“ตระกูลซูของเราไม่ได้ทำอะไร ฉันรับยาปราณแท้มาสองเม็ดก็นับว่าเอาเปรียบเธอแล้ว”นายท่านซูยิ้มและกล่าว“นี่…”ฉินหมิงอ้าปาก ไม่อาจสรรหาคำใดมาโต้แย้งได้“ฉินหมิง คุณปู่ของฉันพูดถูกแล้ว ครั้งนี้เป็นผลงานของคุณทั้งหมด คุณรับยาปราณแท้ไปมากสักหน่อยก็เป็นเรื่องที่สมควร”ซูซินเหยาพูดอย่างรวดเร็วนับตั้งแต่ที่ฉินหมิงและหลินหว่านชิงเลิกรากัน หัวใจทั้งดวงของเธอก็ผูกติดอยู่กับฉินหมิง ของที่ล้ำค่าอย่างยาปราณแท้นี้หาได้ยากมาก ๆ เธอจึงหวังว่าฉินหมิงจะได้รับผลประโยชน์มากขึ้น“แต่ผมคนเดียวก็ไม่ได้ใช้มากขนาดนี้!”ฉินหมิงพูดอย่างช่วยไม่ได้ในความเป็นจริง ยาปราณแท้ไม่เพียงแต่สามารถช่วยผู้ฝีกยุทธทะลวงจากขั้นสูงสุดระดับสวรรค์ประทานไปสู่ระดับปรมาจารย์ได้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์เท่านั้น ยังมีประโยชน์อย่างยิ่งต่อยอดฝีมือระดับปรมาจารย์ แถมผลของยาก็ชัดเจนมากตราบเท่าที่ผู้ฝึกยุทธที่มีระดับการบ่มเพาะซึ่งอยู่ต่ำกว่าระดับปรมาจารย์ขั้นสูงสุดใช้ยาปราณแท้เพียงหนึ่งเม็ด ต่อให้ไม่สามารถทะลวงผ่านคอขวดไปได้ แต่ก็ช่วยเพิ่มระดับระดับการบ่มเพาะให้คนคนนั้นได้เป็นอย่างมากอนิจจา ที่ฉินหมิงบ่มเพาะศาสตร์แห่งเต๋า ระดับการบ่มเ
นายท่านซูให้คำแนะนำอย่างจริงจัง“ผมเข้าใจแล้วครับ!”“นายท่านซู ขอบคุณมากจริง ๆ สำหรับการสั่งสอน คำพูดของคุณทำให้ผมรู้แจ้งแล้ว!”ฉินหมิงสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เขาไม่ปฏิเสธความเมตตาของนายท่านซูอีกต่อไปแล้วเก็บยาปราณแท้ที่เหลือทั้งสิบเม็ดกลับไปได้ฟังการสอนหนึ่งครั้ง ได้รับประโยชน์ยิ่งกว่าอ่านหนังสือสิบปี!หลังจากผ่านการชี้แนะและสั่งสอนของนายท่านซู วิสัยทัศน์ของเขาก็กว้างขึ้น และสภาพจิตใจของเขาก็มีการเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อยเช่นกันหลังจากนั้น นายท่านซูและซูห่าวสองปู่หลานก็กลับไปที่ซูกรุ๊ปเพื่อเตรียมวัตถุดิบยาสำหรับให้ฉินหมิงเริ่มหลอมยาในวันพรุ่งนี้ช่วงนี้ซูซินเหยาไม่ได้อยู่ในเมืองเจียงเฉิง ที่บริษัทจึงมีงานสะสมอยู่บ้างเล็กน้อย หลังจากบอกให้ฉินหมิงทราบหนึ่งคำ เธอก็รีบบึ่งไปที่บริษัทเพื่อจัดการเรื่องดังกล่าวสำหรับฉินหมิง เขาเพิ่งหลอมยาสร้างรากฐานมาเมื่อสักครู่นี้ ในใจจึงอยากเพิ่มระดับการบ่มเพาะของตัวเองโดยเร็วที่สุด สุดท้ายจึงเหลือเขาเพียงคนเดียวบนยอดเขาเสื้อผ้าของฉินหมิงที่ยืนอยู่บนยอดเขาปลิวไสวไปตามสายลม“คิดที่จะสร้างขุมกำลังของตัวเอง ตัวเองก็ต้องแข็งแกร่งมากพอ!”ฉินหมิงมองลงไปย
นับตั้งแต่หมิงเหยากรุ๊ปจัดพิธีเปิดบริษัทและขายยาในครั้งแรก นายท่านหลินแห่งตระกูลหลินและหลินเถิงฮุ่ยสองพ่อลูกก็เดาได้นานแล้วว่าความสามารถในการหลอมยาหลอมลมปราณของตระกูลซูนั้น จะต้องได้รับความช่วยเหลือจากบุคคลภายนอกซึ่งเป็นนักปรุงยาท่านหนึ่งตอนนี้ตระกูลซูประกาศข่าวใหญ่นี้ออกมา นั่นได้พิสูจน์แล้วว่าการคาดเดาของพวกเขาสองพ่อลูกถูกต้อง ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับพวกเขาที่จะเดาว่าประธานลึกลับที่อยู่เบื้องหลังหมิงเหยากรุ๊ปก็คือปรมาจารย์นักปรุงยาท่านนั้น ไม่อย่างนั้นเป็นไปไม่ได้ที่ตระกูลซูจะมอบหมิงเหยากรุ๊ปให้กับคนอื่น!กองกำลังหลักรวมถึงตระกูลอื่น ๆ อาทิเช่นตระกูลเค่อและตระกูลเหลิ่งก็คิดเช่นเดียวกัน ด้วยความฉลาดและไหวพริบของพวกเขา พวกเขาจึงตระหนักถึงความสำคัญของเรื่องนี้อย่างรวดเร็ว!ปรมาจารย์นักปรุงยาท่านนี้ไม่เพียงแต่สามารถหลอมยาหลอมลมปราณ ยังหลอมยาปราณแท้ที่มีผลที่น่าอัศจรรย์ขนาดนี้ได้ด้วย เทคนิคการกลั่นยาอายุวัฒนะของอีกฝ่ายคงไปถึงจุดสูงสุดของการหลอมยาแล้ว!จากนี้ไป ด้วยการที่ตระกูลซูมีปรมาจารย์นักปรุงยาท่านนี้คอยช่วยเหลือ ความแข็งแกร่งของพวกเขาจะขึ้นมาอยู่เหนืออีกสามตระกูลใหญ่อย่างแน่นอน และ
ขอเพียงแค่เค่อรุ่ยได้ใช้ยาปราณแท้หนึ่งเม็ด เมื่อเธอทะลวงเข้าสู่ระดับปรมาจารย์ พิจารณาจากอายุของเธอบวกกับพรสวรรค์ด้านวรยุทธที่น่ากลัว ความสำเร็จในอนาคตของเธอมีแต่จะไร้ขีดจำกัด!สิ่งเดียวที่น่าเสียใจก็คือ เค่อรุ่ยเป็นเด็กผู้หญิงและถูกกำหนดแล้วว่าไม่อาจขึ้นมารับช่วงต่อกิจการของตระกูลเค่อได้ ไม่อย่างนั้นในบรรดาคนรุ่นเยาว์ทั้งหมดที่โดดเด่นของเมืองเจียงเฉิง อาทิเช่นเค่ออั๋ง ซูห่าว และเหลิ่งจวิ้น น่ากลัวว่าคงไม่คู่ควรแม้แต่จะถือรองเท้าให้เธอ!“ก็แค่ยาปราณแท้หนึ่งเม็ด เป็นเพียงสิ่งของผิวเผิน ไม่นับว่าเป็นอะไร!”“แกควรจะมองผ่านวัตถุไปให้เห็นถึงแก่นแท้ เบื้องหลังยาปราณแท้ สิ่งที่มีค่าที่สุดก็คือปรมาจารย์นักปรุงยาท่านนั้น!”นายท่านเค่อพูดอย่างใจเย็น“คุณปู่ ความหมายของปู่ก็คือ?”เค่ออั๋งสับสนเล็กน้อยนายท่านเค่อไม่ได้ตอบเขาในทันที แต่ยืนขึ้นและเดินไปที่หน้าต่าง มองดูต้นไม้สีเขียวชอุ่มหลายต้นในสวน จากนั้นชี้ไปที่ต้นไม้ต้นหนึ่งแล้วพูดว่า "อั๋งเอ๋อร์ ดูต้นไม้ใหญ่นี้ให้ดี ยาปราณแท้ก็เหมือนกับผลบนต้นไม้ใหญ่นี้ ต่อให้มีค่ามาก ทว่าจะมีมูลค่าสักเท่าไรกันเชียว?”“อันที่จริงสิ่งที่มีมูลค่าจริง ๆ ไม
หลังจากที่เหลิ่งจวิ้นรู้เรื่องประธานลึกลับของหมิงเหยากรุ๊ปและยาปราณแท้ เขาก็รีบบึ่งจากบริษัทกลับไปที่คฤหาสน์ ไปขอพบกับนายท่านของตระกูลเหลิ่งทันที“ปู่ครับ เกี่ยวกับเรื่องประธานลึกลับเบื้องหลังหมิงเหยากรุ๊ปและก็เรื่องที่พวกเขาหลอมยาปราณแท้ออกมา คิดว่าปู่น่าจะได้ยินแล้ว”เหลิ่งจวิ้นถามอย่างกังวล“อืม ฉันเองก็รู้แล้ว”“จวิ้นเอ๋อร์ แกคิดยังไงเกี่ยวกับเรื่องนี้?”นายท่านเหลิ่งจิบชาอย่างช้า ๆ“ตระกูลซูและตระกูลเหลิ่งของพวกเรา มีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ทางธุรกิจมาโดยตลอด ตลอดหลายปีที่ผ่านมายิ่งต่อสู้และปะทะกันนับครั้งไม่ถ้วน”“ตอนนี้ตระกูลซูมีประธานหมิงเหยากรุ๊ปคนนั้นคอยช่วยเหลือ ทั้งอำนาจและอิทธิพลของพวกเขาจึงยิ่งกว่าติดปีก คาดว่าภายในไม่กี่ปี ตระกูลซูจะต้องขึ้นมาอยู่เหนืออีกสามตระกูลหลักแน่นอนและจะกลายเป็นมหาอำนาจที่ปกครองเมืองเจียงเฉิงของเรา!”“นี่ไม่ใช่เรื่องดีสำหรับตระกูลเหลิ่งของเราเลย!”สีหน้าของเหลิ่งจวิ้นดูน่าเกลียดเมื่อพิจารณาถึงความสัมพันธ์ที่เป็นศัตรูกันระหว่างตระกูลเหลิ่งและตระกูลซู หากตระกูลซูขึ้นมาเป็นมหาอำนาจที่ปกครองเมืองเจียงเฉิงจริง ๆ ตระกูลเหลิ่งคงหมดสิ้นหนทางอย
โดยสรุปแล้ว ไม่ว่าปรมาจารย์นักปรุงยาจะตกอยู่ในมือของตระกูลหลินหรือตระกูลเค่อ ตราบใดที่ตระกูลซูไม่ได้รับประโยชน์เท่านั้นก็พอแล้ว!นี่คือจุดประสงค์ที่แท้จริงของนายท่านเหลิ่ง!แน่นอนว่านายท่านเหลิ่งก็พิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบเช่นกัน หากปรมาจารย์นักปรุงยายืนกรานที่จะร่วมมือกับตระกูลซู ตระกูลเหลิ่งก็จะหาวิธีทำลายอีกฝ่าย ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม!เราต้องไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายกลายเป็นกำลังที่ช่วยตระกูลซู!“คุณปู่ ปู่อยู่เหนือกว่าผมขั้นหนึ่งจริง ๆ!”เหลิ่งจวิ้นหัวเราะฮ่า ๆ จากนั้นเขาก็ทำตามคำสั่งของนายท่านเหลิ่งและไปยังคฤหาสน์ตระกูลหลินและคฤหาสน์ตระกูลเค่อเพื่อชักชวนให้เข้าร่วมเป็นพันธมิตรกัน……คฤหาสน์ตระกูลหลินหลังจากที่นายท่านหลินรู้เรื่องประธานลึกลับของหมิงเหยากรุ๊ปกับยาปราณแท้ เขาก็สั่งให้ลูกน้องเรียกหลินเถิงฮุ่ยไปที่ห้องหนังสือ“พ่อครับ พ่อรีบเรียกผมมาหาแบบนี้ มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?”“หรือว่าจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับประธานของหมิงเหยากรุ๊ป?”หลินเถิงฮุ่ยถาม เขาเดาคร่าว ๆ ถึงความตั้งใจของผู้เป็นพ่อ“ใช่ ถูกต้อง”“ก่อนหน้านี้ ฉันเคยขอให้แกตรวจสอบปรมาจารย์นักปรุงยาที่อยู่เบื้องหลังตร
“พ่อครับ ผมมีความคิดหนึ่ง”หลินเถิงฮุ่ยพูดอย่างลังเล“ความคิดอะไร ลองพูดมาสิ”นายท่านหลินถาม“ปรมาจารย์นักปรุงยาได้ร่วมมือกับตระกูลซูแล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองฝ่ายนั้นใกล้ชิดกันมาก ถ้าเราต้องการแย่งคนจากตระกูลซู มันจะไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างแน่นอน”“เว้นเสียแต่เราจะสานความสัมพันธ์กับปรมาจารย์นักปรุงยาคนนั้นให้ลึกไปอีกขั้น อีกฝ่ายถึงจะยอมละทิ้งตระกูลซู และเปลี่ยนใจมาร่วมมือกับตระกูลหลินของเรา!”“ท่ามกลางผลประโยชน์ทางการเมืองทั้งหมด ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดที่สุดก็คือการเชื่อมสัมพันธ์ด้วยการแต่งงาน!”หลินเถิงฮุ่ยเอ่ยในขณะวิเคราะห์“แกหมายถึง?”นายท่านหลินหรี่ตาลง เขาพอจะเข้าใจอะไรบางอย่างอย่างคลุมเครือแล้ว“วิธีการกลั่นยาอายุวัฒนะได้สูญหายไปเป็นเวลาหลายร้อยปี วิธีการกลั่นยาอายุวัฒนะของปรมาจารย์นักปรุงยานั้นยอดเยี่ยมมาก คาดว่าเขาจะต้องมาจากนิกายที่ซ่อนเร้นหรือมาจากตระกูลที่สืบทอดทักษะยุทธโบราณซึ่งมีมรดกเก่าแก่มากเป็นแน่!”“รอถึงวันที่หมิงเหยากรุ๊ปจัดงานเปิดตัวขาย เราค่อยพาหว่านชิงไปที่นั่นด้วย”“ด้วยรูปร่างหน้าตาที่สวยงามและภูมิหลังของหว่านชิง ทายาทของปรมาจารย์นักปรุงยาท่านนั้
กวาดตามองไปทั้งเมือง ไม่มีใครสวยไปกว่าหลินหว่านชิงอีกแล้ว!เขามั่นใจในเสน่ห์ของลูกสาวของตนเองมาก จึงเชื่อว่าทายาทของปรมาจารย์นักปรุงยาท่านนั้นจะต้องตกหลุมรักหลินหว่านชิงตั้งแต่แรกเห็น แต่ไม่รู้ว่าหลินหว่านชิงจะชอบคน ๆ นั้นด้วยหรือไม่?“อืม นี่เหมือนจะเป็นความคิดที่ดี!”นายท่านหลินครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งก่อนจะกล่าว“พ่อ เห็นด้วยแล้ว?”หลินเถิงฮุ่ยดูมีความสุขมาก“อืม ยังไงซะเรื่องนี้ก็ไม่มีข้อเสียอะไร ลองดูสักตั้งก็ไม่เสียหาย”นายท่านหลินพยักหน้าแล้วกล่าวสองพ่อลูกเพิ่งจะปรึกษากันจบ จู่ ๆ เสียงฝีเท้ารีบร้อนก็ดังขึ้น ชายหนุ่มผู้สง่างามคนหนึ่งก้าวเข้ามาจากด้านนอกชายหนุ่มคนนี้มีชื่อว่าหลินหราน เป็นผู้สืบทอดสายตรงของตระกูลหลินสายรอง อีกทั้งยังเป็นบุคคลที่โดดเด่นที่สุดในบรรดารุ่นเยาว์ของตระกูลหลินอีกด้วย ชื่อเสียงและความแข็งแกร่งของเขาเทียบได้กับซูห่าว เค่ออั๋ง และเหลิ่งจวิ้น แต่แม้ซูห่าวและคนอื่น ๆ ล้วนเป็นทายาทผู้สืบทอดลำดับที่หนึ่งของตระกูล คือว่าที่ผู้นำตระกูลในอนาคต แต่หลินหรานไม่ใช่ เขาและนายท่านหลินกับหลินเถิงฮุ่ยสองพ่อลูกไม่ใช่ครอบครัวสายเดียวกัน ในอนาคตสิทธิในการขึ้นมานั่งตำแห