ยิ่งไปกว่านั้น เจิ้งอวี่เดิมก็เป็นว่าที่ผู้สืบทอดอันดับที่หนึ่งของตระกูล ทั้งพรสวรรค์ด้านวรยุทธและทุก ๆ ด้านของเขานั้นยอดเยี่ยมมาก เขาคือผู้ที่เหมาะสมที่สุดที่จะขึ้นมาดูแลตระกูลในอนาคตณ ที่ตรงนั้น หลายคนแสดงการสนับสนุนต่อการตัดสินใจของนายท่านเจิ้ง จากนี้ไปเจิ้งอวี่จะทำหน้าที่เป็นผู้นำตระกูลเจิ้งชั่วคราว!มีเพียงสองพ่อลูกเจิ้งเต๋อผิงและเจิ้งเจ๋อเท่านั้นที่สีหน้าไม่น่ามองอย่างมาก พวกเขารู้สึกไม่เต็มใจเล็กน้อย อย่างไรก็ตามชายชราได้ตัดสินใจไปแล้วและหลายคนก็สนับสนุนเจิ้งอวี่ พวกเขาสองพ่อลูกจึงได้แต่จนปัญญา“ดี ดีมาก วันนี้ตระกูลเจิ้งของเราไม่เพียงแต่ได้รับสิทธิ์ในการร่วมมือกับหมิงเหยากรุ๊ปเท่านั้น แต่ยังได้แต่งตั้งผู้รักษาการแทนผู้นำตระกูลคนใหม่อีกด้วย นี่มันน่ายินดีจริง ๆ!”“นอกจากนี้ หาได้ยากที่คุณฉินและคุณหนูซูทั้งสองคนมาเยือนตระกูลของเราในฐานะแขก พวกเราดื่มฉลองให้ทั้งสองคนสักแก้ว ให้ทั้งสองคนเป็นสักขีพยานในเรื่องน่ายินดีของตระกูลเจิ้งของเรา!นายท่านเจิ้งหัวเราะและเป็นผู้นำในการยกแก้วไวน์ขึ้นมานายท่านเจิ้งคือผู้นำตระกูลเจิ้งซึ่งเป็นหนึ่งในสามตระกูลใหญ่ของเมืองหลัวไห่ สถานะที่สูงส
แต่กับซูซินเหยานั้นแตกต่างออกไป เธอถูกประคบประหงมเอาใจมาตั้งแต่เด็กเหมือนกับดอกไม้ในเรือนกระจก ยกเว้นในตอนนั้นที่เธอถูกลอบโจมตี ชีวิตของเธอมักจะน่าเบื่อและจืดชืดอยู่เสมอเวลาไม่กี่วันนี้ในเมืองหลัวไห่ช่างมหัศจรรย์และน่าตื่นเต้น เธอยังคงตื่นเต้นมากเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือ เธอรู้สึกดีใจมากและมีความสุขมากที่ได้ใช้เวลาอยู่กับฉินหมิงทุกวันเธอหวังว่าความสุขและความยินดีนี้จะคงอยู่ตลอดไป!……เมืองเจียงเฉิง คฤหาสน์ตระกูลซูหลังจากทราบข่าวว่าฉินหมิงและซูซินเหยากลับมาจากเมืองหลัวไห่แล้ว ซูห่าวก็รีบออกจากบริษัทตรงกลับมาที่บ้านโดยเร็วที่สุดในห้องนั่งเล่น เขาเห็นฉินหมิงและซูซินเหยา“คุณฉิน คุณกับซินเหยากลับมาแล้ว ไม่รู้ว่าทั้งสองคนไปที่เมืองหลัวไห่ในครั้งนี้เป็นยังไงบ้าง ได้รับวัตถุดิบยามาไหมครับ?”ซู่หาวถามด้วยสีหน้าคาดหวัง“อืม ได้วัตถุดิบยามาอย่างราบรื่นแล้ว”ฉินหมิงพยักหน้าและหยิบวัตถุดิบยาออกมา“เยี่ยม เยี่ยมมาก!”“ถ้าอย่างนั้น คุณเตรียมที่จะหลอมยาเมื่อไหร่?”ซู่หาวตื่นเต้นมากฉินหมิงสัญญากับเขาไว้ก่อนหน้านี้ว่าตราบเท่าที่เขาสามารถหาตัวยาหลักที่มีอายุมากกว่า
ขณะที่ฉินหมิงกำลังแอบเสียใจ ดวงตาของซูห่าวก็สว่างวาบ เขาพูดขึ้นด้วยสีหน้าตื่นเต้นว่า “คุณฉิน นี่ก็คือยาปราณแท้ที่จะช่วยให้ผมทะลวงเข้าสู่ระดับปรมาจารย์ได้ใช่ไหมครับ?"“เปล่า นี่เป็นยาตัวอื่น ไม่ใช่ยาปราณแท้”ฉินหมิงส่ายหัวแล้วพูด“ไม่ใช่ยาปราณแท้เหรอ…”ซู่หาวรู้สึกผิดหวังมาก ราวกับถูกน้ำเย็นราดลงบนศีรษะ รู้สึกหมดความกระปรี้กระเปร่าในทันใด“คุณชายใหญ่ซู คุณไม่ต้องกังวลไป ผมจะหลอมยาปราณแท้ในชุดถัดไปนี้แหละ!”ฉินหมิงปลอบใจเขาด้วยรอยยิ้ม จากนั้นก็หยิบขวดกระเบื้องเคลือบสีขาวออกมา แล้วใส่ยาสร้างรากฐานทั้งหกเม็ดลงไปมูลค่าของยาสร้างรากฐานเหล่านี้สูงกว่ายาปราณแท้ ต่อให้เขาคนเดียวไม่อาจใช้ครบทั้งหมด เขาก็ไม่มีทางทิ้งมันไปอย่างไร้ประโยชน์เก็บไว้ก่อน เผื่อได้ใช้งานในอนาคต!จากนั้น ฉินหมิงก็ทำความสะอาดเตาหลอมยา โยนตัวยาหลักที่เหลือลงไปและเริ่มหลอมยาปราณแท้ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหนแล้วในที่สุดฉินหมิงก็ประสบความสำเร็จ เม็ดยาปราณแท้ทั้งหมดยี่สิบสองเม็ดถูกหลอมออกมาแล้วหากอิงจากสถานการณ์ของยาหลอมลมปราณ ตัวยาหลักหนึ่งตัวสามารถหลอมยาหลอมลมปราณได้มากกว่าหนึ่งร้อยยี่สิบเม็ดอย่างไรก็ตาม โสม
ในตอนนี้เอง เสียงหัวเราะอย่างปลอดโปร่งก็ดังขึ้น นายท่านซูเดินขึ้นมาบนยอดเขา“คุณปู่ ทำไมถึงมาที่นี่ล่ะคะ?”ซูซินเหยาดูมีความสุข จากนั้นทั้งฉินหมิงและซูห่าวสามคนก็ปรี่เข้าไปทักทายเขา“โอ้ ฉันได้ยินพวกคนรับใช้พูดกันว่าหลานกับฉินหมิงกลับมาจากเมืองหลัวไห่แล้ว ตอนนี้กำลังอยู่บนยอดเขาที่ภูเขาด้านหลัง เลยเดาว่าพวกเธอน่าจะกำลังหลอมยา ก็เลยมาดูสถานการณ์สักหน่อย”นายท่านซูพูดด้วยรอยยิ้ม“คุณปู่ ปู่มาได้จังหวะพอดี เมื่อสักครู่นี้ฉินหมิงเพิ่งจะหลอมยาปราณแท้ หนูคิดว่าจะใช้ยาปราณแท้นี้ชูโรง จัดงานเปิดตัวขายอีกครั้ง…”ซูซินเหยาบอกความคิดของเธออีกครั้งโดยหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนจากนายท่านซู“นี่เป็นความคิดที่ดี!”นายท่านซูรู้สึกประหลาดใจ แต่แล้วก็พยักหน้าเห็นด้วยซูซินเหยาถูกประคบประหงมเอาใจมาตั้งแต่เด็กจึงมีนิสัยหยิ่งยโส เขาไม่เคยคิดเลยว่าซูซินเหยาจะคิดกลยุทธ์ทางการตลาดที่ดีขนาดนี้ออกมาได้ นี่มันค่อนข้างเกินความคาดหมายของเขามาก“พี่คะ ได้ยินหมดแล้วใช่ไหม? คุณปู่เห็นด้วยกับความคิดของฉันแล้ว!”ซูซินเหยารู้สึกมั่นใจมากขึ้น และอดไม่ได้ที่จะยิ้มไปทางซูห่าวอย่างภาคภูมิใจ“นี่…ก็ได้”ซู่หาวอย
“ตระกูลซูของเราไม่ได้ทำอะไร ฉันรับยาปราณแท้มาสองเม็ดก็นับว่าเอาเปรียบเธอแล้ว”นายท่านซูยิ้มและกล่าว“นี่…”ฉินหมิงอ้าปาก ไม่อาจสรรหาคำใดมาโต้แย้งได้“ฉินหมิง คุณปู่ของฉันพูดถูกแล้ว ครั้งนี้เป็นผลงานของคุณทั้งหมด คุณรับยาปราณแท้ไปมากสักหน่อยก็เป็นเรื่องที่สมควร”ซูซินเหยาพูดอย่างรวดเร็วนับตั้งแต่ที่ฉินหมิงและหลินหว่านชิงเลิกรากัน หัวใจทั้งดวงของเธอก็ผูกติดอยู่กับฉินหมิง ของที่ล้ำค่าอย่างยาปราณแท้นี้หาได้ยากมาก ๆ เธอจึงหวังว่าฉินหมิงจะได้รับผลประโยชน์มากขึ้น“แต่ผมคนเดียวก็ไม่ได้ใช้มากขนาดนี้!”ฉินหมิงพูดอย่างช่วยไม่ได้ในความเป็นจริง ยาปราณแท้ไม่เพียงแต่สามารถช่วยผู้ฝีกยุทธทะลวงจากขั้นสูงสุดระดับสวรรค์ประทานไปสู่ระดับปรมาจารย์ได้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์เท่านั้น ยังมีประโยชน์อย่างยิ่งต่อยอดฝีมือระดับปรมาจารย์ แถมผลของยาก็ชัดเจนมากตราบเท่าที่ผู้ฝึกยุทธที่มีระดับการบ่มเพาะซึ่งอยู่ต่ำกว่าระดับปรมาจารย์ขั้นสูงสุดใช้ยาปราณแท้เพียงหนึ่งเม็ด ต่อให้ไม่สามารถทะลวงผ่านคอขวดไปได้ แต่ก็ช่วยเพิ่มระดับระดับการบ่มเพาะให้คนคนนั้นได้เป็นอย่างมากอนิจจา ที่ฉินหมิงบ่มเพาะศาสตร์แห่งเต๋า ระดับการบ่มเ
นายท่านซูให้คำแนะนำอย่างจริงจัง“ผมเข้าใจแล้วครับ!”“นายท่านซู ขอบคุณมากจริง ๆ สำหรับการสั่งสอน คำพูดของคุณทำให้ผมรู้แจ้งแล้ว!”ฉินหมิงสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เขาไม่ปฏิเสธความเมตตาของนายท่านซูอีกต่อไปแล้วเก็บยาปราณแท้ที่เหลือทั้งสิบเม็ดกลับไปได้ฟังการสอนหนึ่งครั้ง ได้รับประโยชน์ยิ่งกว่าอ่านหนังสือสิบปี!หลังจากผ่านการชี้แนะและสั่งสอนของนายท่านซู วิสัยทัศน์ของเขาก็กว้างขึ้น และสภาพจิตใจของเขาก็มีการเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อยเช่นกันหลังจากนั้น นายท่านซูและซูห่าวสองปู่หลานก็กลับไปที่ซูกรุ๊ปเพื่อเตรียมวัตถุดิบยาสำหรับให้ฉินหมิงเริ่มหลอมยาในวันพรุ่งนี้ช่วงนี้ซูซินเหยาไม่ได้อยู่ในเมืองเจียงเฉิง ที่บริษัทจึงมีงานสะสมอยู่บ้างเล็กน้อย หลังจากบอกให้ฉินหมิงทราบหนึ่งคำ เธอก็รีบบึ่งไปที่บริษัทเพื่อจัดการเรื่องดังกล่าวสำหรับฉินหมิง เขาเพิ่งหลอมยาสร้างรากฐานมาเมื่อสักครู่นี้ ในใจจึงอยากเพิ่มระดับการบ่มเพาะของตัวเองโดยเร็วที่สุด สุดท้ายจึงเหลือเขาเพียงคนเดียวบนยอดเขาเสื้อผ้าของฉินหมิงที่ยืนอยู่บนยอดเขาปลิวไสวไปตามสายลม“คิดที่จะสร้างขุมกำลังของตัวเอง ตัวเองก็ต้องแข็งแกร่งมากพอ!”ฉินหมิงมองลงไปย
นับตั้งแต่หมิงเหยากรุ๊ปจัดพิธีเปิดบริษัทและขายยาในครั้งแรก นายท่านหลินแห่งตระกูลหลินและหลินเถิงฮุ่ยสองพ่อลูกก็เดาได้นานแล้วว่าความสามารถในการหลอมยาหลอมลมปราณของตระกูลซูนั้น จะต้องได้รับความช่วยเหลือจากบุคคลภายนอกซึ่งเป็นนักปรุงยาท่านหนึ่งตอนนี้ตระกูลซูประกาศข่าวใหญ่นี้ออกมา นั่นได้พิสูจน์แล้วว่าการคาดเดาของพวกเขาสองพ่อลูกถูกต้อง ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับพวกเขาที่จะเดาว่าประธานลึกลับที่อยู่เบื้องหลังหมิงเหยากรุ๊ปก็คือปรมาจารย์นักปรุงยาท่านนั้น ไม่อย่างนั้นเป็นไปไม่ได้ที่ตระกูลซูจะมอบหมิงเหยากรุ๊ปให้กับคนอื่น!กองกำลังหลักรวมถึงตระกูลอื่น ๆ อาทิเช่นตระกูลเค่อและตระกูลเหลิ่งก็คิดเช่นเดียวกัน ด้วยความฉลาดและไหวพริบของพวกเขา พวกเขาจึงตระหนักถึงความสำคัญของเรื่องนี้อย่างรวดเร็ว!ปรมาจารย์นักปรุงยาท่านนี้ไม่เพียงแต่สามารถหลอมยาหลอมลมปราณ ยังหลอมยาปราณแท้ที่มีผลที่น่าอัศจรรย์ขนาดนี้ได้ด้วย เทคนิคการกลั่นยาอายุวัฒนะของอีกฝ่ายคงไปถึงจุดสูงสุดของการหลอมยาแล้ว!จากนี้ไป ด้วยการที่ตระกูลซูมีปรมาจารย์นักปรุงยาท่านนี้คอยช่วยเหลือ ความแข็งแกร่งของพวกเขาจะขึ้นมาอยู่เหนืออีกสามตระกูลใหญ่อย่างแน่นอน และ
ขอเพียงแค่เค่อรุ่ยได้ใช้ยาปราณแท้หนึ่งเม็ด เมื่อเธอทะลวงเข้าสู่ระดับปรมาจารย์ พิจารณาจากอายุของเธอบวกกับพรสวรรค์ด้านวรยุทธที่น่ากลัว ความสำเร็จในอนาคตของเธอมีแต่จะไร้ขีดจำกัด!สิ่งเดียวที่น่าเสียใจก็คือ เค่อรุ่ยเป็นเด็กผู้หญิงและถูกกำหนดแล้วว่าไม่อาจขึ้นมารับช่วงต่อกิจการของตระกูลเค่อได้ ไม่อย่างนั้นในบรรดาคนรุ่นเยาว์ทั้งหมดที่โดดเด่นของเมืองเจียงเฉิง อาทิเช่นเค่ออั๋ง ซูห่าว และเหลิ่งจวิ้น น่ากลัวว่าคงไม่คู่ควรแม้แต่จะถือรองเท้าให้เธอ!“ก็แค่ยาปราณแท้หนึ่งเม็ด เป็นเพียงสิ่งของผิวเผิน ไม่นับว่าเป็นอะไร!”“แกควรจะมองผ่านวัตถุไปให้เห็นถึงแก่นแท้ เบื้องหลังยาปราณแท้ สิ่งที่มีค่าที่สุดก็คือปรมาจารย์นักปรุงยาท่านนั้น!”นายท่านเค่อพูดอย่างใจเย็น“คุณปู่ ความหมายของปู่ก็คือ?”เค่ออั๋งสับสนเล็กน้อยนายท่านเค่อไม่ได้ตอบเขาในทันที แต่ยืนขึ้นและเดินไปที่หน้าต่าง มองดูต้นไม้สีเขียวชอุ่มหลายต้นในสวน จากนั้นชี้ไปที่ต้นไม้ต้นหนึ่งแล้วพูดว่า "อั๋งเอ๋อร์ ดูต้นไม้ใหญ่นี้ให้ดี ยาปราณแท้ก็เหมือนกับผลบนต้นไม้ใหญ่นี้ ต่อให้มีค่ามาก ทว่าจะมีมูลค่าสักเท่าไรกันเชียว?”“อันที่จริงสิ่งที่มีมูลค่าจริง ๆ ไม