ฉินหมิงไม่เพียงแต่มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับกองกำลังของเมืองเจียงเฉิงเท่านั้น เขายังสามารถสร้างเส้นสายกับตระกูลใหญ่นอกเมืองเจียงเฉิงและได้รับการสนับสนุนจากพวกเขาอีกด้วยแม้แต่พวกเขาทั้งสี่คนก็ยังทำสิ่งนี้ไม่ได้ แต่ฉินหมิงทำได้!ใครก็ยากที่จะจินตนาการถึงความตกใจในใจของพวกเขาได้!“คุณฉิน ผมคงไม่ได้มาสายเกินไปใช่ไหม?”เจิ้งอวี่ยิ้ม และประสานมือโค้งคำนับฉินหมิงด้วยความเคารพในเมืองหลัวไห่ เขาได้บรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับสิทธิ์ความร่วมมือในการจำหน่ายยาหลอมลมปราณกับหมิงเหยากรุ๊ปในนามของตระกูลเจิ้งแล้ว คราวนี้หมิงเหยากรุ๊ปได้หลอมยาหลอมลมปราณชุดที่สอง เขาจึงเดินทางมารับยาหลอมลมปราณด้วยตัวเองตามที่ได้ตกลงกันไว้“ไม่เลย งานเปิดตัวขายยังไม่เริ่มอย่างเป็นทางการ คุณมาทันเวลาพอดี”ฉินหมิงพูดด้วยรอยยิ้มเมื่อเห็นฉากนี้ ทั้งตระกูลเหลิ่ง ตระกูลเค่อ และตระกูลลี่ต่างก็มีสีหน้าแย่ไปหมด“ดังคำกล่าวที่ว่ามังกรแข็งแกร่งไม่อาจเอาชนะงูเจ้าถิ่นได้!”“ต่อให้ตระกูลเจิ้งจะแข็งแกร่งมากในเมืองหลัวไห่ แต่ก็อย่าได้คิดมาอวดเบ่งในเมืองเจียงเฉิงถิ่นของเรา!”นายท่านเหลิ่งตะคอกอย่างเย็นชา เขาแสดงออกว่าไม่เห็นอำนาจขอ
นี่เป็นเพียงการใช้กลยุทธ์เล่นกับอีกฝ่ายแบบหนึ่ง!ตอนนี้เห็นอีกฝ่ายถอยกลับไปอย่างรู้งาน นายท่านซูและฉินหมิงก็ยอมรามือ ไม่จำเป็นต้องคิดใจเอาความอีกต่อไป“ซินเหยา กองกำลังของตระกูลใหญ่ ๆ ในเมืองมากันเกือบจะครบแล้ว เริ่มงานเปิดตัวขายกันเลยเถอะ!”นายท่านซูกล่าว จากนั้นเขา ฉินหมิง และคนอื่น ๆ ก็เดินไปที่ใจกลางของสถานที่จัดงานตระกูลเหลิ่งและกองกำลังหลักอื่น ๆ เองก็ค่อย ๆ รวมตัวกันมุ่งหน้าสู่งานหลังจากนั้นไม่นานนัก งานเปิดตัวขายก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการซูซินเหยาเดินขึ้นไปบนเวทีโดยสวมชุดราตรีระดับไฮเอนด์และมีราคาแพงหูฉี่แต่เดิมรูปร่างหน้าตาของเธอก็สวยล่มบ้านล่มเมืองอยู่แล้ว ตอนนี้ยิ่งแต่งกายด้วยชุดราตรีราคาแพง บรรยากาศซุกซนและขี้เล่นตามปกติของเธอจึงลดน้อยลงไปมาก กลับเพิ่มความสง่างามและความหรูหราเข้ามาเล็กน้อยเหมือนกับนางฟ้าที่ลงมายังโลกมนุษย์ ดูศักดิ์สิทธิ์และไม่อาจดูหมิ่นได้ทันใดนั้นสายตาเกือบทุกคู่ก็จับจ้องไปที่เธอ ทุกคนเงียบไปโดยไม่รู้ตัว“ขอบคุณทุกท่านที่มาร่วมงานเปิดตัวขายของหมิงเหยากรุ๊ปของเราในครั้งนี้...”ซูซินเหยากล่าวเปิดงานอย่างง่าย ๆ ไม่กี่ประโยค น้ำเสียงของเธอนุ่ม
“ใครบอกคุณว่าฉินหมิงเป็นผู้ช่วยผู้บริหารของหมิงเหยากรุ๊ปของเรา ฉันประกาศไปเมื่อไหร่ว่าเขาเป็นผู้ช่วยของฉัน?”ซูซินเหยาพูดอย่างเย็นชา“นี่...”หลินเถิงฮุ่ยพูดไม่ออกข่าวเกี่ยวกับเรื่องที่ฉินหมิงได้กลายเป็นผู้ช่วยผู้บริหารของหมิงเหยากรุ๊ป เขาได้รู้มาโดยบังเอิญจากพนักงานหลายคนในหมิงเหยากรุ๊ปที่คาดเดากันว่าฉินหมิงน่าจะเป็นผู้ช่วยผู้บริหารคนใหม่ของหมิงเหยากรุ๊ป แต่ซูซินเหยาไม่เคยประกาศเรื่องนี้อย่างเป็นทางการจริง ๆ!“ฉินหมิงคือประธานหมิงเหยากรุ๊ปของพวกคุณจริง ๆ เหรอ?”สีหน้าของหลินเถิงฮุ่ยเปลี่ยนไปอย่างมากทันใดนั้นเขาก็จำได้ว่าซูซินเหยาพูดเมื่อสักครู่นี้ว่าฉินหมิงเป็นมากกว่าผู้ช่วยผู้บริหารของหมิงเหยากรุ๊ป แต่ในเวลานั้นเขาคิดว่าซูซินเหยาตั้งใจทำตัวลึกลับ แต่ตอนนี้ในที่สุดเขาก็เข้าใจความหมายของคำพูดของซูซินเหยาแล้ว!ุ“ถูกต้อง!”“ดิฉันขอย้ำอย่างจริงจังอีกครั้งว่าฉินหมิงเป็นประธานของหมิงเหยากรุ๊ปของพวกเรา!”ซูซินเหยาประกาศเสียงดังเมื่อคำพูดนี้ของเธอจบลง ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นก็ตื่นเต้น!“ไอ้หนูนี่ถึงกับเป็นประธานของหมิงเหยากรุ๊ปจริง ๆ?”“นี่...นี่มันน่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว!”สีหน้
เว้นเสียแต่ในหัวของฉินหมิงจะมีอะไรยัดอยู่ ไม่อย่างนั้นไม่มีทางที่ฉินหมิงจะตกลงร่วมมือกับพวกเขา!แน่นอนว่า ไม่ใช่แค่กำลังฝ่ายศัตรูของฉินหมิงเท่านั้นที่ประหลาดใจ ราชาแดนใต้เฝิงเจิ้น นายท่านโจว และเจิ้งอวี่ต่างก็ตกตะลึงเช่นกัน!พวกเขาไม่เคยคิดฝันมาก่อนเลยว่าฉินหมิงจะกลายเป็นประธานของหมิงเหยากรุ๊ป ปรมาจารย์นักปรุงยาที่มีชื่อเสียงผู้ที่อยู่เบื้องหลังตระกูลซู!“นับตั้งแต่สมัยโบราณกาล วีรบุรุษเกิดขึ้นจากวัยหนุ่ม ฉินหมิงคุณซ่อนตัวเองไว้ได้ลึกมากจริงๆ!”เฝิงเจิ้นหัวเราะฮ่าฮ่าเสียงดัง“ฉันก็คิดมานานแล้วล่ะว่าสหายฉินไม่น่าจะใช่คนธรรมดา แต่ไม่คิดเลยว่าจะประสบความสำเร็จอย่างน่าอัศจรรย์ภายในเวลาเพียงหนึ่งหรือสองเดือนที่ไม่ได้พบกัน!”นายท่านโจวเองก็ดูสะเทือนอารมณ์“มิน่าเล่า มิน่าเล่า!”เจิ้งอวี่ตระหนักได้ในทันทีก่อนหน้านี้ตอนอยู่ที่เมืองหลัวไห่ ซูซินเหยาเชื่อฟังฉินหมิงมาก ในตอนแรกเขาคิดว่าฉินหมิงเป็นแฟนของซูซินเหยา แต่ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าเป็นเพราะฉินหมิงคือประธานของหมิงเหยากรุ๊ป!“ฉินหมิง นายสุดยอดมาก!!”หลังจากที่เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยได้สติกลับมา เธอก็โบกกำปั้นอย่างตื่นเต้นเธอมองฉินหมิงเป
“คุณฉิน พวกเราตระกูลเฝิงไม่มีความตั้งใจที่จะทำลายความร่วมมือระหว่างคุณกับตระกูลซู”แต่เท่าที่รู้ คุณเพิ่งหย่าร้างเมื่อไม่นานมานี้และยังไม่มีแฟน”“นับตั้งแต่สมัยโบราณกาล การมีครอบครัวและการสร้างธุรกิจนั้นสำคัญพอ ๆ กัน ผู้ชายไม่อาจมุ่งความสนใจไปที่อาชีพเพียงอย่างเดียวได้ ถ้าคุณไม่รังเกียจ ผมสามารถยกรั่วซวงให้กับคุณได้ คุณทั้งสองคนหมั้นหมายกันก่อน อาศัยโอกาสนี้ที่ทุกกองกำลังอยู่กันครบให้เป็นสักขีพยานไปด้วยเลย!”เฝิงเจิ้นพูดด้วยดวงตาที่ลุกเป็นไฟ แต่ทันทีที่เขาเปิดปาก ก็เหมือนกับระเบิด!นับจากครั้งที่แล้วที่ฉินหมิงรักษาอาการป่วยให้กับภรรยาของเขา เขาก็มีความคิดที่จะจับคู่ลูกสาวและฉินหมิงอยู่แล้วตอนนี้เมื่อได้รู้ว่าฉินหมิงถึงกับเป็นประธานของหมิงเหยากรุ๊ป แถมความสามารถทุกด้านของอีกฝ่ายก็ยังดีกว่าที่เขาจินตนาการไว้มาก เขาจึงยิ่งชื่นชมฉินหมิงมากยิ่งขึ้นแต่นั่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญ ประเด็นสำคัญก็คือเขาสังเกตเห็นว่าลูกสาวเหมือนจะมีความรู้สึกดี ๆ ต่อฉินหมิงอยู่บ้าง ในงานที่ยิ่งใหญ่แบบนี้ ถ้าเขาสามารถส่งเสริมความรักของลูกสาวและผูกทั้งคู่เข้าด้วยกัน นี่จะเท่ากับยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว!“อะไรนะ
แต่คำพูดที่พูดไปแล้วก็เหมือนกับการสาดน้ำทิ้ง พ่อของเธอพูดอย่างกล้าหาญต่อหน้าตระกูลที่มีอำนาจมากมาย เป็นไปไม่ได้ที่เธอจะหักหน้าพ่อของเธอในทันที ยิ่งไปกว่านั้นลึก ๆ แล้วในใจของเธอเองก็ไม่ได้คัดค้านเรื่องนี้แต่อย่างใด“จบสิ้นแล้ว...”เหล่าผู้อาวุโสรุ่นแรกของตระกูลที่มีอำนาจรู้สึกหนาวสั่นในใจนับตั้งแต่สมัยโบราณ วีรบุรุษยากที่จะผ่านด่านหญิงงาม เฝิงรั่วซวงมีทั้งความงาม ทั้งยังเป็นหนึ่งในสี่สาวงามแห่งเมืองเจียงเฉิง ไม่มีใครสามารถต้านทานสิ่งล่อใจนี้ได้ พวกเขาจึงไม่คิดว่าฉินหมิงจะปฏิเสธ!แม้ว่าพวกเขาจะไม่เต็มใจเล็กน้อย แต่ก็พวกเขาไม่มีลูกสาวที่สวยจนน่าทึ่งเหมือนกับเฝิงเจิ้น พวกเขาจะเอาอะไรไปแข่งกับเฝิงเจิ้น?อึดใจต่อมา แม้แต่นายท่านเค่อจากตระกูลเค่อก็ทนต่อไปไม่ไหวแล้ว เขากลัวจริง ๆ ว่าฉินหมิงจะไม่อาจต้านทาน 'กับดักน้ำผึ้ง' ของเฝิงเจิ้นได้ ดังนั้นเขาจึงรีบพูดว่า "ประธานฉิน ตราบเท่าที่คุณยินดีที่จะร่วมมือกับตระกูลเค่อของเรา เราจะใช้เงินห้าพันล้านเพื่อสร้างบริษัทใหม่ให้กับคุณ"“นอกจากนี้ ฉันยังสามารถหมั้นหมายคุณกับหลานสาวของฉันเค่อรุ่ยได้อีกด้วย!”นายท่านเค่อเสนอเงื่อนไขที่ 'เอื้อเฟื้อ' ม
พวกเขาอิจฉากันจนแทบบ้าแล้ว!"คุณปู่ คุณฉินคงไม่ถูกตระกูลเค่อล่อลวงไปจริง ๆ หรอกนะครับ..."ใบหน้าของซูห่าวดูไม่น่ามอง"ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน"นายท่านซูส่ายหัว สีหน้าของเขาเองก็ดูไม่ค่อยดีนักแม้ว่าเขาจะเชื่อใจในตัวฉินหมิง แต่เงื่อนไขที่ตระกูลเค่อเสนอนั้นน่าดึงดูดเกินไป เขาจึงกังวลเล็กน้อยว่าฉินหมิงจะหวั่นไหวบนเวทีใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาเย็นชา เธอเกือบจะระเบิดอารมณ์ออกมาแล้วเดิมทีเธอพยายามอย่างหนักเพื่อจัดงานเปิดตัวขายในครั้งนี้ เป้าหมายก็เพื่อช่วยให้ฉินหมิงมีชื่อเสียงในคราวเดียวแต่ไม่คิดมาก่อนเลยว่างานเปิดตัวขายจะเปลี่ยนบรรยากาศไปกลางคัน ถึงกับเปลี่ยนเป็น 'งานนัดบอดดูตัว' ของฉินหมิง!สิ่งที่น่าโมโหยิ่งกว่านั้นก็คือเฝิงรั่วซวงและเค่อรุยต่างก็เป็นหนึ่งในสี่สาวงามแห่งเมืองเจียงเฉิง พวกเธอล้วนเป็นสาวสวยระดับแนวหน้าทัดเทียมได้กับเธอ ไม่ว่าจะเป็นภูมิหลังทางตระกูล รูปร่าง ความงาม และด้านอื่น ๆ เฝิงรั่วซวงและเค่อรุ่ยล้วนไม่ด้อยไปกว่าเธอจู่ ๆ คู่แข่งทางความรักที่แข็งแกร่งทั้งสองคนก็ปรากฏตัวขึ้นอย่างไม่คาดคิด ใครก็ยากที่จะจินตนาการถึงความรู้สึกของเธอในตอนนี้ได้!“ประธานฉิน เงื
ถึงยังไงฉินหมิงเคยเป็นแฟนที่ถูกต้องและเปิดเผยของเธอ เธอเลิกกับฉินหมิงด้วยความสิ้นหวัง และตอนนี้เธอก็ยังมีความรู้สึกที่ลึกซึ้งต่อฉินหมิงอยู่ในใจแต่ตอนนี้เธอกำลังเฝ้าดูชายที่เธอรักถูกผู้หญิงคนอื่น ๆ แย่งชิงอย่างช่วยไม่ได้ แถมผู้หญิงเหล่านี้ยังเป็นสาวงามในระดับเดียวกับเธอ ทว่าเธอไม่มีพลังที่จะหยุดยั้งมันได้เลย ในใจจึงรู้สึกอึดอัดและไม่ดีอย่างมาก!“ประธานฉิน คุณเลือกเถอะ!”นายท่านเค่อยังคงปฏิเสธที่จะยอมแพ้ เขามองดูฉินหมิงด้วยสายตาที่ลุกเป็นไฟ ต้องการได้รับคำตอบจากปากของฉินหมิง"นายท่านเค่อ เจตนาดีของคุณผมรับเอาไว้แล้ว""ผมและตระกูลซูความร่วมมือกันอย่างราบรื่นมาโดยตลอด จึงยังไม่มีแผนที่จะร่วมมือกับผู้อื่น!"ฉินหมิงพูดอย่างใจเย็นเขาไม่ใช่คนประเภทที่เนรคุณคนเพื่อผลประโยชน์ เป็นตระกูลซูที่ช่วยเขาก่อตั้งหมิงเหยากรุ๊ป เขาจะละทิ้งตระกูลซูไปกลางทางและเลือกเข้าร่วมกับกองกำลังอื่นได้อย่างไร เขาทำเรื่องที่เนรคุณคนแบบนี้ไม่ได้!เมื่อพวกเขาได้ยินการปฏิเสธของฉินหมิง การแสดงออกของนายท่านเค่อและเค่อรุ่ยก็เปลี่ยนไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งเค่อรุ่ย เธอเป็นอัจฉริยะด้านการฝึกวรยุทธที่ไม่พบมานานนับศตวรรษของ