หน้าหลัก / โรแมนติก / พ่ายรักเมียนิตินัย / บทที่ 12 สามีสุดที่เกลียด

แชร์

บทที่ 12 สามีสุดที่เกลียด

ผู้เขียน: ลภัสลัล
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-14 13:07:24

@คอนโดนับดาว

นับดาวทิ้งตัวลงนอนบนเตียงอย่างหมดเรี่ยวแรงทันทีที่มาถึงคอนโดที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพ ทว่าเธอหลับตาลงได้ไม่ทิ้งห้านาทีก็ต้องสะดุ้งด้วยความตกใจกับเสียงโทรศัพท์ที่ส่งเสียงดังขึ้นระรัว รีบเอื้อมมือไปหยิบมาดูปรากฏว่าเป็นเบอร์ส้มจึงกดรับสาย

(เห็นข่าวตัวเองรึยังนับ ตอนนี้เต็มโซเชียลไปหมด แล้วแกก็อธิบายมาด้วยว่ามันเกิดอะไรขึ้นทำไมในข่าวถึงแกถึงย่องจดทะเบียนสมรสกับคุณติณณภัทร)

ทันทีที่เธอกดรับปลายสายก็พ่นคำพูดใส่จนไฟแลบ ทว่านั่นไม่ได้ทำให้เธอตกใจเท่ากับประโยคที่เพื่อนสาวบอกในที่สุดเรื่องของเธอกับติณณภัทรก็เป็นข่าวจนได้ เธอลอบถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนตอบเพื่อนสาวไป "แกมาหาฉันที่คอนโดสิ เดี๋ยวจะเล่าทุกอย่างให้ฟัง"

(โอเคฉันจะรีบไป) ว่าจบปลายสายก็วางไป

นับดาวจึงรีบเปิดเฟสบุ๊คเพื่อดูข่าวของตัวเองซึ่งมันเป็นไปตามที่เพื่อนสาวบอกไม่มีผิด หน้าฝืดเต็มไปด้วยข่าวของเธอกับติณณภัทรที่คนนับพันต่างพากันแชร์ รีบกดเข้าไปอ่านเนื้อหาข่าวด้วยความอยากรู้ว่างานนี้นักข่าวจะตีสีใส่ไข่ไปมากแค่ไหน

เป็นประเด็นร้อนแรงอีกแล้วนะคะสำหรับนางแบบสาวคนดังอย่าง 'นับดาว พรนับพัน จิระกาญ' ที่ย่องไปจดทะเบียนสมรสแบบเงียบ ๆ กับนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงอย่างคุณ 'ติณณภัทร อัครสกุล'

แต่ที่ร้อนแรงกว่านั้นคือมีคนวงในกระซิบมาว่านางแบบสาวคนดังไปแย่งคู่หมั้นของพี่สาวมานี่สิคะ ไม่รู้ว่าเป็นจริงหรือเปล่างานนี้ชาวเน็ตคงต้องสวมบทโคนันตามสืบกันแล้วละคะว่าจะจริงหรือเท็จ

ทันทีที่อ่านข่าวจบนับดาวถึงกับกำหมัดแน่นมันไม่ใช่แค่เรื่องเธอจดทะเบียนสมรสกับติณณภัทร แต่ยังเกี่ยวกับเรื่องนีรนุชด้วยซึ่งปาปารัสซี่ไม่มีทางรู้เรื่องนี้ได้แน่ ๆ หากไม่มีคนในบ้านของเธอ หรือคนที่อยู่ในเหตุการณ์เมื่อวานเป็นคนเอาออกมาบอก ตอนนี้เธอสงสัยอยู่สองคนคือนีรนุชกับแม่เลี้ยงใจยักษ์เพราะดูมีเหตุจูงใจที่สุดแล้ว

และดูเหมือนตอนนี้กระแสสังคมจะโจมตีเธอหนักมากมีคอมเมนท์ด้านลบเต็มไปหมด ที่ผ่านมาเธอมีแต่ข่าวในด้านที่ไม่ดีพอมีเรื่องแบบนี้คนส่วนใหญ่ก็ตัดสินไปเองแล้วว่าเป็นเรื่องจริง ซึ่งเธอก็ไม่เถียงเพราะเรื่องนี้คือความจริง แต่สิ่งที่เธอต้องทำคือหาตัวคนปล่อยข่าวให้ได้

เธอพ่นลมหายใจออกมาพรืดใหญ่ ก่อนจะกดปิดหน้าจอโทรศัพท์วางลงที่เดิม จากนั้นก็หลับตาลงเพื่อพักผ่อนสายตา แต่เพียงเสี้ยวนาทีก็ต้องปรือตาอีกครั้งเพราะเสียงโทรศัพท์ เมื่อหยิบมาดูเป็นเบอร์ของติณณภัทรนั่นเองเธอจึงกดรับสายพอจะเดาได้ว่าเขาโทรมาทำไม

"คิดถึงเมียหรอกคะคุณสามี" รู้ทั้งรู้ว่าเขาโทรมาด้วยเรื่องอะไร แต่เธอก็มิวายพูดกวนประสาทอีก

(คุณเป็นคนปล่อยข่าวใช่ไหมนับดาว)

ปลายสายเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงจริงจังไม่มีแววล้อเล่นบ่งบอกได้ว่าเขาโกรธมากแค่ไหน

"คุณคิดว่าฉันจะโง่ปล่อยข่าวให้คนด่าตัวเองรึไง อยากรู้ว่าใครเป็นคนปล่อยข่าวก็สืบเอาสิพ่อคูณ หากคุณมีหลักฐานว่าฉันเป็นคนทำ ฉันจะยอมหย่าให้เลยเอาไหม"

นับดาวก็ไม่ยอมเช่นกันตอบกลับด้วยน้ำเสียงห้วน แถมยังกล้าท้าทายอีกในเมื่อเธอไม่ได้เป็นคนทำจะกลัวทำไม

ดีเสียอีกให้เขาเป็นคนสืบหากเป็นแบบที่เธอคิดเขาจะได้ตาสว่างสักทีว่าคนสองแม่ลูกนั่นไม่ได้แสนดีอย่างที่คิด

(ก็ไม่แน่ คนอย่างเธอมันทำได้ทุกอย่างอยู่แล้วนิเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ)

แต่เหมือนปลายสายจะฟังหูสายทะลุหูขวายังมีหน้ามาว่าเธออีก เป็นแบบนี้ก็สุดแล้วแต่เถอะ

"ก็แล้วแต่จะคิด ฉันไม่มีเวลามานั่งอธิบายกับคนใจแคบแบบคุณหรอก"

ว่าจบก็กดวางสายทันทีให้รอให้ปลายสายพูดอะไรต่อ

"เชิญโง่ให้สองคนแม่ลูกนั่นหลอกต่อไปเถอะ" เธอบ่นพึมพำอย่างหงุดหงิด ก่อนจะลุกเดินไปหยิบน้ำในตู้เย็นมาดื่มดับอารมณ์คุกรุ่นในกาย

แกร็ก!

ระหว่างนั้นประตูห้องก็ถูกเปิดเข้ามานับดาวไม่ต้องออกไปดูก็รู้แล้วว่าเป็นส้มเพื่อนสนิทเพราะมีเธอคนเดียวที่รู้รหัสห้องนี้ ไม่ทันขาดคำเสียงของเพื่อนสาวก็ดังโวยวายขึ้น

"ยัยนับอยู่ไหนมาคุยกันให้รู้เรื่องเลย"

แต่ผิดคาดนิดหน่อนเมื่อเดินออกมาดูยังห้องนั่งเล่นปรากฏว่าแบงค์มาด้วย แถมตอนนี้ทั้งสองก็มองมาทีเธอราวกับจะเขมือบหัวยังไงยังงั้น งานนี้เธอคงต้องนั่งตอบคำถามทั้งสองยาว ๆ แล้วล่ะ

"ว่ามาฉันกับไอ้แบงค์รอฟังอยู่" ส้มยิงคำถามทันทีที่นับดาวหย่อนก้นนั่งบนโซฟาฝั่งตรงข้าม

"ข่าวนั่นเป็นจริงทุกอย่าง ฉันไม่มีอะไรจะปฏิเสธ" นับดาวลอบถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนยอมรับไปตามตรง ไม่คิดแก้ตัวใด ๆ เธอทำจริงก็ต้องยอมรับต่อให้เพื่อนทั้งสองจะมองเธอเปลี่ยนไปก็ตาม "พวกแกจะว่าฉันเลว ฉันก็ยอมรับ"

คำตอบจากปากนับดาวทำเอาส้มกับแบงค์นิ่งเงียบไปชั่วครู่ หันมองหน้ากันโดยไม่ได้นัดหมายเหมือนชั่งใจอะไรบางอย่าง ซึ่งทั้งสองจักนิสัยนับดาวดีว่าเธอไม่มีทางทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลแน่นอน บางทีเบื้องลึกเบื้องหลังอาจมีอะไรมากกว่าที่เห็นทั้งสองเชื่อแบบนั้น ยิ่งเรื่องจดทะเบียนยิ่งแล้วใหญ่เพราะรู้ ๆ กันอยู่ว่านับดาวขยาดผู้ชายขนาดที่ป่าวประกาศว่าชาตินี้จะไม่ขอแต่งงาน หรือยุ่งเกี่ยวกับผู้ชาย

"เรื่องนี้มันมีอะไรมากกว่าที่เห็นใช่ไหม" ส้มมองหน้าถามอย่างคาดคั้น ซึ่งนับดาวก็ไม่คิดจะปิดบังเพราะยังไงเรื่องมันก็แดงขึ้นมาขนาดนี้แล้ว จึงตัดสินใจเล่าให้เพื่อนทั้งสองฟังตั้งแต่ต้นจนจบ

"ทำไมแกทำแบบนี้ว่ะนับ" ฟังเพื่อนสาวเล่าจบแบงค์ก็อดโกรธไม่ได้จริง ๆ เพราะทั้งเขา และส้มเคยเตือนไปแล้วว่าให้หยุดเรื่องที่คิดจะเอาคืนสองคนแม่ลูกนั่น แต่เพื่อนสาวก็ไม่ฟังสุดท้ายเป็นไงล่ะให้ทุกข์แก่ท่านทุกข์นั้นถึงตน "เห็นไหมว่าผลมันออกมาเป็นยังไง"

"ใช่นับ แล้วทำไมแกถึงไม่ปรึกษาเรื่องนี้กับพวกฉันสักคำ" ส้มเอ่ยเสริมมองหน้าเพื่อนสาวอย่างตัดพ้อ

"ถ้าฉันบอกพวกแกก็จะห้ามไม่ให้ฉันทำ และในเมื่อเรื่องมันเกิดขึ้นแล้วฉันก็ต้องยอมรับ แล้วเดินหน้าต่อ"

"ที่พวกฉันห้ามเพราะรัก และหวังดีกับแกนะ" ส้มเอ่ย

"ฉันรู้ว่าพวกแกรัก และหวังดีกับฉัน แต่ฉันไม่สามารถปล่อยวางเรื่องนี้ได้จริง ๆ จนกว่าสองคนแม่ลูกนั่นจะได้รับกรรม"

"สรุปแกยังจะเดินหน้าเอาคืนสองคนแม่ลูกนั่นต่อ ไม่ว่าต้องแลกมาด้วยอะไรก็ตาม" ส้มถามย้ำให้แน่ใจว่าเธอเข้าใจไม่ผิดเพราะดูจากสายตาอาฆาต และใบหน้าจริงจังแล้วเพื่อนสาวคงไม่ล้มเลิกเรื่องนี้แน่

"ใช่"

"งั้นตามใจแกก็แล้วกัน แต่ทำอะไรก็นึกถึงผลเสียที่ตามมาด้วย ยังไงฉันกับแบงค์ก็อยู่ข้างแกเสมอ" สุดท้ายส้มก็ต้องร่วมลงเรือลำเดียวกับเพื่อนสาว เพราะความรัก และความผูกพันธ์ที่มีต่อกันถึงแม้จะไม่เห็นด้วยสักเท่าไรก็ตาม

สำหรับคนอื่นนับดาวอาจจะเป็นคนแรง ๆ นิสัยไม่ดี แต่ในฐานะเพื่อนนับดาวคือเพื่อนที่ดีที่สุด และนับดาวก็ไม่ได้ร้ายแบบไม่มีเหตุผลเธอเชื่อว่าเพื่อนสาวต้องเจออะไรมามากมายแน่ถึงได้จงเกลียดจงชังสองแม่ลูกนั่นขนาดนี้ ส่วนแบงค์เองก็คิดแบบนี้เพราะเคยได้ยินเรื่องปัญหาภายในครอบครัวจากนับดาวมามากพอสมควร

"ขอบคุณพวกแกมากนะ ที่ยังยืนข้างฉันเสมอแม้ว่าฉันจะนิสัยไม่ดีก็ตาม" นับดาวทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ออกมารู้สึกซึ้งใจในความรักของเพื่อน ๆ ที่เธอสัมผัสมาได้ตลอด ก่อนจะลุกเดินเข้าไปสวมกอดทั้งสองหลวม "ฉันรักพวกแกนะ"

"ฉันก็รักแก ยัยนับดาวนิสัยไม่ดี" ส้มเอ่ยแกล้มหยอกล้อพลางสวมกอดตอบอย่างแนบแน่นส่งผ่านความรู้สึกให้เพื่อนสาว

"ฉันก็รักแกนะ" แบงค์ก็ไม่ยอมน้อยหน้าบอกรักออกไปเสียงหนักแน่น และมันแฝงไปด้วยความรู้สึกบางอย่างที่เกินคำว่าเพื่อน ใช่เขาไม่ได้รู้สึกกับนับดาวแค่เพื่อน แต่เขาแอบรักนับดาวมานานแล้วตั้งแต่เรียนอยู่มหาวิทยาลัยปีหนึ่ง

ทว่าเพราะมีคำว่าเพื่อนค้ำคออยู่บวกกับนับดาวเคยพูดเสมอว่าชาตินี้จะไม่ขอข้องเกี่ยวกับผู้ชายในเชิงชู้สาวเขาจึงทำได้เพียงเก็บซ่อนความรู้สึกเอาไว้ กลัวว่าบอกไปความสัมพันธ์อันดีนี้จะจบลง เรื่องที่ได้รับรู้ในวันนี้ทำให้เขาเจ็บไม่น้อยแต่จะทำยังไงได้ล่ะนอกจากทำใจเพราะแสดงอะไรออกไปไม่ได้มาก

"แล้วแกจะเอายังไงต่อตั้งแต่เกิดเรื่องคนที่เคยดีลงานกับเราพากันทยอยยกเลิกงานไปหมดเลย ไหนจะคอมเมนท์ด้านลบอีก ชาวเน็ตเมาท์กันสนุกปากเลย" ส้มเอ่ยขึ้นหลังจากผละกอดเพื่อนสาวแล้ว พลางล้วงโทรศัพท์ในกระเป๋าสะพายออกมาเปิดดูข่าว

"ปล่อยไปเถอะ เดี๋ยวนานไปข่าวก็เงียบเองแหละ" นับดาวเอ่ยอย่างไม่ใส่มากนัก เธอทน และก้าวผ่านความรู้สึกเสียใจ เจ็บปวดจากคำก่นด่า และการกระทำรุนแรงของบิดามาได้เพราะฉะนั้นคำพูดของชาวเน็ต หรือใคร ๆ ก็ไม่สามารถกระทบกระเทือนต่อมความรู้สึกของเธอได้อีกแล้ว อีกอย่างเธอก็เคยเจอเรื่องแบบนี้มาบ่อยจนชินตั้งแต่เข้าวงการนางแบบมา

"มันต้องอย่างนี้สิ" ส้มยกยิ้มออกมาอย่างพอใจกับความเข้มแข็งของเพื่อนสาวตอนแรกพอเห็นคอมเมนท์แรง ๆ ในเน็ตเธอก็อดกังวลไม่ได้ แต่เพื่อนสาวเข้มแข็งกว่าที่เธอคิดจริง ๆ "แล้วเรื่องงานล่ะ ไม่มีงานแกะเอาอะไรกิน"

"ฉันมีเงินเก็บอยู่ไม่ต้องห่วงหรอก นั่งกินนอนกินได้อีกเป็นปี" นับดาวเอ่ยติดตลก แต่ที่เธอพูดคือความจริงเพราะตลอดเวลาที่ทำงานเธอจะแยกเงินส่วนหนึ่งเก็บไว้ใช้เผื่อยามฉุกเฉิน ทว่านั่นมันก็เป็นแค่คำพูดทำให้เพื่อนสบายใจเพราะความจริงแล้วเธอมีทางได้เงินใช้โดยไม่ต้องควักของตัวเองสักบาท หนำซ้ำงานนี้ยังสามารถทำให้สองแม่ลูกนั่นอิจฉาตาร้อนจนนั่งไม่ติดเลยล่ะอยากสร้างเรื่องให้เธอดีนัก

กระเป๋าเงินที่ว่าก็คือติณณภัทรยังไงล่ะในเมื่อเขาเป็นสามีเธอแล้ว เธอก็ต้องใช้ประโยชน์ให้คุ้มค่าหน่อยสิ

"หากไม่พอเอาที่เราก่อนได้นะ" แบงค์เอ่ยด้วยความเป็นห่วงเป็นใย

"ได้ ฉันจะเอาจากแกให้หมดตัวเลย" นับดาวตอบกลับติดตลก

ทั้งสามนั่งคุยกันไปเรื่อย ๆ จนค่ำส้มกับแบงค์จึงกลับไป

นับดาวถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนจะลุกไปอาบน้ำ แล้วเข้านอนเพราะพรุ่งนี้มีเรื่องให้ทำอีกมากมายโดยเฉพาะต้องไปหาพ่อแม่ของติณณภัทร แม้เธอจะจดทะเบียนสมรสกับเขาเพราะเหตุผลบางอย่าง แต่เธอก็ควรเข้าไปทำความเคารพผู้ใหญ่ทั้งสองสักหน่อย ถึงไม่รู้ว่าทั้งสองจะต้อนรับเธอหรือไม่

ที่สำคัญคือไปหาสามีสุดที่เกลียดอย่างติณณภัทรบอกเลยงานนี้เธอจะทำให้เขาเห่าเป็นหมาให้ได้ทำท่ารังเกียจเธอดีนัก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • พ่ายรักเมียนิตินัย   บทที่ 13 ไหว้พ่อแม่สามี

    วันต่อมาหลังจากทำธุรส่วนตัวเสร็จนับดาวก็หยิบโทรศัพท์มาต่อสายหาติณณภัทรทันทีเพื่อบอกล่าวว่าเธอจะไปหาพ่อแม่เขาที่บ้าน ถือสายรอไม่นานปลายสายก็กดรับ(มีอะไร)"เมียแค่จะโทรมาบอกสามีนะคะ ว่าตอนนี้กำลังจะขับรถไปไหว้พ่อกับแม่สามีที่บ้าน พร้อมกับขนเสื้อผ้าไปอยู่กับสามีแล้ว" เธอเอ่ยบอกปลายสายอย่างอารมณ์ดี(หยุดเลยนะนับดาว ไม่ว่าคุณคิดจะทำอะไรหยุดคิดเดี๋ยวนี้) ปลายสายกดเสียงพูดอย่างดุดัน ทว่านับดาวหาได้สนใจไม่ ตอบกลับอย่างท้าทาย "ไม่หยุดค่ะ เจอกันที่บ้านนะคะคุณสามี บ๊ายบาย" ว่าจบก็กดวางสายเธอหัวเราะออกมาอย่างมีความสุขเพียงคิดว่าตอนนี้อีกคนกำลังโกรธจนเลือดขึ้นหน้า ก่อนจะรีบขับรถตรงไปยังบ้านของเขาด้วยความเร็ว เมื่อมาถึงบ้านอัครกุลปรากฏว่าเห็นรถชายหนุ่มจอดอยู่แล้วไม่รู้ว่าตอนที่เธอโทรมาเขาอยู่บ้านอยู่แล้ว หรือพอรู้ว่าเธอจะมาเลยรีบกลับบ้านก่อนกันแน่ ที่สำคัญตอนนี้เขากำลังเดินหน้าบอกบุญไม่รับตรงมายังรถของเธอราวกับว่ากำลังรอการมาของเธออยู่ เธอกระตุกยิ้มมุมปากอย่างคนเหนือกว่า ก่อนจะเปิดประตูลงจากรถยืนมองเขาพร้อมกับส่งยิ้มหวานไปให้ "สามีมารับเมียเหรอคะ""ฉันมาไล่ต่างหาก กลับไปบ้านนี้ไม่มีใครต้อนรับเธ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-14
  • พ่ายรักเมียนิตินัย   บทที่ 14 แค่เมียในทะเบียนสมรส

    "โอ้ย! คุณทำบ้าอะไรเนี่ยติณณภัทร" นับดาวร้องโวยวายออกมาเสียงดังลั่นเมื่ออีกคนเปิดประตูลงจากรถเดินอ้อมมาเปิดประตูฝั่งที่เธอนั่งอยู่ แล้วจับแขนดึงให้เธอลงจากรถ เธอพยายามขืนตัวใช้อีกมือเหนี่ยวรั้งเบาะสุดแรงไม่ให้ตัวลอยไปตามแรงดึง แต่ก็ไม่อาจต้านกำลังคนตัวโตกว่าได้ สุดท้ายก็ถูกเขาดึงออกจากรถได้สำเร็จทันทีที่ดึงหญิงสาวออกจากรถได้สำเร็จติณณภัทรก็รีบเดินกลับไปขึ้นรถฝั่งคนขับจัดการล็อกประตูรถด้วยความเร็วไม่ต้องการให้อีกคนขึ้นรถได้ จากนั้นก็ขับออกไปโดยไม่สนใจสักนิดว่าเธอจะกลับยังไง "อ๊าย! ไอ้บ้า ไอ้ผู้ชายเฮงซวย" นับดาวส่งเสียงกรีดในลำคอกระโดดเต้นเร่า ๆ ด้วยความโมโห สายตามองตามรถคันหรูที่เคลื่อนจากไปอย่างคับแค้นใจ ก่อนจะกลับมาสนใจสภาพตัวเองต่อว่าจะกลับไปที่บ้านชายหนุ่มยังไงตอนนี้เธอไม่มีทั้งกระเป๋าเงิน และโทรศัพท์ติดตัวเลยเพราะอยู่ในรถยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห ความแค้นนี้เธอจะต้องได้ชำระคิดว่าทำแบบนี้จะล้มเลิกความตั้งใจเธอได้เหรอบอกเลยว่าไม่ ยิ่งเขาทำแบบนี้ก็ยิ่งกระตุ้นต่อมอยากเอาชนะเธอพยายามสงบสติอารมณ์ให้เย็นลง ก่อนหันซ้ายแลขวามองหารถแท็กซี่เผื่อว่าจะขับผ่านมาบ้างเธอจะได้กลับที่บ้านชายหนุ่มอีกคร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-14
  • พ่ายรักเมียนิตินัย   บทที่ 15 จูบตัดกำลัง

    หลังจากเอาของเครื่องใช้ในกระเป๋าสัมภาระใบเล็กที่พกมาด้วยวางในห้องเรียบร้อยแล้ว นับดาวก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า จากนั้นก็เดินลงไปยังชั้นล่าง ก่อนจะพบกับติณณภัทรที่นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นจึงเดินเข้าไปหา หย่อนก้นนั่งจนตัวแทบสิงกับเขา"เมียขอนั่งด้วยนะคะสามี" จงใจยั่วอารมณ์ของเขา และมันก็ได้ผลอีกคนรีบขยับตัวออกห่างทำเหมือนรังเกียจเธอมาก ๆ สายตาจ้องมองราวกับจะกินเลือดกินเนื้อเธอยังไงยังงั้น กดเสียงพูดอย่างดุดัน"เลิกวุ่นวายกับฉันสักทีนับดาว""เมียคงทำไม่ได้ผัวค่ะผัวข๋า" ไม่ว่าเปล่าคราวนี้เธอขยับขึ้นไปนั่งบนตักของเขาพร้อมกับใช้มือโอบลำคอแกร่งไว้"เธอจะท้าทายฉันมากไปแล้วนะ" ติณณภัทรถึงกับความอดทนขาดผึ่งไม่คิดหยั่งมืออีกต่อไป ผลักร่างบางอย่างแรงจนเธอกระเด็นออกจากตักล้มลงไปนั่งกองที่พื้น เขาชายตามองเพียงเล็กน้อย ก่อนจะลุกเดินออกไปไม่คิดสนใจใยดีแรงกระแทกกับพื้นแข็งทำเอานับดาวเจ็บไม่น้อย แต่ที่เจ็บยิ่งกว่าคือใจ มองตามหลังร่างสูงที่เดินจากไปด้วยแววตาโกรธเคือง พร้อมกับสบถออกมาเบา ๆ "ไอ้บ้าเอ้ย! เจ็บชะมัด" ก่อนจะพยุงตัวลุกขึ้นยืน จากนั้นก็เดินออกจากห้องนั่งเล่นไปยังศาลาที่สนามหญ้าหน้าบ้าน ครืดดด~เ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-14
  • พ่ายรักเมียนิตินัย   บทที่ 16 แหวนเพชร 8กะรัต

    ติ๊ง! ติ๊ง!เสียงนาฬิกาปลุกในโทรศัพท์ดังขึ้นอย่างต่อเนื่องปลุกให้นับดาวที่นอนหลับอยู่บนเตียงรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาในช่วงเช้าของวันใหม่"อื้อ..เช้าแล้วเหรอเนี่ยเพิ่งนอนไปเอง" เธอส่งเสียงครวญครางออกมาเบา ๆ พลางปรือตาขึ้นมาด้วยความรู้สึกที่ยังง่วงจัด เมื่อคืนกว่าจะข่มตาหลับได้ก็ครึ่งค่อนคืนเพราะไม่คุ้นกับที่นอนใหม่เท่าไรจะนอนต่อก็ไม่ได้มาอยู่บ้านคนอื่นในฐานะลูกสะใภ้ก็ควรตื่นเช้าทำตัวให้เหมาะสมสักหน่อยจะได้ไม่โดนว่า ถึงแม้ไม่ได้เป็นลูกสะใภ้จริง ๆ ก็ตามเธอพาตัวเองลงจากเตียงอย่างขี้เกียจ จัดการอาบน้ำแต่งตัว เมื่อเสร็จก็เดินลงไปยังชั้นล่างในเวลาเจ็ดโมงกว่า ๆ ถือว่าเป็นประวัติศาสตร์เลยทีเดียวเพราะปกติตะวันไม่ชี้โด่เธอไม่มีทางลุกจากที่นอนแน่นอน นอกเสียจากวันไหนมีถ่ายงานเช้าเมื่อเดินลงมาถึงชั้นล่างก็เห็นทุกคนนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหาร เธอจึงเดินเข้าไปร่วมแจม แม้รู้ว่าแม่สามีกับคนที่ได้ชื่อว่าสามีไม่อยากร่วมโต๊ะด้วย ทำไมเธอถึงรู้น่ะเหรอก็มือค่ำของเมื่อวานทั้งสองคนไม่ยอมลงมาทานข้าว แต่กลับสั่งให้แม่บ้านยกขึ้นไปให้ในห้อง ทิ้งให้เธอนั่งทานกับพ่อสามีสองคน ถามว่าเธอรู้สึกอะไรไหมตอบเลยว่าไม่กลับทานข้าวอร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-14
  • พ่ายรักเมียนิตินัย   บทที่ 17 ใครเหนือกว่ากัน

    "ว๊าย!"เอี๊ยดดด!นับดาวกรี๊ดออกมาด้วยความตกใจพร้อมกับเหยียบเบรกกะทันหันจนเสียงล้อรถเสียดสีกับพื้นถนนดังสนั่นทั่วบริเวณเมื่อจู่ ๆ ก็มีรถมอเตอร์ไซค์วิ่งมาปาดหน้าหลังงจากขับรถออกจากบ้านจิระกาญได้เพียงสิบกิโลเมตรส่งผลให้เธอหน้าคะมำชนพวงมาลัยรถเต็ม ๆ แต่นับว่าโชคยังดีที่รัดเข็มขัดนิรภัยไม่อยากนั้นอาจเจ็บตัวมากกว่านี้ก็ได้"บ้าเอ๊ยขับรถภาษาอะไรว่ะ" เธอสบถออกมาด้วยโกรธ เมื่อตั้งสติได้ก็รีบเปิดประตูลงจากรถเดินไปหาคู่กรณีสองคนที่จอดรถขว้างอยู่"พวกคุณขับรถภาษาอะไรกัน เกิดฉันเบรกไม่ทันโดนชนขึ้นมาจะทำยังไง" ต่อว่าไปด้วยอารมณ์โกรธสุดขีด"กรี๊ด!" ทว่าเสี้ยววินาทีต่อมาเธอก็ต้องร้องกรี๊ดด้วยความตกใจอีกครั้งเมื่อจู่ ๆ คู่กรณีซึ่งน่าจะเป็นผู้หญิงกับผู้ชายปาไข่ไก่ดิบเข้าใส่ ซึ่งมันพุ่งโดนหน้าผากเต็ม ๆ ทำเอาเธอเจ็บจนน้ำตาคลอเบ้า ก่อนไข่จะแตกลงชะโลมใบหน้าของเธอจนเละแทะ กลิ่นคาวของมันแทบทำให้เธออาเจียนออกมา"กรี๊ด! พวกคุณทำบ้าอะไร มาปาไข่ใส่ฉันทำไม" เธอกรี๊ดออกมาอย่างรับไม่ได้พลางยกมือขึ้นลูบไข่ออกจากใบหน้า ทว่าสองคนนั้นก็ยังปาไข่ใส่ไม่หยุดราวกับห่าฝนทำให้เธอโดนไข่เข้าไปตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า แรงกระแ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-14
  • พ่ายรักเมียนิตินัย   บทที่ 18 ไม่เคย

    ติณณภัทรไม่คิดจะผลักหญิงสาวออกเหมือนครั้งที่ผ่านมาในเมื่อเธออยากเล่นแบบนี้เขาก็จะเล่นด้วยเพราะถึงยังไงเขาก็เป็นผู้ชายไม่เสียหายอะไรอยู่แล้ว และเขาก็ไม่ใช่คนดีอะไรมือหนายกขึ้นกดท้ายทอยเล็กทุยไว้มั่น แล้วบดจูบกลีบปากนุ่มหยุ่นตอบอย่างหนักหน่วง จูบราวกับจะกระชากวิญญาณอีกคนออกจากร่าง ใช้ฟันขบเม้มฝากรอยแผลบนกลีบปากทำให้เธอรู้ว่าใครกันแน่ที่เหนือกว่าเจ้าของริมฝีปากอิ่มถึงกับประมวลผลไม่ทันกับการเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วของชายหนุ่มทั้งที่ก่อนหน้านี้ยังมีท่าทีรังเกียจกันอยู่เลย เธอเผลอจิกเล็บลงบนไหล่กว้างอย่างแรงในตอนที่อีกคนขบกัดกลีบปากซ้ำ ๆ จนรู้สึกเจ็บแปลบ น้ำตาคลอเบ้าด้วยความเจ็บ กลิ่นคาวเลือดลอยแตะจมูกจนเธอแทบอยากจะอาเจียน แค่นั้นไม่พอเขายังบดขยี้บนแผลอย่างรุนแรงจนร้าวระบมไปหมดตอนนี้ดูเหมือนเธอจะเสียเปรียบเขาเสียแล้วคล้ายกับตัวเองเป็นฝ่ายถูกกระทำ แต่ถึงกระนั้นเธอก็ยังไม่ยอมแพ้จูบตอบ ขบกัดริมฝีปากหนาฝากรอยแผลให้เขาเช่นกันภายในห้องนอนคุกรุ่นไปด้วยแรงอารมณ์ของทั้งสอง ต่างคนต่างอยากเอาชนะ ติณณภัทรใช้ความช่ำชองเล่นงานหญิงสาวทั้งบดขยี้ ขบกัดกลีบปากนุ่มซ้ำ ๆ เรียวลิ้นกวาดต้อนในโพรงปากฉ่ำต้องการ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-14
  • พ่ายรักเมียนิตินัย   บทที่ 19 สั่งสอนคนขี้ยั่ว

    "อึก" นับดาวรู้สึกปวดร้าวระบมตรงกลางกลายเป็นอย่างมากเมื่อคนด้านบนเริ่มสอบสะโพกกระแทกกระทั้นท่อนเนื้อใหญ่โตเข้าออกในร่องสาวแห้งฝืด ความเจ็บทำเอาเธอเผลอหุบขาเข้าอย่างลืมตัว แต่ก็โดนมือหนาจับให้ถ่างออกอีกครั้ง ทั้งที่เป็นครั้งที่สองแต่ทำไมเธอถึงรู้สึกเจ็บมากขนาดนี้กันนะ ไหนใครบอกว่าเซ็กซ์ทำให้มีความสุขไงนั่นมันคงจะใช้ได้กับคนที่เป็นคู่รักกันเท่านั้นแหละ มือเรียวขยำผ้าปูที่นอนจนเส้นเลือดหลังมือปูดนูนข่มความรวดร้าวในกาย หลับตาเชิดหน้ากัดริมฝีปากเบา ๆ ทำเหมือนว่าเธอรู้สึกดีกับมันแค่ไหน ทั้งที่ในใจร้องตะโกนว่าเจ็บจะตายแล้วโว้ยเพราะคนด้านบนถาโถมแรงกายเข้าใส่อย่างหนักหน่วง ไร้ความปราณีทุกแรงกระทำติณณภัทรจงใจทำให้หญิงสาวเจ็บ ขณะที่สายตาจับจ้องใบหน้าสวยไปด้วยเพื่อดูปฏิกิริยาของเธอ มุมปากหนาแสยะยิ้มอย่างเย้ยหยันที่ได้เห็นเศษเสี้ยวความเจ็บปวดบนใบหน้าสวยที่เธอเผลอแสดงออกมาโดยไม่รู้ตัว ก่อนเคลื่อนมือไปดึงบราเซียร์ออกทำให้สองเต้าอวบดีดเด้งออกมาโชว์ความใหญ่โต ฝ่ามือนุ่มกอบกำสองเต้าแล้วบีบเคล้นแรง ๆ พร้อมทั้งโน้มหน้าลงไปซุกไซ้ลำคอระหงฝังเขี้ยวคมบนผิวเนื้อขาวเรียบเนียน ขณะเอวสอบยังส่งแรงเข้าออกไม่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-14
  • พ่ายรักเมียนิตินัย   บทที่ 20 ความคิดสกปรก

    เช้าวันต่อมา"วันนี้แม่นับดาวไปไหนล่ะ ปกติจะมาเสนอหน้าแล้วนิ" อรอินที่กำลังเดินเข้าไปในห้องอาหารเอ่ยถามบุตรชายอย่างประชดประชันเมื่อเห็นแค่สองพ่อลูกนั่งทานอาหารอยู่โดยไร้เงาของอีกคน"ยังไม่ตื่นมั้งครับ" ติณณภัทรตอบอย่างไม่ใส่ใจมากนักพลางนึกถึงสภาพของหญิงสาวในเมื่อคืนที่โดนเอาจนสลบคาอกของเขา หลังจากเธอสลบเขาก็ไม่คิดจะดูดำดูดีสักนิด สวมเสื้อผ้าแล้วกลับไปยังห้องนอนตัวเองเลย เช้านี้เธอไม่ตื่นก็คงไม่แปลกโดนเล่นงานหนักเสียขนาดนั้น เผลอ ๆ ระบมจนลงจากเตียงไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่จะโทษเขาก็ไม่ได้ในเมื่อเธออวดเก่งเอง"ใช้ไม่ได้ ผู้หญิงอะไรตื่นหลังสามี ตื่นหลังพ่อแม่สามีแทนที่จะลุกขึ้นมาเตรียมอาหารให้" อรอินอดค่อนแขวะไม่ได้อะไรที่เป็นนับดาวเธอก็ไม่ชอบหมดนั่นแหละ ต่อให้เป็นเรื่องเล็กน้อยก็ตาม ซึ่งประมุขของบ้านนกับคนเป็นบุตรชายเพียงมองหน้ากันนิ่ง ๆ ไม่ออกความคิดเห็นด้วยเพราะเกรงว่าจะยืดยาวไม่รู้จบอรอินนึกขัดใจไม่น้อยที่สองพ่อลูกไม่คุยกับเธอ ตวัดดสายตามองหน้าทั้งสองอย่างอารมณ์เสีย ก่อนหันไปสั่งให้แม่บ้านตักข้าวต้มให้ จากนั้นก็นั่งทานไปเงียบ ๆ ติณณภัทรเมื่อทานอาหารเช้าเสร็จก็ลุกเดินออกไปขึ้นรถขับตรงไปยัง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-14

บทล่าสุด

  • พ่ายรักเมียนิตินัย   บทที่ 59 โชคดีที่มีเธอ (จบ)

    นับดาวให้กำเนิดบุตรสาวในวันเกิดของตัวเองพอดิบพอดีเพียงแต่คนละเวลากันเท่านั้น วันเกิดเธอปีนี้จึงกลายเป็นสุขสันต์วันคลอดแทนทุกคนต่างปลื้มปิติ โดยเฉพาะติณณภัทรวินาทีที่ได้เห็นหน้าบุตรสาวถึงกับกลั้นน้ำตาไม่อยู่"ได้เจอกันสักทีนะลูกสาวพ่อ" ก้มจูบบนฝ่าเท้าน้อย ๆ ของบุตรสาวด้วยความรักใคร่ ก่อนเลื่อนสายตาขึ้นมองใบหน้าจิ้มลิ้มอย่างพินิศ คิ้วเข้มขมวดชนกันเล็กน้อยเพราะทุกส่วนบนใบหน้าบุตรสาวเหมือนผู้เป็นแม่ไม่มีผิด แทบไม่มีส่วนไหนที่ได้เขามาเลยมันน่าน้อยใจชะมัด"นับคุณดูสิลูกลำเอียงชะมัดเลย คิ้วก็เอาของแม่มา ตาก็เอาของแม่มา จมูกก็เอาของแม่มา ปากก็เอาของแม่มาไม่มีส่วนไหนที่เหมือนผมเลย อุตส่าห์ทำแทบตาย" เขาแหงนหน้าขึ้นเอ่ยกับเมียสาวทีเล่นทีจริงทำเอาทุกคนอดยิ้มตามไม่ได้"แสดงว่าลูกรักแม่มากกว่าพ่อไงคะ" นับดาวตอบกลับยิ้ม ๆ อีกคนหาได้ยอมน้อยหน้าไม่เอ่ยประกาศเสียงกร้าว เชิดหน้าขึ้นอย่างมาดหมาย "แบบนี้ยอมไม่ได้นะ ลูกคนต่อไปต้องเหมือนผมแล้วแหละ"คำพูดของชายหนุ่มเรียกเสียงหัวเราะจากทุกคนได้อีกระลอกหนึ่ง คงจะมีแต่แบงค์ที่ต้องกลำกลืนฝืนทนมองภาพทั้งสองหยอกล้อกันทั้งที่ในใจมันชอกช้ำอย่างหนัก ส้มซึ่งรู้ดีทำได

  • พ่ายรักเมียนิตินัย   บทที่ 58 สุขสันต์วันคลอด

    แสงแดดสีทองยามสี่โมงเย็นตกกระทบผิวน้ำทะเลสีเขียวมรกตทอประกายระยิบระยับ สายลมเอื่อย ๆ พัดโชยพากลิ่นอายทะเลลอยตลบอบอวลทำให้ผู้ได้กลิ่นรู้สึกผ่อนคลาย"อากาศดีจังเลยค่ะ นานแล้วสิที่ไม่ได้พักผ่อนแบบนี้" นับดาวหันบอกกล่าวกับร่างสูงที่เดินเคียงข้าง จับมือพากันเดินเลียบไปตามแนวชายหาดด้วยใบหน้าเคลือบรอยยิ้ม ไม่รู้ว่านานแค่ไหนแล้วที่เธอไม่ได้มาเที่ยวทะเล และดื่มด่ำกับบรรยากาศแบบนี้ต้องขอบคุณผู้ชายข้าง ๆ ที่ทำให้เธอได้สัมผัสกับบรรยากาศแบบนี้อีกครั้งด้วยความรู้สึกที่แตกต่างไปจากเมื่อก่อนสิ้นเชิงทุกครั้งที่มาเที่ยวทะเลเธอจะมาเพราะต้องการแก้เบื่อแก้เซ็ง มาด้วยอารมณ์โดดเดี่ยว แต่ครั้งนี้มันเต็มไปด้วยความสุขจนไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้"ใช่ครับ" ติณณภัทรระบายยิ้มตอบเขาเองก็ไม่ได้เที่ยวแบบนี้มานานแล้วเหมือนกัน ได้มาเที่ยวพักผ่อนแบบนี้กับคนที่รักจึงมีความสุขไม่น้อย "ได้มาพักผ่อนกับคนที่รักมันดีกว่าคนเดียวเป็นไหน ๆ เลยว่าไหม""ใช่ค่ะ นับไม่เคยรู้เลยว่าการมีความรัก มีครอบครัวมันดีขนาดนี้ต้องขอบคุณคุณนะคะที่เข้ามาในชีวิตของนับ" เสียงหวานเอื้อนเอ่ยมาจากก้นบึ้งของหัวใจ"ผมก็ขอบคุณคุณเช่นกันที่เข้ามา

  • พ่ายรักเมียนิตินัย   บทที่ 57 ความสุข

    วันต่อมาหลังจากเรื่องร้าย ๆ ผ่านไปวันนี้ติณณภัทรจึงตั้งใจพานับดาวไปทำบุญ และไหว้แม่ของเธอ"จะไปไหนกันฮึสองคนนี้" อรอินเอ่ยทักบุตรชายกับลูกสะใภ้ที่เดินเข้ามานั่งบนโต๊ะอาหารด้วยใบหน้าเคลือบรอยยิ้มเพราะดูจากการแต่งตัวแล้วเหมือนจะออกไปไหนกัน"ผมกับนับจะไปทำบุญกันครับ" ติณณภัทรตอบด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ก่อนจะหันมองหน้าเมียสาวพร้อมยื่นมือไปกอบกุมมือเรียวไว้หลวม ๆ นับดาวส่งยิ้มหวานให้คนเป็นสามีบาง ๆ "ก็ดีเหมือนกันนะจะได้เป็นมงคลให้กับชีวิต แม่ขอให้ชีวิตคู่หลังจากนี้ของลูกทั้งสองพบแต่ความสุขนะ" อรอินเห็นดีเห็นงามด้วย และก็อวยพรให้เด็กทั้งสองพบเจอแต่ความสุขในชีวิตคู่หลังจากที่ผ่านเรื่องราวร้าย ๆ มามากมาย"พ่อก็ขอให้ลูกทั้งสองมีความสุขมาก ๆ นะ จะเป็นพ่อแม่คนแล้วทำอะไรก็นึกถึงจิตใจกันและกันให้มาก ๆ อย่าเอาอารมณ์เข้าว่า อย่าละเลยความรู้สึกกัน รักและดูแลกันให้เหมือนวันแรกที่รักกัน ความสม่ำเสมอและเสมอต้นเสมอปลายเป็นสิ่งสำคัญในชีวิตคู่มาก พ่อหวังว่าลูกทั้งสองคนจะมีชีวิตคู่ที่มีความสุขไปจนแก่จนเฒ่า" พิภพอวยพรเด็กทั้งสองต่อหลังจากภรรยาเอ่ยจบ และไม่ลืมจะให้ข้อคิดในการใช้ชีวิตคู่กับทั้งสองด้วย"ขอบคุณคุ

  • พ่ายรักเมียนิตินัย   บทที่ 56 คิดถึง โหยหา

    นับดาวกำแหวนในมือแน่น แล้วเดินกลับไปยังห้องชายหนุ่มอีกครั้ง คาดว่าตอนนี้เขาคงขึ้นมาจากชั้นล่างแล้ว ยืนรวบรวมความกล้าข่มความตื่นเต้นอยู่หน้าห้องนานนับนาที ก่อนค่อย ๆ เปิดประตูเข้าไปเสียงเปิดประตูทำให้ติณณภัทรที่ทำท่าจะตามหาหญิงสาวหลังจากเข้ามาในห้องแล้วไม่พบเธอรีบหันไปมอง ครั้นเห็นคนตัวเล็กก็รีบเดินเข้าไปถามไถ่ "ไปไหนมาฮึ""ฉันมีอะไรจะมอบให้คุณค่ะ" นับดาวไม่ได้ตอบคำถามของชายหนุ่ม แต่กลับจับมือข้างซ้ายของเขาขึ้นมา แล้วจัดการเอาแหวนที่กำไว้บรรจงสวมบนนิ้วนางของเขา "คุณมอบแหวนแต่งงานให้ฉันแล้ว ถึงคราวฉันมอบแหวนแต่งงานให้คุณบ้างแล้ว แหวนวงนี้แทนความรักจากฉันนะคะ""นะ..นี่มันอะไรกัน เธอความทรงจำกับมาแล้วเหรอ" ติณณภัทรถึงกับประมวลผลไม่ทันกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ความรู้สึกในตอนนี้คือทั้งดีใจ สับสนงุนงง และไม่เข้าใจ ดวงตาคมกริบปริ่มไปด้วยน้ำสีใสจ้องมองใบหน้าสวยเชิงตั้งคำถาม "ฉันรักคุณนะคะ" นับดาวตอบคำถามของเขาแทนด้วยการบอกความรู้สึกออกไปพร้อมกับก้มจูบหลังมือของเขา ก่อนจะเลื่อนมือขึ้นไปคล้องลำคอแกร่งเอาไว้หลวม ๆ แล้วเขย่งเท้าขึ้นประทับริมฝีปากจูบริมฝีปากหนาติณณภัทรไม่ได้ปฏิเสธถึงแม้ตอนนี้จะยั

  • พ่ายรักเมียนิตินัย   บทที่ 55 แทนความรัก

    หลังจากนับดาวฟื้นขึ้นมาหมอก็ให้นอนดูอาการอีกสองวันจึงอนุญาตให้กลับบ้านได้เพราะร่างกาย และผลการสแกนสมองปกติดีทุกอย่าง ส่วนเรื่องที่เธอจำอะไรไม่ได้หมอประเมินว่าอาจเป็นอาการความทรงจำหายไปชั่วคราว อีกไม่นานความทรงจำน่าจะกลับมาเหมือนหลาย ๆ เคสที่ผ่านมา"บ้านของเราจำได้ไหม" ติณณภัทรเอ่ยถามคนที่นั่งข้าง ๆ ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนเมื่อรถจอดลงหน้าบ้านอัครกุลสิ้นเสียงทุ้มนับดาวก็ทอดสายตามองเข้าบ้านหลังใหญ่โตตรงหน้า คิ้วสวยขมวดเป็นปมคล้ายกับว่าจำอะไรไม่ได้เลย"ฉันจำไม่ได้เลย" เปล่งเสียงตอบด้วยใบหน้าเศร้า แววตาหม่นหมองจนติณณภัทรต้องรีบรั้งเธอมากอดใช้มือลูบศีรษะเล็กทุยปลอบประโลม "จำไม่ได้ก็ไม่เป็นไรนะ เดี๋ยวก็จำได้เองไม่ต้องรีบร้อน""ค่ะ""เข้าบ้านกันดีกว่าป่านนี้พ่อกับแม่คงรออยู่ ท่านดีใจมากเลยนะที่รู้ว่าเธอได้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว" "ค่ะ" คนที่อิงแอบหน้ากับไหล่กว้างพยักรับ แล้วผละตัวออกจากอ้อมกอดคนตัวโต ซึ่งติณณภัทรก็รีบเปิดประตูลงจากรถเดินอ้อมาเปิดประตูให้เธอ"เชิญครับ" บอกกล่าวด้วยใบหน้ายิ้มแย้มพลางยื่นมือไปให้เธอจับ อีกคนยื่นมือไปวางบนมือหนาแล้วพาตัวลุกจากรถโดยไม่ลืมจะเอ่ยขอบคุณคนตัวโต "ขอบคุณนะคะ

  • พ่ายรักเมียนิตินัย   บทที่ 54 แหวนแต่งงานของเธอคนเดียว

    วันต่อมาวันนี้ติณณภัทรตั้งใจว่าจะสวมแหวนแต่งงานให้นับดาวถึงแม้เธอจะยังไม่รู้สึกตัวก็ตาม เขาโทรไปยังร้านดอกไม้สั่งให้ทางร้านจัดช่อดอกกุหลาบสีแดงซึ่งเป็นดอกไม้ที่เธอชอบจำนวนหนึ่งร้อยดอก แล้วให้นำมาส่งที่โรงพยาบาลหลังจากได้รับช่อดอกไม้เขาก็นำมันไปวางข้างเตียงหญิงสาว เอื้อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน มองใบหน้าสวยอย่างสื่อความหมาย "ฉันเอาดอกไม้ที่เธอชอบมาให้ตื่นมาดูสิสวยมากเลยนะ และวันนี้ฉันก็มีบางอย่างจะให้เธอด้วยนะ"เขาว่าแล้วนิ่งเงียบไป ก่อนล้วงกล่องกำมะหยี่สีแดงออกมาจากกระเป๋ากางเกงเปิดออกแล้วหยิบแหวนมาถือไว้ "แหวนวงนี้เป็นแหวนที่ฉันตั้งใจสั่งทำเป็นพิเศษเพื่อเป็นแหวนแต่งงานสำหรับเธอเลยนะ หวังว่าเมื่อตื่นขึ้นมาเห็นเธอจะชอบมันนะ"ว่าจบก็จับมือด้านซ้ายของเธอมาบรรจงสวมแหวนเพชรลงบนนิ้วนาง จากนั้นก็ประทับจูบลงบนหลังมือนิ่มแช่ค้างไว้แบบนั้นและในจังหวะนั้นเองนิ้วเรียวทั้งห้าก็ขยับขึ้นเบา ๆ ทำให้ติณณภัทรต้องรีบผละดูให้แน่ใจว่าไม่ได้คิดไปเอง และใช่นิ้วของเธอขยับจริง ๆ เขาค่อย ๆ เลื่อนสายตาขึ้นมองใบหน้าสวยด้วยหัวใจที่เต้นไม่เป็นส่ำ ๆ ตั้งแต่เกิดมาเขาไม่เคยลุ้น และตื่นเต้นกับอะไรเท่านี้มาก่อนเลย"

  • พ่ายรักเมียนิตินัย   บทที่ 53 รักเธอเข้าเต็มเปา

    "นับดาวเมื่อไรเธอจะตื่นขึ้นมาคุยกับฉันสักที ฉันคิดถึงเสียงพูดของเธอ คิดถึงรอยยิ้มของเธอ อยากกอดเธอจนใจจะขาดแล้ว เลิกทรมานกันสักทีได้ไหม"ติณณภัทรเอ่ยเสียงเศร้าจ้องมองหน้าคนบนเตียงที่นอนหลับมานานนับเดือนด้วยหัวใจที่ห่อเหี่ยว ใช่เวลาผ่านไปเป็นเดือนแล้วแต่หญิงสาวก็ไม่รู้สึกตัวสักทีอาการทางร่ายกายของเธอหายดีหมดแล้ว หมอทำการสแกนสมองก็ปกติดีแต่ทำไมเธอถึงยังไม่ฟื้นขึ้นมาก็ไม่รู้ คนรออย่างเขามันโคตรทรมานหัวใจมือหนายื่นไปจับมือเรียวมากอบกุมไว้แน่นส่งผ่านความรู้สึกมากมายที่อยู่ในใจให้เธอได้รับรู้ หากเธอตื่นขึ้นมาเขามีคำพูดมากมายที่อยากบอก โดยเฉพาะคำว่ารักระยะเวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมามันทำให้เขารู้ว่าเธอมีความสำคัญกับชีวิตของเขามากแค่ไหน ในแต่วันที่ผ่านไปโดยไม่ได้ยินเสียงพูดคุย เสียงหัวเราะ และไม่ได้เห็นรอยยิ้มของเธอเหมือนกับชีวิตขาดอะไรไป มันเหงามันเคว้งคว้างไร้สีสันในวันที่คิดว่ากำลังจะเสียเธอไปเขายิ่งมั่นใจในความรู้สึกตัวเองว่าหลงรักเธอเข้าเต็มหัวใจแล้ว เธอเป็นความสุขของเขา ชีวิตในทุก ๆ วันที่มีเธอมันโคตรดีมาก ๆ แล้วแบบนี้เขาจะขาดเธอได้ยังไงกันครืดด~สายเรียกเข้าของโทรศัพท์ดังขึ้นทำให้เขาห

  • พ่ายรักเมียนิตินัย   บทที่ 52 รอสวมแหวนแต่งงาน

    หลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จติณณภัทรก็มาโรงพยาบาลทันที นั่งรอที่หน้าห้องไอซียูด้วยหัวใจมีความหวัง"เธอกับลูกต้องสู้นะฉันรออยู่" เสียงทุ้มพึมพำออกมาอย่างแผ่วเบา นัยน์ตาเศร้ามองประตูห้องไอซียูพร่ำภาวนาขอให้คนด้านในปลอดภัย ก่อนล้วงไปหยิบกล่องแหวนกำมะหยี่สีแดงที่เอาติดมาด้วยออกจากกระเป๋ากางเกงมาเปิดดู พร่ำรำพันออกมาแผ่วพริ้ว "ฉันรอสวมแหวนแต่งงานให้เธออยู่นะนับดาว"ดวงตาคมกริบจ้องมองแหวนเพชรในกล่องกำมะหยี่ด้วยความรู้สึกเศร้า แหวนเพชรวงนี้เขาตั้งใจสั่งทำให้หญิงสาวตั้งแต่รู้ว่าเธอท้องโดยสลักชื่อเขากับเธอเอาไว้ข้างในวงแหวนเพราะเขามั่นใจแล้วว่าจะร่วมเรียงเคียงหมอนไปกับเธอจนแก่เฒ่าเขาลอบถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนจะปิดกล่องแหวน แล้วใส่ไว้ในกระเป๋าทอดสายตามองไปที่หน้าห้องไอซียูเหมือนเดิม แม้ตอนนี้เวลาจะล่วงเลยมาถึงเที่ยงคืนแล้วเขาก็ไม่มีท่าว่าจะง่วงนอน และหิวสักนิดทั้งที่ตั้งแต่ไม่ได้ทานอะไรมาตั้งแต่ตอนเที่ยง ในสถานการณ์แบบนี้เขานอนและทานอะไรไม่ลงจริง ๆ จนกว่าจะรู้ว่าลูกเมียปลอดภัยแล้วหลายชั่วโมงต่อมาก็เข้าสู่เช้าของวันใหม่ ติณณภัทรก็ยังคงนั่งอยู่ที่เดิมด้วยอาการเหนื่อยล้า ใจจดใจจ่อเฝ้ารอว่า

  • พ่ายรักเมียนิตินัย   บทที่ 51 ยอมแลกทุกอย่าง

    "เกิดอะไรขึ้นกับเธอนับดาว" ติณณภัทรที่ได้ยินเสียงกรีดของนับดาวผ่านสาย ก่อนจะได้ยินเสียงเหมือนอะไรชนกันสักอย่างดังสนั่นแล้วสายก็ตัดไปทำให้เขาใจคอไม่ดีเป็นอย่างมาก พยายามติดต่อหาเธอหลายครั้งก็ปิดเครื่องได้แต่ภาวนาขออย่าให้มีอะไรเกิดขึ้นกับเธอพร้อมกับเร่งความเร็วของรถเพื่อกลับไปดูที่บ้านว่าเธอกลับไปหรือยังขับรถมาได้สักพักคิ้วเข้มก็ต้องขมวดเป็นปมด้วยความโมโหเพราะข้างหน้ารถติดยาวเหยียดทำไมต้องมาติดตอนนี้ตอนที่เขากำลังรีบ ดูเหมือนว่าข้างหน้าจะเกิดอุบัติเหตุเมื่อมองไปที่ริมถนนไกล ๆ ก็เห็นว่ามีคนจำนวนมากกำลังมุงดูอะไรกันอยู่ แวบหนึ่งที่เขานึกถึงหญิงสาวแต่ก็พยายามคิดว่ามันไม่ใช่ ยังคงขับรถต่อกระทั่งสายตาเหลือบเห็นรถคันที่เกิดอุบัติเหตุเหมือนจะชนกับเสาไฟฟ้า เท้าใหญ่เหยียบเบรกฉับพลันพร้อมกับหัวใจที่กระตุกวูบอย่างหนักรถที่เกิดอุบัติเหตุเป็นคันสีขาว และยี่ห้อเดียวกับของนับดาวไม่มีผิด จึงตัดสินใจตีไฟเลี้ยวจอดรถริมถนนแล้วเปิดประตูลงไปดู "ขอทางหน่อยครับ ขอทางหน่อยครับ" พยายามขอทางฝ่าวงล้อมผู้คนที่ยืนดูเข้าไปด้านใน ร่างกายชาวาบชั่วขณะเข่าอ่อนยวบแทบทรงตัวไม่อยู่ในตอนที่เห็นป้ายทะเบียนรถ เขาจำได้

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status