ฉินหมิงกระแอมในลำคอแล้วพูด“ทดสอบเหรอ? ทดสอบยังไง?”ทุกคนดูประหลาดใจและสับสน“ง่ายมาก ดังที่เราทุกคนทราบกันดีว่าซูห่าว คุณชายใหญ่ของตระกูลซูติดอยู่ในขั้นสูงสุดระดับสวรรค์ประทานมานานหลายปีแล้ว”“หมิงเหยากรุ๊ปของเราสามารถนำยาปราณแท้ออกมาและให้เขากินลงไป ถ้าเขาสามารถทะลวงไปสู่ระดับปรมาจารย์ได้ในคราวเดียว นั่นก็หมายความว่ายาปราณแท้นั้นได้ผลจริง"“ในทางกลับกัน ถ้าเขาไม่อาจทะลวงคอขวดของการบ่มเพาะได้ นั่นก็หมายความว่ายาปราณแท้นี้เป็นของปลอม!”ฉินหมิงยิ้มจางในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้ว ไม่น่าแปลกใจเลยที่ซูซินเหยาปฏิเสธที่จะให้ซูห่าวใช้ยาปราณแท้ก่อนหน้านี้ ปรากฎว่าซูซินเหยาวางแผนที่จะใช้ซูห่าวเพื่อขจัดข้อสงสัยของคนอื่น!เขาต้องชื่นชมว่าซูซินเหยาเป็นคนฉลาดอย่างยิ่ง มีความสามารถทางธุรกิจที่ยอดเยี่ยมและมีวิสัยทัศน์กว้างไกล!“ให้คุณชายใหญ่ซูลองยาตรงนี้เลยเหรอ?”"นี่เป็นความคิดที่ดี!"......ทุกคนหารือกันและในที่สุดข้อตกลงก็เป็นเอกฉันท์ซูห่าวเป็นผู้นำของกลุ่มคนรุ่นใหม่ของเมืองเจียงเฉิง หลายคนรู้ว่าระดับการบ่มเพาะของเขาติดอยู่ในขั้นสูงสุดระดับสวรรค์ประทานมาหลายปีแล้ว การให้เขาลองยาจึงเหมาะส
ถ้าหากยาปราณแท้นี้ไม่มีผลใด ๆ ตามที่อวดอ้าง ถึงตอนนั้นเมื่อมันปลุกเร้าความไม่พอใจของสาธารณชน ผลที่ตามมาคงจะเป็นหายนะ!มีเพียงฉินหมิงเท่านั้นที่ยังคงมั่นคงและสงบ!แม้ว่าเขาจะไม่เคยลองใช้ยามาก่อน จึงไม่แน่ใจว่าผลของยาปราณแท้เป็นไปตามที่กล่าวอ้างไหม แต่เขาเคยใช้ยาสร้างรากฐานมาก่อน และยานั้นก็ช่วยให้เขาทะลวงไปสู่ขั้นสร้างรากฐานได้สำเร็จเนื่องจากยาสร้างรากฐานมีประสิทธิภาพจริง ยาปราณแท้ก็จะไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน!แน่นอนว่าครั้งสุดท้ายที่เขากินยาสร้างรากฐาน เขาต้องใช้เวลาตลอดทั้งบ่ายเพื่อดูดซับและปรับแต่งถึงจะทะลวงขั้นบ่มเพาะได้ในที่สุดเขาคาดว่าสถานการณ์ของซูห่าวนั้นคงคล้ายกันกับเขา เพราะจำเป็นต้องดูดซับพลังงานของยาซึ่งค่อนข้างมหาศาล มันจึงได้ล่าช้าอย่างมาก และนี่คือสาเหตุที่เขาไม่ตอบสนองจนถึงตอนนี้แต่ทุกคนไม่ได้มั่นใจเหมือนกับฉินหมิง พวกเขายังคงรอต่อไปอีกสักพักหนึ่งและเมื่อเห็นว่าซูห่าวยังคงไม่มีปฏิกิริยาใดๆ ทั้งไม่มีวี่แววว่าจะทะลวงผ่าน หลายคนก็เริ่มไม่สบอารมณ์แล้ว“ฉินหมิง คุณเอาแต่พูดก่อนหน้านี้ว่ายาปราณแท้สามารถช่วยผู้ฝึกยุทธขั้นสูงสุดระดับสวรรค์ประทานทะลวงไปสู่ระดับปรมาจารย์ได
ไม่มีใครคาดคิดว่าด้วยความช่วยเหลือของยาปราณแท้ ซูห่าวถึงกับทะลวงไปสู่ระดับปรมาจารย์ได้จริง ๆ!“เป็นไปได้ยังไง...”ตระกูลเหลิ่ง ตระกูลหลี่ และคนอื่น ๆ ต่างก็ประหลาดใจจนไปไม่ถูก สีหน้าของพวกเขาดูน่าเกลียดไปหมดเมื่อสักครู่นี้ภายใต้การยุยงของพวกเขา ความโกรธของกองกำลังใหญ่ได้ถูกจุดชนวนแล้วเมื่อเห็นว่าฉินหมิงกำลังจะประสบภัยพิบัติอยู่รอมร่อ พวกเขาไม่คิดเลยว่าระดับการบ่มเพาะของซูห่าวจะทะลวงผ่านในช่วงเวลาวิกฤติ ทำให้แผนของพวกเขาพังยับ!ใครก็ยากที่จะจินตนาการถึงความโกรธแค้นในใจของเขาพวกได้!“คุณชายใหญ่ซู ในที่สุดระดับการบ่มเพาะคุณก็ไปถึงระดับปรมาจารย์เสียที ยินดีด้วย”ฉินหมิงยิ้มและแสดงความยินดี“ใช่แล้ว ผมรอวันนี้มานานมากแล้วจริง ๆ!”“ถ้าไม่ได้รับความช่วยเหลือจากยาปราณแท้ ผมคงต้องฝึกฝนอย่างหนักอย่างน้อยก็สองหรือสามปีกว่าจะทะลวงผ่านคอขวดได้สำเร็จ!”ซู่หาวเก็บกลิ่นอายและลุกขึ้น อดไม่ได้ที่จะหัวเราะร่วนอย่างมีความสุขการทะลวงผ่านคอขวดไปยังระดับปรมาจารย์ เป็นความปรารถนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ ตอนนี้ความปรารถนาของเขาเป็นจริงแล้ว เขาย่อมตื่นเต้นมาก บนใบหน้าจึงม
แม้ว่าจะไม่มีใครพูดอย่างชัดเจน ทว่าพวกเขาต่างก็เห็นพ้องต้องกันว่าเค่ออั๋งกำลังจงใจสร้างปัญหา เพราะฉินหมิงเพิ่งจะหักหน้าตระกูลเค่อไปเมื่อสักครู่นี้!“คุณชายใหญ่เค่อพูดได้ถูกต้องแล้ว!”“ไอ้เด็กฉินหมิงนั่น ไม่รู้ว่าเขาฝึกฝนทักษะลับแบบไหน แต่เขามีความสามารถในการปกปิดออร่าของเขาจริง ๆ!”“ฉันเคยเห็นสิ่งนี้กับตาของตัวเองมาก่อน!”ลี่หย่งเจี๋ยยืนหยัดและเข้ามาสนับสนุนเค่ออั๋งได้ทันเวลา“ยังมีฉันด้วยอีกคน ฉันเองก็เป็นพยานได้!”“ฉันเคยต่อสู้กับฉินหมิงมาก่อน ระดับการบ่มเพาะของเขาเห็นได้ชัดว่าอยู่ในระดับมานะสร้างเท่านั้น แต่ความแข็งแกร่งของเขากลับไปถึงขั้นสูงสุดระดับสวรรค์ประทานแล้ว!”“แม้แต่ฉันก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา!”เหลิ่งจวิ้นลุกขึ้นยืนเหมือนกันเขาและลี่หย่งเจี๋ยคนหนึ่งร้องคนหนึ่งรับ ดูน่าเชื่อถือมาก ไม่คล้ายกับกำลังโกหกอยู่เลยแน่นอนว่านี่เป็นเรื่องจริง ทั้งสองคนเคยต่อสู้กับฉินหมิงมาก่อนหน้านี้และก็แพ้อย่างราบคาบด้วยพลังระลอกที่สองของฉินหมิง!เนื่องจากทั้งสองไม่รู้ว่าฉินหมิงบ่มเพาะมรรคาแห่งเต๋า ทั้งสองจึงเข้าใจผิดคิดว่าฉินหมิงมีวิธีพิเศษบางอย่างในการปกปิดระดับการบ่มเพาะและออร่าที่แท
เพื่อตระกูลซูและฉินหมิงสามารถขจัดข้อสงสัยของทุกคน ซูห่าวจึงจำต้องแสดงความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเขา พวกเขาย่อมไม่ปฏิเสธการประลองในครั้งนี้นอกจากนี้เค่ออั๋งกำลังสร้างปัญหาอย่างชัดเจน ซูห่าวจึงจะใช้โอกาสนี้สั่งสอนบทเรียนให้กับเค่ออั๋งหลังจากนั้นซูห่าวและเค่ออั๋งก็ขึ้นเวทีตามลำดับ ขณะที่ฉินหมิงและซูซินเหยาถอยไปยืนอีกฝั่งหนึ่ง เหลือพื้นที่เพียงพอสำหรับให้ซูห่าวและเค่ออั๋งได้ประลองกัน“เค่ออั๋ง นายเริ่มก่อนเลย!”"ไม่อย่างนั้นถ้าฉันลงมือ เกรงว่านายคงไม่มีโอกาสแม้แต่จะโจมตีด้วยซ้ำ!"ซูห่าวพูดด้วยสีหน้าที่เย็นชาและเย่อหยิ่งเนื่องจากระดับการบ่มเพาะของเขาทะลวงผ่านสำเร็จด้วยความช่วยเหลือของยาปราณแท้ซึ่งเป็นปัจจัยภายนอก ขอบเขตของเขาจึงไม่มั่นคงพอ กลิ่นอายทรงพลังบนตัวของเขาจึงผันผวนขึ้น ๆ ลง ๆ ซึ่งทำให้ทุกคนสงสัยมากขึ้นเรื่อย ๆ ว่าเขาประสบความสำเร็จก้าวหน้าแล้วจริง ๆ ไหม!"เสแสร้งแกล้งทำ!"“ในเมื่อนายต้องการรนหาที่ตาย ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะสนองให้!”เค่ออั๋งแค่นเสียงอย่างเย็นชา เขาเองก็สังเกตเห็นแล้วว่าออร่าบนตัวของซูห่าวไม่มั่นคง เขาจึงมั่นใจมากขึ้นไปอีกว่ามีบางอย่างผิดปกติกับซูห่าว ดังนั
“ในเมื่อไม่มีใครกังขาอีกแล้ว ถ้าอย่างนั้นพวกเราหมิงเหยากรุ๊ปจะขอเริ่มงานเปิดตัวขายเดี๋ยวนี้...”ฉินหมิงและซูซินเหยาก้าวออกมา"เดี๋ยวก่อน!"นายท่านเค่อแค่นเสียงเหอะอย่างเย็นชา“ซูห่าว เมื่อสักครู่นี้นายกับอั๋งเอ๋อร์ประมือกัน ฉันได้แจงไว้ล่วงหน้าแล้วว่าแค่ชี้แนะกันพอ อย่าให้มากเกินกว่านั้น!”“แต่นายกลับจงใจลงมือโหดเหี้ยม ทำร้ายเขาจนบาดเจ็บหนักขนาดนี้!”"นี่หมายความว่ายังไง?"นายท่านเค่อจ้องไปที่ซูห่าวด้วยแววตาที่เฉียบคมล้ำลึก"นายท่านเค่อ ผมต้องขอโทษด้วยจริง ๆ ครับ เดิมทีผมวางแผนที่จะหยุดมือ แต่ผมเพิ่งทะลวงผ่าน จึงยังไม่สามารถควบคุมพลังได้อย่างเต็มที่""ก็เลยทำให้คุณชายใหญ่เค่อได้รับบาดเจ็บโดยไม่ได้ตั้งใจ..."ซูห่าวรู้ว่าเขาทำผิดจึงขอโทษอย่างจริงใจ“แค่ขอโทษง่าย ๆ แบบนี้ คิดว่าจะจบเรื่องได้แล้วเหรอ? มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก!”“สรุปก็คือ ฉันไม่สนใจว่านายจะทำมันโดยตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจ วันนี้นายต้องให้คำอธิบายที่สมเหตุสมผลแก่ฉัน!”นายท่านเค่อตะคอกด้วยความโกรธ ออร่าอันทรงพลังของเขาพวยพุ่งออกมาในลักษณะที่ก้าวร้าว แรงกดดันนี้ทำให้ซูห่าวหายใจไม่ออก“ตาแก่เค่อ อย่ามาใช้มุกนี้เสียให
ยกเว้นทายาทสายตรงของตระกูลเค่อไม่กี่คน คนอื่น ๆ อย่างมากก็แค่รู้ว่าระดับการบ่มเพาะของเธอไม่เลว ไม่มีใครรู้ว่าระดับการบ่มเพาะของเธอมาถึงขั้นสูงสุดระดับสวรรค์ประทานแล้ว!สิ่งเดียวที่ทุกคนรู้เกี่ยวกับเธอก็คือ เธอเป็นหนึ่งในสี่สาวงามแห่งเมืองเจียงเฉิง!ชื่อเสียงด้านความงามของเธอ ได้บดบังความสามารถของเธอไปนานแล้ว!"แปลกจริง ๆ!"“ระดับการบ่มเพาะของซูห่าวตอนนี้มาถึงระดับปรมาจารย์แล้ว เขาสามารถเรียกได้ว่าเป็นอันดับที่หนึ่งในบรรดาคนรุ่นเยาว์ของเมืองเจียงเฉิงของเรา!”“แม้แต่คุณชายชั้นนำอย่างเค่ออั๋งและเหลิ่งจวิ้นก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ตระกูลเค่อส่งเค่อรุ่ยออกมาท้าทายแบบนี้ หมายความว่ายังไง?”“ใครจะรู้ บางทีนายท่านเค่ออาจจะโกรธมากเลยจงใจส่งเค่อรุ่ยออกมาเพื่อทำให้ตระกูลซูกระอักกระอ่วนก็เป็นได้ แม้ว่าซูห่าวจะเอาชนะเด็กสาวที่อ่อนแอคนหนึ่ง สุดท้ายชนะแล้วก็ยังเหมือนแพ้อยู่ดี!”......ทุกคนประหลาดใจ แต่ละคนมองหน้ากัน ล้วนเห็นความตกใจในสายตาของกันและกัน!อย่าว่าแต่พวกเขาไม่รู้ระดับความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเค่อรุ่ย แม้จะรู้ทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิมด้วยระดับการบ่มเพาะระดับปรมาจารย์ของซูห่าว แม้ว
“คุณชายใหญ่ซูช่างสมกับที่เป็นบุคคลที่โดดเด่นที่สุดในหมู่คนรุ่นเยาว์ของเจียงเฉิงของเรา เขาดูสง่างามมาก!”ทุกคนอดไม่ได้ที่จะยกนิ้วให้และชมเชย“ได้ นายพูดเองนะ!”“ในเมื่อนายรนหาที่เอง สุดท้ายก็อย่ามาโทษกันล่ะ!”เค่อรุ่ยยิ้มเบา ๆ ร่างกายกะพริบหายไปจากจุดที่ยืนอยู่ก่อนจะมาปรากฏตัวตรงหน้าซูห่าวราวกับสายฟ้า จากนั้นเธอก็ซัดฝ่ามือโจมตีออกไป เงาของฝ่ามือบดบังเต็มท้องฟ้าและกระแทกไปที่หน้าอกของซูห่าวจัง ๆเดิมทีซูห่าวรู้สึกดูถูกเค่อรุ่ยมาก แถมยังเอ่ยปากไปเมื่อสักครู่นี้แล้วว่าเขาจะต่อให้กับเค่อรุ่ยสามกระบวนท่า ดังนั้นเขาย่อมไม่ผิดสัญญาอย่างไรก็ตามเมื่อเขาสังเกตเห็นความผันผวนของพลังปราณแท้จริงในตัวของเค่อรุ่ย ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีเขียว“ขั้น...ขั้นแรกระดับปรมาจารย์!”ซูห่าวตกตะลึง เขาไม่คิดเลยว่าระดับการบ่มเพาะของเค่อรุ่ยจะมาถึงระดับปรมาจารย์แล้ว!ที่แย่ยิ่งกว่านั้นก็คือ เพราะเขาประเมินเค่อรุ่ยต่ำเกินไป เขาจึงพลาดโอกาสที่ดีที่สุดในการตั้งรับ เมื่อเขาตอบสนองกลับมา มันก็สายเกินกว่าจะเบี่ยงหลบแล้วในช่วงเวลาวิกฤติ ร่างของซูห่าวขยับไปด้านข้างอย่างกะทันหันมากกว่าสิบเซนติเมตรน่าเสียดาย
บรรพบุรุษตระกูลฉินทิ้งความรู้ไว้ให้เขาอย่างกว้างขวางมาก แถมยังรวมถึงสูตรลับบางอย่างในการกระตุ้นศักยภาพของร่างกายมนุษย์ด้วย สูตรลับเหล่านี้เกี่ยวข้องกับทักษะทางการแพทย์และได้รับการบันทึกอย่างละเอียดสำหรับยาปราณแท้ ปัจจุบันเขามีสำรองอยู่อีกหลายเม็ดตอนนี้ทั้งสองอย่างล้วนพร้อมแล้ว เขาต้องการช่วยเฝิงเจิ้นฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธไปให้ได้ นี่ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย!“ลุงเฝิง ผมบอกความจริงกับคุณก็แล้วกัน แม้ว่าผมจะไม่แน่ใจว่าสามารถช่วยคุณทะลวงไปสู่ระดับราชาแห่งสงครามได้หรือไม่ แต่ผมจะพยายามลองอย่างเต็มที่ โอกาสที่จะประสบความสำเร็จน่าจะสูงมาก ... "ฉินหมิงพูดอย่างจริงใจ“ลองดู?”“การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ เรื่องแบบนี้จะลองสุ่มสี่สุ่มห้าได้อย่างไร หากมีสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ผลที่ตามมาอาจเป็นหายนะ!”เฝิงเจิ้นตกใจยิ่งกว่าเดิมในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่า ฉินหมิงกำลังพูดเรื่องไร้สาระและต้องการใช้เขาเป็นหนูทดลองหากเป็นเรื่องอื่นก็เอาเถอะ เขาคงสามารถให้ความร่วมมือกับฉินหมิงได้ แต่การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธเป็นสิ่งสำคัญ หากไม่ระวังอาจกลายเป็นบ้าได้ง่าย ๆ หรือแม้แต่สูญเสียทักษ
เดิมทีระดับการบ่มเพาะของลี่ตั๋วไห่นั้นทัดเทียมกับเขา ทั้งสองอยู่ในระดับของครึ่งก้าวราชาสงคราม ต่างคนต่างไม่สามารถทำอะไรกับอีกฝ่ายได้แต่ตอนนี้ความแข็งแกร่งของลี่ตั๋วไห่แซงหน้าเขาไปแล้ว ต่อไปนี้มันยากมากสำหรับเขาที่จะสู้กับลี่ตั๋วไห่ได้!ชั่วขณะหนึ่ง เขารู้สึกถึงวิกฤตที่รุนแรงมาก แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้“บางทีลี่ตั๋วไห่อาจโชคดีมากกว่า...”ฉินหมิงฉุกคิดได้ และดูเหมือนเขาจะเข้าใจอะไรบางอย่างอย่างคลุมเครือเขาเคยสงสัยมาก่อนตอนที่อยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ว่าลี่ตั๋วไห่สามารถฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ์ได้อย่างง่ายดาย นี่อาจมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับการปล้นเจิ้งอวี่ มิฉะนั้นลี่ตั๋วไห่จะไม่สร้างศัตรูที่แข็งแกร่งอย่างตระกูลเจิ้งเพียงเพื่อยาปราณแท้แค่สามเม็ดแน่ตอนนี้เขาคิดเชื่อมโยงกันเล็กน้อย ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าลี่ตั๋วไห่อาจจะสามารถทะลวงเข้าไปในระดับของราชาสงครามได้โดยใช้ยาปราณแท้สามเม็ดนี้!นี่ไม่ใช่ประเด็น ประเด็นก็คือในฐานะคนหลอมยาปราณแท้ เขาเข้าใจคุณสมบัติของยาปราณแท้มากกว่าใคร ๆ ในเมื่อแม้แต่ลี่ตั๋วไห่ก็มีสิทธิ์พึ่งพายาปราณแท้เพื่อกลายเป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งในระดับราชาสงคราม ถ้าอย่
ตอนนี้เขาสะบักสะบอมมาก มันเจ็บไปทั้งหัวใจ และเขาคิดอยากลบความรู้สึกที่มีต่อหลินหว่านชิงออกไปให้หมดสิ้น แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง!เขาจะกลับไปคบหลินหว่านชิงอีกครั้งได้อย่างไร!“ฉินหมิง คุณใจร้ายกับฉันได้ขนาดนี้เลยเหรอ?”หลินหว่านชิงกัดริมฝีปากแล้วมองฉินหมิงด้วยใบหน้าเศร้า เธอพยายามกลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้ไหลลงมา“ไม่ได้ใจร้าย เพียงแต่ว่าโชคชะตาระหว่างเราสองคนจบลงแล้ว!”“ถ้าคุณเต็มใจ เราก็ยังเป็นเพื่อนกันต่อไปได้ แต่เรื่องความรู้สึกให้มันจบลงเพียงเท่านี้เถอะ!”ฉินหมิงพูดอย่างใจเย็น“ได้ คุณพูดแบบนี้เอง คุณอย่าเสียใจภายหลังก็แล้วกัน!”หลินหว่านชิงรู้สึกเหมือนคนอกหัก เมื่อต้องเผชิญกับความไร้เยื่อใยและความเมินเฉยของฉินหมิง เธอไม่มีความกล้าพอที่จะอยู่ตรงนี้อีกต่อไป เธอจึงหันหลังกลับและวิ่งหนีไปทันทีที่เธอหันหลังมา หยดน้ำตาก็ไหลลงอาบแก้มของเธออย่างเงียบ ๆ “ฉินหมิง ไอ้สารเลว!”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยโกรธมาก เธอจ้องมองไปที่ฉินหมิงด้วยสายตาเกลียดชัง จากนั้นก็วิ่งตามไปยังทิศทางของหลินหว่านชิง“ฉินหมิง คุณดูแลตัวเองให้ดี ๆ เถอะ!”หานซีเหลือบมองฉินหมิงด้วยสีหน้าซับซ้อน จากนั้นเธอและไล่ตามเซี
ฉินหมิงตกใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ“แน่นอนว่านายไม่รู้!”“ครั้งที่แล้ว พี่ไปที่หมิงเหยากรุ๊ปเพื่อไปง้อนาย แต่เธอถูกซูซินเหยาหลอกให้คิดว่านายกับซูซินเหยาคบกันแล้ว…”“ผู้กระทำผิดทั้งหมดนี้ก็คือซูซินเหยา ถ้าเธอไม่เข้ามาขวางทาง พี่คงไม่ได้รับข้อมูลผิด ๆ จากเธอและไม่ทำร้ายนายครั้งแล้วครั้งเล่า…”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดด้วยความโกรธ และเธอก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างคร่าว ๆหลังจากฟังแล้ว ฉินหมิงมีสีหน้าประหลาดใจและไม่แน่ใจ จากนั้นเขาก็มองซูซินเหยาด้วยดวงตาที่ลุกเป็นไฟและถามว่า "ซินเหยา สิ่งที่เสี่ยวเตี๋ยพูดเป็นความจริงหรือเปล่า?"“ฉัน...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาเปลี่ยนเป็นสีแดง เธออ้าปากพูด แต่ก็พูดไม่ออกท้ายที่สุดแล้ว เรื่องนี้เป็นความผิดของเธอจริง ๆ เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยไม่ได้กล่าวหาเธอ และเธอก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร“ทำไมต้องโกหกผม?”สีหน้าของฉินหมิงมืดลงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาที่จะเดาจากปฏิกิริยาของซูซินเหยาว่า สิ่งที่เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดนั้นเป็นเรื่องจริง!“ฉินหมิง ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะโกหกคุณ…”“ฉันก็แค่ชอบคุณมาก และไม่อยากเสียคุณไป ฉันจึงตัดสินใจทำมันลงไป...”ดวงตาขอ
ในขณะนี้ เขายังสงบสติอารมณ์ไม่ได้ และความตั้งใจอันแน่วแน่ดั้งเดิมของเขาก็อดไม่ได้ที่จะสั่นคลอนเล็กน้อย“ฉินหมิง คุณอย่าตอบตกลงเธอนะ...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาซีดลง เธอมองไปที่ฉินหมิงด้วยความกังวลเธอรับรู้ความรู้สึกของฉินหมิงที่มีต่อหลินหว่านชิง และเธอก็เห็นว่าฉินหมิงหวั่นไหว หากไม่ผิดคาด ฉินหมิงน่าจะทิ้งเธอไปแล้วกลับไปหาหลินหว่านชิงเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เธอรู้สึกเศร้ามาก และใจของเธอก็ค่อย ๆ จมลงสู่ก้นบึ้งเมื่อเห็นสีหน้าเศร้าสร้อยของซูซินเหยา ฉินหมิงก็ตื่นขึ้นมาทันทีราวกับว่าถูกสาดหน้าด้วยน้ำเย็นหากเป็นเมื่อก่อน เขาอาจจะตกลงที่จะกลับไปคืนดีกับหลินหว่านชิงแต่ตอนนี้ เขาได้ตกลงที่จะหมั้นกับซูซินเหยาแล้ว และเมื่อสักครู่นี้ยังให้สัญญากับซูซินเหยาอีกด้วย!หากเขายกเลิกงานหมั้นในเวลานี้ ไม่ต้องคิดเลยว่าจะทำให้ซูซินเหยาเสียใจมากแค่ไหน!ไม่ชอบสิ่งใด ก็อย่าได้ทำสิ่งนั้นกับคนอื่นตอนที่เขากับหลินหว่านชิงเลิกกัน เขาได้สัมผัสรสชาติความเจ็บปวดด้วยตัวเอง มันเป็นความเจ็บปวดที่จดจำไว้ในใจไม่ลืมเลือน เจ็บจนเจียนตายในเมื่อแม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่ชอบความเจ็บปวดแบบนี้ เขาจะใจร้ายทำร้ายซูซินเห
“ผมไม่เป็นไร แค่บาดเจ็บนิดหน่อย...”ฉินหมิงยิ้มเบา ๆแม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหลินหว่านชิงจะทะเลาะกันจนค่อนข้างไม่มีความสุข แต่หานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขามาก เขาถือว่าหานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยเป็นเพื่อนที่ดีมาโดยตลอดเขารู้สึกอบอุ่นหัวใจเป็นอย่างมากเมื่อเห็นเพื่อนทั้งสองแสดงความเป็นห่วงเขา“ฉินหมิง ฉันขอโทษ เป็นฉันเองที่ทำร้ายคุณ”หลินหว่านชิงพูดด้วยท่าทางรู้สึกผิด“ไม่เป็นไร ทั้งหมดเป็นความสมัครใจของผมเอง...”ฉินหมิงแสร้งทำเป็นฝืนยิ้มความรักคือการให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เขาเสียสละมากมายเพื่อหลินหว่านชิงอย่างเต็มใจ ไม่สามารถโทษผู้อื่นได้“คุณหนูใหญ่หลิน คุณมาหาผมมีธุระอะไรเหรอ?”ฉินหมิงถามตรงประเด็น แม้แต่ชื่อน่ารัก ๆ ที่เขาใช้เรียกหลินหว่านชิงก็ได้เปลี่ยนไปแล้วในเมื่อตอนนี้เขาตัดใจจากหลินหว่านชิงแล้ว และกำลังจะหมั้นกับซูซินเหยา เขาควรขีดเส้นความสัมพันธ์ให้ชัดเจนกับหลินหว่านชิงและพยายามรักษาระยะห่าง นี่เป็นหน้าที่อย่างหนึ่งที่สมควรทำเมื่อได้ยินชื่อเรียกที่ไม่คุ้นเคยออกมาจากปากฉินหมิง หลินหว่านชิงก็รู้สึกเจ็บแปลบในใจแต่เธอรู้ว่าทั้งหมดน
ฉินหมิงเป็นคู่แข่งทางความรักที่ใหญ่ที่สุดของเขา ขอแค่ฉินหมิงและหลินหว่านชิงคืนดีกันไม่สำเร็จในครั้งนี้ เขาก็สามารถใช้โอกาสจากเรื่องนี้เข้าไปอยู่ในหัวใจของหลินหว่านชิงได้ง่ายขึ้น!แค่ได้คิดก็มีความสุขมาก!......คฤหาสน์ตระกูลซูแขนข้างหนึ่งของฉินหมิงถูกพันด้วยผ้าพันแผล เขานอนอยู่บนเตียงเพื่อพักฟื้นอยู่ในห้องเพราะเขากินยามังกรซ่อนไปหนึ่งเม็ดตอนอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ตอนนี้เขาจึงอยู่ในระยะอ่อนแอ ร่างกายไร้เรี่ยวแรงข้างเตียงซูซินเหยาดูแลฉินหมิงอย่างดี ในมือถือชามยาบำรุงพลังร่างกาย เธอป้อนยาให้ฉินหมิงด้วยรอยยิ้มที่มีความสุขบนใบหน้าอันงดงามของเธอคนเราจะมีความสุขเมื่อได้อยู่กับคนที่เรารัก เธอรอคอยฉินหมิงมาเป็นเวลานาน ในที่สุดวันที่ยากลำบากผ่านพ้นไป วันที่หวานชื่นก็มาถึง ได้กลับมาอยู่ด้วยกันกับฉินหมิงสมใจปรารถนาใครก็ยากที่จะจินตนาการถึงความสุขในใจของเธอได้!หลังจากกลับมาจากคฤหาสน์ตระกูลหลิน ใบหน้าที่สวยงามของเธอก็ไม่เคยหยุดยิ้มได้เลย…ในขณะนี้ มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของตระกูลซูนายหนึ่งเดินเข้ามาจากด้านนอกอย่างรวดเร็ว“คุณหนูใหญ่ ข้างนอกมีผู้หญิงคนหนึ่
“สรุปก็คือหนูจะไปหาเขาตอนนี้และอธิบายเรื่องทุกอย่างให้ชัดเจน บางทีนี่อาจจะเอาชนะใจเขากลับมาได้!”หลินหว่านชิงพูดอย่างหนักแน่นพูดจบเธอก็หันหลังแล้วเดินออกไป“ไม่ได้ ลูกจะไปไม่ได้!”“เรื่องของฉินหมิงเป็นเรื่องอดีตไปแล้ว ลูกควรมองไปข้างหน้า ตอนนี้หลานเค่ออั๋งคือตัวเลือกที่ดีที่สุดของลูก!”หลินเถิงฮุ่ยหมุนรถเข็นของเขาและรีบไปหยุดหลินหว่านชิงไว้ในความเป็นจริง เหตุผลที่เขาห้ามหลินหว่านชิงก็เพราะว่าฉินหมิงกำลังจะหมั้นหมายกับซูซินเหยา และเนื่องจากเค่ออั๋งชอบหลินหว่านชิงมากแม้ว่าฉินหมิงจะมีความสามารถที่ยอดเยี่ยม แต่ฉินหมิงก็เป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ไร้อำนาจบารมี หากฉินหมิงจะเต็มใจที่จะกลับมาคืนดีกับหลินหว่านชิงจริง ๆ มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเขาในการกลับไปสู่วงศ์ตระกูลแต่เค่ออั๋งนั้นแตกต่างออกไป หากหลินหว่านชิงยอมรับเค่ออั๋งด้วยพลังยุทธและรากฐานของตระกูลเค่อ การช่วยให้เขายึดอำนาจของตระกูลกลับคืนมาคงไม่ใช่เรื่องยากอย่างแน่นอน!“พ่อ ก่อนหน้านี้พ่อทำเพื่อประโยชน์ของตระกูล จึงเข้ามาก้าวก่ายเรื่องระหว่างหนูกับฉินหมิง อย่างไม่ลังเล และท้ายที่สุดหนูก็ทำร้ายฉินหมิงครั้งแล้วครั้งเล่า...”“ตอนนี้พ่
การให้ความช่วยเหลือในเวลาที่ต้องการเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด ตอนนี้หลินหว่านชิงและพ่อของเธอกำลังประสบปัญหา จุดประสงค์ของการมาที่นี่คือการถือโอกาสแสดงความเป็นสุภาพบุรุษต่อหน้าหลินหว่านชิงในตอนที่พวกเขาต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด และหวังว่าจะได้รับความโปรดปรานจากเธอ!ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์แล้วว่าเขามาทันเวลา เมื่อสักครู่นี้เขาเป็นพระเอกขี่ม้าขาวและช่วยหลินหว่านชิงให้รอดพ้นจากอันตราย ความประทับใจที่ไม่ดีต่อเขาในอดีตก็เปลี่ยนไปมากเช่นกัน“คุณอยากช่วยเราเหรอ?”หลินเถิงฮุ่ยรู้สึกประหลาดใจและตื่นเต้นตระกูลเค่อเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของเมืองเจียงเฉิง ที่มีพลังยุทธและรากฐานที่ทรงพลังมาก หากเขาได้รับความช่วยเหลือจากเค่ออั๋งและตระกูลเค่อได้ มันจะเป็นเรื่องง่ายขึ้นมากสำหรับเขาและหลินหว่านชิงที่จะกลับคืนสู่ตระกูลหรือยึดอำนาจของตระกูลคืนมา!“ใช่แล้ว!”“ลุงหลิน ตราบเท่าที่คุณต้องการความช่วยเหลือจากผม ผมจะพยายามอย่างดีที่สุดและทำอย่างเต็มที่!”เค่ออั๋งพูดเสียงดังฉะฉาน“ดี เยี่ยมมาก!”“หลานเค่ออั๋ง หากคุณสามารถช่วยฉันกับหว่านชิงกลับคืนสู่ตระกูลหลินได้ เราสองพ่อลูกจะขอบคุณอย่างยิ่ง!”หลินเถิงฮ