ปัง ปัง ปัง
เสียงปืนรัวสนั่นก้องไปทั่วเกาะและกระชั้นชิดขึ้นเรื่อยๆทำให้คนที่กำลังวิ่งต้องเร่งฝีเท้าให้เร็วยิ่งขึ้นแต่ไม่สามารถเร่งตามใจคิดมากนักเพราะมีคนเจ็บที่ต้องไปด้วย
“วินปล่อยนัท ปล่อยนัทไว้ตรงนี้แล้วรีบหนีไป”
“ไม่ เราต้องไปด้วยกัน ไม่ต้องพูดแล้ววินไม่ฟัง”
น้ำเสียงกระด้างของหัสวีร์เป็นสิ่งที่มนัสวีคุ้นชินยามที่เจ้าตัวเอื้อนเอ่ยกับเธออยู่เป็นนิจกับสายตาเย็นชาเท่านั้น จำไม่ได้แล้วว่าพวกเขาพูดคุยกันดีๆตามประสาพี่น้องล่าสุดเมื่อไหร่กันนะ
แต่ยามนี้เธอมีโอกาสสัมผัสมันอีกครั้งกับความรักและห่วงใยถึงแม้ครั้งนี้อาจเป็นช่วงสุดท้ายของชีวิตก็ไม่นึกเสียใจเพราะเธอได้พี่ชายคนเดิมกลับมาแล้ว
หัสวีร์มองใบหน้าที่ซีดเซียวจากการเสียเลือดของอีกฝ่ายเพราะถูกยิงที่แขนก็ยิ่งร้อนใจหากไม่ถูกไล่ล่าจนต้องเปลี่ยนเส้นทางเพื่ออ้อมเขาคงถึงท่าเรือและพามนัสวีไปโรงพยาบาลได้เร็วกว่านี้
เกาะแห่งนี้เป็นของเขาไม่สิถ้าจะให้ถูกต้องบอกว่าเคยเป็นต่างหากเลยจดจำได้เกือบทุกเส้นทางเพราะตอนนี้มันเป็นของสรัลไอ้สามีชั่วที่ทรยศหักหลังและทำลายความสัมพันธ์ของพวกเขาที่มีกันแค่สองพี่น้องโดยที่ไม่เคยระแวงสงสัยแม้เพียงสักนิด เขางอกไม่รู้ตัวแม้น้องสาวเตือนก็ไม่ฟังแถมพูดจาร้ายๆใส่อีกฝ่ายจนไม่น่าให้อภัย
“เป็นแค่น้องนอกไส้อย่ามายุ่ง จะไปไหนก็ไปซะ!”
นึกสมเพชตัวเองจริงๆยามที่สรัลบอกว่าขอไปประชุมงานคู่ค้าที่ฮ่องกงเองทุกครั้งเขาจะได้ไม่เหนื่อยมากแค่ที่นี่บริษัทก็ยุ่งเยอะแล้ว แต่ไม่เคยรู้ว่าอีกฝ่ายไประเริงชู้กับเมธัสคู่แข่งทางธุรกิจพร้อมวางแผนทำลายและเหยียบย่ำเขาให้จมดิน
เขาโง่งมจนวินาทีสุดท้ายหลังจากที่เขากลายเป็นบุคคลล้มละลายเมื่ออีกฝ่ายบอกว่าจะพามาใช้ชีวิตที่นี่จนบั้นปลายอย่างมีความสุขโดยไม่สนใจเงินทองใดๆ หัสวีร์นึกดีใจเหลือเกินที่เลือกคู่ชีวิตไม่ผิดถึงจะไม่เหลืออะไรแต่คนๆนี้ก็ไม่เคยคิดจะทิ้งกัน
โง่จนไม่รู้ว่าถูกหลอกมาขายด้วยแผนการของเมธัสที่อยากเหยียบหัสวีร์ให้จมแบบไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดในนรก กว่าจะรู้ว่ามีภัยก็ตอนเห็นคนชุดดำเฝ้าหน้าบ้านพักเต็มไปหมดกับคนที่ตนเองเคยไล่ให้ออกจากชีวิตอย่างมนัสวีถูกขังเอาไว้ หลังจากที่ตัดขาดกันไปก็ไม่ได้ติดตามข่าวคราวรู้แค่ว่ากลับไปบริหารโรงเรียนสอนศิลปะของผู้เป็นพ่ออย่างถาวรแล้วทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้
พวกเขาไม่ใช่พี่น้องร่วมสายเลือดทั้งแม่ของหัสวีร์และพ่อของมนัสวีแต่งงานกันและต่างฝ่ายก็มีลูกติดอายุห่างกันเพียงปีเดียว เมื่อตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกันทั้งคู่ให้ความรักแก่เด็กทั้งสองอย่างเท่าเทียมไม่เคยแบ่งลูกฉันลูกคุณ ทำให้เด็กน้อยที่เติบโตมาด้วยกันรักกันเฉกเช่นพี่น้องร่วมสายเลือด เติบโตอย่างงดงามท่ามกลางความรักและความอบอุ่นระหว่างผู้ใหญ่ทั้งสองคน
แต่แล้วความสุขก็ถูกกระชากจนขาดวิ่นด้วยการจากไปของพ่อและแม่ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ท่ามกลางความเสียใจอย่างท่วมท้นแต่ต้องเดินไปข้างหน้า
เหตุการณ์ดำเนินไปอย่างปกติโดยหัสวีร์ไปบริหารงานบริษัทออกแบบอัญมณีของแม่ส่วนมนัสวีสานต่องานศิลปะของพ่อเพราะความสามารถที่แตกต่างกันแต่ยังคงเกื้อกูลเสมอ จนกระทั่งมีมือคู่หนึ่งของสรัลหยิบยื่นเข้ามามอบความรักและเติมพลังใจให้โดยไม่เคยเอะใจเลยว่ามันคือหลุมพรางระดับเริ่มต้นทั้งงานและสายสัมพันธ์ของครอบครัวเพียงหนึ่งเดียว
ค่อยๆกัดกร่อนจากภายในทีละนิดๆซึ่งหลายครั้งสินค้าที่บริษัทเขาออกแบบดันเหมือนกับบริษัทคู่แข่งอย่างเมธัส ปัญหาการขนส่งล่าช้าจนเสียค่าปรับให้กับลูกค้าเป็นจำนวนมหาศาล การยักยอกภายในจนนำไปสู่หายนะล้มละลาย
“ที่ผ่านมาไม่รู้สึกรักวินเลยเหรอครับพี่รัน”
หัสวีร์ถามคนตรงหน้าที่เอาแต่เงียบและหลบสายเขาอยู่ข้างๆเมธัสด้วยความเจ็บปวดไปทั้งหัวใจ
“รู้ตัวว่าโง่นักก็แค่ทำตัวดีๆแล้วนอนอ้าขาเป็นอีตัวบนเตียงให้แขกที่กูหาให้ก็พอทั้งแกและน้องสาวจอมแส่นั่นแหละ”
“ไอ้เมธัส ไอ้ชั่ว”
พลั่ก!
“วิน!”
“เบามือหน่อยพวกแกสินค้าช้ำหมดเดี๋ยวราคามันจะตก”
หัสวีร์ตัวสั่นไปหมดไม่ใช่เพราะความกลัวแต่เป็นความเคียดแค้นหลังจากได้รับรู้เรื่องราวยิ่งทำอะไรคนตรงหน้าไม่ได้แล้วก็ยิ่งเกลียดตัวเองมากขึ้นที่โง่เหมือนที่เมธัสด่าไว้จริงๆ จนทำให้น้องสาวอย่างมนัสวีติดร่างแหมาด้วยเพราะรับรู้แผนการโดยบังเอิญเลยมาอยากเตือนพี่ชายแต่ถูกจับได้เสียก่อน
พวกเขาถูกขังเพื่อรอการส่งต่อไปยังผู้ซื้อเหมือนสินค้าชิ้นหนึ่งแต่หัสวีร์ไม่ยอมจำนนง่ายๆให้กับคนที่ฉากหน้าคือนักธุรกิจอัญมณีระดับแนวหน้าของไทย ส่วนเบื้องหลังเป็นนายหน้าค้ามนุษย์อย่างเด็ดขาดจึงออกอุบายและหลบหนีออกมาในที่สุดพร้อมปืนคนละกระบอกแต่พลาดท่าถูกจับได้จนทำให้น้องสาวบาดเจ็บ
“นัทอดทนอีกนิดนะเดี๋ยวก็ถึงเรือแล้ว”
แม้เหนื่อยใจแทบขาดแต่พวกเขาก็พักไม่ได้
“เฮ้ย พวกมันอยู่นั่น”
เป็นอีกครั้งที่ต้องเปลี่ยนเส้นทางใหม่เพราะถูกดักข้างหน้า
หน้าผา? เขาต้องพาน้องกลับหลังไปอีกทางก่อนที่พวกมันจะตามมาทัน
แปะ แปะ แปะ
เสียงปรบมือดังขึ้นก่อนที่หัสวีร์และมนัสวีจะหันหลังกลับ
“ว้า หนูของเราไปต่อไม่ได้แล้วสิ ทำไงกับพวกมันดีน้า”
“วินจะถ่วงเวลาไว้เองนัทรีบหนีไปตอนได้รับสัญญาณนะ”
“ไม่ วินนั่นแหละหนีไปนัทจะถ่วงเวลาไว้เอง”
“กระซิบกระซาบอะไรกัน! หนียังไงก็ไม่รอดหรอกนอกจากพวกแกจะหายตัวไปจากตรงนี้ได้เองน่ะนะ”
พวกมันยิ่งรุกคืบเข้าพวกเขาก็ยิ่งถอยหลังออกใกล้หน้าผามากขึ้น
“ฉันไปทำอะไรให้นอกจากคู่แข่งทางธุรกิจก็ไม่เคยบาดหมางจนแกต้องจองเวรกันขนาดนี้”
หัสวีร์ถามเมธัสไม่ใช่แค่อยากถ่วงเวลาเท่านั้นแต่ต้องการรู้เหตุผลที่อีกฝ่ายเหยียบเขาให้จมขนาดนี้
“ความจริงแค่ต้องการล้มคู่แข่งอย่างแกเท่านั้นแต่บังเอิญว่าคนของฉันดันหวั่นไหวกับแกนี่สิ ออกปากแก้ตัวให้ทั้งที่แต่ก่อนเป็นเด็กดีเชื่อฟังขนาดนั้น ก็แค่อยากจัดการตัวปัญหาให้มันสิ้นซาก”
เจ็บแทบกระอักเลือดเพิ่มขึ้นอีกคือการได้รับรู้ว่าสรัลไม่ได้นอกใจไปหาเมธัสแต่เป็นเขาต่างหากที่เป็นหมากสถานะชู้ แม้ได้แต่งงานอยู่กินอย่างออกหน้าออกตาแล้วก็ตาม
“เลิกถ่วงเวลาได้แล้ว เฮ้ยไปเอาตัวพวกมันมา”
เมธัสออกคำสั่งให้ลูกน้องไปลากคนทั้งสองกลับมา
“ถ้าพวกแกเข้าพาพวกฉันจะกระโดดลงไปตอนนี้เลย”
หัสวีร์พูดแทรกก่อนที่พวกนั้นจะเข้ามาใกล้พร้อมเดินถอยหลังไปสู่หน้าผามากยิ่งขึ้น
“นี่แกขู่ฉันเหรอ”
“หึ กับคนที่ไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้วมันเหมือนการขู่มากนักเหรอเมธัส”
พอได้คิดตามก็พาให้ร้อนใจมากขึ้นเมธัสไม่อยากมีปัญหากับคนที่จ่ายเงินซื้อพี่น้องคู่นี้เพราะอิทธิพลของอีกฝ่ายครอบคลุมธุรกิจสีเทามากกว่าธุรกิจถูกกฎหมายที่เป็นฉากบังหน้า บอสมาเฟียลูกครึ่งอเมริกันสัญชาติจีนขึ้นชื่อเรื่องความเลือดเย็นแม้อายุล่วงเลยเลขห้าแต่ยังคงดูดีและหล่อเหลา
“แกต้องการต่อรองอะไรว่ามา”
ยิ่งเห็นสายตาร้อนรนทำให้หัสวีร์แน่ใจว่าบุคคลที่ต้องการซื้อพวกเขานั้นยิ่งใหญ่จนเมธัสไม่กล้าต่อกรด้วยแน่นอน
“ให้พี่รันเป็นคนมารับฉันจะยอมไปด้วยดีๆ”
“เฮอะ แกยังหวังลมๆแล้งๆอยู่อีกเหรอวะ ไม่ต้องฟังไปเอาพวกมันมา”
“เดี๋ยวก่อน ให้รันเป็นคนพาเขามาดีกว่านะครับเมษอีกอย่างคุณมาร์ติโน่ก็กำลังจะถึงแล้วรันไม่อยากให้คุณมีปัญหากับเขา”
จะอ้วก รักกันดีเหลือเกินนะ
นี่คือสิ่งที่หัสวีร์และมนัสวีคิดตรงกัน
“เอาเถอะถือซะว่าทำบุญเพื่อความสุขของแกเป็นครั้งสุดท้ายก็แล้วกัน”
คนที่เคยขึ้นชื่อว่าสามีสาวเท้าเข้ามาอย่างไม่เร่งรีบกับสายตาที่มองมาเหมือนกับว่ารู้สึกผิด? ให้ตายเถอะเขาอยากจะควักลูกตาคู่นั้นมาเหยียบให้เละเสียจริง ระยะทางสั้นลงทีละนิดๆระหว่างนั้นเขาได้อธิบายถึงแผนการให้กับคนด้านหลังฟัง
“เส้นทางซ้ายมือจะมีสปีดโบ๊ทจอดอยู่ไม่ไกลพอเสียงปืนดังปุ๊บให้รีบวิ่งทันทีอย่าหันกลับมาเด็ดขาด”
“ไม่เอา ถ้าจะตายเราก็ต้องตายด้วยกัน”
“วินขอร้องได้ไหม มีชีวิตอยู่เพื่อคนโง่คนนี้เถอะนะ”
พูดด้วยน้ำเสียงเว้าวอนกับน้องสาวต่างสายเลือดโดยไม่ละสายตาจากการเคลื่อนไหวของคนทรยศ
หนึ่ง
สอง
สาม
ปัง!
ไม่เคยจับปืนแต่พอรู้วิธีใช้มาบ้าง รู้ว่าโอกาสที่เป็นไปได้มีน้อยกว่า 0.1% แต่ก็ดีกว่ายืนรออีกฝ่ายหยิบยื่นความอัปยศอย่างไม่สิ้นสุดมาให้
แม้จะแค้นมากแค่ไหนแต่ยังวู่วามไม่ได้รอให้คนที่หมายหัวอยู่ในระยะไม่น่าพลาดจะด้วยความแค้นที่สุมอกจนล้นเป็นแรงขับเคลื่อนหรืออย่างไรทำให้กระสุนที่ออกจากรังเพลิงเจาะกลางหน้าผากสรัลอย่างพอดิบพอดี
ไม่ทันได้ระวังตัวเพราะคิดว่าคนตรงหน้าไร้พิษสง เสียงปืนดังพร้อมกับเหมือนมีอะไรแตกโพล๊ะในหัว ก่อนที่จะล้มตึงและเสียชีวิตคาที่ไปพร้อมคำถามคาใจว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร
ปัง ปัง ปัง ปัง
“วินอย่าร้องนะ นัทเจ็บนิดเดียวไม่เป็นไร อึก!”
“ฮึก เด็กโง่ พี่ขอโทษ”
คนเป็นพี่รู้สึกจุกอยู่ในอกไม่สามารถเอื้อนเอ่ยคำพูดได้มากกว่านั้นก่อนจะพลิกตัวเป็นเกราะกำบังแทนน้องสาวที่กำลังปกป้องเขาอยู่จนลมหายใจสุดท้ายสิ้นสุดลง เสียดายที่มันเหลือแค่นัดเดียวเสียดายที่เขายิงปืนไม่เป็นเป็นไรเขาจะไม่ยอมไปผุดไปเกิดแต่ตามจองเวรคนพวกนั้นตลอดไป
แค้นแม้กระทั่งวิญญาณที่ออกจากร่างยังเฝ้ามองเหตุการณ์หลังจากนั้นไม่ได้ไปไหน ภาพการต่อสู้เบื้องหน้าระหว่างพวกเมธัสที่กำลังเสียเปรียบกับกลุ่มผู้มาใหม่แสนคุ้นตาเมื่อรับรู้ว่าทั้งเขาและน้องสาวไม่ได้อยู่บนโลกใบนี้แล้ว
อยากได้สินค้าอย่างพวกเขาขนาดนั้นเลยเหรอ?
ไม่ใช่ ความรู้สึกแรกบอกแบบนั้นหัสวีร์รับรู้ถึงความผิดปกติของชายวัยกลางคนตรงหน้าที่มีดวงตาสีเฮเซลเดียวกันกับเขา และพวกเราเจอกันในฐานะคู่ค้าคนสำคัญทางธุรกิจแม้ไม่เคยคาดเดาความคิดหรือจับอารมณ์ได้แต่ไม่เคยรู้สึกถึงภัยคุกคามอย่างที่สรัลเคยเตือนถึงแม้อีกฝ่ายจะเป็นบอสมาเฟียในคราบนักธุรกิจก็ตาม
'มาร์ติโน เฉิน'
เดินมายังร่างไร้ลมหายที่ปกป้องกันและกันไว้จนวินาทีสุดท้ายหลังจากออกคำสั่งให้กำจัดเมธัสและพวก แม้สีหน้ายังเฉยชาแต่แววตาสีเฮเซลกำลังสั่นไหวเจ็บปวดอย่างปิดไม่มิด
มาช้าเกินไปถ้ารีบจัดการพวกหนอนบ่อนไส้ให้เร็วกว่านี้ลูกชายของเขาคงไม่เป็นแบบนี้ แรกพบเจอก็กลัวว่าเด็กคนนี้จะมีอันตรายจนไม่อยากใกล้ชิดเกินกว่าคู่ค้ารายใหญ่ให้ศัตรูที่มีแทบทุกที่เอะใจ ถ้าคอยจับตาดูคนรอบตัวหัสวีร์ว่าใครคิดร้ายก็กำจัดทิ้งทันที แล้วอย่างไรสุดท้ายก็ปกป้องไว้ไม่ได้ทั้งคนรักและลูกในสายเลือด
“จับโยนลงไปก้นทะเลทำลายหลักฐานซะ”
ไคล์มือขวาคนสนิทออกคำสั่งหลังจากเห็นว่าเก็บงานเรียบร้อย
“บอสครับแล้วนายน้อยกับน้องสาวจะกลับคฤหาสถ์หรือว่าให้อยู่ข้างนายหญิงดีครับ”
“หัสวีร์รักแม่และครอบครัวของเขามากให้พวกเขาพักผ่อนอยู่ข้างกันเถอะ”
“ครับบอส”
“แล้วไปจัดการพวกนิจอนันต์ให้สิ้นซากทำให้มันเป็นหมาจนตรอกอยู่อย่างทรมานแล้วค่อยส่งไปขาย”
ความจริงตรงหน้าทำให้ชายหนุ่มสับสนไปชั่วขณะแม่เคยบอกว่าพ่อของเขาเสียชีวิตจากอุบัติเหตุตั้งแต่เขายังไม่เกิด แล้วตอนนี้ไม่ใช่แค่พ่อยังไม่ตายแถมเป็นมาเฟียทรงอิทธิพลจากจีนแผ่นดินใหญ่อีกต่างหากเพราะแบบหรือเปล่าทุกครั้งที่เขาได้พบอีกฝ่ายในฐานะคู่ค้าถึงไม่รู้สึกถึงแรงกดดันหรือไม่ปลอดภัยใดๆแม้เจอสายตาที่อ่านไม่ออก ทั้งที่คนอื่นเคยเตือนว่าคนๆนี้ไว้ใจไม่ได้แถมขึ้นชื่อเรื่องความเลือดเย็นไม่ไว้หน้าใคร
หัสวีร์ยืนมองส่งร่างเขาและน้องสาวจนลับสายตาป่านนี้นัทคงได้ไปหาพ่อกับแม่แล้วสินะ เราคงไม่ได้เจอกันอีกเพราะคนอย่างพี่มันบาปเหลือเกิน
จากนั้นเดินไปยังกลุ่มคนที่กำลังทิ้งร่างสรัล เมธัส และบรรดาลูกสมุนพร้อมหินถ่วงลงสู่ก้นทะเล ทำไมพวกมันตายง่ายกันจังนะยังไม่สาสมกับสิ่งที่ทำไว้กับพวกเขาเลยความแค้นนี้มันสุมอกมากเหลือเกิน สุมเหมือนไฟผลาญจากนรกไม่มีผิด
หากได้เจอกันอีกครั้งเขาสาบานไว้เลยว่าจะเป็นคนลงมือเองให้พวกมันทรมานเหมือนตายทั้งเป็นยิ่งกว่าเขาเป็นร้อยเท่าพันเท่าพาไปจุดสูงสุดแล้วค่อยกระชากลงมา ทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกมันภูมิใจหนักหนา
เรียนรู้การใช้อาวุธที่เล็งยังไงไม่ให้โดนจุดสำคัญค่อยๆเชือดอย่างช้าๆไปทีละนิด รวมไปถึงศิลปะป้องกันตัวเพื่อปกป้องคนที่รักเขาอย่างแท้จริง และใช้อิทธิพลของพ่อเหยียบพวกมันซ้ำๆไม่ให้มีที่ยืนจนต้องกราบเท้าอ้อนวอนเพื่อให้เขามอบความตายให้เสียที
“ยังไงฉันก็ไม่ยอมเด็ดขาดค่ะ”เสียงโวยวายดังสวนขึ้นทันทีหลังจากที่ชายหนุ่มพูดจบประโยค“ไหนคุณลองให้เหตุผลมาสิครับว่าทำไม”เจ้าของตาคมสีเฮเซลเอ่ยถามหัวหน้าการตลาดสาวด้วยแววตานึกสนุก“พี่อาทิตย์เตรียมแผนงานมาตั้งนานอีกแค่หนึ่งเดือนก็ถึงวันเปิดตัวแล้วไหนจะค่าใช้จ่ายส่วนต่างที่ออกไปก่อนอีกแบบนี้ไม่แย่ไปหน่อยเหรอคะนี่ผ่านการคิดมาแล้วเหรอ”หลายคนไม่พอใจกับท่าทางเย่อหยิ่งกับคำพูดหักหน้าเจ้านายที่พวกเขาเคารพรัก แต่ต้องเก็บอาการไว้เพียงเพราะอีกฝ่ายคือน้องสาวสรัลผู้เป็นสามีของชายหนุ่ม แล้วยิ่งหงุดหงิดใจที่ผู้ถูกกระทำไม่ได้แสดงสีหน้าไม่พอใจหรือเป็นเป็นเดือดเป็นร้อนสักนิดซึ่งเป็นภาพที่คุ้นตาแต่ไม่เคยชินเสียที ทำไมครั้งนี้มันรู้สึกเสียวสันหลังแปลกๆกับรอยยิ้มที่ยังคงประดับอยู่บนใบหน้าหล่อเหลานั่น“ไม่เอาน่าริน”สรัลเอ่ยปรามน้องสาว“ทำไมก็รินพูดเรื่องจริง”สิรินยังคงลอยหน้าลอยตาเพราะถึงยังไงพี่ชายของเธอก็ไม่ได้ปรามแบบจริงจังอยู่แล้ว“นั่นสิครับวินมันกระชั้นชิดไปหรือเปล่านี่ทางนั้นเขาก็เริ่มเตรียมงานให้เราแล้วเพราะของตกแต่งบางชิ้นต้องนำเข้าจากต่างประเทศด้วยบริษัทออแกไนซ์ของพี่อาทิตย์อาจจะฟ้องเรากลับไ
เฮ้! วู้ว ใครวะมึงวินไงโห จริงดิ หายไปโคตรนานเออสุดยอดไปเลยกรี๊ด พี่วินเสียงเฮลั่นสนามแข่งเมื่อบิ๊กไบค์คันแรกเข้าสู่เส้นชัยก่อนอีกคันที่จะตามมาอย่างติดๆแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้น หมวกถูกถอดออกเห็นว่าชายหนุ่มทั้งสองนั้นมีบุคลิกและใบหน้าที่โดดเด่นแตกต่างกันกำลังหัวเราะและกอดคอกันออกไปยังห้องส่วนตัวเจ้าของสนามหากใครที่เคยมาตั้งแต่ Steed King เปิดสนามแรกๆเมื่อหลายปีก่อนจะต้องรู้จักวินในฐานะแชมป์สนามก่อนที่จะวางมือและหายหน้าไปหลังจากแม่เจ้าตัวเสียชีวิตกระทันหัน“ถ้าไม่มีเรื่องให้ช่วยก็ไม่เห็นหัวเลยนะครับคุณหัสวีร์ตั้งแต่มีสามีเนี่ย แล้วคิดไงสลัดมาดผู้บริหารมาในลุคนี้ได้”จิตรกรอดเอ่ยแซวน้องคนสนิทที่รู้จักกันมาตั้งแต่สมัยเด็กในชุดแข่งรถกับจิวที่หูครบทั้งเจ็ดรูเหมือนสมัยเรียนมหา’ลัยไม่ได้เพราะตั้งแต่เข้าไปบริหารงานบริษัทจิวเวอรี่ต่อจากแม่ร้อยวันพันปีแทบไม่เคยจะโผล่หน้ามาหากว่าจะได้เจอแต่ละทีช่างยากเย็นเหลือเกิน ยิ่งช่วงหลังแต่งงานด้วยแล้วเพิ่งได้เจอเนี่ย ด้วยความที่พ่อของมนัสวีกับพ่อของเขาเป็นเพื่อนรักกันตั้งแต่สมัยเรียนไปมาหาสู่กันเรื่อยมาจนมีครอบครัวกระทั่งตอนที่ลุงมาโนชแต่งงานใหม่ก
ความเคยชินตั้งแต่รับช่วงต่อลักษิกาเจ็มหัสวีร์มักตื่นเช้าเสมอไม่ว่าจะนอนดึกแค่ไหนก็ตาม ทั้งที่บ้านไม่ได้หลังใหญ่ขนาดนั้นแต่ทำไมมันรู้สึกเงียบเหงาขนาดนี้กันนะมีแค่เขาคนเดียวที่นั่งทานอาหารเช้า ชีวิตที่แล้วไม่เคยรู้สึกถึงความอ้างว้างสักนิดแค่สรัลไปดีลงานที่ฮ่องกงเดี๋ยวก็กลับมาส่วนงานตัวเองก็ยุ่งมาก ยิ่งกับมนัสวีด้วยแล้วหลังความสัมพันธ์แย่เลยห่างกันต่างคนต่างอยู่ตอนนั้นเขาคิดอะไรอยู่นะที่ไม่เคยฉุกใจเลย แม้แต่ภาพในอดีตแสนอบอุ่นสี่คนในครอบครัวไม่เคยลอยเข้ามาในหัวตอนที่พูดจาทำร้ายความรู้สึกคนน้องแรงขนาดนั้น“นัทเห็นพี่รันถือแบบเครื่องเพชรออกมาจากห้องทำงานวิน”“คิดมากน่าใช่ที่ไหนล่ะพี่รันไปเอาเอกสารสัญญา”“ไม่จริง นัทเห็นกับตาแถมยังรีบออกจากบ้านไปกับใครก็ไม่รู้“หลายรอบแล้วนะ อิจฉาหรือไงที่แบบของตัวเองไม่ถูกเลือกน่ะ”“พวกเราเป็นพี่น้องกันนะนัทจะอิจฉาวินไปเพื่ออะไร“เหอะ ก็แค่น้องนอกไส้ทำไมจะทำไม่ได้ แถมชอบยุ่งทุกเรื่องสร้างปัญหาตลอด รอบก่อนก็ทะเลาะกับรินเรื่องตลาด ต่อไปไม่ต้องเข้ามาที่บริษัทแล้วนะ“เออ! จะไม่มาเหยียบอีกไม่ว่าที่นี่หรือลักษิกาเจ็ม”“จะไปไหนก็ไปเลย!”ดวงตาสีสวยกระพริบถี่ไล่ไม่
เช้านี้ทุกสำนักข่าวทุกพื้นที่สื่อถูกนายอาทิตย์ บรรพ์เกียรติ เจ้าของผับหรูและบริษัทออแกไนซ์ชื่อดังพร้อมกับเพื่อนอีกสิบคนที่มีชื่อเสียงในแวดวงธุรกิจหมดในสภาพที่ดูไม่ได้หน้าตาบวมช้ำ ร่างกายบาดเจ็บกระดูกแขนขาหักบางส่วนซึ่งไม่ได้จงใจเอาชีวิตรวมไปถึงอวัยวะเพศมีเลือดซึมจากรอยเข็มจิ้มอย่างรุนแรงตรวจสอบแล้วพบว่าถูกฉีดฮอร์โมนทำให้ฝ่อตัว ส่วนคนทำนั้นตามตัวไม่ได้ไร้ร่องรอยให้ติดตามราวภูติผียามค่ำคืนทั้งนี้ยังมีหลักฐานการกระทำความผิดในข้อหาค้ามนุษย์และค้ายาเสพติดรายใหญ่รวมไปถึงยาเสียสาวที่กำลังระบาดในช่วงนี้ ถูกส่งมอบมาให้ผู้กำกับธนภัทร ภูติสกุล ฉายามือปราบกังฉินผู้มีภูมิหลังที่ไม่ธรรมดา “เอ๋? จำได้ว่านายอาทิตย์ต้องแต่งงานสิรินสิ้นปีนี้นี่นาแล้วใช้ชีวิตอย่างอู้ฟู่มีบ้านเล็กบ้านน้อยไปเรื่อยๆส่วนเมียหลวงก็ตามจิกเป็นไก่เช่นกัน”หัสวีร์ในชุดเสื้อคอเต่าสีดำกางเกงสีซิลเวอร์เกรย์แบบเดียวกับสูทที่ถูกถอดพาดหลังเก้าอี้ตัวใหญ่ ใบหูขวาประดับโอปอล์สีดำเม็ดจิ๋วตรงตำแหน่งอัพเปอร์โลบ (Upper lobe) สองชิ้นและแฟลต (Flat) หนึ่งชิ้น กำลังอ่านข่าวพลางพูดกับตัวเองด้วยความสงสัยหรือเพราะเขาย้อนเวลากลับมาเลยเกิดปรากฎการณ
หัสวีร์มาพบชัชชัยที่ร้านเลอฌาเพียงคนเดียวเปิดห้องเข้าไปเจอแขกนั่งรออยู่แล้วทั้งที่ยังไม่ถึงเวลานัดชายวัยกลางคนแต่งตัวภูมิฐานบุคลิกน่าเชื่อถือสายตาไม่ว่อกแว่กยามจดจ้องสนทนา อีกทั้งโปรไฟล์ที่สร้างขึ้นมาในแวดวงธุรกิจยังดูดีอีกด้วยไม่แปลกใจที่ก่อนหน้าจะมีคนตกเป็นเหยื่อถูกต้มตุ๋น“ผมบอกเลยว่าคุณหัสวีร์ตาแหลมมากจริงๆ”“คุณชัชชัยอยากได้เท่าไหร่ครับ”หัสวีร์ถามหยั่งเชิงในขณะที่คู่ค้าได้ยินแล้วตาลุกวาวในใจลิงโลดแต่ต้องเก็บอาการไว้กลัวไก่ตื่น“เหมืองทับทิมสยามทุกที่ปิดถาวรไปหมดแล้วสี่ก้อนผมขอล้านห้าแล้วกันครับ”ชัยชัยเอ่ยราคาในใจพร้อมมองสีหน้าเรียบนิ่งของชายหนุ่มที่ไม่มีปฏิกิริยาตอบรับก็เริ่มใจคอไม่ดีหรือมันแพงไปวะชวดรอบนี้อดแน่กู“แต่สำหรับคุณผมคิดแค่หนึ่งล้านพอ”ท่าทีที่เริ่มร้อนรนทำให้ผู้บริหารหนุ่มกระตุกยิ้มบางมองด้วยสายตานึกสนุกก่อนจะหยิบเช็คขึ้นมาเขียนหลังตรวจสอบแล้วว่าข้างในมีอัญมณีแน่นอน“ไม่ต้องหรอกครับเอาราคาแรกนั่นแหละ”หินเหล่านี้มาจากเหมืองรัตนากรจริงซึ่งมั่นใจได้ว่าเป็นทับทิมสยามแน่นอนแค่สามก้อนเท่านั้นส่วนก้อนที่เล็กเท่าไข่ไก่เพื่อนที่มาจากรัสเซียนอกเมืองห่างไกล ได้มาในราคาแสนถ
“แค่นี้ก็เหนื่อยแล้วเหรอครับ”“ฮื้อ วินก็พักแป๊บหนึ่ง แฮ่ก รอก่อน”“เราเพิ่งเริ่มเองนะครับ”“หยุดขำนะทั้งคู่เลย”หัสวีร์ที่นอนแผ่หลาหอบอยู่กลางยิมโดยมีจิตรกรนั่งหัวเราะอยู่ข้างๆส่วนครูผู้สอนที่ยืนไหล่สั่นกลั้นไว้‘ยิวยิตสู’ เป็นศิลปะป้องกันตัวระยะประชิดที่ชายหนุ่มเลือกเรียนเพราะอาศัยวิธีการต่อสู้แบบผสมผสานมีจุดเด่นด้านความรวดเร็วรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นทุ่มตัว โจมตีตามข้อ หักแขนหักขาให้เสียหลัก จับล็อกหรือนอนรัดให้คู่ต่อสู้ขยับไม่ได้ใช้งานได้ทั้งยืนและนอนที่สำคัญสามารถนำศาสตร์มวยไทย เทควันโด้ คาราเต้มาประยุกต์ใช้ได้ด้วยหลายคนอาจเกิดสับสนว่ายิวยิตสูกับยูโดแต่จริงแล้วนั้นยูโดพัฒนามาจากยิวยิตสูเพียงแค่ตัดท่าอันตรายออกไป เช่น ท่าฟันคอ หักแขนหักขา และท่าสังหารต่างๆถูกคัดออกทั้งหมดเน้นท่าทุ่มเป็นหลักอาศัยวิธีการจับคอเสื้อหรือแขนเสื้อทุ่มแทนเมื่ออีกฝ่ายหงายหลังลงพื้นกรรมการจะนับคะแนนและให้สัญญาณสองฝ่ายแยกออกจากกัน ไม่มีความรุนแรงหรืออันตรายเพื่อให้กลายเป็นกีฬาแข่งขันที่ปลอดภัยมากขึ้นส่วนตอนนี้หลังวอร์มร่างกายผ่าน
“เชิญครับ”ตอนนี้เมธัสกำลังขึ้นขึ้นลิฟท์ไปชั้นสูงสุดของคาสิโนที่ติดหนึ่งในสามของผู้ทรงอิทธิพลเพื่อพบใครคนหนึ่งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เพราะเขา ‘พลาด’ แม้จะพยายามรักษาสีหน้าให้เรียบนิ่งไว้ได้แต่มือกับชื้นไปด้วยเหงื่อทั้งที่เครื่องปรับอากาศภายในอาคารอยู่ที่ 20 องศาเซลเซียส“ว่ายังไงครับ”“ผมขอโทษครับ”“คุณเมธัสลืมอะไรไปหรือเปล่าครับ”ยิ่งใบหน้าหล่อเหลายิ้มโดยปราศจากอารมณ์ขุ่นเคืองมากเท่าไหร่เมธัสก็ยิ่งเสียวสันหลังจนเหงื่อไหลซึม แม้อายุเพียง 38 ปี กลับได้กุมบังเหียนใหญ่มาเกือบสิบปีไม่ใช่แค่คาสิโนที่มีสังเวียนมวยใต้ดินไร้กฎแต่ครอบคลุมไปถึงอาวุธเถื่อนและการค้ามนุษย์ ขึ้นชื่อเรื่องความโหดเหี้ยมเลือดเย็น“เอ่อ ไม่ใช่ครับผมจะเอาสินค้ามาส่งให้ในอีกสามวันครับ”“โชคดีที่แขกของผมเลื่อนเดินทางเป็นอาทิตย์หน้า อย่าทำให้ผิดหวังอีกล่ะครับ”“ไม่มีทางเด็ดขาดครับ”เมธัสกลืนน้ำลายอย่างยากเย็นกำมือที่สั่นแน่นจนเล็บจิกกลางฝ่ามือลอบสังเกตคู่สนทนาด
หลังจากประชุมช่วงบ่ายเสร็จหัสวีร์แวะไปที่ห้องบอลรูมของโรงแรมเดอะเซ็นต์พาวิลเลียนสถานที่จัดงานโดยมีสรัลอาสามาเป็นเพื่อน เมื่อมาถึงคนที่ขึ้นชื่อว่าสามีดูเหมือนจะเริ่มทำตัวน่ารำคาญในสายตาชายหนุ่มนิดหน่อยจากที่รังเกียจอยู่แล้ว“ที่รักเปลี่ยนธีมการจัดงานทำไมไม่บอกพี่ครับ”“ก็เปลี่ยนหลังจากเจ้าของบริษัทที่พี่หามาโดนจับนั่นแหละครับ”“ก็ใช่ไงครับต้องบอกพี่ด้วยสิ ทำอะไรตามใจตัวเองไปหรือเปล่า”ดวงตาสีเฮเซลหันไปมองคนพูดที่กำลังทำเสียงหงุดหงิดอย่างเย็นชา“ทำไมครับ เพิ่งรู้ว่าบริษัทตัวเองแต่เวลาจะทำอะไรต้องได้รับอนุญาตจากคนอื่นด้วย”ทางสรัลเหมือนเพิ่งรู้ตัวว่าแสดงอาการที่ไม่หมาะสมออกไป“พี่ขอโทษครับวิน แค่เป็นห่วงมากไปหน่อยกลัวว่าถ้าไม่เหมือนที่วางไว้ก่อนหน้านี้แล้วงานออกมาไม่ดี”“อย่าห่วงเลยครับผมรู้ดีว่ากำลังทำอะไร”“ไม่เอาสิครับอย่าทำห่างเหินกันแบบนี้พี่ขอโทษนะ”ชายหนุ่มจับมือผู้เป็นภรรยาขึ้นมาจูบแผ่วเบาอย่างเอาใจไม่ได้โต้แย้งอะไรเพิ่มอีก
หัสวีร์ค่อนข้างคุ้นชินกับการนอนที่ Steed King ด้วยความที่เจ้าของสนามแข่งทำห้องนอนไว้สองห้องเผื่อไว้ ช่วงสมัยเรียนหลังจากลงแข่งเสร็จก็ดึกแล้วเลยขี้เกียจขับรถกลับเพราะอยู่ชานเมืองค่อนข้างไกลมหา’ลัย วันไหนว่างหรือมีเรียนบ่ายถึงจะแวะมาแข่งเลยเป็นเหมือนแขกประจำใช้บริการนอนฟรีอยู่บ่อยๆผมที่เปียกลู่ถูกคนตัวโตเป่าให้จนแห้งสนิทพร้อมยาคลายกล้ามเนื้อและบริการนวดเพราะเริ่มปวดเมื่อยตัวจากการตีลังกาหลายตลบ“เขยิบมาครับทำไมต้องนอนห่างขนาดนั้น”ท่ามกลางแสงสลัวจากโคมที่ให้แสงสว่างเพียงหนึ่งเดียวจิตรกรที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จสอดตัวเองเข้าใต้ผ้าห่มให้เบาที่สุดจะได้ไม่รบกวนคนที่นอนอยู่แต่ไม่คิดว่านอกจากจะยังไม่หลับยังตบพื้นที่ว่างดังปุๆให้ร่างสูงขยับไปใกล้“นอนได้แล้วครับ”เมื่อไม่ได้ดั่งใจแม้คนข้างตัวขยับเข้ามาแล้วจุ๊บหน้าผากกอดหลวมๆ แต่มือนิ่มกลับซุกซนสอดเข้าไปลูบไล้หน้าท้องแข็งแรงที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อแน่นหกลูก เสียงกลั้วหัวเราะคิกคักเมื่อถูกรั้งจับแน่นราวกับว่าสลับบทบาทกันจากครั้งแรกๆที่เคยเขินอายยิ่งเห็นคนพี่อดทนได้ก็ยิ่งได้ใจมากขึ้น“อย่ายั่วพี่”เพรา
“อีกสองเดือนเหรอครับ”“ใช่แล้วครับ”“ทำไมพี่เป็นหลานชายมาเฟียไปได้เนี่ย”“ขนาดน้องยังเป็นลูกชายคุณมาร์ติโนเลยครับ”“ก็จริง”หัสวีร์ยิ้มขำนอนหนุนตักจิตรกรอยู่บนโซฟาตัวใหญ่ในห้องทำงานฝ่ามือซุกซนไล้ไปตามกรอบหน้าคมหรือเพราะแบบนี้ไหมนะชีวิตที่แล้วคนรักของเขาถึงถูกลอบยิงจนพิการทั้งที่ไม่ได้ไปข้องเกี่ยวกับฝั่งนั้นแต่ก็ถือว่าเป็นทายาทสายตรงเพียงคนเดียว“คิดอะไรอยู่ครับ หืม”สัมผัสแผ่วจากริมฝีปากเจ้าของตักจุมพิตลงกลางฝ่ามือนิ่มเบาๆเรียกสติของคนที่กำลังวิเคราะห์ถึงความเป็นไปได้กลับมา“ถ้าวันหนึ่งวินต้องมือเปื้อนเลือดขึ้นมาพี่จิ๋นซีจะกลัวน้องไหมครับ”“ไม่ครับ พี่จะเก็บกวาดให้น้องเองเพราะแฟนพี่ไม่เคยทำอะไรที่ไม่มีเหตุผลแล้วถ้าพี่ทำบ้างวินจะกลัวไหมครับ”“วินก็จะช่วยพี่จัดการเหมือนกันครับ”ดวงตาคู่สวยระยิบระยับพร้อมรอยยิ้มกว้างแนบฝ่ามือทั้งสองที่แก้มเจ้าของตักดึงอีกฝ่ายให้โน้มตัวเข้ามาใกล้ประกบริมฝีปากนิ่ม ลิ้นเล็กไล้ไปตามกลีบปากของคนพี่ค่อยๆขบเม้มดูดดึงเบาๆแล้วเข้าไปกวาดต้อนกระหวัดเกี่ยวพัวพันมือใหญ่เริ่มซุกซนสา
“วิน! ทำไมทำอะไรตามใจตัวเองแบบนี้เปลี่ยนคอลเลกชั่นที่จะแสดงกระทันหันได้ยังไง”สรัลที่กัดฟันด้วยไม่พอใจตะคอกเสียงดังใส่หัสวีร์ที่เพิ่งถูกลากออกมาจากบริเวณที่จัดงาน คนแสนเชื่องจูงจมูกง่ายเปลี่ยนไปมากขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน“อยู่ใกล้แค่นี้เสียงดังทำไมครับแล้วจะเปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยนแล้วมันยังไง”ชายหนุ่มในชุดสูทสีแดงเบอกันดีตัดกันกับเชิ้ตดำด้านในตอบกลับเสียงเรียบนิ่งกอดอกพิงราวระเบียงอย่างสบายใจมองหน้าคนที่กำลังโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง จิวทับทิมสยามเม็ดเล็กที่ใบหูทั้งสองข้างสะท้อนกับแสงไฟตัดกับสีตายามขยับตัวยิ่งเห็นสีหน้าเฉยชาทั้งยังไม่ได้คำตอบที่ต้องการคนขึ้นชื่อว่าสามีเคยเป็นคนใจเย็นแสนดี เส้นความอดทนขาดผึงเพราะแผนการที่วางไว้ถูกทำลายกระชากบีบต้นแขนคนตรงหน้าแน่น“ตอบมาอย่าให้พี่ต้องใช้กำลังนะวิน”หัสวีร์ยังคงนิ่งเงียบไม่แม้แต่จะแสดงความรู้สึกเจ็บออกมาทางสีหน้าผิดกับดวงตาแข็งกร้าวเพราะกำลังคิดว่าจะหักแค่นิ้วหรือหักทั้งแขนดีก่อนที่จะทำอย่างใจนึก…“โอ๊ย ใครวะ”เสียงร้องของ
หลังจากประชุมช่วงบ่ายเสร็จหัสวีร์แวะไปที่ห้องบอลรูมของโรงแรมเดอะเซ็นต์พาวิลเลียนสถานที่จัดงานโดยมีสรัลอาสามาเป็นเพื่อน เมื่อมาถึงคนที่ขึ้นชื่อว่าสามีดูเหมือนจะเริ่มทำตัวน่ารำคาญในสายตาชายหนุ่มนิดหน่อยจากที่รังเกียจอยู่แล้ว“ที่รักเปลี่ยนธีมการจัดงานทำไมไม่บอกพี่ครับ”“ก็เปลี่ยนหลังจากเจ้าของบริษัทที่พี่หามาโดนจับนั่นแหละครับ”“ก็ใช่ไงครับต้องบอกพี่ด้วยสิ ทำอะไรตามใจตัวเองไปหรือเปล่า”ดวงตาสีเฮเซลหันไปมองคนพูดที่กำลังทำเสียงหงุดหงิดอย่างเย็นชา“ทำไมครับ เพิ่งรู้ว่าบริษัทตัวเองแต่เวลาจะทำอะไรต้องได้รับอนุญาตจากคนอื่นด้วย”ทางสรัลเหมือนเพิ่งรู้ตัวว่าแสดงอาการที่ไม่หมาะสมออกไป“พี่ขอโทษครับวิน แค่เป็นห่วงมากไปหน่อยกลัวว่าถ้าไม่เหมือนที่วางไว้ก่อนหน้านี้แล้วงานออกมาไม่ดี”“อย่าห่วงเลยครับผมรู้ดีว่ากำลังทำอะไร”“ไม่เอาสิครับอย่าทำห่างเหินกันแบบนี้พี่ขอโทษนะ”ชายหนุ่มจับมือผู้เป็นภรรยาขึ้นมาจูบแผ่วเบาอย่างเอาใจไม่ได้โต้แย้งอะไรเพิ่มอีก
“เชิญครับ”ตอนนี้เมธัสกำลังขึ้นขึ้นลิฟท์ไปชั้นสูงสุดของคาสิโนที่ติดหนึ่งในสามของผู้ทรงอิทธิพลเพื่อพบใครคนหนึ่งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เพราะเขา ‘พลาด’ แม้จะพยายามรักษาสีหน้าให้เรียบนิ่งไว้ได้แต่มือกับชื้นไปด้วยเหงื่อทั้งที่เครื่องปรับอากาศภายในอาคารอยู่ที่ 20 องศาเซลเซียส“ว่ายังไงครับ”“ผมขอโทษครับ”“คุณเมธัสลืมอะไรไปหรือเปล่าครับ”ยิ่งใบหน้าหล่อเหลายิ้มโดยปราศจากอารมณ์ขุ่นเคืองมากเท่าไหร่เมธัสก็ยิ่งเสียวสันหลังจนเหงื่อไหลซึม แม้อายุเพียง 38 ปี กลับได้กุมบังเหียนใหญ่มาเกือบสิบปีไม่ใช่แค่คาสิโนที่มีสังเวียนมวยใต้ดินไร้กฎแต่ครอบคลุมไปถึงอาวุธเถื่อนและการค้ามนุษย์ ขึ้นชื่อเรื่องความโหดเหี้ยมเลือดเย็น“เอ่อ ไม่ใช่ครับผมจะเอาสินค้ามาส่งให้ในอีกสามวันครับ”“โชคดีที่แขกของผมเลื่อนเดินทางเป็นอาทิตย์หน้า อย่าทำให้ผิดหวังอีกล่ะครับ”“ไม่มีทางเด็ดขาดครับ”เมธัสกลืนน้ำลายอย่างยากเย็นกำมือที่สั่นแน่นจนเล็บจิกกลางฝ่ามือลอบสังเกตคู่สนทนาด
“แค่นี้ก็เหนื่อยแล้วเหรอครับ”“ฮื้อ วินก็พักแป๊บหนึ่ง แฮ่ก รอก่อน”“เราเพิ่งเริ่มเองนะครับ”“หยุดขำนะทั้งคู่เลย”หัสวีร์ที่นอนแผ่หลาหอบอยู่กลางยิมโดยมีจิตรกรนั่งหัวเราะอยู่ข้างๆส่วนครูผู้สอนที่ยืนไหล่สั่นกลั้นไว้‘ยิวยิตสู’ เป็นศิลปะป้องกันตัวระยะประชิดที่ชายหนุ่มเลือกเรียนเพราะอาศัยวิธีการต่อสู้แบบผสมผสานมีจุดเด่นด้านความรวดเร็วรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นทุ่มตัว โจมตีตามข้อ หักแขนหักขาให้เสียหลัก จับล็อกหรือนอนรัดให้คู่ต่อสู้ขยับไม่ได้ใช้งานได้ทั้งยืนและนอนที่สำคัญสามารถนำศาสตร์มวยไทย เทควันโด้ คาราเต้มาประยุกต์ใช้ได้ด้วยหลายคนอาจเกิดสับสนว่ายิวยิตสูกับยูโดแต่จริงแล้วนั้นยูโดพัฒนามาจากยิวยิตสูเพียงแค่ตัดท่าอันตรายออกไป เช่น ท่าฟันคอ หักแขนหักขา และท่าสังหารต่างๆถูกคัดออกทั้งหมดเน้นท่าทุ่มเป็นหลักอาศัยวิธีการจับคอเสื้อหรือแขนเสื้อทุ่มแทนเมื่ออีกฝ่ายหงายหลังลงพื้นกรรมการจะนับคะแนนและให้สัญญาณสองฝ่ายแยกออกจากกัน ไม่มีความรุนแรงหรืออันตรายเพื่อให้กลายเป็นกีฬาแข่งขันที่ปลอดภัยมากขึ้นส่วนตอนนี้หลังวอร์มร่างกายผ่าน
หัสวีร์มาพบชัชชัยที่ร้านเลอฌาเพียงคนเดียวเปิดห้องเข้าไปเจอแขกนั่งรออยู่แล้วทั้งที่ยังไม่ถึงเวลานัดชายวัยกลางคนแต่งตัวภูมิฐานบุคลิกน่าเชื่อถือสายตาไม่ว่อกแว่กยามจดจ้องสนทนา อีกทั้งโปรไฟล์ที่สร้างขึ้นมาในแวดวงธุรกิจยังดูดีอีกด้วยไม่แปลกใจที่ก่อนหน้าจะมีคนตกเป็นเหยื่อถูกต้มตุ๋น“ผมบอกเลยว่าคุณหัสวีร์ตาแหลมมากจริงๆ”“คุณชัชชัยอยากได้เท่าไหร่ครับ”หัสวีร์ถามหยั่งเชิงในขณะที่คู่ค้าได้ยินแล้วตาลุกวาวในใจลิงโลดแต่ต้องเก็บอาการไว้กลัวไก่ตื่น“เหมืองทับทิมสยามทุกที่ปิดถาวรไปหมดแล้วสี่ก้อนผมขอล้านห้าแล้วกันครับ”ชัยชัยเอ่ยราคาในใจพร้อมมองสีหน้าเรียบนิ่งของชายหนุ่มที่ไม่มีปฏิกิริยาตอบรับก็เริ่มใจคอไม่ดีหรือมันแพงไปวะชวดรอบนี้อดแน่กู“แต่สำหรับคุณผมคิดแค่หนึ่งล้านพอ”ท่าทีที่เริ่มร้อนรนทำให้ผู้บริหารหนุ่มกระตุกยิ้มบางมองด้วยสายตานึกสนุกก่อนจะหยิบเช็คขึ้นมาเขียนหลังตรวจสอบแล้วว่าข้างในมีอัญมณีแน่นอน“ไม่ต้องหรอกครับเอาราคาแรกนั่นแหละ”หินเหล่านี้มาจากเหมืองรัตนากรจริงซึ่งมั่นใจได้ว่าเป็นทับทิมสยามแน่นอนแค่สามก้อนเท่านั้นส่วนก้อนที่เล็กเท่าไข่ไก่เพื่อนที่มาจากรัสเซียนอกเมืองห่างไกล ได้มาในราคาแสนถ
เช้านี้ทุกสำนักข่าวทุกพื้นที่สื่อถูกนายอาทิตย์ บรรพ์เกียรติ เจ้าของผับหรูและบริษัทออแกไนซ์ชื่อดังพร้อมกับเพื่อนอีกสิบคนที่มีชื่อเสียงในแวดวงธุรกิจหมดในสภาพที่ดูไม่ได้หน้าตาบวมช้ำ ร่างกายบาดเจ็บกระดูกแขนขาหักบางส่วนซึ่งไม่ได้จงใจเอาชีวิตรวมไปถึงอวัยวะเพศมีเลือดซึมจากรอยเข็มจิ้มอย่างรุนแรงตรวจสอบแล้วพบว่าถูกฉีดฮอร์โมนทำให้ฝ่อตัว ส่วนคนทำนั้นตามตัวไม่ได้ไร้ร่องรอยให้ติดตามราวภูติผียามค่ำคืนทั้งนี้ยังมีหลักฐานการกระทำความผิดในข้อหาค้ามนุษย์และค้ายาเสพติดรายใหญ่รวมไปถึงยาเสียสาวที่กำลังระบาดในช่วงนี้ ถูกส่งมอบมาให้ผู้กำกับธนภัทร ภูติสกุล ฉายามือปราบกังฉินผู้มีภูมิหลังที่ไม่ธรรมดา “เอ๋? จำได้ว่านายอาทิตย์ต้องแต่งงานสิรินสิ้นปีนี้นี่นาแล้วใช้ชีวิตอย่างอู้ฟู่มีบ้านเล็กบ้านน้อยไปเรื่อยๆส่วนเมียหลวงก็ตามจิกเป็นไก่เช่นกัน”หัสวีร์ในชุดเสื้อคอเต่าสีดำกางเกงสีซิลเวอร์เกรย์แบบเดียวกับสูทที่ถูกถอดพาดหลังเก้าอี้ตัวใหญ่ ใบหูขวาประดับโอปอล์สีดำเม็ดจิ๋วตรงตำแหน่งอัพเปอร์โลบ (Upper lobe) สองชิ้นและแฟลต (Flat) หนึ่งชิ้น กำลังอ่านข่าวพลางพูดกับตัวเองด้วยความสงสัยหรือเพราะเขาย้อนเวลากลับมาเลยเกิดปรากฎการณ
ความเคยชินตั้งแต่รับช่วงต่อลักษิกาเจ็มหัสวีร์มักตื่นเช้าเสมอไม่ว่าจะนอนดึกแค่ไหนก็ตาม ทั้งที่บ้านไม่ได้หลังใหญ่ขนาดนั้นแต่ทำไมมันรู้สึกเงียบเหงาขนาดนี้กันนะมีแค่เขาคนเดียวที่นั่งทานอาหารเช้า ชีวิตที่แล้วไม่เคยรู้สึกถึงความอ้างว้างสักนิดแค่สรัลไปดีลงานที่ฮ่องกงเดี๋ยวก็กลับมาส่วนงานตัวเองก็ยุ่งมาก ยิ่งกับมนัสวีด้วยแล้วหลังความสัมพันธ์แย่เลยห่างกันต่างคนต่างอยู่ตอนนั้นเขาคิดอะไรอยู่นะที่ไม่เคยฉุกใจเลย แม้แต่ภาพในอดีตแสนอบอุ่นสี่คนในครอบครัวไม่เคยลอยเข้ามาในหัวตอนที่พูดจาทำร้ายความรู้สึกคนน้องแรงขนาดนั้น“นัทเห็นพี่รันถือแบบเครื่องเพชรออกมาจากห้องทำงานวิน”“คิดมากน่าใช่ที่ไหนล่ะพี่รันไปเอาเอกสารสัญญา”“ไม่จริง นัทเห็นกับตาแถมยังรีบออกจากบ้านไปกับใครก็ไม่รู้“หลายรอบแล้วนะ อิจฉาหรือไงที่แบบของตัวเองไม่ถูกเลือกน่ะ”“พวกเราเป็นพี่น้องกันนะนัทจะอิจฉาวินไปเพื่ออะไร“เหอะ ก็แค่น้องนอกไส้ทำไมจะทำไม่ได้ แถมชอบยุ่งทุกเรื่องสร้างปัญหาตลอด รอบก่อนก็ทะเลาะกับรินเรื่องตลาด ต่อไปไม่ต้องเข้ามาที่บริษัทแล้วนะ“เออ! จะไม่มาเหยียบอีกไม่ว่าที่นี่หรือลักษิกาเจ็ม”“จะไปไหนก็ไปเลย!”ดวงตาสีสวยกระพริบถี่ไล่ไม่