ป้านวลทำท่าอยากระบาย
“แหม... เกริ่นซะขนาดนี้แล้วก็เล่ามาเถอะค่ะป้านวลขา”
น้ำตาลรู้ว่าไม่ใช่เรื่องยากเลยสักนิดที่จะทำให้คนช่างพูดอย่างป้านวลยอมเล่าให้ฟัง และก็จริงอย่างที่หล่อนนึกเอาไว้
“ก็คุณจันทร์เจิดคนนี้ร้ายอย่าบอกใครเชียวค่ะ เพราะว่าก่อนหน้านี้หล่อนเคยเข้ามาทำท่าวางก้ามประกาศตัวเป็นเจ้าเข้าเจ้าของคุณมาร์คมาแล้วนะคะ
“หรอคะ... ”
“ใช่... แต่โชคดีที่คุณมาร์คไม่เอาน่ะสิ เลยตัดสินใจแต่งงานกับคุณน้ำผึ้งพี่สาวคุณตาล ทำให้คุณจันทร์เจิดต้องยอมถอยห่างออกไปในที่สุด... แต่จู่ๆ ก็กลับมา พอรู้ว่ามีที่ว่างนางก็รีบเข้ามาเสียบทันที”
ป้านวลวิเคราะห์สถานการณ์ได้อย่างเฉียบคม
“พี่มาร์คนี่ก็เหลือเกินจริงๆ... นี่ขนาดพี่ผึ้งเพิ่งเสียไม่ทันจะข้ามปี... ไม่ทันไรก็คิดจะมีเมียใหม่เสียแล้ว”
น้ำตาลเปรยขึ้นด้วยความรู้สึกผิดหวังในตัวของพี่เขยรูปหล่อ จู่ๆ หล่อนก็รู้สึกโกรธมาร์เซโล่ขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก เมื่ออาทิตย์ก่อนยังทำทีราวกับว่ารักและอาลัยอาวรณ์พี่สาวของหล่อนเสียเหลือเกิน แต่ตอนนี้กลับไปสานสัมพันธ์กับแฟนเก่า... ผู้ชายนะผู้ชาย
“ป้าว่าคุณมาร์คอาจจะไม่ทันคิดอะไรหรอกนะคะ เอ่อ... หรืออาจจะคิดป้าก็ไม่รู้... เพราะคุณมาร์คเป็นผู้ชาย บางทีแกอาจจะเหงาและว้าเหว่เป็นธรรมดา แต่ที่รู้แน่ๆ และป้าแน่ใจก็คือคุณจันทร์เจิดคนนี้กำลังมีแผนจ้องจะฮุบตำแหน่ง ‘คุณนายคนใหม่’ ของบ้านหลังนี้”
บทวิเคราะห์ของสตรีผู้อาบน้ำร้อนมาก่อนและเห็นโลกมาเยอะอย่างป้านวล ทำให้น้ำตาลรู้สึกปวดแปลบในใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
ดูเหมือนว่าการเข้ามาของ ‘คนรักเก่า’ ของผู้เป็นเจ้าของบ้าน จะเป็นตัวเร่งให้หล่อนต้องย้ายออกไปจากบ้านหลังนี้เร็วขึ้น
“เห็นทีว่าคงถึงเวลาที่ตาลจะย้ายออกไปจากบ้านหลังนี้เสียที”
สุ้มเสียงของน้ำตาลฟังดูเศร้าจนป้านวลรู้สึกสงสาร
“อย่าเชียวนะคะ... ถ้าหนูตาลไม่อยู่สักคน... มีหวังว่าป้าแย่แน่ๆ”
ป้านวลกล่าวออกมาเหมือนรู้ชะตากรรมของตัวเอง ก็เมื่อหลายปีก่อนหล่อนเคยมีปากเสียงกับจันทร์เจิดมาก่อน เพราะว่าตอนที่น้ำผึ้งยังอยู่ จันทร์เจิดก็เคยมาระรานซ้ำยังทอดสะพานให้ท่ามาร์เซโล่จนถึงบ้าน
“ทุกวันนี้ฐานะของตาลก็แค่คนอาศัย... ต่อให้ตาลอยู่บ้านหลังนี้ต่อไปก็ช่วยอะไรป้าไม่ได้หรอกค่ะ”
น้ำตาลเจียมตัว หล่อนรู้ดีว่าตัวเองเป็นใคร
“คงจะดีไม่น้อย... ถ้าคุณตาลได้เป็นคุณนายคนใหม่ของบ้านหลังนี้”
ในที่สุดสิ่งที่ป้านวลแอบคิดเล่นๆ ก็ถูกเผยออกมาจนได้
“อุ๊ย... ป้านวลหมายความว่ายังไงคะ”
น้ำตาลตกใจ
“ก็หมายความอย่างที่ป้าพูดนั่นแหละค่ะ... ตั้งแต่คุณผึ้งไม่อยู่ป้าก็แอบนึกเล่นๆ ว่าคงจะดีไม่น้อยถ้าคุณตาลจะขึ้นมาเป็นภรรยาคนใหม่ของคุณมาร์ค”
ป้านวลรู้ว่าน้ำตาลเป็นคนน่ารัก ใจดี มีน้ำใจกับทุกคน ตอนที่พี่สาวของหล่อนยังอยู่น้ำตาลก็ไม่เคยถือเนื้อถือตัวว่าเป็นน้องสาวภรรยาเจ้าของบ้าน ไม่เคยตีตนสูงกว่าคนอื่น คนรับใช้ทุกคนในบ้านต่างก็รักและเคารพน้ำตาลไม่ต่างจากพี่สาวของหล่อน
“คงเป็นไปไม่ได้หรอกค่ะป้านวล... พี่มาร์คไม่ได้รักน้ำตาลนี่คะ”
เสียงของน้ำตาลสลดลงอย่างเห็นได้ชัด หล่อนรู้ดีว่า ‘ความรัก’ เป็นเรื่องของ ‘หัวใจ’ บังคับกันไม่ได้
แม้วันนี้พี่สาวของหล่อนจะไม่อยู่แล้วก็จริง แต่ท่าทีของมาร์เซโล่ที่แสดงออกต่อหล่อนนั้นก็ไม่เคยเกินเลยไปในทางชู้สาว น้ำตาลรู้ดีว่ามาร์เซโล่ไม่ได้รักหล่อนเหมือนอย่างที่รักพี่สาวของหล่อน
“คุณตาลทั้งสาวทั้งสวย... ผู้ชายโง่เท่านั้นแหละค่ะที่ไม่รักไม่ชอบคุณตาล”
ป้านวลรู้ว่าน้ำตาลเป็นผู้หญิงที่มีทุกอย่างพร้อม
“แต่... ป้านวลก็เห็นนี่คะ ว่าพี่มาร์คไม่ได้คิดกับตาลเกินเลยไปกว่าน้องสาวคนนึง”
น้ำตาลกล่าว
“รู้ได้ยังไงคะ... ” .
“ก็... ”
“รู้ได้ยังไงคะว่าคุณมาร์คไม่คิดอะไรกับคุณตาล เมื่อก่อนอาจจะใช่... แต่อย่าลืมว่าตอนนี้หลายอย่างเปลี่ยนไปแล้วนะคะ คุณผึ้งพี่สาวคุณตาลไม่อยู่แล้วนะคะ คุณตาลไม่ควรปล่อยให้พี่เขยแสนดีคนนี้ตกไปเป็นของผู้หญิงอื่น”
ป้านวลแนะนำเป็นนัย
“ป้านวลหมายความว่า... ”
ผู้หญิงต่างวัยสองคนมองสบตากันแวบหนึ่ง เพียงเท่านั้นก็สามารถเข้าใจทุกอย่างภายในใจของกันและกันได้อย่างกระจ่างแจ้ง
“ป้าเชียร์คุณตาล... ป้าอยู่ข้างคุณตาลนะคะ คุณตาลของป้าทั้งสวยและน่ารักไม่แพ้ผู้หญิงคนไหน... ป้าเชื่อ
ว่าคุณมาร์คจะต้องรักต้องหลงคุณตาล... ขอเพียงแค่คุณตาลแสดงให้เขารู้บ้างว่าแอบสนใจเขา”ป้านวลเชียร์อย่างออกนอกหน้า“เอ่อ... ตาลไม่มั่นใจนักว่าจะทำได้”หญิงสาวรู้สึกลังเลและสับสนใจ ทั้งที่ลึกๆ ในใจของหล่อนก็ยอมรับว่าแอบหลงรักพี่เขยคนนี้อยู่เงียบๆ มานานหลายปีระหว่างที่น้ำตาลกับป้านวลกำลังคุยกันอยู่ในครัว จู่ๆ เสียงแหวของจันทร์เจิดก็ดังลั่นขึ้นที่ประตูทางเข้าห้องครัว“ป้านวล... คืนนี้ตั้งโต๊ะอาหารกลางสนามหญ้านะคะ คุณมาร์คจะจัดปาร์ตี้ต้อนรับการมาถึงของจันทร์ค่ะ”ทั้งที่ตัวเองเป็นแขกของบ้าน แต่จันทร์เจิดกลับวางท่าทีเหมือนเป็นคุณนายคนใหม่ป้านวลได้ยินคำสั่งของจันทร์เกิดก็จริง แต่หล่อนกลับตีรวนด้วยการหันไปถามผู้เป็นเจ้าของบ้านที่เดินตามหลังแฟนเก่าเข้ามาถึงในครัว“แขกกี่คนคะคุณมาร์ค... ป้าจะได้จัดเตรียมอาหารและเครื่องดื่มได้ถูก”“ก็มีผม... จันทร์ น้ำตาล แล้วก็ไอ้เมศกับไอ้นาวินเพื่อนผมอีกสองคน”มาร์เซโล่ตอบ จันทร์เจิดรู้สึกเสียหน้าที่ป้านวลเลือกจะคุยกับเขาเหมือนไม่เห็นหัวหล่อน“รอให้ฉันเข้ามาเป็นคุณนายคนใหม่ก่อนเถอะ... แกจะเป็นคนแรกที่โดนเฉดหัวออกไปจากบ้านหลังนี้”หลังจากเจ้าของบ้านเดินลับออกไป
“จันทร์... ดูท่าทางคุณคงไม่ไหวแล้วนะ”มาร์เซโล่เอื้อมมือไปแตะแขนของแฟนเก่า เมื่อเห็นว่าจันทร์เจิดเมาจนหลับคาแก้วครั้นเมื่อเขาทำท่าว่าจะลุกขึ้นจากโต๊ะเพื่อประคองหล่อน ป้านวลก็รีบเอ่ยขึ้นทันที“คุณมาร์คนั่งดื่มกับเพื่อนๆ ไปเถอะค่ะ เดี๋ยวป้าพาคุณจันทร์เจิดไปส่งที่ห้องนอนให้นะคะ”เข้าแผน... ป้านวลรีบอาสา ค่อยๆ ประคองร่างอวบอัดของจันทร์เจิดซึ่งเมาพับไม่ได้สติขึ้นมาส่งจนถึงห้องนอนซึ่งอยู่ชั้นสองของบ้าน“แฟนเก่ามานอนค้างบ้านแกแบบนี้... แสดงว่าถ่านไฟเก่ากำลังจะคุกรุ่นขึ้นมาอีกครั้งใช่ไหมวะไอ้มาร์ค”ราเมศแซวเจ้าของบ้าน เมื่อเห็นว่าตอนนั้นเหลือแต่คนกันเอง หารู้ไม่ว่าน้ำตาลซึ่งกำลังช่วยสาวใช้ชาวพม่าสองคนเก็บถ้วยเก็บจาน กำลังแอบเงี่ยหูฟังคำตอบของมาร์เซโล่อย่างใจจดใจจ่อ“คงต้องดูๆ กันไปก่อน... ”มาร์เซโล่ตอบพลางกระดกเหล้าลงคอ ไม่ได้ปฏิเสธว่าถ่านไฟเก่าระหว่างเขากับจันทร์เจิดกำลังจะคุกรุ่นขึ้นมาอีกครั้งซึ่งในเรื่องนี้มีแต่ตัวของมาร์เซโล่เองเท่านั้นที่รู้ดีว่าอะไรเป็นอะไร? เพราะสาเหตุอันใดที่ทำให้เขากลับมาสานสัมพันธ์กับจันทร์เจิดอีกครั้ง เมื่อหล่อนเป็นฝ่ายกลับมาหาเขามาร์เซโล่หารู้ไม่ว่าคำพูดของเขา
ป้านวลอุทานเสียงดังลั่น เมื่อหล่อนเดินกลับลงมาดูแลความเรียบร้อยแล้วพบว่าเจ้าของบ้านถูกทอดทิ้งให้นั่งดื่มอยู่คนเดียวลำพัง “ว้าย... ค่อยๆ เดินนะคะคุณขา”ป้านวลอุทานอีกครั้ง ตอนนั้นมาร์เซโล่กำลังหยัดร่างสูงใหญ่เกินกว่าร้อยแปดสิบเซนติเมตรขึ้นจากเก้าอี้ อาการซวนเซน้อยๆ บอกให้รู้ว่าเขาเมาไม่น้อย“ตาทอง... แกมาช่วยประคองคุณมาร์คให้ทีเถอะ”ป้านวลร้องเรียกลุงทองซึ่งเป็นคนขับรถ ลุงทองรีบปรี่เข้ามาช่วยเหลือ แกยกแขนข้างหนึ่งของมาร์เซโล่ผู้เป็นนายขึ้นพาดเอาไว้บนบ่า จากนั้นก็พาขึ้นบันไดมาส่งจนถึงห้องนอนของผู้เป็นนายซึ่งอยู่ชั้นสองของบ้าน โดยมีป้านวลตามมาดูเหตุการณ์อย่างใกล้ชิด“ค่อยวางลงบนโซฟา”ป้านวลบอก ลุงทองค่อยๆ ประคองร่างสูงใหญ่ของมาร์เซโล่ลงนอนเหยียดยาวบนโซฟาหนังสีน้ำตาลที่วางอยู่กลางห้อง“มีอะไรให้ช่วยอีกมั้ย”ลุงทองถาม“แกไปได้แล้ว”ป้านวลรีบบอก เมื่อร่างท้วมของลุงทองเดินลับไปจากสายตาแกก็รีบเดินมาเคาะประตูห้องนอนของน้ำตาล แผนการบางอย่างผุดวาบขึ้นมาในสมอง“มีอะไรคะป้านวล”น้ำตาลซึ่งอยู่ในชุดนอนบางๆ เปิดประตูออกมาด้วยสีหน้าตกใจ“คุณมาร์คเมามาก... หนูตาลช่วยเข้าไปดูหน่อยสิคะ”“เอ่อ... ตาลจะช่
คนโดนจูบร้องห้าม หากมาร์เซโล่ก็ไม่ยอมฟัง ยังคงระดมจูบไซ้เฟ้นฟอนผิวสาวไล่เรื่อยลงมาที่ซอกคอขาวๆ อย่างหื่นหิว“หอมเหลือเกินน้ำตาลจ๋า”มาร์เซโล่พึมพำขณะจูบได้ซอกคอและเนินอกของน้องเมียอย่างเร่าร้อน กลิ่นแป้งอ่อนๆ ระคนกลิ่นสาบสาวที่จมูกของเขาสัมผัสได้ ทำให้เลือดในกายของมาร์เซโล่สูบฉีดรุนแรงขึ้นมาอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน“ไม่นะพี่มาร์ค... ฮือๆ หยุดนะ... พี่มาร์คกำลังเมานะคะ”น้ำตาลร้องไห้สะอึกสะอื้น พยายามให้สติพี่เขย ใบหน้าสะสวยเจิ่งนองไปด้วยหยาดน้ำตา‘เมา’ หรือ ‘ไม่เมา’ มาร์เซโล่คนเดียวเท่านั้นที่รู้ตัวเองดีกว่าใคร เขารวบไหล่หล่อนแล้วกระชากสายชุดนอนอย่างแรงเหมือนคนคลุ้มคลั่งควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ “อูย... ”มาร์เซโล่พรูลมหายออกมากับสิ่งที่เห็น เมื่อสายชุดนอนเส้นเล็กๆ ที่เกี่ยวอยู่กับหัวไหล่กลมกลึงทั้งสองข้างถูกกระชากออกมาจากลาดไหล่สล้างตอนที่ป้านวลไปเคาะประตูเรียก น้ำตาลกำลังจะเข้านอน หล่อนจึงอยู่ในสภาพโนบราอย่างที่เห็น เพราะไม่คิดว่าจะต้องเข้ามานั่งเช็ดตัวให้พี่เขย ทำให้สองเต้าเต่งตึงผุดผึงออกมาอวดความอวบใหญ่ในทันทีที่ชุดนอนสีชมพูเนื้อผ้าซาตินพลิ้วบางถูกกระชากลงมากองอยู่ที่เอว“น
แต่ถ้าโดนจู่โจมจุดอ่อนไหวที่สุดของร่างกายเหมือนอย่างที่มาร์เซโล่ขู่ว่ากำลังจะทำ... มีหวังว่าหล่อนคงขาดใจตายคาลิ้นของเขาแน่ๆ“อู้ว... สวยเหลือเกินตาลจ๋า”มาร์เซโล่ตาวาว เมื่อขาข้างหนึ่งของน้องเมียถูกมือใหญ่ของเขายกง้างขึ้นพาดเอาไว้กับพนักโซฟา ขณะที่ปลายเท้าอีกข้างยังวางอยู่กับพื้น“น่ากินเหลือเกิน”มาร์เซโล่พึมพำกับสิ่งที่เห็น ในท่าทางที่น้องเมียถูกบังคับให้ลำตัวกึ่งตะแคงถ่างขา ทำให้แลเห็นพูเนื้ออูมแน่นเหมือนส้มโอสองกลีบประกบกันแล้วเหน็บเอาไว้ที่ซอกขา โคกเนื้อสาวแอ่นอ้าขึ้นมาอวดความอิ่มสมบูรณ์นูนแน่นเหมือนหลังเต่า ทำเอามาร์เซโร่ตาวาว รีบทาบสองมือแหวกพุ่มแพรไหมสีดำแล้วกอบพูเนื้อเอาไว้ในอุ้งมือ“โห... ”ดวงตาของพี่เขยแทบถลนออกมาจากเบ้า สองมือรีบแบะบีบกลีบเนื้อสีชมพูจนปูดปลิ้น ระรัวปลายลิ้นลงมาตวัดเลียพร้อมกับริมฝีปากที่ประกบเข้ากับกลีบเนื้อสีชมพู ทั้งดูดทั้งเลียหนุบหนับ“อูยยย... อร่อยสุดๆ”มาร์เซโล่แผ่ปลายลิ้นออกกว้างแล้วกวาดเลียผนังเนื้อสีชมพูอ่อนนุ่มสลับไปมาทั้งสองข้าง ไม่นานน้ำหล่อลื่นใสๆ ของคนโดนรุกรานก็หลั่งซ่านออกมาชโลมสองกลีบขมิบแน่น“อ๊อย... ”น้ำตาลเสียวจนต้องขมิบกลีบเนื้อรัดปล
ประกบกันแน่น แอ่นอ้าขึ้นรับปากและลิ้นของเขาที่แนบประทับลงมาดูดเลียอย่างเร่าร้อนลนลาน“อยากมีผัวนักใช่ไหม... เดี๋ยวเธอจะได้รู้ว่ามันเป็นยังไง”มาร์เซโล่ดันขาของน้ำตาลให้แบะอ้าขึ้นไปขนานกับลำตัวอีกครั้ง“มะ... ไม่เอานะ”น้องเมียร้องห้าม พี่เขยกระตุกยิ้มพลางส่ายเสียดแก่นกายเข้ากับรูเสียว“อู้ย... ”น้ำตาลกัดริมฝีปากแน่น สายตาหวาดๆ หลุบลงมองส่วนปลายของแก่นกายที่มีน้ำใสปริ่มเล็ดออกมาชโลมหัวมังกรแดงก่ำ ถูกกดเข้ากับกลีบเนื้อซึ่งแฉะฉ่ำไปด้วยเมือกคาวสวาทของหล่อน ก่อนที่ร่องเสียวจะเกร็งสะท้านเพราะความยาวใหญ่ที่เสียบพรวดเข้าใส่จนล้ำลึกสุดโคนพวงสวรรค์เสียงดังบลั่ก“อร๊ายยย... อูย”ในเสี้ยววินาทีที่พรหมจารีได้ถูกทำลายลงแล้ว ใบหน้าของน้ำตาลบิดเบ้ ริมฝีปากระริกสั่น ดวงตาเหลือกลานไปชั่วขณะเมื่ออาวุธประจำกายของมาร์เซโล่เคลื่อนเข้ามาคาคับอยู่ในรูเนื้อฟิตแน่น“เจ็บนิดเดียวนะ”พี่เขยปลอบ“แน่นเหลือเกิน... อ๊อย”น้ำตาลพึมพำเสียงสั่นพร่า ท่าทางของหล่อนแสดงความอึดอัดทรมานออกมาอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งอาจจะเป็นเพราะว่ามือสองข้างยังโดนมัดล็อคเอาไว้เหนือศีรษะ“อู้ว... ทั้งแน่นทั้งรัด”มาร์เซโล่พรูลมหายใจร้อนผ่าวออ
มาร์เซโล่กระตุกยิ้ม“อุ๊ย... ตะ... ตาลทำไม่เป็นค่ะ”หญิงสาวรีบส่ายหน้า“ไม่ยาก... รับรองว่าตาลจะชอบ”พี่เขยบอกพลางถอนท่อนเอ็นอวบใหญ่ออกมาจากร่องเนื้อตอดรัด รีบขยับลงมานั่งเอนหลังพิงพนักโซฟาแทนที่หล่อน เอื้อมมือมาโอบเอวของน้องเมียที่ยืนเก้ๆ กังๆ เพราะทำอะไรไม่ถูก“คร่อมลงมา”พี่เขยสั่งเสียงเข้ม“อุ๊ย... มันผาดโผนเกินไปนะคะพี่มาร์ค ตะ... ตาลทำไม่เป็น”หญิงสาวส่ายหน้า แววตาบอกความเขินอาย หากสุดท้ายก็หลุบตาลงมองท่อนเอ็นยาวใหญ่ที่ตั้งเป็นลำตระหง่านอยู่ตรงง่ามขาของพี่เขยด้วยความรู้สึกเสียววาบในช่องท้อง“ไม่ยาก... ”มาร์เซโล่เอื้อมมือข้างหนึ่งออกมาโอบเอวหล่อน รั้งร่างเอิบอิ่มเย้ายวนของหญิงสาวให้ขึ้นมานั่งคร่อมกึ่งกลางกายของเขาจนได้ท่าทางของหญิงสาวแลดูเก้ๆ กังๆ อย่างเห็นได้ชัด หล่อนยอมรับว่าตอนนั้นมือไม้ของตัวเองดูเกะกะไปหมด ทั้งที่เมื่อครู่ยังร้องขอให้พี่เขยช่วยแก้มัด ครั้นเมื่อมือทั้งสองข้างเป็นอิสระกลับไม่รู้ว่าจะเอาไปวางไว้ที่ไหน“เกาะพี่... กอดพี่สิจ๊ะ”เสียงร้องบอกของพี่เขยทำให้น้ำตาลค่อยๆ วางมือทาบลงบนแผงอกซึ่งรกไปด้วยเส้นขนของมาร์เซโล่ ขณะที่มือของเขากำลังโอบดุ้นเนื้อ ส่ายเสียดหัวมั
ขาวออกมายั่วสายตาหื่นกระหายของเขาที่ยืนจ้องมองด้วยหัวใจเต้นแรง“อู้ว... ”พี่เขยพึมพำในใจว่าน้องเมียคนนี้ช่างน่ากระแทกเหลือเกิน ในท่าซึ่งหล่อนกระดกสะโพกท้าทายเขาเป็นนัย ทำให้พูเนื้อสีชมอวบอั๋นแอ่นอ้าเป็นกลีบอูมออกมาจากซอกขาขาวๆ“น่าสุดๆ เลยจ้ะตาลจ๋า”เสียงสั่นพร่าบอกให้รู้ว่าเขาทนไม่ไหวแล้ว มาร์เซโล่สอดแขนข้างหนึ่งเข้าใต้ลำตัวของน้ำตาล รั้งเอวหล่อนขึ้นมาเล็กน้อย ขยับบั้นท้ายตึงเต็มจนได้องศาที่จะสอดใส่ได้ถนัด จากนั้นมืออีกข้างของเขาก็ช้อนท่อนเอ็นยาวใหญ่ขึ้นมาส่ายเสียดส่วนปลายเข้ากับร่องเนื้อซึ่งอาบเลื่อมไปด้วยน้ำหล่อลื่นเอ่อทะลักออกมา “อูย... ”น้ำตาลพริ้มตา มาร์เซโล่ค่อยๆ กระแซะเสียบส่วนปลายรูปทรงคล้ายดอกเห็ดตูมขนาดใหญ่ แต่เป็นสีแดงก่ำและมันเลื่อมเข้ากับกลีบเนื้อสีชมพูสดสวยที่เผยออ้าออกมาดูดรัดหัวมังกรทีละน้อย “อูย... อ๊อย”น้ำตาลร้อง หล่อนเสียวจนขมิบกลีบเนื้อพัลวัน มาร์เซโล่จ้องมองกลีบเนื้อบอบบางปริปลิ้นดูดกินความแข็งแกร่งของเขาเข้าไปด้วยหัวใจเต้นแรงระทึก “เข้าแล้วจ้ะ... โอ้ว”มาร์เซโล่พรูลมหายใจร้อนผ่าวออกมา ค่อยๆ ชอนไชความแข็งแกร่งเสียบแทงเข้าสู่ความนุ่มแน่นของน้ำตาลทีละนิดจนท่อ