ในสำนักงานเหยียนซ่งไท่อายุประมาณห้าสิบปี ศีรษะล้าน และมีน้ำหนักเกินเล็กน้อยกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะของเขาฝั่งตรงข้ามของเขามีสาวน้อยยืนประหม่าอยู่ ยืนกุมมือตัวเองไว้สาวน้อยอายุประมาณยี่สิบเอ็ดยี่สิบสองปี หน้าตาอ่อนโยนอ่อนเยาว์สงบนิ่ง เธอสวมแว่นตากรอบสีดำขนาดใหญ่บนใบหน้า ปกปิดรูปลักษณ์ที่งดงามของเธอเธอตัวเล็กและแต่งตัวเรียบง่าย แต่ไม่อาจปกปิดความงามตามธรรมชาติของเธอได้สาวน้อยที่ยืนอยู่ข้างหน้าชื่อเฉินถิงถิง เธอเป็นหนึ่งในสามเลขานุการของผู้บริหาร ตำแหน่งของเธอเหมือนกับฉินหมิง ฉินหมิงเป็นเลขานุการท่านประธาน และเธอเป็นเลขานุการนั่งโต๊ะทั่วไปนอกจากนี้ เลขานุการผู้บริหารยังมีผู้บังคับบัญชาโดยตรงอยู่อีกสองคน คนหนึ่งผู้อำนวยการ และอีกคนหนึ่งเป็นผู้อำนวยการสำนักงานท่านประธาน“เลขาเฉิน คุณอยู่ในบริษัทมาหนึ่งเดือนแล้ว แม้ว่าการทำงานของคุณจะโอเค แต่คุณยังไม่สามารถตอบสนองอย่างรวดเร็วเพียงพอ”“ผมไม่ค่อยพอใจกับผลงานของคุณมากนัก!”“คุณคิดว่าเราควรทำอย่างไร?”เหยียนซ่งไท่หรี่ตาลง แววตาชั่วร้ายวาบเข้ามาในสายตาเขาเฉินถิงถิงสะดุ้งตกใจและรีบโค้งหัวลงทันที "ผู้อำนวยการเหยียน ในอนาคตฉันจะตั้งใจท
“ผู้อำนวยการเหยียน ได้โปรดปล่อยฉันไปเถอะ…”เฉินถิงถิงขอร้องด้วยสีหน้าอ้อนวอน จิตใจสับสนวุ่นวายไปหมด ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรดี“ถิงถิง ผู้หญิงสวย ๆ มีไว้สำหรับให้ผู้ชายชื่นชมเท่านั้น คุณควรใช้ข้อดีของตัวเองให้เกิดประโยชน์สิ!”"ไม่ต้องกังวลไป ตราบใดที่คุณอยู่กับผม ผมรับรองเลยว่าคุณจะได้รับการเลื่อนตำแหน่ง และเพิ่มเงินเดือนในอนาคตแน่นอน คุณจะได้ทุกอย่างในบริษัทนี้ ชี้นกเป็นนก ชื้ไม้เป็นไม้!"เหยียนซ่งไท่หัวเราะเบา ๆ และฉวยโอกาสตอนที่เฉินถิงถิงอ่อนแอ เขาก็กอดเฉินถิงถิง จากนั้นจูบแก้มของเฉินถิงถิงเฉินถิงถิงอยากต่อต้านขัดขืน แต่เมื่อเธอคิดถึงแม่ของเธอที่นอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาล และการเรียนของน้องชายของเธอ เธอก็ไม่อาจรวบรวมความกล้าที่จะขัดขืนได้ในขณะนั้น สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความโศกเศร้าและสิ้นหวัง...ก็อก ๆ!ในตอนนั้นมีเสียงเคาะประตูดังขึ้น ฉินหมิงเปิดประตูเดินเข้าไป พร้อมกับเอกสารเข้าทำงานจากแผนกบุคคลในมือของเขาเมื่อเห็นเหตุการณ์ในห้อง ฉินหมิงก็ตกใจไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเฉินถิงถิงก็ได้สติขึ้นมา สีหน้าของเธอแดงก่ำ เธอก็รีบผลักเหยียนซ่งไท่ออกไปเขาเกือบจะได้ผู้หญิงคนนี้แล้ว แต่
ไม่งั้นจิตสำนึกของเขาคงมีปัญหา“ฉันไม่สนใจว่าแกเป็นใคร ออกไปเดี๋ยวนี้ ฉันไม่เกรงใจอย่ามาโทษกันล่ะ!”เหยียนซ่งไท่โกรธจนแทบจะระเบิด โมโหจนแทบอยากเคี้ยวฉินหมิงให้แหลกฉินหมิงรู้สึกลังเลมากถึงแม้ว่าหลินหว่านชิงจะหนุนหลังเขาอยู่ และไม่ได้กลัวการข่มขู่ของเหยียนซ่งไท่อย่างไรก็ตาม หลินหว่านชิงได้บอกไว้แล้วก่อนหน้านี้ว่า เธอไม่ต้องการเปิดเผยความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขา และเธอไม่ต้องการให้เขาใช้ชื่อเธอกระทำการเสื่อมเสียในบริษัทนี้ยิ่งไปกว่านั้น เหยียนซ่งไท่ยังเป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรงของเขา และเป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญที่มีอำนาจในบริษัท ผู้นำอาวุโสหลายคนของบริษัทหนุนหลังอยู่การทะเลาะกับเจ้านายในวันแรกของการทำงาน ย่อมไม่ใช่เรื่องดีสำหรับเขาอย่างแน่นอนหากเรื่องราวบานปลายใหญ่โตส่งผลต่อบริษัท ความประทับใจดี ๆ ที่หลินหว่านชิงมีต่อเขาจะต้องลดลงมากแน่นอนเมื่อเห็นฉินหมิงนิ่งเงียบไป เหยียนซ่งไท่ก็คิดว่าฉินหมิงกลัว เขาเลยหัวเราะออกมา "ทำไมยังอยู่อีกล่ะ ยังไม่รีบออกไปอีก!"“ผู้อำนวยการเหยียนครับ ผมมารายงานตัวตามกฎและข้อบังคับของบริษัท คุณให้ผมออกไปแบบนี้ ดูเหมือนไม่เหมาะสมนิดหน่อยว่าไหมครับ?”ฉินห
เพียะ!ความรู้สึกปวดแสบปวดร้อนที่แก้ม ฉินหมิงรู้สึกโกรธมาก และยกมือปิดหน้าไว้ เขารู้ว่าเหยียนซ่งไท่ต้องจงใจทำแน่!แต่ในช่วงสามปี นับตั้งแต่เขาเข้าไปอยู่ในตะกูลหม่า เขาเริ่มชินกับการเยาะเย้ยและการกลั่นแกล้ง ถูกหม่าลู่บั่นทอนความมั่นใจของเขาเหยียนซ่งไท่ที่กำลังทำให้เขาลำบาก ในที่สุดเขาจึงเลือกที่จะข่มความโกรธของเขาไว้“ยืนบื้ออะไรอยู่อีก!”“ทำไมไม่รีบเก็บเศษแก้วแล้วทำความสะอาด!”เหยียนซ่งไท่ตวาดใส่เขาฉินหมิงข่มความโกรธตัวเอง แล้วนั่งลงหยิบเศษแก้วที่แตกอยู่บนพื้น“คิดสู้กับฉันเหรอ?”“ตาบอดรึไง อย่างแกนี่มันกาก!”เหยียนซ่งไท่ยิ้มอย่างเย็นชา เหยียบลงหลังมือของฉินหมิง และขยี้เท้าอย่างแรงเศษแก้วแหลมคมอยู่ใต้ฝ่ามือของฉินหมิง ความเจ็บปวดเสียดแทงเข้ามา เศษแก้วแหลมคมหลายชิ้นทิ่มแทงฝ่ามือของเขาจนเลือดไหลออกมาฟืด!ฉินหมิงหายใจเข้าและดึงมือเขากลับอย่างแรงเหมือนถูกไฟฟ้าช็อตเท้าของเหยียนซ่งไท่ที่เหยียบบนหลังมือของฉินหมิง เขาตั้งตัวไม่ทัน และล้มกับพื้นดังตึงจนหงายท้องขาชี้ฟ้า“แม่งเอ้ย ไอ้บัดซบนี่ อยากตายสินะ!”เหยียนซ่งไท่โกรธมากซะจนเขาเอาก้นบุหรี่ที่ถืออยู่ในมือเขวี้ยงใส่หน้าฉินห
เหยียนเก๋อเมิ่งเป็นญาติห่าง ๆ ของเหยียนซ่งไท่และยังเป็นหัวหน้ารปภ.อีกด้วย ซึ่งก็เป็นฝืมือของเหยียนซ่งไท่ที่เลื่อนขั้นให้กับเขาแน่นอนว่าเมื่อเป็นคำสั่งของเหยียนซ่งไท่ เขาจะไม่มีทางขัดคำสั่งอย่างแน่นอน“แม่งเอ๊ย กล้าทำร้ายพี่ฉันเหรอ ไม่อยากมีชีวิตแล้วใช่ไหมแก!”“มาให้ฉันจัดการซะดี ๆ ! วันนี้แหละฉันจะทำให้แกพิการ ฉันจะตีแกให้ตายเอง” เหยียนเก๋อเหมิงตะคอกพร้อมหยิบกระบองยางของยามออกมารปภ.คนอื่น ๆ ก็หยิบกระบองยางของยามออกมาเช่นเดียวกัน และพากันจู่โจมฉิงหมิงเหมือนหมาหมู่“ระวังค่ะ!”เฉินถิงถิงมองดูอย่างอกสั่นขวัญหายที่ฉินหมิงขัดแย้งกับผู้อำนวยการเหยียนก็เพราะเขาพยายามช่วยเหลือเธอแต่ตอนนี้สติเธอกระเจิดกระเจิง ใบหน้าเธอเต็มไปด้วยความร้อนรน ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดีเมื่อก่อนเหยียนเก๋อเมิ่งเคยเป็นอันธพาลชื่อดังในย่านท้องถนน การที่ต้องต่อสู้กับห้าหกคนพร้อมกันก็ไม่ใช่ปัญหา ต่อมาเขาพลาดท่าทำร้ายคนอื่นจนถึงขั้นพิการจึงต้องเข้าคุกไปถึงสองปี จากนั้นผู้อำนวยการเหยียน ก็เป็นคนที่ช่วยฉุดเขาขึ้นมา“หมอนี่ตาบอดหรือไงถึงกล้าล่วงเกินผู้อำนวยการเหยียน ต้องเจอความโหดร้ายของเหยียนเก๋อเมิ่ง กลัวว่าเ
แม้ว่าเหยียนเก๋อเมิ่งจะแก้แค้นให้เขาไม่สำเร็จ แต่ก็ทำให้ไล่ฉินหมิงออกจากบริษัทได้ ซึ่งก็ช่วยระบายโทสะเขาไปได้นอกจากนี้ขอแค่ฉินหมิงโดนไล่ออก เขาก็จะไม่มีบริษัทคอยคุ้มครองและช่วยไกล่เกลี่ย เขาสามารถแจ้งความกับตำรวจอย่างเปิดเผยและจับกุมฉินหมิงซะ“ไล่ผมออกเหรอ?”“เพราะว่าแกมันไม่มีคุณสมบัติ!”ฉินหมิงมองเหยียนซ่งไท่อย่างเยือกเย็น เขาค่อย ๆ ก้าวไปหาฝ่ายตรงข้ามทีละก้าว“แก…แกคิดจะทำอะไร?”“ฉันเตือนแกไว้ก่อน แก…อย่าเข้ามานะ…”เหยียนซ่งไท่ถอยหลังไม่หยุด ในใจของเขามีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีเกิดขึ้น“ดูเหมือนว่าคุณจะไม่ค่อยพอใจนะ!“ผมต่อยคุณอีกสักหมัดเป็นไง!”ฉินหมิงยิ้มเย็น ไหน ๆ เรื่องก็มาถึงขนาดนี้แล้ว เขาก็คงไม่ต้องกังวลอะไรอีกไม่สู้สั่งสอนเหยียนซ่งไท่เพิ่มถือเป็นการระบายโทสะให้ตัวเองดีกว่าเขายังจำได้ดีว่า ชายแก่ที่ทำตัวเหมือนเด็กนี่ต้องการชีวิตเขาถึงตอนนั้นถ้าหลินหว่านชิงรู้สึกไม่ดีกับเขาหรือจะไล่เขาออกจากบริษัท ก็ยังถือว่าคุ้มค่า“แกกล้า…”เหยียนซ่งไท่เปลี่ยนสีหน้า ใจคิดอยากจะหนีแต่ก็กลับไร้ทางหนี“หยุดนะ!”เมื่อฉินหมิงยกหมัดขึ้นกำลังจะต่อย ทันใดนั้นก็มีเสียงตวาดอย่างเย็นชาดั
เฉินถิงถิงอดไม่ได้ที่จะตัวสั่น เธอรู้ว่าในบริษัทเหยียนซ่งไท่มีตำแหน่งและอำนาจในระดับสูง แม้ว่าเธอจะพูดความจริงออกมา อย่างมากที่สุดหานซีก็แค่ตำหนิเหยียนซ่งไท่ไม่กี่ประโยค ไม่สามารถทำอะไรเขาได้อยู่ดีหลังจากเรื่องจบตัวเธอเองที่จะต้องรับกับผลเสียที่ตามมา เหยียนซ่งไท่จะต้องใช้อำนาจไล่เธอออกอย่างแน่นอน!เธอคิดถึงแม่ที่นอนป่วยอยู่บนเตียงในพยาบาลขึ้นมา ไหนจะน้องชายที่กำลังเรียนหนังสือ ไหนจะความหวังที่ญาติตั้งไว้สูงกับเธอ!ในตอนนี้เฉินถิงถิงได้เกิดลังเลใจขึ้นมา“เป็นอะไรไป คุณพูดต่อสิ?”หานซีเร่งเร้า“ดิฉัน…ดิฉันกับผู้อำนวยการเหยียนคุยเรื่องงานที่ห้องสำนักงานค่ะ เขาไม่ได้ลวนลามฉันค่ะ…”เฉินถิงถิงพูดออกมาอย่างอึกอักพลางก้มหัวลงไม่กล้าสบสายตาฉินหมิงเธอซาบซึ้งมากที่ฉินหมิงช่วยเธอเอาไว้ แต่เธอก็ไม่สามารถรับผลเสียหากถูกไล่ออกไหว เธอทำได้แค่แอบพร่ำขอโทษฉินหมิงในใจเท่านั้น“อะไรนะ?”ฉินหมิงรู้สึกราวกับโดนสายฟ้าฟาด รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาแข็งทื่อเขาคิดไม่ถึงว่าตนช่วยเฉินถิงถิงทุกวิถีทาง แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือเฉินถิงถิงหักหลังเขาแสนสาหัส!“นี่ผู้ช่วยหาน คุณได้ยินทั้งหมดแล้วใช่ไหม ผมถูกใส่ร้
“ผมบอกว่าไม่ได้ก็ไม่ได้ไง!”“นี่ผู้ช่วยหาน คุณคงไม่ได้ตั้งใจจะปกป้องหมอนี่ใช่ไหม?”สีหน้าเหยียนซ่งไท่ไม่สบอารมณ์ เขาต้องการส่งฉินหมิงให้ตำรวจจัดการไม่อย่างนั้นคงยากที่จะกำจัดความแค้นในใจได้!หานซีเริ่มไม่พอใจความดื้อด้านของเหยียนซ่งไท่ “นี่ผู้อำนวยการเหยียน ฉันทั้งใช้ไม่อ่อนไม้แข็งกับคุณแล้วนะ ฉันถือว่าให้เกียรติคุณมากแล้ว คุณเองก็อย่ามากเกินไปนัก!“ฉินหมิงเป็นเพื่อนของหว่าน…ของฉันเอง!”“สรุปคุณจะตกลงหรือไม่ตกลงก็ช่าง เพราะเรื่องนี้ก็จะจบแบบนี้!หานซีหงุดหงิดเล็กน้อย พอประจำเดือนมาก็หงุดหงิดเพิ่มไปอีก เพราะฉะนั้นเธอจึงไม่สนใจว่าคำพูดของเธอมันจะทำให้เกิดความโกลาหลหรือไม่แน่นอนว่าคำพูดของเธอทำให้คนอื่นคิดไปอีกความหมายหนึ่งทันทีที่หานซีพูดออกมา คนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างก็ฮือฮา“เป็นอย่างนี้นี่เอง!”“มิน่าล่ะหมอนี่ถึงได้กล้าท้าทายผู้อำนวยการเหยียน ที่แท้เขาก็เป็นคนของผู้ช่วยหานนี่เอง!”“ตอนนี้มีเรื่องดี ๆ ให้ดูซะแล้วซิ!”…ทุกคนต่างตกตะลึงกระซิบกระซาบพูดคุยกัน ใคร ๆ ต่างก็คิดไม่ถึงว่าฉินหมิงคนนี้ไม่เพียงแต่ต่อสู้ได้เก่ง เขายังมีแบ็คอัพใหญ่อย่างหานซีด้วย!เป็นอย่างนี้ยิ่งทำให
บรรพบุรุษตระกูลฉินทิ้งความรู้ไว้ให้เขาอย่างกว้างขวางมาก แถมยังรวมถึงสูตรลับบางอย่างในการกระตุ้นศักยภาพของร่างกายมนุษย์ด้วย สูตรลับเหล่านี้เกี่ยวข้องกับทักษะทางการแพทย์และได้รับการบันทึกอย่างละเอียดสำหรับยาปราณแท้ ปัจจุบันเขามีสำรองอยู่อีกหลายเม็ดตอนนี้ทั้งสองอย่างล้วนพร้อมแล้ว เขาต้องการช่วยเฝิงเจิ้นฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธไปให้ได้ นี่ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย!“ลุงเฝิง ผมบอกความจริงกับคุณก็แล้วกัน แม้ว่าผมจะไม่แน่ใจว่าสามารถช่วยคุณทะลวงไปสู่ระดับราชาแห่งสงครามได้หรือไม่ แต่ผมจะพยายามลองอย่างเต็มที่ โอกาสที่จะประสบความสำเร็จน่าจะสูงมาก ... "ฉินหมิงพูดอย่างจริงใจ“ลองดู?”“การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ เรื่องแบบนี้จะลองสุ่มสี่สุ่มห้าได้อย่างไร หากมีสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ผลที่ตามมาอาจเป็นหายนะ!”เฝิงเจิ้นตกใจยิ่งกว่าเดิมในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่า ฉินหมิงกำลังพูดเรื่องไร้สาระและต้องการใช้เขาเป็นหนูทดลองหากเป็นเรื่องอื่นก็เอาเถอะ เขาคงสามารถให้ความร่วมมือกับฉินหมิงได้ แต่การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธเป็นสิ่งสำคัญ หากไม่ระวังอาจกลายเป็นบ้าได้ง่าย ๆ หรือแม้แต่สูญเสียทักษ
เดิมทีระดับการบ่มเพาะของลี่ตั๋วไห่นั้นทัดเทียมกับเขา ทั้งสองอยู่ในระดับของครึ่งก้าวราชาสงคราม ต่างคนต่างไม่สามารถทำอะไรกับอีกฝ่ายได้แต่ตอนนี้ความแข็งแกร่งของลี่ตั๋วไห่แซงหน้าเขาไปแล้ว ต่อไปนี้มันยากมากสำหรับเขาที่จะสู้กับลี่ตั๋วไห่ได้!ชั่วขณะหนึ่ง เขารู้สึกถึงวิกฤตที่รุนแรงมาก แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้“บางทีลี่ตั๋วไห่อาจโชคดีมากกว่า...”ฉินหมิงฉุกคิดได้ และดูเหมือนเขาจะเข้าใจอะไรบางอย่างอย่างคลุมเครือเขาเคยสงสัยมาก่อนตอนที่อยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ว่าลี่ตั๋วไห่สามารถฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ์ได้อย่างง่ายดาย นี่อาจมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับการปล้นเจิ้งอวี่ มิฉะนั้นลี่ตั๋วไห่จะไม่สร้างศัตรูที่แข็งแกร่งอย่างตระกูลเจิ้งเพียงเพื่อยาปราณแท้แค่สามเม็ดแน่ตอนนี้เขาคิดเชื่อมโยงกันเล็กน้อย ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าลี่ตั๋วไห่อาจจะสามารถทะลวงเข้าไปในระดับของราชาสงครามได้โดยใช้ยาปราณแท้สามเม็ดนี้!นี่ไม่ใช่ประเด็น ประเด็นก็คือในฐานะคนหลอมยาปราณแท้ เขาเข้าใจคุณสมบัติของยาปราณแท้มากกว่าใคร ๆ ในเมื่อแม้แต่ลี่ตั๋วไห่ก็มีสิทธิ์พึ่งพายาปราณแท้เพื่อกลายเป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งในระดับราชาสงคราม ถ้าอย่
ตอนนี้เขาสะบักสะบอมมาก มันเจ็บไปทั้งหัวใจ และเขาคิดอยากลบความรู้สึกที่มีต่อหลินหว่านชิงออกไปให้หมดสิ้น แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง!เขาจะกลับไปคบหลินหว่านชิงอีกครั้งได้อย่างไร!“ฉินหมิง คุณใจร้ายกับฉันได้ขนาดนี้เลยเหรอ?”หลินหว่านชิงกัดริมฝีปากแล้วมองฉินหมิงด้วยใบหน้าเศร้า เธอพยายามกลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้ไหลลงมา“ไม่ได้ใจร้าย เพียงแต่ว่าโชคชะตาระหว่างเราสองคนจบลงแล้ว!”“ถ้าคุณเต็มใจ เราก็ยังเป็นเพื่อนกันต่อไปได้ แต่เรื่องความรู้สึกให้มันจบลงเพียงเท่านี้เถอะ!”ฉินหมิงพูดอย่างใจเย็น“ได้ คุณพูดแบบนี้เอง คุณอย่าเสียใจภายหลังก็แล้วกัน!”หลินหว่านชิงรู้สึกเหมือนคนอกหัก เมื่อต้องเผชิญกับความไร้เยื่อใยและความเมินเฉยของฉินหมิง เธอไม่มีความกล้าพอที่จะอยู่ตรงนี้อีกต่อไป เธอจึงหันหลังกลับและวิ่งหนีไปทันทีที่เธอหันหลังมา หยดน้ำตาก็ไหลลงอาบแก้มของเธออย่างเงียบ ๆ “ฉินหมิง ไอ้สารเลว!”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยโกรธมาก เธอจ้องมองไปที่ฉินหมิงด้วยสายตาเกลียดชัง จากนั้นก็วิ่งตามไปยังทิศทางของหลินหว่านชิง“ฉินหมิง คุณดูแลตัวเองให้ดี ๆ เถอะ!”หานซีเหลือบมองฉินหมิงด้วยสีหน้าซับซ้อน จากนั้นเธอและไล่ตามเซี
ฉินหมิงตกใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ“แน่นอนว่านายไม่รู้!”“ครั้งที่แล้ว พี่ไปที่หมิงเหยากรุ๊ปเพื่อไปง้อนาย แต่เธอถูกซูซินเหยาหลอกให้คิดว่านายกับซูซินเหยาคบกันแล้ว…”“ผู้กระทำผิดทั้งหมดนี้ก็คือซูซินเหยา ถ้าเธอไม่เข้ามาขวางทาง พี่คงไม่ได้รับข้อมูลผิด ๆ จากเธอและไม่ทำร้ายนายครั้งแล้วครั้งเล่า…”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดด้วยความโกรธ และเธอก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างคร่าว ๆหลังจากฟังแล้ว ฉินหมิงมีสีหน้าประหลาดใจและไม่แน่ใจ จากนั้นเขาก็มองซูซินเหยาด้วยดวงตาที่ลุกเป็นไฟและถามว่า "ซินเหยา สิ่งที่เสี่ยวเตี๋ยพูดเป็นความจริงหรือเปล่า?"“ฉัน...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาเปลี่ยนเป็นสีแดง เธออ้าปากพูด แต่ก็พูดไม่ออกท้ายที่สุดแล้ว เรื่องนี้เป็นความผิดของเธอจริง ๆ เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยไม่ได้กล่าวหาเธอ และเธอก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร“ทำไมต้องโกหกผม?”สีหน้าของฉินหมิงมืดลงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาที่จะเดาจากปฏิกิริยาของซูซินเหยาว่า สิ่งที่เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดนั้นเป็นเรื่องจริง!“ฉินหมิง ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะโกหกคุณ…”“ฉันก็แค่ชอบคุณมาก และไม่อยากเสียคุณไป ฉันจึงตัดสินใจทำมันลงไป...”ดวงตาขอ
ในขณะนี้ เขายังสงบสติอารมณ์ไม่ได้ และความตั้งใจอันแน่วแน่ดั้งเดิมของเขาก็อดไม่ได้ที่จะสั่นคลอนเล็กน้อย“ฉินหมิง คุณอย่าตอบตกลงเธอนะ...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาซีดลง เธอมองไปที่ฉินหมิงด้วยความกังวลเธอรับรู้ความรู้สึกของฉินหมิงที่มีต่อหลินหว่านชิง และเธอก็เห็นว่าฉินหมิงหวั่นไหว หากไม่ผิดคาด ฉินหมิงน่าจะทิ้งเธอไปแล้วกลับไปหาหลินหว่านชิงเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เธอรู้สึกเศร้ามาก และใจของเธอก็ค่อย ๆ จมลงสู่ก้นบึ้งเมื่อเห็นสีหน้าเศร้าสร้อยของซูซินเหยา ฉินหมิงก็ตื่นขึ้นมาทันทีราวกับว่าถูกสาดหน้าด้วยน้ำเย็นหากเป็นเมื่อก่อน เขาอาจจะตกลงที่จะกลับไปคืนดีกับหลินหว่านชิงแต่ตอนนี้ เขาได้ตกลงที่จะหมั้นกับซูซินเหยาแล้ว และเมื่อสักครู่นี้ยังให้สัญญากับซูซินเหยาอีกด้วย!หากเขายกเลิกงานหมั้นในเวลานี้ ไม่ต้องคิดเลยว่าจะทำให้ซูซินเหยาเสียใจมากแค่ไหน!ไม่ชอบสิ่งใด ก็อย่าได้ทำสิ่งนั้นกับคนอื่นตอนที่เขากับหลินหว่านชิงเลิกกัน เขาได้สัมผัสรสชาติความเจ็บปวดด้วยตัวเอง มันเป็นความเจ็บปวดที่จดจำไว้ในใจไม่ลืมเลือน เจ็บจนเจียนตายในเมื่อแม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่ชอบความเจ็บปวดแบบนี้ เขาจะใจร้ายทำร้ายซูซินเห
“ผมไม่เป็นไร แค่บาดเจ็บนิดหน่อย...”ฉินหมิงยิ้มเบา ๆแม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหลินหว่านชิงจะทะเลาะกันจนค่อนข้างไม่มีความสุข แต่หานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขามาก เขาถือว่าหานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยเป็นเพื่อนที่ดีมาโดยตลอดเขารู้สึกอบอุ่นหัวใจเป็นอย่างมากเมื่อเห็นเพื่อนทั้งสองแสดงความเป็นห่วงเขา“ฉินหมิง ฉันขอโทษ เป็นฉันเองที่ทำร้ายคุณ”หลินหว่านชิงพูดด้วยท่าทางรู้สึกผิด“ไม่เป็นไร ทั้งหมดเป็นความสมัครใจของผมเอง...”ฉินหมิงแสร้งทำเป็นฝืนยิ้มความรักคือการให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เขาเสียสละมากมายเพื่อหลินหว่านชิงอย่างเต็มใจ ไม่สามารถโทษผู้อื่นได้“คุณหนูใหญ่หลิน คุณมาหาผมมีธุระอะไรเหรอ?”ฉินหมิงถามตรงประเด็น แม้แต่ชื่อน่ารัก ๆ ที่เขาใช้เรียกหลินหว่านชิงก็ได้เปลี่ยนไปแล้วในเมื่อตอนนี้เขาตัดใจจากหลินหว่านชิงแล้ว และกำลังจะหมั้นกับซูซินเหยา เขาควรขีดเส้นความสัมพันธ์ให้ชัดเจนกับหลินหว่านชิงและพยายามรักษาระยะห่าง นี่เป็นหน้าที่อย่างหนึ่งที่สมควรทำเมื่อได้ยินชื่อเรียกที่ไม่คุ้นเคยออกมาจากปากฉินหมิง หลินหว่านชิงก็รู้สึกเจ็บแปลบในใจแต่เธอรู้ว่าทั้งหมดน
ฉินหมิงเป็นคู่แข่งทางความรักที่ใหญ่ที่สุดของเขา ขอแค่ฉินหมิงและหลินหว่านชิงคืนดีกันไม่สำเร็จในครั้งนี้ เขาก็สามารถใช้โอกาสจากเรื่องนี้เข้าไปอยู่ในหัวใจของหลินหว่านชิงได้ง่ายขึ้น!แค่ได้คิดก็มีความสุขมาก!......คฤหาสน์ตระกูลซูแขนข้างหนึ่งของฉินหมิงถูกพันด้วยผ้าพันแผล เขานอนอยู่บนเตียงเพื่อพักฟื้นอยู่ในห้องเพราะเขากินยามังกรซ่อนไปหนึ่งเม็ดตอนอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ตอนนี้เขาจึงอยู่ในระยะอ่อนแอ ร่างกายไร้เรี่ยวแรงข้างเตียงซูซินเหยาดูแลฉินหมิงอย่างดี ในมือถือชามยาบำรุงพลังร่างกาย เธอป้อนยาให้ฉินหมิงด้วยรอยยิ้มที่มีความสุขบนใบหน้าอันงดงามของเธอคนเราจะมีความสุขเมื่อได้อยู่กับคนที่เรารัก เธอรอคอยฉินหมิงมาเป็นเวลานาน ในที่สุดวันที่ยากลำบากผ่านพ้นไป วันที่หวานชื่นก็มาถึง ได้กลับมาอยู่ด้วยกันกับฉินหมิงสมใจปรารถนาใครก็ยากที่จะจินตนาการถึงความสุขในใจของเธอได้!หลังจากกลับมาจากคฤหาสน์ตระกูลหลิน ใบหน้าที่สวยงามของเธอก็ไม่เคยหยุดยิ้มได้เลย…ในขณะนี้ มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของตระกูลซูนายหนึ่งเดินเข้ามาจากด้านนอกอย่างรวดเร็ว“คุณหนูใหญ่ ข้างนอกมีผู้หญิงคนหนึ่
“สรุปก็คือหนูจะไปหาเขาตอนนี้และอธิบายเรื่องทุกอย่างให้ชัดเจน บางทีนี่อาจจะเอาชนะใจเขากลับมาได้!”หลินหว่านชิงพูดอย่างหนักแน่นพูดจบเธอก็หันหลังแล้วเดินออกไป“ไม่ได้ ลูกจะไปไม่ได้!”“เรื่องของฉินหมิงเป็นเรื่องอดีตไปแล้ว ลูกควรมองไปข้างหน้า ตอนนี้หลานเค่ออั๋งคือตัวเลือกที่ดีที่สุดของลูก!”หลินเถิงฮุ่ยหมุนรถเข็นของเขาและรีบไปหยุดหลินหว่านชิงไว้ในความเป็นจริง เหตุผลที่เขาห้ามหลินหว่านชิงก็เพราะว่าฉินหมิงกำลังจะหมั้นหมายกับซูซินเหยา และเนื่องจากเค่ออั๋งชอบหลินหว่านชิงมากแม้ว่าฉินหมิงจะมีความสามารถที่ยอดเยี่ยม แต่ฉินหมิงก็เป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ไร้อำนาจบารมี หากฉินหมิงจะเต็มใจที่จะกลับมาคืนดีกับหลินหว่านชิงจริง ๆ มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเขาในการกลับไปสู่วงศ์ตระกูลแต่เค่ออั๋งนั้นแตกต่างออกไป หากหลินหว่านชิงยอมรับเค่ออั๋งด้วยพลังยุทธและรากฐานของตระกูลเค่อ การช่วยให้เขายึดอำนาจของตระกูลกลับคืนมาคงไม่ใช่เรื่องยากอย่างแน่นอน!“พ่อ ก่อนหน้านี้พ่อทำเพื่อประโยชน์ของตระกูล จึงเข้ามาก้าวก่ายเรื่องระหว่างหนูกับฉินหมิง อย่างไม่ลังเล และท้ายที่สุดหนูก็ทำร้ายฉินหมิงครั้งแล้วครั้งเล่า...”“ตอนนี้พ่
การให้ความช่วยเหลือในเวลาที่ต้องการเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด ตอนนี้หลินหว่านชิงและพ่อของเธอกำลังประสบปัญหา จุดประสงค์ของการมาที่นี่คือการถือโอกาสแสดงความเป็นสุภาพบุรุษต่อหน้าหลินหว่านชิงในตอนที่พวกเขาต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด และหวังว่าจะได้รับความโปรดปรานจากเธอ!ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์แล้วว่าเขามาทันเวลา เมื่อสักครู่นี้เขาเป็นพระเอกขี่ม้าขาวและช่วยหลินหว่านชิงให้รอดพ้นจากอันตราย ความประทับใจที่ไม่ดีต่อเขาในอดีตก็เปลี่ยนไปมากเช่นกัน“คุณอยากช่วยเราเหรอ?”หลินเถิงฮุ่ยรู้สึกประหลาดใจและตื่นเต้นตระกูลเค่อเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของเมืองเจียงเฉิง ที่มีพลังยุทธและรากฐานที่ทรงพลังมาก หากเขาได้รับความช่วยเหลือจากเค่ออั๋งและตระกูลเค่อได้ มันจะเป็นเรื่องง่ายขึ้นมากสำหรับเขาและหลินหว่านชิงที่จะกลับคืนสู่ตระกูลหรือยึดอำนาจของตระกูลคืนมา!“ใช่แล้ว!”“ลุงหลิน ตราบเท่าที่คุณต้องการความช่วยเหลือจากผม ผมจะพยายามอย่างดีที่สุดและทำอย่างเต็มที่!”เค่ออั๋งพูดเสียงดังฉะฉาน“ดี เยี่ยมมาก!”“หลานเค่ออั๋ง หากคุณสามารถช่วยฉันกับหว่านชิงกลับคืนสู่ตระกูลหลินได้ เราสองพ่อลูกจะขอบคุณอย่างยิ่ง!”หลินเถิงฮ