เมื่อสักครู่นี้นายท่านเหลิ่งได้ยินบทสนทนาระหว่างหลินเถิงฮุ่ยและนายท่านซูเต็มหู เขายังได้รู้จากเหลิ่งจวิ้นมาอีกว่าฉินหมิงคนนี้ก็คือคนที่ทำลายแผนการลักพาตัวซูซินเหยาเมื่อครั้งที่แล้ว เป็นคนที่ทำให้เหลิ่งจวิ้นได้รับบาดเจ็บหนักเนื่องจากฉินหมิงเป็นศัตรูของตระกูลเหลิ่ง เขาย่อมไม่มีสีหน้าดี ๆ ให้กับฉินหมิง!“ตาแก่เหลิ่ง พวกเราตระกูลซูจะตกต่ำลงไหมฉันไม่รู้ แต่มีสิ่งหนึ่งที่ฉันรู้ดีก็คือ ถ้าตระกูลซูของพวกเราผงาดขึ้นมา ตระกูลเหลิ่งของแกจะตกต่ำลงอย่างแน่นอน!”แสงคมปลาบแวบเข้ามาในดวงตาของนายท่านซูตระกูลเหลิ่งและตระกูลซูเป็นศัตรูกันมานานแล้ว แถมก่อนหน้านี้เหลิ่งจวิ้นยังส่งคนไปโจมตีซูซินเหยาหลานสาวของเขา เขาจะกลืนความคับแค้นใจนี้ลงไปได้อย่างไร!เพียงแต่ว่าความแข็งแกร่งของตระกูลเหลิ่งนั้นทัดเทียมกันกับตระกูลซู พวกเขาไม่มีความสามารถที่จะเอาชนะอีกฝ่ายในตอนนี้อย่างไรก็ตาม ด้วยความช่วยเหลือของฉินหมิง เมื่อตระกูลซูมีพลังที่จะบดขยี้ตระกูลเหลิ่งในอนาคต เขาจะไม่มีวันปล่อยพวกเขาไปง่าย ๆ!นายท่านเหลิ่งไม่สนใจนายท่านซูอีกต่อไป เขาจับจ้องไปที่ฉินหมิง จากนั้นพลังอันทรงพลังก็ระเบิดออกมาจากร่างกายของเขา
“ตระกูลเหลิ่ง? ตระกูลเค่อ? ตระกูลลี่?”“เมื่อสักครู่นี้ประธานหลินเพิ่งบอกว่าผู้ชายคนนี้เป็นผู้ช่วยผู้บริหารของหมิงเหยากรุ๊ปใช่ไหม?”“ผู้ช่วยผู้บริหารตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง เขาไปทำอะไรถึงได้ทำให้บุคคลที่ยิ่งใหญ่เหล่านี้ขุ่นเคืองใจพร้อมกัน!”......เมื่อเห็นฉากนี้ ทุกคนก็สูดลมเย็นเข้าปอด แต่ละคนตะลึงงันแม้แต่นายท่านหลินและหลินเถิงฮุ่ยทั้งสองคนก็ตกใจมาก!ตระกูลหลินรู้รายละเอียดของฉินหมิงดีที่สุด สองพ่อลูกไม่คิดไม่ฝันมาก่อนว่าฉินหมิงจะไปทำให้ตระกูลที่มีอำนาจมากมายขนาดนี้ขุ่นเคืองใจ!นี่มันน่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว?คนธรรมดา ๆ ไม่มีทางทำเรื่องแบบนี้ได้อย่างแน่นอน!“ฉินหมิง แกมีความสามารถมากจริง ๆ!”“ไม่เพียงแต่เป็นศัตรูกับตระกูลเหลิ่งของพวกเรา ยังยั่วยุตระกูลเค่อและตระกูลลี่ด้วย ไม่รู้จริง ๆ ว่าแกไปเอาความกล้ามาจากที่ไหน!”เหลิ่งจวิ้นทั้งตกตะลึงและประหลาดใจเขากับเค่ออั๋งและลี่หย่งเจี๋ย ไม่ได้มาจากกลุ่มเดียวกัน จึงไม่รู้เหตุการณ์ที่ฉินหมิงไปยั่วยุเค่ออั๋งและลี่หย่งเจี๋ยพร้อมกันก่อนหน้านี้“ฉินหมิง รองานเปิดตัวขายจบลงก่อน ตระกูลลี่ของเราจะคิดบัญชีกับแกแน่!”“ถึงตอนนั้นก็คือเวลาตายของ
นอกจากนี้ ฉินหมิงเคยช่วยชีวิตของเขามาก่อน บุญคุณช่วยชีวิตยิ่งใหญ่มากกว่าท้องฟ้า เขาย่อมไม่มองดูฉินหมิงตกอยู่ในอันตรายแล้วเพิกเฉยแน่!ทันทีที่คำพูดนี้หลุดออกมา ทุกคนก็ตะลึงงัน ฝูงชนฮือฮาทันที“ตระกูลซู? ตระกูลโจว? และราชาแดนใต้เฝิงเจิ้น!”“ผู้ชายคนนี้เป็นเพียงผู้ช่วยผู้บริหารตัวเล็ก ๆ ของหมิงเหยากรุ๊ป แต่เขาถึงกับทำให้สามกองกำลังหลักสนับสนุนตัวเองในเวลาเดียวกันได้!”“เกิดอะไรขึ้นกับโลกใบนี้? พวกเขาทั้งหมดเป็นบ้าไปแล้วเหรอ?”......ทุกคนตะลึง คุณมองฉัน ฉันมองคุณ แต่ละคนล้วนเห็นความตกใจในสายตาของกันและกัน!แม้ว่าฉินหมิงจะยั่วยุสามตระกูลหลัก แต่เขาก็ได้รับการสนับสนุนจากกองกำลังของอีกสามตระกูลใหญ่อย่างรวดเร็วถ้าฉินหมิงเป็นบุคคลสำคัญของเมืองเจียงเฉิงก็ช่างเถิด แต่ฉินหมิงเป็นเพียงผู้ช่วยผู้บริหารเล็ก ๆ คนหนึ่งของหมิงเหยากรุ๊ป แถมยังเป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ไม่มีอะไรเลย!ไม่น่าเชื่อเลยว่าเด็กกำพร้าคนนี้จะสามารถปลุกปั่นพลังของตระกูลใหญ่มากมายในเจียงเฉิงได้?ถ้าพวกเขาไม่ได้เห็นด้วยตาตนเอง พวกเขาคงไม่มีวันเชื่อว่านี่จะเป็นเรื่องจริง!แน่นอนว่าพวกเขาไม่ใช่คนกลุ่มเดียวที่ประหลาดใจ นายท่านหล
ฉินหมิงไม่เพียงแต่มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับกองกำลังของเมืองเจียงเฉิงเท่านั้น เขายังสามารถสร้างเส้นสายกับตระกูลใหญ่นอกเมืองเจียงเฉิงและได้รับการสนับสนุนจากพวกเขาอีกด้วยแม้แต่พวกเขาทั้งสี่คนก็ยังทำสิ่งนี้ไม่ได้ แต่ฉินหมิงทำได้!ใครก็ยากที่จะจินตนาการถึงความตกใจในใจของพวกเขาได้!“คุณฉิน ผมคงไม่ได้มาสายเกินไปใช่ไหม?”เจิ้งอวี่ยิ้ม และประสานมือโค้งคำนับฉินหมิงด้วยความเคารพในเมืองหลัวไห่ เขาได้บรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับสิทธิ์ความร่วมมือในการจำหน่ายยาหลอมลมปราณกับหมิงเหยากรุ๊ปในนามของตระกูลเจิ้งแล้ว คราวนี้หมิงเหยากรุ๊ปได้หลอมยาหลอมลมปราณชุดที่สอง เขาจึงเดินทางมารับยาหลอมลมปราณด้วยตัวเองตามที่ได้ตกลงกันไว้“ไม่เลย งานเปิดตัวขายยังไม่เริ่มอย่างเป็นทางการ คุณมาทันเวลาพอดี”ฉินหมิงพูดด้วยรอยยิ้มเมื่อเห็นฉากนี้ ทั้งตระกูลเหลิ่ง ตระกูลเค่อ และตระกูลลี่ต่างก็มีสีหน้าแย่ไปหมด“ดังคำกล่าวที่ว่ามังกรแข็งแกร่งไม่อาจเอาชนะงูเจ้าถิ่นได้!”“ต่อให้ตระกูลเจิ้งจะแข็งแกร่งมากในเมืองหลัวไห่ แต่ก็อย่าได้คิดมาอวดเบ่งในเมืองเจียงเฉิงถิ่นของเรา!”นายท่านเหลิ่งตะคอกอย่างเย็นชา เขาแสดงออกว่าไม่เห็นอำนาจขอ
นี่เป็นเพียงการใช้กลยุทธ์เล่นกับอีกฝ่ายแบบหนึ่ง!ตอนนี้เห็นอีกฝ่ายถอยกลับไปอย่างรู้งาน นายท่านซูและฉินหมิงก็ยอมรามือ ไม่จำเป็นต้องคิดใจเอาความอีกต่อไป“ซินเหยา กองกำลังของตระกูลใหญ่ ๆ ในเมืองมากันเกือบจะครบแล้ว เริ่มงานเปิดตัวขายกันเลยเถอะ!”นายท่านซูกล่าว จากนั้นเขา ฉินหมิง และคนอื่น ๆ ก็เดินไปที่ใจกลางของสถานที่จัดงานตระกูลเหลิ่งและกองกำลังหลักอื่น ๆ เองก็ค่อย ๆ รวมตัวกันมุ่งหน้าสู่งานหลังจากนั้นไม่นานนัก งานเปิดตัวขายก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการซูซินเหยาเดินขึ้นไปบนเวทีโดยสวมชุดราตรีระดับไฮเอนด์และมีราคาแพงหูฉี่แต่เดิมรูปร่างหน้าตาของเธอก็สวยล่มบ้านล่มเมืองอยู่แล้ว ตอนนี้ยิ่งแต่งกายด้วยชุดราตรีราคาแพง บรรยากาศซุกซนและขี้เล่นตามปกติของเธอจึงลดน้อยลงไปมาก กลับเพิ่มความสง่างามและความหรูหราเข้ามาเล็กน้อยเหมือนกับนางฟ้าที่ลงมายังโลกมนุษย์ ดูศักดิ์สิทธิ์และไม่อาจดูหมิ่นได้ทันใดนั้นสายตาเกือบทุกคู่ก็จับจ้องไปที่เธอ ทุกคนเงียบไปโดยไม่รู้ตัว“ขอบคุณทุกท่านที่มาร่วมงานเปิดตัวขายของหมิงเหยากรุ๊ปของเราในครั้งนี้...”ซูซินเหยากล่าวเปิดงานอย่างง่าย ๆ ไม่กี่ประโยค น้ำเสียงของเธอนุ่ม
“ใครบอกคุณว่าฉินหมิงเป็นผู้ช่วยผู้บริหารของหมิงเหยากรุ๊ปของเรา ฉันประกาศไปเมื่อไหร่ว่าเขาเป็นผู้ช่วยของฉัน?”ซูซินเหยาพูดอย่างเย็นชา“นี่...”หลินเถิงฮุ่ยพูดไม่ออกข่าวเกี่ยวกับเรื่องที่ฉินหมิงได้กลายเป็นผู้ช่วยผู้บริหารของหมิงเหยากรุ๊ป เขาได้รู้มาโดยบังเอิญจากพนักงานหลายคนในหมิงเหยากรุ๊ปที่คาดเดากันว่าฉินหมิงน่าจะเป็นผู้ช่วยผู้บริหารคนใหม่ของหมิงเหยากรุ๊ป แต่ซูซินเหยาไม่เคยประกาศเรื่องนี้อย่างเป็นทางการจริง ๆ!“ฉินหมิงคือประธานหมิงเหยากรุ๊ปของพวกคุณจริง ๆ เหรอ?”สีหน้าของหลินเถิงฮุ่ยเปลี่ยนไปอย่างมากทันใดนั้นเขาก็จำได้ว่าซูซินเหยาพูดเมื่อสักครู่นี้ว่าฉินหมิงเป็นมากกว่าผู้ช่วยผู้บริหารของหมิงเหยากรุ๊ป แต่ในเวลานั้นเขาคิดว่าซูซินเหยาตั้งใจทำตัวลึกลับ แต่ตอนนี้ในที่สุดเขาก็เข้าใจความหมายของคำพูดของซูซินเหยาแล้ว!ุ“ถูกต้อง!”“ดิฉันขอย้ำอย่างจริงจังอีกครั้งว่าฉินหมิงเป็นประธานของหมิงเหยากรุ๊ปของพวกเรา!”ซูซินเหยาประกาศเสียงดังเมื่อคำพูดนี้ของเธอจบลง ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นก็ตื่นเต้น!“ไอ้หนูนี่ถึงกับเป็นประธานของหมิงเหยากรุ๊ปจริง ๆ?”“นี่...นี่มันน่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว!”สีหน้
เว้นเสียแต่ในหัวของฉินหมิงจะมีอะไรยัดอยู่ ไม่อย่างนั้นไม่มีทางที่ฉินหมิงจะตกลงร่วมมือกับพวกเขา!แน่นอนว่า ไม่ใช่แค่กำลังฝ่ายศัตรูของฉินหมิงเท่านั้นที่ประหลาดใจ ราชาแดนใต้เฝิงเจิ้น นายท่านโจว และเจิ้งอวี่ต่างก็ตกตะลึงเช่นกัน!พวกเขาไม่เคยคิดฝันมาก่อนเลยว่าฉินหมิงจะกลายเป็นประธานของหมิงเหยากรุ๊ป ปรมาจารย์นักปรุงยาที่มีชื่อเสียงผู้ที่อยู่เบื้องหลังตระกูลซู!“นับตั้งแต่สมัยโบราณกาล วีรบุรุษเกิดขึ้นจากวัยหนุ่ม ฉินหมิงคุณซ่อนตัวเองไว้ได้ลึกมากจริงๆ!”เฝิงเจิ้นหัวเราะฮ่าฮ่าเสียงดัง“ฉันก็คิดมานานแล้วล่ะว่าสหายฉินไม่น่าจะใช่คนธรรมดา แต่ไม่คิดเลยว่าจะประสบความสำเร็จอย่างน่าอัศจรรย์ภายในเวลาเพียงหนึ่งหรือสองเดือนที่ไม่ได้พบกัน!”นายท่านโจวเองก็ดูสะเทือนอารมณ์“มิน่าเล่า มิน่าเล่า!”เจิ้งอวี่ตระหนักได้ในทันทีก่อนหน้านี้ตอนอยู่ที่เมืองหลัวไห่ ซูซินเหยาเชื่อฟังฉินหมิงมาก ในตอนแรกเขาคิดว่าฉินหมิงเป็นแฟนของซูซินเหยา แต่ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าเป็นเพราะฉินหมิงคือประธานของหมิงเหยากรุ๊ป!“ฉินหมิง นายสุดยอดมาก!!”หลังจากที่เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยได้สติกลับมา เธอก็โบกกำปั้นอย่างตื่นเต้นเธอมองฉินหมิงเป
“คุณฉิน พวกเราตระกูลเฝิงไม่มีความตั้งใจที่จะทำลายความร่วมมือระหว่างคุณกับตระกูลซู”แต่เท่าที่รู้ คุณเพิ่งหย่าร้างเมื่อไม่นานมานี้และยังไม่มีแฟน”“นับตั้งแต่สมัยโบราณกาล การมีครอบครัวและการสร้างธุรกิจนั้นสำคัญพอ ๆ กัน ผู้ชายไม่อาจมุ่งความสนใจไปที่อาชีพเพียงอย่างเดียวได้ ถ้าคุณไม่รังเกียจ ผมสามารถยกรั่วซวงให้กับคุณได้ คุณทั้งสองคนหมั้นหมายกันก่อน อาศัยโอกาสนี้ที่ทุกกองกำลังอยู่กันครบให้เป็นสักขีพยานไปด้วยเลย!”เฝิงเจิ้นพูดด้วยดวงตาที่ลุกเป็นไฟ แต่ทันทีที่เขาเปิดปาก ก็เหมือนกับระเบิด!นับจากครั้งที่แล้วที่ฉินหมิงรักษาอาการป่วยให้กับภรรยาของเขา เขาก็มีความคิดที่จะจับคู่ลูกสาวและฉินหมิงอยู่แล้วตอนนี้เมื่อได้รู้ว่าฉินหมิงถึงกับเป็นประธานของหมิงเหยากรุ๊ป แถมความสามารถทุกด้านของอีกฝ่ายก็ยังดีกว่าที่เขาจินตนาการไว้มาก เขาจึงยิ่งชื่นชมฉินหมิงมากยิ่งขึ้นแต่นั่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญ ประเด็นสำคัญก็คือเขาสังเกตเห็นว่าลูกสาวเหมือนจะมีความรู้สึกดี ๆ ต่อฉินหมิงอยู่บ้าง ในงานที่ยิ่งใหญ่แบบนี้ ถ้าเขาสามารถส่งเสริมความรักของลูกสาวและผูกทั้งคู่เข้าด้วยกัน นี่จะเท่ากับยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว!“อะไรนะ