หม่าลู่ยิ่งคิดถึงเรื่องนี้มากเท่าไร เธอก็ยิ่งแค้นใจมากขึ้นเท่านั้นซุนกวนฉงลุกขึ้นจากพื้นด้วยความอับอาย ใบหน้าและจมูกของเขาบวมช้ำเหมือนหมู สภาพของเขาดูน่าสมเพชมาก"เป็นไปไม่ได้!"“หลินหว่านชิงเป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลหลิน สถานะของเธอนั้นสูงส่ง ในเจียงเฉินมีคุณชายที่ร่ำรวยและพวกลูกคนมีอำนาจตั้งหลายคนที่ไม่ได้อยู่ในสายตาของเธอด้วยซ้ำ เธอจะไปชอบสวะอย่างฉินหมิงได้ยังไง!"“บางทีพวกเขาอาจจะเพิ่งรู้จักกัน...”ซุนกวนฉงกุมหน้าร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวดหลินหว่านชิงเป็นนางฟ้าสูงศักดิ์ในความคิดของเขาเสมอ แต่ฉินหมิงเป็นเพียงคนต่ำต้อยไร้ค่าในสายตาของเขา แม้ว่าจะตีเขาจนตาย เขาไม่มีวันเชื่อว่าฉินหมิงและหลินหว่านชิงมีความสัมพันธ์อะไรเป็นพิเศษ!“ใช่แล้ว นอกจากหลินหว่านชิงจะตาบอด คนอย่างมันถึงได้เข้าตาเธอได้…”“ไม่สิ ถึงหลินหว่านชิงจะตาบอดจริง ๆ เธอก็ไม่มีทางมองสวะพรรค์นั้นหรอก!”หม่าลู่ยิ้มอย่างเหยียดหยาม ในใจรู้สึกยุติธรรมขึ้นมามากขึ้น“ความสัมพันธ์ของพวกเขาจะเป็นอย่างไรก็ช่าง!”“แต่ท้ายที่สุดไอ้ขี้แพ้ฉินหมิงทำฉันแสบไม่น้อย ฉันไม่มีวันปล่อยเขาไปแน่!”สีหน้าของซุนกวนฉงเต็มไปด้วยความไม่พอใจต
“เสี่ยวเหมย เกิดอะไรขึ้น?”"เกิดเรื่องอะไรขึ้น!"ไต้เหว่ยถาม“พี่มาพอดีเลย มีขอทานสองคนมาก่อปัญหาที่นี่ ภาพลักษณ์ของโรงแรมเราเสียหายหมด...”หัวหน้าหญิงชี้ไปที่หลินหว่านชิงและฉินหมิงด้วยสีหน้าดูถูกและรังเกียจไต้เหว่ยมองตามนิ้วของลูกพี่ลูกน้องเขาไป และก็เห็นหลินหว่านชิงความประทับใจแรกของเขาคือตะลึงกับความงามและความสูงศักดิ์ของหลินหว่านชิงเมื่อมองอีกแวบหนึ่ง หน้าเขาถึงกับถอดสี และมีเหงื่อเย็นไหลซึมออกมาจากหน้าผากเขาหลินหว่านชิงไม่ค่อยปรากฏตัวในที่สาธารณะ เธอเป็นคนสวยและรวยในแวดวงที่ไม่ค่อยปรากฏตัว น้อยคนนักที่รู้จักเธอไต้เหว่ยเองก็ไม่น่าจะรู้จักคุ้นเคยกับหลินหว่านชิงแต่ตระกูลหลินมีธุรกิจขนาดใหญ่และมีอุตสาหกรรมมากมายที่อยู่ภายใต้การดูแล เมื่อตระกูลหลินต้องการให้ดูแลต้อนรับแก่แขกผู้มีเกียรติ หรือลูกค้ารายใหญ่ของบริษัท พวกเขามักจะจัดให้พักที่โรงแรมแกรนโนเบิลเสมอไต้เหว่ยรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้พบกับหลินหว่านชิงในครั้งนี้เขานึกถึงเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของหลินหว่านชิงได้ในทันทีตอนนี้ไต้เหว่ยตกใจมากเสียจนแข้งขาของเขาอ่อนแรง จนแทบจะทรุดลงไปคุกเข่ากับพื้นพวกเขาไม่กล้ามีเรื่องกั
หลังจากคิดเหลวไหลไปเรื่อย ฉินหมิงก็ได้สติกลับมาทันทีเขาเดินไปหาหลินหว่านชิง ดึงแขนเธอเบา ๆ และกระซิบว่า "หลิน...หลินหว่านชิงช่างเถอะ ผมชินแล้วล่ะ..."หลินหว่านชิงปวดใจ เธอสัมผัสได้ถึงความขมขื่นและปวดใจในคำพูดของฉินหมิง เช่นเดียวกับความน้อยเนื้อต่ำใจของตัวเขาเอง“คุณหลิน ทั้งหมดนี่เป็นความผิดของเสี่ยวเหม่ย ผมจะลงโทษเธอในภายหลังเอง โปรดเมตตาให้โอกาสเธอได้ปรับปรุงตัวเองด้วยนะครับ”ไต้เหว่ยกล่าวอย่างจริงใจเขาเริ่มต้องโหดร้ายขึ้นมาบ้างแล้ว ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เขาไม่อาจเมินเฉยต่อปัญหาของเสี่ยวเหม่ยได้อีกแล้ว แม้ว่าครั้งนี้เขาจะรอดไปได้ ครั้งหน้าเขาอาจจะถูกเสี่ยวเหม่ยพาซวยไปจนตายก็ได้ใครจะไปรู้!"ลุกขึ้น!"“เห็นแก่เพื่อนของฉันที่ขอร้องให้เธอ ฉันจะให้โอกาสเธอ ฉันหวังว่าเธอจะปรับปรุงตัวได้!”หลินหว่านชิงจิ๊ปากอย่างเย็นชาให้อภัยได้ก็ให้อภัยเถอะเธอไม่ชอบใช้ฐานะของเธอข่มเหงคนอื่น เธอไม่อยากเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป“ขอบคุณคุณหลิน ขอบคุณคุณมากค่ะ…”เสี่ยวเหม่ยรู้สึกเหมือนได้รับการยกโทษแล้ว ถึงกล้าลุกขึ้นยืน หลังของเธอเหงื่อเย็นไหลซึมจนเปียกโชกไปในเวลานี้แขกจำนวนมากโดยรอบต่างตื่นตระห
“แต่ว่านะฉินหมิง เมื่อคืนนี้ฉันเห็นคนร้ายเอามีดแทงนาย”“บาดแผลนาย...ไม่เป็นไรแล้วเหรอ?”“ไปตรวจที่โรงพยาบาลหน่อยดีไหม?”หลินหว่านชิงถามด้วยความกังวลเมื่อคืนเธอเห็นอยู่กับตาว่าฉินหมิงถูกคนร้ายใช้มีดแทงเข้าที่หน้าอกแต่ที่แปลกก็คือ ตอนนี้ฉินหมิงกลับสบายดีราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นนี่ยิ่งทำให้เธอสงสัยว่า ที่เห็นตอนนั้นเธอมองผิดไปหรือเปล่า?"ไม่เป็นไร"“ไม่ได้เจ็บหนักอะไรมากมาย”ฉินหมิงยกมือลูบหน้าอกของเขาโดยไม่รู้ตัวแต่บังเอิญโดนแผลเข้า มันเจ็บจนเขาเผลอขมวดคิ้วส่งเสียงโอดโอยออกมา"เกิดอะไรขึ้น?"“เจ็บมากไหม?”“ไปโรงพยาบาลดีไหม!”หลินหว่านชิงผุดลุกขึ้นอย่างกะทันหัน ท่าทางดูร้อนใจ"มันไม่เจ็บมากหรอก"“ก็แค่เจ็บนิดหน่อย เดี๋ยวก็หายแล้ว”“ไม่จำเป็นต้องไปโรงพยาบาลก็ได้”ฉินหมิงลูบแผลอีกสองสามครั้ง และความเจ็บปวดก็ค่อย ๆ บรรเทาลงเขาอยากถอดเสื้อออกเพื่อดูอาการบาดเจ็บ แต่ต่อหน้าหลินหว่านชิงเขารู้สึกเขินอายขึ้นมา“ถอดเสื้อให้ฉันดูหน่อย อาการบาดเจ็บของนายเป็นยังไงบ้าง”หลินหว่านชิงยังคงรู้สึกกังวล"แบบว่า..."ฉินหมิงเลิ่กลั่กมาก เขาอายที่จะถอดเสื้อผ้าต่อหน้าผู้หญิง“ถอดออก
“ถ้าฉันไม่มา ฉันจะรู้ได้อย่างไรว่าแกไปเก็บผู้ชายข้างทางที่ไหนมาเลี้ยงในบ้าน!”ชายวัยกลางคนด่าด้วยสีหน้าเย็นชา“ผู้ชายข้างทางที่ไหนกัน!”“ทำไมพูดจารุนแรงขนาดนี้ล่ะค่ะ!”“ฉินหมิงเป็นเพื่อนของหนู เราไม่ได้เป็นอะไรกัน!”หลินหว่านชิงไม่พอใจมากที่พ่อพูดแบบนี้“ท่าทางพวกแกสองคนเป็นแบบนั้น แต่แกยังพูดว่าไม่มีอะไรได้อีกเหรอ?”“น่าขำจริง!”“หลินหว่านชิงช่วยรู้สึกละอายใจหน่อยสิ นี่มันกลางวันแสก ๆ นะ? ทำไมไม่ไปทำที่สวนล่ะ!”หญิงงามกล่าวด้วยรอยยิ้มเหน็บแหนม"ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของเธอ!"“ฉันอยากทำอะไรก็เรื่องของฉัน ไม่ใช่กงการของเธอที่ต้องมาสาระแนสั่งฉัน!”หลินหว่านชิงจ้องมองด้วยความโกรธ บรรยากาศอึมครึมระหว่างทั้งสองก็เริ่มขึ้นทันที“เถิงฮุ่ย ดูเธอสิ!”“ไม่รู้จักเด็กไม่รู้จักผู้ใหญ่ แบบนี้มันสมควรหรือคะ!”หญิงสาวเขย่าแขนของชายวัยกลางคนอย่างออดอ้อนด้วยสีหน้าเสแสร้ง“หว่านชิง เป็นอะไรกันแน่?”“ยังไงไป๋จิงเป็นแม่ของแกนะ ทำไมถึงพูดกับเธอแบบนี้!”หลินเถิงฮุ่ยดุ“เธอไม่ใช่แม่ของหนู!”“แม่ของหนูเสียชีวิตไปแล้วเมื่อยี่สิบปีก่อน!”“เธอเป็นเพียงนังจิ้งจอกที่เป็นเมียน้อย มีคุณสมบัติอะไรถึง
แต่ฉินหมิงรู้ว่าเงินนั้นไม่ใช่ของเขา เขารับมันไว้ไม่ได้หรอก“เงิน เงินอีกแล้ว เงินมันวิเศษมากนักรึไง!”"หนูบอกไปแล้วไงว่าชอบฉินหมิง ถ้าไม่ใช่เขาชีวิตนี้หนูจะไม่มีวันแต่งงานเด็ดขาด!"“ตราบใดที่หนูยังไม่ตาย พ่อไม่มีวันพรากเราสองคนแยกจากกันได้!”หลินหว่านชิงพูดด้วยความโกรธตั้งแต่แม่จากไป ตั้งแต่เด็กจนโตเธอไม่เคยได้สัมผัสความรักจากพ่อ เมื่อไรก็ตามที่เธอต้องการพ่อ พ่อก็เอาแต่ประเคนเงินให้เธอ เธอทนมาพอแล้ว!"เธอ...""ดี ดีมาก!"“ฉันจะไปหาปู่แกเดี๋ยวนี้!”หลินเถิงฮุ่ยโกรธจนหน้าเขียว เขาสะบัดแขนหันหลังเดินกลับไปในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ความบาดหมางระหว่างเขากับลูกสาวยิ่งร้าวฉานมากขึ้น และความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูกก็ตึงเครียดมากขึ้นเรื่อย ๆ นอกจากนี้ ลูกสาวของเขาเติบโตขึ้นมีบริษัทและธุรกิจเป็นของตัวเอง เขาอยากจะควบคุมเธอ แต่ก็ไม่สามารถควบคุมเธอได้แล้วคนเดียวในครอบครัวที่สามารถโน้มน้าวลูกสาวให้เปลี่ยนใจได้น่าจะเป็นพ่อเขาเท่านั้นเมื่อหลินเถิงฮุ่ยและคู่เขาจากไปแล้ว สีหน้าหลินหว่านชิงก็ดูแย่มาก เธอทรุดตัวลงบนโซฟาฉินหมิงอ้าปาก เขาอยากจะปลอบหลินหว่านชิง แต่เขาพูดไม่เก่งและไม่รู้ว่าจะพู
ในตอนนี้ นอกจากนายท่านหลินแล้ว ยังมีหลินเถิงฮุยและไป๋จิงนั่งอยู่ข้าง ๆ เขาในห้องโถงด้วยหลินเถิงฮุ่ยมองฉินหมิงอย่างเย็นชา เนื่องจากสิ่งที่เกิดขึ้นในวิลล่า ทำให้ความประทับใจครั้งแรกของเขาที่มีต่อฉินหมิงเลวร้ายมากตรงกันข้ามทัศนคติของนายท่านหลินที่มีต่อเขานั้นเป็นมิตรมาก เขาสั่งให้คนรับใช้ยกน้ำชามาให้ฉินหมิงโดยไม่ดูถูกหรือเมินเฉยเลยแม้แต่น้อย“คุณปู่ หนูแนะนำให้ปู่รู้จักนะคะ นี่ฉินหมิง เมื่อคืนนี้เขาบังเอิญช่วยหนูไว้…”หลินหว่านชิงเล่าให้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง“พ่อหนุ่มฉิน ขอบคุณมากที่ช่วยชีวิตหลานสาวของฉันไว้ ตระกูลหลินของเราจะจดจำบุญคุณนี้ไว้อย่างแน่นอน!”“ดังที่คำโบราณกล่าวไว้ว่า บุญคุณแม้เพียงน้ำหยด ก็ควรตอบแทนให้ได้ดั่งสายธาร!”“บอกฉันมาว่าเธออยากได้อะไร แล้วตระกูลหลินของเราจะพยายามอย่างเต็มที่ให้เธอพึงพอใจ”นายท่านหลินยิ้มอย่างอบอุ่น“ไม่ครับ ผมไม่ต้องการอะไร...”ฉินหมิงส่ายหน้าเขาช่วยหลินหว่านชิงเมื่อคืนนี้ด้วยคุณธรรมประจำใจของเขา เขาไม่เคยคิดอยากได้อะไรตอบแทนเลย นอกจากนี้สำหรับสิ่งตอบแทนนั้น เขาเองก็ได้มาแล้วหลินหว่านชิงได้สั่งสอนบทเรียนอย่างหนักหน่วงให้ซุนกวนฉงที่อ
ในแง่ของสถานะ ภูมิหลัง หรือฐานะความร่ำรวยครอบครัวของฉีเหวินเจิ้งนั้นย่อมด้อยกว่าตระกูลใหญ่อย่างตระกูลหลิน แต่ในแง่ของชื่อเสียงและสถานะเขาไม่ได้ด้อยไปกว่านายท่านหลินเลยแม้แต่น้อยท้ายที่สุดแล้ว ทุกคนก็ย่อมต้องเจ็บป่วย คุณฉีได้รับการยอมรับว่าเป็นแพทย์อันดับหนึ่งในเมืองเจียงเฉิน คนรวยมีอำนาจหลายคนในแวดวงขอให้เขาไปตรวจและให้ความเคารพเขาเป็นอย่างยิ่ง“คุณหลินครับ ขอโทษที่มารบกวน ผมอยากตรวจคุณอีกครั้ง…”คุณฉีประสานมือคารวะทักทายอย่างยิ้มแย้มครึ่งเดือนที่ผ่านมา คุณหลินล้มป่วยกะทันหัน มีอาการเจ็บหน้าอกและหายใจลำบากหลังจากนั้นคุณฉีก็มารักษาอาการของคุณหลินทั้งสองฝ่ายตกลงจะตรวจซ้ำอีกครั้งในครึ่งเดือน หากไม่พบปัญหาระหว่างการตรวจซ้ำใหม่อีกแสดงว่าอาการหายขาดแล้ว"คุณฉี งั้นก็รบกวนคุณแล้ว"“คุณหลิน เกรงใจไปแล้ว นี่คือสิ่งที่สมควรแล้ว”หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายแลกเปลี่ยนทักทายกันอย่างสุภาพง่าย ๆ ครู่หนึ่งคุณฉีก็ผายมือให้นายท่านหลินนั่งลง จากนั้นเขาก็เริ่มตรวจชีพจรของนายท่านหลิน และพลางดูสีผิวหน้าของนายท่านหลินด้วยสีหน้าของเขาค่อย ๆ จริงจังขึ้นหลินเถิงฮุ่ยใจเต้นระรัว และเขาก็อดถามไปไม่ได้ว่
บรรพบุรุษตระกูลฉินทิ้งความรู้ไว้ให้เขาอย่างกว้างขวางมาก แถมยังรวมถึงสูตรลับบางอย่างในการกระตุ้นศักยภาพของร่างกายมนุษย์ด้วย สูตรลับเหล่านี้เกี่ยวข้องกับทักษะทางการแพทย์และได้รับการบันทึกอย่างละเอียดสำหรับยาปราณแท้ ปัจจุบันเขามีสำรองอยู่อีกหลายเม็ดตอนนี้ทั้งสองอย่างล้วนพร้อมแล้ว เขาต้องการช่วยเฝิงเจิ้นฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธไปให้ได้ นี่ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย!“ลุงเฝิง ผมบอกความจริงกับคุณก็แล้วกัน แม้ว่าผมจะไม่แน่ใจว่าสามารถช่วยคุณทะลวงไปสู่ระดับราชาแห่งสงครามได้หรือไม่ แต่ผมจะพยายามลองอย่างเต็มที่ โอกาสที่จะประสบความสำเร็จน่าจะสูงมาก ... "ฉินหมิงพูดอย่างจริงใจ“ลองดู?”“การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ เรื่องแบบนี้จะลองสุ่มสี่สุ่มห้าได้อย่างไร หากมีสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ผลที่ตามมาอาจเป็นหายนะ!”เฝิงเจิ้นตกใจยิ่งกว่าเดิมในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่า ฉินหมิงกำลังพูดเรื่องไร้สาระและต้องการใช้เขาเป็นหนูทดลองหากเป็นเรื่องอื่นก็เอาเถอะ เขาคงสามารถให้ความร่วมมือกับฉินหมิงได้ แต่การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธเป็นสิ่งสำคัญ หากไม่ระวังอาจกลายเป็นบ้าได้ง่าย ๆ หรือแม้แต่สูญเสียทักษ
เดิมทีระดับการบ่มเพาะของลี่ตั๋วไห่นั้นทัดเทียมกับเขา ทั้งสองอยู่ในระดับของครึ่งก้าวราชาสงคราม ต่างคนต่างไม่สามารถทำอะไรกับอีกฝ่ายได้แต่ตอนนี้ความแข็งแกร่งของลี่ตั๋วไห่แซงหน้าเขาไปแล้ว ต่อไปนี้มันยากมากสำหรับเขาที่จะสู้กับลี่ตั๋วไห่ได้!ชั่วขณะหนึ่ง เขารู้สึกถึงวิกฤตที่รุนแรงมาก แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้“บางทีลี่ตั๋วไห่อาจโชคดีมากกว่า...”ฉินหมิงฉุกคิดได้ และดูเหมือนเขาจะเข้าใจอะไรบางอย่างอย่างคลุมเครือเขาเคยสงสัยมาก่อนตอนที่อยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ว่าลี่ตั๋วไห่สามารถฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ์ได้อย่างง่ายดาย นี่อาจมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับการปล้นเจิ้งอวี่ มิฉะนั้นลี่ตั๋วไห่จะไม่สร้างศัตรูที่แข็งแกร่งอย่างตระกูลเจิ้งเพียงเพื่อยาปราณแท้แค่สามเม็ดแน่ตอนนี้เขาคิดเชื่อมโยงกันเล็กน้อย ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าลี่ตั๋วไห่อาจจะสามารถทะลวงเข้าไปในระดับของราชาสงครามได้โดยใช้ยาปราณแท้สามเม็ดนี้!นี่ไม่ใช่ประเด็น ประเด็นก็คือในฐานะคนหลอมยาปราณแท้ เขาเข้าใจคุณสมบัติของยาปราณแท้มากกว่าใคร ๆ ในเมื่อแม้แต่ลี่ตั๋วไห่ก็มีสิทธิ์พึ่งพายาปราณแท้เพื่อกลายเป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งในระดับราชาสงคราม ถ้าอย่
ตอนนี้เขาสะบักสะบอมมาก มันเจ็บไปทั้งหัวใจ และเขาคิดอยากลบความรู้สึกที่มีต่อหลินหว่านชิงออกไปให้หมดสิ้น แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง!เขาจะกลับไปคบหลินหว่านชิงอีกครั้งได้อย่างไร!“ฉินหมิง คุณใจร้ายกับฉันได้ขนาดนี้เลยเหรอ?”หลินหว่านชิงกัดริมฝีปากแล้วมองฉินหมิงด้วยใบหน้าเศร้า เธอพยายามกลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้ไหลลงมา“ไม่ได้ใจร้าย เพียงแต่ว่าโชคชะตาระหว่างเราสองคนจบลงแล้ว!”“ถ้าคุณเต็มใจ เราก็ยังเป็นเพื่อนกันต่อไปได้ แต่เรื่องความรู้สึกให้มันจบลงเพียงเท่านี้เถอะ!”ฉินหมิงพูดอย่างใจเย็น“ได้ คุณพูดแบบนี้เอง คุณอย่าเสียใจภายหลังก็แล้วกัน!”หลินหว่านชิงรู้สึกเหมือนคนอกหัก เมื่อต้องเผชิญกับความไร้เยื่อใยและความเมินเฉยของฉินหมิง เธอไม่มีความกล้าพอที่จะอยู่ตรงนี้อีกต่อไป เธอจึงหันหลังกลับและวิ่งหนีไปทันทีที่เธอหันหลังมา หยดน้ำตาก็ไหลลงอาบแก้มของเธออย่างเงียบ ๆ “ฉินหมิง ไอ้สารเลว!”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยโกรธมาก เธอจ้องมองไปที่ฉินหมิงด้วยสายตาเกลียดชัง จากนั้นก็วิ่งตามไปยังทิศทางของหลินหว่านชิง“ฉินหมิง คุณดูแลตัวเองให้ดี ๆ เถอะ!”หานซีเหลือบมองฉินหมิงด้วยสีหน้าซับซ้อน จากนั้นเธอและไล่ตามเซี
ฉินหมิงตกใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ“แน่นอนว่านายไม่รู้!”“ครั้งที่แล้ว พี่ไปที่หมิงเหยากรุ๊ปเพื่อไปง้อนาย แต่เธอถูกซูซินเหยาหลอกให้คิดว่านายกับซูซินเหยาคบกันแล้ว…”“ผู้กระทำผิดทั้งหมดนี้ก็คือซูซินเหยา ถ้าเธอไม่เข้ามาขวางทาง พี่คงไม่ได้รับข้อมูลผิด ๆ จากเธอและไม่ทำร้ายนายครั้งแล้วครั้งเล่า…”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดด้วยความโกรธ และเธอก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างคร่าว ๆหลังจากฟังแล้ว ฉินหมิงมีสีหน้าประหลาดใจและไม่แน่ใจ จากนั้นเขาก็มองซูซินเหยาด้วยดวงตาที่ลุกเป็นไฟและถามว่า "ซินเหยา สิ่งที่เสี่ยวเตี๋ยพูดเป็นความจริงหรือเปล่า?"“ฉัน...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาเปลี่ยนเป็นสีแดง เธออ้าปากพูด แต่ก็พูดไม่ออกท้ายที่สุดแล้ว เรื่องนี้เป็นความผิดของเธอจริง ๆ เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยไม่ได้กล่าวหาเธอ และเธอก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร“ทำไมต้องโกหกผม?”สีหน้าของฉินหมิงมืดลงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาที่จะเดาจากปฏิกิริยาของซูซินเหยาว่า สิ่งที่เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดนั้นเป็นเรื่องจริง!“ฉินหมิง ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะโกหกคุณ…”“ฉันก็แค่ชอบคุณมาก และไม่อยากเสียคุณไป ฉันจึงตัดสินใจทำมันลงไป...”ดวงตาขอ
ในขณะนี้ เขายังสงบสติอารมณ์ไม่ได้ และความตั้งใจอันแน่วแน่ดั้งเดิมของเขาก็อดไม่ได้ที่จะสั่นคลอนเล็กน้อย“ฉินหมิง คุณอย่าตอบตกลงเธอนะ...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาซีดลง เธอมองไปที่ฉินหมิงด้วยความกังวลเธอรับรู้ความรู้สึกของฉินหมิงที่มีต่อหลินหว่านชิง และเธอก็เห็นว่าฉินหมิงหวั่นไหว หากไม่ผิดคาด ฉินหมิงน่าจะทิ้งเธอไปแล้วกลับไปหาหลินหว่านชิงเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เธอรู้สึกเศร้ามาก และใจของเธอก็ค่อย ๆ จมลงสู่ก้นบึ้งเมื่อเห็นสีหน้าเศร้าสร้อยของซูซินเหยา ฉินหมิงก็ตื่นขึ้นมาทันทีราวกับว่าถูกสาดหน้าด้วยน้ำเย็นหากเป็นเมื่อก่อน เขาอาจจะตกลงที่จะกลับไปคืนดีกับหลินหว่านชิงแต่ตอนนี้ เขาได้ตกลงที่จะหมั้นกับซูซินเหยาแล้ว และเมื่อสักครู่นี้ยังให้สัญญากับซูซินเหยาอีกด้วย!หากเขายกเลิกงานหมั้นในเวลานี้ ไม่ต้องคิดเลยว่าจะทำให้ซูซินเหยาเสียใจมากแค่ไหน!ไม่ชอบสิ่งใด ก็อย่าได้ทำสิ่งนั้นกับคนอื่นตอนที่เขากับหลินหว่านชิงเลิกกัน เขาได้สัมผัสรสชาติความเจ็บปวดด้วยตัวเอง มันเป็นความเจ็บปวดที่จดจำไว้ในใจไม่ลืมเลือน เจ็บจนเจียนตายในเมื่อแม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่ชอบความเจ็บปวดแบบนี้ เขาจะใจร้ายทำร้ายซูซินเห
“ผมไม่เป็นไร แค่บาดเจ็บนิดหน่อย...”ฉินหมิงยิ้มเบา ๆแม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหลินหว่านชิงจะทะเลาะกันจนค่อนข้างไม่มีความสุข แต่หานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขามาก เขาถือว่าหานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยเป็นเพื่อนที่ดีมาโดยตลอดเขารู้สึกอบอุ่นหัวใจเป็นอย่างมากเมื่อเห็นเพื่อนทั้งสองแสดงความเป็นห่วงเขา“ฉินหมิง ฉันขอโทษ เป็นฉันเองที่ทำร้ายคุณ”หลินหว่านชิงพูดด้วยท่าทางรู้สึกผิด“ไม่เป็นไร ทั้งหมดเป็นความสมัครใจของผมเอง...”ฉินหมิงแสร้งทำเป็นฝืนยิ้มความรักคือการให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เขาเสียสละมากมายเพื่อหลินหว่านชิงอย่างเต็มใจ ไม่สามารถโทษผู้อื่นได้“คุณหนูใหญ่หลิน คุณมาหาผมมีธุระอะไรเหรอ?”ฉินหมิงถามตรงประเด็น แม้แต่ชื่อน่ารัก ๆ ที่เขาใช้เรียกหลินหว่านชิงก็ได้เปลี่ยนไปแล้วในเมื่อตอนนี้เขาตัดใจจากหลินหว่านชิงแล้ว และกำลังจะหมั้นกับซูซินเหยา เขาควรขีดเส้นความสัมพันธ์ให้ชัดเจนกับหลินหว่านชิงและพยายามรักษาระยะห่าง นี่เป็นหน้าที่อย่างหนึ่งที่สมควรทำเมื่อได้ยินชื่อเรียกที่ไม่คุ้นเคยออกมาจากปากฉินหมิง หลินหว่านชิงก็รู้สึกเจ็บแปลบในใจแต่เธอรู้ว่าทั้งหมดน
ฉินหมิงเป็นคู่แข่งทางความรักที่ใหญ่ที่สุดของเขา ขอแค่ฉินหมิงและหลินหว่านชิงคืนดีกันไม่สำเร็จในครั้งนี้ เขาก็สามารถใช้โอกาสจากเรื่องนี้เข้าไปอยู่ในหัวใจของหลินหว่านชิงได้ง่ายขึ้น!แค่ได้คิดก็มีความสุขมาก!......คฤหาสน์ตระกูลซูแขนข้างหนึ่งของฉินหมิงถูกพันด้วยผ้าพันแผล เขานอนอยู่บนเตียงเพื่อพักฟื้นอยู่ในห้องเพราะเขากินยามังกรซ่อนไปหนึ่งเม็ดตอนอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ตอนนี้เขาจึงอยู่ในระยะอ่อนแอ ร่างกายไร้เรี่ยวแรงข้างเตียงซูซินเหยาดูแลฉินหมิงอย่างดี ในมือถือชามยาบำรุงพลังร่างกาย เธอป้อนยาให้ฉินหมิงด้วยรอยยิ้มที่มีความสุขบนใบหน้าอันงดงามของเธอคนเราจะมีความสุขเมื่อได้อยู่กับคนที่เรารัก เธอรอคอยฉินหมิงมาเป็นเวลานาน ในที่สุดวันที่ยากลำบากผ่านพ้นไป วันที่หวานชื่นก็มาถึง ได้กลับมาอยู่ด้วยกันกับฉินหมิงสมใจปรารถนาใครก็ยากที่จะจินตนาการถึงความสุขในใจของเธอได้!หลังจากกลับมาจากคฤหาสน์ตระกูลหลิน ใบหน้าที่สวยงามของเธอก็ไม่เคยหยุดยิ้มได้เลย…ในขณะนี้ มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของตระกูลซูนายหนึ่งเดินเข้ามาจากด้านนอกอย่างรวดเร็ว“คุณหนูใหญ่ ข้างนอกมีผู้หญิงคนหนึ่
“สรุปก็คือหนูจะไปหาเขาตอนนี้และอธิบายเรื่องทุกอย่างให้ชัดเจน บางทีนี่อาจจะเอาชนะใจเขากลับมาได้!”หลินหว่านชิงพูดอย่างหนักแน่นพูดจบเธอก็หันหลังแล้วเดินออกไป“ไม่ได้ ลูกจะไปไม่ได้!”“เรื่องของฉินหมิงเป็นเรื่องอดีตไปแล้ว ลูกควรมองไปข้างหน้า ตอนนี้หลานเค่ออั๋งคือตัวเลือกที่ดีที่สุดของลูก!”หลินเถิงฮุ่ยหมุนรถเข็นของเขาและรีบไปหยุดหลินหว่านชิงไว้ในความเป็นจริง เหตุผลที่เขาห้ามหลินหว่านชิงก็เพราะว่าฉินหมิงกำลังจะหมั้นหมายกับซูซินเหยา และเนื่องจากเค่ออั๋งชอบหลินหว่านชิงมากแม้ว่าฉินหมิงจะมีความสามารถที่ยอดเยี่ยม แต่ฉินหมิงก็เป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ไร้อำนาจบารมี หากฉินหมิงจะเต็มใจที่จะกลับมาคืนดีกับหลินหว่านชิงจริง ๆ มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเขาในการกลับไปสู่วงศ์ตระกูลแต่เค่ออั๋งนั้นแตกต่างออกไป หากหลินหว่านชิงยอมรับเค่ออั๋งด้วยพลังยุทธและรากฐานของตระกูลเค่อ การช่วยให้เขายึดอำนาจของตระกูลกลับคืนมาคงไม่ใช่เรื่องยากอย่างแน่นอน!“พ่อ ก่อนหน้านี้พ่อทำเพื่อประโยชน์ของตระกูล จึงเข้ามาก้าวก่ายเรื่องระหว่างหนูกับฉินหมิง อย่างไม่ลังเล และท้ายที่สุดหนูก็ทำร้ายฉินหมิงครั้งแล้วครั้งเล่า...”“ตอนนี้พ่
การให้ความช่วยเหลือในเวลาที่ต้องการเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด ตอนนี้หลินหว่านชิงและพ่อของเธอกำลังประสบปัญหา จุดประสงค์ของการมาที่นี่คือการถือโอกาสแสดงความเป็นสุภาพบุรุษต่อหน้าหลินหว่านชิงในตอนที่พวกเขาต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด และหวังว่าจะได้รับความโปรดปรานจากเธอ!ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์แล้วว่าเขามาทันเวลา เมื่อสักครู่นี้เขาเป็นพระเอกขี่ม้าขาวและช่วยหลินหว่านชิงให้รอดพ้นจากอันตราย ความประทับใจที่ไม่ดีต่อเขาในอดีตก็เปลี่ยนไปมากเช่นกัน“คุณอยากช่วยเราเหรอ?”หลินเถิงฮุ่ยรู้สึกประหลาดใจและตื่นเต้นตระกูลเค่อเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของเมืองเจียงเฉิง ที่มีพลังยุทธและรากฐานที่ทรงพลังมาก หากเขาได้รับความช่วยเหลือจากเค่ออั๋งและตระกูลเค่อได้ มันจะเป็นเรื่องง่ายขึ้นมากสำหรับเขาและหลินหว่านชิงที่จะกลับคืนสู่ตระกูลหรือยึดอำนาจของตระกูลคืนมา!“ใช่แล้ว!”“ลุงหลิน ตราบเท่าที่คุณต้องการความช่วยเหลือจากผม ผมจะพยายามอย่างดีที่สุดและทำอย่างเต็มที่!”เค่ออั๋งพูดเสียงดังฉะฉาน“ดี เยี่ยมมาก!”“หลานเค่ออั๋ง หากคุณสามารถช่วยฉันกับหว่านชิงกลับคืนสู่ตระกูลหลินได้ เราสองพ่อลูกจะขอบคุณอย่างยิ่ง!”หลินเถิงฮ