น้ำตาคุณหญิง
ปีพุทธศักราช 2000
กรุงศรีอยุธยา
"เจ้าไปไหนมา"
คุณหญิงเอิบยืนเท้าสะเอวจ้องอนุภรรยาคนใหม่ของสามีตาเขม็ง
"ไปที่ใดมาก็เรื่องของข้า" นางจันทร์เป็นแม่ค้าขายปลาที่ตลาด ตอนรู้ว่าเจ้าพระยาสุรเดชจะรับนางเข้ามาเป็นอนุ คุณหญิงเอิบแทบจะอยากกัดลิ้นตาย!!!
"เอ็งนี่เล่นหูเล่นตาใส่ข้าดีนัก เดี๋ยวแม่จะตบให้คว่ำ"
"โอ๊ย ท่านเจ้าคุณเจ้าขา กรี๊ดดดดดด คุณหญิงจะฆ่าน้อง" นางจันทร์แสร้งโวยวายให้ใหญ่โต เจ้าพระยาสุรเดชหรือเจ้าคุณเดชที่ทุกคนเรียกติดปากรีบวิ่งออกมาดู แถมยังถือดาบออกมาด้วย
"ไหน อีเอิบอีจัญไร มึงจะทำอะไรเมียกู" เจ้าคุณเดชไม่เหลือเยื่อใยให้เมียพระราชทานคนนี้แล้ว เขาถือดาบไล่ฟันคุณหญิงเอิบ "ว้าย! ท่านเจ้าคุณ ฮืออออ น้องไม่ได้ทำอะไรเลยนะเจ้าคะ"
"ท่านเจ้าคุณอย่าไปเชื่อ เมื่อครู่คุณหญิงยังบอกว่าจะฆ่าน้องอยู่เลย" เมื่อนางจันทร์ว่าอย่างนั้น เจ้าคุณเดชที่กำลังหลงใหลนางก็ตั้งใจจะฟันคุณหญิงเอิบให้โดนสักที
"ช่วยด้วย แม่แย้ม แม่แย้มเอ็งมาช่วยข้าที" คุณหญิงเอิบวิ่งหนีกลับเรือนตน นางเพียงเห็นแม่จันทร์ไปทำอะไรลับๆล่อๆที่ท่าน้ำ เลยเข้าไปถามแค่นั้น แถมยังไม่ทันได้ทำอะไรนางเลยด้วยซ้ำ
"ว้าย!คุณหญิงเจ้าขา" นางแย้มทาสสาววัยสามสิบกว่ารีบวิ่งมาปิดประตูเรือน
"อีเอิบ อีจัญไร กูบอกมึงแล้วใช่มั้ยว่าอย่ามายุ่งยากเรื่องเมียกู กูจะมีเมียอีกเป็นร้อยคนก็เรื่องของกู ใครๆเขาก็มีกันทั้งนั้น มึงอย่ามาทำเป็นหมาหวงก้าง เดี๋ยวกูจะฆ่ามึงให้ตาย ตัดหัวส่งไปบ้านเก่ามึง ให้ตายตามพ่อแม่มึงไปเลยดีมั้ย"
เจ้าคุณเดชโกรธจัดที่เมียไม่อยู่ในโอวาท เขาฟันประตูเรือนคุณหญิงเอิบระบายอารมณ์ ทั้งถีบทั้งเตะประตูจนสาแก่ใจก่อนจะรีบกลับไปปลอบขวัญนางจันทร์ผู้น่าสงสาร...
"โธ่ คุณหญิงเจ้าขา"
นางแย้มเห็นคุณหญิงนั่งกอดเข่าร้องไห้ก็สงสารจับใจ คุณหญิงเอิบพึ่งอายุยี่สิบห้าปี ยังงามยังสาว แต่คงเพราะแต่งงานอยู่กินกับท่านเจ้าคุณมาเป็นสิบปีแล้วกระมัง ความงามของคุณหญิงเลยหมดความหมาย สู้ของสดใหม่ที่ท่านเจ้าคุณพึ่งได้มาไม่ได้
"ข้าไม่ได้ทำอะไรนาง แต่คุณพี่ก็เชื่อคำนางไปเสียหมด" คุณหญิงเอิบสะอึกสะอื้น "คงเพราะข้ามีลูกให้ท่านไม่ได้กระมัง"
"โธ่ คุณหญิง..."
"เอาเช่นนี้มั้ยเจ้าคะ"
"เช่นไรรึ?"
"มีหมอผีอยู่คนหนึ่ง เขาลือกันว่าเก่งกาจมาก ถ้าได้ท่านมาทำยาเสน่ห์ให้... รับรองว่าท่านเจ้าคุณจะต้องกลับมารักคุณหญิงดังเดิมเจ้าค่ะ" นางแย้มลูบหลังปลอบใจเจ้านาย
"จริงหรือ?" คุณหญิงเอิบเริ่มมีความหวัง
"ต้องเป็นเช่นนั้นแน่เจ้าค่ะ"
ค่ำคืนนั้นคุณหญิงเอิบนอนหลับไปทั้งน้ำตา ช่างเป็นคืนที่เงียบเหงาและโดดเดี่ยวเหลือเกินสำหรับนาง....
"คุณหญิงเอิบเจ้าขา ท่านเจ้าคุณเรียกให้ไปพบที่เรือนใหญ่เจ้าค่ะ" นางทา ทาสสาววัยสิบกว่าๆของแม่จันทร์วิ่งแจ้นมาเรียกคุณหญิงเอิบตั้งแต่เช้า และใช่แล้ว คุณหญิงเอิบผู้เป็นภรรยาเอกถูกไล่มาอยู่เรือนหลังเล็กๆ ส่วนอนุภรรยาสุดที่รักอย่างนางจันทร์ได้ขึ้นไปอยู่เรือนใหญ่กับเจ้าพระยาสุรเดช....
"เดี๋ยวข้าไป"
คุณหญิงเอิบหน้าตาไม่สู้ดีนัก นางหันมองแม่แย้ม "ไม่เป็นไรดอกเจ้าค่ะ เดี๋ยวข้าไปด้วย" แม่แย้มลูบหลังปลอบใจผู้เป็นนาย
"ทำอะไรอยู่ นานเสียจริง" นางจันทร์นั่งอยู่บนตักท่านเจ้าคุณ "นั่นสิ อีนางคนนี้ ทำอะไรก็ไม่ทันใจข้าสักอย่าง" เจ้าพระยาสุรเดชเออออกับนางจันทร์ไปด้วย ตบท้ายด้วยบีบหน้าอกเมียรักไปหนึ่งที ไอ้พรตทาสหนุ่มถึงกับเบือนหน้าหนี "ช่างน่าไม่อายเสียจริง" เขาคิดในใจ
"มาแล้วขอรับ" ไอ้พรตเห็นคุณหญิงเดินมาก็รีบบอก
"เชิดหน้าไว้นะเจ้าคะ" แม่แย้มกระซิบบอกผู้เป็นนาย
"คุณพี่"
'เพียะ'
"อีอัปรีย์ อีจัญไร กูบอกมึงกี่ครั้งแล้วว่าอย่ามารังแกเมียกู"
คุณหญิงเอิบยังไม่ทันได้พูดอะไรสักคำก็โดนสามีตบจนหน้าหัน ถึงความจริงแล้วจะห้ามทำร้ายภรรยาพระราชทาน แต่เรื่องภายในบ้านเช่นนี้ ใครเล่าจะรู้ได้ หากคนในบ้านไม่เอาไปพูดเสียอย่าง!!!
"มึงมันชั่วเหมือนพี่เหมือนพ่อแม่มึง ไร้ประโยชน์ พึ่งพาอะไรไม่ได้สักอย่าง เอาแต่ลอยหน้าลอยตาอยู่ให้กูชังน้ำหน้า"
"พ่อแม่น้องตายไปแล้ว ท่านจะขุดขึ้นมาดูหมิ่นแบบนี้ไม่ได้"
คุณหญิงเอิบเริ่มไม่ยอมแล้ว นางชี้หน้าสามี "อีจัญไร" เลยโดนกระหน่ำตบเป็นสิบครั้ง ก่อนที่เจ้าพระยาสุรเดชจะกดนางนั่งคุกเข่า
"มึงทำร้ายแม่จันทร์ ขอโทษนางเดี๋ยวนี้"
นางจันทร์ยิ้มสะใจ เป็นอีกวันที่นางเอาชนะคุณหญิงเอิบได้
"มันจะมากไปนะเจ้าคะ อย่างไรเสียก็น่าจะให้เกียรติคุณหญิงบ้าง" นางแย้มเถียงสู้
"ไอ้พรต เอาอีแย้มไปโบยร้อยที"
"ไม่ได้นะเจ้าคะ" คุณหญิงเอิบโกรธจนมือไม้สั่น "แม่จันทร์ เรื่องเมื่อคืนข้าต้องขอโทษเจ้าด้วย"
"ตกลงให้เอาไปโบยหรือไม่ขอรับ"
เสียงคนนั้นพูดทีคนนี้พูดที เจ้าพระยาสุรเดชที่กำลังมีโทสะเลยกระโดดถีบไอ้พรตไปหนึ่งที "โอ๊ยๆๆๆๆ" ทาสหนุ่มกลิ้งหลุนๆตกบันไดไป ส่วนท่านเจ้าคุณก็อุ้มนางจันทร์เข้าห้องนอนไปเสียดื้อๆ
"อย่าเจ้าค่ะ อิ อิ คุณพี่ละก็ เดี๋ยวจะไปทำงานสาย อ๊าาาา นะเจ้าคะ" นางจันทร์แกล้งพูดดังๆเพื่อเย้ยหยันคุณหญิงเอิบ
"ไม่ได้การ คืนนี้เราต้องไปหาพ่อหมอแล้วนะเจ้าคะ" แม่แย้มรีบเสนอ โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่ายิ่งจะทำให้เรื่องวุ่นวายกว่าเดิม.....
"โอยยยย.... ถีบกูลงมาได้ ถึงเป็นทาสแต่ก็เป็นคนเหมือนกันนะโว้ย!!!"
ไอ้พรตนอนกลิ้งเกลือกอยู่ด้านล่าง ก่อนที่จะเห็นคุณหญิงเอิบนั่งลงตรงหน้ามัน
"เจ็บมากหรือไม่ เดี๋ยวไปทำแผลที่เรือนข้านะ" คุณหญิงเอิบมองเขาด้วยสายตาห่วงใย แต่ไอ้พรตดันรู้สึกผิดอยู่ลึกๆที่เขาไม่ได้ช่วยเหลืออะไรนางเลย
"ไม่เป็นไรขอรับ"
เขาวิ่งล้มลุกคลุกคลานหนีหายไป....
NC คาถามหาสยิวกลางดึกคืนนั้น แม่แย้มปลุกคุณหญิงเอิบให้ตื่นขึ้น พวกนางแอบลอบออกจากเรือน มุ่งตรงเข้าไปยังป่าท้ายป่าช้าแห่งหนึ่ง"วังเวงเสียจริง"คุณหญิงเอิบชักกลัว นางบีบมือแม่แย้มแน่น พอมาถึงสำนักหมอผี กลิ่นควันธูปคลุ้ง เสียงสวดคาถาอะไรสักอย่างยิ่งทำให้นางขนลุก"ผู้ใดมาหาข้าเสียดึกดื่น"หมอผีถีบประตูออกมาจนคุณหญิงเอิบสะดุ้ง แต่พ่อหมอนั้นดูเหมือนจะชะงักไปเล็กน้อยเมื่อเห็นนางหมอผีหนุ่มมีชื่อว่าไกร เขาเป็นชายหนุ่มรูปงาม รูปร่างกำยำ สักยันต์ที่แขนและลำตัว ดวงตาเขาดูเย้ายวนจนคุณหญิงเอิบต้องหลบสายตา"ว่าอย่างไร ข้าถามทำไม่ตอบ?""เอ่อ พ่อหมอ ข้าชื่อแย้ม ส่วนนี่คือนายของข้า คุณหญิงเอิบเจ้าค่ะ" แม่แย้มลนลานรีบตอบ"เข้ามา"หมอผีไกรพาทั้งสองเข้ามาด้านใน ภายในนั้นมีแต่ของน่าขนหัวลุก กลิ่นยากลิ่นธูปก็คละคลุ้งจนคุณหญิงเอิบต้องเอามือปิดจมูกไว้"เจ้าว่ามา มีสิ่งใดให้ข้าช่วย"พ่อหมอนั่งลง ทั้งสองก็นั่งตาม"คืออย่างนี้นะเจ้าคะ นายของข้าเป็นภรรยาเอกของเจ้าพระยาสุรเดช แต่งงานอยู่กินกันมาสิบปีแล้ว แต่พักหลังๆมานี้ท่านเจ้าคุณทำตัวห่างเหิน แถมยังรับอนุเข้ามา ทั้งรักทั้งหลงนางคนนั้น จนคุณหญิงกลายเป็นหัวหลัก
ความลับของหมอผี"ทางนี้เจ้าค่ะคุณหญิง"คุณหญิงเอิบเดินลัดเลาะเข้ามาด้านหลังเรือนเพราะกลัวคนเห็น แม่แย้มถือตะเกียงนำทาง ก่อนจะต้องหยุดชะงักไป"พวกเจ้าไปที่ใดมา"น้ำเสียงไม่สบอารมณ์ของเจ้าพระยาสุรเดชทำให้ทั้งสองตกใจอยู่ไม่น้อย"คุณพี่ คือ....""ดึกดื่นป่านนี้ไปนอนกกชู้ที่ใดมารึ?" ไม่ใช่ว่าหึงหวง แต่เขาเพียงอยากหาที่ระบายอารมณ์ เพราะแม่จันทร์สุดที่รักกลัวว่าเขาจะรักคุณหญิงเอิบมากกว่า เลยต้องแสดงให้นางที่แอบมองอยู่ไกลๆเห็น"ใช่ว่าน้องจะมักง่ายเหมือนคุณพี่" คุณหญิงเอิบเถียงสู้"ไอ้พรต""ขอรับ""มึงเอาไม้มา"แม่แย้มลนลาน "โธ่ ท่านเจ้าคุณเจ้าขา คุณหญิงแค่ร้อน นอนไม่หลับเลยอยากไปอาบน้ำที่คลอง ไม่ได้ไปทำอะไรไม่ดีเลยนะเจ้าคะ" นางหาทางแก้ตัวให้ แต่ท่านเจ้าคุณก็เอาไม้ฟาดคุณหญิงเอิบเสียเต็มแรง"โอ๊ย!""มึงเป็นใคร กูเป็นใคร มีสิทธิ์อันใดมาขึ้นเสียงใส่กู"เสียงไม้ฟาดคุณหญิงดังจนแม่จันทร์ที่อยู่ไกลๆได้ยิน นางยิ้มเยาะก่อนจะเดินหายไป ทิ้งให้ท่านเจ้าคุณกระหน่ำตีคุณหญิงจนนางเลือดออก!!!"ตีเลย ตีน้องให้ตายไปเลย น้องจะได้หมดเวรหมดกรรมเสียที""อีเอิบ มึงนะมึง"เจ้าพระยาสุรเดชถีบภรรยาไปที "โอ๊ยพอเถอะเจ้าค่ะ"
กอดให้เจ้าลืม"โอ๊ย เรือจะพาข้าล่มวันไหนก็ไม่รู้" หมอผีไกรหรือไอ้ไกรพายเรือผุๆพังๆเพื่อข้ามฝั่งไปขายสมุนไพรและของป่า เขาเอาผ้าปิดหน้าไว้เหลือแค่ดวงตาไว้มองทาง แขนกำยำพายเรือไปบ่นไป อีกมือก็ยัดปลาแห้งเข้าปาก แต่แล้วก็ถูกเรือใหญ่ชนท้ายเรือ จนเรือผุๆของเขาหักลงจริงๆ!!!"โอ๊ย ช่วยด้วยๆ โอ๊ย ข้าว่ายน้ำไม่เก่ง" ไอ้ไกรตะเกียกตะกายปีนขึ้นเรือที่ชนเขานั่นแหละ เสียงโวยวายของคนในเรือดังลั่น"ว้าย! ลงไปเดี๋ยวนี้นะ ขึ้นมาทำไม" นางจันทร์โวยวายไม่พอใจ"บ๊ะ มึงจะปีนขึ้นมาทำไม เรือกูเลอะเทอะหมดแล้ว"เสียงตวาดของชายสูงศักดิ์ทำเอาไอ้ไกรโมโห "ก็เรือพวกเอ็งชนข้า น้ำเชี่ยวขนาดนี้ ดีแค่ไหนแล้วที่ข้าไม่จมน้ำตาย แล้วกับอีแค่ขอขึ้นเรือแค่นี้มันจะอะไรนักหนา!!!""ไอ้ไพร่ชั้นต่ำ"เจ้าพระยาสุรเดชเลือดขึ้นหน้า ปกติเขาเป็นคนโมโหร้ายอยู่แล้ว และวันนี้ยิ่งหนักเข้าไปอีก เพราะคำขอหย่าขาดกับภรรยาพระราชทานได้รับการปฏิเสธ"ในเมื่อเต็มใจรับนางไปแล้ว จะมาหาเรื่องทอดทิ้งเอาปานนี้ก็กระไรอยู่" ทางราชสำนักว่ามาอย่างนี้ เจ้าพระยาสุรเดชแทบจะกระอักเลือดตาย เขาไม่รู้จะทำเช่นไรแล้ว เพราะเกลียดชังคุณหญิงเอิบเหลือเกิน แม้แต่อยู่ในชายคา
NC นางเอิบผู้หิวโหย"คุณหญิง""เอิบ เรียกข้าว่าเอิบก็พอ""เช่นนั้นหรือ""เอิบ แม่เอิบของข้า"หมอผีไกรจับดอกบัวตูมที่ยังเต่งตึง มือนวดคลึงสองเต้านั้น "อือ พ่อหมอ""พี่ไกร เรียกเช่นนี้ได้หรือไม่" เขาถาม ก่อนจะเขี่ยที่ยอดอกนาง สามีไม่แตะต้องนางมาสองปีแล้ว หญิงสาวมีความต้องการเอ่อล้น นางแอ่นอก กดเขาลงดูดยอดอกที่กำลังแข็งตัั้ง"พี่ไกร"หมอผีไกรพอใจ เขาดูดดึงยอดอกนางขึ้น "อะ อร๊ายยยย" มือก็ลูบถูที่ติ่งสวาทเม็ดใหญ่ของนาง "ข้าอยากเลีย" เขาขยับมากระซิบข้างหู คุณหญิงเอิบเสียววาบ คว้าจับแก่นกายเขาที่กำลังแข็ง"อูย ยาวจังพี่" นางเลียปาก อยากเหลือเกิน สองปีที่ขาดการกระทุ้งเสียดสี เจ้าพระยาสุรเดชไม่รู้ตัวเลยว่าทำให้ภรรยาหิวโหยมากเพียงใด"ข้าจะแทงให้ลึก""ข้าก็จะอ้าขากว้างๆ"คำพูดหยาบโลนช่วยปลุกอารมณ์ให้ทั้งคู่ บัดนี้พ่อหมอกลายเป็น'ไอ้ไกร'แล้ว เขาก้มลงเลียกลีบกุหลาบสีชมพูสวย "อ่าาาาาาาาห์" แหวกกลีบอ้า กวาดลิ้นเลียเม็ดสวรรค์นางเอิบ"อูย พี่ ข้าเสียววววว"นางสะดุ้งเฮือก เพราะไม่ถูกสามีสัมผัสมานาน นางจึงมีอารมณ์อยากรุนแรง น้ำอยากสีใสไหลเยิ้มเปียก ช่องทางรักขมิบสู้ลิ้น ติ่งสยิวแข็งเป้ง ถูกลิ้นนุ่มๆลากถู
NC บุกขึ้นมาตำ!!แสงเงินยวงจากดวงจันทร์ลอดผ่านร่มไม้ใหญ่ในยามดึกสงัด คุณหญิงเอิบถอนใจยาวพลางจัดผมที่หลุดรุ่ยให้เข้าทรง ก่อนย่องก้าวออกจากเรือนเล็กที่ซ่อนเร้นไว้ลับสายตาผู้คนในป่ารกชัฏ ร่างงามของนางซบไหล่พ่อหมอไกรเมื่อครู่ ความอบอุ่นของเขายังคงติดตรึงอยู่ในหัวใจของนาง แต่นางจำต้องจากมาเสียก่อนรุ่งสาง หากถูกจับได้ว่าแอบลักลอบมาในที่นี้ ย่อมกลายเป็นเรื่องใหญ่เป็นแน่"จะไปแล้วหรือ"เสียงของพ่อหมอไกรดังแผ่วข้างหู ในตอนที่นางจะลุกออกมา น้ำเสียงนั้นยังสะกิดใจนางยิ่งนัก หากเพียงชีวิตของนางมีอิสระได้บ้าง นางคงไม่ต้องทนทุกข์ใจถึงเพียงนี้ย่างเท้ากลับเรือนในความมืด นางหวังเพียงว่าแม่แย้มจะรออยู่ที่เรือน แต่เมื่อไปถึง นางกลับพบว่าเรือนนั้นเงียบสงัด แม่แย้มมิได้อยู่เฝ้าตามที่สั่งไว้ นาง
NC เล่นชู้ที่บ้านร้างในยามค่ำคืนที่แสงจันทร์สาดส่องทั่วเรือน นางดวง ทาสสาวผู้บังเอิญเดินออกมาทางหลังเรือนเพื่อตรวจดูความเรียบร้อย พลันสายตาของนางก็สะดุดเข้ากับเงาของใครบางคนที่เคลื่อนไหวอยู่ในความมืด นางหลบอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ด้วยความอยากรู้อยากเห็น และในไม่ช้าร่างสูงของพ่อหมอไกรก็ปรากฏชัดเจนขึ้นเขาเดินออกจากเรือนของคุณหญิงเอิบอย่างเร่งรีบ แต่เมื่อผ่านบริเวณที่นางดวงซ่อนตัวอยู่ เขากลับชะงัก ราวกับสัมผัสได้ถึงการมีอยู่ของนางดวงตาคมกริบของพ่อหมอไกรมองตรงมาที่นางดวงในเงามืด ท่าทางของเขามิได้แสดงถึงความตกใจ แต่กลับเต็มไปด้วยความเคร่งขรึมและน่ากลัว นางดวงรู้สึกเหมือนถูกตรึงไว้กับที่ ไม่สามารถหลบสายตานั้นได้“เจ้ามาอยู่ที่นี่ทำไม?”พ่อหมอไกรเอ่ยเสียงต่ำ ราวกับต้องการให้คำพูดนั้นจมลึกลงในใจของนางนางดวงออกจากที่ซ่อนด้วยความลังเล แต่สายตาของนางยังคงจับจ้องที่เขา “ข้า...ข้าได้ยินเสียงผิดปกติ จึงออกมาดูเจ้าค่ะ” นางตอบตะกุกตะกัก พยายามหาคำอธิบายที่ดูไม่น่าสงสัย&nbs
NC สองสตรีกรีดร้องวันถัดมา...นางดวงยังคงทำงานในเรือนใหญ่ด้วยสีหน้าสงบนิ่ง แม้ในใจจะคุกรุ่นไปด้วยความคิดหลากหลาย นางพยายามทำตัวให้ปกติที่สุด ราวกับไม่เคยรู้หรือเห็นสิ่งใดเกี่ยวกับคุณหญิงเอิบและบุรุษปริศนา ทว่าความลับที่นางได้เห็นในวันนั้น ยังคงถูกจดจำไว้อย่างแน่นหนา"เมื่อถึงเวลา..." นางพึมพำกับตัวเองในยามลับตาคน รอยยิ้มจาง ๆ บนใบหน้าบ่งบอกถึงความตั้งใจที่ซ่อนเร้นยามค่ำคืนที่ความสงบแปรเปลี่ยนในคืนนั้น เจ้าพระยาสุรเดชกลับเรือนในสภาพมึนเมา กลิ่นเหล้าฉุนโชยไปทั่วร่าง เขาเดินโซเซขึ้นเรือนเล็กก่อนจะผลักประตูเข้าไปหาคุณหญิงเอิบที่กำลังนั่งอยู่ในห้องด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"เอิบ! นังแพศยา!" เสียงของเขาดังก้องพร้อมกับการกระชากแขนของนางให้ลุกขึ้นอย่างรุนแรง"ท่านเจ้าคุณ! ข้าทำสิ่งใดผิดอีกเล่า?" นางถามพลางพยายามสะบัดตัวให้หลุดจากการเกาะกุม
NC ตอก.ปลอบใจข้าทียามเช้าตรู่เมื่อแสงอาทิตย์เริ่มทาบไล้บนผืนดิน คุณหญิงเอิบที่ร่างกายยังเจ็บระบมจากการกระทำอันโหดร้ายของเจ้าพระยาสุรเดช เดินมุ่งหน้าไปยังสำนักของพ่อหมอไกร ความเหนื่อยล้าและความเจ็บปวดทำให้นางแทบทรุดลงทุกย่างก้าว แต่หัวใจของนางยังคงผลักดันให้เดินต่อไป"แอบออกไปไหนอีกแล้ว" นางต่าย บ่าวคนใหม่ของคุณหญิงมองอย่างใคร่รู้"เหตุใดไม่ยอมให้ข้าตามไปด้วย"เมื่อมาถึงสำนักหมอผี กลิ่นหอมของสมุนไพรตลบอบอวลในอากาศ คุณหญิงเอิบเปิดประตูเข้าไปอย่างแผ่วเบา พ่อหมอไกรเงยหน้าขึ้นจากงานที่ทำ ดวงตาคมกริบของเขาเปลี่ยนเป็นอ่อนโยนในทันทีที่เห็นนาง“คุณหญิง...” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความคิดถึง ก่อนจะก้าวเข้ามาประคองร่างนางอย่างอ่อนโยน“ท่านช่วยข้าด้วย...” นางเอ่ยเสียงสั่น ร่างกายของนางสั่นระริก น้ำตาที่เก็บกลั้นไว้หลั่งรินออกมาพ่อหมอไกรมองรอยช้ำบนแขนและข้อมือของนาง ดวงตาของเขาฉายแววโกรธเกรี้ยว แต่กลับควบคุมอารมณ์ไว้ “ใครทำอันใดเจ้า เอิบ...”นางมองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความวิงวอน "ข้า...ข้าต้องการท่าน" เสียงของนางแผ่วเบาแต่หนักแน่น"ช่วยทำให้ข้าลืมเลือนความเจ็บปวดที""ได้โปรด เอามาให้
NC ท่านหมอขอรักษาอาการคุณหญิงเอิบเดินกลับมายังเรือนด้วยขาสั่นพั่บ ๆ ความเหนื่อยล้าทำให้นางแทบทรุดลงกับพื้น ทันทีที่มาถึง นางต่าย บ่าวคนใหม่ที่เข้ามาทำหน้าที่แทนแม่แย้ม รีบวิ่งเข้ามาประคองนางด้วยความตกใจ“คุณหญิงเจ้าขา ให้ข้าช่วยเจ้าค่ะ” นางต่ายเอ่ยพร้อมกับหาน้ำมาให้นางดื่มอย่างเร่งรีบร่างอ่อนแรงของคุณหญิงพิงกับเสาเรือน มือเรียวบางจับขันน้ำขึ้นดื่ม ความคิดมากมายวนเวียนอยู่ในหัว แต่สิ่งที่รบกวนนางที่สุดคือลางสังหรณ์บางอย่างที่หนักอึ้งในใจ นางรู้สึกเหมือนกำลังจะเกิดเรื่องร้ายหลายวันผ่านไป ข่าวลือเกี่ยวกับกลิ่นเหม็นเน่าที่โชยมาใต้ต้นมะเดื่อใหญ่ในป่าหลังเรือนแพร่สะพัดไปทั่ว นางดวงเป็นคนแรกที่ร้องบอกเรื่องนี้กับคุณหญิงเอิบ ทันทีที่ได้ยินข่าว นางรีบออกไปยังที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยบ่าวไพร่ติดตาม"เอาอย่างไรดีเจ้าคะคุณพี่"ที่เรือนใหญ่มีอยู่สองคนที่กำลังร้อนใจ แต่ก็ต้องทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นคุณหญิงเอิบมาถึงต้นมะเดื่อใหญ่ที่ถูกล้อมรอบด้วยบ้านเรือนใกล้เคียง กลิ่นเน่าเหม็นรุนแรงกระทบจมูกจนทุกคนต้องยกผ้าขึ้นปิดใบหน้า ร่างหนึ่งที่ขึ้นอืดจนบวมเป่งนอนคว่ำหน้าอยู่ใต้ต้นไม้ ผิวหนังที่ดำคล้ำและเ
NC ตอก.ปลอบใจข้าทียามเช้าตรู่เมื่อแสงอาทิตย์เริ่มทาบไล้บนผืนดิน คุณหญิงเอิบที่ร่างกายยังเจ็บระบมจากการกระทำอันโหดร้ายของเจ้าพระยาสุรเดช เดินมุ่งหน้าไปยังสำนักของพ่อหมอไกร ความเหนื่อยล้าและความเจ็บปวดทำให้นางแทบทรุดลงทุกย่างก้าว แต่หัวใจของนางยังคงผลักดันให้เดินต่อไป"แอบออกไปไหนอีกแล้ว" นางต่าย บ่าวคนใหม่ของคุณหญิงมองอย่างใคร่รู้"เหตุใดไม่ยอมให้ข้าตามไปด้วย"เมื่อมาถึงสำนักหมอผี กลิ่นหอมของสมุนไพรตลบอบอวลในอากาศ คุณหญิงเอิบเปิดประตูเข้าไปอย่างแผ่วเบา พ่อหมอไกรเงยหน้าขึ้นจากงานที่ทำ ดวงตาคมกริบของเขาเปลี่ยนเป็นอ่อนโยนในทันทีที่เห็นนาง“คุณหญิง...” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความคิดถึง ก่อนจะก้าวเข้ามาประคองร่างนางอย่างอ่อนโยน“ท่านช่วยข้าด้วย...” นางเอ่ยเสียงสั่น ร่างกายของนางสั่นระริก น้ำตาที่เก็บกลั้นไว้หลั่งรินออกมาพ่อหมอไกรมองรอยช้ำบนแขนและข้อมือของนาง ดวงตาของเขาฉายแววโกรธเกรี้ยว แต่กลับควบคุมอารมณ์ไว้ “ใครทำอันใดเจ้า เอิบ...”นางมองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความวิงวอน "ข้า...ข้าต้องการท่าน" เสียงของนางแผ่วเบาแต่หนักแน่น"ช่วยทำให้ข้าลืมเลือนความเจ็บปวดที""ได้โปรด เอามาให้
NC สองสตรีกรีดร้องวันถัดมา...นางดวงยังคงทำงานในเรือนใหญ่ด้วยสีหน้าสงบนิ่ง แม้ในใจจะคุกรุ่นไปด้วยความคิดหลากหลาย นางพยายามทำตัวให้ปกติที่สุด ราวกับไม่เคยรู้หรือเห็นสิ่งใดเกี่ยวกับคุณหญิงเอิบและบุรุษปริศนา ทว่าความลับที่นางได้เห็นในวันนั้น ยังคงถูกจดจำไว้อย่างแน่นหนา"เมื่อถึงเวลา..." นางพึมพำกับตัวเองในยามลับตาคน รอยยิ้มจาง ๆ บนใบหน้าบ่งบอกถึงความตั้งใจที่ซ่อนเร้นยามค่ำคืนที่ความสงบแปรเปลี่ยนในคืนนั้น เจ้าพระยาสุรเดชกลับเรือนในสภาพมึนเมา กลิ่นเหล้าฉุนโชยไปทั่วร่าง เขาเดินโซเซขึ้นเรือนเล็กก่อนจะผลักประตูเข้าไปหาคุณหญิงเอิบที่กำลังนั่งอยู่ในห้องด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"เอิบ! นังแพศยา!" เสียงของเขาดังก้องพร้อมกับการกระชากแขนของนางให้ลุกขึ้นอย่างรุนแรง"ท่านเจ้าคุณ! ข้าทำสิ่งใดผิดอีกเล่า?" นางถามพลางพยายามสะบัดตัวให้หลุดจากการเกาะกุม
NC เล่นชู้ที่บ้านร้างในยามค่ำคืนที่แสงจันทร์สาดส่องทั่วเรือน นางดวง ทาสสาวผู้บังเอิญเดินออกมาทางหลังเรือนเพื่อตรวจดูความเรียบร้อย พลันสายตาของนางก็สะดุดเข้ากับเงาของใครบางคนที่เคลื่อนไหวอยู่ในความมืด นางหลบอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ด้วยความอยากรู้อยากเห็น และในไม่ช้าร่างสูงของพ่อหมอไกรก็ปรากฏชัดเจนขึ้นเขาเดินออกจากเรือนของคุณหญิงเอิบอย่างเร่งรีบ แต่เมื่อผ่านบริเวณที่นางดวงซ่อนตัวอยู่ เขากลับชะงัก ราวกับสัมผัสได้ถึงการมีอยู่ของนางดวงตาคมกริบของพ่อหมอไกรมองตรงมาที่นางดวงในเงามืด ท่าทางของเขามิได้แสดงถึงความตกใจ แต่กลับเต็มไปด้วยความเคร่งขรึมและน่ากลัว นางดวงรู้สึกเหมือนถูกตรึงไว้กับที่ ไม่สามารถหลบสายตานั้นได้“เจ้ามาอยู่ที่นี่ทำไม?”พ่อหมอไกรเอ่ยเสียงต่ำ ราวกับต้องการให้คำพูดนั้นจมลึกลงในใจของนางนางดวงออกจากที่ซ่อนด้วยความลังเล แต่สายตาของนางยังคงจับจ้องที่เขา “ข้า...ข้าได้ยินเสียงผิดปกติ จึงออกมาดูเจ้าค่ะ” นางตอบตะกุกตะกัก พยายามหาคำอธิบายที่ดูไม่น่าสงสัย&nbs
NC บุกขึ้นมาตำ!!แสงเงินยวงจากดวงจันทร์ลอดผ่านร่มไม้ใหญ่ในยามดึกสงัด คุณหญิงเอิบถอนใจยาวพลางจัดผมที่หลุดรุ่ยให้เข้าทรง ก่อนย่องก้าวออกจากเรือนเล็กที่ซ่อนเร้นไว้ลับสายตาผู้คนในป่ารกชัฏ ร่างงามของนางซบไหล่พ่อหมอไกรเมื่อครู่ ความอบอุ่นของเขายังคงติดตรึงอยู่ในหัวใจของนาง แต่นางจำต้องจากมาเสียก่อนรุ่งสาง หากถูกจับได้ว่าแอบลักลอบมาในที่นี้ ย่อมกลายเป็นเรื่องใหญ่เป็นแน่"จะไปแล้วหรือ"เสียงของพ่อหมอไกรดังแผ่วข้างหู ในตอนที่นางจะลุกออกมา น้ำเสียงนั้นยังสะกิดใจนางยิ่งนัก หากเพียงชีวิตของนางมีอิสระได้บ้าง นางคงไม่ต้องทนทุกข์ใจถึงเพียงนี้ย่างเท้ากลับเรือนในความมืด นางหวังเพียงว่าแม่แย้มจะรออยู่ที่เรือน แต่เมื่อไปถึง นางกลับพบว่าเรือนนั้นเงียบสงัด แม่แย้มมิได้อยู่เฝ้าตามที่สั่งไว้ นาง
NC นางเอิบผู้หิวโหย"คุณหญิง""เอิบ เรียกข้าว่าเอิบก็พอ""เช่นนั้นหรือ""เอิบ แม่เอิบของข้า"หมอผีไกรจับดอกบัวตูมที่ยังเต่งตึง มือนวดคลึงสองเต้านั้น "อือ พ่อหมอ""พี่ไกร เรียกเช่นนี้ได้หรือไม่" เขาถาม ก่อนจะเขี่ยที่ยอดอกนาง สามีไม่แตะต้องนางมาสองปีแล้ว หญิงสาวมีความต้องการเอ่อล้น นางแอ่นอก กดเขาลงดูดยอดอกที่กำลังแข็งตัั้ง"พี่ไกร"หมอผีไกรพอใจ เขาดูดดึงยอดอกนางขึ้น "อะ อร๊ายยยย" มือก็ลูบถูที่ติ่งสวาทเม็ดใหญ่ของนาง "ข้าอยากเลีย" เขาขยับมากระซิบข้างหู คุณหญิงเอิบเสียววาบ คว้าจับแก่นกายเขาที่กำลังแข็ง"อูย ยาวจังพี่" นางเลียปาก อยากเหลือเกิน สองปีที่ขาดการกระทุ้งเสียดสี เจ้าพระยาสุรเดชไม่รู้ตัวเลยว่าทำให้ภรรยาหิวโหยมากเพียงใด"ข้าจะแทงให้ลึก""ข้าก็จะอ้าขากว้างๆ"คำพูดหยาบโลนช่วยปลุกอารมณ์ให้ทั้งคู่ บัดนี้พ่อหมอกลายเป็น'ไอ้ไกร'แล้ว เขาก้มลงเลียกลีบกุหลาบสีชมพูสวย "อ่าาาาาาาาห์" แหวกกลีบอ้า กวาดลิ้นเลียเม็ดสวรรค์นางเอิบ"อูย พี่ ข้าเสียววววว"นางสะดุ้งเฮือก เพราะไม่ถูกสามีสัมผัสมานาน นางจึงมีอารมณ์อยากรุนแรง น้ำอยากสีใสไหลเยิ้มเปียก ช่องทางรักขมิบสู้ลิ้น ติ่งสยิวแข็งเป้ง ถูกลิ้นนุ่มๆลากถู
กอดให้เจ้าลืม"โอ๊ย เรือจะพาข้าล่มวันไหนก็ไม่รู้" หมอผีไกรหรือไอ้ไกรพายเรือผุๆพังๆเพื่อข้ามฝั่งไปขายสมุนไพรและของป่า เขาเอาผ้าปิดหน้าไว้เหลือแค่ดวงตาไว้มองทาง แขนกำยำพายเรือไปบ่นไป อีกมือก็ยัดปลาแห้งเข้าปาก แต่แล้วก็ถูกเรือใหญ่ชนท้ายเรือ จนเรือผุๆของเขาหักลงจริงๆ!!!"โอ๊ย ช่วยด้วยๆ โอ๊ย ข้าว่ายน้ำไม่เก่ง" ไอ้ไกรตะเกียกตะกายปีนขึ้นเรือที่ชนเขานั่นแหละ เสียงโวยวายของคนในเรือดังลั่น"ว้าย! ลงไปเดี๋ยวนี้นะ ขึ้นมาทำไม" นางจันทร์โวยวายไม่พอใจ"บ๊ะ มึงจะปีนขึ้นมาทำไม เรือกูเลอะเทอะหมดแล้ว"เสียงตวาดของชายสูงศักดิ์ทำเอาไอ้ไกรโมโห "ก็เรือพวกเอ็งชนข้า น้ำเชี่ยวขนาดนี้ ดีแค่ไหนแล้วที่ข้าไม่จมน้ำตาย แล้วกับอีแค่ขอขึ้นเรือแค่นี้มันจะอะไรนักหนา!!!""ไอ้ไพร่ชั้นต่ำ"เจ้าพระยาสุรเดชเลือดขึ้นหน้า ปกติเขาเป็นคนโมโหร้ายอยู่แล้ว และวันนี้ยิ่งหนักเข้าไปอีก เพราะคำขอหย่าขาดกับภรรยาพระราชทานได้รับการปฏิเสธ"ในเมื่อเต็มใจรับนางไปแล้ว จะมาหาเรื่องทอดทิ้งเอาปานนี้ก็กระไรอยู่" ทางราชสำนักว่ามาอย่างนี้ เจ้าพระยาสุรเดชแทบจะกระอักเลือดตาย เขาไม่รู้จะทำเช่นไรแล้ว เพราะเกลียดชังคุณหญิงเอิบเหลือเกิน แม้แต่อยู่ในชายคา
ความลับของหมอผี"ทางนี้เจ้าค่ะคุณหญิง"คุณหญิงเอิบเดินลัดเลาะเข้ามาด้านหลังเรือนเพราะกลัวคนเห็น แม่แย้มถือตะเกียงนำทาง ก่อนจะต้องหยุดชะงักไป"พวกเจ้าไปที่ใดมา"น้ำเสียงไม่สบอารมณ์ของเจ้าพระยาสุรเดชทำให้ทั้งสองตกใจอยู่ไม่น้อย"คุณพี่ คือ....""ดึกดื่นป่านนี้ไปนอนกกชู้ที่ใดมารึ?" ไม่ใช่ว่าหึงหวง แต่เขาเพียงอยากหาที่ระบายอารมณ์ เพราะแม่จันทร์สุดที่รักกลัวว่าเขาจะรักคุณหญิงเอิบมากกว่า เลยต้องแสดงให้นางที่แอบมองอยู่ไกลๆเห็น"ใช่ว่าน้องจะมักง่ายเหมือนคุณพี่" คุณหญิงเอิบเถียงสู้"ไอ้พรต""ขอรับ""มึงเอาไม้มา"แม่แย้มลนลาน "โธ่ ท่านเจ้าคุณเจ้าขา คุณหญิงแค่ร้อน นอนไม่หลับเลยอยากไปอาบน้ำที่คลอง ไม่ได้ไปทำอะไรไม่ดีเลยนะเจ้าคะ" นางหาทางแก้ตัวให้ แต่ท่านเจ้าคุณก็เอาไม้ฟาดคุณหญิงเอิบเสียเต็มแรง"โอ๊ย!""มึงเป็นใคร กูเป็นใคร มีสิทธิ์อันใดมาขึ้นเสียงใส่กู"เสียงไม้ฟาดคุณหญิงดังจนแม่จันทร์ที่อยู่ไกลๆได้ยิน นางยิ้มเยาะก่อนจะเดินหายไป ทิ้งให้ท่านเจ้าคุณกระหน่ำตีคุณหญิงจนนางเลือดออก!!!"ตีเลย ตีน้องให้ตายไปเลย น้องจะได้หมดเวรหมดกรรมเสียที""อีเอิบ มึงนะมึง"เจ้าพระยาสุรเดชถีบภรรยาไปที "โอ๊ยพอเถอะเจ้าค่ะ"
NC คาถามหาสยิวกลางดึกคืนนั้น แม่แย้มปลุกคุณหญิงเอิบให้ตื่นขึ้น พวกนางแอบลอบออกจากเรือน มุ่งตรงเข้าไปยังป่าท้ายป่าช้าแห่งหนึ่ง"วังเวงเสียจริง"คุณหญิงเอิบชักกลัว นางบีบมือแม่แย้มแน่น พอมาถึงสำนักหมอผี กลิ่นควันธูปคลุ้ง เสียงสวดคาถาอะไรสักอย่างยิ่งทำให้นางขนลุก"ผู้ใดมาหาข้าเสียดึกดื่น"หมอผีถีบประตูออกมาจนคุณหญิงเอิบสะดุ้ง แต่พ่อหมอนั้นดูเหมือนจะชะงักไปเล็กน้อยเมื่อเห็นนางหมอผีหนุ่มมีชื่อว่าไกร เขาเป็นชายหนุ่มรูปงาม รูปร่างกำยำ สักยันต์ที่แขนและลำตัว ดวงตาเขาดูเย้ายวนจนคุณหญิงเอิบต้องหลบสายตา"ว่าอย่างไร ข้าถามทำไม่ตอบ?""เอ่อ พ่อหมอ ข้าชื่อแย้ม ส่วนนี่คือนายของข้า คุณหญิงเอิบเจ้าค่ะ" แม่แย้มลนลานรีบตอบ"เข้ามา"หมอผีไกรพาทั้งสองเข้ามาด้านใน ภายในนั้นมีแต่ของน่าขนหัวลุก กลิ่นยากลิ่นธูปก็คละคลุ้งจนคุณหญิงเอิบต้องเอามือปิดจมูกไว้"เจ้าว่ามา มีสิ่งใดให้ข้าช่วย"พ่อหมอนั่งลง ทั้งสองก็นั่งตาม"คืออย่างนี้นะเจ้าคะ นายของข้าเป็นภรรยาเอกของเจ้าพระยาสุรเดช แต่งงานอยู่กินกันมาสิบปีแล้ว แต่พักหลังๆมานี้ท่านเจ้าคุณทำตัวห่างเหิน แถมยังรับอนุเข้ามา ทั้งรักทั้งหลงนางคนนั้น จนคุณหญิงกลายเป็นหัวหลัก