ปีนี้ฉินหมิงอายุได้ยี่สิบหกปี เขาขึ้นชื่อว่าเป็นลูกเขยที่มีชื่อเสียงเลวร้ายที่สุดในเมืองเจียงเฉิงหลังจากแต่งงานเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาได้สามปี ในสามปีมานี้เขาก็ไม่ต่างจากเป็นทาสของตระกูลหม่าเลยสักนิด ทั้งหาบน้ำล้างเท้า ไม่มีศักดิ์ศรีเลยแม้แต่น้อย แต่เมื่อคืนในที่สุดเขาก็ระเบิดออกมา!ในช่วงสามปีที่ผ่านมา ตลอดทั้งวันเขาทำงานเหมือนวัวเหมือนควายในบริษัทของตระกูลหม่า เงินเดือนของเขาก็ถูกนำไปให้กับหม่าลู่ภรรยาของเขา ที่เขาไม่อาจแตะเนื้อต้องตัวเธอได้ เมื่อเขากลับบ้านตอนเย็น เขายังต้องซักผ้า ถูพื้น ทำอาหาร ฯลฯ เขาทำงานบ้านทั้งหมดโดยไม่ปริปากบ่นเดิมทีเขาคิดว่าสิ่งนี้จะทำให้ภรรยาของเขาประทับใจและทำให้เธอรักเขาไปชั่วชีวิต แต่สิ่งที่เขาได้กลับมาจากภรรยาของเขากลับเป็นของขวัญชิ้นใหญ่!เด็ก!ใช่แล้ว!ฟังไม่ผิดหรอก ภรรยาที่เขาไม่กล้าแตะต้องมาตลอดสามปีกำลังตั้งท้อง!และเขาจะได้เป็นพ่อคนแล้ว!ช่างน่ายินดีจริง ๆ!“ฉินหมิง ให้แกซักเสื้อผ้าให้สะอาดยังทำไม่ได้เลย ให้ถูพื้นให้สะอาดก็ทำไม่ได้!”“คนไร้ประโยชน์อย่างแกจะทำอะไรได้อีก!”“บ้านเราเลี้ยงแกไว้จะมีประโยชน์อะไร? เลี้ยงสุนัขก็ยังดีกว่าแกซะอีกมั้ง
หลังจากไหว้หลุมศพนายท่านหม่าแล้ว ฉินหมิงก็ออกจากสุสานทันที ที่ทางเข้าสุสานเขาเห็นสาวสวยสวมชุดทำงานที่มีรูปร่างยั่วยวนเป็นอย่างมาก ตอนนี้ฉินหมิงรู้สึกสงสัยว่าดึกดื่นแล้วทำไมเธอไม่หลับไม่นอน กลับมายืนอยู่ที่ทางเข้าสุสานแถมแต่งเต็มขนาดนั้น จึงอดมองอยู่สักพักไม่ได้คนสวยดูท่าทางไม่พอใจและพึมพำบางอย่างอย่าง "เหม็นกลิ่นคนจน" หรืออะไรทำนองนั้นในเมื่อก่อนฉินหมิงที่ได้ยินก็ไม่ได้ยี่หระอะไรอยู่แล้ว แต่วันนี้เขาเพิ่งกลายเป็นพ่อคน และยังถูกไล่ออกจากบ้านอีก ฉินหมิงรู้สึกไม่พอใจและอยากระบายออกมา เขารู้สึกหัวร้อนขึ้นมาทันที จึงเดินไปหาสาวสวยคนนั้นแล้วพูดอะไรบางอย่าง“เฮ้ ออกมายืนรับแขกแต่วันเลยเหรอ? คืนเท่าไรล่ะ? วันนี้ฉันอารมณ์ดีนะ!”อันที่จริงฉินหมิงไม่มีเงินอยู่ในกระเป๋าสักแดง ฉินหมิงพูดไปพลางเสียงสั่นไปเล็กน้อย เขากังวลว่าถ้าผู้หญิงคนนี้ทำอาชีพอย่างว่าจริง ๆ เขาก็ไม่มีเงินจะจ่ายโชคดีที่หลังจากได้ยินแล้ว สาวสวยก็มีสีหน้าไม่สบอารมณ์และจ้องฉินหมิงเขม็งโชคดีไปที่เธอไม่ใช่อย่างว่าฉินหมิงแอบถอนหายใจด้วยความโล่งอกวันนี้ฉินหมิงก็ถูกตระกูลหม่าทำให้โกรธไม่น้อย และสภาพอารมณ์ของเขาก็แย่อย่างถึงท
นี่คือสุสานซึ่งอยู่ห่างไกลลับตาผู้คนมากอยู่แล้ว!จะต้องมีผีเร่ร่อนอยู่แน่ ๆ แต่ฉินหมิงเล่าว่ามีหมาป่าอยู่แถวนี้ แล้วสาวสวยเพิ่งขึ้นมาจากน้ำยังเปียกปอนไปหมด แถมได้รับบาดเจ็บเดินได้ไม่ไกลด้วย ดึกขนาดนี้หนำซ้ำที่นี่ยังอยู่ไกลจากถนนอีก ไม่มีใครมาช่วยเธออยู่แล้ว ผู้หญิงที่ไม่มีทั้งกุญแจรถหรือโทรศัพท์มือถือ ค้างคืนที่นี่แบบนี้ไม่แย่ยิ่งกว่าเหรอ?และนี่คือสิ่งที่ฉินหมิงลงโทษเธอ!ลงโทษเธอที่จำหลี่ต้งปินไม่ได้ฉินหมิงเดินจากไปไกลแล้ว“ไอ้บ้า นายมันบ้า! นาย นายอย่าทิ้งกันแบบนี้สิ!”สาวสวยไล่ตามฉินหมิงไปสักพัก แต่เธอก็ตามไม่ทันอยู่ดี เธอโกรธฉินหมิงและด่าสาปส่งอย่างหยาบคาย แต่รู้สึกลำบากใจเหลือเกิน ไม่คาดคิดเลยว่าคุณหนูใหญ่ผู้สง่างามอย่างหลินหว่านชิงจะถูกคนธรรมดาสามัญรังแกกันได้ขนาดนี้“ไอ้บ้า! อย่าให้รู้นะว่านายเป็นใคร ฉันไม่ปล่อยนายไว้แน่!”หลินหว่านชิงตะโกนเสียงดังผลที่ตามมาคือทันทีที่เธอพูดถ้อยคำเหล่านั้น ฉินหมิงที่รู้สึกไม่สบอารมณ์ทนไม่ไหวอยู่บ้างแล้วก็ยิ่งเมินเฉยใส่เธอแบบไร้น้ำใจมากขึ้นเมื่อเห็นว่าฉินหมิงหายไปจากสายตา หลินหว่านชิงร้องไม่ออก รองเท้าส้นสูงของเธอหัก เธอเปียกโชกไปทั้
หลังจากที่ฉินหมิงฟื้นคืนชีพขึ้นมา ก็ดูเหมือนมีเรี่ยวแรงอย่างมหาศาล แม้ว่าจะยังควบคุมไม่ได้แต่ก็มากเกินพอที่จะจัดการกับนักฆ่าธรรมดาสองคนได้ ดังนั้นฉินหมิงจึงฉวยโอกาสที่นักฆ่าอึ้งอยู่ไม่ทันได้โต้ตอบ พุ่งเข้าไปต่อสู้กอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอย่างดุเดือด จนกลิ้งลงไปในน้ำด้วยกันแบบนี้เป็นการลากให้ไปตายด้วยกันไม่ใช่เหรอ?แววตาของหลินหว่านชิงเต็มไปด้วยความสับสน แม้ว่าผู้ชายคนนี้จะน่าเกลียดจริง ๆ แต่พวกเขาเพิ่งพบกันโดยบังเอิญ เขาเต็มใจที่จะตายเพื่อเธอเหรอ?ตอนนี้หลินหว่านชิงขาอ่อนแรงไปหมด เธอปีนขึ้นไปริมฝั่ง อารมณ์ภายในใจของเธอซับซ้อนมาก เธออยากให้ฉินหมิงปีนขึ้นมา แต่เธอก็ไม่อยากให้เขาขึ้นมาเช่นกัน เพราะเขาได้เห็น ได้สัมผัส และได้จูบกับเธอแล้วหลินหว่านชิงกัดริมฝีปากตัวเองและรออยู่นาน แต่เธอก็ไม่รอจนเขาจะปีนขึ้นมา คิดถึงผู้ชายที่ไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร เธอคิดว่าเขายังอยู่และเผลอคิดว่าเขาตายไปแล้วชั่วขณะหนึ่งแต่น้ำตาก็ไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัวและเธอก็ไม่สามารถหยุดมันได้...ไม่นานนักเสียงแตรรถก็ดังขึ้น บอดี้การ์ดหลายคนจากตระกูลหลินออกเดินตามหาเธอเธอสวมเสื้อผ้าของฉินหมิงและรออยู่นาน หลัง
“คุณหม่า ดิฉันต้องขออภัยด้วย ตามกฎหมายนั้นการแต่งงานมีระยะเวลาให้ไตร่ตรองการหย่าร้างหนึ่งเดือนค่ะ”“และสามีของคุณไม่มีบัตรประจำตัวประชาชน ดังนั้นเราจึงไม่สามารถดำเนินการหย่าร้างให้คุณได้ในทันที...”พนักงานหญิงคนหนึ่งอธิบายอย่างสุภาพมากและคืนเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการหย่าร้างทั้งหมดให้กับหม่าลู่“เพ้อเจ้อ! จะหย่าแล้วให้ไตร่ตรองอะไรกัน?”“ไปเรียกนายอำเภอมาให้เขาจัดการทันที!”ซุนกวนฉงทุบโต๊ะและตะคอกด้วยความโกรธ“คุณคะ แต่ทางเราต้องปฏิบัติตามระเบียบ...”เจ้าหน้าที่หญิงสีหน้าไม่สู้ดีนัก แต่เธอก็ยังปฏิบัติอย่างสุภาพ“คุณอย่าทำแบบนี้กับดิฉันนะคะ”“ฉันบอกให้เรียกนายอำเภอมา เธอหูหนวกหรือไง!”ซุนกวนฉงตะคอกใส่อย่างเย่อหยิ่งที่นี่ก็วุ่นวายไม่น้อย และผู้คนมากมายที่มาทำเรื่องก็อดมองด้วยความแปลกใจไม่ได้นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเห็นคนก่อเรื่องในอำเภอในตอนนั้น เจ้าหน้าที่ระดับสูงของอำเภอเองก็ได้รับการแจ้งเช่นกัน ชายวัยกลางคนร่างอ้วนท้วนเล็กน้อยก็รีบวิ่งเหยาะ ๆ เข้ามา"ที่แท้คุณซุนนี่เอง..."“คุณซุนใจเย็น ๆ ก่อนนะครับ เสี่ยวผิงไม่รู้จักคุณ เธอไม่ได้ตั้งใจโต้เถียงคุณ ได้โปรดยกโทษให้ด้วย…”
“คุณหลิน คุณมาที่นี่เพื่อพบผมหรือเปล่าครับ...”ซุนกวนฉงเข้ามาหาเธอด้วยสีหน้าที่ประจบประแจง ราวกับหมาปั๊กกระดิกหาง เขาเกือบจะคุกเข่าจะเลียขาเธออยู่แล้วหลินหว่านชิงไม่ได้มองซุนกวนฉงด้วยซ้ำ เธอกวาดตามองในที่สุดก็เห็นฉินหมิง ท่าทีสง่างามของเธอก็เผยให้เห็นความตื่นเต้นออกมาเมื่อคืนเธอพยายามอย่างหนักแต่ไม่พบร่างของฉินหมิงเธอเชื่อว่าฉินหมิงยังไม่ตายอย่างแน่นอน!ไอ้บ้านั้นเอาเปรียบเธอขนาดนี้ จะตายง่าย ๆ ได้อย่างไร?ด้วยความพยายามนี้ ในตอนเช้าเธอจึงใช้อำนาจตระกูลหลินค้นหารายละเอียดของฉินหมิงอย่างเร่งด่วน แล้วพบว่าฉินหมิงกำลังวางแผนที่จะหย่ากับหม่าลู่ในวันนี้ดังนั้นเธอจึงรีบไปที่อำเภอทันทีดูว่าจะเจอฉินหมิงหรือไม่แน่นอนว่าเธอเจอคนที่คล้ายกับฉินหมิงมาก แต่เขาขดตัวกุมหัวตัวเองอยู่บนพื้น เธอเห็นไม่ชัดเจนว่าเขาหน้าตาเป็นอย่างไร เธอจึงไม่แน่ใจว่าเขาคือคนที่เธอตามหารึเปล่า!เนื่องจากการปรากฏตัวของหลินหว่านชิงในตอนนี้ บอดี้การ์ดทั้งสองคนจึงหยุดกระทืบฉินหมิงฉินหมิงยังสังเกตเห็นว่าบรรยากาศดูผิดปกติไป เขาเงยหน้าขึ้นและพบกับแววตาที่เปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้นของหลินหว่านชิง“หลินหว่านชิง? คุณเอ
เพียะ!เสียงตบดังขึ้น หลินหว่านชิงยกมือขึ้นตบหน้าหม่าลู่อย่างแรง“นังสารเลว แกกล้าตบฉัน ฉันจะสู้กับแก…”หม่าลู่กุมแก้มตัวเอง ดวงตาของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ เธอแยกเขี้ยวกางมือจะตบหลินหว่านชิง หลินหว่านชิงตอบสนองอย่างรวดเร็ว และตบหลังมือสวนหม่าลู่กลับอย่างแรงหม่าลู่ไม่เคยเจอความอัปยศอดสูเช่นนี้มาก่อน เธอเดินโซเซและร้องไห้กับซุนกวนฉง “ที่รักคะ นังแพศยานี่มันตบฉัน คุณต้องเอาคืนให้ฉันนะคะ!”“เอาคืนกับผีน่ะสิ!”ซุนกวนฉงโกรธจัดและตบหม่าลู่จนล้มลงกับพื้นหม่าลู่ที่ถูกตบอึ้งไม่อยากเชื่อเลย "ที่รัก ฉันขอให้คุณเอาคืนให้ ทำไมคุณถึงตบฉันล่ะ?"“ฉันจะตบเธอนี่แหละ!”“เธอรู้ไหมว่านี่คือใคร หล่อนก็คือหลินหว่านชิง คุณหนูใหญ่ตระกูลหลิน!”“เธอจะทำลายตระกูลซุนของเรารึไง!”ซุนกวนฉงด่าอย่างโกรธเคืองหม่าลู่ตกตะลึงแทบไม่ได้สติ จากนั้นเธอก็ตระหนักว่าตนประสบปัญหาใหญ่ตระกูลซุนเป็นเพียงตระกูลใหม่ที่ร่ำรวยในเมืองเจียงเฉิน มีอิทธิพลเป็นแค่อันดับสอง ถือว่ายังห่างไกลจากตระกูลอันดับหนึ่งอย่างตระกูลหลินมากนักไม่ต้องพูดถึงเธอเลย แม้ว่าพ่อของซุนกวนฉงจะมาด้วยตัวเอง เขาก็คงไม่กล้าหาเรื่องหลินหว่านชิง!“ค
หม่าลู่ยิ่งคิดถึงเรื่องนี้มากเท่าไร เธอก็ยิ่งแค้นใจมากขึ้นเท่านั้นซุนกวนฉงลุกขึ้นจากพื้นด้วยความอับอาย ใบหน้าและจมูกของเขาบวมช้ำเหมือนหมู สภาพของเขาดูน่าสมเพชมาก"เป็นไปไม่ได้!"“หลินหว่านชิงเป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลหลิน สถานะของเธอนั้นสูงส่ง ในเจียงเฉินมีคุณชายที่ร่ำรวยและพวกลูกคนมีอำนาจตั้งหลายคนที่ไม่ได้อยู่ในสายตาของเธอด้วยซ้ำ เธอจะไปชอบสวะอย่างฉินหมิงได้ยังไง!"“บางทีพวกเขาอาจจะเพิ่งรู้จักกัน...”ซุนกวนฉงกุมหน้าร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวดหลินหว่านชิงเป็นนางฟ้าสูงศักดิ์ในความคิดของเขาเสมอ แต่ฉินหมิงเป็นเพียงคนต่ำต้อยไร้ค่าในสายตาของเขา แม้ว่าจะตีเขาจนตาย เขาไม่มีวันเชื่อว่าฉินหมิงและหลินหว่านชิงมีความสัมพันธ์อะไรเป็นพิเศษ!“ใช่แล้ว นอกจากหลินหว่านชิงจะตาบอด คนอย่างมันถึงได้เข้าตาเธอได้…”“ไม่สิ ถึงหลินหว่านชิงจะตาบอดจริง ๆ เธอก็ไม่มีทางมองสวะพรรค์นั้นหรอก!”หม่าลู่ยิ้มอย่างเหยียดหยาม ในใจรู้สึกยุติธรรมขึ้นมามากขึ้น“ความสัมพันธ์ของพวกเขาจะเป็นอย่างไรก็ช่าง!”“แต่ท้ายที่สุดไอ้ขี้แพ้ฉินหมิงทำฉันแสบไม่น้อย ฉันไม่มีวันปล่อยเขาไปแน่!”สีหน้าของซุนกวนฉงเต็มไปด้วยความไม่พอใจต
บรรพบุรุษตระกูลฉินทิ้งความรู้ไว้ให้เขาอย่างกว้างขวางมาก แถมยังรวมถึงสูตรลับบางอย่างในการกระตุ้นศักยภาพของร่างกายมนุษย์ด้วย สูตรลับเหล่านี้เกี่ยวข้องกับทักษะทางการแพทย์และได้รับการบันทึกอย่างละเอียดสำหรับยาปราณแท้ ปัจจุบันเขามีสำรองอยู่อีกหลายเม็ดตอนนี้ทั้งสองอย่างล้วนพร้อมแล้ว เขาต้องการช่วยเฝิงเจิ้นฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธไปให้ได้ นี่ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย!“ลุงเฝิง ผมบอกความจริงกับคุณก็แล้วกัน แม้ว่าผมจะไม่แน่ใจว่าสามารถช่วยคุณทะลวงไปสู่ระดับราชาแห่งสงครามได้หรือไม่ แต่ผมจะพยายามลองอย่างเต็มที่ โอกาสที่จะประสบความสำเร็จน่าจะสูงมาก ... "ฉินหมิงพูดอย่างจริงใจ“ลองดู?”“การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ เรื่องแบบนี้จะลองสุ่มสี่สุ่มห้าได้อย่างไร หากมีสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ผลที่ตามมาอาจเป็นหายนะ!”เฝิงเจิ้นตกใจยิ่งกว่าเดิมในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่า ฉินหมิงกำลังพูดเรื่องไร้สาระและต้องการใช้เขาเป็นหนูทดลองหากเป็นเรื่องอื่นก็เอาเถอะ เขาคงสามารถให้ความร่วมมือกับฉินหมิงได้ แต่การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธเป็นสิ่งสำคัญ หากไม่ระวังอาจกลายเป็นบ้าได้ง่าย ๆ หรือแม้แต่สูญเสียทักษ
เดิมทีระดับการบ่มเพาะของลี่ตั๋วไห่นั้นทัดเทียมกับเขา ทั้งสองอยู่ในระดับของครึ่งก้าวราชาสงคราม ต่างคนต่างไม่สามารถทำอะไรกับอีกฝ่ายได้แต่ตอนนี้ความแข็งแกร่งของลี่ตั๋วไห่แซงหน้าเขาไปแล้ว ต่อไปนี้มันยากมากสำหรับเขาที่จะสู้กับลี่ตั๋วไห่ได้!ชั่วขณะหนึ่ง เขารู้สึกถึงวิกฤตที่รุนแรงมาก แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้“บางทีลี่ตั๋วไห่อาจโชคดีมากกว่า...”ฉินหมิงฉุกคิดได้ และดูเหมือนเขาจะเข้าใจอะไรบางอย่างอย่างคลุมเครือเขาเคยสงสัยมาก่อนตอนที่อยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ว่าลี่ตั๋วไห่สามารถฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ์ได้อย่างง่ายดาย นี่อาจมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับการปล้นเจิ้งอวี่ มิฉะนั้นลี่ตั๋วไห่จะไม่สร้างศัตรูที่แข็งแกร่งอย่างตระกูลเจิ้งเพียงเพื่อยาปราณแท้แค่สามเม็ดแน่ตอนนี้เขาคิดเชื่อมโยงกันเล็กน้อย ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าลี่ตั๋วไห่อาจจะสามารถทะลวงเข้าไปในระดับของราชาสงครามได้โดยใช้ยาปราณแท้สามเม็ดนี้!นี่ไม่ใช่ประเด็น ประเด็นก็คือในฐานะคนหลอมยาปราณแท้ เขาเข้าใจคุณสมบัติของยาปราณแท้มากกว่าใคร ๆ ในเมื่อแม้แต่ลี่ตั๋วไห่ก็มีสิทธิ์พึ่งพายาปราณแท้เพื่อกลายเป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งในระดับราชาสงคราม ถ้าอย่
ตอนนี้เขาสะบักสะบอมมาก มันเจ็บไปทั้งหัวใจ และเขาคิดอยากลบความรู้สึกที่มีต่อหลินหว่านชิงออกไปให้หมดสิ้น แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง!เขาจะกลับไปคบหลินหว่านชิงอีกครั้งได้อย่างไร!“ฉินหมิง คุณใจร้ายกับฉันได้ขนาดนี้เลยเหรอ?”หลินหว่านชิงกัดริมฝีปากแล้วมองฉินหมิงด้วยใบหน้าเศร้า เธอพยายามกลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้ไหลลงมา“ไม่ได้ใจร้าย เพียงแต่ว่าโชคชะตาระหว่างเราสองคนจบลงแล้ว!”“ถ้าคุณเต็มใจ เราก็ยังเป็นเพื่อนกันต่อไปได้ แต่เรื่องความรู้สึกให้มันจบลงเพียงเท่านี้เถอะ!”ฉินหมิงพูดอย่างใจเย็น“ได้ คุณพูดแบบนี้เอง คุณอย่าเสียใจภายหลังก็แล้วกัน!”หลินหว่านชิงรู้สึกเหมือนคนอกหัก เมื่อต้องเผชิญกับความไร้เยื่อใยและความเมินเฉยของฉินหมิง เธอไม่มีความกล้าพอที่จะอยู่ตรงนี้อีกต่อไป เธอจึงหันหลังกลับและวิ่งหนีไปทันทีที่เธอหันหลังมา หยดน้ำตาก็ไหลลงอาบแก้มของเธออย่างเงียบ ๆ “ฉินหมิง ไอ้สารเลว!”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยโกรธมาก เธอจ้องมองไปที่ฉินหมิงด้วยสายตาเกลียดชัง จากนั้นก็วิ่งตามไปยังทิศทางของหลินหว่านชิง“ฉินหมิง คุณดูแลตัวเองให้ดี ๆ เถอะ!”หานซีเหลือบมองฉินหมิงด้วยสีหน้าซับซ้อน จากนั้นเธอและไล่ตามเซี
ฉินหมิงตกใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ“แน่นอนว่านายไม่รู้!”“ครั้งที่แล้ว พี่ไปที่หมิงเหยากรุ๊ปเพื่อไปง้อนาย แต่เธอถูกซูซินเหยาหลอกให้คิดว่านายกับซูซินเหยาคบกันแล้ว…”“ผู้กระทำผิดทั้งหมดนี้ก็คือซูซินเหยา ถ้าเธอไม่เข้ามาขวางทาง พี่คงไม่ได้รับข้อมูลผิด ๆ จากเธอและไม่ทำร้ายนายครั้งแล้วครั้งเล่า…”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดด้วยความโกรธ และเธอก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างคร่าว ๆหลังจากฟังแล้ว ฉินหมิงมีสีหน้าประหลาดใจและไม่แน่ใจ จากนั้นเขาก็มองซูซินเหยาด้วยดวงตาที่ลุกเป็นไฟและถามว่า "ซินเหยา สิ่งที่เสี่ยวเตี๋ยพูดเป็นความจริงหรือเปล่า?"“ฉัน...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาเปลี่ยนเป็นสีแดง เธออ้าปากพูด แต่ก็พูดไม่ออกท้ายที่สุดแล้ว เรื่องนี้เป็นความผิดของเธอจริง ๆ เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยไม่ได้กล่าวหาเธอ และเธอก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร“ทำไมต้องโกหกผม?”สีหน้าของฉินหมิงมืดลงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาที่จะเดาจากปฏิกิริยาของซูซินเหยาว่า สิ่งที่เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดนั้นเป็นเรื่องจริง!“ฉินหมิง ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะโกหกคุณ…”“ฉันก็แค่ชอบคุณมาก และไม่อยากเสียคุณไป ฉันจึงตัดสินใจทำมันลงไป...”ดวงตาขอ
ในขณะนี้ เขายังสงบสติอารมณ์ไม่ได้ และความตั้งใจอันแน่วแน่ดั้งเดิมของเขาก็อดไม่ได้ที่จะสั่นคลอนเล็กน้อย“ฉินหมิง คุณอย่าตอบตกลงเธอนะ...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาซีดลง เธอมองไปที่ฉินหมิงด้วยความกังวลเธอรับรู้ความรู้สึกของฉินหมิงที่มีต่อหลินหว่านชิง และเธอก็เห็นว่าฉินหมิงหวั่นไหว หากไม่ผิดคาด ฉินหมิงน่าจะทิ้งเธอไปแล้วกลับไปหาหลินหว่านชิงเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เธอรู้สึกเศร้ามาก และใจของเธอก็ค่อย ๆ จมลงสู่ก้นบึ้งเมื่อเห็นสีหน้าเศร้าสร้อยของซูซินเหยา ฉินหมิงก็ตื่นขึ้นมาทันทีราวกับว่าถูกสาดหน้าด้วยน้ำเย็นหากเป็นเมื่อก่อน เขาอาจจะตกลงที่จะกลับไปคืนดีกับหลินหว่านชิงแต่ตอนนี้ เขาได้ตกลงที่จะหมั้นกับซูซินเหยาแล้ว และเมื่อสักครู่นี้ยังให้สัญญากับซูซินเหยาอีกด้วย!หากเขายกเลิกงานหมั้นในเวลานี้ ไม่ต้องคิดเลยว่าจะทำให้ซูซินเหยาเสียใจมากแค่ไหน!ไม่ชอบสิ่งใด ก็อย่าได้ทำสิ่งนั้นกับคนอื่นตอนที่เขากับหลินหว่านชิงเลิกกัน เขาได้สัมผัสรสชาติความเจ็บปวดด้วยตัวเอง มันเป็นความเจ็บปวดที่จดจำไว้ในใจไม่ลืมเลือน เจ็บจนเจียนตายในเมื่อแม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่ชอบความเจ็บปวดแบบนี้ เขาจะใจร้ายทำร้ายซูซินเห
“ผมไม่เป็นไร แค่บาดเจ็บนิดหน่อย...”ฉินหมิงยิ้มเบา ๆแม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหลินหว่านชิงจะทะเลาะกันจนค่อนข้างไม่มีความสุข แต่หานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขามาก เขาถือว่าหานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยเป็นเพื่อนที่ดีมาโดยตลอดเขารู้สึกอบอุ่นหัวใจเป็นอย่างมากเมื่อเห็นเพื่อนทั้งสองแสดงความเป็นห่วงเขา“ฉินหมิง ฉันขอโทษ เป็นฉันเองที่ทำร้ายคุณ”หลินหว่านชิงพูดด้วยท่าทางรู้สึกผิด“ไม่เป็นไร ทั้งหมดเป็นความสมัครใจของผมเอง...”ฉินหมิงแสร้งทำเป็นฝืนยิ้มความรักคือการให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เขาเสียสละมากมายเพื่อหลินหว่านชิงอย่างเต็มใจ ไม่สามารถโทษผู้อื่นได้“คุณหนูใหญ่หลิน คุณมาหาผมมีธุระอะไรเหรอ?”ฉินหมิงถามตรงประเด็น แม้แต่ชื่อน่ารัก ๆ ที่เขาใช้เรียกหลินหว่านชิงก็ได้เปลี่ยนไปแล้วในเมื่อตอนนี้เขาตัดใจจากหลินหว่านชิงแล้ว และกำลังจะหมั้นกับซูซินเหยา เขาควรขีดเส้นความสัมพันธ์ให้ชัดเจนกับหลินหว่านชิงและพยายามรักษาระยะห่าง นี่เป็นหน้าที่อย่างหนึ่งที่สมควรทำเมื่อได้ยินชื่อเรียกที่ไม่คุ้นเคยออกมาจากปากฉินหมิง หลินหว่านชิงก็รู้สึกเจ็บแปลบในใจแต่เธอรู้ว่าทั้งหมดน
ฉินหมิงเป็นคู่แข่งทางความรักที่ใหญ่ที่สุดของเขา ขอแค่ฉินหมิงและหลินหว่านชิงคืนดีกันไม่สำเร็จในครั้งนี้ เขาก็สามารถใช้โอกาสจากเรื่องนี้เข้าไปอยู่ในหัวใจของหลินหว่านชิงได้ง่ายขึ้น!แค่ได้คิดก็มีความสุขมาก!......คฤหาสน์ตระกูลซูแขนข้างหนึ่งของฉินหมิงถูกพันด้วยผ้าพันแผล เขานอนอยู่บนเตียงเพื่อพักฟื้นอยู่ในห้องเพราะเขากินยามังกรซ่อนไปหนึ่งเม็ดตอนอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ตอนนี้เขาจึงอยู่ในระยะอ่อนแอ ร่างกายไร้เรี่ยวแรงข้างเตียงซูซินเหยาดูแลฉินหมิงอย่างดี ในมือถือชามยาบำรุงพลังร่างกาย เธอป้อนยาให้ฉินหมิงด้วยรอยยิ้มที่มีความสุขบนใบหน้าอันงดงามของเธอคนเราจะมีความสุขเมื่อได้อยู่กับคนที่เรารัก เธอรอคอยฉินหมิงมาเป็นเวลานาน ในที่สุดวันที่ยากลำบากผ่านพ้นไป วันที่หวานชื่นก็มาถึง ได้กลับมาอยู่ด้วยกันกับฉินหมิงสมใจปรารถนาใครก็ยากที่จะจินตนาการถึงความสุขในใจของเธอได้!หลังจากกลับมาจากคฤหาสน์ตระกูลหลิน ใบหน้าที่สวยงามของเธอก็ไม่เคยหยุดยิ้มได้เลย…ในขณะนี้ มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของตระกูลซูนายหนึ่งเดินเข้ามาจากด้านนอกอย่างรวดเร็ว“คุณหนูใหญ่ ข้างนอกมีผู้หญิงคนหนึ่
“สรุปก็คือหนูจะไปหาเขาตอนนี้และอธิบายเรื่องทุกอย่างให้ชัดเจน บางทีนี่อาจจะเอาชนะใจเขากลับมาได้!”หลินหว่านชิงพูดอย่างหนักแน่นพูดจบเธอก็หันหลังแล้วเดินออกไป“ไม่ได้ ลูกจะไปไม่ได้!”“เรื่องของฉินหมิงเป็นเรื่องอดีตไปแล้ว ลูกควรมองไปข้างหน้า ตอนนี้หลานเค่ออั๋งคือตัวเลือกที่ดีที่สุดของลูก!”หลินเถิงฮุ่ยหมุนรถเข็นของเขาและรีบไปหยุดหลินหว่านชิงไว้ในความเป็นจริง เหตุผลที่เขาห้ามหลินหว่านชิงก็เพราะว่าฉินหมิงกำลังจะหมั้นหมายกับซูซินเหยา และเนื่องจากเค่ออั๋งชอบหลินหว่านชิงมากแม้ว่าฉินหมิงจะมีความสามารถที่ยอดเยี่ยม แต่ฉินหมิงก็เป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ไร้อำนาจบารมี หากฉินหมิงจะเต็มใจที่จะกลับมาคืนดีกับหลินหว่านชิงจริง ๆ มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเขาในการกลับไปสู่วงศ์ตระกูลแต่เค่ออั๋งนั้นแตกต่างออกไป หากหลินหว่านชิงยอมรับเค่ออั๋งด้วยพลังยุทธและรากฐานของตระกูลเค่อ การช่วยให้เขายึดอำนาจของตระกูลกลับคืนมาคงไม่ใช่เรื่องยากอย่างแน่นอน!“พ่อ ก่อนหน้านี้พ่อทำเพื่อประโยชน์ของตระกูล จึงเข้ามาก้าวก่ายเรื่องระหว่างหนูกับฉินหมิง อย่างไม่ลังเล และท้ายที่สุดหนูก็ทำร้ายฉินหมิงครั้งแล้วครั้งเล่า...”“ตอนนี้พ่
การให้ความช่วยเหลือในเวลาที่ต้องการเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด ตอนนี้หลินหว่านชิงและพ่อของเธอกำลังประสบปัญหา จุดประสงค์ของการมาที่นี่คือการถือโอกาสแสดงความเป็นสุภาพบุรุษต่อหน้าหลินหว่านชิงในตอนที่พวกเขาต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด และหวังว่าจะได้รับความโปรดปรานจากเธอ!ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์แล้วว่าเขามาทันเวลา เมื่อสักครู่นี้เขาเป็นพระเอกขี่ม้าขาวและช่วยหลินหว่านชิงให้รอดพ้นจากอันตราย ความประทับใจที่ไม่ดีต่อเขาในอดีตก็เปลี่ยนไปมากเช่นกัน“คุณอยากช่วยเราเหรอ?”หลินเถิงฮุ่ยรู้สึกประหลาดใจและตื่นเต้นตระกูลเค่อเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของเมืองเจียงเฉิง ที่มีพลังยุทธและรากฐานที่ทรงพลังมาก หากเขาได้รับความช่วยเหลือจากเค่ออั๋งและตระกูลเค่อได้ มันจะเป็นเรื่องง่ายขึ้นมากสำหรับเขาและหลินหว่านชิงที่จะกลับคืนสู่ตระกูลหรือยึดอำนาจของตระกูลคืนมา!“ใช่แล้ว!”“ลุงหลิน ตราบเท่าที่คุณต้องการความช่วยเหลือจากผม ผมจะพยายามอย่างดีที่สุดและทำอย่างเต็มที่!”เค่ออั๋งพูดเสียงดังฉะฉาน“ดี เยี่ยมมาก!”“หลานเค่ออั๋ง หากคุณสามารถช่วยฉันกับหว่านชิงกลับคืนสู่ตระกูลหลินได้ เราสองพ่อลูกจะขอบคุณอย่างยิ่ง!”หลินเถิงฮ