ในขณะนี้ เขายังสงบสติอารมณ์ไม่ได้ และความตั้งใจอันแน่วแน่ดั้งเดิมของเขาก็อดไม่ได้ที่จะสั่นคลอนเล็กน้อย“ฉินหมิง คุณอย่าตอบตกลงเธอนะ...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาซีดลง เธอมองไปที่ฉินหมิงด้วยความกังวลเธอรับรู้ความรู้สึกของฉินหมิงที่มีต่อหลินหว่านชิง และเธอก็เห็นว่าฉินหมิงหวั่นไหว หากไม่ผิดคาด ฉินหมิงน่าจะทิ้งเธอไปแล้วกลับไปหาหลินหว่านชิงเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เธอรู้สึกเศร้ามาก และใจของเธอก็ค่อย ๆ จมลงสู่ก้นบึ้งเมื่อเห็นสีหน้าเศร้าสร้อยของซูซินเหยา ฉินหมิงก็ตื่นขึ้นมาทันทีราวกับว่าถูกสาดหน้าด้วยน้ำเย็นหากเป็นเมื่อก่อน เขาอาจจะตกลงที่จะกลับไปคืนดีกับหลินหว่านชิงแต่ตอนนี้ เขาได้ตกลงที่จะหมั้นกับซูซินเหยาแล้ว และเมื่อสักครู่นี้ยังให้สัญญากับซูซินเหยาอีกด้วย!หากเขายกเลิกงานหมั้นในเวลานี้ ไม่ต้องคิดเลยว่าจะทำให้ซูซินเหยาเสียใจมากแค่ไหน!ไม่ชอบสิ่งใด ก็อย่าได้ทำสิ่งนั้นกับคนอื่นตอนที่เขากับหลินหว่านชิงเลิกกัน เขาได้สัมผัสรสชาติความเจ็บปวดด้วยตัวเอง มันเป็นความเจ็บปวดที่จดจำไว้ในใจไม่ลืมเลือน เจ็บจนเจียนตายในเมื่อแม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่ชอบความเจ็บปวดแบบนี้ เขาจะใจร้ายทำร้ายซูซินเห
ฉินหมิงตกใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ“แน่นอนว่านายไม่รู้!”“ครั้งที่แล้ว พี่ไปที่หมิงเหยากรุ๊ปเพื่อไปง้อนาย แต่เธอถูกซูซินเหยาหลอกให้คิดว่านายกับซูซินเหยาคบกันแล้ว…”“ผู้กระทำผิดทั้งหมดนี้ก็คือซูซินเหยา ถ้าเธอไม่เข้ามาขวางทาง พี่คงไม่ได้รับข้อมูลผิด ๆ จากเธอและไม่ทำร้ายนายครั้งแล้วครั้งเล่า…”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดด้วยความโกรธ และเธอก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างคร่าว ๆหลังจากฟังแล้ว ฉินหมิงมีสีหน้าประหลาดใจและไม่แน่ใจ จากนั้นเขาก็มองซูซินเหยาด้วยดวงตาที่ลุกเป็นไฟและถามว่า "ซินเหยา สิ่งที่เสี่ยวเตี๋ยพูดเป็นความจริงหรือเปล่า?"“ฉัน...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาเปลี่ยนเป็นสีแดง เธออ้าปากพูด แต่ก็พูดไม่ออกท้ายที่สุดแล้ว เรื่องนี้เป็นความผิดของเธอจริง ๆ เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยไม่ได้กล่าวหาเธอ และเธอก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร“ทำไมต้องโกหกผม?”สีหน้าของฉินหมิงมืดลงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาที่จะเดาจากปฏิกิริยาของซูซินเหยาว่า สิ่งที่เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดนั้นเป็นเรื่องจริง!“ฉินหมิง ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะโกหกคุณ…”“ฉันก็แค่ชอบคุณมาก และไม่อยากเสียคุณไป ฉันจึงตัดสินใจทำมันลงไป...”ดวงตาขอ
ตอนนี้เขาสะบักสะบอมมาก มันเจ็บไปทั้งหัวใจ และเขาคิดอยากลบความรู้สึกที่มีต่อหลินหว่านชิงออกไปให้หมดสิ้น แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง!เขาจะกลับไปคบหลินหว่านชิงอีกครั้งได้อย่างไร!“ฉินหมิง คุณใจร้ายกับฉันได้ขนาดนี้เลยเหรอ?”หลินหว่านชิงกัดริมฝีปากแล้วมองฉินหมิงด้วยใบหน้าเศร้า เธอพยายามกลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้ไหลลงมา“ไม่ได้ใจร้าย เพียงแต่ว่าโชคชะตาระหว่างเราสองคนจบลงแล้ว!”“ถ้าคุณเต็มใจ เราก็ยังเป็นเพื่อนกันต่อไปได้ แต่เรื่องความรู้สึกให้มันจบลงเพียงเท่านี้เถอะ!”ฉินหมิงพูดอย่างใจเย็น“ได้ คุณพูดแบบนี้เอง คุณอย่าเสียใจภายหลังก็แล้วกัน!”หลินหว่านชิงรู้สึกเหมือนคนอกหัก เมื่อต้องเผชิญกับความไร้เยื่อใยและความเมินเฉยของฉินหมิง เธอไม่มีความกล้าพอที่จะอยู่ตรงนี้อีกต่อไป เธอจึงหันหลังกลับและวิ่งหนีไปทันทีที่เธอหันหลังมา หยดน้ำตาก็ไหลลงอาบแก้มของเธออย่างเงียบ ๆ “ฉินหมิง ไอ้สารเลว!”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยโกรธมาก เธอจ้องมองไปที่ฉินหมิงด้วยสายตาเกลียดชัง จากนั้นก็วิ่งตามไปยังทิศทางของหลินหว่านชิง“ฉินหมิง คุณดูแลตัวเองให้ดี ๆ เถอะ!”หานซีเหลือบมองฉินหมิงด้วยสีหน้าซับซ้อน จากนั้นเธอและไล่ตามเซี
เดิมทีระดับการบ่มเพาะของลี่ตั๋วไห่นั้นทัดเทียมกับเขา ทั้งสองอยู่ในระดับของครึ่งก้าวราชาสงคราม ต่างคนต่างไม่สามารถทำอะไรกับอีกฝ่ายได้แต่ตอนนี้ความแข็งแกร่งของลี่ตั๋วไห่แซงหน้าเขาไปแล้ว ต่อไปนี้มันยากมากสำหรับเขาที่จะสู้กับลี่ตั๋วไห่ได้!ชั่วขณะหนึ่ง เขารู้สึกถึงวิกฤตที่รุนแรงมาก แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้“บางทีลี่ตั๋วไห่อาจโชคดีมากกว่า...”ฉินหมิงฉุกคิดได้ และดูเหมือนเขาจะเข้าใจอะไรบางอย่างอย่างคลุมเครือเขาเคยสงสัยมาก่อนตอนที่อยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ว่าลี่ตั๋วไห่สามารถฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ์ได้อย่างง่ายดาย นี่อาจมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับการปล้นเจิ้งอวี่ มิฉะนั้นลี่ตั๋วไห่จะไม่สร้างศัตรูที่แข็งแกร่งอย่างตระกูลเจิ้งเพียงเพื่อยาปราณแท้แค่สามเม็ดแน่ตอนนี้เขาคิดเชื่อมโยงกันเล็กน้อย ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าลี่ตั๋วไห่อาจจะสามารถทะลวงเข้าไปในระดับของราชาสงครามได้โดยใช้ยาปราณแท้สามเม็ดนี้!นี่ไม่ใช่ประเด็น ประเด็นก็คือในฐานะคนหลอมยาปราณแท้ เขาเข้าใจคุณสมบัติของยาปราณแท้มากกว่าใคร ๆ ในเมื่อแม้แต่ลี่ตั๋วไห่ก็มีสิทธิ์พึ่งพายาปราณแท้เพื่อกลายเป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งในระดับราชาสงคราม ถ้าอย่
บรรพบุรุษตระกูลฉินทิ้งความรู้ไว้ให้เขาอย่างกว้างขวางมาก แถมยังรวมถึงสูตรลับบางอย่างในการกระตุ้นศักยภาพของร่างกายมนุษย์ด้วย สูตรลับเหล่านี้เกี่ยวข้องกับทักษะทางการแพทย์และได้รับการบันทึกอย่างละเอียดสำหรับยาปราณแท้ ปัจจุบันเขามีสำรองอยู่อีกหลายเม็ดตอนนี้ทั้งสองอย่างล้วนพร้อมแล้ว เขาต้องการช่วยเฝิงเจิ้นฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธไปให้ได้ นี่ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย!“ลุงเฝิง ผมบอกความจริงกับคุณก็แล้วกัน แม้ว่าผมจะไม่แน่ใจว่าสามารถช่วยคุณทะลวงไปสู่ระดับราชาแห่งสงครามได้หรือไม่ แต่ผมจะพยายามลองอย่างเต็มที่ โอกาสที่จะประสบความสำเร็จน่าจะสูงมาก ... "ฉินหมิงพูดอย่างจริงใจ“ลองดู?”“การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ เรื่องแบบนี้จะลองสุ่มสี่สุ่มห้าได้อย่างไร หากมีสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ผลที่ตามมาอาจเป็นหายนะ!”เฝิงเจิ้นตกใจยิ่งกว่าเดิมในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่า ฉินหมิงกำลังพูดเรื่องไร้สาระและต้องการใช้เขาเป็นหนูทดลองหากเป็นเรื่องอื่นก็เอาเถอะ เขาคงสามารถให้ความร่วมมือกับฉินหมิงได้ แต่การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธเป็นสิ่งสำคัญ หากไม่ระวังอาจกลายเป็นบ้าได้ง่าย ๆ หรือแม้แต่สูญเสียทักษ
ปีนี้ฉินหมิงอายุได้ยี่สิบหกปี เขาขึ้นชื่อว่าเป็นลูกเขยที่มีชื่อเสียงเลวร้ายที่สุดในเมืองเจียงเฉิงหลังจากแต่งงานเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาได้สามปี ในสามปีมานี้เขาก็ไม่ต่างจากเป็นทาสของตระกูลหม่าเลยสักนิด ทั้งหาบน้ำล้างเท้า ไม่มีศักดิ์ศรีเลยแม้แต่น้อย แต่เมื่อคืนในที่สุดเขาก็ระเบิดออกมา!ในช่วงสามปีที่ผ่านมา ตลอดทั้งวันเขาทำงานเหมือนวัวเหมือนควายในบริษัทของตระกูลหม่า เงินเดือนของเขาก็ถูกนำไปให้กับหม่าลู่ภรรยาของเขา ที่เขาไม่อาจแตะเนื้อต้องตัวเธอได้ เมื่อเขากลับบ้านตอนเย็น เขายังต้องซักผ้า ถูพื้น ทำอาหาร ฯลฯ เขาทำงานบ้านทั้งหมดโดยไม่ปริปากบ่นเดิมทีเขาคิดว่าสิ่งนี้จะทำให้ภรรยาของเขาประทับใจและทำให้เธอรักเขาไปชั่วชีวิต แต่สิ่งที่เขาได้กลับมาจากภรรยาของเขากลับเป็นของขวัญชิ้นใหญ่!เด็ก!ใช่แล้ว!ฟังไม่ผิดหรอก ภรรยาที่เขาไม่กล้าแตะต้องมาตลอดสามปีกำลังตั้งท้อง!และเขาจะได้เป็นพ่อคนแล้ว!ช่างน่ายินดีจริง ๆ!“ฉินหมิง ให้แกซักเสื้อผ้าให้สะอาดยังทำไม่ได้เลย ให้ถูพื้นให้สะอาดก็ทำไม่ได้!”“คนไร้ประโยชน์อย่างแกจะทำอะไรได้อีก!”“บ้านเราเลี้ยงแกไว้จะมีประโยชน์อะไร? เลี้ยงสุนัขก็ยังดีกว่าแกซะอีกมั้ง
หลังจากไหว้หลุมศพนายท่านหม่าแล้ว ฉินหมิงก็ออกจากสุสานทันที ที่ทางเข้าสุสานเขาเห็นสาวสวยสวมชุดทำงานที่มีรูปร่างยั่วยวนเป็นอย่างมาก ตอนนี้ฉินหมิงรู้สึกสงสัยว่าดึกดื่นแล้วทำไมเธอไม่หลับไม่นอน กลับมายืนอยู่ที่ทางเข้าสุสานแถมแต่งเต็มขนาดนั้น จึงอดมองอยู่สักพักไม่ได้คนสวยดูท่าทางไม่พอใจและพึมพำบางอย่างอย่าง "เหม็นกลิ่นคนจน" หรืออะไรทำนองนั้นในเมื่อก่อนฉินหมิงที่ได้ยินก็ไม่ได้ยี่หระอะไรอยู่แล้ว แต่วันนี้เขาเพิ่งกลายเป็นพ่อคน และยังถูกไล่ออกจากบ้านอีก ฉินหมิงรู้สึกไม่พอใจและอยากระบายออกมา เขารู้สึกหัวร้อนขึ้นมาทันที จึงเดินไปหาสาวสวยคนนั้นแล้วพูดอะไรบางอย่าง“เฮ้ ออกมายืนรับแขกแต่วันเลยเหรอ? คืนเท่าไรล่ะ? วันนี้ฉันอารมณ์ดีนะ!”อันที่จริงฉินหมิงไม่มีเงินอยู่ในกระเป๋าสักแดง ฉินหมิงพูดไปพลางเสียงสั่นไปเล็กน้อย เขากังวลว่าถ้าผู้หญิงคนนี้ทำอาชีพอย่างว่าจริง ๆ เขาก็ไม่มีเงินจะจ่ายโชคดีที่หลังจากได้ยินแล้ว สาวสวยก็มีสีหน้าไม่สบอารมณ์และจ้องฉินหมิงเขม็งโชคดีไปที่เธอไม่ใช่อย่างว่าฉินหมิงแอบถอนหายใจด้วยความโล่งอกวันนี้ฉินหมิงก็ถูกตระกูลหม่าทำให้โกรธไม่น้อย และสภาพอารมณ์ของเขาก็แย่อย่างถึงท
นี่คือสุสานซึ่งอยู่ห่างไกลลับตาผู้คนมากอยู่แล้ว!จะต้องมีผีเร่ร่อนอยู่แน่ ๆ แต่ฉินหมิงเล่าว่ามีหมาป่าอยู่แถวนี้ แล้วสาวสวยเพิ่งขึ้นมาจากน้ำยังเปียกปอนไปหมด แถมได้รับบาดเจ็บเดินได้ไม่ไกลด้วย ดึกขนาดนี้หนำซ้ำที่นี่ยังอยู่ไกลจากถนนอีก ไม่มีใครมาช่วยเธออยู่แล้ว ผู้หญิงที่ไม่มีทั้งกุญแจรถหรือโทรศัพท์มือถือ ค้างคืนที่นี่แบบนี้ไม่แย่ยิ่งกว่าเหรอ?และนี่คือสิ่งที่ฉินหมิงลงโทษเธอ!ลงโทษเธอที่จำหลี่ต้งปินไม่ได้ฉินหมิงเดินจากไปไกลแล้ว“ไอ้บ้า นายมันบ้า! นาย นายอย่าทิ้งกันแบบนี้สิ!”สาวสวยไล่ตามฉินหมิงไปสักพัก แต่เธอก็ตามไม่ทันอยู่ดี เธอโกรธฉินหมิงและด่าสาปส่งอย่างหยาบคาย แต่รู้สึกลำบากใจเหลือเกิน ไม่คาดคิดเลยว่าคุณหนูใหญ่ผู้สง่างามอย่างหลินหว่านชิงจะถูกคนธรรมดาสามัญรังแกกันได้ขนาดนี้“ไอ้บ้า! อย่าให้รู้นะว่านายเป็นใคร ฉันไม่ปล่อยนายไว้แน่!”หลินหว่านชิงตะโกนเสียงดังผลที่ตามมาคือทันทีที่เธอพูดถ้อยคำเหล่านั้น ฉินหมิงที่รู้สึกไม่สบอารมณ์ทนไม่ไหวอยู่บ้างแล้วก็ยิ่งเมินเฉยใส่เธอแบบไร้น้ำใจมากขึ้นเมื่อเห็นว่าฉินหมิงหายไปจากสายตา หลินหว่านชิงร้องไม่ออก รองเท้าส้นสูงของเธอหัก เธอเปียกโชกไปทั้