ปลายเท้าทั้งสองข้างของน้ำตาลรัดรอบเอวหนาของมาร์เซโล่เอาไว้แน่น ก่อนจะไปไขว้กันอยู่หลังบั้นท้ายของเขา“แน่ใจนะคะว่าจะไม่กลับไปทำที่บ้าน”แม้น้ำตาลรู้อยู่เต็มอกว่าสามีจอมหื่นคนนี้ไม่ยอมหยุดแน่ๆ แต่ที่ต้องถามก็เป็นเพราะว่าอดเป็นกังวลไม่ได้กับประสบการณ์เอาท์ดอร์สุดหยิวที่สามีพยายามชักชวนให้ออกมาเปลี่ยนบรรยากาศจนได้“แน่ใจที่สุด... พี่อยากทำตรงนี้ กลางแจ้งแบบนี้แหละดี เพราะมันทำให้พี่สามารถเห็นใบหน้าของตาลได้ชัดเจน... ตาลคงไม่รู้หรอกว่าพี่ชอบมองดูเวลาตาลทำหน้าเสียวจัดเพราะมีความสุข... อ่าห์ กดลงมา... เข้าแล้ว”มาร์เซโล่บรรยายถึงความรู้สึกที่รับรู้อยู่ใต้น้ำ“อูย... แน่นมากค่ะ”ดวงตาของน้ำตาลหรี่ปรือไปชั่วขณะ ใบหน้าบิดเบ้เหยเก พยายามกดกลีบเนื้อให้กลืนกินดุ้นเอ็นอวบใหญ่ของสามีที่กำลังกระถดกระถอกเข้ามาสอดใส่จนสามารถเบียดกลีบเนื้อหนึบแน่นเข้ามาล้ำลึกสุดโคนพวงสวรรค์“อูย... เสียวเหลือเกินเมียจ๋า”สามีละล่ำละลักออกมาพร้อมกับฝังใบหน้าจูบไซ้เต้านมอวบอัดอย่างไม่รั้งรอ“อ๊าห์... ตาลเสียวหัวนมสุดๆ เลยค่ะพี่มาร์ค ดูดแรงๆ ค่ะ... ”ภรรยาบอกพลางกดศีรษะของเขาลงมาเกลือกไซ้สองเต้าเต่งตึง การที่โดนจู่โจมจุดส
นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องที่สมมติขึ้นไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องจริงแต่อย่างใด ชื่อบุคคลและสถานที่ที่ปรากฏในเนื้อเรื่อง ไม่มีเจตนาอ้างอิงหรือก่อให้เกิดความเสียหายใดๆขณะที่หญิงสาวนำลังจะหลับตา หลังจากทิ้งร่างบอบบางลงนอนบนเตียงนอนได้เพียงครู่สั้นๆ เสียงคล้ายกระจกแตกกระจายหรือคนกำลังทุบตีขว้างปาข้าวของอะไรสักอย่างก็ดังลั่นออกจากห้องนอนของผู้เป็นเจ้าของบ้านที่อยู่ห่างออกไปเพียงไม่กี่ก้าว ทำให้คนเป็นน้องเมียซึ่งกำลังนอนอยู่ในห้องข้างๆ ต้องสะดุ้ง รีบลุกขึ้นจากเตียงตอน แล้วก้าวยาวๆ ออกมาจากห้องด้วยความตกใจ“พี่มาร์ค”หญิงสาวเคาะประตู ทว่าเมื่อคนข้างในไม่เปิดรับหล่อนจึงตัดสินใจผลักบานประตูเข้ามาได้ง่ายๆ เพราะว่าเจ้าของห้องไม่ได้ล็อคประตูเอาไว้สภาพที่เห็นทำให้หล่อนตกใจมาก โลหิตสีแดงฉานอาบอยู่ที่หลังมือของมาร์เซโล่ ร่องรอยแตกร้าวเป็นวงกว้างของบานกระจกข้างผนังใกล้กับตู้เสื้อผ้าเป็นหลักฐานยืนยันได้เป็นอย่างดีว่ามาร์เซโล่ใช้กำปั้นชกกระจกจนเลือดแดงอาบหลังมืออย่างที่เห็น“หยุดนะพี่มาร์ค”หญิงสาวปรี่เข้าไปรั้งแขนของพี่เขยเอาไว้ เมื่อเห็นว่าเขาทำท่าว่าจะตะบันกำปั้นเข้าใส่กระจกอีกครั้ง ปกติหล่อนและ
อาจจะเป็นเพราะว่าตอนนั้นทรวงอกอวบใหญ่เป็นทรงสวยของน้ำตาลกำลังกระเพื่อมไหวอยู่ภายใต้ชุดนอนบางๆ ขณะหล่อนก้มๆ เงยๆ พันแผลให้เขาเรือนร่างและผิวพรรณซึ่งเอิบอิ่มเปล่งปลั่งไปด้วยเลือดเนื้อวัยสาวสะพรั่งของน้ำตาลทำให้หัวใจของหนุ่มใหญ่อย่างมาร์เซโล่ถึงกับเต้นไม่เป็นจังหวะ“เสร็จแล้วค่ะพี่มาร์ค”น้ำตาลบอก เสียงของหญิงสาวทำให้พี่เขยสะดุ้ง“ขอบใจมาก”มาร์เซโล่ยอมรับว่าอารมณ์ของเขาแปรปรวนจนตัวเองก็ตามไม่ทัน ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าความใกล้ชิดกับน้องเมียแสนสวยคนนี้ จะทำให้เลือดในกายของเขาสูบฉีดพลุ่งพล่านรุนแรงอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนบางทีอาจจะเป็นเพราะว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านๆ มา เขากับหล่อนยังไม่เคยมีโอกาสได้อยู่ใกล้ชิดกันมากถึงเพียงนี้... กระทั่งถึงวันนี้ วันที่น้ำผึ้งผู้เป็นพี่สาวของน้ำตาลได้จากเขาไปแล้ว“พี่มาร์คนอนนะคะ... ดึกแล้ว”น้ำตาลมองไปที่เตียงนอนกว้าง หล่อนบอกเหมือนเหมือนกับพี่เขยคนนี้เป็นเด็กๆ ที่ต้องเอาใจใส่ดูแลเป็นพิเศษ“พี่จะนอนตรงนี้สักเดี๋ยว”มาร์เซโล่บอกพลางทำท่าว่าจะเอนศีรษะพิงพนักด้านหนึ่งของโซฟา“เดี๋ยวตาลเอาหมอนมาให้นะคะ”น้องเมียหยัดร่างบอบบางขึ้นจากโซฟา เดินไปหยิบหมอนสีขาวที
ขึ้นมาประมูลงานในโครงการก่อสร้างใหญ่ๆ ได้หลายโครงการมาร์เซโล่ตั้งใจเอาไว้ว่าจากนี้ไม่นานบริษัทของเขาจะได้งานประมูลในระดับอภิมหาโปรเจคของภาครัฐอย่างไม่ยากเย็นนัก เขาตั้งปนิธานเอาไว้ว่าจะทำให้กิจการเจริญรุ่งเรืองรุดหน้าขึ้นมาผงาดอยู่ในแถวหน้าของประเทศให้ได้“ก็เรื่องนี้แหละค่ะที่ตาลอยากคุยกับพี่”หญิงสาวเกริ่นให้พี่เขยรู้ถึงสิ่งที่หล่อนครุ่นคิดมาตลอดสามเดือน ภายหลังการจากไปของพี่สาว“เรื่องอะไร”เจ้าของบ้านถามพลางเอื้อมรับถ้วยกาแฟดำที่ป้านวลเพิ่งวางลงตรงหน้าขึ้นมาดื่ม“ตาลคิดว่าถ้าเรียนจบแล้วจะย้ายออกไปจากที่นี่ค่ะ”หญิงสาวตัดสินใจบอกในที่สุด“อ้าว... ทำไม... อยู่บ้านพี่มันไม่สะดวกสบายหรอกหรือ?... มันเล็กไปหรือยังไง”ด้วยน้ำเสียงประชดประชันเล็กน้อย หัวคิ้วของมาร์เซโล่ชิดเข้าหากันเพราะตกใจ เมื่อได้รู้ว่าน้ำตาลกำลังจะย้ายออกไปจากบ้านของเขา “เปล่าค่ะ... ตาลรู้ว่าอยู่บ้านพี่มาร์คสบายทุกอย่าง บ้านก็กว้างขวางใหญ่โตมาก แล้วคงจะไม่มีที่ไหนสบายไปกว่านี้ แต่... ”น้ำตาลรีบชะงักคำพูดไว้ได้ทัน ทั้งที่จริงหล่อนอยากจะบอกให้มาร์เซโล่รู้ว่า ‘พี่มาร์คอย่าลืมนะคะ... ว่าตอนนี้ทุกอย่างได้เปลี่
ป้านวลทำท่าอยากระบาย“แหม... เกริ่นซะขนาดนี้แล้วก็เล่ามาเถอะค่ะป้านวลขา”น้ำตาลรู้ว่าไม่ใช่เรื่องยากเลยสักนิดที่จะทำให้คนช่างพูดอย่างป้านวลยอมเล่าให้ฟัง และก็จริงอย่างที่หล่อนนึกเอาไว้“ก็คุณจันทร์เจิดคนนี้ร้ายอย่าบอกใครเชียวค่ะ เพราะว่าก่อนหน้านี้หล่อนเคยเข้ามาทำท่าวางก้ามประกาศตัวเป็นเจ้าเข้าเจ้าของคุณมาร์คมาแล้วนะคะ“หรอคะ... ”“ใช่... แต่โชคดีที่คุณมาร์คไม่เอาน่ะสิ เลยตัดสินใจแต่งงานกับคุณน้ำผึ้งพี่สาวคุณตาล ทำให้คุณจันทร์เจิดต้องยอมถอยห่างออกไปในที่สุด... แต่จู่ๆ ก็กลับมา พอรู้ว่ามีที่ว่างนางก็รีบเข้ามาเสียบทันที”ป้านวลวิเคราะห์สถานการณ์ได้อย่างเฉียบคม“พี่มาร์คนี่ก็เหลือเกินจริงๆ... นี่ขนาดพี่ผึ้งเพิ่งเสียไม่ทันจะข้ามปี... ไม่ทันไรก็คิดจะมีเมียใหม่เสียแล้ว”น้ำตาลเปรยขึ้นด้วยความรู้สึกผิดหวังในตัวของพี่เขยรูปหล่อ จู่ๆ หล่อนก็รู้สึกโกรธมาร์เซโล่ขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก เมื่ออาทิตย์ก่อนยังทำทีราวกับว่ารักและอาลัยอาวรณ์พี่สาวของหล่อนเสียเหลือเกิน แต่ตอนนี้กลับไปสานสัมพันธ์กับแฟนเก่า... ผู้ชายนะผู้ชาย“ป้าว่าคุณมาร์คอาจจะไม่ทันคิดอะไรหรอกนะคะ เอ่อ... หรืออาจจะคิดป้าก็ไม่รู้... เพราะคุณ
ว่าคุณมาร์คจะต้องรักต้องหลงคุณตาล... ขอเพียงแค่คุณตาลแสดงให้เขารู้บ้างว่าแอบสนใจเขา”ป้านวลเชียร์อย่างออกนอกหน้า“เอ่อ... ตาลไม่มั่นใจนักว่าจะทำได้”หญิงสาวรู้สึกลังเลและสับสนใจ ทั้งที่ลึกๆ ในใจของหล่อนก็ยอมรับว่าแอบหลงรักพี่เขยคนนี้อยู่เงียบๆ มานานหลายปีระหว่างที่น้ำตาลกับป้านวลกำลังคุยกันอยู่ในครัว จู่ๆ เสียงแหวของจันทร์เจิดก็ดังลั่นขึ้นที่ประตูทางเข้าห้องครัว“ป้านวล... คืนนี้ตั้งโต๊ะอาหารกลางสนามหญ้านะคะ คุณมาร์คจะจัดปาร์ตี้ต้อนรับการมาถึงของจันทร์ค่ะ”ทั้งที่ตัวเองเป็นแขกของบ้าน แต่จันทร์เจิดกลับวางท่าทีเหมือนเป็นคุณนายคนใหม่ป้านวลได้ยินคำสั่งของจันทร์เกิดก็จริง แต่หล่อนกลับตีรวนด้วยการหันไปถามผู้เป็นเจ้าของบ้านที่เดินตามหลังแฟนเก่าเข้ามาถึงในครัว“แขกกี่คนคะคุณมาร์ค... ป้าจะได้จัดเตรียมอาหารและเครื่องดื่มได้ถูก”“ก็มีผม... จันทร์ น้ำตาล แล้วก็ไอ้เมศกับไอ้นาวินเพื่อนผมอีกสองคน”มาร์เซโล่ตอบ จันทร์เจิดรู้สึกเสียหน้าที่ป้านวลเลือกจะคุยกับเขาเหมือนไม่เห็นหัวหล่อน“รอให้ฉันเข้ามาเป็นคุณนายคนใหม่ก่อนเถอะ... แกจะเป็นคนแรกที่โดนเฉดหัวออกไปจากบ้านหลังนี้”หลังจากเจ้าของบ้านเดินลับออกไป
“จันทร์... ดูท่าทางคุณคงไม่ไหวแล้วนะ”มาร์เซโล่เอื้อมมือไปแตะแขนของแฟนเก่า เมื่อเห็นว่าจันทร์เจิดเมาจนหลับคาแก้วครั้นเมื่อเขาทำท่าว่าจะลุกขึ้นจากโต๊ะเพื่อประคองหล่อน ป้านวลก็รีบเอ่ยขึ้นทันที“คุณมาร์คนั่งดื่มกับเพื่อนๆ ไปเถอะค่ะ เดี๋ยวป้าพาคุณจันทร์เจิดไปส่งที่ห้องนอนให้นะคะ”เข้าแผน... ป้านวลรีบอาสา ค่อยๆ ประคองร่างอวบอัดของจันทร์เจิดซึ่งเมาพับไม่ได้สติขึ้นมาส่งจนถึงห้องนอนซึ่งอยู่ชั้นสองของบ้าน“แฟนเก่ามานอนค้างบ้านแกแบบนี้... แสดงว่าถ่านไฟเก่ากำลังจะคุกรุ่นขึ้นมาอีกครั้งใช่ไหมวะไอ้มาร์ค”ราเมศแซวเจ้าของบ้าน เมื่อเห็นว่าตอนนั้นเหลือแต่คนกันเอง หารู้ไม่ว่าน้ำตาลซึ่งกำลังช่วยสาวใช้ชาวพม่าสองคนเก็บถ้วยเก็บจาน กำลังแอบเงี่ยหูฟังคำตอบของมาร์เซโล่อย่างใจจดใจจ่อ“คงต้องดูๆ กันไปก่อน... ”มาร์เซโล่ตอบพลางกระดกเหล้าลงคอ ไม่ได้ปฏิเสธว่าถ่านไฟเก่าระหว่างเขากับจันทร์เจิดกำลังจะคุกรุ่นขึ้นมาอีกครั้งซึ่งในเรื่องนี้มีแต่ตัวของมาร์เซโล่เองเท่านั้นที่รู้ดีว่าอะไรเป็นอะไร? เพราะสาเหตุอันใดที่ทำให้เขากลับมาสานสัมพันธ์กับจันทร์เจิดอีกครั้ง เมื่อหล่อนเป็นฝ่ายกลับมาหาเขามาร์เซโล่หารู้ไม่ว่าคำพูดของเขา
ป้านวลอุทานเสียงดังลั่น เมื่อหล่อนเดินกลับลงมาดูแลความเรียบร้อยแล้วพบว่าเจ้าของบ้านถูกทอดทิ้งให้นั่งดื่มอยู่คนเดียวลำพัง “ว้าย... ค่อยๆ เดินนะคะคุณขา”ป้านวลอุทานอีกครั้ง ตอนนั้นมาร์เซโล่กำลังหยัดร่างสูงใหญ่เกินกว่าร้อยแปดสิบเซนติเมตรขึ้นจากเก้าอี้ อาการซวนเซน้อยๆ บอกให้รู้ว่าเขาเมาไม่น้อย“ตาทอง... แกมาช่วยประคองคุณมาร์คให้ทีเถอะ”ป้านวลร้องเรียกลุงทองซึ่งเป็นคนขับรถ ลุงทองรีบปรี่เข้ามาช่วยเหลือ แกยกแขนข้างหนึ่งของมาร์เซโล่ผู้เป็นนายขึ้นพาดเอาไว้บนบ่า จากนั้นก็พาขึ้นบันไดมาส่งจนถึงห้องนอนของผู้เป็นนายซึ่งอยู่ชั้นสองของบ้าน โดยมีป้านวลตามมาดูเหตุการณ์อย่างใกล้ชิด“ค่อยวางลงบนโซฟา”ป้านวลบอก ลุงทองค่อยๆ ประคองร่างสูงใหญ่ของมาร์เซโล่ลงนอนเหยียดยาวบนโซฟาหนังสีน้ำตาลที่วางอยู่กลางห้อง“มีอะไรให้ช่วยอีกมั้ย”ลุงทองถาม“แกไปได้แล้ว”ป้านวลรีบบอก เมื่อร่างท้วมของลุงทองเดินลับไปจากสายตาแกก็รีบเดินมาเคาะประตูห้องนอนของน้ำตาล แผนการบางอย่างผุดวาบขึ้นมาในสมอง“มีอะไรคะป้านวล”น้ำตาลซึ่งอยู่ในชุดนอนบางๆ เปิดประตูออกมาด้วยสีหน้าตกใจ“คุณมาร์คเมามาก... หนูตาลช่วยเข้าไปดูหน่อยสิคะ”“เอ่อ... ตาลจะช่