“หว่านชิงเจอเรื่องน่ากลัวมาแบบนี้ หวังว่าลูกจะรู้นะ ว่ามันไม่ปลอดภัยสำหรับลูกเลยที่อยู่คนเดียวข้างนอกแบบนั้น ทางที่ดีย้ายกลับมาที่บ้านดีกว่า!”หลินเถิงฮุ่ยพูดอย่างกังวลใจ เขาอดไม่ได้ที่จะมองไปที่ฉินหมิงที่อยู่ข้าง ๆ เขาเขาอยากให้ลูกสาวของเขาย้ายกลับมาอยู่บ้าน อย่างแรกเพื่อความปลอดภัยของเธอ อีกอย่างเขาอยากจะแยกลูกสาวกับฉินหมิงออกจากกันจากเท่าที่เขาเห็นตอนนี้ ฉินหมิงคงจะตามจีบลูกสาวของเขา เลยกล้าพอที่จะลองเสี่ยงช่วยคนแล้วในท้ายที่สุดเผอิญว่าโชคเข้าข้างคนธรรมดาที่ไร้ค่าอย่างฉินหมิงไม่คู่ควรกับลูกสาวของเขาเลยสักนิด!“ไม่มีทาง หนูไม่ย้ายกลับมาหรอก!”“ที่ ๆ หนูอยู่เป็นวิลล่าไฮโซ มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมืออาชีพคอยเฝ้าอยู่ตลอดเวลา”“แล้วเมื่อเช้านี้คุณปู่ได้จัดเตรียมบอดี้การ์ดให้ใหม่ตั้งหกคนด้วย วันหลังมีพวกเขาคุ้มครองอยู่ในอนาคต เรื่องความปลอดภัยไม่มีปัญหาแน่นอน!”หลินหว่านชิงส่ายหน้าปฏิเสธเธอถูกคนร้ายลักพาตัวระหว่างทางกลับบ้านเมื่อคืนนี้ มันเป็นเพียงอุบัติเหตุหากมีใครอยากจัดการเธอจริง ๆ ย้ายกลับบ้านก็คงไม่มีประโยชน์สำหรับเธออยู่ดี"แต่..."“ไม่ต้องเลย ตราบใดที่ไป่จิ้งย
หลังทานอาหารมื้อเย็นแล้วฉินหมิงกับหลินหว่านชิงเดินทางออกจากตระกูลหลิน และขับรถกลับไปที่หูหลงวิลล่าในตอนนี้ ป้าหลิวได้จัดห้องพักสำหรับแขกให้ฉินหมิงได้พักเรียบร้อยแล้วหลังจากที่ได้ล้มตัวนอนบนเตียงฉินหมิงสงบสติอารมณ์จนใจเย็นลงแล้ว เขาวางแผนว่าจะลองศึกษามรดกของบรรพบุรุษฉินดูเมื่อหลับตาลง คลื่นแห่งความทรงจำที่สืบทอดมาก็หลั่งไหลเข้ามาในจิตใจของเขาราวกับกระแสน้ำรวมถึงเคล็ดลับต่าง ๆ ของวิชากำลังภายในมีคัมภีร์แพทย์ ความลับของลัทธิเต๋า และอีกมากมาย...อะไรมีเคล็ดวิชาบ่มเพาะกายาจิตด้วย? อะแฮ่ม ฉินหมิงจึงตัดสินใจตรวจสอบว่าการฝึกบำเพ็ญตบะของเต๋านั้นหมายความว่าอย่างไรผู้ที่ฝึกฝนวรยุทธ์และศาสตร์ป้องกันตัวจะฝึกฝนกำลังภายในควบคู่กันไปด้วยนักพรตเต๋าเป็นการไล่ตามวิถีแห่งสวรรค์ ส่วนการฝึกฝนไปตามวิถีของโลกเมื่อเปรียบเทียบกับทั้งสองแล้ว วิชาลับของลัทธิเต๋าย่อมอยู่ในระดับที่สูงกว่าอย่างไรก็ตามหลังจากเวลาผ่านไปหลายพันปี วิชาลับของลัทธิเต๋าก็ได้หายสูญหายไปนานแล้ว แม้แต่ผู้ฝึกยุทธ์เองก็มีน้อยมากดูเหมือนว่าเทคนิคลับของลัทธิเต๋าน่าจะเป็นของดี เขาต้องตั้งใจฝึกฝนให้ดีแล้วฉินหมิงเลิกคิดฟ
หลินหว่านชิงตกใจ "นายไม่มีใบขับขี่เหรอ?"“ยุ่งยากนิดหน่อยนะ”หลินหว่านชิงครุ่นคิดเล็กน้อยราวกับว่านึกอะไรบางอย่างได้ขึ้นมาได้ "ถ้าอย่างนั้นนายขับมอเตอร์ไซค์ได้ไหม"“ผมขับมอเตอร์ไซค์ได้ มีใบขับขี่ด้วย”ฉินหมิงพยักหน้า เมื่อก่อนฐานะของเขาในตระกูลหม่าแย่กว่าสุนัขเสียอีก มีสิทธิ์จะได้ขับรถยนต์ที่ไหนกันแต่เวลาตระกูลหม่าอยากใช้เขาออกไปทำธุระ เพื่อความสะดวกพวกเขาเลยเตรียมรถมอเตอร์ไซค์มือสองผุพังให้เขาโดยเฉพาะ"งั้นก็ดี"“ฉันมีมอเตอร์ไซค์อยู่ที่นี่คันหนึ่ง เป็นของขวัญวันเกิดจากป้าฉันเมื่อปีที่แล้ว”“ฉันเองก็ไม่ได้ใช้มันอยู่แล้ว งั้นยกให้นายใช้แล้วกัน”หลินหว่านชิงดึงฉินหมิงไปที่มุม ซึ่งมีรถมอเตอร์ไซค์สปอร์ตสีชมพูเท่ ๆ จอดอยู่“อย่าดูถูกมอเตอร์ไซค์คันนี้ไปเชียว ราคามันไม่ต่ำกว่าล้านเลยนะ…”"อะไรนะ?"“มากกว่าล้านเลยเหรอ?”ฉินหมิงตกใจมากจนปากค้าง“ใช่สิ ฉันจำได้ว่าป้าของฉันบอกว่ามอเตอร์ไซค์คันนี้เป็นรุ่นที่ระลึกของโรสลอยด์ แถมเป็นรุ่นลิมิเต็ดด้วย ราคาน่าจะประมาณสักหนึ่งล้านเจ็ดแสนแปดหมื่นได้มั้ง!”หลินหว่านชิงคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้และพูดออกมาฉินหมิงตกตะลึงและแอบตกใจ คนรวยไม่ธรรมด
สาวสวยขาเรียวยาวคนนั้นก็เดินลงมาจากรถทันที"ขอโทษครับ ๆ..."ฉินหมิงรีบขอโทษทันทีเขาเป็นคนที่นิสัยยอมคนมาตลอดและไม่ชอบทะเลาะกับคนอื่น แม้ว่าอีกฝ่ายจะทำผิด แต่เขาก็เป็นคนที่ขอโทษเสมอ“ขับรถประสาอะไร ไม่ลืมตาดูทางเลยรึไง?”สาวสวยจิ้ปากบ่นอย่างไม่สบอารณ์ฉินหมิงขมวดคิ้ว เดิมทีนี่เป็นแค่เรื่องเล็กน้อย แต่ท่าทียกตนข่มท่านของอีกฝ่ายทำให้เขาอึดอัดใจ “พี่สาว เห็นกันอยู่ว่าคุณเปิดประตูรถไม่มองกระจกมองหลัง คุณจะโทษว่าเป็นความผิดผมทุกอย่างไม่ได้นะครับ"“นอกจากนี้ ผมได้ขอโทษคุณก่อนแล้ว คุณช่วยมีเหตุมีผลได้ไหม!”“นี่คุณบอกว่าฉันไม่มีเหตุผลงั้นเหรอ?”สาวสวยคนนั้นโกรธและมองไปที่รถมอเตอร์ไซค์ของฉินหมิงอย่างเย็นชา ด้วยสีหน้ารังเกียจ "ก็แค่มอเตอร์ไซค์ห่วยแตก แถมยังเป็นสีชมพูอีก!"“เป็นผู้ชายดี ๆ ไม่ชอบ ดันมาเป็นตุ๊ดซะงั้น น่าเกลียดมากจริง ๆ!”“ผมอยากขี่มอเตอร์ไซค์สีอะไร มันไม่ใช่เรื่องของคุณสักหน่อย!”“นาย...อย่าให้มันมากไปนะ!”ฉินหมิงหน้าแดงก่ำขึ้นมาทันทีเห็นอยู่ชัดเจนว่าอีกฝ่ายเปิดประตูรถชนเขาจนเกือบล้ม แต่กลับมาหาว่าเขาเป็นตุ๊ด!ไม่ว่าเขาจะอารมณ์ดีแค่ไหน เขาก็รู้สึกมีอารมณ์โกรธขึ้นมาห
“ฉันไม่เป็นไรเลย โชคดีมากที่ฉินหมิงบังเอิญมาช่วยฉันเอาไว้ทัน…”หลินหว่านชิงส่ายหน้า และเล่าให้หานซีฟังอย่างละเอียดว่าเกิดอะไรขึ้นหานซีเป็นเพื่อนร่วมชั้นในมหาวิทยาลัยของหลินหว่านชิงและเป็นเพื่อนที่สนิทที่สุดหลินหว่านชิงมีเพื่อนไม่มากนัก และหานซีก็เป็นเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของเธอช่างเรื่องลวนลามอะไรไปเถอะ เรื่องพรรค์นั้นกับพี่สาวน้องสาวด้วยกันยังพูดออกมาไม่ได้เลย“เธอบอกว่าเขาเป็นคนแปลกหน้าที่ไม่เพียงแต่รับมีดแทนเธอ แต่ยังลากคนร้ายมาตายด้วยกันเพื่อปกป้องเธอด้วย!”“นี่แหละลูกผู้ชายตัวจริง!”“ฉันคิดว่าฉันต้องรู้สึกปลอดภัยเมื่ออยู่กับเขาแน่!”แววตาของหานซีเป็นประกาย เหตุผลที่เธอชื่นชมตัวละครทหารแข็งแรงและคนที่กล้าหาญแข็งแกร่งแบบในละครทีวี ก็คงเป็นเพราะตั้งแต่เด็กเธอเติบโตมาโดยไม่ได้รับความรู้สึกมั่นคงปลอดภัยเลยน่าเสียดายที่ละครโทรทัศน์เหล่านั้นมีไว้เพื่อการแสดง อย่างน้อยในชีวิตที่ผ่านมาเธอก็ไม่เคยเจอพวกเขาเลยแต่ตอนนี้มีคน ๆ นั้นมีชีวิตอยู่ ปรากฏตัวอยู่ข้าง ๆ เธอจากคำบอกเล่าของหลินหว่านชิง เธอสามารถสัมผัสได้ถึงความอันตรายและความรู้สึกได้รับการปกป้องปลอดภัย นั่นเป็นสิ่งที่เธอ
"ฉันคิดว่าก็โอเคอยู่นะ..."ใบหน้างดงามของหลินหว่านชิงก็เริ่มแดงเห่อขึ้นมาสิ่งที่เธอกับหานซีพูดเมื่อกี้ ถือเป็นความลับระหว่างเพื่อนสนิทแต่เผอิญหานซีเผลอพูดต่อหน้าฉินหมิงออกมาตามตรงนี่สิใบหน้าของเธอก็เห่อร้อนอยู่ครู่หนึ่ง ไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ากับฉินหมิงอย่างไรดีหานซีแทบรับไม่ได้ เธอเกือบจะอาเจียนออกมาเป็นเลือด เธอเพิ่งตั้งตารอผู้ชายคนนั้นอยู่และเริ่มบูชาชายที่สุดแสนจะสมบูรณ์แบบในจินตนาการแล้วด้วยซ้ำ!แต่สิ่งที่เธอไม่เคยคิดไม่เคยฝันถึงก็คือ ผู้ชายกล้าหาญองอาจคนนั้นกลายเป็นตุ๊ดที่เธอเพิ่งเจอเมื่อกี้!คงนึกออกได้เลยว่าเธอจะสะเทือนใจได้ขนาดไหน!เธอรู้สึกเหมือนถูกหลินหว่านชิงหลอกจนเกือบตาย!หลินหว่านชิงหายใจเข้าลึก ๆ และเป็นคนแรกที่เริ่มทำให้บรรยากาศสงบลง "ฉินหมิงฉันยังขาดตำแหน่งเลขานุการประธาน ฉันอยากจะจัดให้นายเป็นเลขาของฉัน นายโอเคไหม?"“หากนายไม่พอใจ ฉันเปลี่ยนนายไปเป็นตำแหน่งอื่นได้นะ!”“พอใจ ผมพอใจอยู่แล้ว”ฉินหมิงรู้สึกประหลาดใจมาก และรีบพยักหน้าทันทีงานที่หลินหว่านชิงจัดให้นั้นดีกว่าที่เขาจินตนาการไว้มาก ในอนาคตเขาสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมจากหลินหว่านชิงได้มากขึ้น ซึ่งม
ในสำนักงานเหยียนซ่งไท่อายุประมาณห้าสิบปี ศีรษะล้าน และมีน้ำหนักเกินเล็กน้อยกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะของเขาฝั่งตรงข้ามของเขามีสาวน้อยยืนประหม่าอยู่ ยืนกุมมือตัวเองไว้สาวน้อยอายุประมาณยี่สิบเอ็ดยี่สิบสองปี หน้าตาอ่อนโยนอ่อนเยาว์สงบนิ่ง เธอสวมแว่นตากรอบสีดำขนาดใหญ่บนใบหน้า ปกปิดรูปลักษณ์ที่งดงามของเธอเธอตัวเล็กและแต่งตัวเรียบง่าย แต่ไม่อาจปกปิดความงามตามธรรมชาติของเธอได้สาวน้อยที่ยืนอยู่ข้างหน้าชื่อเฉินถิงถิง เธอเป็นหนึ่งในสามเลขานุการของผู้บริหาร ตำแหน่งของเธอเหมือนกับฉินหมิง ฉินหมิงเป็นเลขานุการท่านประธาน และเธอเป็นเลขานุการนั่งโต๊ะทั่วไปนอกจากนี้ เลขานุการผู้บริหารยังมีผู้บังคับบัญชาโดยตรงอยู่อีกสองคน คนหนึ่งผู้อำนวยการ และอีกคนหนึ่งเป็นผู้อำนวยการสำนักงานท่านประธาน“เลขาเฉิน คุณอยู่ในบริษัทมาหนึ่งเดือนแล้ว แม้ว่าการทำงานของคุณจะโอเค แต่คุณยังไม่สามารถตอบสนองอย่างรวดเร็วเพียงพอ”“ผมไม่ค่อยพอใจกับผลงานของคุณมากนัก!”“คุณคิดว่าเราควรทำอย่างไร?”เหยียนซ่งไท่หรี่ตาลง แววตาชั่วร้ายวาบเข้ามาในสายตาเขาเฉินถิงถิงสะดุ้งตกใจและรีบโค้งหัวลงทันที "ผู้อำนวยการเหยียน ในอนาคตฉันจะตั้งใจท
“ผู้อำนวยการเหยียน ได้โปรดปล่อยฉันไปเถอะ…”เฉินถิงถิงขอร้องด้วยสีหน้าอ้อนวอน จิตใจสับสนวุ่นวายไปหมด ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรดี“ถิงถิง ผู้หญิงสวย ๆ มีไว้สำหรับให้ผู้ชายชื่นชมเท่านั้น คุณควรใช้ข้อดีของตัวเองให้เกิดประโยชน์สิ!”"ไม่ต้องกังวลไป ตราบใดที่คุณอยู่กับผม ผมรับรองเลยว่าคุณจะได้รับการเลื่อนตำแหน่ง และเพิ่มเงินเดือนในอนาคตแน่นอน คุณจะได้ทุกอย่างในบริษัทนี้ ชี้นกเป็นนก ชื้ไม้เป็นไม้!"เหยียนซ่งไท่หัวเราะเบา ๆ และฉวยโอกาสตอนที่เฉินถิงถิงอ่อนแอ เขาก็กอดเฉินถิงถิง จากนั้นจูบแก้มของเฉินถิงถิงเฉินถิงถิงอยากต่อต้านขัดขืน แต่เมื่อเธอคิดถึงแม่ของเธอที่นอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาล และการเรียนของน้องชายของเธอ เธอก็ไม่อาจรวบรวมความกล้าที่จะขัดขืนได้ในขณะนั้น สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความโศกเศร้าและสิ้นหวัง...ก็อก ๆ!ในตอนนั้นมีเสียงเคาะประตูดังขึ้น ฉินหมิงเปิดประตูเดินเข้าไป พร้อมกับเอกสารเข้าทำงานจากแผนกบุคคลในมือของเขาเมื่อเห็นเหตุการณ์ในห้อง ฉินหมิงก็ตกใจไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเฉินถิงถิงก็ได้สติขึ้นมา สีหน้าของเธอแดงก่ำ เธอก็รีบผลักเหยียนซ่งไท่ออกไปเขาเกือบจะได้ผู้หญิงคนนี้แล้ว แต่
บรรพบุรุษตระกูลฉินทิ้งความรู้ไว้ให้เขาอย่างกว้างขวางมาก แถมยังรวมถึงสูตรลับบางอย่างในการกระตุ้นศักยภาพของร่างกายมนุษย์ด้วย สูตรลับเหล่านี้เกี่ยวข้องกับทักษะทางการแพทย์และได้รับการบันทึกอย่างละเอียดสำหรับยาปราณแท้ ปัจจุบันเขามีสำรองอยู่อีกหลายเม็ดตอนนี้ทั้งสองอย่างล้วนพร้อมแล้ว เขาต้องการช่วยเฝิงเจิ้นฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธไปให้ได้ นี่ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย!“ลุงเฝิง ผมบอกความจริงกับคุณก็แล้วกัน แม้ว่าผมจะไม่แน่ใจว่าสามารถช่วยคุณทะลวงไปสู่ระดับราชาแห่งสงครามได้หรือไม่ แต่ผมจะพยายามลองอย่างเต็มที่ โอกาสที่จะประสบความสำเร็จน่าจะสูงมาก ... "ฉินหมิงพูดอย่างจริงใจ“ลองดู?”“การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ เรื่องแบบนี้จะลองสุ่มสี่สุ่มห้าได้อย่างไร หากมีสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ผลที่ตามมาอาจเป็นหายนะ!”เฝิงเจิ้นตกใจยิ่งกว่าเดิมในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่า ฉินหมิงกำลังพูดเรื่องไร้สาระและต้องการใช้เขาเป็นหนูทดลองหากเป็นเรื่องอื่นก็เอาเถอะ เขาคงสามารถให้ความร่วมมือกับฉินหมิงได้ แต่การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธเป็นสิ่งสำคัญ หากไม่ระวังอาจกลายเป็นบ้าได้ง่าย ๆ หรือแม้แต่สูญเสียทักษ
เดิมทีระดับการบ่มเพาะของลี่ตั๋วไห่นั้นทัดเทียมกับเขา ทั้งสองอยู่ในระดับของครึ่งก้าวราชาสงคราม ต่างคนต่างไม่สามารถทำอะไรกับอีกฝ่ายได้แต่ตอนนี้ความแข็งแกร่งของลี่ตั๋วไห่แซงหน้าเขาไปแล้ว ต่อไปนี้มันยากมากสำหรับเขาที่จะสู้กับลี่ตั๋วไห่ได้!ชั่วขณะหนึ่ง เขารู้สึกถึงวิกฤตที่รุนแรงมาก แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้“บางทีลี่ตั๋วไห่อาจโชคดีมากกว่า...”ฉินหมิงฉุกคิดได้ และดูเหมือนเขาจะเข้าใจอะไรบางอย่างอย่างคลุมเครือเขาเคยสงสัยมาก่อนตอนที่อยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ว่าลี่ตั๋วไห่สามารถฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ์ได้อย่างง่ายดาย นี่อาจมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับการปล้นเจิ้งอวี่ มิฉะนั้นลี่ตั๋วไห่จะไม่สร้างศัตรูที่แข็งแกร่งอย่างตระกูลเจิ้งเพียงเพื่อยาปราณแท้แค่สามเม็ดแน่ตอนนี้เขาคิดเชื่อมโยงกันเล็กน้อย ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าลี่ตั๋วไห่อาจจะสามารถทะลวงเข้าไปในระดับของราชาสงครามได้โดยใช้ยาปราณแท้สามเม็ดนี้!นี่ไม่ใช่ประเด็น ประเด็นก็คือในฐานะคนหลอมยาปราณแท้ เขาเข้าใจคุณสมบัติของยาปราณแท้มากกว่าใคร ๆ ในเมื่อแม้แต่ลี่ตั๋วไห่ก็มีสิทธิ์พึ่งพายาปราณแท้เพื่อกลายเป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งในระดับราชาสงคราม ถ้าอย่
ตอนนี้เขาสะบักสะบอมมาก มันเจ็บไปทั้งหัวใจ และเขาคิดอยากลบความรู้สึกที่มีต่อหลินหว่านชิงออกไปให้หมดสิ้น แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง!เขาจะกลับไปคบหลินหว่านชิงอีกครั้งได้อย่างไร!“ฉินหมิง คุณใจร้ายกับฉันได้ขนาดนี้เลยเหรอ?”หลินหว่านชิงกัดริมฝีปากแล้วมองฉินหมิงด้วยใบหน้าเศร้า เธอพยายามกลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้ไหลลงมา“ไม่ได้ใจร้าย เพียงแต่ว่าโชคชะตาระหว่างเราสองคนจบลงแล้ว!”“ถ้าคุณเต็มใจ เราก็ยังเป็นเพื่อนกันต่อไปได้ แต่เรื่องความรู้สึกให้มันจบลงเพียงเท่านี้เถอะ!”ฉินหมิงพูดอย่างใจเย็น“ได้ คุณพูดแบบนี้เอง คุณอย่าเสียใจภายหลังก็แล้วกัน!”หลินหว่านชิงรู้สึกเหมือนคนอกหัก เมื่อต้องเผชิญกับความไร้เยื่อใยและความเมินเฉยของฉินหมิง เธอไม่มีความกล้าพอที่จะอยู่ตรงนี้อีกต่อไป เธอจึงหันหลังกลับและวิ่งหนีไปทันทีที่เธอหันหลังมา หยดน้ำตาก็ไหลลงอาบแก้มของเธออย่างเงียบ ๆ “ฉินหมิง ไอ้สารเลว!”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยโกรธมาก เธอจ้องมองไปที่ฉินหมิงด้วยสายตาเกลียดชัง จากนั้นก็วิ่งตามไปยังทิศทางของหลินหว่านชิง“ฉินหมิง คุณดูแลตัวเองให้ดี ๆ เถอะ!”หานซีเหลือบมองฉินหมิงด้วยสีหน้าซับซ้อน จากนั้นเธอและไล่ตามเซี
ฉินหมิงตกใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ“แน่นอนว่านายไม่รู้!”“ครั้งที่แล้ว พี่ไปที่หมิงเหยากรุ๊ปเพื่อไปง้อนาย แต่เธอถูกซูซินเหยาหลอกให้คิดว่านายกับซูซินเหยาคบกันแล้ว…”“ผู้กระทำผิดทั้งหมดนี้ก็คือซูซินเหยา ถ้าเธอไม่เข้ามาขวางทาง พี่คงไม่ได้รับข้อมูลผิด ๆ จากเธอและไม่ทำร้ายนายครั้งแล้วครั้งเล่า…”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดด้วยความโกรธ และเธอก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างคร่าว ๆหลังจากฟังแล้ว ฉินหมิงมีสีหน้าประหลาดใจและไม่แน่ใจ จากนั้นเขาก็มองซูซินเหยาด้วยดวงตาที่ลุกเป็นไฟและถามว่า "ซินเหยา สิ่งที่เสี่ยวเตี๋ยพูดเป็นความจริงหรือเปล่า?"“ฉัน...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาเปลี่ยนเป็นสีแดง เธออ้าปากพูด แต่ก็พูดไม่ออกท้ายที่สุดแล้ว เรื่องนี้เป็นความผิดของเธอจริง ๆ เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยไม่ได้กล่าวหาเธอ และเธอก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร“ทำไมต้องโกหกผม?”สีหน้าของฉินหมิงมืดลงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาที่จะเดาจากปฏิกิริยาของซูซินเหยาว่า สิ่งที่เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดนั้นเป็นเรื่องจริง!“ฉินหมิง ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะโกหกคุณ…”“ฉันก็แค่ชอบคุณมาก และไม่อยากเสียคุณไป ฉันจึงตัดสินใจทำมันลงไป...”ดวงตาขอ
ในขณะนี้ เขายังสงบสติอารมณ์ไม่ได้ และความตั้งใจอันแน่วแน่ดั้งเดิมของเขาก็อดไม่ได้ที่จะสั่นคลอนเล็กน้อย“ฉินหมิง คุณอย่าตอบตกลงเธอนะ...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาซีดลง เธอมองไปที่ฉินหมิงด้วยความกังวลเธอรับรู้ความรู้สึกของฉินหมิงที่มีต่อหลินหว่านชิง และเธอก็เห็นว่าฉินหมิงหวั่นไหว หากไม่ผิดคาด ฉินหมิงน่าจะทิ้งเธอไปแล้วกลับไปหาหลินหว่านชิงเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เธอรู้สึกเศร้ามาก และใจของเธอก็ค่อย ๆ จมลงสู่ก้นบึ้งเมื่อเห็นสีหน้าเศร้าสร้อยของซูซินเหยา ฉินหมิงก็ตื่นขึ้นมาทันทีราวกับว่าถูกสาดหน้าด้วยน้ำเย็นหากเป็นเมื่อก่อน เขาอาจจะตกลงที่จะกลับไปคืนดีกับหลินหว่านชิงแต่ตอนนี้ เขาได้ตกลงที่จะหมั้นกับซูซินเหยาแล้ว และเมื่อสักครู่นี้ยังให้สัญญากับซูซินเหยาอีกด้วย!หากเขายกเลิกงานหมั้นในเวลานี้ ไม่ต้องคิดเลยว่าจะทำให้ซูซินเหยาเสียใจมากแค่ไหน!ไม่ชอบสิ่งใด ก็อย่าได้ทำสิ่งนั้นกับคนอื่นตอนที่เขากับหลินหว่านชิงเลิกกัน เขาได้สัมผัสรสชาติความเจ็บปวดด้วยตัวเอง มันเป็นความเจ็บปวดที่จดจำไว้ในใจไม่ลืมเลือน เจ็บจนเจียนตายในเมื่อแม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่ชอบความเจ็บปวดแบบนี้ เขาจะใจร้ายทำร้ายซูซินเห
“ผมไม่เป็นไร แค่บาดเจ็บนิดหน่อย...”ฉินหมิงยิ้มเบา ๆแม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหลินหว่านชิงจะทะเลาะกันจนค่อนข้างไม่มีความสุข แต่หานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขามาก เขาถือว่าหานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยเป็นเพื่อนที่ดีมาโดยตลอดเขารู้สึกอบอุ่นหัวใจเป็นอย่างมากเมื่อเห็นเพื่อนทั้งสองแสดงความเป็นห่วงเขา“ฉินหมิง ฉันขอโทษ เป็นฉันเองที่ทำร้ายคุณ”หลินหว่านชิงพูดด้วยท่าทางรู้สึกผิด“ไม่เป็นไร ทั้งหมดเป็นความสมัครใจของผมเอง...”ฉินหมิงแสร้งทำเป็นฝืนยิ้มความรักคือการให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เขาเสียสละมากมายเพื่อหลินหว่านชิงอย่างเต็มใจ ไม่สามารถโทษผู้อื่นได้“คุณหนูใหญ่หลิน คุณมาหาผมมีธุระอะไรเหรอ?”ฉินหมิงถามตรงประเด็น แม้แต่ชื่อน่ารัก ๆ ที่เขาใช้เรียกหลินหว่านชิงก็ได้เปลี่ยนไปแล้วในเมื่อตอนนี้เขาตัดใจจากหลินหว่านชิงแล้ว และกำลังจะหมั้นกับซูซินเหยา เขาควรขีดเส้นความสัมพันธ์ให้ชัดเจนกับหลินหว่านชิงและพยายามรักษาระยะห่าง นี่เป็นหน้าที่อย่างหนึ่งที่สมควรทำเมื่อได้ยินชื่อเรียกที่ไม่คุ้นเคยออกมาจากปากฉินหมิง หลินหว่านชิงก็รู้สึกเจ็บแปลบในใจแต่เธอรู้ว่าทั้งหมดน
ฉินหมิงเป็นคู่แข่งทางความรักที่ใหญ่ที่สุดของเขา ขอแค่ฉินหมิงและหลินหว่านชิงคืนดีกันไม่สำเร็จในครั้งนี้ เขาก็สามารถใช้โอกาสจากเรื่องนี้เข้าไปอยู่ในหัวใจของหลินหว่านชิงได้ง่ายขึ้น!แค่ได้คิดก็มีความสุขมาก!......คฤหาสน์ตระกูลซูแขนข้างหนึ่งของฉินหมิงถูกพันด้วยผ้าพันแผล เขานอนอยู่บนเตียงเพื่อพักฟื้นอยู่ในห้องเพราะเขากินยามังกรซ่อนไปหนึ่งเม็ดตอนอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ตอนนี้เขาจึงอยู่ในระยะอ่อนแอ ร่างกายไร้เรี่ยวแรงข้างเตียงซูซินเหยาดูแลฉินหมิงอย่างดี ในมือถือชามยาบำรุงพลังร่างกาย เธอป้อนยาให้ฉินหมิงด้วยรอยยิ้มที่มีความสุขบนใบหน้าอันงดงามของเธอคนเราจะมีความสุขเมื่อได้อยู่กับคนที่เรารัก เธอรอคอยฉินหมิงมาเป็นเวลานาน ในที่สุดวันที่ยากลำบากผ่านพ้นไป วันที่หวานชื่นก็มาถึง ได้กลับมาอยู่ด้วยกันกับฉินหมิงสมใจปรารถนาใครก็ยากที่จะจินตนาการถึงความสุขในใจของเธอได้!หลังจากกลับมาจากคฤหาสน์ตระกูลหลิน ใบหน้าที่สวยงามของเธอก็ไม่เคยหยุดยิ้มได้เลย…ในขณะนี้ มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของตระกูลซูนายหนึ่งเดินเข้ามาจากด้านนอกอย่างรวดเร็ว“คุณหนูใหญ่ ข้างนอกมีผู้หญิงคนหนึ่
“สรุปก็คือหนูจะไปหาเขาตอนนี้และอธิบายเรื่องทุกอย่างให้ชัดเจน บางทีนี่อาจจะเอาชนะใจเขากลับมาได้!”หลินหว่านชิงพูดอย่างหนักแน่นพูดจบเธอก็หันหลังแล้วเดินออกไป“ไม่ได้ ลูกจะไปไม่ได้!”“เรื่องของฉินหมิงเป็นเรื่องอดีตไปแล้ว ลูกควรมองไปข้างหน้า ตอนนี้หลานเค่ออั๋งคือตัวเลือกที่ดีที่สุดของลูก!”หลินเถิงฮุ่ยหมุนรถเข็นของเขาและรีบไปหยุดหลินหว่านชิงไว้ในความเป็นจริง เหตุผลที่เขาห้ามหลินหว่านชิงก็เพราะว่าฉินหมิงกำลังจะหมั้นหมายกับซูซินเหยา และเนื่องจากเค่ออั๋งชอบหลินหว่านชิงมากแม้ว่าฉินหมิงจะมีความสามารถที่ยอดเยี่ยม แต่ฉินหมิงก็เป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ไร้อำนาจบารมี หากฉินหมิงจะเต็มใจที่จะกลับมาคืนดีกับหลินหว่านชิงจริง ๆ มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเขาในการกลับไปสู่วงศ์ตระกูลแต่เค่ออั๋งนั้นแตกต่างออกไป หากหลินหว่านชิงยอมรับเค่ออั๋งด้วยพลังยุทธและรากฐานของตระกูลเค่อ การช่วยให้เขายึดอำนาจของตระกูลกลับคืนมาคงไม่ใช่เรื่องยากอย่างแน่นอน!“พ่อ ก่อนหน้านี้พ่อทำเพื่อประโยชน์ของตระกูล จึงเข้ามาก้าวก่ายเรื่องระหว่างหนูกับฉินหมิง อย่างไม่ลังเล และท้ายที่สุดหนูก็ทำร้ายฉินหมิงครั้งแล้วครั้งเล่า...”“ตอนนี้พ่
การให้ความช่วยเหลือในเวลาที่ต้องการเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด ตอนนี้หลินหว่านชิงและพ่อของเธอกำลังประสบปัญหา จุดประสงค์ของการมาที่นี่คือการถือโอกาสแสดงความเป็นสุภาพบุรุษต่อหน้าหลินหว่านชิงในตอนที่พวกเขาต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด และหวังว่าจะได้รับความโปรดปรานจากเธอ!ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์แล้วว่าเขามาทันเวลา เมื่อสักครู่นี้เขาเป็นพระเอกขี่ม้าขาวและช่วยหลินหว่านชิงให้รอดพ้นจากอันตราย ความประทับใจที่ไม่ดีต่อเขาในอดีตก็เปลี่ยนไปมากเช่นกัน“คุณอยากช่วยเราเหรอ?”หลินเถิงฮุ่ยรู้สึกประหลาดใจและตื่นเต้นตระกูลเค่อเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของเมืองเจียงเฉิง ที่มีพลังยุทธและรากฐานที่ทรงพลังมาก หากเขาได้รับความช่วยเหลือจากเค่ออั๋งและตระกูลเค่อได้ มันจะเป็นเรื่องง่ายขึ้นมากสำหรับเขาและหลินหว่านชิงที่จะกลับคืนสู่ตระกูลหรือยึดอำนาจของตระกูลคืนมา!“ใช่แล้ว!”“ลุงหลิน ตราบเท่าที่คุณต้องการความช่วยเหลือจากผม ผมจะพยายามอย่างดีที่สุดและทำอย่างเต็มที่!”เค่ออั๋งพูดเสียงดังฉะฉาน“ดี เยี่ยมมาก!”“หลานเค่ออั๋ง หากคุณสามารถช่วยฉันกับหว่านชิงกลับคืนสู่ตระกูลหลินได้ เราสองพ่อลูกจะขอบคุณอย่างยิ่ง!”หลินเถิงฮ