เมื่อเห็นว่าเรื่องนี้ได้ข้อสรุปแบบนี้แล้ว ในที่สุดนายท่านหลินก็อดไม่ได้“ฉินหมิง ก่อนหน้านี้ตระกูลหลินของเราเคยมีความเข้าใจผิดกับเธอมาก่อน ฉันหวังว่าเธอจะยกโทษให้กับฉัน…”นายท่านหลินยิ้มอย่างกระอักกระอ่วนตอนนี้เขารู้แล้วว่าฉินหมิงเป็นปรมาจารย์นักปรุงยาที่อยู่เบื้องหลังตระกูลซู เขาตกใจมากและต้องการแก้ไขข้อขัดแย้งกับฉินหมิง อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ตระกูลหลินกระทำอย่างไร้ความปรานีเมื่อพวกเขาขับไล่ฉินหมิงออกไป ครู่หนึ่งเขาจึงไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี"สิ่งที่ผ่านไปแล้วล้วนเป็นอดีตครับ"ฉินหมิงพูดอย่างใจเย็นแม้ว่าเขาจะประสบความสำเร็จบ้างแล้ว แต่ความแข็งแกร่งและรากฐานของเขายังห่างไกลจากระดับของสี่ตระกูลใหญ่ด้วยชื่อเสียงอันสูงส่งของตระกูลหลิน เขาไม่คิดว่านายหลินจะขอโทษเขาอย่างจริงใจอย่างน้อยจนกว่าเขาจะแข็งแกร่งอย่างแท้จริง นายท่านหลินและหลินเถิงฮุ่ยสองพ่อลูกไม่มีวันยอมจำนนต่อเขาจริง ๆ!เมื่อเห็นสีหน้าที่ไม่รู้สึกรู้สาของฉินหมิง นายท่านหลินก็แอบกังวลใจเล็กน้อย เขาเปลี่ยนใจและลองเสี่ยงดวงดู!“ฉินหมิง ตระกูลหลินของเราสนใจที่จะร่วมมือกับเธอมาก”"ถ้าเธอเต็มใจกลับมาหาตระกูลหลินของเราและเลือ
"ผม..."ฉินหมิงรู้สึกตื่นเต้นมากจนแทบทนรอที่จะตอบตกลงเสียเดี๋ยวนั้นไม่ไหว“ฉินหมิง…”ซูซินเหยาที่อยู่ด้านข้างกำลังกัดริมฝีปากของเธอ ใบหน้าที่สวยงามของเธอซีดเผือดไม่มีสีเลือดให้เห็นอีกต่อไปในความเป็นจริง เธอรู้มานานแล้วว่าฉินหมิงไม่อาจลืมหลินหว่านชิงได้ อย่างน้อยก็ในตอนนี้แต่เธอไม่คาดคิดเลยว่าหลินหว่านชิงจะมีอิทธิพลต่อฉินหมิงอย่างมาก นายท่านหลินใช้หลินหว่านชิงเป็นเหยื่อล่ออย่างจงใจ และฉินหมิงก็งับเหยื่ออย่างง่ายดาย กระทั่งยอมลืมความอัปยศอดสูทั้งหมดที่เขาได้รับจากตระกูลหลินในคืนนั้น!เธอแทบจะสรุปได้เลยว่าต่อจากนี้ฉินหมิงจะตอบรับเงื่อนไขของนายท่านหลินอย่างแน่นอน!ในขณะนี้เอง เธอรู้สึกหมดหวังอย่างถึงที่สุดและอารมณ์ของเธอก็จมดิ่งลงสู่จุดต่ำสุดเมื่อได้สบกับดวงตาที่หม่นแสงของซูซินเหยา ฉินหมิงก็ได้สติจากความตื่นเต้นราวกับถูกน้ำเย็นถังใหญ่ราดลงบนศีรษะตระกูลซูมีพระคุณต่อเขา ถ้าเขาเลือกที่จะร่วมมือกับตระกูลหลินกลางทางแบบนี้ มันจะต่างอะไรกับคนต่ำช้าที่เนรคุณ?ยิ่งไปกว่านั้น ในช่วงเวลาที่เขาและหลินหว่านชิงเลิกกัน ซูซินเหยาเข้ามาให้กำลังใจเขา อยู่เคียงข้างเขาและคอยดูแลเขาทุกวิถีทางถ้าเ
โชคดีที่เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยมือไวตาไว ยื่นมือออกไปคว้าร่างช่วยเหลือเธอไว้ได้ทัน“พี่คะ เป็นอะไรไป?”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยถามด้วยสีหน้ากังวล"ฉันไม่เป็นไร..."หลินหว่านชิงกัดริมฝีปากแน่น เธอรู้สึกเหมือนกำลังตกลงไปในถ้ำน้ำแข็งในความเป็นจริง ด้วยความสงบและสติปัญญาตามปกติของเธอ เธอควรจะเข้าใจถึงความยากลำบากของฉินหมิงได้ แต่เพราะใส่ใจจึงได้มองข้ามไป ตอนนี้เธอดันทุรังอย่างหนักจะเข้าใจอารมณ์ของฉินหมิงได้อย่างไร!เธอรู้เพียงว่าในที่สุดฉินหมิงก็เลือกซูซินเหยาและยอมรามือเรื่องเธอตระกูลหลินแพ้เกมนี้ และเธอก็แพ้เช่นกัน เธอแพ้ซูซินเหยาโดยสิ้นเชิง!เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยอยากจะพูดอะไรสักอย่างทว่าสุดท้ายก็หยุดลงผู้ที่เล่นอยู่ในกระดานหมากดูไม่ออก แต่ผู้ชมช้างนอกกลับชัดเจนยิ่ง เธอในฐานะคนนอก เห็นได้อย่างชัดเจนว่าฉินหมิงลำบากใจ แต่ก็เถียงไม่ได้ว่าสุดท้ายแล้วฉินหมิงเลือกที่จะสละโอกาสที่จะได้กลับมาอยู่กับหลินหว่านชิงอีกครั้งเพื่อหลักการของเขาสิ่งนี้ทำให้เธอรู้สึกโกรธเล็กน้อยและก็ไม่รู้ด้วยว่าจะปลอบใจลูกพี่ลูกน้องของเธออย่างไร“ดี ดีมากจริง ๆ!"“ฉินหมิง ฉันรักนายมาก!”ซูซินเหยาไม่คิดเลยว่าฉินหมิงจะสามารถต
“คุณฉิน ยาปราณแท้นี้สามารถช่วยผู้ฝึกยุทธในขั้นสูงสุดระดับสวรรค์ประทานทะลวงไปสู่ระดับปรมาจารย์ได้จริง ๆ เหรอ?”โจวเจี้ยนถามอย่างตื่นเต้นเนื่องจากตระกูลซูได้ประชาสัมพันธ์เรื่องนี้ก่อนล่วงหน้าแล้ว เหล่าตระกูลที่มีอำนาจจึงล้วนเคยได้ยินเกี่ยวกับผลของยาปราณแท้!โจวเจี้ยนและนายท่านโจวมาที่นี่ก็เพื่อยาปราณแท้โดยเฉพาะ!ระดับปรมาจารย์คือจุดเริ่มต้นแรกบนเส้นทางแห่งการบ่มเพาะของผู้ฝึกยุทธ คิดที่จะก้าวข้ามไปนั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก โจวเจี้ยนคือผู้สืบทอดของตระกูลโจว แม้ว่าพรสวรรค์ด้านการฝึกวรยุทธของเขาจะไม่โดดเด่นเท่ากับซูห่าวและเค่ออั๋ง แต่ก็ไม่ได้แตกต่างกันมากนักภายใต้ความพยายามของเขา ระดับการบ่มเพาะของเขาจึงมาถึงขั้นสูงสุดระดับสวรรค์ประทานเมื่อไม่นานมานี้ถ้าเขาสามารถซื้อยาปราณแท้ไปแม้จะเพียงหนึ่งเม็ด แล้วทะลวงเข้าสู่ระดับปรมาจารย์ได้ในคราวเดียว มันจะช่วยเขาประหยัดเวลาในการบ่มเพาะอย่างหนักหลายปี!“ถูกต้อง!”“ยาปราณแท้ไม่เพียงแต่สามารถช่วยผู้ฝึกยุทธขั้นสูงสุดระดับสวรรค์ประทานทะลวงไปสู่ระดับปรมาจารย์เท่านั้น แต่ยังส่งผลดีมากต่อยอดฝีมือระดับปรมาจารย์อีกด้วย”“ตราบเท่าที่ผู้ฝึกยุทธขอบเขตต
ฉินหมิงกระแอมในลำคอแล้วพูด“ทดสอบเหรอ? ทดสอบยังไง?”ทุกคนดูประหลาดใจและสับสน“ง่ายมาก ดังที่เราทุกคนทราบกันดีว่าซูห่าว คุณชายใหญ่ของตระกูลซูติดอยู่ในขั้นสูงสุดระดับสวรรค์ประทานมานานหลายปีแล้ว”“หมิงเหยากรุ๊ปของเราสามารถนำยาปราณแท้ออกมาและให้เขากินลงไป ถ้าเขาสามารถทะลวงไปสู่ระดับปรมาจารย์ได้ในคราวเดียว นั่นก็หมายความว่ายาปราณแท้นั้นได้ผลจริง"“ในทางกลับกัน ถ้าเขาไม่อาจทะลวงคอขวดของการบ่มเพาะได้ นั่นก็หมายความว่ายาปราณแท้นี้เป็นของปลอม!”ฉินหมิงยิ้มจางในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้ว ไม่น่าแปลกใจเลยที่ซูซินเหยาปฏิเสธที่จะให้ซูห่าวใช้ยาปราณแท้ก่อนหน้านี้ ปรากฎว่าซูซินเหยาวางแผนที่จะใช้ซูห่าวเพื่อขจัดข้อสงสัยของคนอื่น!เขาต้องชื่นชมว่าซูซินเหยาเป็นคนฉลาดอย่างยิ่ง มีความสามารถทางธุรกิจที่ยอดเยี่ยมและมีวิสัยทัศน์กว้างไกล!“ให้คุณชายใหญ่ซูลองยาตรงนี้เลยเหรอ?”"นี่เป็นความคิดที่ดี!"......ทุกคนหารือกันและในที่สุดข้อตกลงก็เป็นเอกฉันท์ซูห่าวเป็นผู้นำของกลุ่มคนรุ่นใหม่ของเมืองเจียงเฉิง หลายคนรู้ว่าระดับการบ่มเพาะของเขาติดอยู่ในขั้นสูงสุดระดับสวรรค์ประทานมาหลายปีแล้ว การให้เขาลองยาจึงเหมาะส
ถ้าหากยาปราณแท้นี้ไม่มีผลใด ๆ ตามที่อวดอ้าง ถึงตอนนั้นเมื่อมันปลุกเร้าความไม่พอใจของสาธารณชน ผลที่ตามมาคงจะเป็นหายนะ!มีเพียงฉินหมิงเท่านั้นที่ยังคงมั่นคงและสงบ!แม้ว่าเขาจะไม่เคยลองใช้ยามาก่อน จึงไม่แน่ใจว่าผลของยาปราณแท้เป็นไปตามที่กล่าวอ้างไหม แต่เขาเคยใช้ยาสร้างรากฐานมาก่อน และยานั้นก็ช่วยให้เขาทะลวงไปสู่ขั้นสร้างรากฐานได้สำเร็จเนื่องจากยาสร้างรากฐานมีประสิทธิภาพจริง ยาปราณแท้ก็จะไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน!แน่นอนว่าครั้งสุดท้ายที่เขากินยาสร้างรากฐาน เขาต้องใช้เวลาตลอดทั้งบ่ายเพื่อดูดซับและปรับแต่งถึงจะทะลวงขั้นบ่มเพาะได้ในที่สุดเขาคาดว่าสถานการณ์ของซูห่าวนั้นคงคล้ายกันกับเขา เพราะจำเป็นต้องดูดซับพลังงานของยาซึ่งค่อนข้างมหาศาล มันจึงได้ล่าช้าอย่างมาก และนี่คือสาเหตุที่เขาไม่ตอบสนองจนถึงตอนนี้แต่ทุกคนไม่ได้มั่นใจเหมือนกับฉินหมิง พวกเขายังคงรอต่อไปอีกสักพักหนึ่งและเมื่อเห็นว่าซูห่าวยังคงไม่มีปฏิกิริยาใดๆ ทั้งไม่มีวี่แววว่าจะทะลวงผ่าน หลายคนก็เริ่มไม่สบอารมณ์แล้ว“ฉินหมิง คุณเอาแต่พูดก่อนหน้านี้ว่ายาปราณแท้สามารถช่วยผู้ฝึกยุทธขั้นสูงสุดระดับสวรรค์ประทานทะลวงไปสู่ระดับปรมาจารย์ได
ไม่มีใครคาดคิดว่าด้วยความช่วยเหลือของยาปราณแท้ ซูห่าวถึงกับทะลวงไปสู่ระดับปรมาจารย์ได้จริง ๆ!“เป็นไปได้ยังไง...”ตระกูลเหลิ่ง ตระกูลหลี่ และคนอื่น ๆ ต่างก็ประหลาดใจจนไปไม่ถูก สีหน้าของพวกเขาดูน่าเกลียดไปหมดเมื่อสักครู่นี้ภายใต้การยุยงของพวกเขา ความโกรธของกองกำลังใหญ่ได้ถูกจุดชนวนแล้วเมื่อเห็นว่าฉินหมิงกำลังจะประสบภัยพิบัติอยู่รอมร่อ พวกเขาไม่คิดเลยว่าระดับการบ่มเพาะของซูห่าวจะทะลวงผ่านในช่วงเวลาวิกฤติ ทำให้แผนของพวกเขาพังยับ!ใครก็ยากที่จะจินตนาการถึงความโกรธแค้นในใจของเขาพวกได้!“คุณชายใหญ่ซู ในที่สุดระดับการบ่มเพาะคุณก็ไปถึงระดับปรมาจารย์เสียที ยินดีด้วย”ฉินหมิงยิ้มและแสดงความยินดี“ใช่แล้ว ผมรอวันนี้มานานมากแล้วจริง ๆ!”“ถ้าไม่ได้รับความช่วยเหลือจากยาปราณแท้ ผมคงต้องฝึกฝนอย่างหนักอย่างน้อยก็สองหรือสามปีกว่าจะทะลวงผ่านคอขวดได้สำเร็จ!”ซู่หาวเก็บกลิ่นอายและลุกขึ้น อดไม่ได้ที่จะหัวเราะร่วนอย่างมีความสุขการทะลวงผ่านคอขวดไปยังระดับปรมาจารย์ เป็นความปรารถนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ ตอนนี้ความปรารถนาของเขาเป็นจริงแล้ว เขาย่อมตื่นเต้นมาก บนใบหน้าจึงม
แม้ว่าจะไม่มีใครพูดอย่างชัดเจน ทว่าพวกเขาต่างก็เห็นพ้องต้องกันว่าเค่ออั๋งกำลังจงใจสร้างปัญหา เพราะฉินหมิงเพิ่งจะหักหน้าตระกูลเค่อไปเมื่อสักครู่นี้!“คุณชายใหญ่เค่อพูดได้ถูกต้องแล้ว!”“ไอ้เด็กฉินหมิงนั่น ไม่รู้ว่าเขาฝึกฝนทักษะลับแบบไหน แต่เขามีความสามารถในการปกปิดออร่าของเขาจริง ๆ!”“ฉันเคยเห็นสิ่งนี้กับตาของตัวเองมาก่อน!”ลี่หย่งเจี๋ยยืนหยัดและเข้ามาสนับสนุนเค่ออั๋งได้ทันเวลา“ยังมีฉันด้วยอีกคน ฉันเองก็เป็นพยานได้!”“ฉันเคยต่อสู้กับฉินหมิงมาก่อน ระดับการบ่มเพาะของเขาเห็นได้ชัดว่าอยู่ในระดับมานะสร้างเท่านั้น แต่ความแข็งแกร่งของเขากลับไปถึงขั้นสูงสุดระดับสวรรค์ประทานแล้ว!”“แม้แต่ฉันก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา!”เหลิ่งจวิ้นลุกขึ้นยืนเหมือนกันเขาและลี่หย่งเจี๋ยคนหนึ่งร้องคนหนึ่งรับ ดูน่าเชื่อถือมาก ไม่คล้ายกับกำลังโกหกอยู่เลยแน่นอนว่านี่เป็นเรื่องจริง ทั้งสองคนเคยต่อสู้กับฉินหมิงมาก่อนหน้านี้และก็แพ้อย่างราบคาบด้วยพลังระลอกที่สองของฉินหมิง!เนื่องจากทั้งสองไม่รู้ว่าฉินหมิงบ่มเพาะมรรคาแห่งเต๋า ทั้งสองจึงเข้าใจผิดคิดว่าฉินหมิงมีวิธีพิเศษบางอย่างในการปกปิดระดับการบ่มเพาะและออร่าที่แท