“พ่อครับ ผมมีความคิดหนึ่ง”หลินเถิงฮุ่ยพูดอย่างลังเล“ความคิดอะไร ลองพูดมาสิ”นายท่านหลินถาม“ปรมาจารย์นักปรุงยาได้ร่วมมือกับตระกูลซูแล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองฝ่ายนั้นใกล้ชิดกันมาก ถ้าเราต้องการแย่งคนจากตระกูลซู มันจะไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างแน่นอน”“เว้นเสียแต่เราจะสานความสัมพันธ์กับปรมาจารย์นักปรุงยาคนนั้นให้ลึกไปอีกขั้น อีกฝ่ายถึงจะยอมละทิ้งตระกูลซู และเปลี่ยนใจมาร่วมมือกับตระกูลหลินของเรา!”“ท่ามกลางผลประโยชน์ทางการเมืองทั้งหมด ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดที่สุดก็คือการเชื่อมสัมพันธ์ด้วยการแต่งงาน!”หลินเถิงฮุ่ยเอ่ยในขณะวิเคราะห์“แกหมายถึง?”นายท่านหลินหรี่ตาลง เขาพอจะเข้าใจอะไรบางอย่างอย่างคลุมเครือแล้ว“วิธีการกลั่นยาอายุวัฒนะได้สูญหายไปเป็นเวลาหลายร้อยปี วิธีการกลั่นยาอายุวัฒนะของปรมาจารย์นักปรุงยานั้นยอดเยี่ยมมาก คาดว่าเขาจะต้องมาจากนิกายที่ซ่อนเร้นหรือมาจากตระกูลที่สืบทอดทักษะยุทธโบราณซึ่งมีมรดกเก่าแก่มากเป็นแน่!”“รอถึงวันที่หมิงเหยากรุ๊ปจัดงานเปิดตัวขาย เราค่อยพาหว่านชิงไปที่นั่นด้วย”“ด้วยรูปร่างหน้าตาที่สวยงามและภูมิหลังของหว่านชิง ทายาทของปรมาจารย์นักปรุงยาท่านนั้
กวาดตามองไปทั้งเมือง ไม่มีใครสวยไปกว่าหลินหว่านชิงอีกแล้ว!เขามั่นใจในเสน่ห์ของลูกสาวของตนเองมาก จึงเชื่อว่าทายาทของปรมาจารย์นักปรุงยาท่านนั้นจะต้องตกหลุมรักหลินหว่านชิงตั้งแต่แรกเห็น แต่ไม่รู้ว่าหลินหว่านชิงจะชอบคน ๆ นั้นด้วยหรือไม่?“อืม นี่เหมือนจะเป็นความคิดที่ดี!”นายท่านหลินครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งก่อนจะกล่าว“พ่อ เห็นด้วยแล้ว?”หลินเถิงฮุ่ยดูมีความสุขมาก“อืม ยังไงซะเรื่องนี้ก็ไม่มีข้อเสียอะไร ลองดูสักตั้งก็ไม่เสียหาย”นายท่านหลินพยักหน้าแล้วกล่าวสองพ่อลูกเพิ่งจะปรึกษากันจบ จู่ ๆ เสียงฝีเท้ารีบร้อนก็ดังขึ้น ชายหนุ่มผู้สง่างามคนหนึ่งก้าวเข้ามาจากด้านนอกชายหนุ่มคนนี้มีชื่อว่าหลินหราน เป็นผู้สืบทอดสายตรงของตระกูลหลินสายรอง อีกทั้งยังเป็นบุคคลที่โดดเด่นที่สุดในบรรดารุ่นเยาว์ของตระกูลหลินอีกด้วย ชื่อเสียงและความแข็งแกร่งของเขาเทียบได้กับซูห่าว เค่ออั๋ง และเหลิ่งจวิ้น แต่แม้ซูห่าวและคนอื่น ๆ ล้วนเป็นทายาทผู้สืบทอดลำดับที่หนึ่งของตระกูล คือว่าที่ผู้นำตระกูลในอนาคต แต่หลินหรานไม่ใช่ เขาและนายท่านหลินกับหลินเถิงฮุ่ยสองพ่อลูกไม่ใช่ครอบครัวสายเดียวกัน ในอนาคตสิทธิในการขึ้นมานั่งตำแห
บรรยากาศภายในงานทั้งคึกคักและอลังการมาก!ดูเหมือนว่าตระกูลซูจะคาดเดาสถานการณ์นี้ไว้ก่อนแล้ว จึงได้เตรียมการไว้ล่วงหน้าแล้วนายท่านซูออกงานด้วยตัวเอง เขานำผู้ฝึกยุทธ์และบอดี้การ์ดของตระกูลซูจำนวนมากมาที่หมิงเหยากรุ๊ปก่อน จากนั้นจึงจัดเตรียมกำลังคนเพื่อร่วมมือกับพนักงานของหมิงเหยากรุ๊ปเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยภายในงานเบื้องหลังเวทีนายท่านซูยืนอยู่ข้างหน้าต่างโดยยกมือขึ้นไพล่หลังไว้ เขามองดูบรรยากาศที่มีชีวิตชีวาข้างนอกด้วยสีหน้าสงบนิ่ง ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ตอนนี้เองก็มีเสียงฝีเท้าที่รวดเร็วดังขึ้น ซูห่าวก้าวเข้ามาด้านหลังเวทีอย่างรีบร้อน“ปู่ครับ เมื่อสักครู่นี้ผมสังเกตการณ์ข้างนอกดูแล้ว ตระกูลใหญ่จำนวนมากรวมถึงผู้อาวุโสของทั้งสามตระกูลหลักล้วนมาถึงหมดแล้ว”“แต่ละตระกูล ยังพายอดฝีมือติดตามมาด้วยหลายคน บางคนถึงกับอยู่ในระดับปรมาจารย์ ดูเหมือนว่าจุดประสงค์ในการเข้าร่วมงานเปิดตัวขายจะไม่ได้แค่มาซื้อยาเท่านั้น!”ซูห่าวขมวดคิ้วแน่น“แน่นอนว่าพวกเขาย่อมมีเจตนาแอบแฝงอื่น!”“พวกเขามาที่นี่เพราะฉินหมิง!”นายท่านซูพูดอย่างใจเย็น ทอดสายตามองออกไปข้างนอก“อะไรนะครับ?”“พวกเขามา
อย่างไรก็ตามตราบเท่าที่ฉินหมิงต้องการสร้างขุมอำนาจของตน เขาต้องสร้างชื่อให้กับตัวเองก่อน เพื่อดึงดูดเหล่าปรมาจารย์และยอดฝีมือทั้งหลายให้เข้าร่วมกับเขาและมาทำงานให้เขาไม่อย่างนั้น ถ้าฉินหมิงยังคงใช้ชีวิตอย่างสันโดษและเอาแต่อยู่เบื้องหลังต่อไป จะไม่มีปรมาจารย์และยอดฝีมือคนใดเต็มใจที่จะทำงานให้กับคนไร้ชื่อเสียงแบบนี้แน่นอน!สรุปก็คือไม่ว่าใครก็ต้องการพัฒนาและเติบโต บนเส้นทางของการเติบโต พวกเขาจะต้องเผชิญกับความยากลำบากและการต่อต้านอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ฉินหมิงเองก็ไม่มีข้อยกเว้น นี่เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้!……ในงานเปิดตัวขายในฐานะผู้บริหารอันดับต้น ๆ ของหมิงเหยากรุ๊ป ฉินหมิงและซูซินเหยากำชับเหล่าบอดี้การ์ดของตระกูลซูและพนักงานของบริษัทให้ต้อนรับการมาเยือนของเหล่าผู้มีอิทธิพลจากตระกูลใหญ่ ๆ พวกนี้เป็นอย่างดีซูซินเหยาถูกจัดว่าเป็นหญิงงามที่อยู่ในอันดับที่สองในบรรดาสี่สาวงามแห่งเมืองเจียงเฉิง เธอมีความงามที่น่าทึ่ง อีกทั้งมักจะเป็นศูนย์กลางของความสนใจไม่ว่าเธอจะไปที่ไหนก็ตามคนหนุ่มสาวจำนวนมากจากตระกูลชนชั้นสูง ตระกูลที่มีชื่อเสียง และตระกูลที่ร่ำรวยมั่งคั่งล้วนอดไม่ได้ที่จะมอง
หลินหว่านชิงเป็นอันดับหนึ่งของสี่สาวงามแห่งเมืองเจียงเฉิง เธอบริสุทธิ์และงดงาม แต่ไหนแต่ไรมาก็ได้รับการยอมรับว่าเป็นเทพธิดาอันดับหนึ่งในใจของนายน้อยผู้ร่ำรวยจากตระกูลชั้นสูงหลายคน!ตอนนี้เทพธิดาในใจพวกเขาถูกฉินหมิงเด็กกำพร้าที่เคยผ่านการหย่าร้างมาก่อนคนหนึ่งแย่งชิงไป!สิ่งนี้ได้ทำลายทัศนคติทั้งสามของพวกเขาลงโดยสิ้นเชิง ใครก็ยากที่จะจินตนาการถึงความตกใจในใจของพวกเขาได้!ในอีกด้านหนึ่ง ฉินหมิงเองก็เห็นเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยและหลินหว่านชิงแล้วนี่เป็นครั้งแรกที่ฉินหมิงพบหลินหว่านชิงหลังจากที่พวกเขาเลิกกัน อารมณ์ของเขาจึงซับซ้อนมาก มีทั้งความเศร้า ความจนปัญญา ความประหลาดใจ และอื่น ๆ อีกมากมายท้ายที่สุดหลินหว่านชิงก็คือผู้หญิงที่เขารักมากที่สุด ช่วงนี้เขาฝันถึงเธอบ่อย ๆ เขาไม่เคยลืมหลินหว่านชิงตอนนี้เขาได้เห็นหลินหว่านชิงอีกครั้งหลังจากที่ผ่านไปหลายวัน ความปรารถนาที่ถูกเก็บกดมานานก็พุ่งพล่านเข้ามาในหัวใจราวกับน้ำพุ เขารู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย และแอบจินตนาการว่า นี่ก็ผ่านมาหลายวันแล้ว หลินหว่านชิงน่าจะใจเย็นและเปลี่ยนใจเรื่องเขาแล้ว!อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาได้ยินหลินหว่านชิงพูดอย่างชัดเจนว่าท
เหล่าลูกหลานของตระกูลชั้นสูงที่อยู่รอบ ๆ ถูกกลิ่นอายของนายท่านหลินสะกดข่ม แต่ละคนอดไม่ได้ที่จะก้าวถอยกลับไปเล็กน้อยเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยที่แต่ไหนแต่ไรมาก็ไม่กลัวฟ้ากลัวดิน กลับกลัวคุณตาของเธอคนนี้มากที่สุด เธอเม้มริมฝีปากเล็ก ๆ วิ่งกลับไปแล้วพึมพำสองสามคำอย่างไม่เต็มใจว่า ตาแก่หัวแข็ง ดื้อรั้นและไม่รู้จักเปลี่ยนแปลง!โชคดีที่เสียงของเธอเบามาก จึงไม่มีใครได้ยินเธอพูดนอกจากฉินหมิงไม่อย่างนั้นนายท่านหลินอาจถูกเธอทำให้โกรธจนตายคาที่ได้!“ฉินหมิง ฉันได้ยินมาว่าตอนนี้เธอกลายเป็นผู้ช่วยผู้บริหารของหมิงเหยากรุ๊ปแล้วเหรอ!”“คิดไม่ถึงเลยว่าหลังจากที่เธอออกจากตระกูลหลินของเรา จะเข้าร่วมกับตระกูลซูได้เร็วขนาดนี้!”“เธอช่างเปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์ได้อย่างยอดเยี่ยมจริง ๆ!"หลินเถิงฮุ่ยกล่าวด้วยรอยยิ้มประชดประชัด“ที่แท้ไอ้เด็กนี่ก็เป็นผู้ช่วยของซูซินเหยา!”เหล่าลูกหลานของตระกูลชั้นสูงที่กำลังเฝ้าดูอยู่ตระหนักรู้ทันที ในที่สุดพวกเขาก็เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างฉินหมิงและซูซินเหยาเพียงว่าพวกเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างฉินหมิงและหลินหว่านชิง“ประธานหลิน คุณไม่จำเป็นต้องประชดประชันแบบนั้น ฉันจะ
เมื่อสักครู่นี้นายท่านเหลิ่งได้ยินบทสนทนาระหว่างหลินเถิงฮุ่ยและนายท่านซูเต็มหู เขายังได้รู้จากเหลิ่งจวิ้นมาอีกว่าฉินหมิงคนนี้ก็คือคนที่ทำลายแผนการลักพาตัวซูซินเหยาเมื่อครั้งที่แล้ว เป็นคนที่ทำให้เหลิ่งจวิ้นได้รับบาดเจ็บหนักเนื่องจากฉินหมิงเป็นศัตรูของตระกูลเหลิ่ง เขาย่อมไม่มีสีหน้าดี ๆ ให้กับฉินหมิง!“ตาแก่เหลิ่ง พวกเราตระกูลซูจะตกต่ำลงไหมฉันไม่รู้ แต่มีสิ่งหนึ่งที่ฉันรู้ดีก็คือ ถ้าตระกูลซูของพวกเราผงาดขึ้นมา ตระกูลเหลิ่งของแกจะตกต่ำลงอย่างแน่นอน!”แสงคมปลาบแวบเข้ามาในดวงตาของนายท่านซูตระกูลเหลิ่งและตระกูลซูเป็นศัตรูกันมานานแล้ว แถมก่อนหน้านี้เหลิ่งจวิ้นยังส่งคนไปโจมตีซูซินเหยาหลานสาวของเขา เขาจะกลืนความคับแค้นใจนี้ลงไปได้อย่างไร!เพียงแต่ว่าความแข็งแกร่งของตระกูลเหลิ่งนั้นทัดเทียมกันกับตระกูลซู พวกเขาไม่มีความสามารถที่จะเอาชนะอีกฝ่ายในตอนนี้อย่างไรก็ตาม ด้วยความช่วยเหลือของฉินหมิง เมื่อตระกูลซูมีพลังที่จะบดขยี้ตระกูลเหลิ่งในอนาคต เขาจะไม่มีวันปล่อยพวกเขาไปง่าย ๆ!นายท่านเหลิ่งไม่สนใจนายท่านซูอีกต่อไป เขาจับจ้องไปที่ฉินหมิง จากนั้นพลังอันทรงพลังก็ระเบิดออกมาจากร่างกายของเขา
“ตระกูลเหลิ่ง? ตระกูลเค่อ? ตระกูลลี่?”“เมื่อสักครู่นี้ประธานหลินเพิ่งบอกว่าผู้ชายคนนี้เป็นผู้ช่วยผู้บริหารของหมิงเหยากรุ๊ปใช่ไหม?”“ผู้ช่วยผู้บริหารตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง เขาไปทำอะไรถึงได้ทำให้บุคคลที่ยิ่งใหญ่เหล่านี้ขุ่นเคืองใจพร้อมกัน!”......เมื่อเห็นฉากนี้ ทุกคนก็สูดลมเย็นเข้าปอด แต่ละคนตะลึงงันแม้แต่นายท่านหลินและหลินเถิงฮุ่ยทั้งสองคนก็ตกใจมาก!ตระกูลหลินรู้รายละเอียดของฉินหมิงดีที่สุด สองพ่อลูกไม่คิดไม่ฝันมาก่อนว่าฉินหมิงจะไปทำให้ตระกูลที่มีอำนาจมากมายขนาดนี้ขุ่นเคืองใจ!นี่มันน่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว?คนธรรมดา ๆ ไม่มีทางทำเรื่องแบบนี้ได้อย่างแน่นอน!“ฉินหมิง แกมีความสามารถมากจริง ๆ!”“ไม่เพียงแต่เป็นศัตรูกับตระกูลเหลิ่งของพวกเรา ยังยั่วยุตระกูลเค่อและตระกูลลี่ด้วย ไม่รู้จริง ๆ ว่าแกไปเอาความกล้ามาจากที่ไหน!”เหลิ่งจวิ้นทั้งตกตะลึงและประหลาดใจเขากับเค่ออั๋งและลี่หย่งเจี๋ย ไม่ได้มาจากกลุ่มเดียวกัน จึงไม่รู้เหตุการณ์ที่ฉินหมิงไปยั่วยุเค่ออั๋งและลี่หย่งเจี๋ยพร้อมกันก่อนหน้านี้“ฉินหมิง รองานเปิดตัวขายจบลงก่อน ตระกูลลี่ของเราจะคิดบัญชีกับแกแน่!”“ถึงตอนนั้นก็คือเวลาตายของ