แต่คำพูดที่พูดไปแล้วก็เหมือนกับการสาดน้ำทิ้ง พ่อของเธอพูดอย่างกล้าหาญต่อหน้าตระกูลที่มีอำนาจมากมาย เป็นไปไม่ได้ที่เธอจะหักหน้าพ่อของเธอในทันที ยิ่งไปกว่านั้นลึก ๆ แล้วในใจของเธอเองก็ไม่ได้คัดค้านเรื่องนี้แต่อย่างใด“จบสิ้นแล้ว...”เหล่าผู้อาวุโสรุ่นแรกของตระกูลที่มีอำนาจรู้สึกหนาวสั่นในใจนับตั้งแต่สมัยโบราณ วีรบุรุษยากที่จะผ่านด่านหญิงงาม เฝิงรั่วซวงมีทั้งความงาม ทั้งยังเป็นหนึ่งในสี่สาวงามแห่งเมืองเจียงเฉิง ไม่มีใครสามารถต้านทานสิ่งล่อใจนี้ได้ พวกเขาจึงไม่คิดว่าฉินหมิงจะปฏิเสธ!แม้ว่าพวกเขาจะไม่เต็มใจเล็กน้อย แต่ก็พวกเขาไม่มีลูกสาวที่สวยจนน่าทึ่งเหมือนกับเฝิงเจิ้น พวกเขาจะเอาอะไรไปแข่งกับเฝิงเจิ้น?อึดใจต่อมา แม้แต่นายท่านเค่อจากตระกูลเค่อก็ทนต่อไปไม่ไหวแล้ว เขากลัวจริง ๆ ว่าฉินหมิงจะไม่อาจต้านทาน 'กับดักน้ำผึ้ง' ของเฝิงเจิ้นได้ ดังนั้นเขาจึงรีบพูดว่า "ประธานฉิน ตราบเท่าที่คุณยินดีที่จะร่วมมือกับตระกูลเค่อของเรา เราจะใช้เงินห้าพันล้านเพื่อสร้างบริษัทใหม่ให้กับคุณ"“นอกจากนี้ ฉันยังสามารถหมั้นหมายคุณกับหลานสาวของฉันเค่อรุ่ยได้อีกด้วย!”นายท่านเค่อเสนอเงื่อนไขที่ 'เอื้อเฟื้อ' ม
พวกเขาอิจฉากันจนแทบบ้าแล้ว!"คุณปู่ คุณฉินคงไม่ถูกตระกูลเค่อล่อลวงไปจริง ๆ หรอกนะครับ..."ใบหน้าของซูห่าวดูไม่น่ามอง"ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน"นายท่านซูส่ายหัว สีหน้าของเขาเองก็ดูไม่ค่อยดีนักแม้ว่าเขาจะเชื่อใจในตัวฉินหมิง แต่เงื่อนไขที่ตระกูลเค่อเสนอนั้นน่าดึงดูดเกินไป เขาจึงกังวลเล็กน้อยว่าฉินหมิงจะหวั่นไหวบนเวทีใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาเย็นชา เธอเกือบจะระเบิดอารมณ์ออกมาแล้วเดิมทีเธอพยายามอย่างหนักเพื่อจัดงานเปิดตัวขายในครั้งนี้ เป้าหมายก็เพื่อช่วยให้ฉินหมิงมีชื่อเสียงในคราวเดียวแต่ไม่คิดมาก่อนเลยว่างานเปิดตัวขายจะเปลี่ยนบรรยากาศไปกลางคัน ถึงกับเปลี่ยนเป็น 'งานนัดบอดดูตัว' ของฉินหมิง!สิ่งที่น่าโมโหยิ่งกว่านั้นก็คือเฝิงรั่วซวงและเค่อรุยต่างก็เป็นหนึ่งในสี่สาวงามแห่งเมืองเจียงเฉิง พวกเธอล้วนเป็นสาวสวยระดับแนวหน้าทัดเทียมได้กับเธอ ไม่ว่าจะเป็นภูมิหลังทางตระกูล รูปร่าง ความงาม และด้านอื่น ๆ เฝิงรั่วซวงและเค่อรุ่ยล้วนไม่ด้อยไปกว่าเธอจู่ ๆ คู่แข่งทางความรักที่แข็งแกร่งทั้งสองคนก็ปรากฏตัวขึ้นอย่างไม่คาดคิด ใครก็ยากที่จะจินตนาการถึงความรู้สึกของเธอในตอนนี้ได้!“ประธานฉิน เงื
ถึงยังไงฉินหมิงเคยเป็นแฟนที่ถูกต้องและเปิดเผยของเธอ เธอเลิกกับฉินหมิงด้วยความสิ้นหวัง และตอนนี้เธอก็ยังมีความรู้สึกที่ลึกซึ้งต่อฉินหมิงอยู่ในใจแต่ตอนนี้เธอกำลังเฝ้าดูชายที่เธอรักถูกผู้หญิงคนอื่น ๆ แย่งชิงอย่างช่วยไม่ได้ แถมผู้หญิงเหล่านี้ยังเป็นสาวงามในระดับเดียวกับเธอ ทว่าเธอไม่มีพลังที่จะหยุดยั้งมันได้เลย ในใจจึงรู้สึกอึดอัดและไม่ดีอย่างมาก!“ประธานฉิน คุณเลือกเถอะ!”นายท่านเค่อยังคงปฏิเสธที่จะยอมแพ้ เขามองดูฉินหมิงด้วยสายตาที่ลุกเป็นไฟ ต้องการได้รับคำตอบจากปากของฉินหมิง"นายท่านเค่อ เจตนาดีของคุณผมรับเอาไว้แล้ว""ผมและตระกูลซูความร่วมมือกันอย่างราบรื่นมาโดยตลอด จึงยังไม่มีแผนที่จะร่วมมือกับผู้อื่น!"ฉินหมิงพูดอย่างใจเย็นเขาไม่ใช่คนประเภทที่เนรคุณคนเพื่อผลประโยชน์ เป็นตระกูลซูที่ช่วยเขาก่อตั้งหมิงเหยากรุ๊ป เขาจะละทิ้งตระกูลซูไปกลางทางและเลือกเข้าร่วมกับกองกำลังอื่นได้อย่างไร เขาทำเรื่องที่เนรคุณคนแบบนี้ไม่ได้!เมื่อพวกเขาได้ยินการปฏิเสธของฉินหมิง การแสดงออกของนายท่านเค่อและเค่อรุ่ยก็เปลี่ยนไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งเค่อรุ่ย เธอเป็นอัจฉริยะด้านการฝึกวรยุทธที่ไม่พบมานานนับศตวรรษของ
เมื่อเห็นว่าเรื่องนี้ได้ข้อสรุปแบบนี้แล้ว ในที่สุดนายท่านหลินก็อดไม่ได้“ฉินหมิง ก่อนหน้านี้ตระกูลหลินของเราเคยมีความเข้าใจผิดกับเธอมาก่อน ฉันหวังว่าเธอจะยกโทษให้กับฉัน…”นายท่านหลินยิ้มอย่างกระอักกระอ่วนตอนนี้เขารู้แล้วว่าฉินหมิงเป็นปรมาจารย์นักปรุงยาที่อยู่เบื้องหลังตระกูลซู เขาตกใจมากและต้องการแก้ไขข้อขัดแย้งกับฉินหมิง อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ตระกูลหลินกระทำอย่างไร้ความปรานีเมื่อพวกเขาขับไล่ฉินหมิงออกไป ครู่หนึ่งเขาจึงไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี"สิ่งที่ผ่านไปแล้วล้วนเป็นอดีตครับ"ฉินหมิงพูดอย่างใจเย็นแม้ว่าเขาจะประสบความสำเร็จบ้างแล้ว แต่ความแข็งแกร่งและรากฐานของเขายังห่างไกลจากระดับของสี่ตระกูลใหญ่ด้วยชื่อเสียงอันสูงส่งของตระกูลหลิน เขาไม่คิดว่านายหลินจะขอโทษเขาอย่างจริงใจอย่างน้อยจนกว่าเขาจะแข็งแกร่งอย่างแท้จริง นายท่านหลินและหลินเถิงฮุ่ยสองพ่อลูกไม่มีวันยอมจำนนต่อเขาจริง ๆ!เมื่อเห็นสีหน้าที่ไม่รู้สึกรู้สาของฉินหมิง นายท่านหลินก็แอบกังวลใจเล็กน้อย เขาเปลี่ยนใจและลองเสี่ยงดวงดู!“ฉินหมิง ตระกูลหลินของเราสนใจที่จะร่วมมือกับเธอมาก”"ถ้าเธอเต็มใจกลับมาหาตระกูลหลินของเราและเลือ
"ผม..."ฉินหมิงรู้สึกตื่นเต้นมากจนแทบทนรอที่จะตอบตกลงเสียเดี๋ยวนั้นไม่ไหว“ฉินหมิง…”ซูซินเหยาที่อยู่ด้านข้างกำลังกัดริมฝีปากของเธอ ใบหน้าที่สวยงามของเธอซีดเผือดไม่มีสีเลือดให้เห็นอีกต่อไปในความเป็นจริง เธอรู้มานานแล้วว่าฉินหมิงไม่อาจลืมหลินหว่านชิงได้ อย่างน้อยก็ในตอนนี้แต่เธอไม่คาดคิดเลยว่าหลินหว่านชิงจะมีอิทธิพลต่อฉินหมิงอย่างมาก นายท่านหลินใช้หลินหว่านชิงเป็นเหยื่อล่ออย่างจงใจ และฉินหมิงก็งับเหยื่ออย่างง่ายดาย กระทั่งยอมลืมความอัปยศอดสูทั้งหมดที่เขาได้รับจากตระกูลหลินในคืนนั้น!เธอแทบจะสรุปได้เลยว่าต่อจากนี้ฉินหมิงจะตอบรับเงื่อนไขของนายท่านหลินอย่างแน่นอน!ในขณะนี้เอง เธอรู้สึกหมดหวังอย่างถึงที่สุดและอารมณ์ของเธอก็จมดิ่งลงสู่จุดต่ำสุดเมื่อได้สบกับดวงตาที่หม่นแสงของซูซินเหยา ฉินหมิงก็ได้สติจากความตื่นเต้นราวกับถูกน้ำเย็นถังใหญ่ราดลงบนศีรษะตระกูลซูมีพระคุณต่อเขา ถ้าเขาเลือกที่จะร่วมมือกับตระกูลหลินกลางทางแบบนี้ มันจะต่างอะไรกับคนต่ำช้าที่เนรคุณ?ยิ่งไปกว่านั้น ในช่วงเวลาที่เขาและหลินหว่านชิงเลิกกัน ซูซินเหยาเข้ามาให้กำลังใจเขา อยู่เคียงข้างเขาและคอยดูแลเขาทุกวิถีทางถ้าเ
โชคดีที่เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยมือไวตาไว ยื่นมือออกไปคว้าร่างช่วยเหลือเธอไว้ได้ทัน“พี่คะ เป็นอะไรไป?”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยถามด้วยสีหน้ากังวล"ฉันไม่เป็นไร..."หลินหว่านชิงกัดริมฝีปากแน่น เธอรู้สึกเหมือนกำลังตกลงไปในถ้ำน้ำแข็งในความเป็นจริง ด้วยความสงบและสติปัญญาตามปกติของเธอ เธอควรจะเข้าใจถึงความยากลำบากของฉินหมิงได้ แต่เพราะใส่ใจจึงได้มองข้ามไป ตอนนี้เธอดันทุรังอย่างหนักจะเข้าใจอารมณ์ของฉินหมิงได้อย่างไร!เธอรู้เพียงว่าในที่สุดฉินหมิงก็เลือกซูซินเหยาและยอมรามือเรื่องเธอตระกูลหลินแพ้เกมนี้ และเธอก็แพ้เช่นกัน เธอแพ้ซูซินเหยาโดยสิ้นเชิง!เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยอยากจะพูดอะไรสักอย่างทว่าสุดท้ายก็หยุดลงผู้ที่เล่นอยู่ในกระดานหมากดูไม่ออก แต่ผู้ชมช้างนอกกลับชัดเจนยิ่ง เธอในฐานะคนนอก เห็นได้อย่างชัดเจนว่าฉินหมิงลำบากใจ แต่ก็เถียงไม่ได้ว่าสุดท้ายแล้วฉินหมิงเลือกที่จะสละโอกาสที่จะได้กลับมาอยู่กับหลินหว่านชิงอีกครั้งเพื่อหลักการของเขาสิ่งนี้ทำให้เธอรู้สึกโกรธเล็กน้อยและก็ไม่รู้ด้วยว่าจะปลอบใจลูกพี่ลูกน้องของเธออย่างไร“ดี ดีมากจริง ๆ!"“ฉินหมิง ฉันรักนายมาก!”ซูซินเหยาไม่คิดเลยว่าฉินหมิงจะสามารถต
“คุณฉิน ยาปราณแท้นี้สามารถช่วยผู้ฝึกยุทธในขั้นสูงสุดระดับสวรรค์ประทานทะลวงไปสู่ระดับปรมาจารย์ได้จริง ๆ เหรอ?”โจวเจี้ยนถามอย่างตื่นเต้นเนื่องจากตระกูลซูได้ประชาสัมพันธ์เรื่องนี้ก่อนล่วงหน้าแล้ว เหล่าตระกูลที่มีอำนาจจึงล้วนเคยได้ยินเกี่ยวกับผลของยาปราณแท้!โจวเจี้ยนและนายท่านโจวมาที่นี่ก็เพื่อยาปราณแท้โดยเฉพาะ!ระดับปรมาจารย์คือจุดเริ่มต้นแรกบนเส้นทางแห่งการบ่มเพาะของผู้ฝึกยุทธ คิดที่จะก้าวข้ามไปนั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก โจวเจี้ยนคือผู้สืบทอดของตระกูลโจว แม้ว่าพรสวรรค์ด้านการฝึกวรยุทธของเขาจะไม่โดดเด่นเท่ากับซูห่าวและเค่ออั๋ง แต่ก็ไม่ได้แตกต่างกันมากนักภายใต้ความพยายามของเขา ระดับการบ่มเพาะของเขาจึงมาถึงขั้นสูงสุดระดับสวรรค์ประทานเมื่อไม่นานมานี้ถ้าเขาสามารถซื้อยาปราณแท้ไปแม้จะเพียงหนึ่งเม็ด แล้วทะลวงเข้าสู่ระดับปรมาจารย์ได้ในคราวเดียว มันจะช่วยเขาประหยัดเวลาในการบ่มเพาะอย่างหนักหลายปี!“ถูกต้อง!”“ยาปราณแท้ไม่เพียงแต่สามารถช่วยผู้ฝึกยุทธขั้นสูงสุดระดับสวรรค์ประทานทะลวงไปสู่ระดับปรมาจารย์เท่านั้น แต่ยังส่งผลดีมากต่อยอดฝีมือระดับปรมาจารย์อีกด้วย”“ตราบเท่าที่ผู้ฝึกยุทธขอบเขตต
ฉินหมิงกระแอมในลำคอแล้วพูด“ทดสอบเหรอ? ทดสอบยังไง?”ทุกคนดูประหลาดใจและสับสน“ง่ายมาก ดังที่เราทุกคนทราบกันดีว่าซูห่าว คุณชายใหญ่ของตระกูลซูติดอยู่ในขั้นสูงสุดระดับสวรรค์ประทานมานานหลายปีแล้ว”“หมิงเหยากรุ๊ปของเราสามารถนำยาปราณแท้ออกมาและให้เขากินลงไป ถ้าเขาสามารถทะลวงไปสู่ระดับปรมาจารย์ได้ในคราวเดียว นั่นก็หมายความว่ายาปราณแท้นั้นได้ผลจริง"“ในทางกลับกัน ถ้าเขาไม่อาจทะลวงคอขวดของการบ่มเพาะได้ นั่นก็หมายความว่ายาปราณแท้นี้เป็นของปลอม!”ฉินหมิงยิ้มจางในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้ว ไม่น่าแปลกใจเลยที่ซูซินเหยาปฏิเสธที่จะให้ซูห่าวใช้ยาปราณแท้ก่อนหน้านี้ ปรากฎว่าซูซินเหยาวางแผนที่จะใช้ซูห่าวเพื่อขจัดข้อสงสัยของคนอื่น!เขาต้องชื่นชมว่าซูซินเหยาเป็นคนฉลาดอย่างยิ่ง มีความสามารถทางธุรกิจที่ยอดเยี่ยมและมีวิสัยทัศน์กว้างไกล!“ให้คุณชายใหญ่ซูลองยาตรงนี้เลยเหรอ?”"นี่เป็นความคิดที่ดี!"......ทุกคนหารือกันและในที่สุดข้อตกลงก็เป็นเอกฉันท์ซูห่าวเป็นผู้นำของกลุ่มคนรุ่นใหม่ของเมืองเจียงเฉิง หลายคนรู้ว่าระดับการบ่มเพาะของเขาติดอยู่ในขั้นสูงสุดระดับสวรรค์ประทานมาหลายปีแล้ว การให้เขาลองยาจึงเหมาะส