่มจอดอยู่แล้วไม่รู้ว่าตอนที่เธอโทรมาเขาอยู่บ้านอยู่แล้ว หรือพอรู้ว่าเธอจะมาเลยรีบกลับบ้านก่อนกันแน่ 

ที่สำคัญตอนนี้เขากำลังเดินหน้าบอกบุญไม่รับตรงมายังรถของเธอราวกับว่ากำลังรอการมาของเธออยู่ เธอกระตุกยิ้มมุมปากอย่างคนเหนือกว่า ก่อนจะเปิดประตูลงจากรถยืนมองเขาพร้อมกับส่งยิ้มหวานไปให้ "สามีมารับเมียเหรอคะ"

"ฉันมาไล่ต่างหาก กลับไปบ้านนี้ไม่มีใครต้อนรับเธอ"  

ทว่าคำตอบที่อีกคนสวนกลับทำเอาเธอต้องหุบยิ้มลงฉับพลัน แสร้งตีหน้าเศร้าเอ่ยด้วยน้ำเสียงตัดพ้อทำเหมือนเสียใจทั้งที่ความจริงไม่ได้รู้สึกอะไรสักนิด "สามีพูดแบบนี้เมียเสียใจนะคะ" 

"ฉันรู้เธอแสแสร้ง" ติณณภัทรกดเสียงว่าคนที่ตีหน้าเศร้าอย่างเหลืออดมองลงมาจากดาวอังคารก็รู้ว่าเธอแสร้งทำ เขารู้สึกเอือมระอากับเธอเต็มทนแล้วจริง ๆ นึกว่าจดทะเบียนเสร็จเธอจะเลิกวุ่นวายกับเขา แต่มันไม่ใช่เลยเธอกลับยิ่งวุ่นวายมากกว่าเดิม

"หว่า..ถูกสามีรู้ทันอีกล่ะ" คนถูกรู้ทันรำพึงออกมาเบา ๆ พร้อมกับรอยยิ้มบาง ๆ ที่ผุดขึ้นประดับมุมปากหยักสามีของเธอนี่ช่างแสนรู้จริง ๆ ไม่ว่าเธอจะทำอะไรก็รู้ทันไปหมด อีกคนได้แต่ส่ายหน้าไปมาอย่างเอือมระอาจับจ้องใบหน้าสวยเขม็งหากฉีกเนื้อเธอได้เขาคงทำไปแล้ว

นับดาวรู้ว่าชายหนุ่มกำลังโกรธเธอมากแค่ไหน แต่แล้วไงใครแคร์ เอ่ยออกมาอย่างลอยหน้าลอยตา "เข้าไปข้างในกันเถอะค่ะคุณสามี" ว่าจบก็ก้าวเท้าเดินฉับ ๆ เข้าไปในบ้านโดยไม่รอให้อีกคนอนุญาต ซึ่งแน่นอนว่าติณณภัทรไม่ยอมให้เธอเข้าไปพบพ่อแม่เขาง่าย ๆ เพราะกลัวเธอจะไปทำนิสัยไม่ดีใส่พวกท่าน

"หยุดเดี๋ยวนี้นับดาว ผมบอกให้กลับไป" รีบตามไปกระชากแขนเธอไว้จนร่างบางตัวหมุนเซถลาปะทะอกเขาดังปึกทำเอานับดาวใบหน้าเหยเกด้วยความเจ็บ แต่กระนั้นเธอก็ยังไม่ยอมแพ้พยายามสะบัดแขนออกจากการจับกุมสุดแรงเมื่อเธอตั้งใจไว้แล้วก็จะทำให้ได้ "ปล่อยฉันนะติณณภัทร ฉันแค่จะไปทำความเคารพพ่อแม่สามีตามมารยาทมันจะอะไรนักหนา"

"เธอนี่มันดื้อด้านจริง ๆ นับดาว ก็บอกแล้วไงว่าคนบ้านนี้ไม่ต้อนรับเธอ" ติณณภัทรเองก็ไม่ยอมแพ้ยิ่งออกแรงบีบต้นแขนเล็กมากขึ้น ๆ จนอีกคนรู้สึกเจ็บเหมือนกับกระดูกจะแตกเป็นเสี่ยง ๆ น้ำตาคลอเบ้าอย่างห้ามไม่ได้

"คุณจะเล่นแบบนี้ใช่ไหมได้" คิดว่าเธอจะยอมเจ็บฝ่ายเดียวเหรอไม่มีทาง ว่าจบเธอก็ก้มลงกัดหลังมือหนาอย่างแรงระบายความโกรธที่คุกรุ่นในกาย

"โอ๊ย! ยัยบ้า" คนถูกกัดร้องโอดโอยออกมาด้วยความเจ็บ รีบสะบัดมือออกจากแขนเล็กก้มมองหลังที่มีรอยเขี้ยว และเลือดซิบออกมาด้วยแววตาวาวโรจน์ ขณะที่เจ้าของรอยเขี้ยวไม่ได้รู้สึกผิดสักนิด

"สมน้ำหน้า" เอ่ยกระแทกเสียงพร้อมยกยิ้มออกมาด้วยความสะใจ จากนั้นก็รีบเดินกึ่งวิ่งหมายเข้าไปในบ้าน ทว่าก้าวได้ไม่เท่าไรเธอก็ต้องร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจเมื่อถูกอีกคนตามมาจับตัวขึ้นอุ้มพาดบ่า พยายามดีดดิ้นรัวกำปั้นทุบตีแผ่นหลังคนตัวโตสุดแรงหวังให้เขาปล่อยลง "ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้นะติณณภัทร บอกให้ปล่อย"

"อย่าหวังว่าผมจะปล่อยให้คุณเข้าไปพบพ่อแม่ผมได้" แรงทุบตีเพียงน้อยนิดของนับดาวไม่ได้ทำให้ติณณภัทรรู้สึกเจ็บสักนิด กลับอุ้มเธอเดินตรงไปที่รถตัวเองด้วยท่าทางสบาย ไม่ว่ายังไงเขาจะไม่ยอมให้ผู้หญิงนิสัยกร้าวร้าวอย่างนับดาวพบพ่อแม่เด็ดขาด โดยเฉพาะผู้เป็นแม่หากพบกันคงได้ปะทะฝีปากกันแน่ ๆ เพราะต่างคนต่างฝีปากดีด้วยกันทั้งคู่

"ไอ้บ้าติณณภัทรปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ ปล่อยสิโว้ย!" นับดาวร้องโวยวายด้วยความโมโห แม้รู้ว่าสู้แรงคนตัวโตกว่าไม่ได้แต่เธอก็ยังดีดดิ้น และรัวกำปั้นใส่แผ่นหลังกว้างไม่หยุด 

ทว่าเธอก็ต้องหน้านิ่วคิ้วขมวดในเวลาต่อมาเมื่อถูกคนป่าเถื่อนจับยัดเข้าไปในรถฝั่งข้างคนขับเหมือนเธอเป็นสิ่งของทำให้ศีรษะเธอโขกกับขอบประตูอย่างแรง แค่นั้นไม่พอยังหน้าคะมำชนช่องใส่ของระหว่างเบาะอีกคงไม่ต้องถามว่าเจ็บแค่ไหน

ติณณภัทรรู้ว่าหญิงสาวคงเจ็บน่าดูแต่ไม่คิดสนใจรีบเดินอ้อมไปขึ้นฝั่งคนขับ แล้วบึ่งรถออกจากบ้านทันทีไม่รอให้อีกคนได้ตั้งตัวทำให้นับดาวที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัวเซถลาชนคอนโซลรถเต็ม ๆ ในตอนที่รถเลี้ยวออกจากรั้วบ้านออัครกุล

"โอ๊ย! ไอ้บ้าติณณภัทรฉันเจ็บนะ จะฆ่ากันรึไง" เธอตะเบ็งเสียงด่าตัวต้นเหตุด้วยความโมโหพลางขยับตัวนั่งให้เข้าที่เข้าทาง ให้ตายเถอะเขาทำแบบนี้เหมือนต้องการฆ่าเธอทางอ้อมชัด ๆ หากไม่ติดว่าเขากำลังขับรถอยู่นะจะเอาคืนให้หนักเลย

"ผู้หญิงดื้อด้านอย่างเธอเจ็บเป็นด้วยเหรอ" ติณณภัทรย้อนถามด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันพร้อมกับตวัดสายตามองเธอแวบหนึ่ง แล้วจดจ่อกับถนนต่อ

"คุณจะพาฉันไปไหน" นับดาวเลือกไม่ต่อล้อต่อเถียงต่อยิงถามใส่แทน ตอนนี้เธออยากรู้มากกว่าว่าเขาจะพาเธอไปไหน  "กลับไปส่งฉันที่บ้านคุณเดี๋ยวนี้นะ"

"..."

"ฉันพูดกับคุณไม่ได้ยินรึไงติณณภัทร" เสียงห้วนเอ่ยออกมาดังกว่าเดิมเมื่ออีกคนทำเหมือนไม่ได้ยินคำพูดของเธอ แต่เธอก็ยังได้รับความเงียบตอบกลับมาเหมือนเดิม ยิ่งทำให้อารมณ์เธอเดือดดาลมากกว่าเดิมยิ่งทำให้เธออยากเอาชนะ

"ติณณภัทร!" โน้มไปตะเบ็งเสียงเรียกใกล้หูของเขาดังลั่นทำเอาอีกคนแสบแก้วหูจนต้องตบไฟเลี้ยวจอดข้างทางฉับพลัน

"เธอทำบ้าอะไร" ติณณภัทรยกมือขึ้นลูบหูตัวเองเบา ๆ พลางจ้องร่างบางข้าง ๆ ด้วยความโมโห

"นึกว่าหูหนวกไงเลยต้องเรียกดัง ๆ" นับดาวลอยหน้าลอยตาตอบพร้อมกับยกยิ้มร้ายใส่เขาไปหนึ่งทีอย่างผู้ชนะ

ท่าทางแสนยียวนและคำพูดกวนประสาทของหญิงสาวทำเอาติณณภัทรกัดกรามกรอดด้วยความโกรธจัด ก่อนจะกดเสียงพูดอย่างดุดัน "ลงไปจากรถฉันเดี๋ยวนี้ ก่อนฉันจะหมดความอดทนแล้วฆ่าเธอตาย" 

"อุ้ย! กลัวจังเลยค่ะคุณสามีข๋า" นับดาวยกมือทาบอกแสร้งทำเป็นกลัวทั้งที่ในใจกำลังยิ้มเยาะอยู่ เธออยากจะรู้เหมือนกันว่าเขาจะทำอะไร

นั่นทำให้ความอดทนของติณณภัทรหมดลง

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status