ความเคยชินตั้งแต่รับช่วงต่อลักษิกาเจ็มหัสวีร์มักตื่นเช้าเสมอไม่ว่าจะนอนดึกแค่ไหนก็ตาม ทั้งที่บ้านไม่ได้หลังใหญ่ขนาดนั้นแต่ทำไมมันรู้สึกเงียบเหงาขนาดนี้กันนะมีแค่เขาคนเดียวที่นั่งทานอาหารเช้า ชีวิตที่แล้วไม่เคยรู้สึกถึงความอ้างว้างสักนิดแค่สรัลไปดีลงานที่ฮ่องกงเดี๋ยวก็กลับมาส่วนงานตัวเองก็ยุ่งมาก ยิ่งกับมนัสวีด้วยแล้วหลังความสัมพันธ์แย่เลยห่างกันต่างคนต่างอยู่
ตอนนั้นเขาคิดอะไรอยู่นะที่ไม่เคยฉุกใจเลย แม้แต่ภาพในอดีตแสนอบอุ่นสี่คนในครอบครัวไม่เคยลอยเข้ามาในหัวตอนที่พูดจาทำร้ายความรู้สึกคนน้องแรงขนาดนั้น
“นัทเห็นพี่รันถือแบบเครื่องเพชรออกมาจากห้องทำงานวิน”
“คิดมากน่าใช่ที่ไหนล่ะพี่รันไปเอาเอกสารสัญญา”
“ไม่จริง นัทเห็นกับตาแถมยังรีบออกจากบ้านไปกับใครก็ไม่รู้
“หลายรอบแล้วนะ อิจฉาหรือไงที่แบบของตัวเองไม่ถูกเลือกน่ะ”
“พวกเราเป็นพี่น้องกันนะนัทจะอิจฉาวินไปเพื่ออะไร
“เหอะ ก็แค่น้องนอกไส้ทำไมจะทำไม่ได้ แถมชอบยุ่งทุกเรื่องสร้างปัญหาตลอด รอบก่อนก็ทะเลาะกับรินเรื่องตลาด ต่อไปไม่ต้องเข้ามาที่บริษัทแล้วนะ
“เออ! จะไม่มาเหยียบอีกไม่ว่าที่นี่หรือลักษิกาเจ็ม”
“จะไปไหนก็ไปเลย!”
ดวงตาสีสวยกระพริบถี่ไล่ไม่ให้น้ำตาไหลออกมาพอหวนระลึกถึงตอนที่ทั้งสองกระทบกระทั่งกันอย่างรุนแรงก่อนหยิบสมาร์ทโฟนโทรหาเลขาคู่ใจ
“วันนี้ผมเข้าบริษัทช่วงบ่ายถ้ามีคนที่ชื่อชัชชัยมาติดต่อฝากคุณมิตรานัดหมายที่เลอฌาพรุ่งนี้บ่ายโมงทีนะครับ”
“ได้ค่ะบอส”
“ขอบคุณครับ”
WAM Gallery
โรงเรียนสอนศิลปะขนาดกลางที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงภายใต้การดูแลของมนัสวี วัชรอมรเมฆ ในวัย 26 ปี ที่นี่มีการสอนหลายแขนงไม่ว่าจะเป็นดินเผา วาดรูป งานปั้น แกะสลัก เครื่องประดับมุก และลายรดน้ำ โดยจะสอนตั้งแต่ปูพื้นฐานทำไม่เป็นก็เรียนได้ขอแค่สนใจโดยครูสอนจะชำนาญการแขนงนั้นโดยตรง
แกร่ก
จากตอนแรกตั้งใจว่าจะเข้ามานั่งวางแผนงานเสียหน่อยแต่ต้องเปลี่ยนใจกระทันหันแค่เดินมาที่โต๊ะทำงานเพื่อหยิบของและมองผ่านแขกที่กำลังยืนดูรูปครอบครัวในมือราวอากาศธาตุ
“นัด วินขอโทษ”
“...”
หัสวีร์กำลังเจ็บกับความโง่เขลาของตัวเองไม่เคยแม้สักครั้งที่น้องสาวเมินกันแบบนี้
ส่วนคนที่กำลังหยิบของนั้นยิ่งรีบยิ่งลนอยากออกไปให้ไวเพราะกลัวว่าตัวเองจะใจอ่อนถ้าหันไปมองคนที่กำลังทำหน้าเศร้ากับแววตาสำนึกผิด
หญิงสาวไม่เคยโกรธพี่ชายต่างสายเลือดแต่มนัสวีเสียใจจนอธิบายออกมาเป็นคำพูดไม่ถูก ทั้งที่เติบโตมาด้วยกันแต่ทำไมถึงมองว่าเธอขี้อิจฉาคนที่รู้จักนิสัยใจคอกันดีก็คืออีกฝ่ายไม่ใช่เหรอ
เพราะความหวังดีเหตุการณ์นี้เลยไม่ใช่ครั้งแรกที่ทะเลาะกันเธอหนื่อยแล้วไม่อยากไปถกเถียงกับใครอีก ขอถอยออกมาเฝ้ามองอยู่ห่างๆแล้วกันในเมื่อครอบครัวเพียงคนเดียวที่เคยเป็นเซฟโซนนั้นเปลี่ยนไป
หมับ
ร่างสูงคว้าข้อมือผู้เป็นน้องสาวจากด้านหลังที่กำลังรีบเร่งเดินไปที่ประตูไม่มีแม้คำพูดระหว่างกันแต่มนัสวีรู้สึกว่ามือที่จับเธอไว้นั้นกำลังสั่นเทาและเย็นเยียบ ภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนเกาะฉายย้อนกลับมาในหัวของหัสวีร์ทันที มันหนักอึ้งเกินที่จะรับไหว ฝืนทำตัวเข้มแข็งต่อไปไม่ได้อีกแล้ว
น้องสาวที่ปกป้องเขาด้วยชีวิตอยู่ตรงนี้ความรู้สึกผิดที่ประเดประดังเข้ามามันกัดกินใจจนให้อภัยตัวเองไม่ได้เลย ไม่มีสักครั้งที่จะนอนหลับสนิทโดยที่ไม่ฝันร้าย
“ฮึก”
จากที่พยายามกระชากให้หลุดการเกาะกุมหันหลังขวับทันที คนที่ยืนอยู่ด้านหลังเธอกำลังสะอื้นไห้เงียบๆราวเด็กชายตัวน้อยที่กำลังแตกสลาย
“นัทไม่ได้โกรธวินอย่าร้องนะ”
คนที่เสียน้ำตายากเวลาร้องไห้มักดูเปราะบางคำนี้ไม่เกินจริงพี่ชายต่างสายเลือดที่เธอคุ้นเคยเป็นคนเข้มเเข็งมากไม่ชอบแสดงมุมอ่อนแอให้ใครเห็น หลังการจากไปของพ่อกับแม่ก็ไม่เคยมีน้ำตาอีกเลย
“วิน ฮึก วินผิดเอง”
ยิ่งเช็ดน้ำตายิ่งไหลดวงตาสีเฮเซลที่เคยมีประกายสดใสยามนี้กลับหม่นแสดงเจ็บปวดร้าวราน โหยหา รู้สึกผิด และอ่อนแอราวคนสูญสิ้นทุกอย่างจนมนัสวีใจหาย
“เกิดอะไรขึ้นวิน”
“ขอโทษนะ”
มีเพียงการพร่ำขอโทษซ้ำเป็นคำตอบกลับมา สองมือโอบกอดลูบหลังคนที่สูงกว่าตนไม่มากนักอย่างร้อนใจจูงมือไปนั่งที่โซฟาแม้หัสวีร์จะสูงถึง 180 เซนติเมตร แต่เธอก็สูงน้อยกว่าอีกฝ่ายเพียง 5 เซนติเมตรเท่านั้น ทำให้หน้าของชายหนุ่มซบบนลาดไหล่พอดิบพอดี ไม่มีแม้ไม่ได้ยินเสียงสะอื้นแต่ความชื้นด้านหลังยืนยังคำตอบว่าอีกฝ่ายกำลังร้องไห้อยู่
พอเป็นแบบนี้มนัสวีเลยคิดว่าเธอใจร้ายกับอีกฝ่ายเกินไปไหมนะหรือเกิดอะไรขึ้น น้ำตาก็พาลไหลออกมาอาบแก้มนวลตามชายหนุ่มทันที
หัสวีร์รู้ว่าไม่ใช่เวลาที่จะมานั่งเสียใจแต่เขาแค่ฝืนไม่ไหวแล้วจริงๆ การสูญเสียแสนสาหัสที่เหมือนเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน พอได้เห็นคนตรงหน้ายังมีชีวิตอยู่ความรู้สึกผิดที่แบกไว้มันทำให้เส้นความเข้มแข็งพังครืนลงทันที
แต่เขาสัญญานะว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่อ่อนแอ เพราะจะจัดการทวงคืนและปกป้องสิ่งที่รักด้วยชีวิตให้มันทุกคนต้องชดใช้
“นัทไม่โกรธวินจริงๆนะ”
ทั้งสองพูดคุยกันหลังจากชายหนุ่มสงบสติอารมณ์ได้แล้ว
“อื้อ ไม่เคยโกรธเลยแค่เสียใจแต่วินอย่าทำแบบนั้นอีก”
“จริงนะ วินสัญญาจะไม่ทำตัวไม่น่ารักอีกแล้ว”
“ร้องอีกทำไมเนี่ย”
มือเล็กเช็ดน้ำตาที่เริ่มปริ่มลงมาจากดวงตาคู่สวยช้ำอีกรอบทั้งที่ตัวเองก็จะร้องตามเหมือนกัน
“ก็วินทำนัทเสียใจ”
“พอๆสภาพดูไม่ได้ทั้งคู่ไปล้างหน้าล้างตาลุกเลย หัวเราะอะไรคะคุณหัสวีร์”
“นัทเหมือนแม่เลย”
ว่าแล้วก็เอาหัวถูไถไหล่หญิงสาวหัวเราะคิกคัก
เจ้าแมวขี้อ้อนของบ้านตัวนั้นกลับมาแล้วสินะ
นี่คือความคิดแรกที่แวบมาในหัวมนัสวีหลังพากันไปล้างหน้าในห้องน้ำซึ่งต่างฝ่ายต่างมองกระจกพากันขำกันทันทีเพราะตาที่บวมช้ำที่ผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก
เฉพาะคนในครอบครัวหัสวีร์และที่สนิทใจเท่านั้นถึงจะรู้ว่าชายหนุ่มขี้อ้อนติดสกินชิพแค่ไหนนิสัยถอดแบบแมวดำมาเป๊ะ ฉลาด มั่นใจ เป็นมิตร แต่ไว้ตัว มีไม่กี่คนจะได้เห็นมุมที่ไม่เคยเห็นมาก่อน เธอที่มีศักดิ์เป็นน้องแต่นิสัยตรงข้ามสุดขั้วมักมองว่าอีกฝ่ายน่ารักน่าบีบมาตั้งแต่เด็กๆ แม้ตอนนี้คนโตกว่าจะอายุปาไป 27 ปีแล้วก็เถอะ
ทาสแมวก็ยังคงเป็นทาสแมวอยู่วันยังค่ำแม้เจ้านายจะเปรตไปบ้างแต่พอเข้ามาออดอ้อนใครจะไม่น้วยจริงไหมล่ะ
สองพี่น้องพูดคุยกันในห้องกันสักพักก่อนจะพากันออกไปหาอะไรรองท้อง กว่าสองเดือนที่ชายหนุ่มไม่ได้แวะมาที่นี่
ภาพนี้สร้างความปลื้มปริ่มดีใจให้กับเพื่อนร่วมงานและผู้เรียนทั้งชายหญิงเป็นอย่างมากเพราะความโดดเด่นของทั้งคู่นั้นเป็นอาหารตาชั้นดี
“ใครน่ะแก”
“พี่นัทเจ้าของที่นี่กับพี่ชายเขา”
“โห ทำไมเพิ่งชวนฉันมาเรียนเนี่ย”
“กรุณาเช็ดน้ำหมากด้วยค่ะเพื่อนอีกอย่างพี่วินแต่งงานแล้วจ้ะ”
“ใครบอกว่าฉันมองพี่วินเล่า!”
“ว้า แต่งงานไปแล้วเหรอเนี่ย”
หญิงสาวทั้งสองที่กำลังถกเถียงกันหันไปมองชายหนุ่มที่เป็นครูสอนงานปั้นเจ้าของเรือนผมสีควันบุหรี่
“พี่เธียรว่าไงนะคะ”
“บอกว่าตรงนี้ปรับอีกหน่อยก็สวยแล้วครับ”
“ได้เลยค่ะ”
ใบหน้าหล่อตี๋แบบพิมพ์นิยมยิ้มอย่างใจดีหลังตอบคำถามนักเรียนเสร็จก่อนท้าวคางมองตามคนนอกห้องจนลับสายตา
หนึ่งหนุ่มหล่อผู้มีเรือนผมสีดำทรงทูบล็อคดวงตาสีเฮเซลยามต้องแสงเป็นประกายสีทองไม่เหมือนใคร สวมเชิ้ตดำปลดกระดุมเม็ดบนกับกางสแล็คสีดำตัดกับสูทสีน้ำเงิน ใบหูซ้ายประดับเพทายเม็ดจิ๋วคู่ตรงตำแหน่งเฮลิกซ์ (Helix)
หนึ่งสาวสวยผู้มีดวงตาและเรือนผมสีน้ำตาลอ่อนลอนเล็กยาวถึงกลางหลังสวมเสื้อยืดสีดำกางเกงยีนทรงบอยพอดีตัวคลุมทับด้วยเบลเซอร์สีครีม ใบหูทั้งซ้ายขวาใส่จิวเล็กสีนิลข้างละสามอันเรียงกันในตำแหน่งโลบ (Lobe)
ทั้งคู่เลือกร้านประจำที่มาบ่อยเป็นอาหารง่ายๆแต่อร่อยมากก่อนที่จะแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเองต่อ ใจจริงหัสวีร์อยากชวนมนัสวีมาอยู่ที่บ้านเหมือนเดิมแต่เจ้าตัวอยากสะสางเรื่องหย่ากับสรัลให้เสร็จก่อนถึงจะสบายใจได้ ซึ่งเรื่องนี้ไม่ได้บอกเล่าให้หญิงสาวฟังเพราะอีกฝ่ายก็ยุ่งกับการเตรียมงานแสดงแกลอรี่เหมือนกันเลยนอนที่คอนโดเป็นหลักแต่ขอแบบเครื่องเพชรของมนัสวีที่ไม่ได้รับเลือกมาแทน
เมื่อกลับไปถึงบริษัทมินตรามาแจ้งว่าได้ทำการนัดหมายกับนายชัชชัยที่เข้ามาขอพบเรียบร้อยแล้ว
“หึ พี่จิ๋นซีนี่คาดการณ์เก่งนะเนี่ย”
เช้านี้ทุกสำนักข่าวทุกพื้นที่สื่อถูกนายอาทิตย์ บรรพ์เกียรติ เจ้าของผับหรูและบริษัทออแกไนซ์ชื่อดังพร้อมกับเพื่อนอีกสิบคนที่มีชื่อเสียงในแวดวงธุรกิจหมดในสภาพที่ดูไม่ได้หน้าตาบวมช้ำ ร่างกายบาดเจ็บกระดูกแขนขาหักบางส่วนซึ่งไม่ได้จงใจเอาชีวิตรวมไปถึงอวัยวะเพศมีเลือดซึมจากรอยเข็มจิ้มอย่างรุนแรงตรวจสอบแล้วพบว่าถูกฉีดฮอร์โมนทำให้ฝ่อตัว ส่วนคนทำนั้นตามตัวไม่ได้ไร้ร่องรอยให้ติดตามราวภูติผียามค่ำคืนทั้งนี้ยังมีหลักฐานการกระทำความผิดในข้อหาค้ามนุษย์และค้ายาเสพติดรายใหญ่รวมไปถึงยาเสียสาวที่กำลังระบาดในช่วงนี้ ถูกส่งมอบมาให้ผู้กำกับธนภัทร ภูติสกุล ฉายามือปราบกังฉินผู้มีภูมิหลังที่ไม่ธรรมดา “เอ๋? จำได้ว่านายอาทิตย์ต้องแต่งงานสิรินสิ้นปีนี้นี่นาแล้วใช้ชีวิตอย่างอู้ฟู่มีบ้านเล็กบ้านน้อยไปเรื่อยๆส่วนเมียหลวงก็ตามจิกเป็นไก่เช่นกัน”หัสวีร์ในชุดเสื้อคอเต่าสีดำกางเกงสีซิลเวอร์เกรย์แบบเดียวกับสูทที่ถูกถอดพาดหลังเก้าอี้ตัวใหญ่ ใบหูขวาประดับโอปอล์สีดำเม็ดจิ๋วตรงตำแหน่งอัพเปอร์โลบ (Upper lobe) สองชิ้นและแฟลต (Flat) หนึ่งชิ้น กำลังอ่านข่าวพลางพูดกับตัวเองด้วยความสงสัยหรือเพราะเขาย้อนเวลากลับมาเลยเกิดปรากฎการณ
หัสวีร์มาพบชัชชัยที่ร้านเลอฌาเพียงคนเดียวเปิดห้องเข้าไปเจอแขกนั่งรออยู่แล้วทั้งที่ยังไม่ถึงเวลานัดชายวัยกลางคนแต่งตัวภูมิฐานบุคลิกน่าเชื่อถือสายตาไม่ว่อกแว่กยามจดจ้องสนทนา อีกทั้งโปรไฟล์ที่สร้างขึ้นมาในแวดวงธุรกิจยังดูดีอีกด้วยไม่แปลกใจที่ก่อนหน้าจะมีคนตกเป็นเหยื่อถูกต้มตุ๋น“ผมบอกเลยว่าคุณหัสวีร์ตาแหลมมากจริงๆ”“คุณชัชชัยอยากได้เท่าไหร่ครับ”หัสวีร์ถามหยั่งเชิงในขณะที่คู่ค้าได้ยินแล้วตาลุกวาวในใจลิงโลดแต่ต้องเก็บอาการไว้กลัวไก่ตื่น“เหมืองทับทิมสยามทุกที่ปิดถาวรไปหมดแล้วสี่ก้อนผมขอล้านห้าแล้วกันครับ”ชัยชัยเอ่ยราคาในใจพร้อมมองสีหน้าเรียบนิ่งของชายหนุ่มที่ไม่มีปฏิกิริยาตอบรับก็เริ่มใจคอไม่ดีหรือมันแพงไปวะชวดรอบนี้อดแน่กู“แต่สำหรับคุณผมคิดแค่หนึ่งล้านพอ”ท่าทีที่เริ่มร้อนรนทำให้ผู้บริหารหนุ่มกระตุกยิ้มบางมองด้วยสายตานึกสนุกก่อนจะหยิบเช็คขึ้นมาเขียนหลังตรวจสอบแล้วว่าข้างในมีอัญมณีแน่นอน“ไม่ต้องหรอกครับเอาราคาแรกนั่นแหละ”หินเหล่านี้มาจากเหมืองรัตนากรจริงซึ่งมั่นใจได้ว่าเป็นทับทิมสยามแน่นอนแค่สามก้อนเท่านั้นส่วนก้อนที่เล็กเท่าไข่ไก่เพื่อนที่มาจากรัสเซียนอกเมืองห่างไกล ได้มาในราคาแสนถ
“แค่นี้ก็เหนื่อยแล้วเหรอครับ”“ฮื้อ วินก็พักแป๊บหนึ่ง แฮ่ก รอก่อน”“เราเพิ่งเริ่มเองนะครับ”“หยุดขำนะทั้งคู่เลย”หัสวีร์ที่นอนแผ่หลาหอบอยู่กลางยิมโดยมีจิตรกรนั่งหัวเราะอยู่ข้างๆส่วนครูผู้สอนที่ยืนไหล่สั่นกลั้นไว้‘ยิวยิตสู’ เป็นศิลปะป้องกันตัวระยะประชิดที่ชายหนุ่มเลือกเรียนเพราะอาศัยวิธีการต่อสู้แบบผสมผสานมีจุดเด่นด้านความรวดเร็วรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นทุ่มตัว โจมตีตามข้อ หักแขนหักขาให้เสียหลัก จับล็อกหรือนอนรัดให้คู่ต่อสู้ขยับไม่ได้ใช้งานได้ทั้งยืนและนอนที่สำคัญสามารถนำศาสตร์มวยไทย เทควันโด้ คาราเต้มาประยุกต์ใช้ได้ด้วยหลายคนอาจเกิดสับสนว่ายิวยิตสูกับยูโดแต่จริงแล้วนั้นยูโดพัฒนามาจากยิวยิตสูเพียงแค่ตัดท่าอันตรายออกไป เช่น ท่าฟันคอ หักแขนหักขา และท่าสังหารต่างๆถูกคัดออกทั้งหมดเน้นท่าทุ่มเป็นหลักอาศัยวิธีการจับคอเสื้อหรือแขนเสื้อทุ่มแทนเมื่ออีกฝ่ายหงายหลังลงพื้นกรรมการจะนับคะแนนและให้สัญญาณสองฝ่ายแยกออกจากกัน ไม่มีความรุนแรงหรืออันตรายเพื่อให้กลายเป็นกีฬาแข่งขันที่ปลอดภัยมากขึ้นส่วนตอนนี้หลังวอร์มร่างกายผ่าน
“เชิญครับ”ตอนนี้เมธัสกำลังขึ้นขึ้นลิฟท์ไปชั้นสูงสุดของคาสิโนที่ติดหนึ่งในสามของผู้ทรงอิทธิพลเพื่อพบใครคนหนึ่งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เพราะเขา ‘พลาด’ แม้จะพยายามรักษาสีหน้าให้เรียบนิ่งไว้ได้แต่มือกับชื้นไปด้วยเหงื่อทั้งที่เครื่องปรับอากาศภายในอาคารอยู่ที่ 20 องศาเซลเซียส“ว่ายังไงครับ”“ผมขอโทษครับ”“คุณเมธัสลืมอะไรไปหรือเปล่าครับ”ยิ่งใบหน้าหล่อเหลายิ้มโดยปราศจากอารมณ์ขุ่นเคืองมากเท่าไหร่เมธัสก็ยิ่งเสียวสันหลังจนเหงื่อไหลซึม แม้อายุเพียง 38 ปี กลับได้กุมบังเหียนใหญ่มาเกือบสิบปีไม่ใช่แค่คาสิโนที่มีสังเวียนมวยใต้ดินไร้กฎแต่ครอบคลุมไปถึงอาวุธเถื่อนและการค้ามนุษย์ ขึ้นชื่อเรื่องความโหดเหี้ยมเลือดเย็น“เอ่อ ไม่ใช่ครับผมจะเอาสินค้ามาส่งให้ในอีกสามวันครับ”“โชคดีที่แขกของผมเลื่อนเดินทางเป็นอาทิตย์หน้า อย่าทำให้ผิดหวังอีกล่ะครับ”“ไม่มีทางเด็ดขาดครับ”เมธัสกลืนน้ำลายอย่างยากเย็นกำมือที่สั่นแน่นจนเล็บจิกกลางฝ่ามือลอบสังเกตคู่สนทนาด
หลังจากประชุมช่วงบ่ายเสร็จหัสวีร์แวะไปที่ห้องบอลรูมของโรงแรมเดอะเซ็นต์พาวิลเลียนสถานที่จัดงานโดยมีสรัลอาสามาเป็นเพื่อน เมื่อมาถึงคนที่ขึ้นชื่อว่าสามีดูเหมือนจะเริ่มทำตัวน่ารำคาญในสายตาชายหนุ่มนิดหน่อยจากที่รังเกียจอยู่แล้ว“ที่รักเปลี่ยนธีมการจัดงานทำไมไม่บอกพี่ครับ”“ก็เปลี่ยนหลังจากเจ้าของบริษัทที่พี่หามาโดนจับนั่นแหละครับ”“ก็ใช่ไงครับต้องบอกพี่ด้วยสิ ทำอะไรตามใจตัวเองไปหรือเปล่า”ดวงตาสีเฮเซลหันไปมองคนพูดที่กำลังทำเสียงหงุดหงิดอย่างเย็นชา“ทำไมครับ เพิ่งรู้ว่าบริษัทตัวเองแต่เวลาจะทำอะไรต้องได้รับอนุญาตจากคนอื่นด้วย”ทางสรัลเหมือนเพิ่งรู้ตัวว่าแสดงอาการที่ไม่หมาะสมออกไป“พี่ขอโทษครับวิน แค่เป็นห่วงมากไปหน่อยกลัวว่าถ้าไม่เหมือนที่วางไว้ก่อนหน้านี้แล้วงานออกมาไม่ดี”“อย่าห่วงเลยครับผมรู้ดีว่ากำลังทำอะไร”“ไม่เอาสิครับอย่าทำห่างเหินกันแบบนี้พี่ขอโทษนะ”ชายหนุ่มจับมือผู้เป็นภรรยาขึ้นมาจูบแผ่วเบาอย่างเอาใจไม่ได้โต้แย้งอะไรเพิ่มอีก
“วิน! ทำไมทำอะไรตามใจตัวเองแบบนี้เปลี่ยนคอลเลกชั่นที่จะแสดงกระทันหันได้ยังไง”สรัลที่กัดฟันด้วยไม่พอใจตะคอกเสียงดังใส่หัสวีร์ที่เพิ่งถูกลากออกมาจากบริเวณที่จัดงาน คนแสนเชื่องจูงจมูกง่ายเปลี่ยนไปมากขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน“อยู่ใกล้แค่นี้เสียงดังทำไมครับแล้วจะเปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยนแล้วมันยังไง”ชายหนุ่มในชุดสูทสีแดงเบอกันดีตัดกันกับเชิ้ตดำด้านในตอบกลับเสียงเรียบนิ่งกอดอกพิงราวระเบียงอย่างสบายใจมองหน้าคนที่กำลังโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง จิวทับทิมสยามเม็ดเล็กที่ใบหูทั้งสองข้างสะท้อนกับแสงไฟตัดกับสีตายามขยับตัวยิ่งเห็นสีหน้าเฉยชาทั้งยังไม่ได้คำตอบที่ต้องการคนขึ้นชื่อว่าสามีเคยเป็นคนใจเย็นแสนดี เส้นความอดทนขาดผึงเพราะแผนการที่วางไว้ถูกทำลายกระชากบีบต้นแขนคนตรงหน้าแน่น“ตอบมาอย่าให้พี่ต้องใช้กำลังนะวิน”หัสวีร์ยังคงนิ่งเงียบไม่แม้แต่จะแสดงความรู้สึกเจ็บออกมาทางสีหน้าผิดกับดวงตาแข็งกร้าวเพราะกำลังคิดว่าจะหักแค่นิ้วหรือหักทั้งแขนดีก่อนที่จะทำอย่างใจนึก…“โอ๊ย ใครวะ”เสียงร้องของ
“อีกสองเดือนเหรอครับ”“ใช่แล้วครับ”“ทำไมพี่เป็นหลานชายมาเฟียไปได้เนี่ย”“ขนาดน้องยังเป็นลูกชายคุณมาร์ติโนเลยครับ”“ก็จริง”หัสวีร์ยิ้มขำนอนหนุนตักจิตรกรอยู่บนโซฟาตัวใหญ่ในห้องทำงานฝ่ามือซุกซนไล้ไปตามกรอบหน้าคมหรือเพราะแบบนี้ไหมนะชีวิตที่แล้วคนรักของเขาถึงถูกลอบยิงจนพิการทั้งที่ไม่ได้ไปข้องเกี่ยวกับฝั่งนั้นแต่ก็ถือว่าเป็นทายาทสายตรงเพียงคนเดียว“คิดอะไรอยู่ครับ หืม”สัมผัสแผ่วจากริมฝีปากเจ้าของตักจุมพิตลงกลางฝ่ามือนิ่มเบาๆเรียกสติของคนที่กำลังวิเคราะห์ถึงความเป็นไปได้กลับมา“ถ้าวันหนึ่งวินต้องมือเปื้อนเลือดขึ้นมาพี่จิ๋นซีจะกลัวน้องไหมครับ”“ไม่ครับ พี่จะเก็บกวาดให้น้องเองเพราะแฟนพี่ไม่เคยทำอะไรที่ไม่มีเหตุผลแล้วถ้าพี่ทำบ้างวินจะกลัวไหมครับ”“วินก็จะช่วยพี่จัดการเหมือนกันครับ”ดวงตาคู่สวยระยิบระยับพร้อมรอยยิ้มกว้างแนบฝ่ามือทั้งสองที่แก้มเจ้าของตักดึงอีกฝ่ายให้โน้มตัวเข้ามาใกล้ประกบริมฝีปากนิ่ม ลิ้นเล็กไล้ไปตามกลีบปากของคนพี่ค่อยๆขบเม้มดูดดึงเบาๆแล้วเข้าไปกวาดต้อนกระหวัดเกี่ยวพัวพันมือใหญ่เริ่มซุกซนสา
หัสวีร์ค่อนข้างคุ้นชินกับการนอนที่ Steed King ด้วยความที่เจ้าของสนามแข่งทำห้องนอนไว้สองห้องเผื่อไว้ ช่วงสมัยเรียนหลังจากลงแข่งเสร็จก็ดึกแล้วเลยขี้เกียจขับรถกลับเพราะอยู่ชานเมืองค่อนข้างไกลมหา’ลัย วันไหนว่างหรือมีเรียนบ่ายถึงจะแวะมาแข่งเลยเป็นเหมือนแขกประจำใช้บริการนอนฟรีอยู่บ่อยๆผมที่เปียกลู่ถูกคนตัวโตเป่าให้จนแห้งสนิทพร้อมยาคลายกล้ามเนื้อและบริการนวดเพราะเริ่มปวดเมื่อยตัวจากการตีลังกาหลายตลบ“เขยิบมาครับทำไมต้องนอนห่างขนาดนั้น”ท่ามกลางแสงสลัวจากโคมที่ให้แสงสว่างเพียงหนึ่งเดียวจิตรกรที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จสอดตัวเองเข้าใต้ผ้าห่มให้เบาที่สุดจะได้ไม่รบกวนคนที่นอนอยู่แต่ไม่คิดว่านอกจากจะยังไม่หลับยังตบพื้นที่ว่างดังปุๆให้ร่างสูงขยับไปใกล้“นอนได้แล้วครับ”เมื่อไม่ได้ดั่งใจแม้คนข้างตัวขยับเข้ามาแล้วจุ๊บหน้าผากกอดหลวมๆ แต่มือนิ่มกลับซุกซนสอดเข้าไปลูบไล้หน้าท้องแข็งแรงที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อแน่นหกลูก เสียงกลั้วหัวเราะคิกคักเมื่อถูกรั้งจับแน่นราวกับว่าสลับบทบาทกันจากครั้งแรกๆที่เคยเขินอายยิ่งเห็นคนพี่อดทนได้ก็ยิ่งได้ใจมากขึ้น“อย่ายั่วพี่”เพรา
หัสวีร์ค่อนข้างคุ้นชินกับการนอนที่ Steed King ด้วยความที่เจ้าของสนามแข่งทำห้องนอนไว้สองห้องเผื่อไว้ ช่วงสมัยเรียนหลังจากลงแข่งเสร็จก็ดึกแล้วเลยขี้เกียจขับรถกลับเพราะอยู่ชานเมืองค่อนข้างไกลมหา’ลัย วันไหนว่างหรือมีเรียนบ่ายถึงจะแวะมาแข่งเลยเป็นเหมือนแขกประจำใช้บริการนอนฟรีอยู่บ่อยๆผมที่เปียกลู่ถูกคนตัวโตเป่าให้จนแห้งสนิทพร้อมยาคลายกล้ามเนื้อและบริการนวดเพราะเริ่มปวดเมื่อยตัวจากการตีลังกาหลายตลบ“เขยิบมาครับทำไมต้องนอนห่างขนาดนั้น”ท่ามกลางแสงสลัวจากโคมที่ให้แสงสว่างเพียงหนึ่งเดียวจิตรกรที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จสอดตัวเองเข้าใต้ผ้าห่มให้เบาที่สุดจะได้ไม่รบกวนคนที่นอนอยู่แต่ไม่คิดว่านอกจากจะยังไม่หลับยังตบพื้นที่ว่างดังปุๆให้ร่างสูงขยับไปใกล้“นอนได้แล้วครับ”เมื่อไม่ได้ดั่งใจแม้คนข้างตัวขยับเข้ามาแล้วจุ๊บหน้าผากกอดหลวมๆ แต่มือนิ่มกลับซุกซนสอดเข้าไปลูบไล้หน้าท้องแข็งแรงที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อแน่นหกลูก เสียงกลั้วหัวเราะคิกคักเมื่อถูกรั้งจับแน่นราวกับว่าสลับบทบาทกันจากครั้งแรกๆที่เคยเขินอายยิ่งเห็นคนพี่อดทนได้ก็ยิ่งได้ใจมากขึ้น“อย่ายั่วพี่”เพรา
“อีกสองเดือนเหรอครับ”“ใช่แล้วครับ”“ทำไมพี่เป็นหลานชายมาเฟียไปได้เนี่ย”“ขนาดน้องยังเป็นลูกชายคุณมาร์ติโนเลยครับ”“ก็จริง”หัสวีร์ยิ้มขำนอนหนุนตักจิตรกรอยู่บนโซฟาตัวใหญ่ในห้องทำงานฝ่ามือซุกซนไล้ไปตามกรอบหน้าคมหรือเพราะแบบนี้ไหมนะชีวิตที่แล้วคนรักของเขาถึงถูกลอบยิงจนพิการทั้งที่ไม่ได้ไปข้องเกี่ยวกับฝั่งนั้นแต่ก็ถือว่าเป็นทายาทสายตรงเพียงคนเดียว“คิดอะไรอยู่ครับ หืม”สัมผัสแผ่วจากริมฝีปากเจ้าของตักจุมพิตลงกลางฝ่ามือนิ่มเบาๆเรียกสติของคนที่กำลังวิเคราะห์ถึงความเป็นไปได้กลับมา“ถ้าวันหนึ่งวินต้องมือเปื้อนเลือดขึ้นมาพี่จิ๋นซีจะกลัวน้องไหมครับ”“ไม่ครับ พี่จะเก็บกวาดให้น้องเองเพราะแฟนพี่ไม่เคยทำอะไรที่ไม่มีเหตุผลแล้วถ้าพี่ทำบ้างวินจะกลัวไหมครับ”“วินก็จะช่วยพี่จัดการเหมือนกันครับ”ดวงตาคู่สวยระยิบระยับพร้อมรอยยิ้มกว้างแนบฝ่ามือทั้งสองที่แก้มเจ้าของตักดึงอีกฝ่ายให้โน้มตัวเข้ามาใกล้ประกบริมฝีปากนิ่ม ลิ้นเล็กไล้ไปตามกลีบปากของคนพี่ค่อยๆขบเม้มดูดดึงเบาๆแล้วเข้าไปกวาดต้อนกระหวัดเกี่ยวพัวพันมือใหญ่เริ่มซุกซนสา
“วิน! ทำไมทำอะไรตามใจตัวเองแบบนี้เปลี่ยนคอลเลกชั่นที่จะแสดงกระทันหันได้ยังไง”สรัลที่กัดฟันด้วยไม่พอใจตะคอกเสียงดังใส่หัสวีร์ที่เพิ่งถูกลากออกมาจากบริเวณที่จัดงาน คนแสนเชื่องจูงจมูกง่ายเปลี่ยนไปมากขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน“อยู่ใกล้แค่นี้เสียงดังทำไมครับแล้วจะเปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยนแล้วมันยังไง”ชายหนุ่มในชุดสูทสีแดงเบอกันดีตัดกันกับเชิ้ตดำด้านในตอบกลับเสียงเรียบนิ่งกอดอกพิงราวระเบียงอย่างสบายใจมองหน้าคนที่กำลังโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง จิวทับทิมสยามเม็ดเล็กที่ใบหูทั้งสองข้างสะท้อนกับแสงไฟตัดกับสีตายามขยับตัวยิ่งเห็นสีหน้าเฉยชาทั้งยังไม่ได้คำตอบที่ต้องการคนขึ้นชื่อว่าสามีเคยเป็นคนใจเย็นแสนดี เส้นความอดทนขาดผึงเพราะแผนการที่วางไว้ถูกทำลายกระชากบีบต้นแขนคนตรงหน้าแน่น“ตอบมาอย่าให้พี่ต้องใช้กำลังนะวิน”หัสวีร์ยังคงนิ่งเงียบไม่แม้แต่จะแสดงความรู้สึกเจ็บออกมาทางสีหน้าผิดกับดวงตาแข็งกร้าวเพราะกำลังคิดว่าจะหักแค่นิ้วหรือหักทั้งแขนดีก่อนที่จะทำอย่างใจนึก…“โอ๊ย ใครวะ”เสียงร้องของ
หลังจากประชุมช่วงบ่ายเสร็จหัสวีร์แวะไปที่ห้องบอลรูมของโรงแรมเดอะเซ็นต์พาวิลเลียนสถานที่จัดงานโดยมีสรัลอาสามาเป็นเพื่อน เมื่อมาถึงคนที่ขึ้นชื่อว่าสามีดูเหมือนจะเริ่มทำตัวน่ารำคาญในสายตาชายหนุ่มนิดหน่อยจากที่รังเกียจอยู่แล้ว“ที่รักเปลี่ยนธีมการจัดงานทำไมไม่บอกพี่ครับ”“ก็เปลี่ยนหลังจากเจ้าของบริษัทที่พี่หามาโดนจับนั่นแหละครับ”“ก็ใช่ไงครับต้องบอกพี่ด้วยสิ ทำอะไรตามใจตัวเองไปหรือเปล่า”ดวงตาสีเฮเซลหันไปมองคนพูดที่กำลังทำเสียงหงุดหงิดอย่างเย็นชา“ทำไมครับ เพิ่งรู้ว่าบริษัทตัวเองแต่เวลาจะทำอะไรต้องได้รับอนุญาตจากคนอื่นด้วย”ทางสรัลเหมือนเพิ่งรู้ตัวว่าแสดงอาการที่ไม่หมาะสมออกไป“พี่ขอโทษครับวิน แค่เป็นห่วงมากไปหน่อยกลัวว่าถ้าไม่เหมือนที่วางไว้ก่อนหน้านี้แล้วงานออกมาไม่ดี”“อย่าห่วงเลยครับผมรู้ดีว่ากำลังทำอะไร”“ไม่เอาสิครับอย่าทำห่างเหินกันแบบนี้พี่ขอโทษนะ”ชายหนุ่มจับมือผู้เป็นภรรยาขึ้นมาจูบแผ่วเบาอย่างเอาใจไม่ได้โต้แย้งอะไรเพิ่มอีก
“เชิญครับ”ตอนนี้เมธัสกำลังขึ้นขึ้นลิฟท์ไปชั้นสูงสุดของคาสิโนที่ติดหนึ่งในสามของผู้ทรงอิทธิพลเพื่อพบใครคนหนึ่งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เพราะเขา ‘พลาด’ แม้จะพยายามรักษาสีหน้าให้เรียบนิ่งไว้ได้แต่มือกับชื้นไปด้วยเหงื่อทั้งที่เครื่องปรับอากาศภายในอาคารอยู่ที่ 20 องศาเซลเซียส“ว่ายังไงครับ”“ผมขอโทษครับ”“คุณเมธัสลืมอะไรไปหรือเปล่าครับ”ยิ่งใบหน้าหล่อเหลายิ้มโดยปราศจากอารมณ์ขุ่นเคืองมากเท่าไหร่เมธัสก็ยิ่งเสียวสันหลังจนเหงื่อไหลซึม แม้อายุเพียง 38 ปี กลับได้กุมบังเหียนใหญ่มาเกือบสิบปีไม่ใช่แค่คาสิโนที่มีสังเวียนมวยใต้ดินไร้กฎแต่ครอบคลุมไปถึงอาวุธเถื่อนและการค้ามนุษย์ ขึ้นชื่อเรื่องความโหดเหี้ยมเลือดเย็น“เอ่อ ไม่ใช่ครับผมจะเอาสินค้ามาส่งให้ในอีกสามวันครับ”“โชคดีที่แขกของผมเลื่อนเดินทางเป็นอาทิตย์หน้า อย่าทำให้ผิดหวังอีกล่ะครับ”“ไม่มีทางเด็ดขาดครับ”เมธัสกลืนน้ำลายอย่างยากเย็นกำมือที่สั่นแน่นจนเล็บจิกกลางฝ่ามือลอบสังเกตคู่สนทนาด
“แค่นี้ก็เหนื่อยแล้วเหรอครับ”“ฮื้อ วินก็พักแป๊บหนึ่ง แฮ่ก รอก่อน”“เราเพิ่งเริ่มเองนะครับ”“หยุดขำนะทั้งคู่เลย”หัสวีร์ที่นอนแผ่หลาหอบอยู่กลางยิมโดยมีจิตรกรนั่งหัวเราะอยู่ข้างๆส่วนครูผู้สอนที่ยืนไหล่สั่นกลั้นไว้‘ยิวยิตสู’ เป็นศิลปะป้องกันตัวระยะประชิดที่ชายหนุ่มเลือกเรียนเพราะอาศัยวิธีการต่อสู้แบบผสมผสานมีจุดเด่นด้านความรวดเร็วรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นทุ่มตัว โจมตีตามข้อ หักแขนหักขาให้เสียหลัก จับล็อกหรือนอนรัดให้คู่ต่อสู้ขยับไม่ได้ใช้งานได้ทั้งยืนและนอนที่สำคัญสามารถนำศาสตร์มวยไทย เทควันโด้ คาราเต้มาประยุกต์ใช้ได้ด้วยหลายคนอาจเกิดสับสนว่ายิวยิตสูกับยูโดแต่จริงแล้วนั้นยูโดพัฒนามาจากยิวยิตสูเพียงแค่ตัดท่าอันตรายออกไป เช่น ท่าฟันคอ หักแขนหักขา และท่าสังหารต่างๆถูกคัดออกทั้งหมดเน้นท่าทุ่มเป็นหลักอาศัยวิธีการจับคอเสื้อหรือแขนเสื้อทุ่มแทนเมื่ออีกฝ่ายหงายหลังลงพื้นกรรมการจะนับคะแนนและให้สัญญาณสองฝ่ายแยกออกจากกัน ไม่มีความรุนแรงหรืออันตรายเพื่อให้กลายเป็นกีฬาแข่งขันที่ปลอดภัยมากขึ้นส่วนตอนนี้หลังวอร์มร่างกายผ่าน
หัสวีร์มาพบชัชชัยที่ร้านเลอฌาเพียงคนเดียวเปิดห้องเข้าไปเจอแขกนั่งรออยู่แล้วทั้งที่ยังไม่ถึงเวลานัดชายวัยกลางคนแต่งตัวภูมิฐานบุคลิกน่าเชื่อถือสายตาไม่ว่อกแว่กยามจดจ้องสนทนา อีกทั้งโปรไฟล์ที่สร้างขึ้นมาในแวดวงธุรกิจยังดูดีอีกด้วยไม่แปลกใจที่ก่อนหน้าจะมีคนตกเป็นเหยื่อถูกต้มตุ๋น“ผมบอกเลยว่าคุณหัสวีร์ตาแหลมมากจริงๆ”“คุณชัชชัยอยากได้เท่าไหร่ครับ”หัสวีร์ถามหยั่งเชิงในขณะที่คู่ค้าได้ยินแล้วตาลุกวาวในใจลิงโลดแต่ต้องเก็บอาการไว้กลัวไก่ตื่น“เหมืองทับทิมสยามทุกที่ปิดถาวรไปหมดแล้วสี่ก้อนผมขอล้านห้าแล้วกันครับ”ชัยชัยเอ่ยราคาในใจพร้อมมองสีหน้าเรียบนิ่งของชายหนุ่มที่ไม่มีปฏิกิริยาตอบรับก็เริ่มใจคอไม่ดีหรือมันแพงไปวะชวดรอบนี้อดแน่กู“แต่สำหรับคุณผมคิดแค่หนึ่งล้านพอ”ท่าทีที่เริ่มร้อนรนทำให้ผู้บริหารหนุ่มกระตุกยิ้มบางมองด้วยสายตานึกสนุกก่อนจะหยิบเช็คขึ้นมาเขียนหลังตรวจสอบแล้วว่าข้างในมีอัญมณีแน่นอน“ไม่ต้องหรอกครับเอาราคาแรกนั่นแหละ”หินเหล่านี้มาจากเหมืองรัตนากรจริงซึ่งมั่นใจได้ว่าเป็นทับทิมสยามแน่นอนแค่สามก้อนเท่านั้นส่วนก้อนที่เล็กเท่าไข่ไก่เพื่อนที่มาจากรัสเซียนอกเมืองห่างไกล ได้มาในราคาแสนถ
เช้านี้ทุกสำนักข่าวทุกพื้นที่สื่อถูกนายอาทิตย์ บรรพ์เกียรติ เจ้าของผับหรูและบริษัทออแกไนซ์ชื่อดังพร้อมกับเพื่อนอีกสิบคนที่มีชื่อเสียงในแวดวงธุรกิจหมดในสภาพที่ดูไม่ได้หน้าตาบวมช้ำ ร่างกายบาดเจ็บกระดูกแขนขาหักบางส่วนซึ่งไม่ได้จงใจเอาชีวิตรวมไปถึงอวัยวะเพศมีเลือดซึมจากรอยเข็มจิ้มอย่างรุนแรงตรวจสอบแล้วพบว่าถูกฉีดฮอร์โมนทำให้ฝ่อตัว ส่วนคนทำนั้นตามตัวไม่ได้ไร้ร่องรอยให้ติดตามราวภูติผียามค่ำคืนทั้งนี้ยังมีหลักฐานการกระทำความผิดในข้อหาค้ามนุษย์และค้ายาเสพติดรายใหญ่รวมไปถึงยาเสียสาวที่กำลังระบาดในช่วงนี้ ถูกส่งมอบมาให้ผู้กำกับธนภัทร ภูติสกุล ฉายามือปราบกังฉินผู้มีภูมิหลังที่ไม่ธรรมดา “เอ๋? จำได้ว่านายอาทิตย์ต้องแต่งงานสิรินสิ้นปีนี้นี่นาแล้วใช้ชีวิตอย่างอู้ฟู่มีบ้านเล็กบ้านน้อยไปเรื่อยๆส่วนเมียหลวงก็ตามจิกเป็นไก่เช่นกัน”หัสวีร์ในชุดเสื้อคอเต่าสีดำกางเกงสีซิลเวอร์เกรย์แบบเดียวกับสูทที่ถูกถอดพาดหลังเก้าอี้ตัวใหญ่ ใบหูขวาประดับโอปอล์สีดำเม็ดจิ๋วตรงตำแหน่งอัพเปอร์โลบ (Upper lobe) สองชิ้นและแฟลต (Flat) หนึ่งชิ้น กำลังอ่านข่าวพลางพูดกับตัวเองด้วยความสงสัยหรือเพราะเขาย้อนเวลากลับมาเลยเกิดปรากฎการณ
ความเคยชินตั้งแต่รับช่วงต่อลักษิกาเจ็มหัสวีร์มักตื่นเช้าเสมอไม่ว่าจะนอนดึกแค่ไหนก็ตาม ทั้งที่บ้านไม่ได้หลังใหญ่ขนาดนั้นแต่ทำไมมันรู้สึกเงียบเหงาขนาดนี้กันนะมีแค่เขาคนเดียวที่นั่งทานอาหารเช้า ชีวิตที่แล้วไม่เคยรู้สึกถึงความอ้างว้างสักนิดแค่สรัลไปดีลงานที่ฮ่องกงเดี๋ยวก็กลับมาส่วนงานตัวเองก็ยุ่งมาก ยิ่งกับมนัสวีด้วยแล้วหลังความสัมพันธ์แย่เลยห่างกันต่างคนต่างอยู่ตอนนั้นเขาคิดอะไรอยู่นะที่ไม่เคยฉุกใจเลย แม้แต่ภาพในอดีตแสนอบอุ่นสี่คนในครอบครัวไม่เคยลอยเข้ามาในหัวตอนที่พูดจาทำร้ายความรู้สึกคนน้องแรงขนาดนั้น“นัทเห็นพี่รันถือแบบเครื่องเพชรออกมาจากห้องทำงานวิน”“คิดมากน่าใช่ที่ไหนล่ะพี่รันไปเอาเอกสารสัญญา”“ไม่จริง นัทเห็นกับตาแถมยังรีบออกจากบ้านไปกับใครก็ไม่รู้“หลายรอบแล้วนะ อิจฉาหรือไงที่แบบของตัวเองไม่ถูกเลือกน่ะ”“พวกเราเป็นพี่น้องกันนะนัทจะอิจฉาวินไปเพื่ออะไร“เหอะ ก็แค่น้องนอกไส้ทำไมจะทำไม่ได้ แถมชอบยุ่งทุกเรื่องสร้างปัญหาตลอด รอบก่อนก็ทะเลาะกับรินเรื่องตลาด ต่อไปไม่ต้องเข้ามาที่บริษัทแล้วนะ“เออ! จะไม่มาเหยียบอีกไม่ว่าที่นี่หรือลักษิกาเจ็ม”“จะไปไหนก็ไปเลย!”ดวงตาสีสวยกระพริบถี่ไล่ไม่