3 วันต่อมา"สรุปรู้รึยังว่านับดาวอยู่ไหน" ติณณภัทรเอ่ยถามกำพลผู้ช่วยคนสนิททันทีที่เดินเข้ามาหย่อนก้นนั่งในห้องทำงาน ที่เขาให้กำพลตามหาหญิงสาวไม่ใช่อะไรหรอกต้องการตามเธอกลับมาเซ็นใบหย่าให้ก่อนเพราะนี่ก็ผ่านไปสามวันแล้วที่เธอไม่กลับบ้าน วันนั้นเขารอให้เธอกลับมาเพื่อจะคุยเรื่องหย่าแต่รอจนแล้วจนเล่าก็ไม่มีวี่แววสรุปคืนนั้นคือเธอไม่กลับ พอเขาโทรไปก็ไม่รับสาย ส่งไลน์ไปก็ไม่อ่านหากจะหายไปก็ควรจัดการเรื่องหย่าให้เสร็จก่อนไม่ใช่ทิ้งไปดื้อ ๆ ปล่อยให้มันคาราคาซังแบบนี้"ยังไม่รู้ครับ""อย่าให้เจอนะนับดาวโดนดีแน่" คำตอบจากปากกำพลทำเอาติณณภัทรถึงกับกัดกรามกรอด แววตาฉายแววแข็งกร้าวด้วยความโมโหหากตอนนี้หญิงสาวอยู่ตรงหน้าเขาคงจับเธอฉีกเนื้อเป็นชิ้น ๆ แล้วผู้หญิงอะไรใช้ไม่ได้ ตอนนั้นแสดงออกว่าอยากได้เขาจนตัวสั่นพอมาวันนี้กลับหนีหายไปดื้อ ๆ ลมหายใจหนัก ๆ ถูกพ่นออกจากจมูกโด่งสันครั้งแล้วครั้งเล่าบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าตอนนี้อารมณ์ของเขามันพุ่งถึงขีดสุดแล้วทำเอากำพลพลอยหายใจไม่ทั่วท้องไปด้วยเพราะรู้ดีว่าเวลาเจ้านายหนุ่มโกรธมันน่ากลัวแค่ไหนเรียกได้ว่าเหมือนพายุทอร์นาโดที่พร้อมถล่มทุกอย่างให้ราบคาบ เขาพ
พรึ่บ!ติณณภัทรทุ่มร่างบางบนบ่าลงบนเตียงอย่างไม่ใยดีทำเหมือนเธอเป็นสิ่งของ "อึก!"คนถูกโยนถึงกับจุกจนตัวงอ ใบหน้าสวยเหยเกด้วยความจุกปนเจ็บที่แล่นพล่านไปทั่วแผ่นหลัง และท้องน้อย แต่นั่นเทียบไม่ได้กับความโกรธที่กำลังปะทุขึ้นมาเธอรู้สึกโกรธกับการกระทำรุนแรงของชายหนุ่มมาก พยายามข่มความเจ็บไว้ หยัดกายลุกขึ้นนั่งหันกลับไปต่อว่าเสียงดังลั่น "คุณมันไม่ใช่ลูกผู้ชายชอบใช้ความรุนแรงกับผู้หญิง""เพราะผู้หญิงอย่างเธอมันดื้อด้าน ปากดีไง" ติณณภัทรตอกกลับเสียงแข็งจ้องมองเจ้าของคำต่อว่าเขม็ง ขณะที่มือก็เริ่มปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตลงทีละเม็ดอย่างใจเย็น ซึ่งสวนทางกับคนบนเตียงที่รู้สึกหวั่นใจเป็นอย่างมาก แววตาโกรธเคืองไหวระริกอย่างห้ามไม่ได้เมื่อร่างสูงตรงหน้าเคลื่อนมือลงไปถอดผ้าท่อนล่างต่อ หลังจากถอดเสื้อพาดริมเตียงแล้วเกิดใจเสาะขึ้นมาดื้อ ๆ ครั้นส่วนกลางกายอันใหญ่โตที่โอบล้อมด้วยเส้นเอ็นปูดนูนของร่างสูงดีดผึ่งออกมาปะทะสายตา ลำคอพานแห้งผากจนต้องลอบกลืนน้ำลายอึกใหญ่ ร่างกายขยับถอยหลังไปเองอัตโนมัติเมื่อหวนนึกถึงสัมผัสหยาบโลนในคืนนั้น"ไหนบอกว่าของฉันมันเล็ก และไม่ได้เรื่องแล้วถอยหนีทำไม เก่งให้เหมือนปากหน
"อึก" นับดาวเริ่มหอบหายใจขาดห้วงเนื้อตัวแดงก่ำ และสั่นระริก เหงื่อผุดพรายเคลือบไปทั่วร่างเพราะพยายามเก็บกลั้นเสียงครางข่มความรู้สึกเสียวซ่านที่แทรกไปทุกอณูของผิวเนื้อโดยเฉพาะร่องสาวที่ถูกท่อนลำแข็งขืนตอกอัดด้วยจังหวะเนิบนาบ ขยับเข้าออกสั้น ๆ แต่เน้นหนักมันแผ่วพริ้วแต่สร้างความซ่านสยิวให้เธออย่างหนักเซ็กซ์ครั้งนี้ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกเจ็บสักนิดกลับมีความรู้สึกแปลกใหม่เข้ามาแทนที่คงเป็นเพราะถูกอีกคนปลุกเร้าจนเกิดอารมณ์ ช่องทางรักมีน้ำเป็นตัวหล่อลื่น อีกทั้งเขายังนุมนวลกว่าครั้งก่อนเป็นไหน ๆ มันรู้สึกดีและทรมานในเวลาเดียวกัน เธอกำลังพ่ายแพ้ให้เขาอีกครั้งแล้วใช่ไหม"อึก..อื้อ" ริมฝีปากอิ่มเผลอหลุดเสียงครางแผ่วออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ในตอนที่คนด้านบนถอนกายออกไปจนเกือบสุดแล้วหมุนควงส่วนปลายมนที่ค้างคาข้างในร่องหลืบ"ซี๊ดด" เช่นเดียวกับเจ้าของท่อนลำแข็งขืนที่หลุดเสียงต่ำในลำคอ แรงบีบรัดจากร่องคับแน่นสร้างความเสียวซ่านให้เขาไม่น้อยจนต้องขบกรามกรอด แล้วค่อย ๆ ดันกายกลับเข้าไปอย่างช้าๆ เพื่อให้ร่างบางได้ซึมซาบความเสียวซ่านจากแรงเสียดสีของผนังอ่อนนุ่มกับท่อนลำมหึมาของเขาสายตาจับจ้องท่อนลำที่ผล
ควันสีขาวคลุ้งถูกพ่นออกจากปากของติณณภัทรที่กำลังสูบสารนิโคตินเข้าปอดอยู่บนโซฟาภายในห้องนอน หลังจากสามารถทำให้คนปากเก่งอย่างนับดาวถอนคำพูดได้ สายตาจับจ้องแผ่นหลังขาวเนียนของคนที่นอนหลับไหลบนเตียงนิ่ง ๆ รอยยิ้มแห่งชัยชนะพลันผุดขึ้นประดับมุมปากหนาครั้นนึกถึงภาพที่หญิงสาวร้องบอกเขาด้วยน้ำเสียงสั่นระริกว่าพอได้แล้ว เธอขอถอนคำพูดทุกคำที่ว่าเขาไป แต่กว่าจะทำให้เธอสิ้นฤทธิ์ได้ก็เล่นเขาเกือบหมดท่าเหมือนกันเรียกได้ว่าภายในห้องถูกใช้เป็นที่เริงรักหมดทุกมุม เขานั่งสูบบุหรี่จนหมดมวนจึงลุกเดินเข้าห้องน้ำไปเพื่อชำระร่างกายที่เหนี่ยวเหนอะหนะจากหยาดเหงื่อ และน้ำกามแกร็ก!ทันทีที่เสียงประตูปิดลงคนที่แสร้งทำเป็นหลับอยู่บนเตียงด้วยความอับอายก็ลืมตาขึ้นมาพร้อมกับถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะใช้ผ้าห่มผืนใหญ่พันตัวจนเหลือแค่ใบหน้า รีบพาตัวลงจากเตียงเดินเก็บเศษซากเสื้อผ้า กระเป๋าสะพายมาถือไว้ แล้วค่อย ๆ เดินไปแง้มประตูชะโงกหน้าดูว่ามีใครอยู่แถวนี้ไหม เมื่อเห็นว่าปลอดคนจึงรีบวิ่งจูดกลับห้องตัวเองด้วยความเร็วก่อนที่อีกคนจะออกมาจากห้องน้ำ"อ๊ายย!" เธอใช้หมอนปิดหน้าแล้วกรีดออกมาสุดเสียงเพื่อระบายความคับแค้นใจทันที
บางทีโลกนี้ก็ไม่ยุติธรรมเอาเสียเลยทำไมคนเลว ๆ ที่ทำร้ายคนอื่นถึงยังใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข ขณะที่คนถูกกระทำต้องจมอยู่กับความเจ็บปวด"หึ"นับดาว หญิงสาวเจ้าของใบหน้าสะสวย วัย 26ปี ในชุดเดรสเกาะอกรัดรูปสีแดงเค้นหัวเราะในลำคออย่างเย้ยหยันกับความดราม่าของชีวิตตัวเอง ขณะที่สายตาจ้องมองภาพบิดา แม่เลี้ยง พี่สาวคนละแม่ และคู่หมั้นของพี่สาวนั่งคุยกันในห้องรับแขกอย่างมีความสุขด้วยแววตาเต็มไปด้วยความคับแค้นใจ..พวกเขาต่างมีความสุข ความสุขที่เธอไม่เคยได้สัมผัสตั้งแต่มารดาจากไป..เท้าเล็กบนรองเท้าส้นสูงไม่รอช้าเดินนวยนาดเข้าไปกลางวงสนทนา หย่อนก้นนั่งบนโซฟาตัวที่ยังว่างอยู่ แล้ววาดเรียวขาสวยขึ้นไขว้ห้างทำให้ชุดเดรสที่สั้นอยู่แล้วร่อนขึ้นไปอีกจนแทบเห็นแพนตี้แต่เธอหาได้แคร์ใครหน้าไหนไม่เพราะจุดประสงค์คือต้องการขัดขว้างไม่ให้ทุกคนในที่นี้มีความสุขอยู่แล้ว และมันก็ได้ผลทุกคนต่างพากันเงียบอัตโนมัติ บรรยากาศอึมครึมลงในทันตาริมฝีปากอิ่มเคลือบด้วยลิปสติกสีแดงเผยรอยยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดีเมื่อเห็นสีหน้าของคนเป็นบิดาที่แสดงออกมาว่าไม่พอใจอย่างชัดเจนกับการกระทำของเธอ"ทำตัวให้มันดี ๆ หน่อยนับดาว" ทนงศักดิ์
@ผับนับดาวในชุดเดรสสายเดียวรัดรูปสีแดงเพลิง กระโปรงสั้นเกือบเสมอแก้มก้นเดินนวยนาดเข้าไปภายในผับที่มีนักท่องราตรีนับร้อยคนด้วยท่าทางเซ็ง ๆ แม้จะมีชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาหลายคนเอ่ยแซวตลอดทางเดินเธอก็ไม่คิดจะสนใจสักนิดคืนนี้เธอต้องการมาดื่ม และสนุกเพื่อให้ลืมความเฮงซวยที่เพิ่งเจอมาเมื่อตอนเย็นเท่านั้น เธอเดินเข้าไปหย่อนก้นนั่งบนโซฟาโซนวีไอพี แล้วสั่งเครื่องดื่มดีกรีแรง ๆ กับเด็กเสิร์ฟ นั่งดื่มไปเรื่อย ๆ จนเริ่มเมาจึงเดินถือแก้วเหล้าออกไปยืนเต้น ปล่อยตัวปล่อยใจไปตามเสียงเพลงท่ามกลางนักท่องราตรีหลายสิบคนเสียงเพลงดังกระหึ่มภายในผับทุกคนต่างสนุกสนานไปกับเสียงเพลงรวมถึงนับดาว เธอโยกย้ายส่ายสะโพกตามจังหวะด้วยอารมณ์ที่สนุกสุดเหวี่ยง วู้ว!"แด่ชีวิตห่วย ๆ และครอบครัวสุดแสนเฮงซวย" เปล่งเสียงร้องโห่ออกมาดังลั่นระบายความอัดอั้นในใจ ก่อนจะยกน้ำสีอำพันในแก้วขึ้นกระดกลงคอจนหมด "นอกจากเต้นเก่งแล้ว ยังดื่มเก่งด้วยนะครับ" เสียงของใครบางคนดังแทรกขึ้นจากด้านหลังทำให้นับดาวหยุดชะงัก เมื่อหมุนตัวไปมองเจ้าของเสียงก็พบว่าเป็นชายหนุ่มหน้าตาดี แต่เธอไม่คิดสนใจหันกลับมาเต้นต่อไม่คิดตอบ หรือสร้างปฏิสัมพันธ์
หลังจากเปรมหายหลังไปติณณภัทรก็เดินเข้าไปหานับดาวที่ยืนตัวโงนเงนจะล้มแล่ไม่ล้ม ไล่สายตามองเธอตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าพร้อมกับส่ายหน้าอย่างเอือมมระอาการแต่งตัวก็โป็ หนำซ้ำยังดื่มจนไม่ได้สติอีกเธอต้องเป็นผู้หญิงประเภทไหนกันถึงไม่รักนวลสงวนตัวแบบนี้ ก็สมควรแล้วที่เป็นเหยื่อของพวกไม่ดีหากไม่ใช่เพราะเธอเป็นน้องสาวของคู่หมั้นเขาคงไม่เข้ามายุ่งแน่นอน"ผมไปส่งที่บ้าน" เขาถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงแข็งพร้อมกับจับแขนเรียวลากให้เธอเดินตามไปที่รถเพราะสภาพแบบนี้คงขับรถกลับไม่ถึงบ้านแน่ ๆ ทว่าอีกคนกลับสะบัดมือเขาออก"ไม่ต้องมายุ่งกับฉัน ฉันมาเองได้ก็กลับเองได้" นับดาวเชิดหน้าขึ้นตะเบ็งเสียงพูดอย่างถือดีถึงแม้ต้องนี้สภาพแทบทรงตัวไม่ไหวแล้วก็ตาม เธอไม่อยากได้ความช่วยเหลือจากผู้ชายที่ถือว่าเป็นศัตรูเดี๋ยวเขาจะมาทวงบุญคุณที่หลังเอาได้"ที่ฉันยุ่งก็เพราะรู้สึกสงสาร และเห็นใจคุณลุงศักดิ์กับนุช เกิดเธอขับรถแหกโค้ง หรือชนกับรถคันอื่นตายขึ้นมาทั้งสองคงเสียใจมาก""ปากเสียคุณแช่งฉันเหรอห๊ะ!" คำตอบจากปากชายหนุ่มทำเอานับดาวถึงกับปรี๊ดแตกแวดเสียงใส่ด้วยความโมโห ปรือตาที่แทบจะปิดเพราะฤทธิ์แอลกอฮ
เช้าวันต่อมาแสงแดดยามเช้าสาดส่องผ่านม่านหน้าต่างเข้ามากระทบเปลือกตาของนับดาวที่นอนหลับอยู่บนเตียงให้รู้สึกตัวตื่นในช่วงสาย ๆ ของวันใหม่ด้วยอาการไม่สดชื่นเลยสักนิด"อ่า ปวดหัวชะมัด" เธอครวญครางออกมาเบา ๆ พลางยกมือขึ้นนวดขมับเพื่อคลายอาการปวดหัว ก่อนค่อย ๆ หรี่ตาขึ้นมา คิ้วสวยขมวดเล็กน้อยเมื่อเห็นเพดานตรงหน้ามันไม่ใช่ที่คอนโด หรือที่บ้านของเธอแต่เป็นคอนโดของเพื่อนสาวคนสนิท แล้วเธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกันเมื่อคืนเธอเมาจนแทบจำอะไรไม่ได้เลย บ้าจริง"ไง ตื่นแล้วเหรอแม่สาวขี้เมา" เสียงทักทายที่ฟังดูคุ้นหูทำให้เธอหลุดจากภวังค์ความคิด ก่อนหยัดกายลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียงมองเพื่อนสาวที่ถือแก้วน้ำขิงเข้ามาเชิงตั้งคำถาม "ฉันมาอยู่ที่นี่ได้ไงอ่ะส้ม""นี่แกเมาจนจำอะไรไม่ได้เลยเหรอ" ส้มกลอกตามองหน้าเพื่อนสาวอย่างนับดาวด้วยความอ่อนใจพลางยื่นแก้วน้ำขิงอุ่น ๆ ให้ เธอละเชื่อเลยจริง ๆ "ก็แกเป็นคนโทรเรียกฉันให้ไปรับเองจำไม่ได้เหรอ""ฮึ..จำไม่ได้อ่ะ" นับดาวส่ายหน้าปฏิเสธหงิก ๆ ขณะที่ในสมองก็พยายามทบทวนเรื่องราวเมื่อคืน"ตอนฉันไปถึงแกก็นั่งคออ่อนคอพับอยู่บนพื้นข้างรถตัวเองแล้ว แค่นั้นไม่พอนะเมื่อคืนแกอาละวา