หลังจากนั้น เจี่ยงฉินก็ดึงซูซินเหยาออกไปพูดคุยกันเป็นการส่วนตัวข้าง ๆ แล้วซูซินเหยาและฉินหมิงก็จากไปพร้อมกับเจิ้งอวี่……คฤหาสน์ตระกูลเจิ้งในตอนเย็น ตระกูลเจิ้งก็เริ่มจัดงานเลี้ยงมื้อค่ำสำหรับต้อนรับฉินหมิงและซูซินเหยาโดยเฉพาะงานเลี้ยงมื้อค่ำในครั้งนี้ยิ่งใหญ่มาก โดยพื้นฐานแล้ว ผู้อาวุโสรวมถึงบุคคลสำคัญในตระกูลเจิ้งจำนวนมากล้วนเข้าร่วม ทั้งหมดจึงมีสี่ถึงห้าโต๊ะภายใต้การเชื้อเชิญอย่างกระตือรือร้นของนายท่านเจิ้ง ฉินหมิงและซูซินเหยาทั้งสองคนยากที่จะปฏิเสธได้ จึงนั่งลงที่หัวโต๊ะในฐานะแขกผู้มีเกียรติของตระกูลเจิ้ง “ทุกคนโปรดเงียบสักครู่!”“วันนี้ที่ฉันเรียกทุกคนมารวมตัวกัน ก่อนอื่นเลยก็เพื่อต้อนรับคุณฉินและคุณหนูซูจากหมิงเหยากรุ๊ป”“ประการที่สอง ฉันมีเรื่องสำคัญมากที่จะประกาศ!”นายท่านเจิ้งลุกขึ้นยืน น้ำเสียงของเขาทั้งหนักแน่นและทรงพลัง ลอยเข้าไปในหูของทุกคนที่อยู่ตรงนั้นทุกคนเงียบลงทันที อดไม่ได้ที่จะมองไปที่นายท่านเจิ้งด้วยความสับสนและสงสัยว่านายท่านเจิ้งกำลังจะประกาศเรื่องที่สำคัญอะไร“คิดว่าทุกคนน่าจะได้ยินเรื่องที่ระดับการบ่มเพาะของเจิ้งอวี่ทะลวงเข้าสู่ระดับปรมาจารย์แล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น เจิ้งอวี่เดิมก็เป็นว่าที่ผู้สืบทอดอันดับที่หนึ่งของตระกูล ทั้งพรสวรรค์ด้านวรยุทธและทุก ๆ ด้านของเขานั้นยอดเยี่ยมมาก เขาคือผู้ที่เหมาะสมที่สุดที่จะขึ้นมาดูแลตระกูลในอนาคตณ ที่ตรงนั้น หลายคนแสดงการสนับสนุนต่อการตัดสินใจของนายท่านเจิ้ง จากนี้ไปเจิ้งอวี่จะทำหน้าที่เป็นผู้นำตระกูลเจิ้งชั่วคราว!มีเพียงสองพ่อลูกเจิ้งเต๋อผิงและเจิ้งเจ๋อเท่านั้นที่สีหน้าไม่น่ามองอย่างมาก พวกเขารู้สึกไม่เต็มใจเล็กน้อย อย่างไรก็ตามชายชราได้ตัดสินใจไปแล้วและหลายคนก็สนับสนุนเจิ้งอวี่ พวกเขาสองพ่อลูกจึงได้แต่จนปัญญา“ดี ดีมาก วันนี้ตระกูลเจิ้งของเราไม่เพียงแต่ได้รับสิทธิ์ในการร่วมมือกับหมิงเหยากรุ๊ปเท่านั้น แต่ยังได้แต่งตั้งผู้รักษาการแทนผู้นำตระกูลคนใหม่อีกด้วย นี่มันน่ายินดีจริง ๆ!”“นอกจากนี้ หาได้ยากที่คุณฉินและคุณหนูซูทั้งสองคนมาเยือนตระกูลของเราในฐานะแขก พวกเราดื่มฉลองให้ทั้งสองคนสักแก้ว ให้ทั้งสองคนเป็นสักขีพยานในเรื่องน่ายินดีของตระกูลเจิ้งของเรา!นายท่านเจิ้งหัวเราะและเป็นผู้นำในการยกแก้วไวน์ขึ้นมานายท่านเจิ้งคือผู้นำตระกูลเจิ้งซึ่งเป็นหนึ่งในสามตระกูลใหญ่ของเมืองหลัวไห่ สถานะที่สูงส
แต่กับซูซินเหยานั้นแตกต่างออกไป เธอถูกประคบประหงมเอาใจมาตั้งแต่เด็กเหมือนกับดอกไม้ในเรือนกระจก ยกเว้นในตอนนั้นที่เธอถูกลอบโจมตี ชีวิตของเธอมักจะน่าเบื่อและจืดชืดอยู่เสมอเวลาไม่กี่วันนี้ในเมืองหลัวไห่ช่างมหัศจรรย์และน่าตื่นเต้น เธอยังคงตื่นเต้นมากเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือ เธอรู้สึกดีใจมากและมีความสุขมากที่ได้ใช้เวลาอยู่กับฉินหมิงทุกวันเธอหวังว่าความสุขและความยินดีนี้จะคงอยู่ตลอดไป!……เมืองเจียงเฉิง คฤหาสน์ตระกูลซูหลังจากทราบข่าวว่าฉินหมิงและซูซินเหยากลับมาจากเมืองหลัวไห่แล้ว ซูห่าวก็รีบออกจากบริษัทตรงกลับมาที่บ้านโดยเร็วที่สุดในห้องนั่งเล่น เขาเห็นฉินหมิงและซูซินเหยา“คุณฉิน คุณกับซินเหยากลับมาแล้ว ไม่รู้ว่าทั้งสองคนไปที่เมืองหลัวไห่ในครั้งนี้เป็นยังไงบ้าง ได้รับวัตถุดิบยามาไหมครับ?”ซู่หาวถามด้วยสีหน้าคาดหวัง“อืม ได้วัตถุดิบยามาอย่างราบรื่นแล้ว”ฉินหมิงพยักหน้าและหยิบวัตถุดิบยาออกมา“เยี่ยม เยี่ยมมาก!”“ถ้าอย่างนั้น คุณเตรียมที่จะหลอมยาเมื่อไหร่?”ซู่หาวตื่นเต้นมากฉินหมิงสัญญากับเขาไว้ก่อนหน้านี้ว่าตราบเท่าที่เขาสามารถหาตัวยาหลักที่มีอายุมากกว่า
ขณะที่ฉินหมิงกำลังแอบเสียใจ ดวงตาของซูห่าวก็สว่างวาบ เขาพูดขึ้นด้วยสีหน้าตื่นเต้นว่า “คุณฉิน นี่ก็คือยาปราณแท้ที่จะช่วยให้ผมทะลวงเข้าสู่ระดับปรมาจารย์ได้ใช่ไหมครับ?"“เปล่า นี่เป็นยาตัวอื่น ไม่ใช่ยาปราณแท้”ฉินหมิงส่ายหัวแล้วพูด“ไม่ใช่ยาปราณแท้เหรอ…”ซู่หาวรู้สึกผิดหวังมาก ราวกับถูกน้ำเย็นราดลงบนศีรษะ รู้สึกหมดความกระปรี้กระเปร่าในทันใด“คุณชายใหญ่ซู คุณไม่ต้องกังวลไป ผมจะหลอมยาปราณแท้ในชุดถัดไปนี้แหละ!”ฉินหมิงปลอบใจเขาด้วยรอยยิ้ม จากนั้นก็หยิบขวดกระเบื้องเคลือบสีขาวออกมา แล้วใส่ยาสร้างรากฐานทั้งหกเม็ดลงไปมูลค่าของยาสร้างรากฐานเหล่านี้สูงกว่ายาปราณแท้ ต่อให้เขาคนเดียวไม่อาจใช้ครบทั้งหมด เขาก็ไม่มีทางทิ้งมันไปอย่างไร้ประโยชน์เก็บไว้ก่อน เผื่อได้ใช้งานในอนาคต!จากนั้น ฉินหมิงก็ทำความสะอาดเตาหลอมยา โยนตัวยาหลักที่เหลือลงไปและเริ่มหลอมยาปราณแท้ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหนแล้วในที่สุดฉินหมิงก็ประสบความสำเร็จ เม็ดยาปราณแท้ทั้งหมดยี่สิบสองเม็ดถูกหลอมออกมาแล้วหากอิงจากสถานการณ์ของยาหลอมลมปราณ ตัวยาหลักหนึ่งตัวสามารถหลอมยาหลอมลมปราณได้มากกว่าหนึ่งร้อยยี่สิบเม็ดอย่างไรก็ตาม โสม
ในตอนนี้เอง เสียงหัวเราะอย่างปลอดโปร่งก็ดังขึ้น นายท่านซูเดินขึ้นมาบนยอดเขา“คุณปู่ ทำไมถึงมาที่นี่ล่ะคะ?”ซูซินเหยาดูมีความสุข จากนั้นทั้งฉินหมิงและซูห่าวสามคนก็ปรี่เข้าไปทักทายเขา“โอ้ ฉันได้ยินพวกคนรับใช้พูดกันว่าหลานกับฉินหมิงกลับมาจากเมืองหลัวไห่แล้ว ตอนนี้กำลังอยู่บนยอดเขาที่ภูเขาด้านหลัง เลยเดาว่าพวกเธอน่าจะกำลังหลอมยา ก็เลยมาดูสถานการณ์สักหน่อย”นายท่านซูพูดด้วยรอยยิ้ม“คุณปู่ ปู่มาได้จังหวะพอดี เมื่อสักครู่นี้ฉินหมิงเพิ่งจะหลอมยาปราณแท้ หนูคิดว่าจะใช้ยาปราณแท้นี้ชูโรง จัดงานเปิดตัวขายอีกครั้ง…”ซูซินเหยาบอกความคิดของเธออีกครั้งโดยหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนจากนายท่านซู“นี่เป็นความคิดที่ดี!”นายท่านซูรู้สึกประหลาดใจ แต่แล้วก็พยักหน้าเห็นด้วยซูซินเหยาถูกประคบประหงมเอาใจมาตั้งแต่เด็กจึงมีนิสัยหยิ่งยโส เขาไม่เคยคิดเลยว่าซูซินเหยาจะคิดกลยุทธ์ทางการตลาดที่ดีขนาดนี้ออกมาได้ นี่มันค่อนข้างเกินความคาดหมายของเขามาก“พี่คะ ได้ยินหมดแล้วใช่ไหม? คุณปู่เห็นด้วยกับความคิดของฉันแล้ว!”ซูซินเหยารู้สึกมั่นใจมากขึ้น และอดไม่ได้ที่จะยิ้มไปทางซูห่าวอย่างภาคภูมิใจ“นี่…ก็ได้”ซู่หาวอย
“ตระกูลซูของเราไม่ได้ทำอะไร ฉันรับยาปราณแท้มาสองเม็ดก็นับว่าเอาเปรียบเธอแล้ว”นายท่านซูยิ้มและกล่าว“นี่…”ฉินหมิงอ้าปาก ไม่อาจสรรหาคำใดมาโต้แย้งได้“ฉินหมิง คุณปู่ของฉันพูดถูกแล้ว ครั้งนี้เป็นผลงานของคุณทั้งหมด คุณรับยาปราณแท้ไปมากสักหน่อยก็เป็นเรื่องที่สมควร”ซูซินเหยาพูดอย่างรวดเร็วนับตั้งแต่ที่ฉินหมิงและหลินหว่านชิงเลิกรากัน หัวใจทั้งดวงของเธอก็ผูกติดอยู่กับฉินหมิง ของที่ล้ำค่าอย่างยาปราณแท้นี้หาได้ยากมาก ๆ เธอจึงหวังว่าฉินหมิงจะได้รับผลประโยชน์มากขึ้น“แต่ผมคนเดียวก็ไม่ได้ใช้มากขนาดนี้!”ฉินหมิงพูดอย่างช่วยไม่ได้ในความเป็นจริง ยาปราณแท้ไม่เพียงแต่สามารถช่วยผู้ฝีกยุทธทะลวงจากขั้นสูงสุดระดับสวรรค์ประทานไปสู่ระดับปรมาจารย์ได้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์เท่านั้น ยังมีประโยชน์อย่างยิ่งต่อยอดฝีมือระดับปรมาจารย์ แถมผลของยาก็ชัดเจนมากตราบเท่าที่ผู้ฝึกยุทธที่มีระดับการบ่มเพาะซึ่งอยู่ต่ำกว่าระดับปรมาจารย์ขั้นสูงสุดใช้ยาปราณแท้เพียงหนึ่งเม็ด ต่อให้ไม่สามารถทะลวงผ่านคอขวดไปได้ แต่ก็ช่วยเพิ่มระดับระดับการบ่มเพาะให้คนคนนั้นได้เป็นอย่างมากอนิจจา ที่ฉินหมิงบ่มเพาะศาสตร์แห่งเต๋า ระดับการบ่มเ
นายท่านซูให้คำแนะนำอย่างจริงจัง“ผมเข้าใจแล้วครับ!”“นายท่านซู ขอบคุณมากจริง ๆ สำหรับการสั่งสอน คำพูดของคุณทำให้ผมรู้แจ้งแล้ว!”ฉินหมิงสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เขาไม่ปฏิเสธความเมตตาของนายท่านซูอีกต่อไปแล้วเก็บยาปราณแท้ที่เหลือทั้งสิบเม็ดกลับไปได้ฟังการสอนหนึ่งครั้ง ได้รับประโยชน์ยิ่งกว่าอ่านหนังสือสิบปี!หลังจากผ่านการชี้แนะและสั่งสอนของนายท่านซู วิสัยทัศน์ของเขาก็กว้างขึ้น และสภาพจิตใจของเขาก็มีการเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อยเช่นกันหลังจากนั้น นายท่านซูและซูห่าวสองปู่หลานก็กลับไปที่ซูกรุ๊ปเพื่อเตรียมวัตถุดิบยาสำหรับให้ฉินหมิงเริ่มหลอมยาในวันพรุ่งนี้ช่วงนี้ซูซินเหยาไม่ได้อยู่ในเมืองเจียงเฉิง ที่บริษัทจึงมีงานสะสมอยู่บ้างเล็กน้อย หลังจากบอกให้ฉินหมิงทราบหนึ่งคำ เธอก็รีบบึ่งไปที่บริษัทเพื่อจัดการเรื่องดังกล่าวสำหรับฉินหมิง เขาเพิ่งหลอมยาสร้างรากฐานมาเมื่อสักครู่นี้ ในใจจึงอยากเพิ่มระดับการบ่มเพาะของตัวเองโดยเร็วที่สุด สุดท้ายจึงเหลือเขาเพียงคนเดียวบนยอดเขาเสื้อผ้าของฉินหมิงที่ยืนอยู่บนยอดเขาปลิวไสวไปตามสายลม“คิดที่จะสร้างขุมกำลังของตัวเอง ตัวเองก็ต้องแข็งแกร่งมากพอ!”ฉินหมิงมองลงไปย
นับตั้งแต่หมิงเหยากรุ๊ปจัดพิธีเปิดบริษัทและขายยาในครั้งแรก นายท่านหลินแห่งตระกูลหลินและหลินเถิงฮุ่ยสองพ่อลูกก็เดาได้นานแล้วว่าความสามารถในการหลอมยาหลอมลมปราณของตระกูลซูนั้น จะต้องได้รับความช่วยเหลือจากบุคคลภายนอกซึ่งเป็นนักปรุงยาท่านหนึ่งตอนนี้ตระกูลซูประกาศข่าวใหญ่นี้ออกมา นั่นได้พิสูจน์แล้วว่าการคาดเดาของพวกเขาสองพ่อลูกถูกต้อง ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับพวกเขาที่จะเดาว่าประธานลึกลับที่อยู่เบื้องหลังหมิงเหยากรุ๊ปก็คือปรมาจารย์นักปรุงยาท่านนั้น ไม่อย่างนั้นเป็นไปไม่ได้ที่ตระกูลซูจะมอบหมิงเหยากรุ๊ปให้กับคนอื่น!กองกำลังหลักรวมถึงตระกูลอื่น ๆ อาทิเช่นตระกูลเค่อและตระกูลเหลิ่งก็คิดเช่นเดียวกัน ด้วยความฉลาดและไหวพริบของพวกเขา พวกเขาจึงตระหนักถึงความสำคัญของเรื่องนี้อย่างรวดเร็ว!ปรมาจารย์นักปรุงยาท่านนี้ไม่เพียงแต่สามารถหลอมยาหลอมลมปราณ ยังหลอมยาปราณแท้ที่มีผลที่น่าอัศจรรย์ขนาดนี้ได้ด้วย เทคนิคการกลั่นยาอายุวัฒนะของอีกฝ่ายคงไปถึงจุดสูงสุดของการหลอมยาแล้ว!จากนี้ไป ด้วยการที่ตระกูลซูมีปรมาจารย์นักปรุงยาท่านนี้คอยช่วยเหลือ ความแข็งแกร่งของพวกเขาจะขึ้นมาอยู่เหนืออีกสามตระกูลใหญ่อย่างแน่นอน และ
บรรพบุรุษตระกูลฉินทิ้งความรู้ไว้ให้เขาอย่างกว้างขวางมาก แถมยังรวมถึงสูตรลับบางอย่างในการกระตุ้นศักยภาพของร่างกายมนุษย์ด้วย สูตรลับเหล่านี้เกี่ยวข้องกับทักษะทางการแพทย์และได้รับการบันทึกอย่างละเอียดสำหรับยาปราณแท้ ปัจจุบันเขามีสำรองอยู่อีกหลายเม็ดตอนนี้ทั้งสองอย่างล้วนพร้อมแล้ว เขาต้องการช่วยเฝิงเจิ้นฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธไปให้ได้ นี่ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย!“ลุงเฝิง ผมบอกความจริงกับคุณก็แล้วกัน แม้ว่าผมจะไม่แน่ใจว่าสามารถช่วยคุณทะลวงไปสู่ระดับราชาแห่งสงครามได้หรือไม่ แต่ผมจะพยายามลองอย่างเต็มที่ โอกาสที่จะประสบความสำเร็จน่าจะสูงมาก ... "ฉินหมิงพูดอย่างจริงใจ“ลองดู?”“การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ เรื่องแบบนี้จะลองสุ่มสี่สุ่มห้าได้อย่างไร หากมีสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ผลที่ตามมาอาจเป็นหายนะ!”เฝิงเจิ้นตกใจยิ่งกว่าเดิมในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่า ฉินหมิงกำลังพูดเรื่องไร้สาระและต้องการใช้เขาเป็นหนูทดลองหากเป็นเรื่องอื่นก็เอาเถอะ เขาคงสามารถให้ความร่วมมือกับฉินหมิงได้ แต่การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธเป็นสิ่งสำคัญ หากไม่ระวังอาจกลายเป็นบ้าได้ง่าย ๆ หรือแม้แต่สูญเสียทักษ
เดิมทีระดับการบ่มเพาะของลี่ตั๋วไห่นั้นทัดเทียมกับเขา ทั้งสองอยู่ในระดับของครึ่งก้าวราชาสงคราม ต่างคนต่างไม่สามารถทำอะไรกับอีกฝ่ายได้แต่ตอนนี้ความแข็งแกร่งของลี่ตั๋วไห่แซงหน้าเขาไปแล้ว ต่อไปนี้มันยากมากสำหรับเขาที่จะสู้กับลี่ตั๋วไห่ได้!ชั่วขณะหนึ่ง เขารู้สึกถึงวิกฤตที่รุนแรงมาก แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้“บางทีลี่ตั๋วไห่อาจโชคดีมากกว่า...”ฉินหมิงฉุกคิดได้ และดูเหมือนเขาจะเข้าใจอะไรบางอย่างอย่างคลุมเครือเขาเคยสงสัยมาก่อนตอนที่อยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ว่าลี่ตั๋วไห่สามารถฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ์ได้อย่างง่ายดาย นี่อาจมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับการปล้นเจิ้งอวี่ มิฉะนั้นลี่ตั๋วไห่จะไม่สร้างศัตรูที่แข็งแกร่งอย่างตระกูลเจิ้งเพียงเพื่อยาปราณแท้แค่สามเม็ดแน่ตอนนี้เขาคิดเชื่อมโยงกันเล็กน้อย ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าลี่ตั๋วไห่อาจจะสามารถทะลวงเข้าไปในระดับของราชาสงครามได้โดยใช้ยาปราณแท้สามเม็ดนี้!นี่ไม่ใช่ประเด็น ประเด็นก็คือในฐานะคนหลอมยาปราณแท้ เขาเข้าใจคุณสมบัติของยาปราณแท้มากกว่าใคร ๆ ในเมื่อแม้แต่ลี่ตั๋วไห่ก็มีสิทธิ์พึ่งพายาปราณแท้เพื่อกลายเป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งในระดับราชาสงคราม ถ้าอย่
ตอนนี้เขาสะบักสะบอมมาก มันเจ็บไปทั้งหัวใจ และเขาคิดอยากลบความรู้สึกที่มีต่อหลินหว่านชิงออกไปให้หมดสิ้น แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง!เขาจะกลับไปคบหลินหว่านชิงอีกครั้งได้อย่างไร!“ฉินหมิง คุณใจร้ายกับฉันได้ขนาดนี้เลยเหรอ?”หลินหว่านชิงกัดริมฝีปากแล้วมองฉินหมิงด้วยใบหน้าเศร้า เธอพยายามกลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้ไหลลงมา“ไม่ได้ใจร้าย เพียงแต่ว่าโชคชะตาระหว่างเราสองคนจบลงแล้ว!”“ถ้าคุณเต็มใจ เราก็ยังเป็นเพื่อนกันต่อไปได้ แต่เรื่องความรู้สึกให้มันจบลงเพียงเท่านี้เถอะ!”ฉินหมิงพูดอย่างใจเย็น“ได้ คุณพูดแบบนี้เอง คุณอย่าเสียใจภายหลังก็แล้วกัน!”หลินหว่านชิงรู้สึกเหมือนคนอกหัก เมื่อต้องเผชิญกับความไร้เยื่อใยและความเมินเฉยของฉินหมิง เธอไม่มีความกล้าพอที่จะอยู่ตรงนี้อีกต่อไป เธอจึงหันหลังกลับและวิ่งหนีไปทันทีที่เธอหันหลังมา หยดน้ำตาก็ไหลลงอาบแก้มของเธออย่างเงียบ ๆ “ฉินหมิง ไอ้สารเลว!”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยโกรธมาก เธอจ้องมองไปที่ฉินหมิงด้วยสายตาเกลียดชัง จากนั้นก็วิ่งตามไปยังทิศทางของหลินหว่านชิง“ฉินหมิง คุณดูแลตัวเองให้ดี ๆ เถอะ!”หานซีเหลือบมองฉินหมิงด้วยสีหน้าซับซ้อน จากนั้นเธอและไล่ตามเซี
ฉินหมิงตกใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ“แน่นอนว่านายไม่รู้!”“ครั้งที่แล้ว พี่ไปที่หมิงเหยากรุ๊ปเพื่อไปง้อนาย แต่เธอถูกซูซินเหยาหลอกให้คิดว่านายกับซูซินเหยาคบกันแล้ว…”“ผู้กระทำผิดทั้งหมดนี้ก็คือซูซินเหยา ถ้าเธอไม่เข้ามาขวางทาง พี่คงไม่ได้รับข้อมูลผิด ๆ จากเธอและไม่ทำร้ายนายครั้งแล้วครั้งเล่า…”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดด้วยความโกรธ และเธอก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างคร่าว ๆหลังจากฟังแล้ว ฉินหมิงมีสีหน้าประหลาดใจและไม่แน่ใจ จากนั้นเขาก็มองซูซินเหยาด้วยดวงตาที่ลุกเป็นไฟและถามว่า "ซินเหยา สิ่งที่เสี่ยวเตี๋ยพูดเป็นความจริงหรือเปล่า?"“ฉัน...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาเปลี่ยนเป็นสีแดง เธออ้าปากพูด แต่ก็พูดไม่ออกท้ายที่สุดแล้ว เรื่องนี้เป็นความผิดของเธอจริง ๆ เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยไม่ได้กล่าวหาเธอ และเธอก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร“ทำไมต้องโกหกผม?”สีหน้าของฉินหมิงมืดลงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาที่จะเดาจากปฏิกิริยาของซูซินเหยาว่า สิ่งที่เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดนั้นเป็นเรื่องจริง!“ฉินหมิง ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะโกหกคุณ…”“ฉันก็แค่ชอบคุณมาก และไม่อยากเสียคุณไป ฉันจึงตัดสินใจทำมันลงไป...”ดวงตาขอ
ในขณะนี้ เขายังสงบสติอารมณ์ไม่ได้ และความตั้งใจอันแน่วแน่ดั้งเดิมของเขาก็อดไม่ได้ที่จะสั่นคลอนเล็กน้อย“ฉินหมิง คุณอย่าตอบตกลงเธอนะ...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาซีดลง เธอมองไปที่ฉินหมิงด้วยความกังวลเธอรับรู้ความรู้สึกของฉินหมิงที่มีต่อหลินหว่านชิง และเธอก็เห็นว่าฉินหมิงหวั่นไหว หากไม่ผิดคาด ฉินหมิงน่าจะทิ้งเธอไปแล้วกลับไปหาหลินหว่านชิงเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เธอรู้สึกเศร้ามาก และใจของเธอก็ค่อย ๆ จมลงสู่ก้นบึ้งเมื่อเห็นสีหน้าเศร้าสร้อยของซูซินเหยา ฉินหมิงก็ตื่นขึ้นมาทันทีราวกับว่าถูกสาดหน้าด้วยน้ำเย็นหากเป็นเมื่อก่อน เขาอาจจะตกลงที่จะกลับไปคืนดีกับหลินหว่านชิงแต่ตอนนี้ เขาได้ตกลงที่จะหมั้นกับซูซินเหยาแล้ว และเมื่อสักครู่นี้ยังให้สัญญากับซูซินเหยาอีกด้วย!หากเขายกเลิกงานหมั้นในเวลานี้ ไม่ต้องคิดเลยว่าจะทำให้ซูซินเหยาเสียใจมากแค่ไหน!ไม่ชอบสิ่งใด ก็อย่าได้ทำสิ่งนั้นกับคนอื่นตอนที่เขากับหลินหว่านชิงเลิกกัน เขาได้สัมผัสรสชาติความเจ็บปวดด้วยตัวเอง มันเป็นความเจ็บปวดที่จดจำไว้ในใจไม่ลืมเลือน เจ็บจนเจียนตายในเมื่อแม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่ชอบความเจ็บปวดแบบนี้ เขาจะใจร้ายทำร้ายซูซินเห
“ผมไม่เป็นไร แค่บาดเจ็บนิดหน่อย...”ฉินหมิงยิ้มเบา ๆแม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหลินหว่านชิงจะทะเลาะกันจนค่อนข้างไม่มีความสุข แต่หานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขามาก เขาถือว่าหานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยเป็นเพื่อนที่ดีมาโดยตลอดเขารู้สึกอบอุ่นหัวใจเป็นอย่างมากเมื่อเห็นเพื่อนทั้งสองแสดงความเป็นห่วงเขา“ฉินหมิง ฉันขอโทษ เป็นฉันเองที่ทำร้ายคุณ”หลินหว่านชิงพูดด้วยท่าทางรู้สึกผิด“ไม่เป็นไร ทั้งหมดเป็นความสมัครใจของผมเอง...”ฉินหมิงแสร้งทำเป็นฝืนยิ้มความรักคือการให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เขาเสียสละมากมายเพื่อหลินหว่านชิงอย่างเต็มใจ ไม่สามารถโทษผู้อื่นได้“คุณหนูใหญ่หลิน คุณมาหาผมมีธุระอะไรเหรอ?”ฉินหมิงถามตรงประเด็น แม้แต่ชื่อน่ารัก ๆ ที่เขาใช้เรียกหลินหว่านชิงก็ได้เปลี่ยนไปแล้วในเมื่อตอนนี้เขาตัดใจจากหลินหว่านชิงแล้ว และกำลังจะหมั้นกับซูซินเหยา เขาควรขีดเส้นความสัมพันธ์ให้ชัดเจนกับหลินหว่านชิงและพยายามรักษาระยะห่าง นี่เป็นหน้าที่อย่างหนึ่งที่สมควรทำเมื่อได้ยินชื่อเรียกที่ไม่คุ้นเคยออกมาจากปากฉินหมิง หลินหว่านชิงก็รู้สึกเจ็บแปลบในใจแต่เธอรู้ว่าทั้งหมดน
ฉินหมิงเป็นคู่แข่งทางความรักที่ใหญ่ที่สุดของเขา ขอแค่ฉินหมิงและหลินหว่านชิงคืนดีกันไม่สำเร็จในครั้งนี้ เขาก็สามารถใช้โอกาสจากเรื่องนี้เข้าไปอยู่ในหัวใจของหลินหว่านชิงได้ง่ายขึ้น!แค่ได้คิดก็มีความสุขมาก!......คฤหาสน์ตระกูลซูแขนข้างหนึ่งของฉินหมิงถูกพันด้วยผ้าพันแผล เขานอนอยู่บนเตียงเพื่อพักฟื้นอยู่ในห้องเพราะเขากินยามังกรซ่อนไปหนึ่งเม็ดตอนอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ตอนนี้เขาจึงอยู่ในระยะอ่อนแอ ร่างกายไร้เรี่ยวแรงข้างเตียงซูซินเหยาดูแลฉินหมิงอย่างดี ในมือถือชามยาบำรุงพลังร่างกาย เธอป้อนยาให้ฉินหมิงด้วยรอยยิ้มที่มีความสุขบนใบหน้าอันงดงามของเธอคนเราจะมีความสุขเมื่อได้อยู่กับคนที่เรารัก เธอรอคอยฉินหมิงมาเป็นเวลานาน ในที่สุดวันที่ยากลำบากผ่านพ้นไป วันที่หวานชื่นก็มาถึง ได้กลับมาอยู่ด้วยกันกับฉินหมิงสมใจปรารถนาใครก็ยากที่จะจินตนาการถึงความสุขในใจของเธอได้!หลังจากกลับมาจากคฤหาสน์ตระกูลหลิน ใบหน้าที่สวยงามของเธอก็ไม่เคยหยุดยิ้มได้เลย…ในขณะนี้ มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของตระกูลซูนายหนึ่งเดินเข้ามาจากด้านนอกอย่างรวดเร็ว“คุณหนูใหญ่ ข้างนอกมีผู้หญิงคนหนึ่
“สรุปก็คือหนูจะไปหาเขาตอนนี้และอธิบายเรื่องทุกอย่างให้ชัดเจน บางทีนี่อาจจะเอาชนะใจเขากลับมาได้!”หลินหว่านชิงพูดอย่างหนักแน่นพูดจบเธอก็หันหลังแล้วเดินออกไป“ไม่ได้ ลูกจะไปไม่ได้!”“เรื่องของฉินหมิงเป็นเรื่องอดีตไปแล้ว ลูกควรมองไปข้างหน้า ตอนนี้หลานเค่ออั๋งคือตัวเลือกที่ดีที่สุดของลูก!”หลินเถิงฮุ่ยหมุนรถเข็นของเขาและรีบไปหยุดหลินหว่านชิงไว้ในความเป็นจริง เหตุผลที่เขาห้ามหลินหว่านชิงก็เพราะว่าฉินหมิงกำลังจะหมั้นหมายกับซูซินเหยา และเนื่องจากเค่ออั๋งชอบหลินหว่านชิงมากแม้ว่าฉินหมิงจะมีความสามารถที่ยอดเยี่ยม แต่ฉินหมิงก็เป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ไร้อำนาจบารมี หากฉินหมิงจะเต็มใจที่จะกลับมาคืนดีกับหลินหว่านชิงจริง ๆ มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเขาในการกลับไปสู่วงศ์ตระกูลแต่เค่ออั๋งนั้นแตกต่างออกไป หากหลินหว่านชิงยอมรับเค่ออั๋งด้วยพลังยุทธและรากฐานของตระกูลเค่อ การช่วยให้เขายึดอำนาจของตระกูลกลับคืนมาคงไม่ใช่เรื่องยากอย่างแน่นอน!“พ่อ ก่อนหน้านี้พ่อทำเพื่อประโยชน์ของตระกูล จึงเข้ามาก้าวก่ายเรื่องระหว่างหนูกับฉินหมิง อย่างไม่ลังเล และท้ายที่สุดหนูก็ทำร้ายฉินหมิงครั้งแล้วครั้งเล่า...”“ตอนนี้พ่
การให้ความช่วยเหลือในเวลาที่ต้องการเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด ตอนนี้หลินหว่านชิงและพ่อของเธอกำลังประสบปัญหา จุดประสงค์ของการมาที่นี่คือการถือโอกาสแสดงความเป็นสุภาพบุรุษต่อหน้าหลินหว่านชิงในตอนที่พวกเขาต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด และหวังว่าจะได้รับความโปรดปรานจากเธอ!ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์แล้วว่าเขามาทันเวลา เมื่อสักครู่นี้เขาเป็นพระเอกขี่ม้าขาวและช่วยหลินหว่านชิงให้รอดพ้นจากอันตราย ความประทับใจที่ไม่ดีต่อเขาในอดีตก็เปลี่ยนไปมากเช่นกัน“คุณอยากช่วยเราเหรอ?”หลินเถิงฮุ่ยรู้สึกประหลาดใจและตื่นเต้นตระกูลเค่อเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของเมืองเจียงเฉิง ที่มีพลังยุทธและรากฐานที่ทรงพลังมาก หากเขาได้รับความช่วยเหลือจากเค่ออั๋งและตระกูลเค่อได้ มันจะเป็นเรื่องง่ายขึ้นมากสำหรับเขาและหลินหว่านชิงที่จะกลับคืนสู่ตระกูลหรือยึดอำนาจของตระกูลคืนมา!“ใช่แล้ว!”“ลุงหลิน ตราบเท่าที่คุณต้องการความช่วยเหลือจากผม ผมจะพยายามอย่างดีที่สุดและทำอย่างเต็มที่!”เค่ออั๋งพูดเสียงดังฉะฉาน“ดี เยี่ยมมาก!”“หลานเค่ออั๋ง หากคุณสามารถช่วยฉันกับหว่านชิงกลับคืนสู่ตระกูลหลินได้ เราสองพ่อลูกจะขอบคุณอย่างยิ่ง!”หลินเถิงฮ