หลินหว่านชิงตกใจ "นายไม่มีใบขับขี่เหรอ?"“ยุ่งยากนิดหน่อยนะ”หลินหว่านชิงครุ่นคิดเล็กน้อยราวกับว่านึกอะไรบางอย่างได้ขึ้นมาได้ "ถ้าอย่างนั้นนายขับมอเตอร์ไซค์ได้ไหม"“ผมขับมอเตอร์ไซค์ได้ มีใบขับขี่ด้วย”ฉินหมิงพยักหน้า เมื่อก่อนฐานะของเขาในตระกูลหม่าแย่กว่าสุนัขเสียอีก มีสิทธิ์จะได้ขับรถยนต์ที่ไหนกันแต่เวลาตระกูลหม่าอยากใช้เขาออกไปทำธุระ เพื่อความสะดวกพวกเขาเลยเตรียมรถมอเตอร์ไซค์มือสองผุพังให้เขาโดยเฉพาะ"งั้นก็ดี"“ฉันมีมอเตอร์ไซค์อยู่ที่นี่คันหนึ่ง เป็นของขวัญวันเกิดจากป้าฉันเมื่อปีที่แล้ว”“ฉันเองก็ไม่ได้ใช้มันอยู่แล้ว งั้นยกให้นายใช้แล้วกัน”หลินหว่านชิงดึงฉินหมิงไปที่มุม ซึ่งมีรถมอเตอร์ไซค์สปอร์ตสีชมพูเท่ ๆ จอดอยู่“อย่าดูถูกมอเตอร์ไซค์คันนี้ไปเชียว ราคามันไม่ต่ำกว่าล้านเลยนะ…”"อะไรนะ?"“มากกว่าล้านเลยเหรอ?”ฉินหมิงตกใจมากจนปากค้าง“ใช่สิ ฉันจำได้ว่าป้าของฉันบอกว่ามอเตอร์ไซค์คันนี้เป็นรุ่นที่ระลึกของโรสลอยด์ แถมเป็นรุ่นลิมิเต็ดด้วย ราคาน่าจะประมาณสักหนึ่งล้านเจ็ดแสนแปดหมื่นได้มั้ง!”หลินหว่านชิงคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้และพูดออกมาฉินหมิงตกตะลึงและแอบตกใจ คนรวยไม่ธรรมด
สาวสวยขาเรียวยาวคนนั้นก็เดินลงมาจากรถทันที"ขอโทษครับ ๆ..."ฉินหมิงรีบขอโทษทันทีเขาเป็นคนที่นิสัยยอมคนมาตลอดและไม่ชอบทะเลาะกับคนอื่น แม้ว่าอีกฝ่ายจะทำผิด แต่เขาก็เป็นคนที่ขอโทษเสมอ“ขับรถประสาอะไร ไม่ลืมตาดูทางเลยรึไง?”สาวสวยจิ้ปากบ่นอย่างไม่สบอารณ์ฉินหมิงขมวดคิ้ว เดิมทีนี่เป็นแค่เรื่องเล็กน้อย แต่ท่าทียกตนข่มท่านของอีกฝ่ายทำให้เขาอึดอัดใจ “พี่สาว เห็นกันอยู่ว่าคุณเปิดประตูรถไม่มองกระจกมองหลัง คุณจะโทษว่าเป็นความผิดผมทุกอย่างไม่ได้นะครับ"“นอกจากนี้ ผมได้ขอโทษคุณก่อนแล้ว คุณช่วยมีเหตุมีผลได้ไหม!”“นี่คุณบอกว่าฉันไม่มีเหตุผลงั้นเหรอ?”สาวสวยคนนั้นโกรธและมองไปที่รถมอเตอร์ไซค์ของฉินหมิงอย่างเย็นชา ด้วยสีหน้ารังเกียจ "ก็แค่มอเตอร์ไซค์ห่วยแตก แถมยังเป็นสีชมพูอีก!"“เป็นผู้ชายดี ๆ ไม่ชอบ ดันมาเป็นตุ๊ดซะงั้น น่าเกลียดมากจริง ๆ!”“ผมอยากขี่มอเตอร์ไซค์สีอะไร มันไม่ใช่เรื่องของคุณสักหน่อย!”“นาย...อย่าให้มันมากไปนะ!”ฉินหมิงหน้าแดงก่ำขึ้นมาทันทีเห็นอยู่ชัดเจนว่าอีกฝ่ายเปิดประตูรถชนเขาจนเกือบล้ม แต่กลับมาหาว่าเขาเป็นตุ๊ด!ไม่ว่าเขาจะอารมณ์ดีแค่ไหน เขาก็รู้สึกมีอารมณ์โกรธขึ้นมาห
“ฉันไม่เป็นไรเลย โชคดีมากที่ฉินหมิงบังเอิญมาช่วยฉันเอาไว้ทัน…”หลินหว่านชิงส่ายหน้า และเล่าให้หานซีฟังอย่างละเอียดว่าเกิดอะไรขึ้นหานซีเป็นเพื่อนร่วมชั้นในมหาวิทยาลัยของหลินหว่านชิงและเป็นเพื่อนที่สนิทที่สุดหลินหว่านชิงมีเพื่อนไม่มากนัก และหานซีก็เป็นเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของเธอช่างเรื่องลวนลามอะไรไปเถอะ เรื่องพรรค์นั้นกับพี่สาวน้องสาวด้วยกันยังพูดออกมาไม่ได้เลย“เธอบอกว่าเขาเป็นคนแปลกหน้าที่ไม่เพียงแต่รับมีดแทนเธอ แต่ยังลากคนร้ายมาตายด้วยกันเพื่อปกป้องเธอด้วย!”“นี่แหละลูกผู้ชายตัวจริง!”“ฉันคิดว่าฉันต้องรู้สึกปลอดภัยเมื่ออยู่กับเขาแน่!”แววตาของหานซีเป็นประกาย เหตุผลที่เธอชื่นชมตัวละครทหารแข็งแรงและคนที่กล้าหาญแข็งแกร่งแบบในละครทีวี ก็คงเป็นเพราะตั้งแต่เด็กเธอเติบโตมาโดยไม่ได้รับความรู้สึกมั่นคงปลอดภัยเลยน่าเสียดายที่ละครโทรทัศน์เหล่านั้นมีไว้เพื่อการแสดง อย่างน้อยในชีวิตที่ผ่านมาเธอก็ไม่เคยเจอพวกเขาเลยแต่ตอนนี้มีคน ๆ นั้นมีชีวิตอยู่ ปรากฏตัวอยู่ข้าง ๆ เธอจากคำบอกเล่าของหลินหว่านชิง เธอสามารถสัมผัสได้ถึงความอันตรายและความรู้สึกได้รับการปกป้องปลอดภัย นั่นเป็นสิ่งที่เธอ
"ฉันคิดว่าก็โอเคอยู่นะ..."ใบหน้างดงามของหลินหว่านชิงก็เริ่มแดงเห่อขึ้นมาสิ่งที่เธอกับหานซีพูดเมื่อกี้ ถือเป็นความลับระหว่างเพื่อนสนิทแต่เผอิญหานซีเผลอพูดต่อหน้าฉินหมิงออกมาตามตรงนี่สิใบหน้าของเธอก็เห่อร้อนอยู่ครู่หนึ่ง ไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ากับฉินหมิงอย่างไรดีหานซีแทบรับไม่ได้ เธอเกือบจะอาเจียนออกมาเป็นเลือด เธอเพิ่งตั้งตารอผู้ชายคนนั้นอยู่และเริ่มบูชาชายที่สุดแสนจะสมบูรณ์แบบในจินตนาการแล้วด้วยซ้ำ!แต่สิ่งที่เธอไม่เคยคิดไม่เคยฝันถึงก็คือ ผู้ชายกล้าหาญองอาจคนนั้นกลายเป็นตุ๊ดที่เธอเพิ่งเจอเมื่อกี้!คงนึกออกได้เลยว่าเธอจะสะเทือนใจได้ขนาดไหน!เธอรู้สึกเหมือนถูกหลินหว่านชิงหลอกจนเกือบตาย!หลินหว่านชิงหายใจเข้าลึก ๆ และเป็นคนแรกที่เริ่มทำให้บรรยากาศสงบลง "ฉินหมิงฉันยังขาดตำแหน่งเลขานุการประธาน ฉันอยากจะจัดให้นายเป็นเลขาของฉัน นายโอเคไหม?"“หากนายไม่พอใจ ฉันเปลี่ยนนายไปเป็นตำแหน่งอื่นได้นะ!”“พอใจ ผมพอใจอยู่แล้ว”ฉินหมิงรู้สึกประหลาดใจมาก และรีบพยักหน้าทันทีงานที่หลินหว่านชิงจัดให้นั้นดีกว่าที่เขาจินตนาการไว้มาก ในอนาคตเขาสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมจากหลินหว่านชิงได้มากขึ้น ซึ่งม
ในสำนักงานเหยียนซ่งไท่อายุประมาณห้าสิบปี ศีรษะล้าน และมีน้ำหนักเกินเล็กน้อยกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะของเขาฝั่งตรงข้ามของเขามีสาวน้อยยืนประหม่าอยู่ ยืนกุมมือตัวเองไว้สาวน้อยอายุประมาณยี่สิบเอ็ดยี่สิบสองปี หน้าตาอ่อนโยนอ่อนเยาว์สงบนิ่ง เธอสวมแว่นตากรอบสีดำขนาดใหญ่บนใบหน้า ปกปิดรูปลักษณ์ที่งดงามของเธอเธอตัวเล็กและแต่งตัวเรียบง่าย แต่ไม่อาจปกปิดความงามตามธรรมชาติของเธอได้สาวน้อยที่ยืนอยู่ข้างหน้าชื่อเฉินถิงถิง เธอเป็นหนึ่งในสามเลขานุการของผู้บริหาร ตำแหน่งของเธอเหมือนกับฉินหมิง ฉินหมิงเป็นเลขานุการท่านประธาน และเธอเป็นเลขานุการนั่งโต๊ะทั่วไปนอกจากนี้ เลขานุการผู้บริหารยังมีผู้บังคับบัญชาโดยตรงอยู่อีกสองคน คนหนึ่งผู้อำนวยการ และอีกคนหนึ่งเป็นผู้อำนวยการสำนักงานท่านประธาน“เลขาเฉิน คุณอยู่ในบริษัทมาหนึ่งเดือนแล้ว แม้ว่าการทำงานของคุณจะโอเค แต่คุณยังไม่สามารถตอบสนองอย่างรวดเร็วเพียงพอ”“ผมไม่ค่อยพอใจกับผลงานของคุณมากนัก!”“คุณคิดว่าเราควรทำอย่างไร?”เหยียนซ่งไท่หรี่ตาลง แววตาชั่วร้ายวาบเข้ามาในสายตาเขาเฉินถิงถิงสะดุ้งตกใจและรีบโค้งหัวลงทันที "ผู้อำนวยการเหยียน ในอนาคตฉันจะตั้งใจท
“ผู้อำนวยการเหยียน ได้โปรดปล่อยฉันไปเถอะ…”เฉินถิงถิงขอร้องด้วยสีหน้าอ้อนวอน จิตใจสับสนวุ่นวายไปหมด ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรดี“ถิงถิง ผู้หญิงสวย ๆ มีไว้สำหรับให้ผู้ชายชื่นชมเท่านั้น คุณควรใช้ข้อดีของตัวเองให้เกิดประโยชน์สิ!”"ไม่ต้องกังวลไป ตราบใดที่คุณอยู่กับผม ผมรับรองเลยว่าคุณจะได้รับการเลื่อนตำแหน่ง และเพิ่มเงินเดือนในอนาคตแน่นอน คุณจะได้ทุกอย่างในบริษัทนี้ ชี้นกเป็นนก ชื้ไม้เป็นไม้!"เหยียนซ่งไท่หัวเราะเบา ๆ และฉวยโอกาสตอนที่เฉินถิงถิงอ่อนแอ เขาก็กอดเฉินถิงถิง จากนั้นจูบแก้มของเฉินถิงถิงเฉินถิงถิงอยากต่อต้านขัดขืน แต่เมื่อเธอคิดถึงแม่ของเธอที่นอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาล และการเรียนของน้องชายของเธอ เธอก็ไม่อาจรวบรวมความกล้าที่จะขัดขืนได้ในขณะนั้น สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความโศกเศร้าและสิ้นหวัง...ก็อก ๆ!ในตอนนั้นมีเสียงเคาะประตูดังขึ้น ฉินหมิงเปิดประตูเดินเข้าไป พร้อมกับเอกสารเข้าทำงานจากแผนกบุคคลในมือของเขาเมื่อเห็นเหตุการณ์ในห้อง ฉินหมิงก็ตกใจไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเฉินถิงถิงก็ได้สติขึ้นมา สีหน้าของเธอแดงก่ำ เธอก็รีบผลักเหยียนซ่งไท่ออกไปเขาเกือบจะได้ผู้หญิงคนนี้แล้ว แต่
ไม่งั้นจิตสำนึกของเขาคงมีปัญหา“ฉันไม่สนใจว่าแกเป็นใคร ออกไปเดี๋ยวนี้ ฉันไม่เกรงใจอย่ามาโทษกันล่ะ!”เหยียนซ่งไท่โกรธจนแทบจะระเบิด โมโหจนแทบอยากเคี้ยวฉินหมิงให้แหลกฉินหมิงรู้สึกลังเลมากถึงแม้ว่าหลินหว่านชิงจะหนุนหลังเขาอยู่ และไม่ได้กลัวการข่มขู่ของเหยียนซ่งไท่อย่างไรก็ตาม หลินหว่านชิงได้บอกไว้แล้วก่อนหน้านี้ว่า เธอไม่ต้องการเปิดเผยความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขา และเธอไม่ต้องการให้เขาใช้ชื่อเธอกระทำการเสื่อมเสียในบริษัทนี้ยิ่งไปกว่านั้น เหยียนซ่งไท่ยังเป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรงของเขา และเป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญที่มีอำนาจในบริษัท ผู้นำอาวุโสหลายคนของบริษัทหนุนหลังอยู่การทะเลาะกับเจ้านายในวันแรกของการทำงาน ย่อมไม่ใช่เรื่องดีสำหรับเขาอย่างแน่นอนหากเรื่องราวบานปลายใหญ่โตส่งผลต่อบริษัท ความประทับใจดี ๆ ที่หลินหว่านชิงมีต่อเขาจะต้องลดลงมากแน่นอนเมื่อเห็นฉินหมิงนิ่งเงียบไป เหยียนซ่งไท่ก็คิดว่าฉินหมิงกลัว เขาเลยหัวเราะออกมา "ทำไมยังอยู่อีกล่ะ ยังไม่รีบออกไปอีก!"“ผู้อำนวยการเหยียนครับ ผมมารายงานตัวตามกฎและข้อบังคับของบริษัท คุณให้ผมออกไปแบบนี้ ดูเหมือนไม่เหมาะสมนิดหน่อยว่าไหมครับ?”ฉินห
เพียะ!ความรู้สึกปวดแสบปวดร้อนที่แก้ม ฉินหมิงรู้สึกโกรธมาก และยกมือปิดหน้าไว้ เขารู้ว่าเหยียนซ่งไท่ต้องจงใจทำแน่!แต่ในช่วงสามปี นับตั้งแต่เขาเข้าไปอยู่ในตะกูลหม่า เขาเริ่มชินกับการเยาะเย้ยและการกลั่นแกล้ง ถูกหม่าลู่บั่นทอนความมั่นใจของเขาเหยียนซ่งไท่ที่กำลังทำให้เขาลำบาก ในที่สุดเขาจึงเลือกที่จะข่มความโกรธของเขาไว้“ยืนบื้ออะไรอยู่อีก!”“ทำไมไม่รีบเก็บเศษแก้วแล้วทำความสะอาด!”เหยียนซ่งไท่ตวาดใส่เขาฉินหมิงข่มความโกรธตัวเอง แล้วนั่งลงหยิบเศษแก้วที่แตกอยู่บนพื้น“คิดสู้กับฉันเหรอ?”“ตาบอดรึไง อย่างแกนี่มันกาก!”เหยียนซ่งไท่ยิ้มอย่างเย็นชา เหยียบลงหลังมือของฉินหมิง และขยี้เท้าอย่างแรงเศษแก้วแหลมคมอยู่ใต้ฝ่ามือของฉินหมิง ความเจ็บปวดเสียดแทงเข้ามา เศษแก้วแหลมคมหลายชิ้นทิ่มแทงฝ่ามือของเขาจนเลือดไหลออกมาฟืด!ฉินหมิงหายใจเข้าและดึงมือเขากลับอย่างแรงเหมือนถูกไฟฟ้าช็อตเท้าของเหยียนซ่งไท่ที่เหยียบบนหลังมือของฉินหมิง เขาตั้งตัวไม่ทัน และล้มกับพื้นดังตึงจนหงายท้องขาชี้ฟ้า“แม่งเอ้ย ไอ้บัดซบนี่ อยากตายสินะ!”เหยียนซ่งไท่โกรธมากซะจนเขาเอาก้นบุหรี่ที่ถืออยู่ในมือเขวี้ยงใส่หน้าฉินห