“เชิญครับ”
ตอนนี้เมธัสกำลังขึ้นขึ้นลิฟท์ไปชั้นสูงสุดของคาสิโนที่ติดหนึ่งในสามของผู้ทรงอิทธิพลเพื่อพบใครคนหนึ่งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เพราะเขา ‘พลาด’ แม้จะพยายามรักษาสีหน้าให้เรียบนิ่งไว้ได้แต่มือกับชื้นไปด้วยเหงื่อทั้งที่เครื่องปรับอากาศภายในอาคารอยู่ที่ 20 องศาเซลเซียส
“ว่ายังไงครับ”
“ผมขอโทษครับ”
“คุณเมธัสลืมอะไรไปหรือเปล่าครับ”
ยิ่งใบหน้าหล่อเหลายิ้มโดยปราศจากอารมณ์ขุ่นเคืองมากเท่าไหร่เมธัสก็ยิ่งเสียวสันหลังจนเหงื่อไหลซึม แม้อายุเพียง 38 ปี กลับได้กุมบังเหียนใหญ่มาเกือบสิบปีไม่ใช่แค่คาสิโนที่มีสังเวียนมวยใต้ดินไร้กฎแต่ครอบคลุมไปถึงอาวุธเถื่อนและการค้ามนุษย์ ขึ้นชื่อเรื่องความโหดเหี้ยมเลือดเย็น
“เอ่อ ไม่ใช่ครับผมจะเอาสินค้ามาส่งให้ในอีกสามวันครับ”
“โชคดีที่แขกของผมเลื่อนเดินทางเป็นอาทิตย์หน้า อย่าทำให้ผิดหวังอีกล่ะครับ”
“ไม่มีทางเด็ดขาดครับ”
เมธัสกลืนน้ำลายอย่างยากเย็นกำมือที่สั่นแน่นจนเล็บจิกกลางฝ่ามือลอบสังเกตคู่สนทนาด
หลังจากประชุมช่วงบ่ายเสร็จหัสวีร์แวะไปที่ห้องบอลรูมของโรงแรมเดอะเซ็นต์พาวิลเลียนสถานที่จัดงานโดยมีสรัลอาสามาเป็นเพื่อน เมื่อมาถึงคนที่ขึ้นชื่อว่าสามีดูเหมือนจะเริ่มทำตัวน่ารำคาญในสายตาชายหนุ่มนิดหน่อยจากที่รังเกียจอยู่แล้ว“ที่รักเปลี่ยนธีมการจัดงานทำไมไม่บอกพี่ครับ”“ก็เปลี่ยนหลังจากเจ้าของบริษัทที่พี่หามาโดนจับนั่นแหละครับ”“ก็ใช่ไงครับต้องบอกพี่ด้วยสิ ทำอะไรตามใจตัวเองไปหรือเปล่า”ดวงตาสีเฮเซลหันไปมองคนพูดที่กำลังทำเสียงหงุดหงิดอย่างเย็นชา“ทำไมครับ เพิ่งรู้ว่าบริษัทตัวเองแต่เวลาจะทำอะไรต้องได้รับอนุญาตจากคนอื่นด้วย”ทางสรัลเหมือนเพิ่งรู้ตัวว่าแสดงอาการที่ไม่หมาะสมออกไป“พี่ขอโทษครับวิน แค่เป็นห่วงมากไปหน่อยกลัวว่าถ้าไม่เหมือนที่วางไว้ก่อนหน้านี้แล้วงานออกมาไม่ดี”“อย่าห่วงเลยครับผมรู้ดีว่ากำลังทำอะไร”“ไม่เอาสิครับอย่าทำห่างเหินกันแบบนี้พี่ขอโทษนะ”ชายหนุ่มจับมือผู้เป็นภรรยาขึ้นมาจูบแผ่วเบาอย่างเอาใจไม่ได้โต้แย้งอะไรเพิ่มอีก
“วิน! ทำไมทำอะไรตามใจตัวเองแบบนี้เปลี่ยนคอลเลกชั่นที่จะแสดงกระทันหันได้ยังไง”สรัลที่กัดฟันด้วยไม่พอใจตะคอกเสียงดังใส่หัสวีร์ที่เพิ่งถูกลากออกมาจากบริเวณที่จัดงาน คนแสนเชื่องจูงจมูกง่ายเปลี่ยนไปมากขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน“อยู่ใกล้แค่นี้เสียงดังทำไมครับแล้วจะเปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยนแล้วมันยังไง”ชายหนุ่มในชุดสูทสีแดงเบอกันดีตัดกันกับเชิ้ตดำด้านในตอบกลับเสียงเรียบนิ่งกอดอกพิงราวระเบียงอย่างสบายใจมองหน้าคนที่กำลังโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง จิวทับทิมสยามเม็ดเล็กที่ใบหูทั้งสองข้างสะท้อนกับแสงไฟตัดกับสีตายามขยับตัวยิ่งเห็นสีหน้าเฉยชาทั้งยังไม่ได้คำตอบที่ต้องการคนขึ้นชื่อว่าสามีเคยเป็นคนใจเย็นแสนดี เส้นความอดทนขาดผึงเพราะแผนการที่วางไว้ถูกทำลายกระชากบีบต้นแขนคนตรงหน้าแน่น“ตอบมาอย่าให้พี่ต้องใช้กำลังนะวิน”หัสวีร์ยังคงนิ่งเงียบไม่แม้แต่จะแสดงความรู้สึกเจ็บออกมาทางสีหน้าผิดกับดวงตาแข็งกร้าวเพราะกำลังคิดว่าจะหักแค่นิ้วหรือหักทั้งแขนดีก่อนที่จะทำอย่างใจนึก…“โอ๊ย ใครวะ”เสียงร้องของ
ภายในงานประมูลภายใต้คอนเซ็ปต์ The Queen Of Red Dahlia กำลังคึกคักนอกจากอัญมณีหายากอย่างทับทิมสยามที่หลายชิ้นออกแบบให้สามารถใช้ได้ในชีวิตประจำวันและวัยรุ่นใส่ได้แล้ว นางแบบที่เดินกลับฉีกกฎเกณฑ์บิวตี้สแตนดาร์ดและมีเพศทางเลือกรวมอยู่ด้วยสร้างเสียงฮือฮากับความคิดเชิงบวกต่อแบรนด์เป็นอย่างมากคอลเลกชั่นดำเนินมาจนถึงชุดฟินาเล่ที่ใครต่างคาดหวังและสมกับการรอคอยอย่างที่คิดไว้ความแปลกตาของเซตนี้คือมาเป็นคู่ชายหญิงสิ่งที่สามารถสะกดสายตาทุกคนในงาน ณ ขณะนี้กลับไม่ใช่ทับทิมสยามแต่เป็นเพชรสีแดงซึ่งเดิมทีแค่ 1 กะรัตมูลค่าขั้นต่ำก็สูงถึงหนึ่งแสนดอลล่าร์สหรัฐ แต่นี่ลักษิกาเจ็มกลับมีถึง 25 กะรัต ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยพบ โดย 9.3 กะรัตเป็นเข็มกลัดเนคไทกับกระดุมแขนเสื้อผู้ชายและ 15.7 กะรัตเป็นสร้อยคอกับต่างหูผู้หญิง “เพชรสีแดงเหรอแถมเป็นเซตคู่รักอีกต่างหากบ้าน่า”“ลักษิกาเจ็มหามาได้ยังไงเนี่ย”“ต้องเอามาให้ได้นะ”“แพงแค่ไหนก็ไม่กลัวอย่าแพ้เด็ดขาด”บรรยากาศการประมูลจากที่ดุเดือดอยู่แล้วกลับมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า“โหพี่วินหามาได้ไงเนี่ยงานนี้รวยเละเลย”“คนมันเก่งไง”เธียรวิชญ์กรอกตาอย่างหมั่นไส้ให้กับคนที่ยัก
เช้านี้หัสวีร์ตื่นมาด้วยความสดชื่นเพราะไม่มีอะไรรกหูรกตานับเป็นวันที่ดีตั้งแต่ย้อนเวลากลับมา“เขียวเหนี่ยวทรัพย์เหมาะสำหรับวันนี้จริงๆเลยน้า”เสื้อคอจีนสีขาวถูกคลุมทับด้วยสูทสีเขียวเข้มตัดโทนกับกางเกงสแล็คดำอย่างลงตัวกับจิวมรกตเม็ดเล็กทั้งสองที่ประดับหูขวาเพียงหนึ่งข้างในตำแหน่งอัปเปอร์โลบ (Upper lobe) ในขณะที่กำลังจะออกจากบ้านก็มีรถยนต์สองคันมาจอดพร้อมกันซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหนเป็นมนัสวีกับจิตรกรชายหนุ่มเลิกคิ้วขึ้นอย่างแปลกใจ“ไปด้วย”ยังไม่ทันลงมาคนเป็นน้องสาวก็ลดกระจกเอ่ยจุดประสงค์ในในการมาครั้งนี้“แล้วพี่ล่ะ”หันไปร่างสูงในชุดสูทสีเทาเข้มที่เดินมาเกือบถึงเขาแล้ว“พี่ไม่ไว้ใจมัน”“ใช่ คิดเหมือนนัทเลยค่ะ”“ไม่มีอะไรหรอกน่าวินไปคนเดียวได้ครับ”“ไม่ได้/ไม่ได้”“อีกอย่างก็ต้องใช้พยานสองคนด้วยไม่ใช่เหรอ”เอ่อ…ลืม ไม่ได้ก็ไม่ได้ผสานเป็นเสียงเดียวกันเชียวนะมาอีหรอบนี้ถึงแม้จะมีใครมาตามจิกก็คงไม่กลับไปง่ายๆแน่“โอเค งั้นไปกันเถอะ”ถึงแม้ว่าจิตรกรอยากให้หัสวีร์ไปคันเดียวกันใจจะขาดแต่หลังจากเสร็จจากตรงนี้เขามีประชุมกับคู่ค้าและธุระที่ต้องจัดการยาวจนถึงช่วงเย็นเลยเมื่อถึงที่หมายทั้งสามแปลกใจปน
“เสร็จเสียที”หัสวีร์บิดตัวไล่ความเมื่อยขบเพราะตั้งแต่เข้าบริษัทหลังจากกลับมาจากที่ว่าการอำเภอก็ประชุมแทบทั้งวัน ไหนกระแสตอบรับจากงานประมูลเมื่อวานมีแนวโน้มที่ดีมากขึ้นเรื่อยๆ เครื่องประดับสำหรับผู้ชายกับเซตคู่รักถูกพูดถึงในวงกว้างหลังจากที่กำจัดขยะเน่าๆออกไปจนหมดบรรยากาศการทำงานของลักษิกาเจ็มกลับมาอบอุ่นอีกครั้งป่านนี้เมธัสจะอกแตกตายไปหรือยังนะดวงตาสีสวยเป็นประกายอย่างนึกสนุกขณะที่เดินออกจากห้องผู้บริหารเหลือบมองนาฬิกาที่ข้อมือก็พบว่าไม่ต้องรีบมากขับรถสบายๆไปถึงที่หมายก็ยังมีเวลาเหลืออีกนิดหน่อยชิงหลง (青龙) ภัตตาคารอาหารจีนคือสถานที่นัดหมายของมาร์ติโนกับหัสวีร์ห้องวีไอพีถูกจองไว้เพื่อการพบปะครั้งนี้โดยเฉพาะ“สวัสดีครับคุณมาร์ติโน”ทั้งสองทักทายพอเป็นพิธีที่หน้าห้องเนื่องจากมาถึงไล่เลี่ยกันพอดีหากถามว่าความรู้สึกของชายหนุ่มตอนนี้เป็นยังไง ก็คงพูดได้อย่างเต็มปากว่าไม่ได้รู้สึกกดดันแม้แต่น้อยเพราะเขารู้จักมาเฟียคนนี้มาแล้วหนึ่งชาติความน่าเกรงขามสายตาคมกริบดุจพญาราชสีห์ที่ทุกคนต่างกลัวอิทธิพลของอีกฝ่ายยามจ้องมองมักหายใจไม่ทั่วท้อง แต่กลับยื่นมือมาช่วยเขาบ่อยครั้งทำสัญญาการค้าแม้ปลายท
“ผมขอถอนหุ้นทั้งหมด”“ผมด้วย”“ในเมื่อพวกคุณแก้ปัญหากันไม่ได้ผมก็ไม่รู้จะเอาไอ้หุ้นจากบริษัทเฮงซวยนี่ไว้ทำไม”“ใจเย็นก่อนนะครับ”ภายในห้องประชุมผู้ถือหุ้นบริษัทนิทไดมอนด์กำลังเดือดเหตุเพราะมูลค่าในตลาดกำลังดิ่งถึงขีดสุดแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้น จุดเริ่มต้นเริ่มร่วงตั้งแต่ข่าวการเป็นชู้ของเมธัสกับสรัลถึงอย่างนั้นก็ยังพอประคองต่อไปได้และลูกค้ารายใหญ่ยังไม่ไปไหนเพราะชอบในชิ้นงานที่ซื้อขายกันมาอย่างยาวนาน“เหอะ เย็นเหรอนี่ผมว่าจนถึงตอนนี้ผมใจเย็นมากแล้วนะคุณเมธัสที่ไม่ถอนหุ้นตั้งแต่ข่าวเล่นชู้ของพวกคุณ”“ใช่”“ฟังนะพวกผมทุกคนในห้องประชุมนี้ขอถอนหุ้นทั้งหมดจากบริษัทนิทไดมอนด์”หลังจากพูดจบทุกคนก็ออกจากห้องด้วยอาการหัวเสียเมื่อไม่ได้ข้อสรุปและวิธีการแก้ปัญหาที่ตรงจุด“โธ่เว้ย นึกว่าฉันจะง้อเหรอ!”โครมเอกสารถูกกวาดจากโต๊ะลงพื้นจนหมดหน้าอกกระเพื่อมถี่เต็มไปด้วยโทสะความเครียดสะสมจากวิกฤติท
รอยยิ้มร้ายปรากฏบนหน้าหล่อเหลาของหัสวีร์เมื่อย้อนนึกถึงเหตุการณ์เมื่อสองวันที่แล้ว‘คุณเอ็มเจรบกวนด้วยนะครับ’‘รับทราบค่ะนายน้อย’สถานการณ์ของนิทไดมอนด์ย่ำแย่จนเข้าสู่ขั้นวิกฤติไม่ใช่แค่มูลค่าความเสียหายของบริษัท แต่ยังถูกเจาะข้อมูลพบหลักฐานการเลี่ยงภาษีและฟอกเงินก่อนจะถูกไวรัสทำลายระบบค้างแก้ไขไม่ได้ไฟล์หายทั้งหมดโผล่อีกทีในอีเมลกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางรวมถึงผู้บริหารอย่างเมธัสถูกปล่อยคลิปแอบถ่ายที่ท่าเรือมีหญิงสาวหน้าตาดีทั้งหมดสี่คนถูกมัดมือมัดปากร้องไห้จวนเจียนจะขาดใจเกาะขาขอร้องไม่ให้ส่งพวกเธอไปขายแทนที่จะได้รับความเห็นใจกลับถูกกระชากผมจนหน้าหงายและหัวเราะใส่อย่างเลือดเย็นส่วนสรัลที่อยู่ซ้ายมือสั่งคนบนเรือให้ลากไป‘นี่แค่น้ำจิ้มนะเมธัสหนีสิไม่งั้นตำรวจจะตามทันเอานะ’ชายหนุ่มท้าวคางมองวิดีโอออนไลน์ที่เล่นผ่านแท็บเล็ตในมือโดยที่ผู้เล่นกำลังดิ้นรนหาทางรอดเมธัสไม่คาดคิดว่าตัวเองจะเพลี่ยงพล้ำและตกต่ำภายในระยะเวลาอันสั้นแบบนี้ทั้งยิ่งเกลียดชังผู้บริหารลักษิกาเจ็มม
หลังจากพามนัสวีมาถึงชิงหลงทาวเวอร์ก็เข้ารับการรักษาจากแพทย์ฝีมือดีประจำที่นี่ทันที โชคดีไม่เป็นอะไรมากที่ยังไม่ฟื้นเพราะฤทธิ์ยาสลบที่ถูกโปะ อวัยวะภายในปกติส่วนบาดแผลภายนอกมีแค่ที่ใบหน้าคาดว่ามาจากการต่อสู้ขัดขืน“ขอโทษนะทั้งที่สัญญาไว้แล้วแท้ๆ”ฝ่ามือนิ่มวางบนกลุ่มผมสีน้ำตาลอ่อนลูบอย่างแผ่วเบายิ่งมองเห็นรอยที่เปลี่ยนจากสีแดงเป็นม่วงช้ำบนใบหน้าสวยของน้องสาวแววตานั้นสั่นไหวเจ็บปวด ก่อนแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชาทันทีที่หันหลังเดินตรงไปยังห้องแดงทางด้านสรัลและเมธัสหลังถูกโยนเข้ามาในห้องสี่เหลี่ยมขนาดกว้างอย่างไร้ความปราณีจนตัวไถลไปกับพื้น“โอ้ย”ใบหน้าบิดเบี้ยวข่มความเจ็บปวดแขนข้างที่ถูกหักกระดูกทิ่มเนื้อแทบทะลุออกมายิ่งเวลาผ่านไปยังไม่ได้รับการรักษายิ่งอักเสบขึ้นรอยช้ำม่วงเป็นวงกว้างทันทีที่ประตูถูกปิดลงสายตาสองคู่กวาดไปทั่วห้องพบว่าว่างเปล่าไม่มีเฟอร์นิเจอร์และหน้าต่าง สีขาวสะอาดเหมือนใหม่แต่ที่ไม่เข้าพวกคงเป็นรีโมทขนาดครึ่งฝ่ามือสีดำติดไว้บนผนังทั้งที่พวกเขามาทานอาหารจีนที่ชิงหลงทาวเวอร์ก็บ่อยและรู้ว่าตึกนี้เ
“ปล่อยกู!”เซฟเฮ้าส์ส่วนตัวย่านชานเมืองไม่ไกลจากสนามแข่งรถ Steed King มากนัก ห้องใต้ดินที่ถูกซ่อนตัวปรากฏเงาร่างกำยำเปลือยเปล่าของมาเฟียต่างวัยถึงสองคนถูกพันธนาการด้วยโซ่ล่ามทั้งแขนขากำลังถูกมดแดงหลายรังที่จิตรกรสั่งให้มาโปรยที่พื้นไต่ขึ้นตัวและกัดจนจุดแดงขึ้นเป็นจ้ำโดยที่ทำอะไรไม่ได้ ยิ่งส่วนอ่อนไหวกลางกลายด้วยแล้วกรีดร้องแทบจะทุกครั้งที่ปากเล็กเจาะผิวเนื้อจนน้ำตาเล็ดและคนที่โดนเยอะสุดคงหนีไม่พ้นมู่ตงเฉิงที่ตอนนี้มีสภาพราวกับศพ ลมหายใจแผ่วเบาใกล้ตายเต็มที เพราะแผลจากคมกระสุนที่ไม่ได้รับการรักษาห้ามเลือดแล้วระหว่างที่รอนายน้อยตระกูลมู่ตามล่าจางเฟิงก็ผ่านไปหลายชั่วโมงอวัยวะเพศบวมเป่ง เลือดไหลอาบย้อมแดงฉานมีทั้งจุดที่แห้งกรังและเป็นลิ่ม“แค่นี้ก็ทนไม่ได้แล้วเหรอจางเฟิง”จิตรกรเดินเข้ามาในห้องนั่งลงไขว่ห้างมองใบหน้าคับแค้นใจของมาเฟียใหญ่ที่ถูกเอาตัวกลับมาจัดการในไทยมีเพียงกระจกกั้นเท่านั้นด้วยแววตาเย็นชา“ไอ้จิตรกร แน่จริงก็ฆ่ากูเลยสิวะ”ความรู้สึกของการพ่ายแพ้ถูกเหยียบย่ำศักดิ์ศรีเป็นสิ่งที่เจ้าของดวงตาสีขี้เถ้ายอมรับไม่ได้ว่าตัวเองจะตกต่ำจากผู้ล่ากลายเป็นเหยื่อน่าสมเพศเสียเอง เคียดแค้
จำเลยหมายหัว คนที่ 0 และ 4จางเฟิง/วิคเตอร์สถานะ : มาเฟียหนึ่งในสามผู้ทรงอิทธิพลเจ้าของธันเดอร์เลค คาสิโน ผู้ค้าอาวุธเถื่อนและสร้างองค์กรค้ามนุษย์ในฮ่องกงมู่ตงเฉิงสถานะ : บอสมาเฟียสายรองตระกูลมู่ความผิด : ร่วมมือกันฆ่าและกวาดล้างตระกูลมู่สายหลักเพื่อจะได้รวบอำนาจเข้ตระกูลจาง (คดีเก่า), ร่วมมือกันจับจิตรกรเพื่อกำจัดกับหัสวีถูกฉีดสารเสพติดเพื่อกระตุ้นความต้องการก่อนลงมือข่มขืน (คดีใหม่)จางเฟิงเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของผู้นำมาเฟียตระกูลจางอย่างจางเฟยหลงเจ้าของดวงตาสีขี้เถ้าซึ่งถอดนิสัยความโหดเหี้ยม ไร้มนุษยธรรมจากผู้เป็นพ่อทั้งหมดและดูเหมือนว่าจะมีมากกว่าด้วยซ้ำฆ่าคนครั้งแรกในวัย 8 ปี ด้วยด้ามปากกาแหลมแทงหัวใจเพื่อนร่วมชั้นเพียงเพราะอีกฝ่ายไม่แบ่งของเล่นให้แถมยังหัวเราะชอบใจมองดูการกระตุกเกร็งจนแน่นิ่งพี่เลี้ยงที่ดูแลล้วนเปลี่ยนรายวันเพราะหายสาบสูญทันทีโดยไม่ต้องมีเหตุผลเพียงแค่หายใจก็กลายเป็นคนผิดได้วัย 11 ปี วางยาอาจารย์ประจำชั้นเพราะถูกตักเตือนเรื่องที่เอาเท้ามาวางพาดไว้บนโต๊ะในขณะที่สอนอยู่วัย 14 ปี สั่งให้ลูกน้องไปฉุดรุ่นพี่เดือนโรงเรียนมาข่มขืนและส่งต่อให้ลูกน้องรุมโทรมจนขา
ทันทีที่จิตรกรมาถึงหน้าประตูธันเดอร์เลคคาสิโนก็พบกับเหล่าลูกน้องมาเฟียร่วมร้อยคนพร้อมอาวุธครบมือประจัญหน้าต้อนรับเขาอย่างดีใบหน้าคมมองอย่างเย็นชาครั้งนี้ชายหนุ่มก็พาคนมากฝีมือมาไม่น้อยเช่นกันทั้งของตัวเองและตระกูลมู่การต่อสู้เริ่มต้นขึ้นทันทีที่นายน้อยตระกูลมู่ยิงแสกเข้ากลางหน้าผากคนที่คาดว่าเป็นระดับหัวหน้าตายคาที่เมื่อมีการปะทะก็ย่อมมีการสูญเสียและฝ่ายจิตรกรนั้นล้วนเต็มใจเพราะที่ตามมาแทบทั้งสิ้นมีความแค้นฝังหุ่นกับจางเฟิง เมื่อไม่มีกำลังย่อมบุกมาทวงคืนไม่ได้แต่ตอนนี้มีโอกาสก็ลุยทันที คงจะเป็นฝั่งคาสิโนมากกว่าที่เสียเปรียบเพราะสายที่แทรกซึมอยู่ในกลุ่มมาเฟียเกือบครึ่งในนี้จากปลายกระบอกปืนและคมมีดที่หันมายังคนนอกที่บุกรุก อยู่ๆก็รู้สึกเจ็บแปลบที่ลำคอเพราะเพื่อนข้างกายเจอหน้ากินดื่มอยู่ทุกวันแทงลึกหมุนบิดจนคอเกือบขาดอย่างไร้ความปราณีกระสุนที่ออกจากรังเพลิงทุกลูกล้วนเข้าเป้าพลั่กขายาวถีบชายฉกรรจ์ที่ถูกคมมีดปักตัดขั้วหัวใจดวงตาเบิกโพลงร่างกระตุกเกร็งให้พ้นทางโดยไม่ได้ให้ความสนใจอีกก่อนเดินเข้าลิฟท์ไป“เกะกะ”ระหว่างทางที่ขึ้นกบด้านก็มีพวกลูกสมุนมาเฟียเข้ามาขัดขวางอยู่เรื่อยๆแต่ก็ถูก
ย้อนกลับไปเมื่อหนึ่งชั่วโมงที่แล้ว“หาตำแหน่งเจอหรือยัง”น้ำเสียงเคร่งขรึมพร้อมกับทำแผลที่ถูกคมกระสุนไปด้วยถามชยุตลูกน้องคนสนิททันทีหลังจากออกคำสั่งนำตัวมู่ตงเฉิงไปขังไว้แล้วรีบไปช่วยหัสวีร์“ตอนนี้คุณวินอยู่ใกล้กับสมุทรปราการเป็นพื้นที่ส่วนตัวขนาดใหญ่ครับห่างจากที่นี่เกือบหนึ่งชั่วโมงครับ”“ฉันให้เวลาครึ่งชั่วโมงต้องไปถึงที่นั่น”“ครับ”จิตรกรรอไม่ได้แล้วเขาเสียเวลาที่นี่มามากพอแม้คนของมาร์ติโนจะนำไปก่อนหน้านั้นก็ตามชยุตค้นหาเส้นทางลัดจากดาวเทียมทันทีที่สิ้นสุดคำสั่งหากว่าเขาทำไม่ได้คงหลุดออกจากตำแหน่งแน่นอนรถยนต์แล่นด้วยความเร็วมิดไมล์ประหนึ่งติดปีกบินแต่ถึงยังไงก็ไม่ทันใจเจ้าของดวงตาสีรัตติกาลอยู่ดีตอนที่มาถึงลูกน้องของมาร์ติโนได้เคลียร์ทางไว้หมดแล้วซึ่งเป็นการซุ่มโจมตีโดยที่ไม่ให้คนข้างในรู้ตัวเพราะกลัวนายน้อยตระกูลเฉินจะเป็นอันตรายแม้จะอยู่ในพื้นที่ส่วนบุคคลจำนวน 50 ไร่ที่ไม่มีคนหาเจอแต่ก็สมเป็นจางเฟิงที่ยังรอบคอบ ลูกน้องที่เฝ้ากะจากสายตาไม่ต่ำกว่า 50 คนแน่นอนส่วนมาร์ติโนมาถึงทีหลังจิตรกรไม่กี่นาทีมาถึงตัวบ้านมีคนเฝ้าอยู่สองคนด้านหน้าจิตรกรพร้อมกับชยุตตรงเข้าไปจัดการโดยไม่ให้
เย็น?ชื้น?รำคาญจังไปให้พ้นนะเจ็บเฮือกความเจ็บจี๊ดที่ลำคอทำให้หัสวีร์สะดุ้งตื่นขึ้นมาเปลือกตาสีอ่อนกระพริบถี่เพื่อปรับโฟกัส กลุ่มผมสีดำของใครบางคนกำลังสัมผัสกับแก้มขวาคือสิ่งแรกที่เห็นลิ้นร้อนที่ไล้อยู่ตรงคอขาวพร้อมขบกัดเนื้ออ่อนจนเจ็บแปลบคือสิ่งสองที่รู้สึก ไอ้บ้าเอ้ยใครวะเนี่ยจำได้ว่าพอไปถึงท่าเรือเฉลิมกิจแล้วชายคนรักขอแยกตัวไปคุยโทรศัพท์ก่อนเพราะสนามแข่งมีปัญหา หัสวีร์เดินมาถึงเรือขนส่งสินค้าของตัวเองซึ่งมีลูกน้องคอยเช็คอยู่หน้างานอยู่แล้วแต่สิ่งที่แปลกใจคือไม่คุ้นหน้าแถมยังทำท่าทางมีพิรุธราวกับไม่คาดคิดว่าเขาจะมาแล้วจริงดั่งคาดเพราะสายตาเหลือบไปเห็นอีกฝั่งที่ไม่ไกลกันนักกำลังถ่ายสินค้าแต่บรรจุภัณฑ์ที่ตีลังป้องกันความเสียหายไม่ใช่ของลักษิกาเจ็ม ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ทำขึ้นเองล้วนจดจำง่ายเพราะบทเรียนจากชีวิตที่แล้วพอรู้ว่าถูกจับได้ฝ่ายนั้นจึงละทิ้งงานไม่ได้มาเผชิญกับเขาโดยตรงแต่กลับวิ่งหนีไปทางตู้คอนเทนเนอร์เปล่าด้วยความคิดที่ว่าหากจับได้หนึ่งคนแล้วมาเค้นหาความจริงจะได้รู้ว่าใครเป็นคนสั่งการโดยขาดการไตร่ตรองถึงอันตรายข้างหน้าจึงวิ่งไล่ตามไป ทันทีที่เข้าไปในดงตู้เปล่าชายคน
ท่าเรือเฉลิมกิจ เป็นท่าขนส่งทางน้ำที่มีสำคัญในภาคตะวันออกซึ่งธุรกิจหลายประเภทเลือกใช้บริการเพื่อจัดส่งสินค้าไปยังต่างประเทศเพราะหากมีสินค้าในปริมาณที่มากการขนส่งทางน้ำย่อมมีค่าใช้จ่ายถูกลงกว่าขนส่งทางอากาศถ้าไม่ใช่สิ่งที่บูดเสียง่ายแทบทุกเจ้าย่อมเลือกการขนส่งทางเรือตอนนี้หัสวีร์และจิตรกรเดินทางมาถึงเป็นที่เรียบร้อยแล้วจึงพากันเดินเข้าไปทันทีแต่ในระหว่างนั้นมีสายเรียกเข้าจากทีมช่างที่ Steed King คนพี่จึงปลีกตัวออกมาคุยด้านนอกพอเสร็จเรียบร้อยจึงตามเข้าไปแต่กลับหาคนรักไม่เจอ โทรหาแล้วไม่รับสายจนร้อนใจเพราะหากไม่ได้พกโทรศัพท์มือถือมาก็ยังมีสมาร์ทวอทช์ติดตัวซึ่งเป็นไปไม่ได้แน่ที่จะไม่ได้ยินเห็นพนักงานที่กำลังขนของอยู่แถวนั้นจึงเข้าไปสอบถาม“คุณครับเห็นผู้ชายใส่สูทสูงประมาณนี้ดวงตาสีทองไหมครับ”“เอ คนที่ใส่ชุดสีกรมท่าไหมครับ”“ใช่ครับ”“ผมเห็นเขาเดินไปทางนั้นนะ”ชายหนุ่มเดินมาเรื่อยๆแต่กลับไม่พบใครมีแค่ตู้คอนเทนเนอร์วางเรียงอยู่เต็มไปหมดรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลและเป็นห่วงคนน้องมากอย่างนึกเจ็บใจตัวเองว่าประมาทเกินไปวินน้องอยู่ไหนนะ นิ้วเรียวกดโทรหามาร์ติโนเพื่อค้นหาตำแหน่งของหัสวีร์แต่ย
“อยากให้ผมช่วยงั้นเหรอครับ”ดวงตาสีขี้เถ้าจับจ้องชายวัยกลางคนตรงหน้าอย่างนึกสนุกยิ่งเห็นถึงความโกรธแค้นในแววตาก็ยิ่งเหยียดยิ้มมุมปาก“คนของผมไม่มีใครรอดสักคนแต่มันกลับยังรอด”เสียงกลั้วหัวเราะในลำคอดังขึ้น“แน่สิครับเพราะขนาดของที่รับปากว่าจะเอามาให้ผมยังไม่ได้เลยนี่”“คุณจางให้ผมทำอะไรก็ได้ขอแค่อย่างเดียวให้มันตายอย่างทรมานสมกับที่ทำลายชีวิตของอาเธอร์”“รอบนี้คนของมาร์ติโนมาช่วยไว้”“แล้วมาร์ติโนมาเกี่ยวอะไรด้วย”มู่ตงเฉิงเอ่ยอย่างหัวเสียที่มีคนนอกเข้ามายุ่งแถมอีกฝ่ายมีอิทธิพลมากจนแตะไม่ได้“ก็..คนที่ผมอยากได้เขาเป็นลูกชายของมาร์ติโน”“อะไรนะ! ทำไมคุณไม่บอกผมก่อน”“แล้วมันต่างกันยังไงในเมื่อคนของคุณก็พลาดอยู่ดี หึ”แม้จะเจ็บใจแต่บอสมาเฟียสายรองตระกดูลมู่ต้องเก็บอาการไว้ยิ่งเห็นท่าท่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวที่นั่งพิงโซฟาอย่างสบายใจพร้อมใช้สายตาคมกริบมองมา เพราะมีแค่ชายหนุ่มตรงหน้าเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ช่วยเขาได้ตอนนี้ไอ้เด็กเมื่อวานซืนมันรู้แล้วแน่นอนว่าใครส่งคนมาฆ่าแม้ยังไม่เคลื่อนไหวก็เถอะเพราะฉะนั้นจะรีรออีกไม่ได้ หลังจากพูดคุยข้อแลกเปลี่ยนกันเสร็จมู่ตงเฉิงก็ขอตัวกลับทันทีเพราะมีสิ่ง
จำเลยหมายหัว คนที่ 5มู่ตงหยาง/อาเธอร์สถานะ : สายรองตระกูลมู่ความผิด : ส่งมือปืนมากำจัดจิตรกรในระหว่างเดินทางไปพบคู่ค้าที่ชลบุรีและหลังออกจากงานศพของหัสวีร์ในคืนแรกมู่ตงหยางหรืออาเธอร์ ลูกชายเพียงคนเดียวของผู้นำตระกูลสายรองอย่างมู่ตงเฉิง หากจะนับญาติกันจริงๆก็ถือว่าใกล้ชิดกันอยู่มากเพราะปู่ของอาเธอร์ก็คือมู่เหยาเป็นพี่ชายต่างมารดากับมู่เอิน ที่เกิดจากความผิดพลาดตอนถูกวางยาโดยเลขาเพิ่งรับมาทำงานคิดใช้ทางลัดเอาเต้าไต่ ก่อนงานแต่งเพียงหนึ่งเดือนกับหญิงคนรักอย่างเทียนเฟยฮวาแม่ของมู่เอินแม้มู่เหยาจะใช้สกุลมู่ก็จริงแต่กลับไม่ได้ถูกยอมรับเข้าตระกูลหลักถูกเลี้ยงดูเพียงเพราะว่ามีสายเลือดอยู่ครึ่งหนึ่งรับผิดชอบแค่เรื่องเงินทองเท่านั้น เติบโตมากับความรุนแรงมีแม่ที่ติดเหล้าถูกด่าทอทุบตีจนมีแต่รอยช้ำตามร่างกายเนื่องจากผิดหวังอยากเป็นนายหญิงจนตัวสั่นจนต้องมาระบายโทสะกับลูกตัวเอง ตั้งแต่จำความได้โดนกรอกหูทุกวันว่าเขามันตัวซวยจนอายุ 12 ปี แม่ก็จากไปด้วยโรคตับแข็ง พอเทียนเฟยฮวาทราบเรื่องด้วยความบังเอิญก็เกิดความสงสารเพราะวัยไล่เลี่ยกันกับลูกชายจึงช่วยพูดกับสามีให้รับมาดูแลภายใต้รั้วเดียวกันไม่มี
แกร่กฉิบหายแล้วผลั๊วะปัง!วิน!นายน้อยตระกูลเฉินกำลังซุ่มตัวอย่างเงียบเชียบรอจังหวะที่ชายฉกรรจ์ร่างสูงใหญ่เดินเข้ามาใกล้ถึงระยะแต่ดันพลาดเหยียบกิ่งไม้แห้งทำให้อีกฝ่ายหันกระบอกปืนมาหาจึงเตะเสยเข้าที่ปลายคางและปืนให้ห่างตัวก่อนหลุดมือกลับไกถูกลั่นพอดี ชายชุดดำที่เหลือจึงวิ่งกรูไปที่ต้นเสียงรวมถึงจิตรกรด้วยส่วนคนที่กำลังจะหนีข้อเท้าถูกกอดไว้แน่นจากชายที่เลือดกลบปากอยู่บนพื้นก่อนถูกเสยคางซ้ำอีกรอบจนแน่นิ่งไป“อย่าขยับนะมึงไม่งั้นกูยิงไส้แตก วางปืนลงเร็ว!”ปืนหกกระบอกถูกจ่อมาที่คนๆเดียวหัสวีร์จำใจต้องวางปืนและยกมือขึ้นด้วยความจำนนพร้อมถูกควบคุมตัวแต่ตาคมยังกวาดดูคร่าวๆหาช่องทางการหลบหนี“คนนี้ใช่ไหมลูกพี่”“เออ ห้ามช้ำแล้วพวกมึงสามคนไปตามหาไอ้จิตรกรเดี๋ยวมีคนมาสมทบอีก”“คนสองคนต้องเยอะขนาดนี้เลยเหรอ”“เออสิ น่าจะฤทธิ์เยอะดูจากคนของเราที่ถูกเก็บเงียบๆไปนี่ไง”คิ้วขมวดมุ่นเมื่อได้ยินการสนทนาศัตรูตอนนี้ก็ไม่ได้มีใครถึงถามไปก็ไม่ได้คำตอบอยู่ดีดวงตาสีอำพันยามสะท้อนกับแสงมองเห็นการเคลื่อนไหวของชายคนรัก เมื่อสบตากันจึงส่ายหน้าเบาเป็นสัญญาณว่าอย่าเข้ามาดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะเข้าใจแต่ไม่ยอมทำตาม