ป้านวลทำท่าอยากระบาย
“แหม... เกริ่นซะขนาดนี้แล้วก็เล่ามาเถอะค่ะป้านวลขา”
น้ำตาลรู้ว่าไม่ใช่เรื่องยากเลยสักนิดที่จะทำให้คนช่างพูดอย่างป้านวลยอมเล่าให้ฟัง และก็จริงอย่างที่หล่อนนึกเอาไว้
“ก็คุณจันทร์เจิดคนนี้ร้ายอย่าบอกใครเชียวค่ะ เพราะว่าก่อนหน้านี้หล่อนเคยเข้ามาทำท่าวางก้ามประกาศตัวเป็นเจ้าเข้าเจ้าของคุณมาร์คมาแล้วนะคะ
“หรอคะ... ”
“ใช่... แต่โชคดีที่คุณมาร์คไม่เอาน่ะสิ เลยตัดสินใจแต่งงานกับคุณน้ำผึ้งพี่สาวคุณตาล ทำให้คุณจันทร์เจิดต้องยอมถอยห่างออกไปในที่สุด... แต่จู่ๆ ก็กลับมา พอรู้ว่ามีที่ว่างนางก็รีบเข้ามาเสียบทันที”
ป้านวลวิเคราะห์สถานการณ์ได้อย่างเฉียบคม
“พี่มาร์คนี่ก็เหลือเกินจริงๆ... นี่ขนาดพี่ผึ้งเพิ่งเสียไม่ทันจะข้ามปี... ไม่ทันไรก็คิดจะมีเมียใหม่เสียแล้ว”
น้ำตาลเปรยขึ้นด้วยความรู้สึกผิดหวังในตัวของพี่เขยรูปหล่อ จู่ๆ หล่อนก็รู้สึกโกรธมาร์เซโล่ขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก เมื่ออาทิตย์ก่อนยังทำทีราวกับว่ารักและอาลัยอาวรณ์พี่สาวของหล่อนเสียเหลือเกิน แต่ตอนนี้กลับไปสานสัมพันธ์กับแฟนเก่า... ผู้ชายนะผู้ชาย
“ป้าว่าคุณมาร์คอาจจะไม่ทันคิดอะไรหรอกนะคะ เอ่อ... หรืออาจจะคิดป้าก็ไม่รู้... เพราะคุณมาร์คเป็นผู้ชาย บางทีแกอาจจะเหงาและว้าเหว่เป็นธรรมดา แต่ที่รู้แน่ๆ และป้าแน่ใจก็คือคุณจันทร์เจิดคนนี้กำลังมีแผนจ้องจะฮุบตำแหน่ง ‘คุณนายคนใหม่’ ของบ้านหลังนี้”
บทวิเคราะห์ของสตรีผู้อาบน้ำร้อนมาก่อนและเห็นโลกมาเยอะอย่างป้านวล ทำให้น้ำตาลรู้สึกปวดแปลบในใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
ดูเหมือนว่าการเข้ามาของ ‘คนรักเก่า’ ของผู้เป็นเจ้าของบ้าน จะเป็นตัวเร่งให้หล่อนต้องย้ายออกไปจากบ้านหลังนี้เร็วขึ้น
“เห็นทีว่าคงถึงเวลาที่ตาลจะย้ายออกไปจากบ้านหลังนี้เสียที”
สุ้มเสียงของน้ำตาลฟังดูเศร้าจนป้านวลรู้สึกสงสาร
“อย่าเชียวนะคะ... ถ้าหนูตาลไม่อยู่สักคน... มีหวังว่าป้าแย่แน่ๆ”
ป้านวลกล่าวออกมาเหมือนรู้ชะตากรรมของตัวเอง ก็เมื่อหลายปีก่อนหล่อนเคยมีปากเสียงกับจันทร์เจิดมาก่อน เพราะว่าตอนที่น้ำผึ้งยังอยู่ จันทร์เจิดก็เคยมาระรานซ้ำยังทอดสะพานให้ท่ามาร์เซโล่จนถึงบ้าน
“ทุกวันนี้ฐานะของตาลก็แค่คนอาศัย... ต่อให้ตาลอยู่บ้านหลังนี้ต่อไปก็ช่วยอะไรป้าไม่ได้หรอกค่ะ”
น้ำตาลเจียมตัว หล่อนรู้ดีว่าตัวเองเป็นใคร
“คงจะดีไม่น้อย... ถ้าคุณตาลได้เป็นคุณนายคนใหม่ของบ้านหลังนี้”
ในที่สุดสิ่งที่ป้านวลแอบคิดเล่นๆ ก็ถูกเผยออกมาจนได้
“อุ๊ย... ป้านวลหมายความว่ายังไงคะ”
น้ำตาลตกใจ
“ก็หมายความอย่างที่ป้าพูดนั่นแหละค่ะ... ตั้งแต่คุณผึ้งไม่อยู่ป้าก็แอบนึกเล่นๆ ว่าคงจะดีไม่น้อยถ้าคุณตาลจะขึ้นมาเป็นภรรยาคนใหม่ของคุณมาร์ค”
ป้านวลรู้ว่าน้ำตาลเป็นคนน่ารัก ใจดี มีน้ำใจกับทุกคน ตอนที่พี่สาวของหล่อนยังอยู่น้ำตาลก็ไม่เคยถือเนื้อถือตัวว่าเป็นน้องสาวภรรยาเจ้าของบ้าน ไม่เคยตีตนสูงกว่าคนอื่น คนรับใช้ทุกคนในบ้านต่างก็รักและเคารพน้ำตาลไม่ต่างจากพี่สาวของหล่อน
“คงเป็นไปไม่ได้หรอกค่ะป้านวล... พี่มาร์คไม่ได้รักน้ำตาลนี่คะ”
เสียงของน้ำตาลสลดลงอย่างเห็นได้ชัด หล่อนรู้ดีว่า ‘ความรัก’ เป็นเรื่องของ ‘หัวใจ’ บังคับกันไม่ได้
แม้วันนี้พี่สาวของหล่อนจะไม่อยู่แล้วก็จริง แต่ท่าทีของมาร์เซโล่ที่แสดงออกต่อหล่อนนั้นก็ไม่เคยเกินเลยไปในทางชู้สาว น้ำตาลรู้ดีว่ามาร์เซโล่ไม่ได้รักหล่อนเหมือนอย่างที่รักพี่สาวของหล่อน
“คุณตาลทั้งสาวทั้งสวย... ผู้ชายโง่เท่านั้นแหละค่ะที่ไม่รักไม่ชอบคุณตาล”
ป้านวลรู้ว่าน้ำตาลเป็นผู้หญิงที่มีทุกอย่างพร้อม
“แต่... ป้านวลก็เห็นนี่คะ ว่าพี่มาร์คไม่ได้คิดกับตาลเกินเลยไปกว่าน้องสาวคนนึง”
น้ำตาลกล่าว
“รู้ได้ยังไงคะ... ” .
“ก็... ”
“รู้ได้ยังไงคะว่าคุณมาร์คไม่คิดอะไรกับคุณตาล เมื่อก่อนอาจจะใช่... แต่อย่าลืมว่าตอนนี้หลายอย่างเปลี่ยนไปแล้วนะคะ คุณผึ้งพี่สาวคุณตาลไม่อยู่แล้วนะคะ คุณตาลไม่ควรปล่อยให้พี่เขยแสนดีคนนี้ตกไปเป็นของผู้หญิงอื่น”
ป้านวลแนะนำเป็นนัย
“ป้านวลหมายความว่า... ”
ผู้หญิงต่างวัยสองคนมองสบตากันแวบหนึ่ง เพียงเท่านั้นก็สามารถเข้าใจทุกอย่างภายในใจของกันและกันได้อย่างกระจ่างแจ้ง
“ป้าเชียร์คุณตาล... ป้าอยู่ข้างคุณตาลนะคะ คุณตาลของป้าทั้งสวยและน่ารักไม่แพ้ผู้หญิงคนไหน... ป้าเชื่อ
ว่าคุณมาร์คจะต้องรักต้องหลงคุณตาล... ขอเพียงแค่คุณตาลแสดงให้เขารู้บ้างว่าแอบสนใจเขา”ป้านวลเชียร์อย่างออกนอกหน้า“เอ่อ... ตาลไม่มั่นใจนักว่าจะทำได้”หญิงสาวรู้สึกลังเลและสับสนใจ ทั้งที่ลึกๆ ในใจของหล่อนก็ยอมรับว่าแอบหลงรักพี่เขยคนนี้อยู่เงียบๆ มานานหลายปีระหว่างที่น้ำตาลกับป้านวลกำลังคุยกันอยู่ในครัว จู่ๆ เสียงแหวของจันทร์เจิดก็ดังลั่นขึ้นที่ประตูทางเข้าห้องครัว“ป้านวล... คืนนี้ตั้งโต๊ะอาหารกลางสนามหญ้านะคะ คุณมาร์คจะจัดปาร์ตี้ต้อนรับการมาถึงของจันทร์ค่ะ”ทั้งที่ตัวเองเป็นแขกของบ้าน แต่จันทร์เจิดกลับวางท่าทีเหมือนเป็นคุณนายคนใหม่ป้านวลได้ยินคำสั่งของจันทร์เกิดก็จริง แต่หล่อนกลับตีรวนด้วยการหันไปถามผู้เป็นเจ้าของบ้านที่เดินตามหลังแฟนเก่าเข้ามาถึงในครัว“แขกกี่คนคะคุณมาร์ค... ป้าจะได้จัดเตรียมอาหารและเครื่องดื่มได้ถูก”“ก็มีผม... จันทร์ น้ำตาล แล้วก็ไอ้เมศกับไอ้นาวินเพื่อนผมอีกสองคน”มาร์เซโล่ตอบ จันทร์เจิดรู้สึกเสียหน้าที่ป้านวลเลือกจะคุยกับเขาเหมือนไม่เห็นหัวหล่อน“รอให้ฉันเข้ามาเป็นคุณนายคนใหม่ก่อนเถอะ... แกจะเป็นคนแรกที่โดนเฉดหัวออกไปจากบ้านหลังนี้”หลังจากเจ้าของบ้านเดินลับออกไป
“จันทร์... ดูท่าทางคุณคงไม่ไหวแล้วนะ”มาร์เซโล่เอื้อมมือไปแตะแขนของแฟนเก่า เมื่อเห็นว่าจันทร์เจิดเมาจนหลับคาแก้วครั้นเมื่อเขาทำท่าว่าจะลุกขึ้นจากโต๊ะเพื่อประคองหล่อน ป้านวลก็รีบเอ่ยขึ้นทันที“คุณมาร์คนั่งดื่มกับเพื่อนๆ ไปเถอะค่ะ เดี๋ยวป้าพาคุณจันทร์เจิดไปส่งที่ห้องนอนให้นะคะ”เข้าแผน... ป้านวลรีบอาสา ค่อยๆ ประคองร่างอวบอัดของจันทร์เจิดซึ่งเมาพับไม่ได้สติขึ้นมาส่งจนถึงห้องนอนซึ่งอยู่ชั้นสองของบ้าน“แฟนเก่ามานอนค้างบ้านแกแบบนี้... แสดงว่าถ่านไฟเก่ากำลังจะคุกรุ่นขึ้นมาอีกครั้งใช่ไหมวะไอ้มาร์ค”ราเมศแซวเจ้าของบ้าน เมื่อเห็นว่าตอนนั้นเหลือแต่คนกันเอง หารู้ไม่ว่าน้ำตาลซึ่งกำลังช่วยสาวใช้ชาวพม่าสองคนเก็บถ้วยเก็บจาน กำลังแอบเงี่ยหูฟังคำตอบของมาร์เซโล่อย่างใจจดใจจ่อ“คงต้องดูๆ กันไปก่อน... ”มาร์เซโล่ตอบพลางกระดกเหล้าลงคอ ไม่ได้ปฏิเสธว่าถ่านไฟเก่าระหว่างเขากับจันทร์เจิดกำลังจะคุกรุ่นขึ้นมาอีกครั้งซึ่งในเรื่องนี้มีแต่ตัวของมาร์เซโล่เองเท่านั้นที่รู้ดีว่าอะไรเป็นอะไร? เพราะสาเหตุอันใดที่ทำให้เขากลับมาสานสัมพันธ์กับจันทร์เจิดอีกครั้ง เมื่อหล่อนเป็นฝ่ายกลับมาหาเขามาร์เซโล่หารู้ไม่ว่าคำพูดของเขา
ป้านวลอุทานเสียงดังลั่น เมื่อหล่อนเดินกลับลงมาดูแลความเรียบร้อยแล้วพบว่าเจ้าของบ้านถูกทอดทิ้งให้นั่งดื่มอยู่คนเดียวลำพัง “ว้าย... ค่อยๆ เดินนะคะคุณขา”ป้านวลอุทานอีกครั้ง ตอนนั้นมาร์เซโล่กำลังหยัดร่างสูงใหญ่เกินกว่าร้อยแปดสิบเซนติเมตรขึ้นจากเก้าอี้ อาการซวนเซน้อยๆ บอกให้รู้ว่าเขาเมาไม่น้อย“ตาทอง... แกมาช่วยประคองคุณมาร์คให้ทีเถอะ”ป้านวลร้องเรียกลุงทองซึ่งเป็นคนขับรถ ลุงทองรีบปรี่เข้ามาช่วยเหลือ แกยกแขนข้างหนึ่งของมาร์เซโล่ผู้เป็นนายขึ้นพาดเอาไว้บนบ่า จากนั้นก็พาขึ้นบันไดมาส่งจนถึงห้องนอนของผู้เป็นนายซึ่งอยู่ชั้นสองของบ้าน โดยมีป้านวลตามมาดูเหตุการณ์อย่างใกล้ชิด“ค่อยวางลงบนโซฟา”ป้านวลบอก ลุงทองค่อยๆ ประคองร่างสูงใหญ่ของมาร์เซโล่ลงนอนเหยียดยาวบนโซฟาหนังสีน้ำตาลที่วางอยู่กลางห้อง“มีอะไรให้ช่วยอีกมั้ย”ลุงทองถาม“แกไปได้แล้ว”ป้านวลรีบบอก เมื่อร่างท้วมของลุงทองเดินลับไปจากสายตาแกก็รีบเดินมาเคาะประตูห้องนอนของน้ำตาล แผนการบางอย่างผุดวาบขึ้นมาในสมอง“มีอะไรคะป้านวล”น้ำตาลซึ่งอยู่ในชุดนอนบางๆ เปิดประตูออกมาด้วยสีหน้าตกใจ“คุณมาร์คเมามาก... หนูตาลช่วยเข้าไปดูหน่อยสิคะ”“เอ่อ... ตาลจะช่
คนโดนจูบร้องห้าม หากมาร์เซโล่ก็ไม่ยอมฟัง ยังคงระดมจูบไซ้เฟ้นฟอนผิวสาวไล่เรื่อยลงมาที่ซอกคอขาวๆ อย่างหื่นหิว“หอมเหลือเกินน้ำตาลจ๋า”มาร์เซโล่พึมพำขณะจูบได้ซอกคอและเนินอกของน้องเมียอย่างเร่าร้อน กลิ่นแป้งอ่อนๆ ระคนกลิ่นสาบสาวที่จมูกของเขาสัมผัสได้ ทำให้เลือดในกายของมาร์เซโล่สูบฉีดรุนแรงขึ้นมาอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน“ไม่นะพี่มาร์ค... ฮือๆ หยุดนะ... พี่มาร์คกำลังเมานะคะ”น้ำตาลร้องไห้สะอึกสะอื้น พยายามให้สติพี่เขย ใบหน้าสะสวยเจิ่งนองไปด้วยหยาดน้ำตา‘เมา’ หรือ ‘ไม่เมา’ มาร์เซโล่คนเดียวเท่านั้นที่รู้ตัวเองดีกว่าใคร เขารวบไหล่หล่อนแล้วกระชากสายชุดนอนอย่างแรงเหมือนคนคลุ้มคลั่งควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ “อูย... ”มาร์เซโล่พรูลมหายออกมากับสิ่งที่เห็น เมื่อสายชุดนอนเส้นเล็กๆ ที่เกี่ยวอยู่กับหัวไหล่กลมกลึงทั้งสองข้างถูกกระชากออกมาจากลาดไหล่สล้างตอนที่ป้านวลไปเคาะประตูเรียก น้ำตาลกำลังจะเข้านอน หล่อนจึงอยู่ในสภาพโนบราอย่างที่เห็น เพราะไม่คิดว่าจะต้องเข้ามานั่งเช็ดตัวให้พี่เขย ทำให้สองเต้าเต่งตึงผุดผึงออกมาอวดความอวบใหญ่ในทันทีที่ชุดนอนสีชมพูเนื้อผ้าซาตินพลิ้วบางถูกกระชากลงมากองอยู่ที่เอว“น
แต่ถ้าโดนจู่โจมจุดอ่อนไหวที่สุดของร่างกายเหมือนอย่างที่มาร์เซโล่ขู่ว่ากำลังจะทำ... มีหวังว่าหล่อนคงขาดใจตายคาลิ้นของเขาแน่ๆ“อู้ว... สวยเหลือเกินตาลจ๋า”มาร์เซโล่ตาวาว เมื่อขาข้างหนึ่งของน้องเมียถูกมือใหญ่ของเขายกง้างขึ้นพาดเอาไว้กับพนักโซฟา ขณะที่ปลายเท้าอีกข้างยังวางอยู่กับพื้น“น่ากินเหลือเกิน”มาร์เซโล่พึมพำกับสิ่งที่เห็น ในท่าทางที่น้องเมียถูกบังคับให้ลำตัวกึ่งตะแคงถ่างขา ทำให้แลเห็นพูเนื้ออูมแน่นเหมือนส้มโอสองกลีบประกบกันแล้วเหน็บเอาไว้ที่ซอกขา โคกเนื้อสาวแอ่นอ้าขึ้นมาอวดความอิ่มสมบูรณ์นูนแน่นเหมือนหลังเต่า ทำเอามาร์เซโร่ตาวาว รีบทาบสองมือแหวกพุ่มแพรไหมสีดำแล้วกอบพูเนื้อเอาไว้ในอุ้งมือ“โห... ”ดวงตาของพี่เขยแทบถลนออกมาจากเบ้า สองมือรีบแบะบีบกลีบเนื้อสีชมพูจนปูดปลิ้น ระรัวปลายลิ้นลงมาตวัดเลียพร้อมกับริมฝีปากที่ประกบเข้ากับกลีบเนื้อสีชมพู ทั้งดูดทั้งเลียหนุบหนับ“อูยยย... อร่อยสุดๆ”มาร์เซโล่แผ่ปลายลิ้นออกกว้างแล้วกวาดเลียผนังเนื้อสีชมพูอ่อนนุ่มสลับไปมาทั้งสองข้าง ไม่นานน้ำหล่อลื่นใสๆ ของคนโดนรุกรานก็หลั่งซ่านออกมาชโลมสองกลีบขมิบแน่น“อ๊อย... ”น้ำตาลเสียวจนต้องขมิบกลีบเนื้อรัดปล
ประกบกันแน่น แอ่นอ้าขึ้นรับปากและลิ้นของเขาที่แนบประทับลงมาดูดเลียอย่างเร่าร้อนลนลาน“อยากมีผัวนักใช่ไหม... เดี๋ยวเธอจะได้รู้ว่ามันเป็นยังไง”มาร์เซโล่ดันขาของน้ำตาลให้แบะอ้าขึ้นไปขนานกับลำตัวอีกครั้ง“มะ... ไม่เอานะ”น้องเมียร้องห้าม พี่เขยกระตุกยิ้มพลางส่ายเสียดแก่นกายเข้ากับรูเสียว“อู้ย... ”น้ำตาลกัดริมฝีปากแน่น สายตาหวาดๆ หลุบลงมองส่วนปลายของแก่นกายที่มีน้ำใสปริ่มเล็ดออกมาชโลมหัวมังกรแดงก่ำ ถูกกดเข้ากับกลีบเนื้อซึ่งแฉะฉ่ำไปด้วยเมือกคาวสวาทของหล่อน ก่อนที่ร่องเสียวจะเกร็งสะท้านเพราะความยาวใหญ่ที่เสียบพรวดเข้าใส่จนล้ำลึกสุดโคนพวงสวรรค์เสียงดังบลั่ก“อร๊ายยย... อูย”ในเสี้ยววินาทีที่พรหมจารีได้ถูกทำลายลงแล้ว ใบหน้าของน้ำตาลบิดเบ้ ริมฝีปากระริกสั่น ดวงตาเหลือกลานไปชั่วขณะเมื่ออาวุธประจำกายของมาร์เซโล่เคลื่อนเข้ามาคาคับอยู่ในรูเนื้อฟิตแน่น“เจ็บนิดเดียวนะ”พี่เขยปลอบ“แน่นเหลือเกิน... อ๊อย”น้ำตาลพึมพำเสียงสั่นพร่า ท่าทางของหล่อนแสดงความอึดอัดทรมานออกมาอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งอาจจะเป็นเพราะว่ามือสองข้างยังโดนมัดล็อคเอาไว้เหนือศีรษะ“อู้ว... ทั้งแน่นทั้งรัด”มาร์เซโล่พรูลมหายใจร้อนผ่าวออ
มาร์เซโล่กระตุกยิ้ม“อุ๊ย... ตะ... ตาลทำไม่เป็นค่ะ”หญิงสาวรีบส่ายหน้า“ไม่ยาก... รับรองว่าตาลจะชอบ”พี่เขยบอกพลางถอนท่อนเอ็นอวบใหญ่ออกมาจากร่องเนื้อตอดรัด รีบขยับลงมานั่งเอนหลังพิงพนักโซฟาแทนที่หล่อน เอื้อมมือมาโอบเอวของน้องเมียที่ยืนเก้ๆ กังๆ เพราะทำอะไรไม่ถูก“คร่อมลงมา”พี่เขยสั่งเสียงเข้ม“อุ๊ย... มันผาดโผนเกินไปนะคะพี่มาร์ค ตะ... ตาลทำไม่เป็น”หญิงสาวส่ายหน้า แววตาบอกความเขินอาย หากสุดท้ายก็หลุบตาลงมองท่อนเอ็นยาวใหญ่ที่ตั้งเป็นลำตระหง่านอยู่ตรงง่ามขาของพี่เขยด้วยความรู้สึกเสียววาบในช่องท้อง“ไม่ยาก... ”มาร์เซโล่เอื้อมมือข้างหนึ่งออกมาโอบเอวหล่อน รั้งร่างเอิบอิ่มเย้ายวนของหญิงสาวให้ขึ้นมานั่งคร่อมกึ่งกลางกายของเขาจนได้ท่าทางของหญิงสาวแลดูเก้ๆ กังๆ อย่างเห็นได้ชัด หล่อนยอมรับว่าตอนนั้นมือไม้ของตัวเองดูเกะกะไปหมด ทั้งที่เมื่อครู่ยังร้องขอให้พี่เขยช่วยแก้มัด ครั้นเมื่อมือทั้งสองข้างเป็นอิสระกลับไม่รู้ว่าจะเอาไปวางไว้ที่ไหน“เกาะพี่... กอดพี่สิจ๊ะ”เสียงร้องบอกของพี่เขยทำให้น้ำตาลค่อยๆ วางมือทาบลงบนแผงอกซึ่งรกไปด้วยเส้นขนของมาร์เซโล่ ขณะที่มือของเขากำลังโอบดุ้นเนื้อ ส่ายเสียดหัวมั
ขาวออกมายั่วสายตาหื่นกระหายของเขาที่ยืนจ้องมองด้วยหัวใจเต้นแรง“อู้ว... ”พี่เขยพึมพำในใจว่าน้องเมียคนนี้ช่างน่ากระแทกเหลือเกิน ในท่าซึ่งหล่อนกระดกสะโพกท้าทายเขาเป็นนัย ทำให้พูเนื้อสีชมอวบอั๋นแอ่นอ้าเป็นกลีบอูมออกมาจากซอกขาขาวๆ“น่าสุดๆ เลยจ้ะตาลจ๋า”เสียงสั่นพร่าบอกให้รู้ว่าเขาทนไม่ไหวแล้ว มาร์เซโล่สอดแขนข้างหนึ่งเข้าใต้ลำตัวของน้ำตาล รั้งเอวหล่อนขึ้นมาเล็กน้อย ขยับบั้นท้ายตึงเต็มจนได้องศาที่จะสอดใส่ได้ถนัด จากนั้นมืออีกข้างของเขาก็ช้อนท่อนเอ็นยาวใหญ่ขึ้นมาส่ายเสียดส่วนปลายเข้ากับร่องเนื้อซึ่งอาบเลื่อมไปด้วยน้ำหล่อลื่นเอ่อทะลักออกมา “อูย... ”น้ำตาลพริ้มตา มาร์เซโล่ค่อยๆ กระแซะเสียบส่วนปลายรูปทรงคล้ายดอกเห็ดตูมขนาดใหญ่ แต่เป็นสีแดงก่ำและมันเลื่อมเข้ากับกลีบเนื้อสีชมพูสดสวยที่เผยออ้าออกมาดูดรัดหัวมังกรทีละน้อย “อูย... อ๊อย”น้ำตาลร้อง หล่อนเสียวจนขมิบกลีบเนื้อพัลวัน มาร์เซโล่จ้องมองกลีบเนื้อบอบบางปริปลิ้นดูดกินความแข็งแกร่งของเขาเข้าไปด้วยหัวใจเต้นแรงระทึก “เข้าแล้วจ้ะ... โอ้ว”มาร์เซโล่พรูลมหายใจร้อนผ่าวออกมา ค่อยๆ ชอนไชความแข็งแกร่งเสียบแทงเข้าสู่ความนุ่มแน่นของน้ำตาลทีละนิดจนท่อ
ปลายเท้าทั้งสองข้างของน้ำตาลรัดรอบเอวหนาของมาร์เซโล่เอาไว้แน่น ก่อนจะไปไขว้กันอยู่หลังบั้นท้ายของเขา“แน่ใจนะคะว่าจะไม่กลับไปทำที่บ้าน”แม้น้ำตาลรู้อยู่เต็มอกว่าสามีจอมหื่นคนนี้ไม่ยอมหยุดแน่ๆ แต่ที่ต้องถามก็เป็นเพราะว่าอดเป็นกังวลไม่ได้กับประสบการณ์เอาท์ดอร์สุดหยิวที่สามีพยายามชักชวนให้ออกมาเปลี่ยนบรรยากาศจนได้“แน่ใจที่สุด... พี่อยากทำตรงนี้ กลางแจ้งแบบนี้แหละดี เพราะมันทำให้พี่สามารถเห็นใบหน้าของตาลได้ชัดเจน... ตาลคงไม่รู้หรอกว่าพี่ชอบมองดูเวลาตาลทำหน้าเสียวจัดเพราะมีความสุข... อ่าห์ กดลงมา... เข้าแล้ว”มาร์เซโล่บรรยายถึงความรู้สึกที่รับรู้อยู่ใต้น้ำ“อูย... แน่นมากค่ะ”ดวงตาของน้ำตาลหรี่ปรือไปชั่วขณะ ใบหน้าบิดเบ้เหยเก พยายามกดกลีบเนื้อให้กลืนกินดุ้นเอ็นอวบใหญ่ของสามีที่กำลังกระถดกระถอกเข้ามาสอดใส่จนสามารถเบียดกลีบเนื้อหนึบแน่นเข้ามาล้ำลึกสุดโคนพวงสวรรค์“อูย... เสียวเหลือเกินเมียจ๋า”สามีละล่ำละลักออกมาพร้อมกับฝังใบหน้าจูบไซ้เต้านมอวบอัดอย่างไม่รั้งรอ“อ๊าห์... ตาลเสียวหัวนมสุดๆ เลยค่ะพี่มาร์ค ดูดแรงๆ ค่ะ... ”ภรรยาบอกพลางกดศีรษะของเขาลงมาเกลือกไซ้สองเต้าเต่งตึง การที่โดนจู่โจมจุดส
เนื้อของเขายังเสียบคาอยู่ในรูเนื้อคับแน่นของหล่อนราวกับว่าชีวิตนี้จะไม่ยอมแยกออกจากกันอีกสองวันต่อมา“ฝากป้านวลดูลูกๆ ผมด้วยนะครับ”มาร์เซโล่สั่งป้านวลในตอนใกล้ค่ำของวันหนึ่ง“ได้สิคะ... ว่าแต่คุณมาร์คจะไปไหนคะ”ป้านวลอดสงสัยไม่ได้ ตอนนั้นเด็กๆ กำลังหลับอยู่บนห้องนอน“ผมจะพาตาลไปเล่นน้ำที่สระท้ายไร่กาแฟครับ”“เล่นน้ำ... ทำไมไม่เล่นในสระว่ายน้ำล่ะคะ”ป้านวลสงสัย ทั้งที่ในบ้านก็มีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ที่มาร์เซโล่สร้างเอาไว้ให้ลูกๆ“ผมอยากเปลี่ยนบรรยากาศ”เจ้าของไร่กาแฟตอบ เพียงเท่านั้นป้านวลก็รู้แล้วว่าอะไรเป็นอะไร“จะไปสวีทกันใช่ไหมคะ... คริคริ ป้ารู้นะ”ป้านวลหัวเราะเบาๆ“จะได้มีหลานเพิ่มมาอีกคน... ป้านวลไม่ชอบหรือ”“ชอบสิคะชอบ”คนรักเด็กรีบตอบ“ไปเล่นน้ำกันให้สนุกนะคะ... ทางนี้ป้าดูแลเอง”ป้านวลกล่าวยิ้มๆ ครู่ต่อมารถกระบะของมาร์เซโล่ก็วิ่งลับเข้าไปท่ามกลางไร่กาแฟเขียวขจี ใช้เวลาไม่นานสองสามีภรรยาก็พากันมาถึงบึงน้ำใสแจ๋ว ทอดยาวเป็นเวิ้งโอบเข้ามาถึงท้ายไร่“สวยจังค่ะพี่มาร์ค”หล่อนเอนศีรษะแนบซบอกอุ่นของสามี ในโมงยามที่กำลังรู้สึกว่าชีวิตมีความสุขที่สุด หญิงสาวบอกกับสามี ท่ามกลางกระแสลมที
สลับดูดดึงปุ่มกระสันอย่างเมามัน ยิ่งในตอนที่เขาสอดนิ้วกลางเข้ามาทิ่มทะลวงรัวๆ ในรูเนื้อ น้ำตาลก็ซ่านเสียวจนร้องครางแทบขาดใจ“อูย... ”ริมฝีปากของหล่อนห่อเป็นวงกลม ดวงตาหรี่ปรือมองภาพสะท้อนของตัวเองในกระจก เพราะนิ้วยาวของสามีที่ทิ่มทะลวงเข้ามาเป็นจังหวะ สลับกับการใช้ปลายลิ้นดูดเลียเสียงดังจั๊บๆ เมื่อนิ้วขยับออกมาปลายลิ้นก็แทรกลงมาแทนที่กันอย่างได้จังหวะ“พี่มาร์คเลียเก่งจัง”ลิ้นของเขาทำให้สะโพกของน้ำตาลบิดเร่า มาร์เซโล่ย่ามใจที่เห็นเมียรักเสียวซ่านทรมาน จึงแผ่ปลายลิ้นร้อนผ่าวตวัดรัวเข้ารัดเลียติ่งกระสัน ส่งผลให้ความเสียวซ่านแล่นร้าวไปทั้งร่างของคนที่คว่ำลำตัวแนบอยู่กับขอบอ่างล้างหน้า“มะ... ไม่ไหวแล้ว”น้ำตาลเกิดความต้องการจนทุรนทุราย ริมฝีปากที่กำลังดูดเลียไม่ยั้งทำให้สามีรู้ว่าโพรงสวาทของภรรยากำลังกระตุกเกร็ง ตอดรัด เรียกร้องหาความเป็นชายชาตรีของเขาที่พร้อมจะสอดใส่ให้อย่างล้ำลึกถึงอกถึงใจ“ทำตาลเถอะค่ะ... ผัวขา ทำเมียแรงๆ... ไวๆ ใส่ให้เมียลึกๆ นะคะที่รัก” น้ำตาลเสียวจนใบหน้าบูดเบี้ยว สองมือเกาะเกร็งขอบอ่างล้างหน้าเอาไว้แน่น แอ่นบั้นท้ายรับปลายลิ้นของสามีที่สอดชำแรกเข้ามาดู
น้ำตาลถามด้วยสีหน้าเขินๆ เมื่อเหลียวกลับมามองแล้วพบว่าสายตาหื่นกระหายของสามีกำลังจับจ้องอยู่ที่บั้นท้ายของหล่อน“ก็มองบั้นท้ายสุดเซ็กซี่ของเมียพี่น่ะสิจ๊ะ... ”มาร์เซโล่ตอบไม่อ้อม“ว้าย... มองทำไมคะ... ทำเหมือนไม่เคยเห็น”น้ำตาลทั้งขำทั้งเขินไปพร้อมๆ กัน เขาทำราวกับว่าไม่เคยเห็นมาก่อน ทั้งที่ได้เชยชมหล่อนมานานถึงสามปี จะกล่าวได้ว่าทุกซอกทุกมุมในร่างกายของหล่อนมาร์เซโล่สำรวจมาหมดแล้วก็ว่าได้“อยู่กันมาสามปีแล้ว... ยังไม่เบื่อตาลอีกหรือคะ”“ไม่เบื่อจ้ะ... ยิ่งนานยิ่งรัก”ได้ทีเขารีบหวานใส่“มองก้นอยู่นั่นแหละ”หล่อนอาย“ไม่ให้มองก้น... งั้นมองนมก็ได้... ช่วงนี้นมตาลทั้งอวบทั้งใหญ่ น่าดูดสุดๆ”เขาแกะกระดุมเสื้อของหล่อน จัดการถอดเสื้อให้เรียบร้อย รีบครอบริมฝีปากดูดเลียเต้านมแม่ลูกอ่อน“อู้ว... ”น้ำตาลหลุบตาลงมองน้ำนมสีขาวของหล่อนที่โดนดูดแรงจนทะลักออกมาเปียกเปรอะริมฝีปากของสามี เพราะช่วงนี้ร่างกายอยู่ในภาวะของแม่ลูกอ่อนพอดี เต้านมจึงอวบคัดพอเลี้ยงทั้งลูกและสามีให้อิ่มหนำ“พอเถอะ... นมแฉะหมดแล้ว”หล่อนร้องห้าม มาร์เซโล่ละมือจากเต้านมที่รวบดูดอย่างเอร็ดอร่อย ค่อยๆ ลูบไล้ลงมาขยำสะโพกของภรรย
ไม่ได้ สุดท้ายปาร์ตี้มั่วเซ็กก็ดำเนินต่อไปตามเดิมราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นไม่นานเสียงครวญครางจากการร่วมเพศเร่าร้อนก็ดังลั่นขึ้นมาอีกครั้ง ภายในห้องจึงเต็มไปด้วยภาพของหนุ่มสาวที่จับคู่เสพสังวาสกันอย่างเอาเป็นเอาตาย บ้างร่วมเพศจนอ่อนล้าหมดแรงไปกับฤทธิ์ยาก็คลานขึ้นมาจากพื้น ขึ้นมานั่งพี้ยากันต่อ บ้างก็ดูดบารากุ พ่นควันสีขาวพวยพุ่งไปทั่วห้องซึ่งระงมไปด้วยเสียงร้องครวญครางของหนุ่สาวที่พาตัวเองไปสู่สรวงสวรรค์ชั้นฟ้าเพราะถูกมอมเมาด้วยฤทธิ์ของยาและเซ็กส์สับปาด์ต่อมางานแต่งระหว่างมาร์เซโล่กับจันทร์เจิดถูกล้มเลิกไปในที่สุด ภายหลังหายจากเมายาหล่อนก็โทรมาขอโทษเขาด้วยเกิดความรู้สึกอับอายในสิ่งที่ได้กระทำลงไป ซึ่งมาร์เซโล่ก็ให้อภัย เพราะไม่อยากให้มีอะไรติดค้างต่อกันมาร์เซโล่รู้ว่าถ้ายังฝืนแต่งงานกันเพราะเหตุผลทางธุรกิจ... ก็ทำนายได้ไม่ยากว่าสุดท้ายคงต้องจบชีวิตคู่ด้วยการหย่าร้างอย่างแน่นอน และจันทร์เจิดเองก็ละอายเกินกว่าจะกลับมาเป็นเหมือนเก่ามาร์เซโล่ตัดสินใจขายหุ้นของบริษัทให้กับบิดาของจันทร์เจิดเป็นผู้บริหารต่อไป ส่วนตัวเขาตัดสินใจแต่งงานกับน้ำตาลแล้วพาหล่อนมาใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางไร่กาแฟที่เ
“เอางั้นนะ”มาร์เซโล่ไม่ขัด“ค่ะ... เจอกันพรุ่งนี้ค่ะ... บาย”พูดคุยกันไม่กี่คำ จันทร์เจิดก็ตัดสายไปก่อน ตอนคุยกันมาร์เซโล่ได้ยินเสียงเพลงแดนซ์ดังกระหึ่มเข้ามาในสาย คงไม่ต้องสงสัยว่าจันทร์เจิดกับเพื่อนๆ ของหล่อนกำลังสนุกสนานกันสุดเหวี่ยง ความรู้สึกผิดที่แอบลักขโมยกินของรักของคนอื่นทำให้น้ำตาลพยายามขืนกายออกมาจากอ้อมกอดของมาร์เซโล่ หลังจากซบซุกอยู่ในอ้อมอกซึ่งรกไปด้วยเส้นขนของเขาอยู่นานเป็นครู่“เป็นอะไรไปอีกล่ะ”มาร์เซโล่รู้ว่าน้ำตาลคงรู้สึกไม่ดี กับการที่ต้องซุกกายอยู่ในอ้อมกอดของเขาซึ่งกำลังคุยกับว่าที่ภรรยา“ถามก็ไม่ตอบ... เป็นอะไร”เสียงของพี่เขยเข้มขึ้น เมื่อเห็นว่าหล่อนนิ่งเงียบ“ตาล... พี่ถามไม่ได้ยินหรือไงว่าเป็นอะไร?”“เป็นตัวสำรอง... เป็นนางบำเรอ... และต่อไปก็คงเป็นเมียน้อย... นี่แหละสิ่งที่ตาลเป็นอยู่ในตอนนี้”น้ำตาลประชด หล่อนสะบัดหน้ากลับมาตอบ สิ่งที่ได้ยินทำให้มาร์เซโล่นิ่งอึ้ง เพราะว่าหล่อนไม่ได้พูดอะไรเกินไปกว่าความจริงที่เป็นอยู่“อย่าบอกนะว่าจะกลับ”เขาถามเมื่อเห็นหญิงสาวทำหน้ากระเง้ากระงอด ก้าวลงจากเตียงไปคว้าผ้าขนหนูขึ้นมากระโจมอก ก้มเก็บเสื้อผ้าที่กองอยู่กับพื้นแ
“เอางั้นนะ”มาร์เซโล่ไม่ขัด“ค่ะ... เจอกันพรุ่งนี้ค่ะ... บาย”พูดคุยกันไม่กี่คำ จันทร์เจิดก็ตัดสายไปก่อน ตอนคุยกันมาร์เซโล่ได้ยินเสียงเพลงแดนซ์ดังกระหึ่มเข้ามาในสาย คงไม่ต้องสงสัยว่าจันทร์เจิดกับเพื่อนๆ ของหล่อนกำลังสนุกสนานกันสุดเหวี่ยง ความรู้สึกผิดที่แอบลักขโมยกินของรักของคนอื่นทำให้น้ำตาลพยายามขืนกายออกมาจากอ้อมกอดของมาร์เซโล่ หลังจากซบซุกอยู่ในอ้อมอกซึ่งรกไปด้วยเส้นขนของเขาอยู่นานเป็นครู่“เป็นอะไรไปอีกล่ะ”มาร์เซโล่รู้ว่าน้ำตาลคงรู้สึกไม่ดี กับการที่ต้องซุกกายอยู่ในอ้อมกอดของเขาซึ่งกำลังคุยกับว่าที่ภรรยา“ถามก็ไม่ตอบ... เป็นอะไร”เสียงของพี่เขยเข้มขึ้น เมื่อเห็นว่าหล่อนนิ่งเงียบ“ตาล... พี่ถามไม่ได้ยินหรือไงว่าเป็นอะไร?”“เป็นตัวสำรอง... เป็นนางบำเรอ... และต่อไปก็คงเป็นเมียน้อย... นี่แหละสิ่งที่ตาลเป็นอยู่ในตอนนี้”น้ำตาลประชด หล่อนสะบัดหน้ากลับมาตอบ สิ่งที่ได้ยินทำให้มาร์เซโล่นิ่งอึ้ง เพราะว่าหล่อนไม่ได้พูดอะไรเกินไปกว่าความจริงที่เป็นอยู่“อย่าบอกนะว่าจะกลับ”เขาถามเมื่อเห็นหญิงสาวทำหน้ากระเง้ากระงอด ก้าวลงจากเตียงไปคว้าผ้าขนหนูขึ้นมากระโจมอก ก้มเก็บเสื้อผ้าที่กองอยู่กับพื้นแ
ทำให้ดุ้นเนื้อขนาดพอๆ กับท่อนแขนของหญิสาวสามารถทิ่มทะลวงเข้ามาสนิทแน่นเป็นเนื้อเดียวกันในที่สุดบลั่กๆ ๆ ๆ ๆ“หายเจ็บแล้วใช่ไหม”เขาถามเสียงกระเส่า“ค่ะ... มันส์ค่ะ อ๊อย”คนใต้ร่างพยักหน้าตอบ และมันทำให้พี่เขยเริ่มขยับบั้นท้ายแรงขึ้น“ฟิตเหลือเกินตาลจ๋า”เขาเสียบความแข็งแกร่งเข้ามาอย่างได้ใจ เมื่อเห็นสีหน้าเคลิบเคลิ้มของคนใต้ร่าง หล่อนร้องคราง เนื้อตัวบิดเร่ากอดรัดลำตัวเขาแน่น แอ่นโคกเนินสวาทรับความแข็งแกร่งที่เสียบแทงเข้ามาเป็นจังหวะเสียงดังบลั่กๆ“อูยยยย... ”น้ำตาลร้องคราง ขณะบั้นท้ายของพี่เขยยังขยับไม่หยุด เขาดันเข้ามาจนสุดโคนแล้วถอนออกช้าๆ... จากนั้นก็กระแทกซ้ำลงมาจนมิด“ตาลจะขาดใจค่ะ... อ๊อย”หญิงสาวซ่านเสียวจนเนื้อตัวสั่น เมื่อจุดอ่อนไหวในกายสาวถูกพี่เขยจอมหื่นจู่โจมพร้อมกันทั้งบนและล่าง ขณะกึ่งกลางกายโดนท่อนเนื้อใหญ่ยักษ์สอดเสียบเข้ามาย้ำๆ ไม่หยุด ปลายหัวนมทั้งสองข้างของหล่อนก็ยังโดนลิ้นของมาร์เซโล่ไล้เลียเม็ดเชอรี่สีแดงที่ประดับอยู่ตรงปลายยอดเย้ายวนอั่กๆ ๆ ๆ ๆเสียงดูดดังลั่นคลอไปกับเสียงหอบหายใจกระเส่าของน้ำตาล มาร์เซโล่ไม่ได้ดูดเบาๆ แต่กระซวกดูดจนเม็ดหัวนมเต่งตั้งเป็นตุ่ม
พี่เขยคนนี้จะกระตุ้นเร้าอารมณ์ทางเพศของหล่อนให้พลุ่งพล่านอย่างที่เห็น“พี่มาร์คดูดเก่งเหลือเกิน”คำชมของน้องเมียทำให้พี่เขยเหลือบมองใบหน้าซ่านสยิว เขาแอบกระตุกยิ้มย่ามใจที่หล่อนแสดงอาการหลงใหลออกมาอย่างเห็นได้ชัด“ก็เพราะแบบนี้ไงที่มันทำให้พี่ต้องหวงตาล... บอกตรงๆ ว่าพี่ทนไม่ได้ถ้าจะมีชายอื่นมาทำกับตาลแบบนี้”แม้ว่าพี่เขยจะกล่าวออกมาอย่างคนที่เห็นแก่ตัว หากก็ทำให้หัวใจของน้องเมียพองโต เพราะว่าอารมณ์หวงแหนของเขาทำให้หล่อนรู้สึกว่าตัวเองมีค่า... มีความหมาย และความสำคัญสำหรับผู้ชายคนนี้“อ๊อย... ตาลเจ็บหัวนมไปหมดแล้วพี่มาร์ค”หล่อนสอดฝ่ามือขึ้นมาแทรกกลางระหว่างใบหน้าของเขากับเต้านมที่ยังโดนดูดไม่ปล่อย ขณะนิ้วของมาร์เซโล่ยังเสียบทะลวงเข้าใส่รูเนื้อจนน้ำหล่อลื่นหยดย้อย“ก็นมตาลทั้งสวยทั้งน่าดูด... พี่อดใจไม่ไหว”พูดจบก็ไล้ลิ้นวนเลียรอบๆ ยอดปทุมคู่งามอีกครั้ง น้ำตาลทั้งเจ็บทั้งเสียว เมื่อโดนทั้งจูบ ทั้งดูด ทั้งเลีย ก็ทำเอาเนื้อตัวของหล่อนอ่อนเปลี้ยเหมือนขี้ผึ้งที่ถูกไฟลน“ใจจะขาดค่ะ”น้ำตาลหลุบตาลงมองปลายลิ้นที่ไล้เลียหัวนมของหล่อนอย่างชำนิชำนาญในชั้นเชิงกาม ปลายลิ้นของมาร์เซโล่ทำเอาร่างของ