หลังจากที่ฉินหมิงฟื้นคืนชีพขึ้นมา ก็ดูเหมือนมีเรี่ยวแรงอย่างมหาศาล แม้ว่าจะยังควบคุมไม่ได้แต่ก็มากเกินพอที่จะจัดการกับนักฆ่าธรรมดาสองคนได้ ดังนั้นฉินหมิงจึงฉวยโอกาสที่นักฆ่าอึ้งอยู่ไม่ทันได้โต้ตอบ พุ่งเข้าไปต่อสู้กอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอย่างดุเดือด จนกลิ้งลงไปในน้ำด้วยกันแบบนี้เป็นการลากให้ไปตายด้วยกันไม่ใช่เหรอ?แววตาของหลินหว่านชิงเต็มไปด้วยความสับสน แม้ว่าผู้ชายคนนี้จะน่าเกลียดจริง ๆ แต่พวกเขาเพิ่งพบกันโดยบังเอิญ เขาเต็มใจที่จะตายเพื่อเธอเหรอ?ตอนนี้หลินหว่านชิงขาอ่อนแรงไปหมด เธอปีนขึ้นไปริมฝั่ง อารมณ์ภายในใจของเธอซับซ้อนมาก เธออยากให้ฉินหมิงปีนขึ้นมา แต่เธอก็ไม่อยากให้เขาขึ้นมาเช่นกัน เพราะเขาได้เห็น ได้สัมผัส และได้จูบกับเธอแล้วหลินหว่านชิงกัดริมฝีปากตัวเองและรออยู่นาน แต่เธอก็ไม่รอจนเขาจะปีนขึ้นมา คิดถึงผู้ชายที่ไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร เธอคิดว่าเขายังอยู่และเผลอคิดว่าเขาตายไปแล้วชั่วขณะหนึ่งแต่น้ำตาก็ไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัวและเธอก็ไม่สามารถหยุดมันได้...ไม่นานนักเสียงแตรรถก็ดังขึ้น บอดี้การ์ดหลายคนจากตระกูลหลินออกเดินตามหาเธอเธอสวมเสื้อผ้าของฉินหมิงและรออยู่นาน หลัง
“คุณหม่า ดิฉันต้องขออภัยด้วย ตามกฎหมายนั้นการแต่งงานมีระยะเวลาให้ไตร่ตรองการหย่าร้างหนึ่งเดือนค่ะ”“และสามีของคุณไม่มีบัตรประจำตัวประชาชน ดังนั้นเราจึงไม่สามารถดำเนินการหย่าร้างให้คุณได้ในทันที...”พนักงานหญิงคนหนึ่งอธิบายอย่างสุภาพมากและคืนเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการหย่าร้างทั้งหมดให้กับหม่าลู่“เพ้อเจ้อ! จะหย่าแล้วให้ไตร่ตรองอะไรกัน?”“ไปเรียกนายอำเภอมาให้เขาจัดการทันที!”ซุนกวนฉงทุบโต๊ะและตะคอกด้วยความโกรธ“คุณคะ แต่ทางเราต้องปฏิบัติตามระเบียบ...”เจ้าหน้าที่หญิงสีหน้าไม่สู้ดีนัก แต่เธอก็ยังปฏิบัติอย่างสุภาพ“คุณอย่าทำแบบนี้กับดิฉันนะคะ”“ฉันบอกให้เรียกนายอำเภอมา เธอหูหนวกหรือไง!”ซุนกวนฉงตะคอกใส่อย่างเย่อหยิ่งที่นี่ก็วุ่นวายไม่น้อย และผู้คนมากมายที่มาทำเรื่องก็อดมองด้วยความแปลกใจไม่ได้นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเห็นคนก่อเรื่องในอำเภอในตอนนั้น เจ้าหน้าที่ระดับสูงของอำเภอเองก็ได้รับการแจ้งเช่นกัน ชายวัยกลางคนร่างอ้วนท้วนเล็กน้อยก็รีบวิ่งเหยาะ ๆ เข้ามา"ที่แท้คุณซุนนี่เอง..."“คุณซุนใจเย็น ๆ ก่อนนะครับ เสี่ยวผิงไม่รู้จักคุณ เธอไม่ได้ตั้งใจโต้เถียงคุณ ได้โปรดยกโทษให้ด้วย…”
“คุณหลิน คุณมาที่นี่เพื่อพบผมหรือเปล่าครับ...”ซุนกวนฉงเข้ามาหาเธอด้วยสีหน้าที่ประจบประแจง ราวกับหมาปั๊กกระดิกหาง เขาเกือบจะคุกเข่าจะเลียขาเธออยู่แล้วหลินหว่านชิงไม่ได้มองซุนกวนฉงด้วยซ้ำ เธอกวาดตามองในที่สุดก็เห็นฉินหมิง ท่าทีสง่างามของเธอก็เผยให้เห็นความตื่นเต้นออกมาเมื่อคืนเธอพยายามอย่างหนักแต่ไม่พบร่างของฉินหมิงเธอเชื่อว่าฉินหมิงยังไม่ตายอย่างแน่นอน!ไอ้บ้านั้นเอาเปรียบเธอขนาดนี้ จะตายง่าย ๆ ได้อย่างไร?ด้วยความพยายามนี้ ในตอนเช้าเธอจึงใช้อำนาจตระกูลหลินค้นหารายละเอียดของฉินหมิงอย่างเร่งด่วน แล้วพบว่าฉินหมิงกำลังวางแผนที่จะหย่ากับหม่าลู่ในวันนี้ดังนั้นเธอจึงรีบไปที่อำเภอทันทีดูว่าจะเจอฉินหมิงหรือไม่แน่นอนว่าเธอเจอคนที่คล้ายกับฉินหมิงมาก แต่เขาขดตัวกุมหัวตัวเองอยู่บนพื้น เธอเห็นไม่ชัดเจนว่าเขาหน้าตาเป็นอย่างไร เธอจึงไม่แน่ใจว่าเขาคือคนที่เธอตามหารึเปล่า!เนื่องจากการปรากฏตัวของหลินหว่านชิงในตอนนี้ บอดี้การ์ดทั้งสองคนจึงหยุดกระทืบฉินหมิงฉินหมิงยังสังเกตเห็นว่าบรรยากาศดูผิดปกติไป เขาเงยหน้าขึ้นและพบกับแววตาที่เปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้นของหลินหว่านชิง“หลินหว่านชิง? คุณเอ
เพียะ!เสียงตบดังขึ้น หลินหว่านชิงยกมือขึ้นตบหน้าหม่าลู่อย่างแรง“นังสารเลว แกกล้าตบฉัน ฉันจะสู้กับแก…”หม่าลู่กุมแก้มตัวเอง ดวงตาของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ เธอแยกเขี้ยวกางมือจะตบหลินหว่านชิง หลินหว่านชิงตอบสนองอย่างรวดเร็ว และตบหลังมือสวนหม่าลู่กลับอย่างแรงหม่าลู่ไม่เคยเจอความอัปยศอดสูเช่นนี้มาก่อน เธอเดินโซเซและร้องไห้กับซุนกวนฉง “ที่รักคะ นังแพศยานี่มันตบฉัน คุณต้องเอาคืนให้ฉันนะคะ!”“เอาคืนกับผีน่ะสิ!”ซุนกวนฉงโกรธจัดและตบหม่าลู่จนล้มลงกับพื้นหม่าลู่ที่ถูกตบอึ้งไม่อยากเชื่อเลย "ที่รัก ฉันขอให้คุณเอาคืนให้ ทำไมคุณถึงตบฉันล่ะ?"“ฉันจะตบเธอนี่แหละ!”“เธอรู้ไหมว่านี่คือใคร หล่อนก็คือหลินหว่านชิง คุณหนูใหญ่ตระกูลหลิน!”“เธอจะทำลายตระกูลซุนของเรารึไง!”ซุนกวนฉงด่าอย่างโกรธเคืองหม่าลู่ตกตะลึงแทบไม่ได้สติ จากนั้นเธอก็ตระหนักว่าตนประสบปัญหาใหญ่ตระกูลซุนเป็นเพียงตระกูลใหม่ที่ร่ำรวยในเมืองเจียงเฉิน มีอิทธิพลเป็นแค่อันดับสอง ถือว่ายังห่างไกลจากตระกูลอันดับหนึ่งอย่างตระกูลหลินมากนักไม่ต้องพูดถึงเธอเลย แม้ว่าพ่อของซุนกวนฉงจะมาด้วยตัวเอง เขาก็คงไม่กล้าหาเรื่องหลินหว่านชิง!“ค
หม่าลู่ยิ่งคิดถึงเรื่องนี้มากเท่าไร เธอก็ยิ่งแค้นใจมากขึ้นเท่านั้นซุนกวนฉงลุกขึ้นจากพื้นด้วยความอับอาย ใบหน้าและจมูกของเขาบวมช้ำเหมือนหมู สภาพของเขาดูน่าสมเพชมาก"เป็นไปไม่ได้!"“หลินหว่านชิงเป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลหลิน สถานะของเธอนั้นสูงส่ง ในเจียงเฉินมีคุณชายที่ร่ำรวยและพวกลูกคนมีอำนาจตั้งหลายคนที่ไม่ได้อยู่ในสายตาของเธอด้วยซ้ำ เธอจะไปชอบสวะอย่างฉินหมิงได้ยังไง!"“บางทีพวกเขาอาจจะเพิ่งรู้จักกัน...”ซุนกวนฉงกุมหน้าร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวดหลินหว่านชิงเป็นนางฟ้าสูงศักดิ์ในความคิดของเขาเสมอ แต่ฉินหมิงเป็นเพียงคนต่ำต้อยไร้ค่าในสายตาของเขา แม้ว่าจะตีเขาจนตาย เขาไม่มีวันเชื่อว่าฉินหมิงและหลินหว่านชิงมีความสัมพันธ์อะไรเป็นพิเศษ!“ใช่แล้ว นอกจากหลินหว่านชิงจะตาบอด คนอย่างมันถึงได้เข้าตาเธอได้…”“ไม่สิ ถึงหลินหว่านชิงจะตาบอดจริง ๆ เธอก็ไม่มีทางมองสวะพรรค์นั้นหรอก!”หม่าลู่ยิ้มอย่างเหยียดหยาม ในใจรู้สึกยุติธรรมขึ้นมามากขึ้น“ความสัมพันธ์ของพวกเขาจะเป็นอย่างไรก็ช่าง!”“แต่ท้ายที่สุดไอ้ขี้แพ้ฉินหมิงทำฉันแสบไม่น้อย ฉันไม่มีวันปล่อยเขาไปแน่!”สีหน้าของซุนกวนฉงเต็มไปด้วยความไม่พอใจต
“เสี่ยวเหมย เกิดอะไรขึ้น?”"เกิดเรื่องอะไรขึ้น!"ไต้เหว่ยถาม“พี่มาพอดีเลย มีขอทานสองคนมาก่อปัญหาที่นี่ ภาพลักษณ์ของโรงแรมเราเสียหายหมด...”หัวหน้าหญิงชี้ไปที่หลินหว่านชิงและฉินหมิงด้วยสีหน้าดูถูกและรังเกียจไต้เหว่ยมองตามนิ้วของลูกพี่ลูกน้องเขาไป และก็เห็นหลินหว่านชิงความประทับใจแรกของเขาคือตะลึงกับความงามและความสูงศักดิ์ของหลินหว่านชิงเมื่อมองอีกแวบหนึ่ง หน้าเขาถึงกับถอดสี และมีเหงื่อเย็นไหลซึมออกมาจากหน้าผากเขาหลินหว่านชิงไม่ค่อยปรากฏตัวในที่สาธารณะ เธอเป็นคนสวยและรวยในแวดวงที่ไม่ค่อยปรากฏตัว น้อยคนนักที่รู้จักเธอไต้เหว่ยเองก็ไม่น่าจะรู้จักคุ้นเคยกับหลินหว่านชิงแต่ตระกูลหลินมีธุรกิจขนาดใหญ่และมีอุตสาหกรรมมากมายที่อยู่ภายใต้การดูแล เมื่อตระกูลหลินต้องการให้ดูแลต้อนรับแก่แขกผู้มีเกียรติ หรือลูกค้ารายใหญ่ของบริษัท พวกเขามักจะจัดให้พักที่โรงแรมแกรนโนเบิลเสมอไต้เหว่ยรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้พบกับหลินหว่านชิงในครั้งนี้เขานึกถึงเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของหลินหว่านชิงได้ในทันทีตอนนี้ไต้เหว่ยตกใจมากเสียจนแข้งขาของเขาอ่อนแรง จนแทบจะทรุดลงไปคุกเข่ากับพื้นพวกเขาไม่กล้ามีเรื่องกั
หลังจากคิดเหลวไหลไปเรื่อย ฉินหมิงก็ได้สติกลับมาทันทีเขาเดินไปหาหลินหว่านชิง ดึงแขนเธอเบา ๆ และกระซิบว่า "หลิน...หลินหว่านชิงช่างเถอะ ผมชินแล้วล่ะ..."หลินหว่านชิงปวดใจ เธอสัมผัสได้ถึงความขมขื่นและปวดใจในคำพูดของฉินหมิง เช่นเดียวกับความน้อยเนื้อต่ำใจของตัวเขาเอง“คุณหลิน ทั้งหมดนี่เป็นความผิดของเสี่ยวเหม่ย ผมจะลงโทษเธอในภายหลังเอง โปรดเมตตาให้โอกาสเธอได้ปรับปรุงตัวเองด้วยนะครับ”ไต้เหว่ยกล่าวอย่างจริงใจเขาเริ่มต้องโหดร้ายขึ้นมาบ้างแล้ว ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เขาไม่อาจเมินเฉยต่อปัญหาของเสี่ยวเหม่ยได้อีกแล้ว แม้ว่าครั้งนี้เขาจะรอดไปได้ ครั้งหน้าเขาอาจจะถูกเสี่ยวเหม่ยพาซวยไปจนตายก็ได้ใครจะไปรู้!"ลุกขึ้น!"“เห็นแก่เพื่อนของฉันที่ขอร้องให้เธอ ฉันจะให้โอกาสเธอ ฉันหวังว่าเธอจะปรับปรุงตัวได้!”หลินหว่านชิงจิ๊ปากอย่างเย็นชาให้อภัยได้ก็ให้อภัยเถอะเธอไม่ชอบใช้ฐานะของเธอข่มเหงคนอื่น เธอไม่อยากเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป“ขอบคุณคุณหลิน ขอบคุณคุณมากค่ะ…”เสี่ยวเหม่ยรู้สึกเหมือนได้รับการยกโทษแล้ว ถึงกล้าลุกขึ้นยืน หลังของเธอเหงื่อเย็นไหลซึมจนเปียกโชกไปในเวลานี้แขกจำนวนมากโดยรอบต่างตื่นตระห
“แต่ว่านะฉินหมิง เมื่อคืนนี้ฉันเห็นคนร้ายเอามีดแทงนาย”“บาดแผลนาย...ไม่เป็นไรแล้วเหรอ?”“ไปตรวจที่โรงพยาบาลหน่อยดีไหม?”หลินหว่านชิงถามด้วยความกังวลเมื่อคืนเธอเห็นอยู่กับตาว่าฉินหมิงถูกคนร้ายใช้มีดแทงเข้าที่หน้าอกแต่ที่แปลกก็คือ ตอนนี้ฉินหมิงกลับสบายดีราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นนี่ยิ่งทำให้เธอสงสัยว่า ที่เห็นตอนนั้นเธอมองผิดไปหรือเปล่า?"ไม่เป็นไร"“ไม่ได้เจ็บหนักอะไรมากมาย”ฉินหมิงยกมือลูบหน้าอกของเขาโดยไม่รู้ตัวแต่บังเอิญโดนแผลเข้า มันเจ็บจนเขาเผลอขมวดคิ้วส่งเสียงโอดโอยออกมา"เกิดอะไรขึ้น?"“เจ็บมากไหม?”“ไปโรงพยาบาลดีไหม!”หลินหว่านชิงผุดลุกขึ้นอย่างกะทันหัน ท่าทางดูร้อนใจ"มันไม่เจ็บมากหรอก"“ก็แค่เจ็บนิดหน่อย เดี๋ยวก็หายแล้ว”“ไม่จำเป็นต้องไปโรงพยาบาลก็ได้”ฉินหมิงลูบแผลอีกสองสามครั้ง และความเจ็บปวดก็ค่อย ๆ บรรเทาลงเขาอยากถอดเสื้อออกเพื่อดูอาการบาดเจ็บ แต่ต่อหน้าหลินหว่านชิงเขารู้สึกเขินอายขึ้นมา“ถอดเสื้อให้ฉันดูหน่อย อาการบาดเจ็บของนายเป็นยังไงบ้าง”หลินหว่านชิงยังคงรู้สึกกังวล"แบบว่า..."ฉินหมิงเลิ่กลั่กมาก เขาอายที่จะถอดเสื้อผ้าต่อหน้าผู้หญิง“ถอดออก