ในแง่ของสถานะ ภูมิหลัง หรือฐานะความร่ำรวยครอบครัวของฉีเหวินเจิ้งนั้นย่อมด้อยกว่าตระกูลใหญ่อย่างตระกูลหลิน แต่ในแง่ของชื่อเสียงและสถานะเขาไม่ได้ด้อยไปกว่านายท่านหลินเลยแม้แต่น้อยท้ายที่สุดแล้ว ทุกคนก็ย่อมต้องเจ็บป่วย คุณฉีได้รับการยอมรับว่าเป็นแพทย์อันดับหนึ่งในเมืองเจียงเฉิน คนรวยมีอำนาจหลายคนในแวดวงขอให้เขาไปตรวจและให้ความเคารพเขาเป็นอย่างยิ่ง“คุณหลินครับ ขอโทษที่มารบกวน ผมอยากตรวจคุณอีกครั้ง…”คุณฉีประสานมือคารวะทักทายอย่างยิ้มแย้มครึ่งเดือนที่ผ่านมา คุณหลินล้มป่วยกะทันหัน มีอาการเจ็บหน้าอกและหายใจลำบากหลังจากนั้นคุณฉีก็มารักษาอาการของคุณหลินทั้งสองฝ่ายตกลงจะตรวจซ้ำอีกครั้งในครึ่งเดือน หากไม่พบปัญหาระหว่างการตรวจซ้ำใหม่อีกแสดงว่าอาการหายขาดแล้ว"คุณฉี งั้นก็รบกวนคุณแล้ว"“คุณหลิน เกรงใจไปแล้ว นี่คือสิ่งที่สมควรแล้ว”หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายแลกเปลี่ยนทักทายกันอย่างสุภาพง่าย ๆ ครู่หนึ่งคุณฉีก็ผายมือให้นายท่านหลินนั่งลง จากนั้นเขาก็เริ่มตรวจชีพจรของนายท่านหลิน และพลางดูสีผิวหน้าของนายท่านหลินด้วยสีหน้าของเขาค่อย ๆ จริงจังขึ้นหลินเถิงฮุ่ยใจเต้นระรัว และเขาก็อดถามไปไม่ได้ว่
"นั่นมันจุดตายของคนเลยนะ!"คุณฉีขมวดคิ้ว คิดว่าคนผู้นี้คงความรู้ทางการแพทย์แค่ครึ่ง ๆ กลาง ๆ แล้วอยากได้หน้า แต่ไม่รู้หรือว่ามันทำให้คนอาจถึงตายได้“พ่อหนุ่ม เธอพูดจาเหลวไหลอะไร จุดจวนจงกับจุดเสินเชวี่ยล้วนเป็นจุดที่ทำให้ถึงตายได้ จะให้ฝังเข็มมั่ว ๆ ส่งเดชลงไปได้ยังไง?”“เธอรู้จักการฝังเข็มไหม?”ผู้ช่วยของคุณฉีด่าฉินหมิง“ผมเห็นว่าหมอนี่เอาความรู้ครึ่ง ๆ กลาง ๆ หวังอยากได้หน้าได้ความดีความชอบ แต่ผมขอบอกไว้ก่อนเลยว่า คนอย่างนายนี่แหละ ที่ทำให้คนรังเกียจแพทย์แผนจีน!”นี่เป็นการอ้างหลักศีลธรรมมาบังคับคนให้ตามที่ตนเองเห็นว่าดี นี่มันน่ารังเกียจเกินไปแล้วฉินหมิงอยากจะพูดอะไรสักอย่าง แต่ถูกหลินหว่านชิงแทรกขึ้นมาก่อน“ฉินหมิง ชีวิตปู่ของฉันกำลังตกอยู่ในอันตราย คุณฉีกำลังช่วยชีวิตเขา นายอย่างเพิ่งก่อเรื่องวุ่นวายได้ไหม!”หลินหว่านชิงพูดอย่างไม่พอใจแม้เมื่อคืนนี้ฉินหมิงช่วยชีวิตเธอไว้ แต่ไม่ได้หมายความว่าฉินหมิงจะทำอะไรตามอำเภอใจที่ตระกูลหลินได้!นอกจากนี้มันเกี่ยวข้องกับชีวิตและความปลอดภัยของปู่เธอด้วย มันเป็นไปไม่ได้ที่เธอจะยอมให้ฉินหมิงมาบงการได้!“ไอ้หนู ถ้านายกล้าก่อปัญหาอีก
“น่าขำเป็นบ้า!”“ขนาดคุณฉีเป็นถึงปรมาจารย์ด้านการแพทย์แผนจีนยังรักษาเคสของคุณหลินไม่ได้เลย นายคิดว่านายเป็นใคร มีปัญญาทำได้รึไง?”“หรือว่าวิชาแพทย์ของนายดีกว่าของคุณฉี”ผู้ช่วยของคุณฉีพูดเสียดสี“หิวแสงอยากได้หน้าจนตัวสั่นจริง ๆ!”คุณฉีขมวดคิ้วมองฉินหมิงตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า "หรือว่านายก็เป็นหมอเหมือนกัน"“ผมไม่ใช่หมอ...”ฉินหมิงส่ายหน้า“นายไม่ใช่หมอด้วยซ้ำ ทำไมกล้าพูดเพ้อเจ้อแบบนี้!”“ถึงนายจะเป็นแพทย์แผนจีน แต่อายุแค่นี้ยังรักษาคนไม่ได้ด้วยซ้ำได้ อย่ามาทำอะไรโง่ ๆ ให้คนอื่นขำไปหน่อยนักเลย!”หลินเถิงฮุ่ยโกรธมาก และถลึงมองไปที่ฉินหมิงอย่างดุดันฉินหมิงเงียบ เขาว่าแล้วว่าต้องเป็นแบบนี้แน่นอนว่าเขาโดนปฏิเสธจนหน้าหงายอีกตามเคย“นั่นไม่จำเป็นสักหน่อย!”“ฉินหมิงเขาเคยพูดตอนเจอคุณปู่ครั้งแรกว่าจุดยิ้นถางเป็นสีเทาแถมบริเวณมุมมีสีม่วงคล้ำด้วย ชีวิตของปู่กำลังตกอยู่ในอันตราย!”“พอคุณฉีฝังเข็มให้ปู่เมื่อครู่นี้ ก็เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าฝังเข็มผิด แต่พวกเราไม่มีใครเชื่อเขา!”“แต่ปรากฏว่าเขาพูดถูก!”หลินหว่านชิงนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ เธอก็เริ่มสงบขึ้นมา ประกายแสงแห่งความหวัง
หลังจากฝังเข็มแล้วใบหน้าฉินหมิงก็ซีดเผือด มีเหงื่อไหลลงมาจากหน้าผากเต็มไปหมด เขาทิ้งตัวนั่งลงกับพื้น เหนื่อยล้าจนแทบสลบเขายังคงเป็นคนธรรมดาและไม่มีความสามารถในการใช้ชี่เพื่อควบคุมเข็มได้ เขาอาศัยเพียงพลังที่ไม่รู้จักในร่างกายของเขาฝืนตัวเองช่วยในการฝังเข็มอย่างยากลำบาก“แค่ก! แค่ก!”ตอนนี้จู่ ๆ นายท่านหลินก็ลืมตาขึ้นมาและกระอักเลือดออกมาหลายคำ จนเสื้อผ้าบนตัวและพื้นตรงหน้าเขาเปรอะเปื้อนไปหมดหลังจากนั้นนายท่านหลินก็หลับตาลงทันที ไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ อีกต่อไป เขาหยุดหายใจ เขาตายแล้ว!"ปู่...""พ่อ..."คู่พ่อลูกหลินหว่านชิงและหลินเถิงฮุ่ยต่างตกตะลึง พวกเขาร้องไห้ด้วยความเศร้าโศกและทรุดลงต่อหน้านายท่านหลินทันที“ฉันว่าหมอนี่มันพยายามทำเป็นเก่งรักษามั่ว ๆ หวังได้ชื่อได้หน้า คงคาดไม่ถึงว่าจะทำให้คนตายได้”“โลกเรามันตกต่ำเสื่อมทรามเกิดจากคนอย่างนายทั้งนั้น!”ผู้ช่วยส่ายหัว เขาคิดแล้วไม่มีผิดกับการรักษาส่งเดชของฉินหมิง เขาไม่แปลกใจเลยสักนิดคุณฉีส่ายหน้าด้วยความเสียใจ ตอนแรกเขาคิดว่าฉินหมิงกำลังใช้หกเข็มพลิกชะตา แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาอาจจะคิดมากไปเอง!"ฉินหมิง ทั้งหมดเพราะแก
“เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”นายท่านหลินดูสับสน เขาเพิ่งฟื้นจากอาการโคม่า ยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง"คือแบบนี้นะคะ..."หลินหว่านชิงเดินไปเล่าสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างละเอียดนายท่านหลินตกใจมากจนตบหน้าหลินเถิงฮุ่ยไปที และด่าว่า "ลูกเลวนี่ ทำได้งามหน้านัก!"“พ่อหนุ่มฉินช่วยฉันด้วยเจตนาดี ไม่ว่าเขาจะรักษาให้หายได้หรือไม่ก็ตาม เขาก็ได้พยายามอย่างถึงที่สุดแล้ว แกกลับเนรคุณทำเรื่องแบบนี้ออกมาได้ยังไง!”“ทำไมยังไม่รีบไปขอโทษพ่อหนุ่มฉินอีก!”จากเหตุการณ์ในวิลล่า หลินเถิงฮุ่ยไม่ชอบฉินหมิงเป็นทุนอยู่แล้ว แต่พ่อเขาขู่มาแบบนี้ เขาจึงเดินไปขอโทษอย่างไม่เต็มใจ "ฉินหมิง เมื่อกี้ฉันผิดเอง ฉันขอโทษนายด้วย... "“คุณหลินไม่เป็นไร แค่เข้าใจผิดนิดหน่อย ไม่เป็นไรหรอกครับ”ฉินหมิงพูดอย่างรวดเร็วในตอนนี้คุณฉีก็เข้ามาโค้งคำนับฉินหมิงด้วยความนับถืออย่างสุดซึ้ง "น้องชาย ขอโทษเมื่อครู่ที่ฉันเสียมารยาทกับนายไปแล้ว!"“ทักษะทางการแพทย์ของนายยอดเยี่ยมมาก เป็นปาฏิหาริย์ทางการแพทย์ที่แสนวิเศษมาก ฉันประทับใจมากจริง ๆ!”“นอกจากนี้ ฉันอยากจะถามนายว่าวิธีการฝังเข็มที่นายใช้เมื่อกี้ เป็นหกเข็มพลิกชะตาที่หายสาบสูญไปนานแล
"ใช่ครับ"ฉินหมิงพยักหน้าอย่างจริงจังวุฒิการศึกษาของเขาไม่สูง และความสามารถในการทำงานของเขาเองอยู่ในระดับปานกลาง การหางานที่ดีในช่วงเวลาสั้น ๆ ไม่ใช่เรื่องง่ายหากนายท่านหลินสามารถจัดหางานที่มั่นคงให้เขาได้ ก็ช่วยเขาได้มากอยู่แล้ว“พ่อหนุ่มฉิน โทษทีนะฉันขอพูดตามตรง ทักษะทางการแพทย์ของเธอยอดเยี่ยมมากขนาดนี้ อย่าว่าถึงงานธรรมดาเลย เธออยากเป็นแพทย์ที่มีชื่อเสียงเช่นคุณฉีก็คงไม่ยาก!”นายท่านหลินพูดด้วยความประหลาดใจด้วยทักษะทางการแพทย์ที่ฉินหมิงแสดงให้เห็นเมื่อครู่ ไม่รู้ว่ามีคนรวยคนมีอำนาจมากมายขนาดไหนยินดีจะเป็นเพื่อนกับฉินหมิงไม่ว่าฉินหมิงต้องการเงิน อำนาจ หรือชื่อเสียงและฐานะ แค่ยื่นมือไปก็ได้มาแล้วยังจำเป็นต้องหางานทำอีกเหรอ?"นี่แบบว่า..."“ท่านหลิน ผมขอพูดตามตรง ผมไม่เคยเรียนแพทย์มาก่อนเลย และไม่มีใบรับรองเป็นแพทย์ด้วย”“วิธีการฝังเข็มที่ผมรักษาท่านเมื่อกี้นี้สืบทอดมาจากบรรพบุรุษของผม ที่ผมได้ร่ำเรียนรู้มาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น”“โชคดีที่สามารถรักษาอาการป่วยของท่านได้ครับ”ฉินหมิงยิ้มอย่างเก้อเขินที่จริงเขาไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับทักษะทางการแพทย์ แต่ทักษะทางการแพทย์ที
“หว่านชิงเจอเรื่องน่ากลัวมาแบบนี้ หวังว่าลูกจะรู้นะ ว่ามันไม่ปลอดภัยสำหรับลูกเลยที่อยู่คนเดียวข้างนอกแบบนั้น ทางที่ดีย้ายกลับมาที่บ้านดีกว่า!”หลินเถิงฮุ่ยพูดอย่างกังวลใจ เขาอดไม่ได้ที่จะมองไปที่ฉินหมิงที่อยู่ข้าง ๆ เขาเขาอยากให้ลูกสาวของเขาย้ายกลับมาอยู่บ้าน อย่างแรกเพื่อความปลอดภัยของเธอ อีกอย่างเขาอยากจะแยกลูกสาวกับฉินหมิงออกจากกันจากเท่าที่เขาเห็นตอนนี้ ฉินหมิงคงจะตามจีบลูกสาวของเขา เลยกล้าพอที่จะลองเสี่ยงช่วยคนแล้วในท้ายที่สุดเผอิญว่าโชคเข้าข้างคนธรรมดาที่ไร้ค่าอย่างฉินหมิงไม่คู่ควรกับลูกสาวของเขาเลยสักนิด!“ไม่มีทาง หนูไม่ย้ายกลับมาหรอก!”“ที่ ๆ หนูอยู่เป็นวิลล่าไฮโซ มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมืออาชีพคอยเฝ้าอยู่ตลอดเวลา”“แล้วเมื่อเช้านี้คุณปู่ได้จัดเตรียมบอดี้การ์ดให้ใหม่ตั้งหกคนด้วย วันหลังมีพวกเขาคุ้มครองอยู่ในอนาคต เรื่องความปลอดภัยไม่มีปัญหาแน่นอน!”หลินหว่านชิงส่ายหน้าปฏิเสธเธอถูกคนร้ายลักพาตัวระหว่างทางกลับบ้านเมื่อคืนนี้ มันเป็นเพียงอุบัติเหตุหากมีใครอยากจัดการเธอจริง ๆ ย้ายกลับบ้านก็คงไม่มีประโยชน์สำหรับเธออยู่ดี"แต่..."“ไม่ต้องเลย ตราบใดที่ไป่จิ้งย
หลังทานอาหารมื้อเย็นแล้วฉินหมิงกับหลินหว่านชิงเดินทางออกจากตระกูลหลิน และขับรถกลับไปที่หูหลงวิลล่าในตอนนี้ ป้าหลิวได้จัดห้องพักสำหรับแขกให้ฉินหมิงได้พักเรียบร้อยแล้วหลังจากที่ได้ล้มตัวนอนบนเตียงฉินหมิงสงบสติอารมณ์จนใจเย็นลงแล้ว เขาวางแผนว่าจะลองศึกษามรดกของบรรพบุรุษฉินดูเมื่อหลับตาลง คลื่นแห่งความทรงจำที่สืบทอดมาก็หลั่งไหลเข้ามาในจิตใจของเขาราวกับกระแสน้ำรวมถึงเคล็ดลับต่าง ๆ ของวิชากำลังภายในมีคัมภีร์แพทย์ ความลับของลัทธิเต๋า และอีกมากมาย...อะไรมีเคล็ดวิชาบ่มเพาะกายาจิตด้วย? อะแฮ่ม ฉินหมิงจึงตัดสินใจตรวจสอบว่าการฝึกบำเพ็ญตบะของเต๋านั้นหมายความว่าอย่างไรผู้ที่ฝึกฝนวรยุทธ์และศาสตร์ป้องกันตัวจะฝึกฝนกำลังภายในควบคู่กันไปด้วยนักพรตเต๋าเป็นการไล่ตามวิถีแห่งสวรรค์ ส่วนการฝึกฝนไปตามวิถีของโลกเมื่อเปรียบเทียบกับทั้งสองแล้ว วิชาลับของลัทธิเต๋าย่อมอยู่ในระดับที่สูงกว่าอย่างไรก็ตามหลังจากเวลาผ่านไปหลายพันปี วิชาลับของลัทธิเต๋าก็ได้หายสูญหายไปนานแล้ว แม้แต่ผู้ฝึกยุทธ์เองก็มีน้อยมากดูเหมือนว่าเทคนิคลับของลัทธิเต๋าน่าจะเป็นของดี เขาต้องตั้งใจฝึกฝนให้ดีแล้วฉินหมิงเลิกคิดฟ
บรรพบุรุษตระกูลฉินทิ้งความรู้ไว้ให้เขาอย่างกว้างขวางมาก แถมยังรวมถึงสูตรลับบางอย่างในการกระตุ้นศักยภาพของร่างกายมนุษย์ด้วย สูตรลับเหล่านี้เกี่ยวข้องกับทักษะทางการแพทย์และได้รับการบันทึกอย่างละเอียดสำหรับยาปราณแท้ ปัจจุบันเขามีสำรองอยู่อีกหลายเม็ดตอนนี้ทั้งสองอย่างล้วนพร้อมแล้ว เขาต้องการช่วยเฝิงเจิ้นฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธไปให้ได้ นี่ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย!“ลุงเฝิง ผมบอกความจริงกับคุณก็แล้วกัน แม้ว่าผมจะไม่แน่ใจว่าสามารถช่วยคุณทะลวงไปสู่ระดับราชาแห่งสงครามได้หรือไม่ แต่ผมจะพยายามลองอย่างเต็มที่ โอกาสที่จะประสบความสำเร็จน่าจะสูงมาก ... "ฉินหมิงพูดอย่างจริงใจ“ลองดู?”“การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ เรื่องแบบนี้จะลองสุ่มสี่สุ่มห้าได้อย่างไร หากมีสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ผลที่ตามมาอาจเป็นหายนะ!”เฝิงเจิ้นตกใจยิ่งกว่าเดิมในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่า ฉินหมิงกำลังพูดเรื่องไร้สาระและต้องการใช้เขาเป็นหนูทดลองหากเป็นเรื่องอื่นก็เอาเถอะ เขาคงสามารถให้ความร่วมมือกับฉินหมิงได้ แต่การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธเป็นสิ่งสำคัญ หากไม่ระวังอาจกลายเป็นบ้าได้ง่าย ๆ หรือแม้แต่สูญเสียทักษ
เดิมทีระดับการบ่มเพาะของลี่ตั๋วไห่นั้นทัดเทียมกับเขา ทั้งสองอยู่ในระดับของครึ่งก้าวราชาสงคราม ต่างคนต่างไม่สามารถทำอะไรกับอีกฝ่ายได้แต่ตอนนี้ความแข็งแกร่งของลี่ตั๋วไห่แซงหน้าเขาไปแล้ว ต่อไปนี้มันยากมากสำหรับเขาที่จะสู้กับลี่ตั๋วไห่ได้!ชั่วขณะหนึ่ง เขารู้สึกถึงวิกฤตที่รุนแรงมาก แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้“บางทีลี่ตั๋วไห่อาจโชคดีมากกว่า...”ฉินหมิงฉุกคิดได้ และดูเหมือนเขาจะเข้าใจอะไรบางอย่างอย่างคลุมเครือเขาเคยสงสัยมาก่อนตอนที่อยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ว่าลี่ตั๋วไห่สามารถฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ์ได้อย่างง่ายดาย นี่อาจมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับการปล้นเจิ้งอวี่ มิฉะนั้นลี่ตั๋วไห่จะไม่สร้างศัตรูที่แข็งแกร่งอย่างตระกูลเจิ้งเพียงเพื่อยาปราณแท้แค่สามเม็ดแน่ตอนนี้เขาคิดเชื่อมโยงกันเล็กน้อย ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าลี่ตั๋วไห่อาจจะสามารถทะลวงเข้าไปในระดับของราชาสงครามได้โดยใช้ยาปราณแท้สามเม็ดนี้!นี่ไม่ใช่ประเด็น ประเด็นก็คือในฐานะคนหลอมยาปราณแท้ เขาเข้าใจคุณสมบัติของยาปราณแท้มากกว่าใคร ๆ ในเมื่อแม้แต่ลี่ตั๋วไห่ก็มีสิทธิ์พึ่งพายาปราณแท้เพื่อกลายเป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งในระดับราชาสงคราม ถ้าอย่
ตอนนี้เขาสะบักสะบอมมาก มันเจ็บไปทั้งหัวใจ และเขาคิดอยากลบความรู้สึกที่มีต่อหลินหว่านชิงออกไปให้หมดสิ้น แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง!เขาจะกลับไปคบหลินหว่านชิงอีกครั้งได้อย่างไร!“ฉินหมิง คุณใจร้ายกับฉันได้ขนาดนี้เลยเหรอ?”หลินหว่านชิงกัดริมฝีปากแล้วมองฉินหมิงด้วยใบหน้าเศร้า เธอพยายามกลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้ไหลลงมา“ไม่ได้ใจร้าย เพียงแต่ว่าโชคชะตาระหว่างเราสองคนจบลงแล้ว!”“ถ้าคุณเต็มใจ เราก็ยังเป็นเพื่อนกันต่อไปได้ แต่เรื่องความรู้สึกให้มันจบลงเพียงเท่านี้เถอะ!”ฉินหมิงพูดอย่างใจเย็น“ได้ คุณพูดแบบนี้เอง คุณอย่าเสียใจภายหลังก็แล้วกัน!”หลินหว่านชิงรู้สึกเหมือนคนอกหัก เมื่อต้องเผชิญกับความไร้เยื่อใยและความเมินเฉยของฉินหมิง เธอไม่มีความกล้าพอที่จะอยู่ตรงนี้อีกต่อไป เธอจึงหันหลังกลับและวิ่งหนีไปทันทีที่เธอหันหลังมา หยดน้ำตาก็ไหลลงอาบแก้มของเธออย่างเงียบ ๆ “ฉินหมิง ไอ้สารเลว!”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยโกรธมาก เธอจ้องมองไปที่ฉินหมิงด้วยสายตาเกลียดชัง จากนั้นก็วิ่งตามไปยังทิศทางของหลินหว่านชิง“ฉินหมิง คุณดูแลตัวเองให้ดี ๆ เถอะ!”หานซีเหลือบมองฉินหมิงด้วยสีหน้าซับซ้อน จากนั้นเธอและไล่ตามเซี
ฉินหมิงตกใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ“แน่นอนว่านายไม่รู้!”“ครั้งที่แล้ว พี่ไปที่หมิงเหยากรุ๊ปเพื่อไปง้อนาย แต่เธอถูกซูซินเหยาหลอกให้คิดว่านายกับซูซินเหยาคบกันแล้ว…”“ผู้กระทำผิดทั้งหมดนี้ก็คือซูซินเหยา ถ้าเธอไม่เข้ามาขวางทาง พี่คงไม่ได้รับข้อมูลผิด ๆ จากเธอและไม่ทำร้ายนายครั้งแล้วครั้งเล่า…”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดด้วยความโกรธ และเธอก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างคร่าว ๆหลังจากฟังแล้ว ฉินหมิงมีสีหน้าประหลาดใจและไม่แน่ใจ จากนั้นเขาก็มองซูซินเหยาด้วยดวงตาที่ลุกเป็นไฟและถามว่า "ซินเหยา สิ่งที่เสี่ยวเตี๋ยพูดเป็นความจริงหรือเปล่า?"“ฉัน...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาเปลี่ยนเป็นสีแดง เธออ้าปากพูด แต่ก็พูดไม่ออกท้ายที่สุดแล้ว เรื่องนี้เป็นความผิดของเธอจริง ๆ เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยไม่ได้กล่าวหาเธอ และเธอก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร“ทำไมต้องโกหกผม?”สีหน้าของฉินหมิงมืดลงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาที่จะเดาจากปฏิกิริยาของซูซินเหยาว่า สิ่งที่เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดนั้นเป็นเรื่องจริง!“ฉินหมิง ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะโกหกคุณ…”“ฉันก็แค่ชอบคุณมาก และไม่อยากเสียคุณไป ฉันจึงตัดสินใจทำมันลงไป...”ดวงตาขอ
ในขณะนี้ เขายังสงบสติอารมณ์ไม่ได้ และความตั้งใจอันแน่วแน่ดั้งเดิมของเขาก็อดไม่ได้ที่จะสั่นคลอนเล็กน้อย“ฉินหมิง คุณอย่าตอบตกลงเธอนะ...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาซีดลง เธอมองไปที่ฉินหมิงด้วยความกังวลเธอรับรู้ความรู้สึกของฉินหมิงที่มีต่อหลินหว่านชิง และเธอก็เห็นว่าฉินหมิงหวั่นไหว หากไม่ผิดคาด ฉินหมิงน่าจะทิ้งเธอไปแล้วกลับไปหาหลินหว่านชิงเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เธอรู้สึกเศร้ามาก และใจของเธอก็ค่อย ๆ จมลงสู่ก้นบึ้งเมื่อเห็นสีหน้าเศร้าสร้อยของซูซินเหยา ฉินหมิงก็ตื่นขึ้นมาทันทีราวกับว่าถูกสาดหน้าด้วยน้ำเย็นหากเป็นเมื่อก่อน เขาอาจจะตกลงที่จะกลับไปคืนดีกับหลินหว่านชิงแต่ตอนนี้ เขาได้ตกลงที่จะหมั้นกับซูซินเหยาแล้ว และเมื่อสักครู่นี้ยังให้สัญญากับซูซินเหยาอีกด้วย!หากเขายกเลิกงานหมั้นในเวลานี้ ไม่ต้องคิดเลยว่าจะทำให้ซูซินเหยาเสียใจมากแค่ไหน!ไม่ชอบสิ่งใด ก็อย่าได้ทำสิ่งนั้นกับคนอื่นตอนที่เขากับหลินหว่านชิงเลิกกัน เขาได้สัมผัสรสชาติความเจ็บปวดด้วยตัวเอง มันเป็นความเจ็บปวดที่จดจำไว้ในใจไม่ลืมเลือน เจ็บจนเจียนตายในเมื่อแม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่ชอบความเจ็บปวดแบบนี้ เขาจะใจร้ายทำร้ายซูซินเห
“ผมไม่เป็นไร แค่บาดเจ็บนิดหน่อย...”ฉินหมิงยิ้มเบา ๆแม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหลินหว่านชิงจะทะเลาะกันจนค่อนข้างไม่มีความสุข แต่หานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขามาก เขาถือว่าหานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยเป็นเพื่อนที่ดีมาโดยตลอดเขารู้สึกอบอุ่นหัวใจเป็นอย่างมากเมื่อเห็นเพื่อนทั้งสองแสดงความเป็นห่วงเขา“ฉินหมิง ฉันขอโทษ เป็นฉันเองที่ทำร้ายคุณ”หลินหว่านชิงพูดด้วยท่าทางรู้สึกผิด“ไม่เป็นไร ทั้งหมดเป็นความสมัครใจของผมเอง...”ฉินหมิงแสร้งทำเป็นฝืนยิ้มความรักคือการให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เขาเสียสละมากมายเพื่อหลินหว่านชิงอย่างเต็มใจ ไม่สามารถโทษผู้อื่นได้“คุณหนูใหญ่หลิน คุณมาหาผมมีธุระอะไรเหรอ?”ฉินหมิงถามตรงประเด็น แม้แต่ชื่อน่ารัก ๆ ที่เขาใช้เรียกหลินหว่านชิงก็ได้เปลี่ยนไปแล้วในเมื่อตอนนี้เขาตัดใจจากหลินหว่านชิงแล้ว และกำลังจะหมั้นกับซูซินเหยา เขาควรขีดเส้นความสัมพันธ์ให้ชัดเจนกับหลินหว่านชิงและพยายามรักษาระยะห่าง นี่เป็นหน้าที่อย่างหนึ่งที่สมควรทำเมื่อได้ยินชื่อเรียกที่ไม่คุ้นเคยออกมาจากปากฉินหมิง หลินหว่านชิงก็รู้สึกเจ็บแปลบในใจแต่เธอรู้ว่าทั้งหมดน
ฉินหมิงเป็นคู่แข่งทางความรักที่ใหญ่ที่สุดของเขา ขอแค่ฉินหมิงและหลินหว่านชิงคืนดีกันไม่สำเร็จในครั้งนี้ เขาก็สามารถใช้โอกาสจากเรื่องนี้เข้าไปอยู่ในหัวใจของหลินหว่านชิงได้ง่ายขึ้น!แค่ได้คิดก็มีความสุขมาก!......คฤหาสน์ตระกูลซูแขนข้างหนึ่งของฉินหมิงถูกพันด้วยผ้าพันแผล เขานอนอยู่บนเตียงเพื่อพักฟื้นอยู่ในห้องเพราะเขากินยามังกรซ่อนไปหนึ่งเม็ดตอนอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ตอนนี้เขาจึงอยู่ในระยะอ่อนแอ ร่างกายไร้เรี่ยวแรงข้างเตียงซูซินเหยาดูแลฉินหมิงอย่างดี ในมือถือชามยาบำรุงพลังร่างกาย เธอป้อนยาให้ฉินหมิงด้วยรอยยิ้มที่มีความสุขบนใบหน้าอันงดงามของเธอคนเราจะมีความสุขเมื่อได้อยู่กับคนที่เรารัก เธอรอคอยฉินหมิงมาเป็นเวลานาน ในที่สุดวันที่ยากลำบากผ่านพ้นไป วันที่หวานชื่นก็มาถึง ได้กลับมาอยู่ด้วยกันกับฉินหมิงสมใจปรารถนาใครก็ยากที่จะจินตนาการถึงความสุขในใจของเธอได้!หลังจากกลับมาจากคฤหาสน์ตระกูลหลิน ใบหน้าที่สวยงามของเธอก็ไม่เคยหยุดยิ้มได้เลย…ในขณะนี้ มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของตระกูลซูนายหนึ่งเดินเข้ามาจากด้านนอกอย่างรวดเร็ว“คุณหนูใหญ่ ข้างนอกมีผู้หญิงคนหนึ่
“สรุปก็คือหนูจะไปหาเขาตอนนี้และอธิบายเรื่องทุกอย่างให้ชัดเจน บางทีนี่อาจจะเอาชนะใจเขากลับมาได้!”หลินหว่านชิงพูดอย่างหนักแน่นพูดจบเธอก็หันหลังแล้วเดินออกไป“ไม่ได้ ลูกจะไปไม่ได้!”“เรื่องของฉินหมิงเป็นเรื่องอดีตไปแล้ว ลูกควรมองไปข้างหน้า ตอนนี้หลานเค่ออั๋งคือตัวเลือกที่ดีที่สุดของลูก!”หลินเถิงฮุ่ยหมุนรถเข็นของเขาและรีบไปหยุดหลินหว่านชิงไว้ในความเป็นจริง เหตุผลที่เขาห้ามหลินหว่านชิงก็เพราะว่าฉินหมิงกำลังจะหมั้นหมายกับซูซินเหยา และเนื่องจากเค่ออั๋งชอบหลินหว่านชิงมากแม้ว่าฉินหมิงจะมีความสามารถที่ยอดเยี่ยม แต่ฉินหมิงก็เป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ไร้อำนาจบารมี หากฉินหมิงจะเต็มใจที่จะกลับมาคืนดีกับหลินหว่านชิงจริง ๆ มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเขาในการกลับไปสู่วงศ์ตระกูลแต่เค่ออั๋งนั้นแตกต่างออกไป หากหลินหว่านชิงยอมรับเค่ออั๋งด้วยพลังยุทธและรากฐานของตระกูลเค่อ การช่วยให้เขายึดอำนาจของตระกูลกลับคืนมาคงไม่ใช่เรื่องยากอย่างแน่นอน!“พ่อ ก่อนหน้านี้พ่อทำเพื่อประโยชน์ของตระกูล จึงเข้ามาก้าวก่ายเรื่องระหว่างหนูกับฉินหมิง อย่างไม่ลังเล และท้ายที่สุดหนูก็ทำร้ายฉินหมิงครั้งแล้วครั้งเล่า...”“ตอนนี้พ่
การให้ความช่วยเหลือในเวลาที่ต้องการเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด ตอนนี้หลินหว่านชิงและพ่อของเธอกำลังประสบปัญหา จุดประสงค์ของการมาที่นี่คือการถือโอกาสแสดงความเป็นสุภาพบุรุษต่อหน้าหลินหว่านชิงในตอนที่พวกเขาต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด และหวังว่าจะได้รับความโปรดปรานจากเธอ!ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์แล้วว่าเขามาทันเวลา เมื่อสักครู่นี้เขาเป็นพระเอกขี่ม้าขาวและช่วยหลินหว่านชิงให้รอดพ้นจากอันตราย ความประทับใจที่ไม่ดีต่อเขาในอดีตก็เปลี่ยนไปมากเช่นกัน“คุณอยากช่วยเราเหรอ?”หลินเถิงฮุ่ยรู้สึกประหลาดใจและตื่นเต้นตระกูลเค่อเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของเมืองเจียงเฉิง ที่มีพลังยุทธและรากฐานที่ทรงพลังมาก หากเขาได้รับความช่วยเหลือจากเค่ออั๋งและตระกูลเค่อได้ มันจะเป็นเรื่องง่ายขึ้นมากสำหรับเขาและหลินหว่านชิงที่จะกลับคืนสู่ตระกูลหรือยึดอำนาจของตระกูลคืนมา!“ใช่แล้ว!”“ลุงหลิน ตราบเท่าที่คุณต้องการความช่วยเหลือจากผม ผมจะพยายามอย่างดีที่สุดและทำอย่างเต็มที่!”เค่ออั๋งพูดเสียงดังฉะฉาน“ดี เยี่ยมมาก!”“หลานเค่ออั๋ง หากคุณสามารถช่วยฉันกับหว่านชิงกลับคืนสู่ตระกูลหลินได้ เราสองพ่อลูกจะขอบคุณอย่างยิ่ง!”หลินเถิงฮ