ควันสีขาวคลุ้งถูกพ่นออกจากปากของติณณภัทรที่กำลังสูบสารนิโคตินเข้าปอดอยู่บนโซฟาภายในห้องนอน หลังจากสามารถทำให้คนปากเก่งอย่างนับดาวถอนคำพูดได้ สายตาจับจ้องแผ่นหลังขาวเนียนของคนที่นอนหลับไหลบนเตียงนิ่ง ๆ รอยยิ้มแห่งชัยชนะพลันผุดขึ้นประดับมุมปากหนาครั้นนึกถึงภาพที่หญิงสาวร้องบอกเขาด้วยน้ำเสียงสั่นระริกว่าพอได้แล้ว เธอขอถอนคำพูดทุกคำที่ว่าเขาไป แต่กว่าจะทำให้เธอสิ้นฤทธิ์ได้ก็เล่นเขาเกือบหมดท่าเหมือนกันเรียกได้ว่าภายในห้องถูกใช้เป็นที่เริงรักหมดทุกมุม เขานั่งสูบบุหรี่จนหมดมวนจึงลุกเดินเข้าห้องน้ำไปเพื่อชำระร่างกายที่เหนี่ยวเหนอะหนะจากหยาดเหงื่อ และน้ำกามแกร็ก!ทันทีที่เสียงประตูปิดลงคนที่แสร้งทำเป็นหลับอยู่บนเตียงด้วยความอับอายก็ลืมตาขึ้นมาพร้อมกับถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะใช้ผ้าห่มผืนใหญ่พันตัวจนเหลือแค่ใบหน้า รีบพาตัวลงจากเตียงเดินเก็บเศษซากเสื้อผ้า กระเป๋าสะพายมาถือไว้ แล้วค่อย ๆ เดินไปแง้มประตูชะโงกหน้าดูว่ามีใครอยู่แถวนี้ไหม เมื่อเห็นว่าปลอดคนจึงรีบวิ่งจูดกลับห้องตัวเองด้วยความเร็วก่อนที่อีกคนจะออกมาจากห้องน้ำ"อ๊ายย!" เธอใช้หมอนปิดหน้าแล้วกรีดออกมาสุดเสียงเพื่อระบายความคับแค้นใจทันที
บางทีโลกนี้ก็ไม่ยุติธรรมเอาเสียเลยทำไมคนเลว ๆ ที่ทำร้ายคนอื่นถึงยังใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข ขณะที่คนถูกกระทำต้องจมอยู่กับความเจ็บปวด"หึ"นับดาว หญิงสาวเจ้าของใบหน้าสะสวย วัย 26ปี ในชุดเดรสเกาะอกรัดรูปสีแดงเค้นหัวเราะในลำคออย่างเย้ยหยันกับความดราม่าของชีวิตตัวเอง ขณะที่สายตาจ้องมองภาพบิดา แม่เลี้ยง พี่สาวคนละแม่ และคู่หมั้นของพี่สาวนั่งคุยกันในห้องรับแขกอย่างมีความสุขด้วยแววตาเต็มไปด้วยความคับแค้นใจ..พวกเขาต่างมีความสุข ความสุขที่เธอไม่เคยได้สัมผัสตั้งแต่มารดาจากไป..เท้าเล็กบนรองเท้าส้นสูงไม่รอช้าเดินนวยนาดเข้าไปกลางวงสนทนา หย่อนก้นนั่งบนโซฟาตัวที่ยังว่างอยู่ แล้ววาดเรียวขาสวยขึ้นไขว้ห้างทำให้ชุดเดรสที่สั้นอยู่แล้วร่อนขึ้นไปอีกจนแทบเห็นแพนตี้แต่เธอหาได้แคร์ใครหน้าไหนไม่เพราะจุดประสงค์คือต้องการขัดขว้างไม่ให้ทุกคนในที่นี้มีความสุขอยู่แล้ว และมันก็ได้ผลทุกคนต่างพากันเงียบอัตโนมัติ บรรยากาศอึมครึมลงในทันตาริมฝีปากอิ่มเคลือบด้วยลิปสติกสีแดงเผยรอยยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดีเมื่อเห็นสีหน้าของคนเป็นบิดาที่แสดงออกมาว่าไม่พอใจอย่างชัดเจนกับการกระทำของเธอ"ทำตัวให้มันดี ๆ หน่อยนับดาว" ทนงศักดิ์
@ผับนับดาวในชุดเดรสสายเดียวรัดรูปสีแดงเพลิง กระโปรงสั้นเกือบเสมอแก้มก้นเดินนวยนาดเข้าไปภายในผับที่มีนักท่องราตรีนับร้อยคนด้วยท่าทางเซ็ง ๆ แม้จะมีชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาหลายคนเอ่ยแซวตลอดทางเดินเธอก็ไม่คิดจะสนใจสักนิดคืนนี้เธอต้องการมาดื่ม และสนุกเพื่อให้ลืมความเฮงซวยที่เพิ่งเจอมาเมื่อตอนเย็นเท่านั้น เธอเดินเข้าไปหย่อนก้นนั่งบนโซฟาโซนวีไอพี แล้วสั่งเครื่องดื่มดีกรีแรง ๆ กับเด็กเสิร์ฟ นั่งดื่มไปเรื่อย ๆ จนเริ่มเมาจึงเดินถือแก้วเหล้าออกไปยืนเต้น ปล่อยตัวปล่อยใจไปตามเสียงเพลงท่ามกลางนักท่องราตรีหลายสิบคนเสียงเพลงดังกระหึ่มภายในผับทุกคนต่างสนุกสนานไปกับเสียงเพลงรวมถึงนับดาว เธอโยกย้ายส่ายสะโพกตามจังหวะด้วยอารมณ์ที่สนุกสุดเหวี่ยง วู้ว!"แด่ชีวิตห่วย ๆ และครอบครัวสุดแสนเฮงซวย" เปล่งเสียงร้องโห่ออกมาดังลั่นระบายความอัดอั้นในใจ ก่อนจะยกน้ำสีอำพันในแก้วขึ้นกระดกลงคอจนหมด "นอกจากเต้นเก่งแล้ว ยังดื่มเก่งด้วยนะครับ" เสียงของใครบางคนดังแทรกขึ้นจากด้านหลังทำให้นับดาวหยุดชะงัก เมื่อหมุนตัวไปมองเจ้าของเสียงก็พบว่าเป็นชายหนุ่มหน้าตาดี แต่เธอไม่คิดสนใจหันกลับมาเต้นต่อไม่คิดตอบ หรือสร้างปฏิสัมพันธ์
หลังจากเปรมหายหลังไปติณณภัทรก็เดินเข้าไปหานับดาวที่ยืนตัวโงนเงนจะล้มแล่ไม่ล้ม ไล่สายตามองเธอตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าพร้อมกับส่ายหน้าอย่างเอือมมระอาการแต่งตัวก็โป็ หนำซ้ำยังดื่มจนไม่ได้สติอีกเธอต้องเป็นผู้หญิงประเภทไหนกันถึงไม่รักนวลสงวนตัวแบบนี้ ก็สมควรแล้วที่เป็นเหยื่อของพวกไม่ดีหากไม่ใช่เพราะเธอเป็นน้องสาวของคู่หมั้นเขาคงไม่เข้ามายุ่งแน่นอน"ผมไปส่งที่บ้าน" เขาถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงแข็งพร้อมกับจับแขนเรียวลากให้เธอเดินตามไปที่รถเพราะสภาพแบบนี้คงขับรถกลับไม่ถึงบ้านแน่ ๆ ทว่าอีกคนกลับสะบัดมือเขาออก"ไม่ต้องมายุ่งกับฉัน ฉันมาเองได้ก็กลับเองได้" นับดาวเชิดหน้าขึ้นตะเบ็งเสียงพูดอย่างถือดีถึงแม้ต้องนี้สภาพแทบทรงตัวไม่ไหวแล้วก็ตาม เธอไม่อยากได้ความช่วยเหลือจากผู้ชายที่ถือว่าเป็นศัตรูเดี๋ยวเขาจะมาทวงบุญคุณที่หลังเอาได้"ที่ฉันยุ่งก็เพราะรู้สึกสงสาร และเห็นใจคุณลุงศักดิ์กับนุช เกิดเธอขับรถแหกโค้ง หรือชนกับรถคันอื่นตายขึ้นมาทั้งสองคงเสียใจมาก""ปากเสียคุณแช่งฉันเหรอห๊ะ!" คำตอบจากปากชายหนุ่มทำเอานับดาวถึงกับปรี๊ดแตกแวดเสียงใส่ด้วยความโมโห ปรือตาที่แทบจะปิดเพราะฤทธิ์แอลกอฮ
เช้าวันต่อมาแสงแดดยามเช้าสาดส่องผ่านม่านหน้าต่างเข้ามากระทบเปลือกตาของนับดาวที่นอนหลับอยู่บนเตียงให้รู้สึกตัวตื่นในช่วงสาย ๆ ของวันใหม่ด้วยอาการไม่สดชื่นเลยสักนิด"อ่า ปวดหัวชะมัด" เธอครวญครางออกมาเบา ๆ พลางยกมือขึ้นนวดขมับเพื่อคลายอาการปวดหัว ก่อนค่อย ๆ หรี่ตาขึ้นมา คิ้วสวยขมวดเล็กน้อยเมื่อเห็นเพดานตรงหน้ามันไม่ใช่ที่คอนโด หรือที่บ้านของเธอแต่เป็นคอนโดของเพื่อนสาวคนสนิท แล้วเธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกันเมื่อคืนเธอเมาจนแทบจำอะไรไม่ได้เลย บ้าจริง"ไง ตื่นแล้วเหรอแม่สาวขี้เมา" เสียงทักทายที่ฟังดูคุ้นหูทำให้เธอหลุดจากภวังค์ความคิด ก่อนหยัดกายลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียงมองเพื่อนสาวที่ถือแก้วน้ำขิงเข้ามาเชิงตั้งคำถาม "ฉันมาอยู่ที่นี่ได้ไงอ่ะส้ม""นี่แกเมาจนจำอะไรไม่ได้เลยเหรอ" ส้มกลอกตามองหน้าเพื่อนสาวอย่างนับดาวด้วยความอ่อนใจพลางยื่นแก้วน้ำขิงอุ่น ๆ ให้ เธอละเชื่อเลยจริง ๆ "ก็แกเป็นคนโทรเรียกฉันให้ไปรับเองจำไม่ได้เหรอ""ฮึ..จำไม่ได้อ่ะ" นับดาวส่ายหน้าปฏิเสธหงิก ๆ ขณะที่ในสมองก็พยายามทบทวนเรื่องราวเมื่อคืน"ตอนฉันไปถึงแกก็นั่งคออ่อนคอพับอยู่บนพื้นข้างรถตัวเองแล้ว แค่นั้นไม่พอนะเมื่อคืนแกอาละวา
"จะแสนดีไปถึงไหนฮึ" ติณณภัทรอดกระแหนะกระแหนคู่หมั้นสาวไม่ได้พร้อมกับยื่นมือไปยีหัวเธอเบา ๆ ด้วยความหมั่นไส้ ทำเอาอีกคนถึงกับหน้างอ พูดดุเจ้าของการกระทำเสียงเขียวเพราะกลัวผมเสียทรง "อย่าเล่น ผมนุชเสียทรงหมดแล้วภัทร""อะ ๆ จัดให้ใหม่ก็ได้" แทนที่คนถูกดุจะสำนึกกลับหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ แต่มือก็ยอมเปลี่ยนเป็นลูบลงบนเรือนผมดกดำแทนเพื่อจัดแต่งทรงผมของเธอให้เหมือนเดิม นั่นจึงทำให้นีรนุชยิ้มได้ ภาพที่ทั้งสองหยอกล้อกันอย่างน่ารักมีสายตาของส้มที่นั่งหันหน้าไปทางคนทั้งสองมองอยู่ตลอดเวลา เธอรู้สึกอิจฉาตาร้อนจนต้องระบายกับเพื่อนสาว"พี่นุชกับคู่หมั้นคงรักกันมากเนาะ ดูสิสวีทกันไม่เกรงใจคนในร้านเลย อยากมีโมเม้นท์แบบนั้นบ้างจัง""อยากมีก็รีบหาแฟนสิ อย่ามัวแต่บ่นอยู่" นับดาวตอบแบบขอไปทีโดยไม่คิดจะหันไปมองให้เสียลูกตา แต่ใครจะรู้ว่าในใจเธอกำลังคิดอะไรอยู่เธอไม่ได้รู้สึกอิจฉา หรืออยากมีโมเม้นท์แบบนั้นสักนิด ตรงข้ามกันเธอเกลียดที่นีรนุชมีความสุขกำลังจะได้แต่งงานกับคนที่รักในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า ที่เธอเกลียดยิ่งกว่าคือนิ่มแม่เลี้ยงใจมารที่ดูจะมีความสุขจนออกนอกหน้ากับการได้ลูกเขยรวย และโปร์ไฟล์เพรียบพ
2 วันต่อมางานเลี้ยงวันเกิดของนีรนุชถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่ายที่บริเวณลานหญ้าหน้าบ้าน เชิญแค่คนสนิทเท่านั้น มีเพื่อนของนีรนุชกับติณณภัทรซึ่งอยู่ในกลุ่มเดียวกัน และญาติ ๆ เพียงไม่กี่คนบรรยากาศภายในงานเลี้ยงเป็นไปอย่างครึกครื้น ทุกคนดูจะแฮปปี้สุด ทว่าคงจะมีแต่นับดาวที่ไร้อารมณ์นั่งทำหน้าเบื่อโลกอยู่คนเดียว หากไม่ติดว่าคืนนี้มีอะไรบางอย่างต้องทำเธอไม่มีวันเสนอหน้าอยู่ในงานแน่เธอจ้องมองไปยังนีรนุชที่กำลังยืนหัวเราะต่อกระซิกกับคู่หมั้นด้วยแววตาแข็งกร้าว ก่อนกดเสียงพูดในลำคออย่างมีแผนร้าย "มีความสุขกันให้พอนะ เพราะพรุ่งนี้เธอกับแม่อาจต้องผิดหวังนีรนุช"ครืดดด~เสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์ดังขึ้นนับดาวจึงละสายตาจากคนทั้งสอง หยิบโทรศัพท์บนตักขึ้นมาดูเมื่อเห็นว่าเป็นเบอร์ของคนที่รอคอยจึงลุกเดินออกไปรับสายในที่ลับตาคน(ฉันอยู่หน้าบ้านคุณแล้วนะคะ)"คุณเปิดประตูเล็กแล้วเดินเข้ามาได้เลยค่ะ ฉันจะรอรับอยู่หน้าบ้าน"(ค่ะ ๆ)นับดาวเผยรอยยิ้มร้ายออกมาหลังจากวางสาย ก่อนจะเดินอ้อมสนามหญ้าออกไปยืนรอรับใครบางคนที่กำลังมาถึงหน้าบ้าน ยืนรอไม่ถึงเสี้ยวนาทีหญิงสาวหน้าตาน่ารักก็เดินมาหยุดตรงหน้าเธอ แล้วกล่าวทักท
วันต่อมา"กรี๊ดด!"เสียงกรีดร้องดังกึกก้องไปทั่วบริเวณบ้านทำให้ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนของติณณภัทรกับนีรนุช ทนงศักดิ์ นิ่ม อุงอิง และแม่บ้านต่างพากันตกใจ รีบวิ่งไปดูทางต้นเสียงก็พบว่าเป็นนีรนุชที่กำลังยืนเนื้อตัวสั่นเทา ร้องไห้ออกมาจนตัวโยนหน้าห้องนอนแขก"เกิดอะไรขึ้นลูกนุช" นิ่มรีบวิ่งเข้าไปกอดบุตรสาวด้วยความเป็นห่วง ทว่าเธอก็ต้องตาเบิกกว้างอุทานออกมาเสียงดังลั่นเมื่อสายตาเหลือบไปเห็นคู่หนุ่มสาวที่นอนอยู่บนเตียงภายในห้องท่าทางของนิ่มทำให้ทุกคนต่างสงสัยจนต้องรีบไปดู พอได้เห็นก็มีปฎิกิริยาไม่ต่างจากนิ่มเลย โดยเฉพาะทนงศักดิ์ที่โกรธจนหน้าสั่นกับภาพบุตรสาวคนเล็กนอนที่นอนร่วมเตียงกับคู่หมั้นของพี่สาวในสภาพเปลือยเปล่ามีเพียงผ้าห่มคลุมไว้ถึงหน้าอก รีบปรี่เข้าไปเขย่าตัวตะเบ็งเสียงเรียกดังลั่นด้วยความโมโหสุดขีด "นับดาวลุกขึ้นมาคุยกับฉันเดี๋ยวนี้ ลุกขึ้นมาไอ้ลูกไม่รักดี""อื้อ! คนจะนอน" เสียงรบกวนที่ดังทบโสตประสาทบวกแรงเขย่าทำให้นับดาวที่กำลังนอนหลับอย่างสบายหงุดหงิดไม่น้อย เธอค่อย ๆ ปรือตาขึ้นมาอย่างเลี่ยงไม่ได้แม้อยากจะนอนต่อแค่ไหนก็ตามเพราะรู้สึกปวดหัว และเนื้อตัวมาก ๆ ราวกับถูกสิบล้อเหย